ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ฟิคKHR/Reborn]TRICK OR TREAT~ แต่ว่าผมน่ะยังไงก็เลือกหลอกล่ะนะ~

    ลำดับตอนที่ #26 : ตอนพิเศษ : DEEP

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 181
      22
      14 ต.ค. 63

    “ว่ากันตามตรงก็น่าขนลุกนิดหน่อย...” ซีลอนกล่าวความรู้สึกของตัวเองออกไปตามตรง ไม่รู้นึกครึ้มอะไรวันนี้มุคุโร่ที่ว่างงานและเธอที่ไม่มีใบหมายหัวให้ไปเก็บใครมาทอดน่องเล่นอยู่ในควาเรี่ยม...

    “ก็น่าจะอย่างนั้นล่ะครับคุณเล่นกอดอกตั้งแต่เข้ามาเลยนี่” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ

    พวกเขาทั้งคู่ไม่ชอบน้ำ... และต่างรู้ความไม่ชอบนี้ของกันและกัน...

    แต่สถานที่เดตกลับเป็นอควาเรี่ยม ‘ใต้แทงก์น้ำ’ ขนาดใหญ่...

    “คิดจะเล่นอะไรของนายกันแน่เนี่ย...” นักฆ่าขมวดคิ้วมองไปรอบ ๆ ที่มีลูกค้ามากมายมาใช้บริการในสถานที่ที่ถูกย้อมไปด้วยสีน้ำเงิน ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่นั่งอยู่ข้างตู้แมงกะพรุนใหญ่

    “แค่คิดว่าสถานที่แบบนี้เหมาะกับคุณไม่หยอกก็เท่านั้นเอง” สายหมอกแบมือออกข้างตัวแสดงท่าทีว่าไม่ได้มีแผนการอะไรซับซ้อน

    “ถูกย้อมด้วยสีของนายน่ะเหรอ?” เธอกระตุกยิ้มเยาะอย่างรู้ทัน น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีแสงสีเงินให้เอาคืนเสียด้วยสิ

    มุคุโร่ไม่ตอบแค่หัวเราะด้วยน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ก่อนจะลุกขึ้นแล้วยื่นมือให้

    “งั้นไปกันต่อไหมครับ ปลายทางเดินอุโมงค์จะมีร้านอาหารอยู่ เห็นรีวิวเขาบอกว่าโกโก้ร้อนเข้มข้นถูกใจคนชอบช็อกโกแลตมากด้วย” ชายหนุ่มกุมมือของหญิงสาวที่ส่งมาให้เขาแล้วจับจูงพากันเดินลอดอุโมงค์ยาวที่เจาะผ่านแทงก์ตู้ปลาทะเลในแนวปะการัง สองข้างทางของพวกเขาถูกย้อมด้วยสีของมหาสมุทรประกอบไปด้วยกลุ่มซีแอนนิโมนี่หลากสี และปลาการ์ตูนที่ว่ายเข้าออกบ้านของพวกมัน

    ร่างกายของนักฆ่าเป็นไปเองโดยไม่รู้ตัวเธอเดินช้าลงและชิดกับมุคุโร่มากขึ้น ไม่บ่อยนักที่เงาหลังเก้าอี้ผู้นั้นจะแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นเว้นแต่เธอจะตัดสินใจแล้วว่าเป็นผู้ที่เธอให้ความไว้วางใจจริง ๆ

    สายหมอกหนุ่มอมยิ้มและพาเธอเดินต่อไปในอุโมงค์ทอดยาว นักฆ่ามุ่นคิ้วอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่ รู้ว่าโครงสร้างของอควาเรี่ยมนั้นถูกออกแบบโดยวิศวกรที่ชำนาญการและเชี่ยวชาญการจัดการกับสิ่งก่อสร้างใต้น้ำเป็นอย่างดีแต่ความกลัวก็คือความกลัว

    เหมือนกับการกลัวแมลงอะไรสักอย่างที่รู้ว่าห่างออกมามันจะทำอะไรเราไม่ถึง และอยากมากก็คงแค่เกาะหรือไต่ แต่ความกลัวต่อสิ่งนั้นก็ไม่เปลี่ยนแปลงทั้งที่ทำความเข้าใจกับมันได้แล้วก็ตาม

    “ก็ยังไม่ชอบอยู่ดีนั่นแหละ” ซีลอนพ่นลมหายใจออก

    “แต่เห็นชอบไปทะเลนี่ครับ ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่อควาเรี่ยมนี่ไม่โอเค?” มุคุโร่ลูบคางเหล่มองหญิงสาวเล็กน้อย

    “ไม่เหมือนกัน” เธอตอบในทันที

    “ตรงไหนเหรอครับ?” มุคุโร่แกล้งถามทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว

    “เพราะว่าเที่ยวทะเลไม่ได้หมายความว่าต้องลงน้ำหรือไปอยู่ใต้น้ำไงเจ้าบ้า” นักฆ่ากดเสียงต่ำตอบอย่างหงุดหงิด

    “โครงสร้างที่นี่ถูกออกแบบโดยวิศวกรชั้นเลิศเลยนะครับ” มุคุโร่สังเกตว่าซีลอนไม่ได้ใส่ใจกับภาพสองข้างทางเท่าไหร่ เหมือนอยากเดินไปให้สุดทางเร็ว ๆ มากกว่า

