คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : : The Moon 1 :
The Moon 1
ออกล่าวัยสิบแปดปีเต็ม
“ ดีแฟลคปิโอ้.. “ เด็กหนุ่มพึมพำกับเวทย์เรียกใช้องครักษ์พร้อมกับเช็ดไม้กายสิทธิ์ของตัวเองไปด้วย ริมฝีปากอิ่มสีแดงธรรมชาติกระตุกยิ้มออกมาเพียงมุมปากอย่างถูกใจที่วันนี้ได้มาถึงเพราะเขารอเวลานี้มาหลายปีแล้วจนในที่สุดก็ถึงวันสิ้นสุดแห่งการรอคอย เสียงเพลงที่ฮัมออกมาเบาๆในลำคออย่างอารมณ์ดีบ่งบอกวันนี้เขามีความสุขมากแค่ไหนจากเจ้าของร่างเล็กภายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เป็นที่กำบังของแสงอาทิตย์พร้อมกับมีสายลมเย็นๆพลิ้วมาปะทะ
“ ดูท่าวันนี้น้องข้าคงจะมีความสุขที่ตัวเองอายุสิบแปดปีเต็มแล้ว... “ น้ำเสียงหยอกล้อของผู้เป็นพี่ที่เดินเข้ามาภายในสวนเห็นน้องชายตัวเองอารมณ์ดีแบบนี่เลยอดที่จะแซวเข้าหน่อยไม่ได้
“ แน่สิพี่ข้า.. ข้าดีใจนี่นาที่วันนี้ข้าอายุสิบแปดปีเต็มแล้ว อีกอย่างข้าก็จะได้ใช้เวทย์ขั้นสูงอย่างเวทย์เรียกใช้องครักษ์เหมือนท่านพ่อท่านแม่หรือแม้แต่ท่านได้สักที ท่านไม่รู้หรอกว่าการที่ข้าฝึกฝนเวทย์ทุกเวทย์จนชำนานมาเป็นเวลาหลายปีแต่กลับมีเวทย์เพียงเวทย์เดียวที่ข้ายังใช้ไม่ได้มันทำให้ข้าอยากรู้มากเลยนะว่าเวทย์นี่มันแตกต่างจากเวทย์อื่นยังไง “ คนตัวเล็กบอกจุดประสงค์ของตัวเองให้ร่างโปร่งได้ฟังพร้อมกับแววตาที่เป็นประกายระคนดีใจอย่างปิดไม่มิดที่ตัวเองจะได้ใช้เวทย์ขั้นสูงเหมือนคนอื่นๆบ้าง ริมฝีปากหยักสีสดธรรมชาติของผู้เป็นพี่ได้แค่ส่งยิ้มมาแล้วตระหนักถึงค่ำคืนนี้ที่มาถึง หากแต่ดวงตาคู่สวยกลับแฝงความกังวลขึ้นมาทันใด
คืนนี้แล้วสินะที่น้องชายของเขาจะต้องออกไปล่า... สัตว์ที่มีสัญชาตญาณของนักล่าอย่างเต็มตัว
“ นารูโตะ.. พี่อยากให้เรามีสติ การล่าสัตว์อสูรไม่ใช่เรื่องเล่นๆยิ่งสำหรับคืนนี้แล้ว.. “
“ ข้ารู้ๆ... แต่ข้าคิดว่าพลังเวทย์ของข้าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครนะ “
“ รู้ตัวมั้ยว่าเจ้ากำลังประมาท ข้ารู้ว่าเจ้าเก่งแต่ข้าที่มีประสบการณ์ในเรื่องแบบนี้มาก่อน..มันไม่ง่ายเลยกับการล่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าเราในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นความว่องไวหรือความแข็งแรงด้วยพละกำลัง การล่าสัตว์ที่เป็นนักล่าทุกอย่างมันล้วนอยู่เหนือความคาดหมายของเราทั้งสิ้น ยิ่งในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงด้วยแล้ว.. “
“ เหยื่อของข้าจะดุร้ายปลุกสัญชาตญาณดิบของตัวเองออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ข้ารู้น่าข้าศึกษามาหมดแล้วรวมถึงวิธีกำราบด้วย พี่ข้าอย่าห่วงเลยข้ารับรองว่าข้าจะไม่ทำให้ตัวเองขายขี้หน้าที่ว่าเป็นถึงลูกราชากษัตริย์แห่งโลกเวทมนต์แต่กลับไร้น้ำยาล่าสัตว์อสูรไม่ได้... ข้าไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก “ คำพูดที่เอ่ยออกมาดักความคิดของผู้เป็นพี่ทำให้เดอิดาระมองหน้าน้องชายตัวเองอย่างเอือมๆ เพราะเขาพยายามจะบอกประสบการณล่าสัตว์อสูรว่ามันไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากแต่กลับถูกดักทุกประโยคเหมือนคนรู้ดีแบบนี้เลยได้แต่ยอมในความมั่นใจของน้องชายอย่างช่วยไม่ได้แต่ก็ยังไม่วายเป็นห่วงอยู่ดี
“ คืนนี้ให้พี่ไปช่วยนะ.. อย่างน้อยพี่ก็ใช้เวทย์องครักษ์เพื่อช่วยเจ้าได้ “
“ ข้าพึ่งตัวเองได้ไม่งั้นข้าจะฝึกซ้อมเวทย์จนชำนาญแบบนี้เพื่ออะไรล่ะ “
“ แต่ว่านารูโตะ.. “
“ พี่เดอิดาระ.. ข้าสิบแปดปีเต็มแล้วนะจะให้มาคอยดูแลเป็นเด็กๆแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว “ น้ำเสียงใสที่ดูไม่แตกห้าวเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไปเอ่ยขึ้นตัดความหวังดีของพี่ชายร่วมสายเลือดอย่างไม่เกรงใจ เขารู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงแต่เขาก็โตพอที่จะสามารถใช้เวทย์ที่ฝึกมาตั้งแต่เด็กป้องกันตัวเองได้ อีกอย่างการล่าสัตว์อสูรให้มาเป็นองครักษ์ประจำตัวจะต้องใช้ความสามารถของตัวเองสิไม่งั้นจะมีไปทำไมจริงมั้ย ?
