คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : : The Moon 2 :
The Moon 2
องครักษ์
เคร้ง... เคร้ง...
โซ่ตรวนขนาดใหญ่ในมือของทหารเวรยามผู้ซึ่งดูแลห้องทำพิธีนี้ถูกนำไปคล้องตามข้อมือและข้อเท้าของสัตว์อสูรในคราบมนุษย์ที่นารูโตะล่ามา ภาพเบื้องหน้าอยู่ในสายตาของคนทั้งสี่คนที่จับจ้องไปที่สัตว์อสูรตนนั้น ร่างกายแข็งแรงที่ดูอ่อนล้านอนไม่ได้สติอยู่บนพื้นกลางห้องโถงใหญ่มีเพียงแค่ผ้าขาวสะอาดที่ทหารนำมาพันไว้รอบเอวเพื่อปิดบังอวัยวะช่วงล่างอวดร่างกายที่สง่างามยามต้องแสงจันทร์ทำให้หัวใจดวงน้อยๆของผู้เป็นนายในอนาคตสั่นไหวไม่เป็นจังหวะยามที่ดวงตากลมจดจ้องที่ร่างอสูรของตน
“ เราต้องล่ามเขาไว้อย่างนี่เหรอท่านพ่อ ? “ ปากอิ่มหันไปถามผู้เป็นพ่อเพราะไม่อยากให้สัตว์อสูรของตนต้องบาดเจ็บไปมากกว่านี้ จริงๆแล้วเขาไม่อยากจะให้ร่างกายที่สวยงามนั้นมีบาดแผลแม้เพียงนิด แต่เป็นเพราะเขาประเมินสัตว์อสูรตัวนี้ต่ำไปจนต้องใช้แผนสำรองโดยการเผลอไปใช้เวทย์ขั้นสูงในการกำราบปีศาจออกมาใช้กับสัตว์อสูรของตนทั้งๆทีเวทย์นี้อันตรายจนอาจถึงขั้นทำให้สัตว์อสูรตายได้ และที่สำคัญบาดแผลที่เกิดจากเวทย์จะไม่สามารถใช้เวทย์ในการรักษาให้หายเหมือนแผลปกติต้องรอเวลาให้ร่างกายของเขาฟื้นตัวเองเท่านั้นและมันคงจะใช้เวลามากในการรักษาบาดแผลที่เกิดจากเวทย์ให้หายไปต่างจากบาดแผลปกติทั่วไปที่ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็หายสนิท
“ ใช่.. “ ผู้เป็นพ่อตอบออกมาตามตรงแล้วนึกไปถึงคราวที่ตัวเองต้องผูกพันธะสัญญากับสัตว์อสูร ในตอนแรกเขาก็คิดเหมือนลูกชายของเขาแต่ถ้าเราไม่ใช้โซ่ตรวนร่ายด้วยเวทย์สัตว์อสูรที่ล่ามาจะอาละวาดไปทั่วอย่างบ้าคลั่งจนเกือบจะฆ่าเขาไปแล้วถ้าไม่ถูกโซ่ตรวนเวทย์ล่ามไว้ตามตัวจากทหารรักษาการถึงแม้ว่าสัตว์อสูรตนนี้จะบาดเจ็บอยู่แต่เขาก็นิ่งนอนใจไม่ได้
ดวงตาคมของราชาแห่งโลกเวทย์มนต์จ้องไปที่ร่างอสูรตรงหน้าอย่างแปลกใจเพราะเขาไม่เคยเห็นอสูรในคราบมนุษย์ตนไหนมีลวดลายบนตัวแบบนี้มาก่อนแล้วหันไปมองหน้าลูกชายคนเล็กอย่างสงสัย
“ นารูโตะ.. เจ้าได้ไปทำอะไรกับอสูรของเจ้าล่ะเปล่า ? “ คำถามของผู้เป็นพ่อเรียกให้ดวงตากลมหันมามองหน้าอัตโนมัติด้วยความสงสัย
“ ทำ ? “
“ หมายถึง เจ้าได้ร่ายมนต์ใส่เขาล่ะเปล่า ? “ นารุโตะชะงักกับคำถามนั้นแล้วยอมรับโดยการพยักหน้า
“ แล้วก็เป็นเวทย์ขั้นสูงที่เราใช้กำราบพวกสัตว์ศัตรูด้วยใช่มั้ย ? “
“ คะ..ครับ “ ผู้เป็นพ่อพยักหน้าเข้าใจแล้วหันไปมองร่างอสูรอีกรอบ
“ ทำไมเหรอท่านพ่อ.. ? “
“ เปล่า.. พ่อแค่แปลกใจว่าทำไมถึงมีลวดลายบนตัวอสูรของเจ้า เพราะปกติเราไม่เคยใช้เวทย์ขั้นสูงที่นำไปใช้กับศัตรูมาใช้กับอสูรของเรา อย่างมากก็แค่เวทย์ขั้นพื้นฐานต่อกรไม่ให้เขาทำอันตรายเราได้แล้วก็เวทย์ศรปักให้เกิดบาดแผลกับเวทย์เถาวัลย์เท่านั้น “
“ ข้า.. ข้าไม่ได้ตั้งใจใช้เวทย์นั้นเพียงแต่ตอนนั้นข้าไม่มีทางเลือกเพราะข้าจะถูกเขาขย้ำ “
“ ดูจากบาดแผลของเจ้าพ่อก็พอจะรู้ “ ดวงตาคมมองที่บาดแผลบริเวณอกบางของลูกตัวเองที่ถูกห้ามเลือดด้วยเวทย์แก้ต่างไปก่อนการได้รับการรักษาด้วยยาสมุนไพร
“ กรงเล็บของมันอาจทำให้เจ้าเจ็บไปสักระยะแต่ถ้ารักษาด้วยยาสมุนไพรก็พอบรรเทาจนมันหายไปได้ เจ้าจะต้องทายาสมุนไพรทุกวันเพื่อรักษารอยแผลบนตัวเจ้า “ มินาโตะบอกลูกชายด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าหวานพยักหน้าเข้าใจแล้วหันไปมองลวดลายบนตัวของร่างสูงอีกรอบ
