คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 7
Baekhyun Part
ปึก!
ผมทิ้งตัวนั่งแรงๆบนโซฟาหลังจากที่กลับมาถึงหอพักแล้วก่อนจะยกมือเสยผมด้วยความหงุดหงิด คนอื่นๆก็ค่อยๆเดินตามมานั่งสมทบ
“แกพูดอะไรกับ(ชื่อของคุณ)หลังจากที่นายไล่พวกฉันไปวะ” ชานยอลถาม
“ก็บอกให้ไปขอโทษแทยอนนูน่ะสิ ผู้หญิงอะไรดื้อด้านชะมัด น่ารำคาญ!”
“แล้วเธอจะไปขอโทษเหรอวะ ดูอีโก้จัดขนาดนั้น”
“ก็ไม่รู้…แต่ฉันบอกไปแล้วว่าถ้าไม่ไป ยัยนั่นโดนเล่นแน่!”
ผมพูดเสียงจริงจัง ระหว่างนั้นซูโฮฮยองก็เดินเข้ามาพอดี
“พวกนายหิวมั้ย ถ้าหิวฉันจะได้ลองไปซื้อของข้างล่าง ตู้เย็นไม่มีอะไรเลย มีแต่พวกเครื่องดื่มเนี่ย”
ซูโฮฮยองบ่น แต่ไม่มีใครตอบคำถาม บรรยากาศเงียบอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน… ก็ฮยองยังมี’คดีติดตัว’อยู่น่ะสิ
“ฮยอง…ผมว่าเราต้องมีเรื่องเคลียร์กันหน่อยนะ” ผมพูดเสียงเข้ม ซูโฮฮยองชะงักไปนิดนึง
“ว่ามาสิ อยากให้ฉันตอบอะไร”
“ก็เรื่องที่ฮยองปกป้อง(ชื่อของคุณ)! ฮยองจะปกป้องไปทำไม (ชื่อของคุณ)เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจมากที่สุดในชีวิตที่ผมเคยพบ เธอทำร้ายแทยอนนูนานะ! พี่สาวของตัวเอง!!”
เซฮุนตะโกนออกมา เหอะ…มันคงจะโกรธที่ซูโฮฮยองตะคอกใส่มันสินะ
“ฉันมีเหตุผลของฉัน…เหตุผลที่พวกนายไม่ควรรู้ในตอนนี้ แต่เชื่อเถอะ…สักวันพวกนายจะได้รู้…และนั่นจะเป็นวันที่พวกนายเสียใจที่สุด”ซูโฮฮยองพูดเสียงเรียบๆ แต่ทุกคนก็นิ่งไปกับคำพูดนั้นเหมือนกัน
“เหตุผลอะไรล่ะฮยอง…เหตุผลอะไรที่จะทำให้พวกผมเสียใจ”
“ตอนที่ฉันบอกนายหน้าห้องน้ำ…คำพูดพวกนั้นยังจำได้ใช่มั้ย”
ฮยองถาม ผมนึกย้อนไปถึงวันนั้น คำพูดที่ฮยองพูดไว้…
‘…ฉันไม่ชอบคนที่ใช้’อารมณ์’เป็นตัวตัดสินและคนที่ไม่ถามอะไรให้เข้าใจก่อนแล้วผลุนผลันคิดไปเองคนเดียว…’
“อ๋อ ฮยองไม่ชอบคนใช้อารมณ์แล้วยังไง เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ
“เกี่ยวสิ…มันเกี่ยวมากเลย ในเมื่อพวกนายทุกคนกำลังตาบอด พวกนายชอบหรือรักแทยอนนูนาแล้วยังไง แต่เพราะแค่ความรู้สึกที่พวกนายมีให้แทยอนนูนา…มันก็ไม่ได้หมายความว่านูนาไม่เป็นคนผิด ไม่ได้หมายความว่านูนาทำอะไรก็ไม่ผิด และไม่ได้หมายความว่านูนาไม่ใช่คนไม่ดีอย่างนั้นหรอกนะ!