“ เฮ้อ.. ตามใจเจ้าแต่ข้าจะย้ำอีกครั้งว่าเจ้าต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา “
“ อื่อข้ารู้แล้ว.. แล้วนี่ท่านไม่ไปดูแลองครักษ์ของท่านหน่อยรึไง ? “
“ ข้าไปมาแล้ว ก็อยู่ดีกินดีหลับดีอยู่ อยู่สบายจนคิดว่าเขาไม่ใช่องครักษ์ “ เดอิดาระถอนหายใจเอือมๆ
“ ก็ธรรมดาขององครักษ์นี่ ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองก็อยู่แบบนั้นมันถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอ ? “
“ หึ.. แล้วนี่ไม่ฝึกเวทย์รึไงคืนนี้มีศึกหนักนะ “
“ ไม่ล่ะ ข้าฝึกมาเยอะแล้วตอนนี้ข้าขอแค่พักผ่อนสบายๆเก็บแรงเอาไว้สำหรับคืนนี้ดีกว่า ว่าแต่..พี่ข้า ข้าอายุสิบแปดควรมีสัตว์อสูรมาเป็นองครักษ์แล้วก็จริง แต่ข้ายังไม่รู้ประวัติความเป็นมาเลยว่าทำไมจะต้องมีองครักษ์ประจำตัว แล้วองครักษ์ประจำตัวนี่ทำอะไรได้บ้างแล้วเราต้องดูแลเขาอะไรยังไงข้าไม่เข้าใจ ท่านพ่อท่านแม่ไม่เห็นจะดูแลเหมือนที่ท่านดูแลเลยสักนิดเท่าที่ข้าสังเกตน่ะนะ “ ทำถามข้อสุดท้ายของนารูโตะทำเอาพวงแก้มเรียวใสของผู้เป็นพี่เริ่มมีเลือดฝาดขึ้นสีระเรื่อพร้อมกับอมยิ้มเบาๆแล้วรีบทำตัวเป็นปกติไม่ให้ผิดสังเกต
“ อืม... “
“ คุณหนูคะ... อาหารพร้อมแล้วท่านหญิงกับท่านชายของท่านรอพวกท่านอยู่ที่ห้องรับประทานอาหารค่ะ “
หญิงสาวคนสนิทของราชินีบอกเด็กชายทั้งสองตัดหน้าเดอิดาระที่กำลังจะตอบคำถามให้น้องชาย ก่อนที่ทั้งคู่จะพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ มือเรียวสวยเอื้อมไปจับมือนิ่มเพื่อประคองไว้ไม่ให้ล้มจากการกระโดดลงจากก้อนหินที่นั่งอยู่ก่อนจะเดินตามหญิงสาวคนสนิทของแม่ตัวเองเข้าไปที่ห้องอาหาร
หลังจากที่บานประตูใหญ่เปิดออกกว้างเผยให้เห็นห้องอาหารขนาดใหญ่ที่มีผู้เป็นพ่อและแม่ของตัวเองนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รายวันที่โต๊ะอาหารพร้อมกับสาวใช้คนอื่นๆยืนเรียงขนาบกับกำแพงเพื่อคอยบริการ เดอิดาระและนารูโตะเดินตามสาวคนสนิทของแม่ตัวเองมานั่งฝั่งซ้ายมือของโต๊ะอาหารให้เรียบร้อยก่อนที่หญิงสาวคนสนิทจะเดินอ้อมไปอีกทางเพื่อยืนอยู่ข้างหลังราชินี
“ คุณหนูทั้งสองมาแล้วค่ะ “ คารินบอกนายหญิงของตัวเองก่อนที่มือเรียวสวยของผู้เป็นแม่จะพับหนังสือพิมพ์เก็บแล้วส่งยื่นไปให้หญิงสาวคนสนิท
“ แย่จริงๆเลย.. ทำไมถึงได้มีข่าวคนตายได้ไม่เว้นแต่ละวัน “ ราชาแห่งโลกเวทย์มนต์พูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อก่อนจะพับหนังสือพิมพ์เก็บส่งยืนไปให้หญิงสาวคนสนิทเช่นกัน จริงอยู่ที่เขาไม่ได้เป็นประมุขของโลกมนุษย์แต่เจอข่าวการตายของมนุษย์แบบนี้ทุกวันมันก็ทำให้เขาอดห่วงไม่ได้
“ ท่านพ่อก็หาทางช่วยเหลือพวกเขาสิครับ “ เดอิดาระออกความคิดเห็นพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำของตนขึ้นมาดื่ม
“ เราชาวเวทย์มนต์ไปยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์ได้ซะที่ไหนล่ะ นารูโตะ... “ ตอบลูกชายคนโตของตัวเองจบก็หันไปปรามลูกชายคนเล็กด้วยสายตาดุดุจนเจ้าของชื่อสะดุ้งโหยง
“ คะครับ..! “
“ พ่อบอกแล้วว่าห้ามใช้เวทย์มนต์ถ้าไม่ถึงคราจำเป็น “
“ ผมก็ไม่ได้ใช้ทำอะไรนี่นา “ ดวงตากลมโตจ้องไปยังผู้เป็นพ่อเหลอหลาเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
“ แล้วเมื่อกี้แอบร่ายเวทย์เอาเหยือกน้ำมารินใส่แก้วตัวเองทำไม “
คำถามของผู้เป็นพ่อทำให้ลูกชายคนเล็กหน้าเหวอไปชั่วครู่แล้วกลับไปทำตัวตามปกติก่อนจะลอยหน้าลอยตามองโน่นมองนี้ไปเรื่อยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เรียกรอยยิ้มจากทุกคนในห้องครัวได้อย่างดียกเว้นผู้เป็นพ่อที่ได้แต่ถอนหายใจใส่พฤติกรรมของลูกชายตัวเอง สอนแล้วไม่เคยจำจริงๆเจ้าลูกคนนี้..!
