คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : : The Moon 4 :
The Moon 4
การทักทายที่มาพร้อมกับเจตจำนง
“ อยู่นิ่งๆสิลูกรัก วันนี้เป็นวันสำคัญของเจ้านะ “ คุชินะเอ่ยเสียงเตือนในขณะที่กำลังจับลูกชายคนเล็กแต่งตัวเนื่องในวันสำคัญที่แต่ละปีจะมีหนึ่งหน นารูโตะที่อยู่ไม่สุกเอาแต่ขยับตัวไปมาในขณะที่เป็นตุ๊กตาให้ผู้เป็นแม่ใส่เสื้อผ้าพ่นลมหายใจออกมาเบาๆจนผมที่ปรกหน้าลงมาชี้ตั้งขึ้นไปตามแรงลมยอมอยู่นิ่งๆตามคำสั่งของหญิงสาวที่ตนรักที่สุด
“ ไม่ต้องแต่งอะไรเยอะแยะขนาดนั้นก็ได้ครับท่านแม่ อันที่จริงงานคล้ายวันเกิดปีนี้ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้นะเพราะไหนๆมันก็เลยมาแล้ว “ บอกออกไปตามความรู้สึกของตนเอง เด็กหนุ่มรู้สึกเบื่ออยู่ไม่น้อยที่จะต้องมาทำอะไรจำเจซ้ำๆเดิมๆแม้มันจะมีเพียงแค่ปีละครั้ง แต่มันก็สิบแปดครั้งได้แล้วถ้านับในครั้งนี้ที่มันไม่น่าจะถูกจัดขึ้น บรรยากาศเดิมๆ แขกหน้าเดิมๆ ต้องคอยยิ้มจนเมื่อยปาก ก้มหัวพร้อมกับพูดประโยคเดิมๆที่มีแค่คำว่า ‘ครับ ขอบคุณครับ’ กับ ‘ผมขอตัวก่อนนะครับ’ พอคิดถึงเหตุการณ์แบบนี้ในครั้งที่ผ่านๆมาความน่าเบื่อมันก็ครอบงำจนไม่ต้องรอให้เขาไปถึงที่งาน
“ ไม่ได้หรอก.. ลูกก็รู้จุดยืนของตัวเองนี่ว่าเราอยู่ในฐานะอะไร บรรดาแขกที่มางานของลูกเขายินดีและตั้งใจที่จะมาอวยพรวันคล้ายวันเกิดให้กับลูกนะ ลูกไม่ดีใจเหรอ ? “ คุชินะจัดการจับตัวลูกชายให้หันหน้าเข้าหาตนหลังจากคลุมเสื้อคลุมให้เสร็จสรรพแล้วทำการผูกริบบิ้นตรงบริเวณปกคอเสื้อให้เรียบร้อย
“ ข้ารู้.. แต่บางทีข้าก็เบื่อ ที่จะต้องทำอะไรซ้ำๆเดิมๆเหมือนทุกปี คำอวยพรจากบรรดาแขกๆที่มางานก็เหมือนกันทั้งนั้น บางทีข้าก็คิดนะว่าให้ส่งตัวแทนออกมาพูดอวยพรข้าแค่คนเดียวก็จบเรื่อง ข้าก็จะได้ขอบคุณทีเดียวเหมือนกัน “ คำพูดเอาแต่ใจของลูกชายคนเล็กทำให้คุชินะยกมือขึ้นไปบีบจมูกโด่งรั้นเบาๆด้วยความหมันไส้แต่คนถูกบีบก็รู้สึกเจ็บอยู่ดี รอยยิ้มหวานของผู้เป็นแม่ถูกส่งไปให้ลูกชายพร้อมกับเช็คความเรียบร้อยของเจ้าภาพงานคล้ายวันเกิดอีกรอบ
“ เพราะลูกชายของแม่น่ารัก ใครๆเขาก็เลยอยากจะเขามามอบคำอวยพรให้กับลูกเองทั้งนั้น แม่เชื่อว่าวันนี้จะเป็นวันพิเศษของลูกอีกวัน สุขสันต์วันเกิดนะนารูโตะ “ คำกล่าวอวยพรของคุชินะมาพร้อมกับอ้อมกอดอุ่นที่โอบล้อมตัวลูกชายเอาไว้ นารูโตะยิ้มรับคำอวยพรนั้นด้วยความยินดีก่อนจะสวมกอดหญิงสาวที่ตนเองรักที่สุดกลับไป แม้ปากจะพูดว่าคำอวยพรมันก็เหมือนๆกันหมด แต่ในใจกลับรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขทุกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้เอ่ยพูดออกมา
‘ ก๊อก.. ก๊อก ‘
“ ท่านหญิงคะตอนนี้แขกเริ่มทยอยมากันเยอะแล้วค่ะ องค์ราชาให้ดิฉันขึ้นมาตามนายหญิงกับคุณหนูเล็กลงไปที่งานเลี้ยง “ คุชินะกับนารูโตะหันไปทางประตูที่มีสาวใช้คนสนิทยืนอยู่ ก่อนจะพยักหน้าเป็นอันเข้าใจแล้วหันกลับไปสำรวจตัวเองจนคิดว่าไม่มีอะไรต้องแก้ไขจึงจูงมือลูกชายเดินออกมาจากห้องแต่งตัว
ทั้งสองคนเดินตามหลังสาวใช้คนสนิทมาจนถึงทางลงบันไดที่ข้างล่างนั้นเป็นห้องโถงใหญ่ถูกจัดงานเลี้ยงในวันคล้ายวันเกิดของทายาทองค์ราชาคนเล็ก คุชินะเอื้อมมือจัดริบบิ้นให้ลูกชายอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนตำแหน่งเป็นดึงแก้มนารูโตะทั้งสองข้างออกเบาๆพร้อมกับรอยยิ้ม
“ ยิ้มหน่อยสิ.. วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดลูก ลูกควรมีความสุขกับมันนะ “ นารูโตะยิ้มรับตามคำบอกของคุชินะก่อนจะยกแขนตั้งศอกในระดับเอวเพื่อให้ราชินีแห่งโลกเวทย์มนต์ได้คล้องไว้
“ คาริน.. “ ชื่อสาวใช้คนสนิทถูกเอ่นขึ้นเหมือนเป็นการบอกสัญญาณความพร้อมก่อนที่ หญิงสาวจะพยักหน้ารับนายหญิง แล้วค่อยๆก้าวเดินลงบันไดโดยมีองค์ราชินีกับทายาทคนเล็กเดินตามหลังมาติดๆ
เสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราวพร้อมกับเพลงบรรเลงเมื่อเจ้าภาพเดินลงบันไดมาพร้อมกับราชินีแห่งโลกพ่อมดแม่มด ความสง่างามของทั้งคู่ทำให้บรรดาแขกที่มางานเป็นอันต้องชื่นชมตามด้วยการก้มหัวทำความเคารพ
ภาพวาดท้องฟ้ายามราตรีเสมือนจริงที่มีแสงจันทร์สาดส่องพร้อมกับดาวดวงน้อยนับล้านดวงเปล่งประกายล้อมรอบนั้นถูกนำมาแทนที่เพดานสีขาวธรรมดาๆจนดูน่าหลงใหล แสงเทียนที่ให้ความส่องสว่างภายในงานมาจากเทียนเป็นพันๆเล่มลอยเด่นค้างฟ้าอยู่กลางอากาศสร้างความสวยงามและความหลงใหลให้กับบรรดาแขกทั้งหลายที่อยู่ภายในงานได้อย่างพึงพอใจ เว้นเพียงแต่เจ้าภาพของงานที่รู้สึกเฉยๆกับบรรยากาศพวกนี้
ดวงตากลมใสกวาดสายตามองหาใครบางคนที่น่าจะอยู่ภายในงานไปทั่วแต่ก็ไม่พบจนตัวเองเดินลงบันไดมาถึงห้องโถงใหญ่ เพียงไม่นานบรรดาแขกพ่อมดแม่มดทั้งหลายต่างก็พากันเข้ามาพบปะพูดคุยให้คำอวยพรแก่ทายาทองค์เล็กได้ไม่ขาดทำให้นารูโตะต้องละสายตาจากการหาบุคคลที่ตัวเองกำลังตามหาอยู่
“ องค์ชาย.. สุขสันต์วันเกิดนะเพคะ นี่เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆจากดิฉันถ้าองค์ชายไม่รังเกียจ ช่วยรับของที่ไม่มีค่าชิ้นนี้ไว้ด้วยเถิดเพคะ “ หญิงสาวผมสีบลอนด์ทองยาวสลวยส่งกล่องของขวัญผูกด้วยริบบิ้นน่ารักๆยื่นให้เจ้าของงาน นารูโตะยิ้มรับก่อนจะยื่นมือไปหยิบกล่องของขวัญที่สาวเจ้ายื่นมาให้ตรงหน้า กระดาษห่อของขวัญที่เคยเป็นสีโอรสสวยค่อยๆกลายเป็นสีแดงสดในทันที มุมปากอิ่มยกยิ้มรู้ว่ากระดาษห่อของขวัญเปลี่ยนสีนี้เป็นกระดาษอะไร เด็กหนุ่มเงยหน้าไปมองหญิงสาวที่กำลังก้มหน้าเขินอาย
“ ขอบคุณนะ ข้าจะรักษามันอย่างดี “
“ เอ่อ.. องค์ชายเพคะ.. “
“ ถ้าไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัวก่อนนะ พอดีข้าต้องไปหาพี่ชายข้าน่ะ “ ตัดบทพูดของหญิงสาวด้วยการโกหกแล้วเดินออกมา นารุโตะรู้ดีว่าสาวเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ดูได้จากกระดาษห่อของขวัญที่เธอเลือกก็พอจะรู้ มันเป็นของชิ้นนึงที่ขายดีมากในโลกพ่อมดแม่มดโดยเฉพาะคนที่อยากจะสารภาพรักหรือบอกความรู้สึกออกไปตรงๆแต่ไม่กล้า เลยบอกด้วยกระดาษห่อของขวัญแทนความรู้สึกเพียงแค่เขียนชื่อตัวเองลงในกระดาษถ้าเราได้นำไปมอบให้กับคนที่เราชอบกระดาษที่ตอนแรกเป็นสีต่างๆจะเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง ที่เขารู้ก็เพราะเขาเคยลองซื้อไปให้พี่เดอิดาระในวันคล้ายวันเกิดเหมือนกัน.. ก็นะพี่น้องกันจะไม่รักกันได้ยังไง
คนตัวเล็กก้าวเดินมาจนถึงเก้าอี้นั่งที่วางเรียงรายอยู่บริเวณด้านข้างกำแพงก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งด้วยความเหนื่อยอ่อนหลังจากเดินพบปะทักทายผู้คนอยู่เป็นนานสอง ดวงตากลมยังคงมองหาบุคคลที่อยากเจอไปเรื่อยจนไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่ามีใครบางคนกำลังนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ
“ เหนื่อยแล้วเหรอน้องข้า.. ? “ คนถูกทักตกใจกับการมาไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงของเดอิดาระ อ้าปากเตรียมจะถามทันทีที่เห็นบุคคลที่ตัวเองกำลังตามหาอยู่นานแต่ก็ถูกพี่ชายดักเอาไว้เสียก่อน
“ ข้าขอโทษๆ ที่ข้าไม่ได้อยู่ในงานเป็นเพื่อนเจ้า ซึ่งนั่นก็เพราะว่าข้ากำลังเตรียมเอกสารให้พวกเจ้าสองคนเรื่องที่ข้าเรียกไปคุยด้วยตอนกลางวัน “
“ ข้ารู้.. ข้าก็เหงาที่ต้องอยู่คนเดียวในงาน ท่านพ่อท่านแม่ก็คุยกับแขกคนอื่นๆไม่มาอยู่เป็นเพื่อนข้าหรอก “ คำตอบของนารูโตะทำให้เดอิดาระรู้สึกผิด มือเรียวจึงเอื้อมไปวางไว้บนศรีษะกลมก่อนจะลูบเบาๆเป็นการขอโทษอีกครั้ง
“ ขอโทษนะที่ปล่อยเจ้าทิ้งไว้คนเดียว ข้าต้องเตรียมเอกสารให้พวกเจ้าน่ะเรื่องนั้นมันสำคัญจริงๆนะ “
“ อื่ม.. ข้าเข้าใจนะว่าเรื่องเรียนข้าสำคัญเพราะงั้นข้าจึงไม่โกรธพี่ข้าไง “