พวกนายหัดใช้เหตุผลซะบ้าง! การที่พวกนายทำอย่างนั้นมันไม่ยุติธรรม เข้าใจมั้ย! โดยเฉพาะแก แบคฮยอน! ฉันรู้ว่าแกรักนูนา แต่หัดใช้สมองที่มีซะบ้าง เลิกตาบอดมองนูนาเป็นคนดีสักทีสิ!”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ผมกำมือแน่นก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าฮยองต้องการจะสื่อ จะทำอะไรกันแน่ แต่ขอให้รู้ไว้เลยว่าฮยองทำผมผิดหวังมากจริงๆ”
“ฉันก็ผิดหวังในตัวพวกนายเหมือนกัน…”
ซูโฮฮยองพูด ก่อนจะเดินออกไปนอกห้อง ทิ้งพวกผมไว้ในห้อง คำถามในหัวผมผุดขึ้นมา…
‘นี่…ระหว่างพวกเรากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่…’
Baekhyun End Part
Suho Part
“ผมไม่รู้จริงๆครับว่า(ชื่อของคุณ)คิดจะทำอะไร แต่ผมกลัวว่าเธอจะทำอะไรบู่มบ่าม”ผมบอกอย่างกังวลให้ยูรินูนาฟัง
[บางที(ชื่อของคุณ)อาจจะมาหาแทยอนก้ได้ แต่นายไม่ต้องห่วงนะ นูนากับสิก้าจะดูให้ ถ้ามีอะไรจะโทรไปบอกอีกทีนะ]
“แล้วผมควรจะทำอะไรล่ะ…จะกลับไปที่หอก็ไม่ได้ เพิ่งทะเลาะกันมา ดีนะที่พรุ่งนี้กับมะรืนเป็นวันหยุด ไม่งั้นคงอึดอัดตายเลย”
[ก็ไปทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ…นูนารู้ว่านายมีอะไรที่อยากทำเยอะแต่ไม่มีเวลาใช่ม้า :D]
ผมเผลอยิ้มออกมากับคำพูดของยูรินูนา ก่อนจะบอกลาแล้วกดวางสายไป…
อา…บางทีถ้าจบเรื่องนี้แล้ว… ผมอาจจะจีบยูรินูนาก็ได้นะ ^^
Suho End Part
You Part
คุณรู้มั้ยว่าฉันกับแทมินยืนอยู่ไหน…
จะว่าไปอาจจะไม่รู้ก็ได้นะ เพราะสถานที่ที่ฉันยืนอยู่มันไม่ควรแม้แต่จะย่างกรายเข้าเลยล่ะ
ใช่แล้ว…มันคือ หอพักของSNSDยังไงล่ะ
----------------------------------ต่อ----------------------------------
“ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย…”
ฉันพูดพร้อมเงยหน้าขึ้นไปมองหอ อ่า…นี่มันน่าสนุกจริงๆนะ
“โห…หอพักของเกิร์ลกรุ๊ปอันดับหนึ่งของเกาหลีทั้งทีนี่นา จะให้เล็กๆก็ไม่ได้ป่ะ SMน่ะดูแลนักร้องในค่ายดีจะตาย” แทมินพูด
“ย่ะ รู้แล้ว เพื่อนนายก็เป็นนักร้องในค่ายนั้นเหมือนกันนี่”
“เออน่า”
แทมินพูดเสียงเซ็งๆ ฉันรู้ว่าตอนนี้แทมินไม่ได้ติดต่อกับไคแล้ว เพราะทะเลาะกัน ถ้าถามว่าเรื่องอะไร…แน่นอนว่าเรื่องฉันกับแทยอนเนี่ยแหละ แต่ในอีกเหตุผลตือแทมินไม่อยากมีเพื่อนโง่ๆไง
“ตกลงที่(ชื่อของคุณ)เข้าไปเนี่ย จะไปทำอะไรกันแน่”
“ก็ไปกวนนิดหน่อย…แค่พอให้ยัยนั่นปวดหัวเล่น แล้วก็ไป’ขอโทษ’ตามที่แบคอยอนบอกไง”
แทมินขมวดคิ้วนิดหน่อยก่อนจะถามว่า
“นี่เธอจะไปขอโทษตามที่ไอ้บ้านั่นบอกจริงๆอ่ะ เอาจริงดิ?”