“ เรามาทานข้าวกันเถอะค่ะเดี๋ยวจะเย็นกันหมดซะก่อน “
ทุกคนก้มหน้าก้มตาทานอาหารมื้อกลางวันตรงหน้าพร้อมกับสาวใช้ที่คอยบริการอย่างใกล้ชิด
“ นารูโตะทานเยอะๆนะ.. ตอนกลางคืนจะได้มีแรง “ คุชินะตักอาหารใส่ในจานลูกชายหวังจะให้ทานอาหารมื้อนี้ให้เยอะๆเพราะคืนนี้จะเป็นคืนสำคัญของลูกชายคนเล็ก ตลอดสิบสามปีที่ผ่านมาในวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดทุกๆปีมันทำให้เขาอดคิดและเป็นห่วงไม่ได้จนมาถึงวันนี้ วันนี้วันที่ลูกชายคนเล็กของเขาจะต้องออกไปล่าสัตว์อสูรให้มาอยู่ใต้อาณัติของตัวเองในคืนพระจันทร์เต็มดวง
“ ขอบคุณครับ.. “ นารูโตะได้แต่บอกขอบคุณผู้เป็นแม่หลังตักอาหารใส่จานแล้วก้มหน้าก้มตากินตามปกติไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นห่วงผ่านทางสายตาสามคู่ที่มองอยู่
“ นารูโตะ.. เจ้ารู้มั้ยว่าทำไมเราถึงต้องมีสัตว์อสูรอยู่ใต้อาณัติ “ คำถามของผู้เป็นพ่อทำให้คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวตัวเอง.. จริงสิเขาถามคำถามพวกนี้ค้างไว้กับพี่เดอิดาระนี่นา..
“ ไม่ทราบครับ “
“ เจ้าคงรู้ใช่มั้ยว่าเราชาวพ่อมดแม่มดแห่งโลกเวทย์มนต์มีศัตรูอย่างแวมไพร์มาเกือบร้อยปีเพราะต่างฝ่ายต่างแย่งชิงถิ่นอาศัยเพื่อความอยู่รอด ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วฝ่ายเราไม่ได้อยากจะเป็นศัตรูด้วยเลยสักนิด แต่เพราะฝูงแวมไพร์ที่คอยล่าเหยื่อพวกเราชาวเวทย์มนต์หรือแม้กระทั่งมนุษย์เดินดินธรรมดาๆให้กลายเป็นอาหารหรือพรรคพวกทำให้ฝ่ายเราเริ่มเสียเปรียบและมันทำให้ฝ่ายนั้นรุกรานเรามากขึ้นเรื่อยๆจนมีกฎขึ้นมาว่าเราจะต้องมีสัตว์อสูรเป็นองครักษ์ ซึ่งสัตว์อสูรของเราจะต้องต่อกรหรือมีความสามารถเทียบเท่าพวกแวมไพร์นั่นได้เพื่อป้องกันเราจากอสูรร้ายยามราตรีพวกนั้น แต่ว่า..กฎมันบอกเอาไว้ว่าจะต้องเป็นผู้ที่อยู่ในเชื่อกษัตริย์เท่านั้นที่สามารถใช้เวทย์นี้ได้ เพราะเรามีพลังเวทย์ที่แข็งกล้ากว่าพ่อมดแม่มดทั่วไปสามารถบังคับสัตว์อสูรให้อยู่ใต้อาณัติได้ และการล่าของเราจะทำได้ก็ต่อเมื่อเราอายุครบสิบแปดปีเต็มเพื่อทำการผูกพันธะสัญญาในครั้งแรกที่เรามีพลังเวทย์มากพอ “
“ แล้วถ้าเกิดข้าจับสัตว์อสูรไม่ได้ภายในสองยามนี้.. “
“ เจ้าจะไม่สามารถล่าสัตว์อสูรมาเป็นองครักษ์ของเจ้าอีกต่อไป เพราะการทำพันธะสัญญาจะต้องใช้พลังเวทย์ที่แข็งแกร่งในครั้งแรกเท่านั้น “
“ งั้นก็หมายความว่าข้าจะต้องทำพันธะสัญญาก่อนที่จะเลยเที่ยงคืนของวันนี้ ? “
“ ถูกต้อง.. เจ้าคิดว่าเจ้าพร้อมสำหรับค่ำคืนนี้ของเจ้ามั้ย ? “
“ ข้าพร้อม... “ บอกกับผู้เป็นพ่อด้วยแววตาที่หนักแน่น
“ หึ.. ข้าเชื่อว่าลูกของข้ามีฝีมือพอตัวที่จะกำราบสัตว์อสูรในคืนนี้นะ “
“ ไว้เดี๋ยวข้าจะนำสัตว์อสูรของข้ามาให้ท่านชม ท่านพ่อ.. “ คำพูดมั่นอกมั่นใจเอ่ยออกมาจากปากอิ่มสีสดทำให้ทุกคนที่อยู่ร่วมโต๊ะอาหารค่อยเบาใจไปได้เปราะนึง อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็มีความกล้าพอที่จะยืนหยัดต่อสู้ไม่หวั่นเกรงใดใดด้วยความสามารถของตัวเอง
มือกลางวันที่ผ่านมานี้ทำท้องของคนตัวเล็กอิ่มหนำใจจนมีแรงศึกษาตำราในการล่าสัตว์อสูรต่อ ดวงตากลมไล่อ่านตัวหนังสืออย่างตั้งใจไปเรื่อยๆ คำทุกคำที่เขาอ่านไปล้วนจำจดอยู่ภายในสมองของเขาจนหมด
“ วิธีการฆ่ามนุษย์หมาป่าจะคล้ายๆกับแวมไพร์ โดยตอกด้วยลิ่มหรือเผากับการยิงด้วยกระสุนที่ทำจากเงิน อืม.. แวร์วูฟล์กับแวมไพร์นี้คล้ายกันหมดทุกอย่างเลยแหะ ว่าแต่ทำไมพวกสัตว์อสูรที่เราตามล่าถึงยอมมาอยู่ใต้อาณัติรับใช้เราล่ะ ?... ช่างเถอะเดี๋ยวค่อยถามท่านพ่อเอาละกัน “ ความสงสัยหายไปถูกแทนที่ด้วยสมาธิในการอ่านหนังสือต่ออย่างขะมักเขม้น
.