“ ตกลงลวดลายนั้นเกิดขึ้นเพราะข้าใช้เวทย์ยิงใส่เขาเหรอท่านพ่อ ? “
“ คงจะใช่.. “
“ แต่ทำไมตอนข้าใช้เวทย์รักษาบาดแผลให้เขา ลวดหนามที่เกิดจากเวทย์เพราะข้ายิงใส่เขาตอนแรกมันถึงกลายเป็นลวดลายแบบนั้นแทน ? “
“ อันนี้พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน... เจ้าเดินตามพ่อมาเราจะเริ่มทำพิธีกันแล้ว “ เมื่อเห็นว่าทหารเวรยามจับการล่ามโซ่ตรวนร่างสูงเสร็จสิ้นขายาวจึงก้าวเดินไปตรงบริเวณใกล้ๆกับร่างที่ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนตามมาด้วยขาเรียวของลูกชายคนเล็กที่เดินตามหลังผู้เป็นพ่อไปยืนข้างๆ
“ นารูโตะ.. เจ้าไปยืนตรงนั้น “ คนได้รับคำสั่งเดินไปยืนอยู่บริเวณเหนือหัวของร่างสูงตามที่ผู้เป็นพ่อบอก
มินาโตะทำการร่ายเวทย์อยู่สักพักจนมีหนังสือเริ่มหนาออกมาอยู่บนมือเปิดกางออกอัตโนมัติโดยที่เขาไม่ต้องเสียเวลาเปิดเอง ดวงตาคมไล่อ่านหนังสือบนมือตัวเองไปเรื่อยๆจนเกิดกริชลอยขึ้นมาตรงหน้าของลูกชายคนเล็ก
“ นารูโตะนำกริชที่อยู่ตรงหน้ามาปาดที่ฝ่ามือตัวเองซะ เดอิดาระ... “ บอกลูกชายคนเล็กให้ทำตาม แล้วหันไปเรียกชื่อลูกชายคนโตต่อ ใบหน้าสวยที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆพยักหน้าเข้าใจว่าตัวเองต้องทำอะไรก่อนจะร่ายคาถาจนมีแก้วทรงสูงลวดลายสวยงามลอยอยู่ตรงหน้า มือเรียวหยิบแก้วที่ตัวเองร่ายขึ้นมาแล้วเดินไปยืนใกล้ๆน้องชายตัวเอง นารูโตะมองพี่ชายที่เดินมายืนข้างๆตนก่อนจะใช้กริชที่อยู่ในมือตวัดไปบนฝ่ามืออีกข้างทำให้เลือดสีแดงข้นไหลออกมาอย่างรวดเร็วจนมันหยดลงใส่แก้มเรียวที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น ฝ่ามือเล็กออกแรงกำมือตัวเองให้เลือดไหลลงไปในแก้วทรงสูงในมือของพี่ชายด้วยสีหน้าเหยเกเพราะความเจ็บ
“ .. ต่อไปเจ้าจะต้องไปกรีดฝ่ามือที่สัตว์อสูรของเจ้า “
เมื่อได้เลือดของลูกชายในปริมาณที่ต้องการก็ออกคำสั่งให้ลูกชายตัวเองทำตามอีกครั้ง นารุโตะจัดการยกฝ่ามือหนาขึ้นมาแล้วตวัดกริชลงบนฝ่ามือนั้นจนเลือดข้นไหลออกมาเหมือนกับตัวเอง เดอิดาระทำตามหน้าที่อีกครั้งโดยการนำแก้วทรงสูงไปลองเลือดข้นที่ฝ่ามือใหญ่ให้มันผสมเข้ากับเลือดของน้องชายเขา เมื่อเลือดทั้งสองของน้องชายกับสัตว์อสูรผสมกันจนได้ปริมาณที่พอเหมาะ เดอิดาระจึงจัดการนำแก้วทรงสูงในมือไปให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะก้าวกลับไปยืนที่เดิมข้างๆแม่ตัวเอง
ดวงตาคมมองแก้วทรงสูงที่รับมาจากมือของลูกชายอยู่ครู่นึงก่อนจะเริ่มทำการร่ายเวทย์ตามตำราอีกครั้ง ปริมาณเลือดที่อยู่ในแก้วเพิ่มขึ้นมาจนเกือบล้นพร้อมกับไอเย็นที่ค่อยๆเกาะตัวบนแก้วช้าๆจนทำให้เกิดควันลอยอยู่เหนือแก้วบ่งบอกว่าของเหลวที่อยู่ในแก้วนั้นเริ่มมีอุณหภูมิต่ำลง
“ นารูโตะมาเอาแก้วนี้ไปแล้วจับกรอกลงในปากอสูรเจ้า.. “
เด็กหนุ่มเดินเข้ามาหยิบแก้วทรงสูงจากมือผู้เป็นพ่อมาถือไว้ในมือตัวเองอย่างว่าง่ายแล้วเดินกลับไปนั่งลงที่เดิม ดวงตากลมก้มลงมองแก้วน้ำที่อยู่ในมือด้วยความแปลกใจเพราะของเหลวข้างในที่เคยอยู่ในแก้วตอนแรกคือเลือดข้นของเขากับอสูรที่นอนอยู่เบื้องหน้าแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นของเหลวสีดำแทนและมีปริมาณเยอะจนเกือบล้นแก้ว
“ เร็วเข้า... กรอกน้ำในแก้วลงไปในปากเขาซะ “