“ หึหึ.. ว่าแต่เจ้าเรียกหาแต่ข้าทำไมเจ้าไม่เรียกหาองครักษ์เจ้าบ้างล่ะ ? “ คำถามของเดอิดาระทำให้นารูโตะพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ นึกไปถึงใบหน้านิ่งๆของใครบางคนที่ชอบเอ็ดเขาตลอดเวลา
“ ซาสึเกะไม่ชอบคนเยอะๆ เขาไม่มางานข้าหรอกแล้วข้าก็ไม่อยากบังคับอะไรในสิ่งที่เขาไม่ชอบ ข้าไม่อยากถูกเขาเกลียด “
“ แคร์จังเลยนะ “
“ ข้าผิดเหรอ.. ? “
“ หึหึ เปล่าแบบนี้น่ะดีแล้ว เจ้ากับเขาจะได้สนิทกันไวไว “
“ แล้วองครักษ์ท่านล่ะ ไม่มาด้วยเหรอ? “
“ จะเหลือเหรอ อ้อนข้าไม่พอยังเร่งข้าให้เตรียมเอกสารเร็วๆอีก ตอนนี้ก็คงกำลังยืนเลือกของกินอยู่ตรงโน่นละมั้ง “
“ องครักษ์ท่านดูเชื่อฟังท่านดีจังนะพี่ข้า ดูน่ารักดี ฮ่าๆๆ “
“ เจ้าคิดงั้นเหรอ.. ตอนแรกข้ากับคนของข้าก็ตีกันแทบตายแต่หลังๆมานี้ข้าก็เข้าใจเองว่าเราควรจะปรับตัวเขาหากันที่ตรงไหน เราเป็นนายก็จริงแต่ก็ควรที่จะเอาใจใส่เขาด้วยเหมือนใจเขาใจเราไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ใจเราอยู่ฝ่ายเดียว อย่างที่ข้าบอกเรียนรู้กันและกัน.. “
“ อืม ข้าก็พยายามอยู่ แต่สำหรับข้าข้าว่าคงยากหน่อย “
“ ข้าว่าไม่นะ.. เห็นองครักษ์ข้าบอกว่าองครักษ์เจ้าดูติดเจ้า “
“ ข้าดีใจนะที่ท่านพูดแบบนั้น อืม.. ข้าว่าข้าไปหาเขาหน่อยดีกว่า “
“ อืม งั้นข้าคงต้องไปรับหน้าแขกทั้งหลายแทนเจ้าสินะ “ คำพูดของเดอิดาระทำให้นารูโตะได้แต่หัวเราะแห้งๆ ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใดเพราะรู้ดีว่าพี่ชายของเขาเป็นคนที่ตามใจเขาเป็นที่หนึ่ง ก่อนจะฝากกล่องของขวัญยัดใส่มือพี่ชายเองเสร็จสรรพอย่างถือวิสาสะ
นารูโตะได้แต่เดินก้มหัวขอบคุณแขกที่เข้ามาอวยพรในขณะที่เขากำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปนอกปราสาท คนตัวเล็กไม่รู้ว่าองครักษ์ของตัวเองอยู่ที่ไหน แม้จะมีคำสั่งที่สามารถเรียกออกมาเองได้แต่การกระทำแบบนั้นเขาจะไม่ใช้เด็ดขาดหากไม่ถึงยามจำเป็น เพราะเจ้าตัวรู้ดีว่าซาสึเกะคงไม่ชอบ สิ่งเดียวที่คนตัวเล็กทำได้ในตอนนี้คือหาองครักษ์ในที่ที่เขาชอบอยู่ ซึ่งมันก็คงจะเป็นในสวนใหญ่ที่ที่เมื่อเช้าเขาเดินเอาอาหารเช้ามาให้อีกตามเคย
แซก.. แซก..
ลมเย็นๆพัดผ่านทำให้เกิดเสียงใบไม้ที่ปลิวไหว ทายาทองค์ชายคนเล็กลมสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อกอบโกยอากาศเข้าปอดจนรู้สึกดีไม่อึดอัดเพราะมีคนพลุกพล่านเหมือนในงานเลี้ยง ขายาวที่ก้าวเดินออกมาจากปราสาทเริ่มก้าวเดินออกไปอีกครั้งในเส้นทางที่มีสวนใหญ่อยู่ข้างหน้า
“ เจ้ากำลังจะไปไหน.. ? “ จู่เสียงคุ้นหูก็พูดดักขึ้นทำให้คนที่กำลังก้าวเดินเป็นอันต้องรีบหันไปมองตามเสียง เด็กหนุ่มวัยรุ่นราวคราวเดียวกันหากแต่ระดับฐานะและเผ่าพันธุ์ต่างกันสิ้นเชิงกำลังยืนมองเขาอยู่ตรงหน้า จากที่กำลังก้าวเดินออกไปจึงเปลี่ยนเป็นหันหลังเดินกลับไปหาร่างสูงแทน
“ ข้ากำลังไปตามหาเจ้า “ คำตอบของผู้เป็นนายทำให้ซาสึเกะเลิกคิ้วสูง
“ ตามหาข้า.. ? “
“ อื่อ “
“ ตามหาข้าทำไม “ นารูโตะเริ่มไปไม่ถูกเมื่อเจอคำถามนี้จากองครักษ์ของตัวเอง ดวงตากลมที่สบมองนัยน์ตาสีรัตติกาลเปลี่ยนตำแหน่งก้มลงไปมองพื้นหญ้าแทน ในใจนึกหวั่นหากบอกออกไปว่าอยากเจอไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะมองเขายังไง
“ ข้า.. เอ่อ ข้า.. ข้าแค่อยากรู้ว่าเจ้าอยู่ที่ไหน “
“ ... “
ยิ่งอีกฝ่ายนิ่งเงียบคนตัวเล็กกว่าก็เริ่มคิดหนัก ในเมื่อหาคำพูดที่จะสนทนาด้วยไม่ได้จึงเตรียมจะเดินกลับเข้าไปในงานต่อ
“ ข้าก็อยู่ตรงนี้นี่แหละ “ คำพูดของซาสึเกะทำให้นารูโตะหยุดเดินก่อนจะหันกลับมามองร่างสูงอีกครั้ง
“ เมื่อกี้เจ้าบอกว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ตรงนี้.. ? “ ย้ำคำตอบถามร่างสูงกลับไปเหมือนกำลังบอกกับตัวเองว่าประโยคที่ได้ยินเมื่อกี้หูเขาไม่ได้ฟังผิดไป ดวงตากลมที่กำลังมองใบหน้าเรียวขององครักษ์ตนเองนั้นดูเหมือนกำลังหวังอะไรบางอย่างจนร่างสูงยอมปริปากพูดออกมาเบาๆ