.
.
เสื้อคลุมสีดำกับหมวกที่สวมหัวทุยอยู่นั้นบ่งบอกถึงความเตรียมพร้อมในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าที่เขาจะต้องออกไปนอกปราสาทเพื่อตามล่าหาสัตว์อสูร ความรู้ที่ได้อ่านไปจากตำราเมื่อหลายชั่วโมงก่อนกับคาถาเวทย์มนต์ที่ฝึกฝนมาอย่างชำนาญจดจำอยู่ในสมองของเขาอย่างแม่นยำ แท่งไม้กายสิทธิ์ที่ถือยู่ในมือเรียวถูกเก็บใส่ในแขนของเสื้อคลุมตัวนอกเพื่อความสะดวกในการหยิบ แสงสว่างของพระจันทร์ที่รอดมาทางหน้าต่างทำให้นารูโตะเอื้อมมือไปเปิดผ้าม่านออกช้าๆ
ถึงเวลาแล้ว..
“ หู้ววววววววววววววววววววววววว.... “ เสียงคำรามเห่าหอนเรียกหาฝูงตัวเองของหมาป่าดังกังวานไปทั่ว สร้างความตื่นเต้นให้กับคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี มือเรียวยกขึ้นมาแนบหน้าอกแล้วสูดลมหายใจเข้าช้าๆก่อนจะค่อยๆผ่อนออกเพื่อคลายความตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่จะไปเผชิญหน้า ดวงตากลมมองตรงเข้าไปในดวงตาของตัวเองข้างหน้าที่มันสะท้อนภาพเขาอยู่หน้ากระจก
“ นารุโตะ... นิ่งไว เราต้องทำได้เราให้สัตย์กับท่านพ่อแล้วว่าจะพาอสูรมาอวด ไม่มีอะไรต้องกังวล แค่หาจังหวะและปักศรแทงลงไปบนตัวแค่นั้นเอง... “
‘ ก๊อก.. ก๊อก ‘
“ ไม่ได้ล็อคครับ.. “
ประตูห้องถูกเปิดออกเมื่อเจ้าของห้องอนุญาตให้เข้ามา ดวงตากลมหันไปมองผู้มาเยือนก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้ผู้เป็นพี่ชายที่เดินเข้ามาหา
“ พร้อมนะ... “
“ อื่อ พี่ข้าไม่รู้เหรอว่าข้ารอเวลานี้มานานแค่ไหนแล้ว.. “
“ ให้ข้าไปเป็นเพื่อนมั้ย ? ช่วยคุ้มกันก็ยังดี.. “
“ ไม่เอาน่า... ข้าบอกท่านไปกี่รอบแล้วว่าข้าพึ่งตัวเองได้ไหนท่านบอกท่านเชื่อใจข้าไง ? “ นารูโตะหันไปหาเดอิดาระแล้วเอื้อมมือไปกุมมือสวยไว้มั่นให้คลายความกังวลพร้อมกับคำพูดหยอกล้อ ดวงตากลมจ้องเข้าไปในดวงตาสวยที่กำลังฉายแววกังวลใจก่อนจะคว้าร่างพี่ชายมาสวมกอดไว้
“ ข้ามีสติอยู่ตลอดเวลา... อย่างที่ท่านบอกแน่นอนแถมข้ายังจำเรื่องที่อ่านกับคาถาเวทย์ได้ขึ้นใจเชียวนะ “
“ อื่อ..ข้ารู้แต่ข้าก็อดกังวลไม่ได้ “
“ ไว้ข้าจะเอาอสูรข้ามาเป็นของขวัญให้ดูนะ ตอนนี้ข้าต้องรีบไปแล้วเวลามีจำกัดท่านรีบไปดูองครักษ์ของท่านเถอะวันนี้น่ะ พระจันทร์เต็มดวงนะ “ นารูโตะผละออกจากลำตัวบางของเดอิดาระแล้วบอกเตือนเหมือนรู้ดีว่าถ้าพี่ชายเขาไม่รีบไปดูองครักษ์ตัวเองตอนนี้ล่ะก็เป็นเรื่องแน่ๆ..