นารูโตะพยักหน้าแล้วใช้มือข้างนึงบีบแก้มเรียวเบาๆให้ปริปากออกจัดการเทน้ำสีดำในแก้วลงไปในปากหยักอย่างระมัดระวัง แต่เพียงไม่นานดวงตาที่หลับพริ้มกลับลืมตาโพรงขึ้นมา นัน์ตาตาสีรัตติกาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงพร้อมกับเขี้ยวขาวสวยงอกออกมาอีกครั้ง ร่างสูงได้แต่ดิ้นไปมาขู่ร้องคำรามด้วยความทรมานก่อให้เกิดเสียงโซ่ตรวนดังสนั่นกังวานไปทั่วห้องโถงกว้าง นารูโตะสะดุ้งตกใจกับปฏิกิริยาของร่างสูงจนอยากจะหยุดเทของเหลวสีดำลงในปากหยักด้วยความสงสาร
“ อย่าหยุด.. กรอกต่อไปให้หมดลูกข้า.. “
มินาโตะสั่งออกมาด้วยน้ำเสียงดุดันแล้วก้มลงไปอ่านตำราต่อทำให้มือนิ่มออกแรงกดเข้าที่แก้มเรียวไม่ให้ใบหน้าหล่อคมส่ายหน้าหนีของเหลวสีดำที่มันไหลทะลักออกมาจากปากหยักไหลลงมาถึงต้นคออย่างจำใจ พร้อมกับดวงตากลมที่หลับปี๋ไม่อยากมองภาพอสูรด้วยความทรมานเพราะตัวเอง แสงสีม่วงของสัญลักษณ์วงล้อแห่งความผูกพันธุ์ในพันธะสัญญาเริ่มปรากฏขึ้นบนพื้นใต้ร่างหนาที่นอนทับสะท้อนออกมาทำให้ดวงตากลมเผลอลืมตาขึ้นมาดู ของเหลวสีดำที่ร่างบางกรอกลงไปในปากหยักจนหมดเกลี้ยงค่อยๆกลายมาเป็นสลักอักษรชื่อของผู้เป็นนายตรงหน้าอกด้านซ้ายช้าๆเรียกเสียงคำรามของร่างสูงตรงหน้าได้อย่างโหยหวนในขณะที่ของเหลวสีดำยังคงสลักชื่อของผู้เป็นนายต่อไปเรื่อยๆ
แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาสะท้อนบนตัวของร่างสูงทำให้ร่างที่บิดเร่าด้วยความทรมานเปล่งประกายอีกรอบพร้อมกับลวดลายบนตัวเริ่มมีประกายสีเงินออกมาอย่างช้าๆ กรงเล็บคมที่ขูดเข้ากับพื้นเหมือนเป็นการอดทนกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเองทำให้มือนิ่มเอื้อมไปจับเหมือนเป็นการให้หยุดเพราะเห็นเลือดที่ฝ่ามือหนาเปรอะเขากับพื้นเพราะบาดแผลที่เกิดจากกริชนั่นจากฝีมือของเขาเอง
“ ท่านพ่อเมื่อไหร่จะเสร็จ..! “
ตะโกนถามผู้เป็นพ่อออกมาอย่างเป็นกังวลแต่เสียงที่ได้ยินกลับมามีเพียงการร่ายเวทย์ที่อยู่บนตำราเท่านั้น นารูโตะหันไปหาผู้เป็นแม่กับพี่ชายเหมือนเป็นการขอร้องให้ช่วยแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือดวงตาที่ฉายแววเห็นใจอย่างช่วยไม่ได้
“ ด้วยพันธะสัญญานี้... สัตว์อสูรตนนั้นจะเป็นผู้คุ้มครองถวายชีวิตให้กับลูกข้านามว่า อุสึมากิ นารูโตะ ไปจนชั่วนิรันดร์หากแต่สัตว์อสูรตนนั้นกลับผิดข้อพันธะสัญญาโดยการทำร้ายผู้เป็นนายแล้วจักต้องถูกเลือดในกายเผาผลาญชีวิตเหลือเพี้ยงแค่เศษเถาผงธุลีอย่างไม่มีวันหวนคืน... ดิแฟลคปิโอ้..! “
คาถาร่ายเวทย์สัตว์อสูรครั้งสุดท้ายดังออกมาพร้อมกับสลักชื่อสีดำบนตัวของร่างแกร่งจบลงที่ตัวสุดท้ายของผู้เป็นนายพอดิบพอดี วงล้อสีม่วงเข้มสัญลักษณ์ของพันธะสัญญาสะท้อนหายไปพร้อมกับร่างสูงที่กระตุกตัวอ้าปากค้างจนเห็นเขี้ยวขาวทั้งบนและล่างกับดวงตาสีแดงเพลิงเบิกกว้างจนสุดก่อนที่ดวงตาคมจะเปลี่ยนกลับมาเป็นสีรัตติกาลดังเดิมพร้อมกับเปลือกตาที่ค่อยๆปิดลงนอนบนพื้นแน่นิ่ง
นารูโตะมองร่างหนานอนนิ่งอยู่บนพื้นรีบเข้ามาดูอาการอย่างเป็นห่วง ดวงตากลมมองใบหน้าเรียวคมชื้นไปด้วยเหงื่อโดยที่บนแก้มเรียวนั้นยังมีหยดเลือดของเขาเกาะอยู่ไล่ลงมาที่แผงอกแกร่งที่มีตัวหนังสือสีดำสลักคำว่า ‘ Naruto ‘ อยู่บนนั้น มือนิ่มยกมือขึ้นลูบแผ่วเบาที่ชื่อตัวเองบนอกด้านซ้ายของร่างหนาไล่ตามลวดลายคดโค้งบนตัวจนมาถึงหน้าท้องมีที่คลื่นลอนสวย
“ เขาเป็นของลูกโดยสมบูรณ์แล้ว.. “