ฉันไม่พูดอะไรแต่ยิ้มตอบกลับไป แค่นั้นแทมินก็รู้แล้วล่ะ เรารู้ใจกันไง :D
“งั้นก็ระวังตัวด้วยละกัน มีอะไรก็โทรมานะ ถ้าจะกลับก็โทรด้วย เดี๋ยวฉันจะมารับ”
“จ้า บายนะแทมินอา”
ฉันโบกมือให้แทมินอาก่อนจะเดินเข้าไปในหอ พอหันกลับไปอีกทีแทมินก็ไม่อยู่แล้ว
เพื่อนใครเนี่ย -_-
“มาติดต่อใครครับ”
โอ๊ยย ยามนี่น่ารำคาญจริงจัง ก็เข้าใจนะว่านี่มันเป็นหน้าที่ แต่นี่มันเรื่องครอบครัวนะคะลุง -_-
“ขอเข้าพบคุณคิม แทยอนค่ะ”
“คุณแทยอนไม่อยู่นะครับ”
ทำไมไม่อยู่ล่ะ แต่ช่างเถอะ ‘เป้าหมาย’จริงๆของฉันไม่ได้มาเพื่อเจอแทยอนนี่
“อ๋อ งั้นฉันขอขึ้นไปรอบนห้องพักได้มั้ยคะ”
“เอ่อ…ผมต้องโทรขออนุญาตจากคนที่พักอยู่ในห้องพักก่อนนะครับ”
“งั้นเชิญเลยค่ะ”
อย่างงว่าทำไมฉันถึงกล้าให้ยามโทรขึ้นไป ก็ซูโฮเคยบอกว่ายูริกับเจสสิก้าเป็นคนที่คอยช่วยฉันนี่นา อย่างนั้นพวกเค้าก็ต้องให้ฉันขึ้นไปอยู่แล้ว
You End Part
“ยอโบเซโย เจสสิก้าพูดค่ะ”
[ขอโทษที่มารบกวนนะครับคุณเจสสิก้า แต่มีคนมาขอเข้าพบครับ]
เจสสิก้าขมวดคิ้วนิดหน่อย แล้วพูดว่า
“ใครเหรอคะ”
[คุณชื่ออะไรครับ….(ชื่อของคุณ)ครับ คนที่ขอเข้าพบชื่อว่า(ชื่อของคุณ)ครับ]
เจสสิก้ายืนนิ่งด้วยความตกใจก่อนจะหันไปหายูริที่อยู่ดูทีวีข้างๆ
“ยูริ…(ชื่อของคุณ)มา!”
“ว่าไงนะออนนี!” ยูริผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ แล้วเดินมาหยิบโทรศัพท์ไปคุยเอง
“เดี๋ยวฉันลงไปเองค่ะ”
[ครับๆ งั้นผมขอวางสายนะครับ]
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
หลังจากวางสายไป เจสสิก้าก็ทำหน้าเครียด
“นี่(ชื่อของคุณ)มาทำไมนะ ดีนะที่แทยอนไม่อยู่”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันออนนี แต่ยังไงซะฉันจะลงไปรับ(ชื่อของคุณ)มาก่อนนะ ออนนีช่วยเตรียมน้ำมาให้หน่อยนะ ดีนะที่เหลือแค่พวกเราสองคน”
“อืม…”
“อา…ฉันชื่อ(ชื่อของคุณ)นะคะ”
คุณพูดหลังจากขึ้นมาอยู่บนห้องเรียบร้อยแล้ว ยูริและเจสสิก้ายิ้มให้พร้อมกับพูดอย่างเป็นกันเอง
“จ้ะ ฉันชื่อเจสสิก้า ส่วนนี่คือยูริ ว่าแต่(ชื่อของคุณ)อายุเท่าไหร่น่ะ”
“ฉัน…อายุยี่สิบค่ะ”
ยูริถึงกับอุทานออกมาอย่างตกใจ นี่แสดงว่าคุณโดนทำร้ายมาตั้งแต่เด็กๆเลยนะ!
“งั้นพวกฉันก็เป็นพี่เธอนะ เรียกฉันว่าออนนีละกัน”
ยูริยิ้มออกมาอย่างจริงใจ…จนคุณต้องยิ้มตามเพราะมันสดใสมากๆเลย เจสสิก้าเอื้อมมือไปลูบหัวคุณเบาๆ
“ยิ้มแล้วก็สวยดีนี่ น่ารักด้วย วันหลังยิ้มบ่อยๆนะ”
หลังจากพูดคุยกันจนคุณเริ่มสนิทกับเจสสิก้าและยูริ พวกคุณก็ตกลงกันว่าจะให้เจสสิก้าและยูริแทนตัวเองว่าออนนี ส่วนคุณก็แทนตัวเองว่า’ฉัน’เหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ไม่ต้องมีคะมีขา จะได้ดูสนิทกัน แต่จู่ๆยูริก็ถามคำถามนึงออกมาทำให้คุณถึงกับชะงัก
“ออนนีอยากถามอะไรเธอหน่อย รู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ออนนีก้อยากรู้ เผื่อจะช่วยอะไรเธอได้”
“เรื่องอะไรล่ะออนนี”
“ก็เรื่องเธอกับแทยอนไง”
คุณเงียบไปเลย เจสสิก้าเอื้อมมือมากุมมือคุณไว้เป็นเชิงว่า’ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร’แต่คุณยิ้มให้ก่อนจะพูดอย่างหนักแน่น…