“ บาคัสโทคิอัส.. “
เพียงแค่เอ่ยเวทย์นี้ไม้กวาดคู่ใจก็ออกมาอยู่ในมือเรียวเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะทำการใช้มืออีกข้างมาจับที่ด้ามไม่กวาดเปลี่ยนท่ายกขาขึ้นค่อมขี่ไม่กวาดตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมที่จะออกไปโลดแล่นข้างนอกแล้ว
“ ถ้ามีอะไรรีบตะโกนเรียกพี่นะ พี่จะรีบส่งองครักษ์พี่ไปช่วยทันที “
“ อื่อ.. “ นารูโตะพยักหน้ารับพี่ชายตัวเองแต่ก่อนที่จะขี่ไม่กวาดออกไปข้างนอก แต่ยังไม่ทันที่จะออกตัวกลับถูกมือเรียวจับแขนเอาไว้จนคนถูกห้ามต้องหันกลับมามอง ริมฝีปากบางสีสดเคลื่อนมาใกล้แล้วจรดลงบนหน้าผากเนียนใสของน้องชายตัวเองช้าๆแล้วค่อยๆผละออก
“ โชคดีนะน้องข้า... “ รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้ผู้เป็นน้อง นารุโตะยิ้มรับแล้วพยักหน้าก่อนจะออกแรงถีบพื้นเพียงเล็กน้องเพื่อให้ไม้กวาดลอยตัวก่อนจะโน้มตัวไปข้างหน้าขี่ไม่กวาดพุ่งออกไปนอกหน้าต่างที่เปิดไว้ทันที
บรรยากาศข้างนอกวันนี้ค่อนข้างเย็นกว่าปกติ ลมหนาวที่พัดมาปะทะตัวทำให้นารูโตะต้องยกมือขึ้นมาลูบแขนตัวเอง แสงพระจันทร์ที่กำลังสาดส่องทำให้ดวงตากลมมองเห็นวิวธรรมชาติชัดกว่าวันอื่นๆก่อนจะสอดส่ายสายตาหาพื้นที่ที่สะดวกในการล่าจนไปเห็นป่าสนในหุบเขาลึกทางทิศตะวันออกห่างไกลจากตัวเมืองอยู่พอสมควร คาดว่าน่าจะมีพวกหมาป่าให้เขาได้ล่าบ้าง.. คิดได้ดังนั้นก็รีบบังคับไม้กวาดร่อนลงจอดที่เนินเขาป่าสนช้าๆแล้วร่ายเวทย์ให้ไม้กวาดหายไป
บรรยากาศรอบๆดูวังเวงมากตั้งแต่เขาลงมาเหยียบที่ป่าสนแห่งนี้ ความสว่างจากแสงจันทร์ที่ส่องลงมาได้เพียงน้อยนิดเพราะต้นสนที่บังแสงทำให้ดวงตากลมหลับตาก่อนจะค่อยๆลืมตานิ่งค้างอยู่สักพักเพื่อปรับสีให้ชัดเจนในการมองเห็น เขาไม่อยากใช้เวทย์ไฟจุดที่ไม้กายสิทธ์เพราะมันอาจะทำให้สัตว์ที่อยู่ในป่านี้ต่างพากันรู้ตัว เท้าที่สวมด้วยรองเท้าหนังชั้นดีค่อยๆเดินเข้าไปในป่าอย่างเงียบเชียบแล้วแอบอยู่หลังต้นสนเพื่อดูลาดเลา
“ หู้วววววววววววววววววววววววว... “ เสียงหอนคำรามของหมาป่าทำให้นารุโตะสะดุ้งตกใจก่อนจะรีบตั้งสติเดินตรงไปยังแหล่งกำเนิดเสียงนั้นอย่างระมัดระวัง
แกร๊บ...
เท้าที่เผลอเหยียบเข้ากับใบแห้งไม้ทำให้เด็หนุ่มหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่แล้วมองไปรอบๆ เมื่อคิดว่าไม่มีอะไรอันตรายอยู่ในบริเวณนี้ก็ทำการก้าวเท้าออกจากใบไม้แห้งพยายามทำให้เกิดเสียงให้เบาที่สุดแล้วก้าวขาเดินตรงไปยังเป้าหมายที่ที่เกิดเสียงคำรามของสัตว์อสูรต่อ
แซก..แซก
สายลมที่พัดมาทำให้ใบต้นสนพลิ้วไปตามลมจนเกิดเสียงดังไปทั่ว ดวงตากลมเงยหน้าขึ้นไปมองสำรวจใบไม้ที่พลิ้วไหวแล้วกลับไปมองทางตามปกติ พลันสายตาก็เบิกกว้างเพราะไปสะดุดเข้ากับฝูงหมาป่าห้าถึงหกตัวกำลังยืนลุมแทะซากสัตว์อยู่ตรงหน้าประมาณห้าสิบเมตร ขาเรียววิ่งเข้าไปหลบหลังต้นสนที่ใกล้ตัวเองที่สุดแล้วเหลือบไปมองฝูงหมาป่าพวกนั้นอีกรอบ... เขาต้องรีบไปจากตรงนี้ให้ไว้ที่สุด ดีใจอยู่หรอกที่เจอหมาป่าแต่ถ้าให้เขาเข้าไปประจันหน้าทั้งฝูงแบบนั้นกลับเป็นเขาเองแน่ๆที่จะต้องโดนตะลุมเหมือนสัตว์ตัวนั้นจนเหลือแต่กระดูก
“ แย่แน่..แย่แน่ๆ “