ใบหน้าหวานเงยหน้าไปสบตาคมของผู้เป็นพ่อที่ยืนก้มมองเขาด้วยความภาคภูมิใจสลับกับร่างสูง
“ ข้าทำอะไรกับเขาได้บ้างท่านพ่อ “
“ ทุกอย่างที่เจ้าต้องการเพียงเจ้าล้วนออกคำสั่งเขาจะไม่มีทางขัดขืนเจ้าอย่างเด็ดขาด “
“ ตอนท่านพ่อท่านแม่หรือท่านพี่ทำพันธะสัญญาสัตว์อสูรของท่านพวกเขาดูทรมานเหมือนของข้ามั้ย ? “
มินาโตะเงียบเป็นการให้คำตอบทำให้ร่างบางรู้คำตอบนั้นอย่างดิบดี
“ ทำไม.. “
“ เพราะลูกใช้เวทย์กำจัดศัตรูยิ่งใส่เขายังไงล่ะ “ คำตอบของผู้เป็นแม่ทำหัวใจของคนตัวเล็กกระตุกวูบ
นารูโตะหันไปมองแม่ตนเองเดินเข้ามาพร้อมกับพี่ชายมายืนข้างๆตน ที่ร่างตรงหน้าเขาต้องทรมานแบบนี้เพราะเขาเองงหรอกเหรอ.. เพราะเวทย์ที่เขายิงใส่อย่างนั้นน่ะเหรอ
“ เวทย์ขั้นสูงของลูกที่กลายไปเป็นส่วนหนึ่งบนร่างกายของเขาพอมาเจอเวทย์ที่มีพลังมหาศาลอย่างพิธีผูกพันธะสัญญาที่ลูกกรอกเข้าไปตัวเขามันเกิดตีกันยุ่งระหว่างเวทย์ทำลายกับเวทย์จิตใจจนเกิดความขัดแย้งกันทำให้ร่างกายเขาทนพลังที่ต้านกันอย่างรุนแรงไม่ไหวต้องขู่คำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด จริงๆแล้วชื่อของลูกที่สลักบนตัวเขาจะต้องมีสีแดงสดเหมือนเลือดของลูกกับเขาในตอนแรกแต่ทว่าเลือดของเขาที่มีพลังเวทย์ขั้นสูงปะปนอยู่พอมาเจอเวทย์จิตใจที่พ่อของลูกร่ายไปตอนทำพิธีมันเลยเปลี่ยนจากเลือดข้นสีแดงสดกลายเป็นของเหลวสีดำแทน ชื่อของลูกบนตัวเขาจึงกลายเป็นสีดำอย่างที่เห็น “
“ แล้ว.. แล้วมันต่างกันยังไงระหว่างที่แดงกับสีดำ “
“ อันนี้แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะแม่ไม่เคยเจอ “
เป็นครั้งแรกของผู้ชำนาญด้านพลังเวทย์อย่างคุชินะก็จนปัญญาจะให้คำตอบกับลูกชายตัวเองเหมือนกัน เพราะเหตุการณ์แบบนี้เขาก็เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกรวมถึงลวดลายคดโค้งที่มันเกิดจากเวทย์ทำลายอสูรนั่นด้วย สัตว์อสูรส่วนมากที่โดนเวทย์นี้ล้วนแต่จะตายไม่ก็บาดเจ็บหนักแต่ที่ร่างหนาไม่เป็นอะไรเลยนอกจากอาการอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัดเหลือเพียงแต่ลวดลายบนตัวแบบนี้เขาก็สงสัยอยู่เหมือนกัน
“ ที่แม่พูดแบบนี้เพราะแม่อยากให้ลูกดูแลเขา นารูโตะ.. “
“ อืม.. ลูกรู้ยังไงซะมันก็เป็นหน้าที่ของเจ้านายที่ควรกระทำ “
“ คืนพระจันทร์เต็มดวงยังไม่หมดไปแต่เจ้าก็ไม่ต้องกังวลเพราะดูท่าสัตว์อสูรของเจ้าจะอ่อนล้าเกินไปในยามนี้คงไม่มีทางแผลงฤทธิ์ออกมาแน่นอน “ เดอิดาระบอกน้องชายตัวเองพลางเอื้อมมือไปตบเข้าที่ไหล่เล็กอย่างให้กำลังใจ
“ อื่อ.. พวกท่านไปพักผ่อนกันเถอะเดี๋ยวตรงนี้ข้าจัดการเอง “
“ เจ้าไหวเหรอน้องข้า.. “
“ อื่ม.. ข้าไหว ถึงข้าไม่ไหวข้าก็ต้องไหวเพราะข้าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ “
บอกออกมาอย่างแน่วแน่จนคนเป็นพี่ที่กำลังจะเอื้อมมือเข้าไปช่วยต้องหยุดชะงักพร้อมกับหันไปมองผู้เป็นพ่อกับแม่เพื่อถามความเห็น แต่รอยยิ้มที่เผยออกมาของท่านทั้งสองทำให้เดอิดาระเข้าใจว่าตัวเองไม่ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยน้องที่กำลังแสดงความอ่อนโยนออกมาให้ทุกคนได้เห็นว่าเขาจัดการร่างตรงหน้านี้เองได้ บุคคลทั้งสามยืนมองดูร่างบางกำลังใช้เวทย์ปลดโซ่ตรวนที่พันธะนาการร่างสูงออกอยู่ครู่นึงก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปจากห้องโถงนี้อย่างหายห่วง
“ ไม่ทันไรข้าก็ทำเจ้าเจ็บขนาดนี้ทั้งๆที่ข้าตั้งใจจะไม่ทำให้เจ้าเจ็บ “
นารุโตะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ ที่เขาตั้งปฏิยานกับตัวเองไว้ว่าเขาจะไม่ทำให้สัตว์อสูรที่อยู่ใต้อาณัติเขาต้องบาดเจ็บเพราะตัวเขาเองเพื่อเป็นการตอบแทนที่เจ้าของร่างตรงหน้าจะต้องมาดูแลเขาไปตลอดชีวิตเหมือนถูกจ้องจำขาดอิสรภาพด้วยความไม่เต็มใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
มือนิ่มหยิบโซ่ตรวนชิ้นสุดท้ายที่ข้อเท้าหนามาวางบนพื้นหลังจากปลดล็อคเสร็จแล้วใช้แขนทั้งสองข้างโอบเข้าที่ลำตัวแกร่งให้ยืนขึ้น ร่างกายหนาทิ้งน้ำหนักลงอย่างคนหมดแรงจะยืนทำเอาคนตัวเล็กกว่าที่โอบลำตัวแกร่งถ่วงรับน้ำหนักไม่ไหวเซล้มลงทับบนตัวแกร่งไปกองอยู่กับพื้น ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปคืนนี้เขาคงไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดี สงสัยจะต้องใช้เจ้านั่นซะแล้ว...
“ บาคัสโทคิอัส.. “
ยานพาหนะคู่ใจของโลกเวทย์มนต์ออกมาลอยค้างอยู่ตรงหน้า แขนเรียวพยุงร่างสูงให้ลุกขึ้นยืน
“ แล้ว แล้ว..จะพาขึ้นยังไงล่ะ ? ”
ใบหน้าหวานเริ่มทำท่าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ว่าจะให้ร่างสูงที่เขาพยุงอยู่นี้ขึ้นขี่ไม่กวาดยังไงดีถ้าให้เขาอุ้มนี่ก็คงไม่ไหวนะแค่พยุงก็จะตายแหลไม่ตายแหล หรือว่าขี่ไม่กวาดมันจะไม่เวิร์ค... สมองคิดไปต่างๆนาๆรวมถึงนึกเวทย์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้เองอัตโนมัติไปพลาง
“ อ๋า... คิดออกแล้ว “
ปากอิ่มร่ายเวทย์เก็บไม้กวาดไปแล้วเปลี่ยนท่าตัวเองที่กำลังใช้แขนพยุงร่างหนาไปเป็นท่าอื่นโดยการหันไปสวมกอดเข้าที่อกแกร่งก่อนจะจับมือหนาทั้งสองข้างให้สวมกอดเข้าที่เอวตัวเองถึงจะบังคับให้จับให้แน่ไม่ได้เพราะร่างตรงหนาไม่ได้สติก็เถอะ พอคิดว่าบังคับมือหนาให้คล้องเขาที่เอว(แบบหลวมๆ)เรียบร้อยแล้วก็จัดการ ใช้มือข้างนึงกดใบหน้าเรียวที่กำลังหลับตาพริ้มให้ก้มลงมาซบที่ไหล่พร้อมกับแขนอีกข้างสวมกอดเข้าที่แผ่นหลังกว้างเอาไว้
อ๋า... ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้นะเพียงแต่ว่าการเคลื่อนย้ายกันมากกว่าหนึ่งคนมันจะต้องสัมผัสแบบแนบแน่นนี่นาไม่งั้นคนที่เราจะพาไปด้วยอาจจะไม่ได้ไปกับเรา หนักจัง.. แต่ทำไมรู้สึกใจเต้นแบบนี้นะทั้งๆที่บังคับเขาให้อยู่ในท่านี่เองแท้ๆ -//////-
“ หู่ว.... “ ถอนหายใจระบายความร้อนออกมาจากหน้าตัวเอง
“ เอาล่ะ... คูลัสเอ็กเซนเบียล.. “
ร่างของทั้งคู่ที่เคยอยู่ในโถงใหญ่กลายเป็นมาอยู่ในห้องนอนของนารูโตะในชั่วพริบตาที่ร่ายเวทย์ เด็กหนุ่มกับร่างสูงที่ยังอยู่ในท่าเดิมทำให้คนตัวเล็กกว่าเสียหลักล้มลงไปกับพื้นเพราะน้ำหนักตัวของคนที่ตัวเองสวมกอดอยู่โถมใส่เข้าให้ก่อนที่เขาจะตั้งตัวได้ทัน ใบหน้าหล่อคมที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่บนอกบางทั้งๆที่ตัวเองก็มีแค่ผ้าขนหนูปิดบังแค่ส่วนนั้นเท่านั้นไม่ได้รู้เลยว่าท่าแบบนี้มันทำให้คนที่กำลังเป็นหมอนหนุนไปชั่วขณะใจเต้นแรงแค่ไหน
มะ.. มะ อ๋า.. ไม่น้า T^T
นารูโตะค่อยๆใช้แขนยันพื้นดันตัวเองลุกขึ้นมาจากพื้นทั้งๆที่ยังมีใบหน้าหล่อคมซุกอยู่ที่อกไม่ขยับไปไหน มือนิ่มทั้งสองข้างจับไหล่กว้างดันออกเพื่อที่เขาจะได้ขยับตัวได้สะดวกจากนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นแล้วใช้แขนตัวเองพยุงร่างสูงขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างทุลักทุเล..