“ ข้าไม่ชอบคนเยอะๆ “ เลี่ยงตอบคำถามโดยการพูดสาเหตุอื่นไปแทนหากแต่ คนได้ยิ้นกลับยกยิ้มกว้างทันทีที่ร่างสูงพูดแบบนี้ ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความนอกเสียจากว่าองครักษ์ของเขาก็อยู่ข้างๆเขาเหมือนกัน แม้มันจะเป็นในรูปแบบของตัวเองก็ตามที
“ อื่อ.. ข้ารู้ “ นัยน์ตาคู่สวยสีรัตติกาลเบี่ยงสายตามองไปทางอื่นเมื่อเห็นว่ารอยยิ้มหวานของคนตัวเล็กถูกส่งมาพร้อมกับคำพูดที่ดูเหมือนเอาใจใส่ เสียงพื้นหญ้าดังขึ้นเพราะถูกรอยเท้าเหยียบจากเจ้านายที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เรียกให้นัยน์ตาคมสวยหันกลับมามองอีกครั้ง
“ เจ้าหิวมั้ย.. ? อยากทานอะไรละเปล่าเดี๋ยวข้าไปเอามาให้ “
“ อืมข้าหิว.. เลือด.. “ ใบหน้าหวานงงเล็กน้อยกับคำพูดของซาสึเกะเตรียมจะอธิบายว่าในงานเลี้ยงไม่ได้มีของแบบนั้น และดูเหมือนว่าร่างสูงจะรู้ทันว่าเจ้านายตัวเองกำลังคิดแบบไหนจึงรีบบอกออกไปให้คนตัวเล็กได้เข้าใจเสียใหม่
“ ไม่ ข้าหมายถึงข้าได้กลิ่นเลือด “
“ หืม.. ? “ ไม่รอให้คนตัวเล็กได้งงไปมากกว่านี้จัดการอุ้มเจ้านายตัวเองมาไว้ในอ้อมแขนแล้วออกตัววิ่งด้วยความเร็วจนคนถูกอุ้มต้องกระชับกอดคอให้แน่นขึ้นเพราะกลัวตก ซึ่งกลิ่นคาวเลือดที่ร่างสูงได้กลิ่นและกำลังวิ่งตามอยู่นั้นคงหนีไม่พ้นห้องโถงใหญ่สถานที่ที่จัดงานเลี้ยง
“ บอกข้ามาว่าพวกเจ้าเอาลูกของข้าไปไว้ที่ไหน ถ้าไม่พวกเจ้าก็จงเตรียมตัวดูคนของพวกเจ้าเละเป็นชิ้นๆคามือข้า “ เสียงเย็นเยียบดูน่าเกรงขามเอ่ยออกมาจากปากชายวัยกลางคนเจ้าของเรือนผมสีรัตติกาล กรงเล็บขาวอันแหลมคมกำลังกดจ่ออยู่บริเวณลำคอของแม่มดสาวที่กำลังสั่นกลัวถูกตกเป็นตัวประกันของราชาแห่งเผ่าแวร์วูล์ฟ กลิ่นคาวเลือดของสาวเจ้านั้นหอมหวานจนมนุษย์หมาป่าตัวอื่นๆกำลังพยายามข่มใจต่างจากหัวหน้าเผ่าตัวเองที่ดูจะไม่สะทกสะท้านกับกลิ่นคาวเลือดนี้ ดวงตาคมกริบสีเหลืองทองเต็มไปด้วยความดุดันและหยิ่งทรนงสอดส่ายสายตาหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปทั่ว พยายามสูดดมกลิ่นของลูกชายแต่กลับได้แต่กลิ่นสมุนไพรฉุนๆตีกับกลิ่นขาวเลือดจนตีกันยุ่ง
“ นายท่านข้าว่าพวกมันไม่ยอมบอกหรอก ไม่งั้นมันคงไม่วางกลิ่นสมุนไพรเหม็นๆนี่เพื่อกลบกลิ่นนายน้อยเป็นแน่.. “ ลูกสมุนผู้ติดตามเสนอความคิดเห็น ฟุงะกุกระตุกมุมปากพ่นลมหายใจสมเพชกับการกระทำของชาวพ่อมดแม่มด ออกแรงกดกรงเล็บฝังลึกลงไปบนลำคอขาวของหญิงสาวตัวประกันเรียกเสียงกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดจนพ่อมดแม่มดคนอื่นๆใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
" ช้าก่อนพวกท่านข้าว่าเรื่องนี้เราน่าจะ.. "
“ อิทาจิ ข้าขอสั่งเจ้าให้ไปตามตัวน้องชายเจ้าให้เจอ ถ้าไม่ก็คงจะรู้นะว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นยังไง “ ราชาหัวหน้าเผ่ามนุษย์หมาป่าไม่สนใจคำพูดประนีประนอมของราชาแห่งโลกเวทย์มนต์ หันไปออกคำสั่งกับลูกชายคนโตที่กำลังยืนมองใครบางคนอยู่ ร่างสูงที่ได้ยินคำสั่งละจากเป้าหมายพยักหน้าเป็นอันเข้าใจก่อนจะปิดเปลือกตาลงและลืมขึ้นมาอีกครั้ง จนดวงตาที่เคยเป็นสีนิลกลับกลายเป็นสีโกเมนสดสวยเหมือนพระจันทร์อาบสีเลือด
“ ข้าอยู่นี่.. “ เสียงของบุคคลมาใหม่ดังขึ้นทำให้ทุกๆคนที่อยู่ในบริเวณห้องโถงใหญ่หันไปหาต้นกำเนิด ร่างสูงที่มาพร้อมกับเจ้านายในอ้อมแขนเดินเข้ามาในงานอย่างไม่รีบร้อนโดยที่พ่อมดแม่มดภายในงานต่างหลบหลีกทางให้ เรียกความโล่งอกให้กับคนอื่นๆได้ดีขึ้นโดยเฉพาะเดอิดาระที่กำลังเป็นห่วงน้องชายอยู่ในขณะนี้
ซาสึเกะวางนารูโตะลงยืนกับพื้นก่อนจะเดินไปเผชิญหน้ากับฟุงะกุผู้เป็นพ่อที่กำลังโมโห นัยน์ตาสีรัตติกาลจ้องสบเข้ากับดวงตาสีเหลืองทองไม่มีที่ท่าหวันเกรงใดๆทั้งสิ้นจนผู้เป็นพ่อเผลอพ่นลมหายใจออกมาระคนยอมแพ้กับอาการดื้อรั้นไม่เคยยอมใครของลูกชายคนเล็ก