คิดได้ดังนั้นก็ค่อยๆเดินไปทางทิศตะวันออกอย่าเงียบเชียบแล้วเริ่มออกตัววิ่งก่อนที่หมาป่าฝูงนั้นจะรู้ตัวตามกลิ่นเขามา ความลึกที่คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาในป่าทำให้แสงจันทร์เริ่มสาดส่องเข้ามาไม่ถึง ภาพเบื้องหน้าค่อยๆดำมืดที่ละนิดๆ จนดวงตากลมเห็นต้นสนเป็นแค่ไม้สูงๆสีดำเท่านั้น มือเรียวมล้วงเข้าไปในแขนเสื้อคลุมเพื่อหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาจุดไฟให้สว่างขึ้น
แต่ก่อนที่ปากอิ่มจะร่ายเวทย์สายตากลับไปสะดุดเข้ากับจุดแสงสีแดงเพลิงที่เป็นแสงสว่างเพียงจุดเดียว เรียวขาเดินเข้าไปตรงหน้าช้าๆเพื่อดูว่าแสงสีแดงเพลิงที่มันส่องประกายสวยอยู่ตรงหน้าเขาคืออะไร แต่พอยิ่งเดินเข้าไปใกล้แสงสว่างนั้นกลับได้ยินเสียงคำรามเบาๆดังออกมาเรื่อยๆจนมันเริ่มจะชัดขึ้นว่ามันคืออะไร ความหวาดระแวงพร้อมกับความกลัวทำให้ขายาวค่อยๆลดความเร็วลงจนหยุดนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับมือที่กำไม้กายสิทธิ์ของตัวเองแน่น
“ แก๊ซซซซซซ... !! “
“ เฮ้ย!!.. “ ดวงตากลมเบิกกว้างทันทีที่แสงไฟสีแดงเพลิงกลายเป็นดวงตาคมของหมาป่าขนสีนิลดำเงาวิ่งพุ่งทะยานมาทางเขาด้วยความเร็วเหมือนจะตะครุบเหยื่อ
นารูโตะก้มตัวหลบจนหมาป่าตัวนั้นกระโดดเลยตัวเขาก่อนที่มันจะหันหน้ามาเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มอีกรอบ ดวงตาคมสีแดงเพลิงของสัตว์อสูรตรงหน้าดูเกรี้ยวโกรธมองมาทางเขาเหมือนกำลังมองอาหารรสเลิศ เขี้ยวขาวแหลมคมที่ยกขู่เสียงคำรามพาหัวใจของคนตัวเล็กแกว่งแต่ดวงตากลมกลับจับจ้องเข้าไปที่ดวงตาสีแดงเพลิงตรงหน้าอย่างไม่คลาดสายตา
“ มาเลย.. เข้ามา.. “
หมาป่าตัวนั้นวิ่งกระโจนเข้ามาหานารุโตะทำให้ปากอิ่มเริ่มร่ายเวทย์พร้อมกับชี้ไม้กายสิทธิ์พุ่งตรงไปข้างหน้า
“ เลคูรัส.. “ แต่ยังไม่ทันที่ร่างบางจะร่ายเวทย์จบกรงเล็กแหลมคมที่ลอยเข้ามาตรงหน้าทำให้นารุโตะต้องรีบก้มตัวหลบอีกรอบแล้วออกตัววิ่งพร้อมกับหมาป่าตัวนั้นที่วิ่งตามมาด้านหลัง
“ ทำไมเร็วอย่างนี้นะ... “ สองขาวิ่งไปข้างหน้าแต่ก็ไม่ลืมหันไปมองหมาป่าข้างหลังที่วิ่งตามมาเป็นระยะๆ
ถ้าเอาแต่วิ่งหนีอยู่แบบนี้เหนื่อยเปล่าแน่ๆแถมอาจจะถูกกินอีก... ต้องมัดให้อยู่นิ่งๆแต่จะทำยังไงที่ไม่ให้เจ็บตัว... เวทย์ไหนที่พันธนาการแล้วไม่เจ็บตัว... โอ๊ยยยทำไมต้องมาลืมเอาตอนนี้นะทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังจำได้อยู่เลย
แควก...!
“ อ๊ะ! “ เสียงหวานร้องออกมาอย่างตกใจหันไปมองเสื้อคลุมตัวเองที่ถูกกรงเล็บคมนั่นตวัดขาดวิ่นที่ชายเสื้อลงพื้นไป
“ จริงสิ..! ต้องใช้คาถานั่นไปก่อน “ มือเรียวกำไม้กายสิทธิ์ตัวเองแน่นปากอิ่มเริ่มร่ายเวทย์ เพียงแค่ชั่วอดใจหันไปเผชิญหน้ากับหมาป่าที่พุ่งตรงเข้ามาพร้อมกับละอองสีเขียวออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์กลายเป็นเถาวัลย์เส้นยาวพันไปรอบตัวหมาป่าตัวนั้นไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหนได้
นารูโตะยืนมองดูหมาป่าตัวนั้นดิ้นไปดิ้นมาร้องขู่เสียงคำรามภายใต้เส้นเถาวัลย์คาถาที่เขาร่ายใส่อยู่บนพื้นหญ้า แต่ไม่ทันไรเถาวัลย์ที่เพิ่งใช้มัดหมาป่าตัวนั้นก็ค่อยๆขาดที่ละเส้นๆจนร่างบางเริ่มกังวลขึ้นมาอีกรอบ นี่ถ้าคืนนี้ไม่ใช่คืนพระจันทร์เต็มดวงแค่เวทย์เถาวัลย์พันธนาการแค่นี้เขาก็เอาอยู่...