“เรื่องมันมีอยู่ว่า…
หลังจากคุณเล่าจบ เจสสิก้าถึงกับร้องไห้ ส่วนยูริก็กำมือแน่น ส่วนคุณน่ะเหรอ แน่นอนว่าก็ต้องร้องไห้เหมือนกัน มือของคุณและเจสสิก้ายังจับกันไม่ปล่อย ยูริเข้ามากอดคุณพร้อมกับพูดว่า “ไม่เป็นไร…ไม่เป็นไร…”
“ฮึก…ฉันมีอะไรอยากจะขอออนนีค่ะ”
“มีอะไรเหรอ(ชื่อของคุณ)”
“ฉัน…อยากจะขอเข้าไปในห้องของแทยอนค่ะ”
เจสสิก้ามองคุณอย่างตกใจ ยูริก็เบิกตาโพลงเช่นกัน
“(ชื่อของคุณ)จะเข้าไปทำไมกัน”
“ฉันจะเข้าไปดูว่าแทยอนมีอะไรเก็บไว้ใช้เล่นงานฉันมั้งน่ะค่ะ”
ยูริมองเจสสิก้าอย่างปรึกษา ก่อนจะตัดสินใจ…
“ก็ได้…แต่อย่าทำอะไรให้มันผิดปกตินะ(ชื่อของคุณ)”
ยูริพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม คุณยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวขอบคุณเป็นพันครั้ง…
ตอนนี้คุณเข้ามาอยู่ในห้องของแทยอนแล้ว เป็นโชคดีของคุณที่ว่าแทยอนไม่ได้ล๊อคประตูไว้ คุณมองเข้าไปรอบๆห้องก่อนจะเริ่มสำรวจดูที่ต่างๆ คุณเริ่มเปิดดูตั้งแต่ตู้เสื้อผ้า ลิ้นชักต่างๆ โต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะเดินมาเจอกับตู้หนังสือเล็กๆ
“อะไรเนี่ย…หนังสือวรรณกรรม หนังสือคู่มือทำอาหาร หึ! อ่านอะไรไม่เข้ากับเธอเลยนะแทยอน”
คุณพลิกหนังสือดูไปเรื่อยๆ แต่ก็ต้องสะดุดตากับหนังสือเก่าๆเล่มหนึ่ง หน้าปกเขียนด้วยลายมือตวัดๆของแทยอนว่า ‘ไดอารี่ของฉัน’ คุณเห็นว่ามันน่าสนใจดีจึงเก็บใส่กระเป๋าที่พกมาแล้วจัดชั้นหนังสือให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย
คุณเดินไปที่ชั้นวางทีวีซึ่งมีชั้นด้านใต้ไว้ใส่ซีดีต่างๆ คุณลงไปนั่งกับพื้นแล้วไล่ดูไปเรื่อยๆ แต่มีอันนึงที่แปลกกว่าเพื่อน เพราะอันอื่นๆดูจะมาจากตามร้านค้าทั้งนั้น มีแค่อันนี้ที่ดูแล้วน่าจะทำเอง เพราะแค่ใส่กล่องเปล่าไว้เฉยๆ
คุณหยิบแผ่นขึ้นมาแล้วใส่ไปในเครื่องเล่นซีดี ภาพที่เห็นเป็นเหมือนคนกำลังถือกล้องเดินไปที่ไหนซักทีในตอนที่ฟ้าเริ่มมืด น่าจะประมาณหกโมงใกล้จะหนึ่งทุ่ม มีเสียงพูดคุยกัน เสียงนึงน่าจะเป็นของแทยอน อีกเสียงคุณไม่รู้แต่ก็คุ้นๆอยู่
[ออนนี จะมาทำไมเนี่ย ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจัดการเรียบร้อยแล้วอ่ะ]
[เอาน่า ก็ฉันอยากเห็นกับตานี่นา]
[โอ๊ย! มันร้อนอ่ะออนนี ฉันไม่ชอบ]
[เลิกบ่นเถอะน่า ฉันรำคาญนะยุนอา]
คุณตกใจมากเพราะไม่รู้มาก่อนว่ายุนอาก็รู้จักแทยอนด้วย แต่คุณก็ตั้งสติใหม่ได้แล้วตั้งในดูวีดีโอต่อไป
ตอนนี้ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะเดินมาถึงที่หมายแล้ว มันดูเป็นโกดังร้างแห่งหนึ่งที่คุณเห็นแล้วคุ้นตามากๆ…
[เอานี่! ไหนล่ะผู้หญิงที่ฉันให้แกจับตัวมาน่ะ]
เสียงยุนอาพูดกับผู้ชายคนหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเป็นนักเลง มีรอยสักเต็มตัวเลย
[ได้มาแล้ว ใช่คนนี้ใช่มั้ย]
แล้วกล้องก็แพนไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังถูกปิดตาและโดนมัดอยู่บนเก้าอี้…
“พระเจ้า…นี่มันไม่จริงใช่มั้ย”
คุณร้องออกมา ความรู้สึกของคุณตอนนี้มันตีกันมั่วไปหมด มีทั้งเจ็บปวด โกรธและกลัว…
ใช่แล้ว! ผู้หญิงที่โดนมัดอยู่บนเก้าอี้…คือคุณนั่นเอง!