นารุโตะจับร่างหนาให้นอนในท่าสบายๆโดยที่พวงแก้มใสยังคงฝังไปด้วยเลือดฝาดแดงละเรื่ออยู่อย่างนั้น ดวงตากลมสำรวจร่างสูงที่เต็มไปด้วยบาดแผลรอยข่วนจากลวดหนามแฝงไปด้วยความสำนึกผิด
‘ ก๊อก.. ก๊อก... ‘
“ ไม่ได้ล็อคครับ.. “
นารูโตะหันไปทางประตูที่ถูกเปิดออกหลังจากที่เขาอนุญาต หญิงสาวคนสนิทหน้าตาสะสวยเดินเข้ามาในห้องเขาพร้อมกับถาดในมือที่มีขวดยาสมุนไพรกับเสื้อผ้าวางอยู่บนนั้น
“ คุณหนูใหญ่ให้ดิฉันนำยาสมุนไพรพวกนี้มาให้ค่ะแล้วก็เสื้อผ้าชุดนี้นำมาให้กับองครักษ์ของคุณหนูเล็ก “ เธอพูดพร้อมกับวางถาดยาสมุนไพรในมือลงบนตู้ลิ้นชักข้างหัวเตียง
“ ขอบคุณมากครับคาริน.. “
“ ไม่เป็นไรค่ะดิฉันยินดี “ เอยตอบให้กับคุณหนูของตนเองพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนทุกครั้งไป
“ คาริน “
“ คะคุณหนูเล็ก ? “
“ ยาสมุนไพรพวกนี้จะทำให้บาดแผลที่เกิดจากเวทย์ขั้นสูงหายไปได้จริงๆน่ะเหรอ ? “
“ หายสิคะ ยิ่งคุณหนูเล็กดูแลเอาใจใส่ต่อให้เป็นแผลที่เกิดจากเวทย์ขั้นสูงขนาดไหนก็หายได้ค่ะเพราะคุณหนูเล็กใส่ความห่วงใยลงไปในนั้นด้วย “
“ เหรอ.. ขอบคุณนะ “ ปากอิ่มยิ้มขอบคุณให้กับคำพูดให้กำลังใจของสาวคนสนิท
“ ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวนะคะ.. “
“ อืม “
ประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับล็อคกลอนให้เสร็จสรรพจากสาวคนสนิท ภายในห้องเล็กตอนนี้มีเพียงร่างบางของผู้เป็นนายกับร่างสูงที่หลับสนิทขององครักษ์แค่สองคนเท่านั้น ดวงตากลมหลับตาสูดหายใจลึกๆก่อนจะพ่นปล่อยออกมาเฮือกใหญ่ ขายาวก้าวเข้าไปในห้องน้ำหยิบอ่างขนาดกลางที่อยู่ในห้องน้ำมาลองน้ำใส่ พอได้น้ำในปริมาณที่พอเหมาะนารุโตะก็เดินออกมาจากห้องน้ำจัดการนำถาดยาที่วางอยู่บนลิ้นชักข้างเตียงไปไว้บนเตียงเพื่อที่จะได้นำอ่างใส่น้ำไปวางแทนแล้วนั่งลงข้างๆองครักษ์ของตัวเอง
ไม้กายสิทธิ์ถูกนำขึ้นมาใช้อีกครั้งเพียงแค่มือนิ่มโบกไปมาที่ตู้เสื้อผ้าตู้เสื้อผ้าก็เปิดออกทันทีพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กลอยมาวางบนตัก หลังจากเก็บไม้กายสิทธิ์ให้เข้าที่มือเรียวเอื้อมไปหยิบถาดใส่ยามานำเสื้อผ้าออกไปวงบนที่นอนแล้วหยิบโหลแก้วทรงเตี้ยที่มียาผงสีเขียวใส่ลงไปในน้ำตามด้วยจุ่มผ้าลงไปจัดการเช็ดเข้าที่ใบหน้าคมที่เลอะหยดเลือดของเขาจนมันแห้งกรังเป็นอย่างแรกไล่ไปเรื่อยๆจนทั่วตัวแต่กลับสะดุดเข้าที่ฝ่ามือหนาเพราะแผลที่ถูกกริชบาดนั้นหายไปแล้ว
แปลกใจที่รักษาบาดแผลธรรมดาๆได้เร็วขนาดนี้..