นารูโตะหันหนีเพื่อออกตัววิ่งอีกครั้งแต่ยังไม่ทันที่จะก้าวขาออกไปกลับถูกหมาป่าตัวนั้นกระโจนตะครุบใส่จนล้มลงไปกระแทกพื้น กรงเล็บแหลมคมตะปบเข้ากับอกบางจนเกิดรอยแผลทางยาวตามมาด้วยเลือดข้นสีแดงสดที่ไหลตามออกมาช้าๆ ใบหน้าหวานเหยเกเพราะความเจ็บปวดเงยหน้าขึ้นไปมองหมาป่าดุร้ายที่จ้องจะกินเขา อุ้งมือขนาดใหญ่ที่มีกรงเล็บกดทับลงบนอกทำให้ร่างบางขยับไปไหนไม่ได้ พลันสมองก็คิดถึงแผนสำรองที่เขาไม่อยากจะทำ มือบางที่ถือไม้กายสิทธิ์อยู่ข้างลำตัวออกแรงกำแน่นอีกครั้งแล้วใช้จังหวะนี้ร่ายคาถาให้เร็วชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่หมาป่าตัวนั้นก่อนที่มันจะฝั่งเขี้ยวใหญ่ลงมาที่ตัวเขา
“ คิลมัสลูแพโรว... “
แสงสว่างสีแสงสดประกายออกมาจากไม้กายสิทธิ์พุ่งตรงไปที่บริเวณลำตัวของหมาป่าจนมันกระเด็นปลิวไปกระแทกกับลำต้นของต้นสนก่อนจะล่วงหล่นลงมานอนแน่นิ่งบนพื้น ขนสีดำเงาสวยค่อยๆหายไปกลายเป็นเนื้อกายของมนุษย์พร้อมกับกรงเล็บมือเล็บเท้าหดเข้าไปในมือใหญ่เหมือนมือของมนุษย์ธรรมดาๆทั่วไป ลวดหนามสีดำค่อยๆเลื้อยออกมาจากลำตัวหนาที่นอนแน่นิ่งพันไปทั่วร่างกายจนเกิดรอยข่วนมีเลือดซึมออกมาตามเนื้อตามตัวจนลวดหนามสีดำค่อยๆกลายเป็นสีแดงสด
นารูโตะค่อยๆก้าวขาเข้าไปดูร่างที่นอนเปลือยแน่นิ่งหน้าคว่ำไปกับพื้นหญ้าเหมือนเป็นการดูเชิงว่าหมาป่าตัวนี้ที่กลายเป็นมนุษย์จะไม่ลุกขึ้นมาทำร้ายเขาอีก เมื่อเห็นว่าร่างตรงหน้านอนนิ่งอยู่กับพื้นไม่ไหวติงใดใดทั้งสิ้นขายาวเลยรีบก้าวเข้าไปหาอย่างเป็นห่วง นิ้วเรียวแก้ปมเชือกผ้าคลุมของตัวเองออกนำไปห่มช่วงล่างของลำตัวหนาไว้ให้เรียบร้อยแล้วเอื้อมมือไปสัมผัสกับแขนแกร่ง แต่เพียงแค่สัมผัสลงอย่างแผ่วกลับรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกของผิวคนคนนี้จนเผลอกระตุกนิ้วออกมาอย่างตกใจแล้วทำการจับเข้าที่แขนแกร่งอีกรอบอย่างระมัดระวังไม่ให้โดนลวดหนาม ค่อยๆใช้แขนออกแรงพลิกตัวของร่างหนาให้หงายหน้าขึ้นมา
“ เจ้าบาดเจ็บมาก่อนนี่นา... “ ดวงตากลมมองดูบาดแผลช่วงหน้าท้องที่เป็นลอยกรงเล็บลากยาวเฉียงมาจนถึงสะโพก เลือดข้นที่ไหลเยิ้มผสมกับเลือดบางส่วนที่แห้งกรังทำให้คนตัวเล็กไปไม่ถูก บาดแผลฉกรรจ์ที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแล้วไหนจะเวทย์ขั้นสูงที่เขาเพิ่งจะร่ายใส่จนกลายลวดหนามพวกนี้อีก..
“ ปล่อยไว้เจ้าต้องตายแน่.. ข้า.. ข้า...ข้าให้เจ้าตายไม่ได้ “ น้ำเสียงกังวลเปล่งออกมาเมื่อเห็นสัตว์อสูรตัวนี้เริ่มหายใจรวยรินเต็มที มือเรียวอยากจะกระชากลวดหนามที่พันลำตัวแกร่งของคนที่นอนอยู่ออกหากแต่เวทย์กลับต้องแก้ด้วยเวทย์เพียงเท่านั้น สมองนึกไปถึงตำราเวทย์ที่ตัวเองนั่งจำมาอย่างดีพยายามนึกว่ามีเวทย์ไหนที่สามารถแก้สถานการณ์ตรงหน้านี้ได้ และเพียงไม่นานมือเรียวก็เป็นอันกำไม้กายสิทธิ์ในมือแล้วชี้ไปที่คนที่นอนบาดเจ็บสาหัสอยู่
“ โอบัคดิโอแพน.. “
ละอองสีขาวพวยพุ่งออกมาจากไม้กายสิทธิ์ตรงไปห่อหุ้มที่ร่างสูง ลวดหนามสีแดงสดค่อยๆซึมหายไปตามผิวหนังจนกลายเป็นลวดลายสวยงามบนเรือนร่างนั้นจนร่างบางเบิกตาโพลงด้วยความแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ปากแผลบนลำตัวหนาค่อยๆสมานตัวจนปิดสนิทพร้อมกับละอองสีขาวค่อยๆหายไปทำให้ร่างบางเอื้อมมือไปสัมผัสที่ลำตัวแกร่งอีกครั้ง ความอุ่นที่เข้ามาแทนที่ความเยือกยะเย็นทำให้นารูโตะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตอนนี้เขาต้องรีบกลับไปที่ปราสาทให้เร็วที่สุดเพราะไม่มีเวลาแล้ว..