[พี่แทยอน! นั่นพี่ใช่มั้ย! พี่มาช่วยฉันใช่มั้ย!]
ภาพและเสียงของคุณที่กำลังร้องหาความช่วยเหลือจากแทยอนทำให้คุณร้องไห้ออกมาช้าๆ…
[ยัยโง่! ฉันจะมาช่วยแกทำไม ก็ฉันเป็นคนสั่งให้ไอ้พวกนี้จับตัวแกมาเองนี่!]
ปึก!
“(ชื่อของคุณ) แย่แล้วล่ะ! แทยอนกำลังจะมาแล้ว!!”
-------------------------------------ต่อค่ะ--------------------------------
ยูริเปิดประตูเข้ามาอย่างแรงแล้วก็ต้องตกใจเพราะเจอคุณที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้น! ยูริรีบวิ่งมาหาคุณแล้วตะโกนถาม
“เป็นอะไรน่ะ(ชื่อของคุณ) แล้วนี่มันอะไรกันน่ะ! เฮ้! ตอบหน่อยสิ เฮ้!”
ยูริหันไปมองบนทีวีก็ต้องตกใจ! ยูริหันไปมองคุณก่อนจะตัดสินใจกดแผ่นซีดีออกมาจากเครื่องเล่น คุณเงยหน้าขึ้นมองแล้วโผเข้ากอดยูริ
“ฮึก ออนนี…แทยอนถ่ายภาพพวกนั้นไว้! แทยอนอัดภาพนั้นไว้!”
“ไม่เป็นไร ใจเย็นๆนะ ตั้งสติก่อน! ตั้งสติ!” ยูริพยายามพูดให้คุณใจเย็นลงและลูบหัวคุณไปด้วย ซึ่งมันก็ได้ผล คุณเริ่มหยุดร้องไห้แล้วตั้งสติ
“โอเค ฟังออนนีนะ เมื่อกี้แทยอนโทรมาบอกว่ากำลังจะกลับมา (ชื่อของคุณ)ต้องรีบไปซ่อนนะ!”
คุณมองหน้ายูริอย่างชั่งใจ มือเรียวของคุณยกมือปาดน้ำตาที่อยู่บนหน้า แล้วพูดบางอย่างออกมา
“ไม่…ฉันจะไม่ไปซ่อน” ยูริมองหน้าคุณอย่างไม่เข้าใจ คุณจึงเอ่ยคำพูดที่ทำให้ยูริเข้าใจมากขึ้น
“ถ้าฉันซ่อน…มันจะทำให้ฉันแพ้ ถ้าเจอกับแบบตัวต่อตัวน่าจะดีกว่า…อย่างน้อยก็ให้แทยอนได้รู้…ว่าฉันกำลังจะ’แก้แค้น’…”
ยูริมองคุณอย่างอึ้งๆ พูดอะไรไม่ออก เจสสิก้าด้วยความเป็นห่วงทำให้เธอเดินเข้ามาก่อนจะพูดว่า
“ออนนีไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นนะ แทยอนเป็นคนเอาจริง ออนนีเป็นห่วงนะ(ชื่อของคุณ)”
“ใช่ๆ ออนนีก็เป็นห่วง ออนนีไม่อยากให้เธอเป็นอันตรายนะ”
ถึงจะเพิ่งเจอกันแต่เจสสิก้าและยูริก็รู้สึกเหมือนคุณเป็นน้องสาวของเธอ จึงทำให้เธอเป็นห่วงคุณมาก คุณมองหน้าทั้งสองคนด้วยความตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก แต่ยังไงซะการแก้แค้นมันก็จะต้องเกิดขึ้น!