“ ปล่อยหล่อนได้แล้ว.. “ ซาสึเกะออกคำสั่งกับพ่อของตัวเองอย่างไม่มีความเกรงกลัว ฟุงะกุผลักหญิงสาวแม่มดที่จับมาเป็นตัวประกันกระเด็นลงไปกองกับพื้นจนพ่อมดแม่มดคนอื่นๆต้องรีบเข้ามาพยุงเพื่อดูอาการหล่อน
“ ทำไมเจ้าถึงมาอยู่กับพวกเวทย์มนต์แบบนี้ ? “ ฟุงะกุถามซาสึเกะไม่คิดว่าลูกชายตัวเองจะมาคลุกคลีกับชาวพ่อมดแม่มด แม้ว่าเผ่าแวร์วูล์ฟกับชาวเวทย์มนต์จะไม่มีอะไรบาดหมางกันแต่การลดเกียรติมาอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่เผ่าตัวเองเป็นสิ่งที่ฟุงะกุไม่ชอบ มนุษย์หมาป่ามักอยู่กันอย่างเป็นฝูงเป็นพวกเดียวกันแต่การที่ละทิ้งฝูงไปอยู่กับพวกอื่นถือว่าเป็นการไม่รักศักดิ์ศรีของตัวเองและถือว่าเป็นการทรยศเผ่าพันธ์
“ ข้าไม่มีทางเลือก.. “
“ เจ้า...!! “
“ ท่านพ่อหยุดก่อน ฟังน้องอธิบาย “ อิทาจิพยายามเรียกสติผู้เป็นพ่อของตัวเองให้กลับมาดังเดิมเหมือนกับรู้ดีว่าคำตอบที่น้องชายพูดออกมาเมื่อกี้มันมีเหลุผลตายตัวของมัน ดวงตาสีโกนเมนที่กำลังมองน้องชายกลับกลายมาเป็นสีนิลดังเดิม แต่ในขณะที่กำลังสังเกตน้องชายตัวเองอยู่นั้นกลับต้องแปลกใจเมื่อเห็นลวดลายอะไรบางโผล่พ้นออกมานอกเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ซาสึเกะใส่อยู่ ร่างสูงพอจะเข้าใจในคำตอบแล้วว่าทำไมซาสึเกะถึงพูดออกมาแบบนั้น
“ เจ้ามีอะไรจะอธิบายให้ข้าฟังซาสึเกะ.. “ เสียงข่มต่ำเอ่ยถามลูกชายพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธตัวเอง ก่อนจะปลายตาไปมองเด็กหนุ่มตัวเล็กที่กำลังยืนกำมือตัวเองแน่นอยู่ด้านหลังร่างสูง ซาสึเกะที่สังเกตเห็นพ่อของตัวเองปลายตาไปหานารูโตะเห็นท่าไม่ดีจึงหันกลับไปมองเจ้านายตัวเองบ้าง นัยน์ตาสีนิลที่กำลังสบเข้ากับดวงตากลมนั้นนิ่งงันเหมือนกำลังบังคับให้ผู้เป็นนายเดินออกไปจากที่ตรงนี้
“ นารูโตะมาทางนี้.. “ เดอิดาระเห็นเหตุการณ์ไม่สู้ดีนักเดินเข้าไปดึงตัวนารูโตะให้ออกห่างจากซาสึเกะมาอยู่ใกล้บริเวณที่มินาโตะกับคุชินะยืนอยู่โดยมีองครักษ์ตัวเองคอยระวังความปลอดภัยไว้อีกแรง
“ มานี่ลูกนารูโตะ.. “ ผู้เป็นแม่คว้าตัวลูกชายให้เข้าไปยืนใกล้ๆก่อนจะหันกลับไปมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าต่อ
“ ทำไม.. ทำไมต้องพาข้ามาอยู่ตรงนี้ ทั้งๆที่ข้าก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นด้วย “ นารูโตะหันไปถามคุชินะ ความรู้สึกผิดบังเกิดขึ้นเต็มอกพร้อมกับรู้สึกแย่ที่ปล่อยให้ร่างสูงยืนรับชะตากรรมอยู่คนเดียวทั้งๆที่เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะเขาเองที่ไปล่าลูกชายของหัวหน้าเผ่ามาเองกับมือ
“ นั่นก็เพราะว่า.. เราชาวเวทย์มนต์กับเผ่าแวร์วูล์ฟไม่ได้เกี่ยวดองหรือมีสัมพันซึ่งกันและกัน “ คำตอบที่ไร้คำอธิบายของมินาโตะทำให้นารูโตะขมวดคิ้วมุ่น
“ ข้าไม่เข้าใจเกี่ยวดองสัมพันอะไร..? ข้าจะต้องเข้าไปอธิบายให้พวกเขาเข้าใจ ซาสึเกะไม่ผิดแต่เป็นข้าที่จับเขามาเองต่างหาก “ อีกครั้งที่ลูกชายคนเล็กเตรียมจะเดินออกไปแก้ตัวให้กับองครักษ์ของตนแต่กลับถูกเดอิดาระจับแขนห้ามเอาไว้ก่อน
“ พี่ข้า.. ปล่อยข้าก่อน “
“ ไม่ได้เจ้ายังไม่เข้าใจ “
“ ก็ข้าไม่เข้าใจไงข้าถึงต้องออกไป ซาโซริเจ้าช่วยพูดกับเจ้านายเจ้าหน่อยจะได้มั้ย ? “ ในเมื่อช่วยตัวเองไม่ได้ก็ต้องการหาคนช่วยโดยการหันไปขอความช่วยเหลือจากองครักษ์ของพี่ชายตัวเอง หากแต่คนที่ถูกขอความช่วยเหลือนั้นกลับยืนนิ่งเฉยมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าตาไม่กระพริบเหมือนเดจาวูที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อน พลันความรู้สึกในอดีตนั่นกำลังค่อยๆกอบคุมจิตใจขึ้นมาอีกครั้ง
“ ขอโทษนะ.. แต่ครั้งนี้ข้าคงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ เจ้ารออยู่ตรงนี้เถอะ “
“ พวกท่านเป็นอะไรกันไปหมด ข้าต้องไป.. “
เพี๊ยะ..!!!