หลังจากเช็ดตัวทายาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้จนเสร็จ (ใช้เวทย์ร่ายให้เปลี่ยนให้นะ) ร่างบางจึงไปจัดการทำธุระส่วนตัวบาง ใช้เวลาเพียงไม่นานคนตัวเล็กก็อยู่ในชุดนอนตัวเองเสร็จสรรพรีบเดินกลับมาขึ้นเตียงด้วยความเพลีย นิ้วมือเรียวดีดดังเป๊าะไฟในห้องที่เคยสว่างดับวูบลงทันที
ถึงท่านพ่อจะสอนเป็นประจำว่าให้ใช้เวทย์มนต์ในยามจำเป็นแต่ในเวลานี้เขาก็อยากจะนอนพักผ่อนบ้างแล้วคงไม่เป็นไรที่จะใช้พร่ำเพรื่อแบบนี้ นารุโตะนอนตะแคงหันหน้าไปหาร่างสูงที่นอนอยู่ข้างเขา มือเรียวเอื้อมไปเลิกผ้าห่มให้ขึ้นมาอยู่ระดับอกของร่างสูงให้เรียบร้อยแล้วจ้องมองใบหน้าด้านข้างองครักษ์ของตัวเองประจวบเหมาะกับแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างลงมาพอดีบนใบหน้าหล่อคมก่อให้เกิดแสงประกายจนมือบางห้ามใจไม่ไหวยกมือขึ้นไปทาบที่แก้มเรียวด้วยความหลงใหล
“ เจ้าสวยมาก.. สวยมากจริงๆ “
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่คนตัวเล็กจะเผลอหลับไป
โครม..!!
เสียงดังสนั่นภายในห้องนอนในตอนเช้าทำให้นารูโตะสะดุ้งตื่นทันที ภาพตรงหน้าที่ดวงตากลมเห็นในตอนนี้คือตู้เสื้อผ้าของเขามันลงไปนอนบนพื้นโดยที่ข้างๆกันนั้นมีองครักษ์ของเขายืนอยู่ ดวงตาสีรัตติกาลกำลังจ้องมาทางเขาด้วยอารมณ์โกรธเคืองจนคนเพิ่งตื่นต้องขยับตัวหนีเพราะร่างตรงหน้ากำลังเดินเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าน่ากลัว
“ เจ้า... “ แม้จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่มันก็แฝงไปด้วยอารมณ์โกรธจนดูน่ากลัวอยู่ไม่น้อย
“ เจ้าทำอะไรกับข้า.. “
น้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับดวงตาเย็นนะเยือกทำให้นารูตะสะดุ้งอีกรอบ ดวงตากลมที่เผลอสบเข้ากับดวงตาคมดุดันนั้นทำให้คนตัวเล็กได้แต่อึกอักทำหน้าไปไม่ถูกไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
“ เอ่อ... คือข้า “
“ เจ้า.. เจ้าทำพันธะสัญญากับข้าทั้งๆที่ข้าไม่เต็มใจ “
“ คือข้า... “
“ ข้าต้องอยู่ใต้อาณัติของเจ้าไปตลอดชีวิตทั้งๆที่ข้าไม่เต็มใจเลยสักนิด.. “
“ ก็ข้า.. “
“ หึ.. คนแบบเจ้าเนี่ยนะที่จะมาเป็นเจ้านายข้า.. “
“ ทำไมเจ้าไม่ฟังข้าบ้างล่ะ เอาแต่ทำเสียงเย็นใส่ข้าแล้วข้ากล้าพูดมั้ย “ คนไปไม่ถูกใจดีสู้เสือยอมตอบกลับออกไปแบบนั้น แต่ดูเหมือนว่าคนที่ทำหน้าที่องครักษ์จะไม่สนใจได้แต่ยืนกอดอกทำหน้านิ่งใส่
“ .... “
“ ก็เจ้าจะฆ่าข้านี่ “ แค่ป้องกันตัวเองแล้วจับมาเป็นองครักษ์แค่นี้ไม่เห็นจะผิดตรงไหนเลย T_T
“ นั่นมันก็เรื่องของข้า เป็นพ่อมดประสาอะไรล่าอสูรคืนพระจันทร์เต็มดวงนี่เจ้าไม่มีสมองหรือเจ้าโง่กันแน่ ? “
“ ก็.. นั่นมันเป็นวันที่ข้าต้องออกล่าสัตว์อสูรมาเป็นองครักษ์ข้านี่ “ บอกออกไปแค่นั้นแต่กลับถูกสายตาเย็นๆตวัดมองกลับมานิ่งๆทำให้นารุโตะต้องหลบสายตาไปทางอื่นเพราะกลัวคนตรงหน้า
“ ยังไงข้าก็ไม่มีวันทำตามข้อพันธะสัญญาอะไรนั่น ข้าไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติของเจ้าไปตลอดชีวิตแน่.. “