“ฉันรู้และขอบคุณมากนะออนนี…แต่ฉันหยุดไม่ได้จริงๆ ฉันรู้ว่าแทยอนจะต้องกรรมตามทันแน่ๆ แต่ฉันก็อยากจะทำให้แทยอนเจ็บปวดด้วยฝีมือของฉันเองบ้าง เหมือนที่แทยอนทำกับฉันไว้
ขอร้องล่ะออนนี ให้ฉันได้แก้แค้นเถอะนะ…”
ตอนสุดท้ายคุณพูดด้วยสีหน้าอ้อนวอน สุดท้ายยูริกับเจสสิก้าก็ยอมจนได้
“ก็ได้…แต่อย่าทำอะไรที่มันเกินตัวล่ะ”
“ขอบคุณมากนะออนนี ขอบคุณมากจริงๆ” คุณพูดด้วยสีหน้าดีใจเป็นอันมาก
“จ้ะๆ งั้นออนนีจะไปอยู่ในห้องนะ แล้วก็…ห้ามมีเรื่อง’เยอะ’เกินไปล่ะ เข้าใจ?”
“เข้าใจค่ะ งั้นออนนีเข้าห้องไปเลยนะ ล๊อคด้วย”
แล้วคุณก็ดันออนนีออกไปจากห้องก่อนจะหันกลับมาดูห้องของแทยอนอีกครั้ง ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยหมดยกเว้นหน้าทีวี…
คุณเก็บซีดีเข้าชั้นทีละอันแล้วมาหยุดที่แผ่นซีดีอันนั้น คือแผ่นซีดีที่ทำให้คุณ’ช๊อค’นั่นแหละ คุณตัดสินใจหยิบมันเก็บเข้ากระเป๋า แต่ระหว่างนั้นคุณเหลือบไปเห็นกล่องซีดีที่เปล่าๆวางกองเป็นตั้งๆ ข้างๆกันมีกล่องใส่แผ่นซีดีที่ยังไม่ได้ใช้วางอยู่ คุณจึงตัดสินใจหยิบมาอย่างละอันแล้วนำไปใส่ไว้ในชั้นเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต
คุณเดินออกมาจากห้องของแทยอนหลังจากตรวจดูความเรียบร้อยในห้องเพื่อไม่ให้แทยอนไม่รู้ว่าคุณเข้าไป คุณเดินออกมานั่งที่โซฟารอแทยอน จากนั้นคุณก็ได้ยินเสียงไขกุญแจก่อนจะได้ยินเสียงเปิดประตู
“นี่! ทำไมถึงไม่มาปลดล๊อคทั้งที่รู้ว่าฉันจะมาล่ะ ให้ตายสิ! เอ๊ะ! ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่…”
แทยอนตกใจมากที่เห็นคุณนั่งอยู่บนโซฟาในหอพักของSNSD! คุณลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มร้ายใส่แทยอน
“สวัสดี…’พี่สาว’…”
Taeyeon Part
นี่มันอะไรกัน! ทำไม(ชื่อของคุณ)ถึงเข้ามาในนี้ได้ล่ะ! ฉันขมวดคิ้วแล้วถามอย่างโมโห
“เธอเข้ามาในนี้ได้ยังไงฮะ! แล้วนี่ยูริกับเจสสิก้าไปไหน! ยัยสองคนนั้นให้เธอเข้ามาใช่มั้ย ยัยพวกบ้าเอ๊ย!!”
ฉันตะโกนด่ายูริกับซอฮยอน แต่ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ! ประเด็นมันอยู่ตรงที่(ชื่อของคุณ)มาที่นี่ทำไม!
“ถ้าอยากรู้ว่าฉันเข้ามาทำไม ก็โทรถามแบคฮยอนของเธอสิ…หรือไม่กล้า?” (ชื่อของคุณ)ยกยิ้มท้าทายฉัน ฉันขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดแล้วหยิบโทรศัพท์กดโทรหาแบคฮยอน
[ยอโบเซโย นูนาโทรมามีอะไรครับ]
“อ๋อ…คือวันนี้(ชื่อของคุณ)มาที่นี่น่ะ แล้วก็บอกว่าแบคฮยอนให้เธอมา นูนาก็เลยโทรมาถามน่ะ” ฉันเปลี่ยนเสียงเป็นเสียงอ่อนโยนทันที
[ผมให้ยัยนั่นไปขอโทษนูนาน่ะครับ แล้วนี่ยัยนั่นยังอยู่มั้ยครับ ถ้าอยู่ผมขอคุยด้วยหน่อยสิครับ] แบคฮยอนขอคุยกับ(ชื่อของคุณ)งั้นเหรอ มีอะไรน่ะ?
“ได้จ้ะๆ”
ฉันยอมให้แบคฮยอนคุยกับ(ชื่อของคุณ) แต่ใช่ว่าจะให้คุยกันสองคนนี่ ฉันกดปุ่มสปีคเกอร์แล้วใช้มือปิดหูโทรศัพท์ก่อนจะเดินไปหา(ชื่อของคุณ)แล้วกระซิบเบาๆ
“อย่าบอกแบคฮยอนล่ะว่าฉันเปิดสปีคเกอร์ ไม่งั้นเธอตายแน่!”