เสียงฝ่ามือกระทบเนื้อดังไปทั่วห้องโถงเรียกความสนใจจากทุกๆคนที่อยู่ในบริเวณนี้หันไปมองเหตุการณ์ตรงหน้า ใบหน้าเรียวของร่างสูงสะบัดไปตามแรงมือที่ฟาดลงมาพร้อมกับรอยแดงปื้นขึ้นมาเป็นแถบ ซาสึเกะไม่รู้สึกเสียใจในการกระทำของฟุงะกุเพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจากความผิดของตัวเอง ไม่มีการโต้เถียง ไม่มีคำอธิบาย มีเพียงความเงียบที่คอบคลุมไปทั่วพร้อมกับความรู้สึกที่บีบรัดหัวใจจนแน่น
“ ตั้งแต่บัดนี้ไปนี้เจ้าไม่ใช่ลูกข้าอีกต่อไป... “
“ ท่านพ่อ.!! “ ไม่ใช่เสียงค้านของคนที่ถูกตัดสายสัมพันธ์แต่เป็นเสียงค้านของลูกชายคนโตที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ อิทาจิพยายามหาเหตุผลมาอธิบายให้ฟุงะกุเข้าใจแต่ก็ไร้ผล หัวหน้าเผ่าแวร์วูล์ฟไม่ฟังคำอธิบายหรือข้อแต่ตัวใดใดทั้งสิ้น ใครที่ลดตัวต่ำลงไปรับใช้เผ่าอื่นไม่รักเกียรติของตัวเองก็ถือว่าไม่รักเกียรติและศักดิ์ศรีเผ่าพันธุ์ของตัวเองเช่นกัน
ซาสึเกะยืนนิ่งยอมรับการตัดสินใจของคนคนเป็นพ่อไร้ซึ่งการโต้แย้ง หากแต่ฝ่ามือที่ขนาบข้างลำตัวกลับกำแน่นจนสั่น คนตัวเล็กที่เห็นเหตุการณ์อยู่ห่างๆหวังจะเข้าไปช่วยอธิบายให้เป็นต้องตกใจในคำพูดของราชาแห่งเผ่าแวร์วูล์เช่นกัน แต่พอได้สติกลับคืนมาจิตใต้สำนึกมันบอกให้ขาทั้งสองข้างวิ่งออกไปหาร่างสูงที่กำลังยืนอยู่เพียงลำพังตรงหน้า
เพล้ง...!!!!
“ นารูโตะระวัง!!!..” เดอิดาระตะโกนเรียกชื่อน้องชายลั่นห้องโถงแต่ถึงกระนั้นเสียงนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร เมื่อฝูงแวมไพร์ที่จู่ๆโผล่มาทางหน้าต่างวิ่งเข้ามาฉุดนารูโตะไปอยู่ในอ้อมอกช่วงที่คนตัวเล็กกำลังออกตัววิ่งเข้าไปหาองครักษ์ของตนก่อนจะกลับไปห้อยโหนตัวอยู่บริเวณริมหน้าต่าง
“ หึหึหึ.. ฮะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ปล่อยให้ข้ารอจังหวะนี้อยู่เป็นนานสองนานเลยนะพวกเจ้า “ น้ำเสียงทุ่มต่ำน่าขยะแขยงอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับกอดรัดคนตัวเล็กในอ้อมอกที่ฉุดมาได้แน่นราวกับลูกไก่ในกำมือ นารูโตะรู้สึกได้ถึงความน่ารังเกียจของคนที่กำลังสวมกอดตนพยายามออกแรงดิ้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่แรงมนุษย์มีหรือจะสู้แรงปีศาจ ดวงตากลมสีฟ้าใสมองลงมาหาร่างสูงพยายามขอความช่วยเหลือแต่กลับไร้วี่แววเมื่อซาสึเกะยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง
“ เจ้า..!! โอโรจิมารุ เอามือสกปรกๆของเจ้าปล่อยตัวลูกชายข้าเดี๋ยวนี้!! “ มินาโตะเงยหน้าตะโกนลั่นด้วยความเดือดดานพร้อมทั้งโอบกอดคุชินะที่กำลังยืนตัวสั่นมองดูลูกชายด้วยความเป็นห่วงจับใจจนเดอิดาระต้องเข้ามาช่วยพยุงอีกแรง
อสูรกายจิตใจเยือกเย็นไม่สนใจคำพูดของราชาแห่งโลกเวทย์มนต์ กลับตวัดลิ้นเลียมุมปากเหมือนเป็นการมั่วโมโหให้อีกฝ่าย ดวงตาสีแดงสดของสัตว์ร้ายก้มต่ำปลายตามองไปทั่วห้องโถงใหญ่ พลันมุมปากต้องกระตุกยิ้มขึ้นมาอีกครั้งอย่างเจ้าเล่ห์
“ หึหึหึ... แปลกจริงๆ ช่างน่าแปลกใจจริงๆ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นที่วันคล้ายกันเกิดของทายาทราชาแห่งโลกเวทย์มนต์จะโดนข้าจับกินเป็นอาหารต่อหน้าสาธารณะชนครบทุกเผ่าพันธุ์แบบนี้ ช่างเป็นเกียรติแก่ข้ายิ่งนัก “ คำพูดกลั่วหัวเราะของโอโรจิมารุยิ่งทำให้มินาโตะใจเต้นแรงความโกรธพวยพุ่งเป็นทวีคูณ มือที่กำไม้กายสิทธิ์อยู่นั่นสั่นจนอยากจะร่ายเวทย์ต้องห้ามยิ่งใส่ปีศาจในความมืดให้ร่างแหลกสลายลงเสียตรงนั้น
“ เจ้า..!! “
“ ท่านพ่ออย่า นารูโตะกำลังถูกมันจับเป็นตัวประกันเกิดเราทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าล่ะก็... “
“ แล้วเจ้าจะให้พ่อทำยังไง ปล่อยให้น้องชายเจ้าโดนพวกสัตว์กระหายเลือดกินไปต่อหน้าต่อตาอย่างนั้นน่ะเหรอ..! ห๊ะ..!? เดอิดาระ “
“ ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น.. ข้า เพียงแต่ข้า... " ความกลัวเริ่มเข้าครอบง่ำจนคนฉลาดสมองไวอย่างเดอิดาระจนปัญญา เพราะหากเกิดทำอะไรผิดพลาดขึ้นมานั้นหมายถึงชีวิตน้องชายแท้ๆของตัวเองซึ่งมันไม่คุ้มที่จะเสี่ยง
" อย่า...! " เสียงร้องลั่นของนารูโตะตะโกนดังออกมาเมื่อปลายลิ้นอันเปียกชิ้นน่าขยะแขยงของปีศาจร้ายเลียเข้าที่ต้นคอตัวเอง
" หึ... จะตกเป็นอาหารของข้ายังจะกล้าขัดขืนข้าอีกเหรอ ช่วยไม่ได้ ตัวเจ้ามันหอมยั่วน้ำลายข้า คิดไม่ผิดจริงๆที่ข้าตั้งตารอเจ้ามาจนถึงวันนี้เพราะดูท่ารสชาติของเจ้านั้นดูน่าอร่อยกว่าที่ข้าจินตนาการไว้เยอะ และแน่นอนว่ารายต่อไปก็คือพี่ชายของเจ้า "
" อย่าได้คิดจะทำอะไรพี่ข้าเด็ดขาดไม่อย่างนั้นจะหาว่าข้าไม่เตือน “ คำพูดจริงจังที่มาพร้อมกับดวงตาเด็ดเดี่ยวมองเข้าไปยังดวงตาสีแดงสด โอโรจิมารุแสยะยิ้มรู้สึกถูกใจกับดวงตาสีฟ้าใสคู่สวยตรงหน้าเตรียมจะฝังเขี้ยวแหลมคมของตัวเองลงบนต้นคอหอมๆหวังจะลิ้มลองรสชาติอันยั่วยวนนี้
เปรี๊ยง..!!