“ แต่... “
ยังไม่ทันจะพูดจบร่างสูงตรงหน้าก็กระโจนเข้ามาด้วยความเร็วพร้อมกับมือหนาที่ตะปบเข้าที่คอเล็ก กรงเล็บคมทำการกลลงไปเบาๆเพื่อขู่แต่กลับเรียกเลือดข้นของผู้เป็นนายไหลหยดลงมาจนถึงอกบาง
“ อึก..!! ฮึก.. อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก !! “
จู่ๆร่างสูงก็เกิดอาการเจ็บปวดปล่อยมือตัวเองออกจากลำคอเล็กแล้วมาจับเข้าที่อกด้านซ้ายของตัวเองลงไปนอนแด้ดิ้นอยู่บนพื้น นารุโตะรีบเข้ามาดูอาการองครักษ์ตัวเองอย่างเป็นห่วงที่ตอนนี้กำลังใช้มือฉีกเสื้อที่สวมใส่ออกเผยให้เห็นลำตัวแกร่ง แต่มันก็คงสู้สลักชื่อเขาบนอกแกร่งไม่ได้เพราะตอนนี้ชื่อเขามันกำลังเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงข้นเหมือนกับว่าเป็นเลือดของร่างหนาบนชื่อเขา
นารุโตะทำตัวไม่ถูกได้แต่หันรีหันขวางขอความช่วยเหลือโดยที่ลืมไปว่าภายในห้องตอนนี้มีแค่เขากับองครักษ์ขี้โมโหคนนี้เท่านั้น เมื่อหาคนช่วยไม่ได้ร่างบางจึงได้แต่ใช้มือกดลงไปบนสลักชื่อตัวเองบนอกแกร่งเหมือนเป็นการห้ามเลือดของร่างสูงที่ไหลออกมา คนทรมานที่นอนดิ้นอยู่กับพื้นค่อยๆกลับมาเป็นปกตินอนนิ่งได้แต่นอนหายใจหอบทั้งๆที่ยังมีมือนิ่มกดอยู่ที่อกตัวเอง เมื่อเห็นว่าอาการของร่างสูงหายไปเป็นปกติมือนิ่มจึงผละออกมาจากอกกว้างปรากฏว่าสลักชื่อของเขามันกลายเป็นสีดำเหมือนเดิมแล้ว
“ เจ้าเจ็บมากมั้ย.. ? “ ถามออกไปด้วยความเป็นห่วงแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ
ร่างสูงค่อยๆยืนขึ้นช้าๆแต่ก็ยังมีอาการโครงเครงให้เห็นทำให้ผู้เป็นนายต้องรีบเข้าไปช่วยพยุง
“ ไม่ต้องมาช่วยข้า.. “ เอ่ยเสียงเรียบกลับไปพร้อมกับผลักเจ้านายตัวเองให้ออกไปจากตัวเบาๆแล้วเดินเข้าไปที่หน้าต่าง
“ นั่นเจ้าจะไปไหนน่ะ เจ้ายังไม่หายดีเลยนะ.. “
นารูโตะเดินเข้าไปใกล้แล้วขว้าแขนแกร่งเป็นการห้ามก่อนที่ร่างสูงจะโดดลงหน้าต่างไป
“ ข้าจะไปไหนมันก็เรื่องของข้า.. เจ้าอย่ามายุ่งอีกอย่างข้าชื่อซาสึเกะ ไม่ได้ชื่อเจ้า.. “ คำพูดขององครักษ์ทำให้นารุโตะยิ้มออกมา ก่อนจะออกแรงกระชากแขนแกร่งให้หันหน้ามาหาเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าจะกระโดดลงหน้าต่างอีกรอบ
“ ข้าชื่อนารูโตะนะ... ซาสึเกะ ... “
“ ... ถึงข้าจะทำร้ายเจ้าไม่ได้แต่อย่าหวังว่าข้าจะยอมรับใช้เจ้า “
ซาสึเกะทำตาขวางใส่นารูโตะอีกรอบ แต่เป็นเพราะรอยยิ้มหวานของผู้เป็นนายที่ตัวเองไม่ยอมรับทำเอาร่างสูงนิ่งค้างไปสักพักก่อนจะกระโดดลงหน้าต่างไป
นารูโตะก้มลงไปมองซาสึเกะที่กระโดดลงหน้าต่างวิ่งเข้าไปในสวนอย่างงงๆ แต่เพียงไม่นานใบหน้าหวานกลับยิ้มออกมาอย่างดีใจที่องครักษ์ของเขาร่างกายแข็งแรงดีจนหายห่วง จะมีก็แต่ความหนักใจเพราะองครักษ์นิ่งๆของเขาดูจะไม่เชื่อฟังเขาเลยนั้นแหละ...
T A L K
น้องเกะ.. ดูนิ่งๆแต่ขี้เหวี่ยงอ่ะเน๊อะ เหวี่ยงแบบนิ่งๆฮ่าๆๆ น้องโตะของเค้าน่ารักอีกและเฮ้อ... ดาเมจรุนแรงเหลือรับทานจริงๆ อยากจะรู้นักว่าคนนิ่งๆแต่ขี้เหวี่ยง(แบบนิ่งๆ)จะทนดาเมจของหนูโตะได้แค่ไหนกันน้า..
เจอกันตอนหน้าจ้ะ J
ความคิดเห็น