ฉันขู่แล้วส่งโทรศัพท์ให้ (ชื่อของคุณ)รับไปก่อนจะพูด
“หวัดดี คิดถึงฉันรึไงถึงจะคุยด้วยน่ะ”
[หุบปากไปเหอะ! ฟังนะ…เธอแค่ไปขอโทษนูนาก็พอ แต่อย่าให้มีเรื่อง! ไม่งั้นฉันตามไปเล่นงานเธอแน่!]
แบคฮยอนพูดจบ (ชื่อของคุณ)ก็กลอกตาไปมาแล้วกดวางสายจากนั้นก็กดปิดเครื่องทันที
“อะไร…หงุดหงิดเหรอที่แบคฮยอนพูดอย่างนั้นน่ะ…”
“เปล่า แค่มันน่ารำคาญ” (ชื่อของคุณ)ตอบ
“งั้นก็ขอโทษมาสิ แบคฮยอนให้เธอมาขอโทษฉันนี่”
ฉันบอก (ชื่อของคุณ)ยิ้มน้อยๆ
“ขอโทษละกัน…ที่ไม่ได้มาเพื่อขอโทษเธอตามที่แบคฮยอนบอกนะ” (ชื่อของคุณ)เลิกคิ้วใส่ ฉันกำมือแน่น…
“นี่มันจะมากไปแล้วนะ! สำนึกซะบ้างว่าเธอยืนอยู่ที่ไหน! แล้วเธอโตได้เพราะใครกัน!” ฉันตะโกนด่า (ชื่อของคุณ)มองฉันนิ่ง
“ฉันยืนอยู่ที่หอพักของSNSD…และที่ฉันโตมาได้เพราะตัวฉันเอง คนที่ทำร้ายฉัน…ฉันไม่นับหรอกนะ”
“อย่ามาทำตัวอย่างนี้กับฉัน! ถ้าจำได้ว่าฉันทำร้ายเธอ…เธอก็น่าจะคิดได้นี่ว่าไม่ควรจะทำอย่างนี้กับฉัน หรืออยากโดนอีกฮะ! ‘จัดหนัก’เลยมั้ยคราวนี้! เอาให้เธอสติแตกไปเลยดีมั้ย!”
เพียะ!
ฉันหันขวับกลับไปมอง(ชื่อของคุณ) ยัยนี่ตบฉันและยืนมองฉันด้วยสายตาท้าทาย
เพียะ! เพียะ!
ฉันกระชากหัวของ(ชื่อของคุณ)มองแล้วตบหน้าไปสองที! หึ! ยัยนี่ตบฉันไปทีนึง ฉันก็ต้องตบคืนให้เจ็บมากกว่าอยู่แล้ว! ตามคติที่ฉันยึดไว้ว่า’ใครทำฉันเจ็บ มันต้องเจ็บมากกว่า’ยังไงล่ะ!
(ชื่อของคุณ)คว้ามือฉันไว้แล้วผลักฉันลงไปกับพื้น ตอนแรกฉันนึกยัยนี่จะมาตบฉันต่อ แต่กลับไม่ทำ (ชื่อของคุณ)เดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินไปที่หน้าประตู
“วันนี้พอแค่นี้ละกัน ฉันรู้ว่าเธอคงคิดว่าตกลงฉันมาทำอะไรที่นี่ จะบอกให้ว่าฉันมาเพื่อ’ประกาศศึก’กับเธอยังไงล่ะ! อ๋อ! แล้วก็จะไปบอกแบคฮยอนว่าอะไรก็ช่าง แต่อย่าไปสะเออะทำตัวเยอะกับยูริกับเจสสิก้าล่ะ ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน!”
ปึง!
แล้ว(ชื่อของคุณ)ก็ปิดประตูด้วยเสียงดังสนั่น แต่เหอะ…ยัยนั่นบอกว่าอย่าสะเออะทำตัวเยอะงั้นเหรอ แต่ได้ข่าวว่าฉันยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรเลยนะ เพราะงั้นถือว่าฉันไม่ได้ตอบตกลงก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นฉันก็ไปทำตัวเยอะกับยัยพวกนั้นไงล่ะ
ฉันเดินไปหน้าห้องของยูริกับเจสสิก้า(ให้สมมุติว่าสองคนนี้เป็นรูมเมทกันนะคะ : ไรท์)แล้วเคาะประตูแรงๆรัวๆ แต่ประตูก็ไม่มีวี่แววที่จะขยับเลยสักนิดเดียว แต่ฉันไม่แคร์หรอกนะ ใช่ว่าฉันจะด่าไม่ได้นี่!