“ อย่าหวังว่าจะได้ทำอะไรน้องชายข้าเจ้าสัตว์เลือดเย็นชั้นต่ำ “ เวทย์สายฟ้าถูกยิงตรงไปที่ปีศาจก่อนที่เขี้ยวซี่ใหญ่จะกดฝังลงไปบนต้นคอของนารูโตะ เดอิดาระสบถออกมาเบาๆเมื่อเวทย์มนต์ของตัวเองที่ร่ายปล่อยออกไปนั้นน่าจะโดนหัวหน้าปีศาจแต่กลับมาลูกสมุนเข้ามากันท่าจนได้รับบาดเจ็บแทน
“ หึ.. ดูท่าลูกของราชาแห่งโลกเวทย์มนต์จะได้พ่อมาเยอะ เจ้าคิดว่าเจ้ายิ่งเวทย์กระจอกๆนั่นใส่ข้าแล้วข้าจะตายรึอย่างไร ข้าเป็นปีศาจเลือดเย็นมีชีวิตเป็นอมตะ แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเจ้าหากพวกเจ้าไม่มีเวทย์พวกเจ้ามันก็เป็นแค่มนุษย์ไร้ค่าที่อยู่บนโลกใบนี้เท่านั้นแหละ นับว่าเจ้ากล้าหาญมากที่ร่ายเวทย์ใส่ข้า ข้ารู้ว่าเจ้ารักน้องของเจ้าไม่ต่างจากที่น้องของเข้ารักเจ้า แต่ข้าอยากจะรู้นักว่าหากเจ้าตายไปน้องของเจ้าจะเสียใจให้เจ้าจนเจียนตายละเปล่า.. คาบูโตะจัดการมัน.. ! “
“ เดอิดาระ...!! / พี่ข้า...!!! “
สิ้นคำสั่งของโอโรจิมารุ ร่างปีศาจคนสนิทผู้คอยติดตามเป็นอันตรงปรี่เข้าไปหาร่างบางด้วยความรวดเร็วหวังจะตะปบเหยื่อแล้วกัดกินเลือดเนื้อให้เหือดแห้ง หากแต่ความไวของแวร์วูล์ฟนั่นเทียบเท่ากับแวมไพร์ ซาโซริไม่รอให้เจ้านายของตนได้เป็นอะไรรีบพุ่งตรงไปยังร่างบางแล้วสวมกอดไว้ให้ถอยห่างจากแวมไพร์ที่จะเข้าจู่โจมพร้อมกับร่างของแวร์วูล์ฟอีกตนที่เข้ามาช่วยเดอิดาระอีกเช่นกัน
“ ท่าน ท่านเป็นอะไรมั้ย ? “ เจ้าของเลือนผมสีแดงสดเอ่ยถามผู้เป็นนายที่อยู่ใต้ร่างของตนด้วยความเป็นห่วง เปลือกตาบางที่กำลังหลับตาปี๋ค่อยๆเปิดขึ้นทีละข้างจนเห็นใบหน้าขององครักษ์ในระยะประชิดหลังจากรู้สึกตัวว่าร่างกายตัวเองนั้นยังปลอดภัยดี ร่างทั้งสองค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆโดยที่เดอิดาระมีซาโซริคอยช่วยพยุงไว้
มินาโตะกับคุชินะวิ่งเข้ามาดูอาการลูกชายคนโตอย่างเป็นห่วงก่อนจะสวมกอดไว้แน่น ซาโซริยืนมองเจ้านายตัวเองด้วยรอยยิ้มโล่งใจที่คนสำคัญไม่ได้เป็นอะไรก่อนจะหันกลับไปเล่นงานกับศัตรูคู่อาฆาตระหว่างเผ่าพันธุ์ที่หวังจะทำร้ายเจ้านายตนเองเมื่อกี้ แต่เพียงแค่หันหน้ากลับไปก็ต้องพบเข้ากับความสงสัยเพราะศัตรูที่เขากำลังจะไปจัดการกำลังถูกลูกชายคนโตหัวหน้าเผ่าแวร์วูล์ฟเล่นงานเข้าให้
“ หึหึหึ... ฮ่าๆๆๆๆ ทำไมข้ารู้สึกว่าวันนี้ข้ามีความสุข ภาพเบื้อหน้าของข้าดูเป็นอะไรที่สวยงามแต่มันคงจะสวยงามกว่านี้หากสมุนที่เหลือของข้าลงไปจัดการพวกพ่อมดแม่มดไร้น้ำยานั่น เจ้าคิดเช่นนั้นเหมือนกับข้ามั้ย ? “ คำพูดของโอโรจิมารุทำให้นารูโตะอยากจะร่ายเวทย์ยิงใส่ปีศาจตนนี้ให้ตายไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ความคิดที่ผ่านออกมาทางแววตาคู่กลมสวยคงจะปิดบังปีศาจผู้เลือดเย็นไม่มิด
“ อย่ามองข้าแบบนั้น ถ้าไม่อยากให้คนของเจ้าเป็นอะไรไป “
“ หึ.. เจ้ามันก็มีดีแค่ชอบขู่คนอื่นเพื่อให้อยู่ภายใต้อำนาจของตัวเอง น่ารังเกียจ “
“ ข้าจะถือว่านั่นเป็นคำชม.. และอีกอย่างข้าไม่เคยขู่ พวกเจ้าจัดการพวกมันซะ อาหารอยู่ตรงหน้าแล้วจะมัวรออะไรอยู่ “
สิ้นเสียงคำประกาศจากหัวหน้าแวมไพร์ ลูกสมุนที่เหลือจึงจัดการโฉบตัวเองลงไปด้านล่างเพื่อลิ้มรสอาหารอันโอชะมากมายก่ายกองตรงหน้าอย่างสนุกสนาน พ่อมดแม่มดได้แต่วิ่งหนีกันจ้าละหวั่น ไม่ก็ร่ายเวทย์ป้องกันตัวเองจากฝูงแวมไพร์ มีส่วนน้อยที่ใจกล้าต่อสู้กับปีศาจแห่งความเร็ว
นารูโตะมองภาพเบื่องล่างด้วยความตกใจไม่คิดว่าคำพูดอวดดีของตัวเองจะนำพาให้ทุกคนต้องมาจบชีวิตลง ดวงตากลมสวยพยายามมองหาองครักษ์ของตนอย่างหาที่พึ่งแต่กลับไม่มีวี่แววนอกเสียจากแวร์วูล์ฟตนอื่นๆที่กำลังต่อสู้กับแวมไพร์เพื่อปกป้องพ่อมดแม่มดเอาไว้
เสียงกรี๊ดร้อง เสียงเวทย์มนต์ เสียงหัวเราะอันหน้าสะพรึงกลัวของปีศาจ กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งกระจายไปทั่วกำลังทำให้นารูโตะจิตตก หากตอนนี้มีไม้กายสิทย์อยู่กับตัว หากตอนนี้มีคนที่พึ่งได้อยู่ข้างๆทุกอย่างคงไม่ออกมาเป็นแบบนี้
“ ข้า.. จะต้องทำยังไง “ เอื้อนเอ่ยถามออกไปเสียงสั่นพยายามอดกลั้นไม่ให้น้ำตาได้หลั่งริน โอโรจิมารุก้มลงมองดวงตากลมที่กำลังฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำตาอย่างหลงใหลก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากอย่างคนเหนือกว่า
“ เจ้าจะบอกให้ข้าหยุดโดยที่เจ้าจะทำข้อแลกเปลี่ยนกับข้า ใช่มั้ย.. ? “
“ .... “ อาการเงียบของนารูโตะบ่งบอกคำตอบได้ชัดเจนแม้จะไม่ได้ตอบคำถามแต่ก็ไม่ได้โต้แย้งกลับไป
“ ข้าชอบดวงตาของเจ้า... “
“ ... “
“ เจ้าจะว่ายังไงหากข้าจะขอมัน “
พลั๊ก.. !!!