ปากอิ่มร่ายเวทย์ออกมาชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ร่างหมดสติจนเกิดกรงขนาดใหญ่ที่มีร่างสูงอยู่ในกรงนั้นอัตโนมัติโดยที่ร่างบางไม่ต้องเสียเวลาพยุงร่างที่นอนแน่นิ่งเข้ากรง
“ บาคัสโทคิอัส “
ไม้กวาดออกมาอยู่ในมือนิ่มรอบที่สองของวัน ขายาวจัดการขึ้นค่อมบนไม้กวาดให้เรียบร้อยแล้วร่ายเวทย์ชี้ไปทางกรงใหญ่ที่มีร่างสูงนอนอยู่ในนั้นให้ลอยตามมาอยู่ด้านข้าง ทันทีที่ลอยตัวขึ้นสู่ฟ้าจนแสงจันทร์สาดส่องถึงทำให้ดวงตากลมมองภาพทุกอย่างด้านล่างได้ชัดเจนแล้วเร่งความเร็วให้ตัวเองกลับไปยังปราสาททันที
ทันทีที่มาถึงปราสาทรอยยิ้มของผู้เป็นพ่อและแม่ปรากฏออกมาทันทีที่ที่เห็นลูกชายตัวเองกลับมาอย่างปลอดภัยพร้อมกับกรงใหญ่ที่มีสัตว์อสูรติดมาด้วย ขายาวก้าวลงเหยียบพื้นอย่างปลอดภัยแต่ยังไม่ทันจะได้ทักทายใครก็รับรู้ได้ถึงอ้อมกอดอุ่นที่ถาโถมเข้ามา
“ ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าต้องทำได้น้องข้า.. “
“ อื่อ.. ข้าทำได้จริงๆ “
ร่างบางทั้งสองผละออกจากกัน ใบหน้าหวานของลูกชายคนเล็กหันมายิ้มให้พ่อกับแม่ตัวเองด้วยความดีใจ
“ เก่งมากลูกข้า.. “
“ ครับ.. ท่านพ่อ “
“ เอ้า..เร็วเข้าเร็ว เดี๋ยวต้องทำพิธีต่อ “
มินาโตะตบบ่าลูกชายอย่างให้กำลังใจก่อนจะเดินออกไปจากตรงนี้พร้อมกับคนรักของตนเพื่อไปเตรียมตัวทำพิธี นารูโตะหันไปมองผู้เป็นพี่ที่ได้แต่ยืนดูสัตว์อสูรของเขาในกรง
“ นารูโตะน้องข้า... นี่เจ้าจับอสูรตัวนี้ได้เหรอ ? “
“ อืม.. แต่ข้าเกือบทำเค้าตาย “
“ เค้าช่างสวยอะไรแบบนี้ “ มือเรียวเอื้อมมือไปจับกรงแล้วชมความงามของร่างอสูรตรงหน้าอย่างชื่นชมทำให้ผู้เป็นน้องต้องเดินเข้ามาดูบ้าง
ดวงตากลมเบิกกว้างเพราะไม่เคยเห็นสัตว์อสูรตนไหนสวยเท่านี้มาก่อน อาจจะเป็นเพราะความมืดตอนที่อยู่ในป่าทำให้เขาไม่ทันได้เห็นใบหน้าเรียวรับกับผมสีรัตติกาลได้อย่างลงตัว คิ้วสวยที่เหยียดตึงกับสันจมูกโด่งเด่นเป็นสง่า ดวงตาที่มีแพขนตายาวกำลังหลับพริ้มแล้วไหนจะเรียวปากหยักบางได้รูป ร่างกายแข็งแกร่งดูกำยำเกิดแสงประกายสวยราวกับเพชรดั่งต้องแสงจันทร์ ยิ่งเฉพาะลวดลายสีดำที่มันส่องประกายเงินคดโค้งไปมาบนตัวเขาเพราะเวทย์ที่ยิ่งใส่ทำให้ร่างกายของร่างสูงงดงามอย่างไม่มีที่ติจนทำให้หัวใจดวงน้อยๆของเขาเริ่มสั่นไหว
หากแต่ดวงตากลมกลับมองเห็นบาดแผลเล็กๆตามร่างกายที่เกิดจากลวดหนามไม่ยอมหายไปทำให้ปากอิ่มปลดพันธนาการเวทย์ให้กรงใหญ่หายไป ขายาวเดินเข้าไปหาร่างสูงที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นแล้วใช้แขนพยุงตัวร่างคนหมดสติขึ้นมาอยู่ในอ้อมอก ฝ่ามือนิ่มสัมผัสเข้าที่แก้มเรียวอย่างเบามือด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับดวงตากลมที่แฝงไปด้วยความรู้สึกผิด
“ ข้าขอโทษ... “
T A L K
ขอกรี๊ดสลบ อีน้องเกะสวยไปละป่าวววว ฉันหลง >////< (เรื่องนี้เมะเค้าสวยอ่ะตัว -.,-)
กรี๊ดดดกร๊าดดดดดดดดดดดดด โดนเขมือบก็ยอมงานนี้ฮ่าๆๆ แต่เขมือบน้องโตะดีกว่าเน๊อะๆ -.,-
อ่านแล้วมีมึนๆงงๆ ก็บอกนะคะจะปรับแก้ให้
เจอกันตอนหน้าจ้ะ J
ความคิดเห็น