“ไม่เปิดก็ไม่เป็นไร! ฉันจะด่าตรงนี้ก็ได้! พวกเธอเป็นบ้าหรือไงฮะ! ว่างมากขนาดมายุ่งเรื่องชาวบ้านเลยรึไง! ถ้าว่างมากก็ไปหาความรู้มายัดใส่หัวบ้าง! ให้ตายสิ ฉันอยากจะบ้าตาย! พวกเธอนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ!”
ปึง!
“ช่างหัวพวกฉันเถอะน่า! แล้วเธอล่ะแทยอน เป็นลีดเดอร์งั้นเหรอ! น่าขำชะมัด นี่อ่ะนะนิสัยของเธอ ไม่เหมาะเลยจริงๆ แล้วก็นะ ลีดเดอร์ที่ดีเค้าไม่มาด่าลูกน้องอย่างนี้หรอกนะ!”
ยูริเปิดประตูมาด่าฉันกลับ ข้างๆมีเจสสิก้ายืนจับแขนอยู่ ฉันเหยียดยิ้มออกมา
“ก็แล้วเธอจะทำไมยูริ ฉันเป็นลีดเดอร์ ฉันมีสิทธิจะทำทุกอย่าง ทำอะไรก็ได้! ถ้าเธอมีปัญหามากนักก็ออกจากวงไปซะ!” ฉันพูด สายตาของยูริมองฉันราวกับจะฆ่าฉันให้ได้
“พอได้แล้วนะ แทยอน…ฉันรู้ว่าเธอเป็นลีดเดอร์ จะทำอะไรก็ได้ แต่ขอร้อง…ช่วยเห็นว่าการทำงานเป็นสิ่งสำคัญได้มั้ย คิดบ้างนะว่าถ้าพวกเธอตบกัน…ก็จะมีแผลที่หน้านะ เวลาไปขึ้นไลฟ์มันก็จะเห็น แล้วก็จะกลายเป็นประเด็นขึ้นมา…
อ๋อ…แล้วก็นะ ถ้ามีใครออกจากวงไป มันก็จะไม่เรียกว่าSNSD ถ้ามีไม่ครบเก้าคน มันก็จะไม่ใช่วงSNSDอย่างเด็ดขาด…ช่วยมองเห็นความสำคัญของจุดนี้หน่อยนะ”
เจสสิก้าพูดเสียงเย็นชา สมกับฉายา’เจ้าหญิงน้ำแข็ง’ที่ได้รับ แล้วพายูริกลับเข้าห้อง ทิ้งฉันให้อยู่หน้าห้อง
ก็ได้…เจสสิก้า ฉันยอมครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย…เพราะถ้ามีอีก ฉันจะไม่ไว้หน้าใครแน่นอน ต่อให้เป็นเธอก็ตาม!
Taeyeon End Part
16/03/2557
เที่ยงคืนสิบนาที…กลับมาแบบเต็มสักที…
เป็นยังไงกันบ้างจ๊ะ! สนุกมั้ยเอ่ย นี่มันตั้ง17หน้าwordเลยนะ! ไม่เคยแต่งบทไหนยาวขนาดนี้มาก่อน! แทยอนแบบ…ไม่รู้จะพูดยังไงอ่ะ (ชื่อของคุณ)ก็ตอกกลับเก่งนะ ไรท์ชอบประโยคที่ว่า อย่าสะเออะทำตัวเยอะ มากๆๆๆ มันเจ๋งดี ความเห็นส่วนตัวนะ เจสสิก้าพูดแบบสุดยอดมากเลย!
ปล.พรุ่งนี้ไรท์จะมาแก้คำผิดตอนนี้นะจ๊ะ ถ้ามันขึ้นก็อย่าได้งงไป
13/03/2557
ขอโทษนะรีดที่ไม่จบ ตอนแรกไรท์ไม่คิดว่าจะยาวขนาดนี้ แต่ว่าจะมาลงจนจบให้นะ! สัญญาเลย!
12/03/2557
ค้างมั้ยจ๊ะรีดดดด โฮ่ๆๆ พอดีวันนี้ไรท์มีธุระนิดหน่อย เลยอัพได้แค่นี้ ขอโทษนะรีดที่รักของไรท์ ครึ่งหลังมันส์นะจ๊ะ เตรียมใจไว้เลย พี่แทแทแซ่บมาก ส่วนนางเอกก็แซบเวอร์ :D ต่อพรุ่งนี้ จบแน่นอน
ความคิดเห็น