โอโรจิมารุถูกจู่โจมทางด้านหลังจากฝ่าเท้าของใครบางคนทำให้เสียการทรงตัวจนคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกล่วงตกลงมา
แต่ก่อนที่นารูโตะจะตกลงพื้นกลับมีร่างของใครบางคนอุ้มรับได้อย่างฉิวเฉียด ความรู้สึกอบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยเวลาอยู่ใกล้กันกับกลิ่นหอมสมุนไพรอ่อนๆที่ใครบางคนบ่นเกลียดนักเกลียดหนาแตะเขาที่จมูกเล็ก ทำให้เดาได้ไม่ยากเลยว่าคนที่มาช่วยเหลือนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจากองครักษ์ของตัวเอง
“ มาช้าจังนะ.. ซาสึเกะ “ แม้จะเป็นคำพูดที่ฟังดูแล้วน้อยใจแต่น้ำเสียงกับตรงกันข้ามกลายเป็นน้ำเสียงดีใจเสียดื้อๆ
ซาสึเกะที่ได้ยินเสียงนารูโตะบอกเป็นนัยน์กว่าคนตัวเล็กไม่ได้เป็นอะไรค่อยๆผละเจ้านายออกจากกายช้าๆ แต่เพียงแค่เห็นใบหน้าหวานพลันดวงตาคมกลับเบิกกว้างตกใจในภาพที่เห็นเบื้องหน้า
!!!!!!!!!
แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้เป็นอะไรและดูปกติดีแต่ใบหน้าหวานในตอนนี้กำลังหลับตาปิดสนิททั้งสองข้าง หยดเลือดที่ไหลลงมาตามแก้มเนียนจากดวงตาข้างขวาคล้ายกับหยดน้ำตาที่หลังรินทำให้หัวใจแกร่งสั่นไหว ปากอิ่มที่กำลังยกยิ้มพร้อมกับหยดเลือดหยดแรกตกลงสู่พื้นดินถูกส่งให้กับร่างสูงแม้ตัวเองจะมองไม่เห็นแล้วก็ตาม
ซาสึเกะหอบหายใจหนักรู้สึกร้อนระอุไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะบริเวณอกด้านซ้ายที่มีชื่อสลักของผู้เป็นนายสลักอยู่บนตัว ลวดลายสีดำสวยที่ฝังอยู่ในตัวค่อยๆเลื่อยไปรอบกายจนกลายเป็นเถาวัลย์ออกมาจากลำตัวแกร่งพร้อมๆกับสัญลักษณ์วงล้อสีดำภายใต้ร่างที่เกิดขึ้นเองแม้ไม่ต้องออกคำสั่งเวทย์ ดวงตาสีนิลเบิกกว้างขึ้นก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นสีแดงสดพร้อมกับเขี้ยวขาวและกรงเล็บที่ค่อยๆงอกเปลี่ยนรูปร่างให้แหลมคมขูดกับพื้นจนเป็นรอย สติสัมปชัญญะค่อๆยเลือนรางลงเรื่อยๆจนเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่
“ อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก....!!!!! “
T A L K...
รู้สึกเหนื่อยมากกว่าจะแต่งตอนนี้จบเพราะห่างหายไปนานมาก อ้ากกกกกกกกกกก เขาเจียดเวลาว่างมาแต่งให้แล้วววว กว่าจะหาเวลาเจอ งื้อออ T^T มึนๆงงๆตรงไหนบอกนะคะจะได้ปรับแก้ให้ แบบว่ายังเบลอๆกับอะไรหลายๆอย่างรวมทั้งไม่ได้จับแป้นพิมพ์นาน เง้ออออออออ
แต่งไปแต่งมาหนูโตะดันโดนควักลูกกาตาซะงั้น ฮ่าๆๆๆๆ หนูเกะเลยโมโหของขึ้นจะแปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดเลยเห็นมั้ยยย งุงุ อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อก็ไปรอนะคะ จริงๆนี่พูดเลยขอแบบด้านๆว่าให้รอ เพราะก็ไม่รู้ว่าจะอัพอีกทีตอนไหนไม่อยากสัญญาว่าจะมาเร็วๆนี้ เพราะหากทำไม่ได้ตามที่พูดคงเสียความรู้สึกอ่ะเน้อ อ้อ.. ลืมไป รู้สึกว่าจะมีคนสนใจคู่ในดวงใจของหนูเดอิดาระเยอะเหลือเกิน อืม.. ใครแม่ยกใครก็ตามเชียร์ตามลุ้นกันเอาเองนะจ้ะ ส่วนน้องโอบิโตะ เอ่อ... ไม่เคยจิ้นแหะ คือมันบ้าๆบอๆปล่อยมันไป ฮ่าๆๆๆๆๆ
เจอกันตอนหน้านะจ้ะ
ความคิดเห็น