    “เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ...” เธอเถียงเขาอีกครั้ง

    “ผมไม่คิดว่าวันนี้จะมีใครตามเรามาหรือบังเอิญเกิดการจลาจลที่นี่หรอกนะครับ...” สายหมอกถอนหายใจพวกเขาเดินมาจนสุดทางเดินเบื้องหน้าของพวกเขาก็เป็นคาเฟ่ขนาดกลางซึ่งรายล้อมด้วยการตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใต้สมุทร พื้นเคลือบทรายละเอียด บนเพดานมีโคมไฟซึ่งครอบด้วยแก้วไร้ความสมมาตรสีน้ำเงินเขียวซึ่งทำให้เกิดแสงเป็นริ้วคล้ายลายที่แสงบนผิวน้ำสะท้อนลงมาก้นสมุทร

    “เมนูนี่อยางหวาน...” ซีลอนวิจารณ์เมื่อเห็นเมนูที่พนักงานนำมาให้หลังจากพวกเขาได้โต๊ะนั่งและจากไปเพื่อนำน้ำเปล่ามาเสิร์ฟ

    “ไม่ใช่ว่าปกติก็กินจะเบาหวานจะขึ้นตาอยู่แล้วรึยังไงครับ?” เขาแขวะอีกฝ่ายที่พอว่างก็จะไปซื้อขนมหวานมานั่งกินอยู่เสมอโดยเฉพาะช็อกโกแลต

    “ตามใจปากสไตล์อีลีทไง” ซีลอนยกตนข่มกลับอย่างไม่มีสะดุด

    “ใช้เงินมือเติบอย่างที่คุณอลอนโซ่ว่าบ่อย ๆ เดี๋ยวจะไม่เหลือไว้เสพสุขตอนแก่นะครับ” สายหมอกเอ่ยดุ ๆ

    “ไว้หาเงินมาเติมตลอด ๆ ก็ไม่มีปัญหาแล้ว ไม่อยากได้ยินคำนี้จากคนที่โปรยเงินให้พวกนักค้าข่าวกับนักฆ่ารับจ้างนอกแฟมิลี่นักหรอกนะ...” พวกเขาทั้งคู่เป็นคนมีเงิน มีมากด้วยและก็ใช้อย่างไม่คิดตระหนี่ถ้าผลของมันคุ้มค่า

    “ดูอารมณ์จะเย็นลงแล้วนะครับ...” มุคุโร่ยิ้มเล็กอน้อยเมื่ออีกฝ่ายเริ่มไม่ได้เกร็งเหมือนครั้งแรกที่เข้ามา

    นักฆ่าตวัดสายตามองอีกฝ่ายฉุน ๆ ก่อนจะสั่งเมนูของหวานและโกโก้ร้อนที่เป็นเมนูดังของร้าน พอพนักงานรับออเดอร์ของพวกเขาจนครบซีลอนถึงพูดต่อ “ตอนนี้ได้สติละว่าถ้าแทงก์แตกขึ้นมาแล้วฉันจะจมน้ำตายต้องไม่ลืมลากนายไปด้วยจะได้แก้แค้น”

    “น่าเสียดายที่แฟนของคุณว่ายน้ำเป็นแล้วก็ไม่คิดจะทิ้งคุณไว้น่ะนะ ไม่ยอมให้ลากไปตายด้วยหรอกครับ” เขาเริ่มประชดประชันเล็กน้อย

    “เหรอ เห็นชวนมาเดตที่อควาเรี่ยมนึกว่าจะมาโรลเพลย์คู่รักที่ฆ่าตัวตายด้วยกันซะอีก” เธอตอบกลับเสียงเนือย

    “เดี๋ยวเถอะ” เขาดุเสียงแข็ง

    “นายก็ไม่ชอบใต้น้ำยังจะมาที่นี่” ซีลอนเหล่มองคนต้นคิด

    “ถ้าทำให้มันกลายเป็นความรู้สึกเฉย ๆ ได้จะไม่ดีกับพวกเรามากกว่าหรือไงครับ” ผู้พิทักษ์สายหมอกยกมุมปากขึ้น

    “...” เธอไม่มีอะไรจะโต้เถียงกับเขาอีกเลยตั้งหน้าตั้งตากินของหวานโดยไม่ลืมจะแบ่งครึ่งหนึ่งให้กับเขา หลังจากวันนั้นที่ร้านคาเฟ่ช็อกโกแลตเขาก็ไปถามเอิร์ลเกรย์ว่าเธอติดนิสัยนี้มาเพราะฝาแฝดรึเปล่า

    คุณหมอพ่วงนักวิจัยผู้ชอบนั่งบนรถเข็นมากกว่าเดินด้วยสองขาก็ยิ้มแล้วส่ายหัว ‘ผมน่ะไม่ชอบช็อกโกแลตหรอกนะ แล้วก็ปกติแล้วไม่ใช่ซีลอนที่แบ่งให้ผมแต่เป็นผมที่แบ่งให้ซีลอนต่างหาก และแฝดที่น่ารักของผมเธอจะให้ผมทั้งหมดไม่ใช่ครึ่งหนึ่งน่ะ’ เอิร์ลเกรย์ยิ้มแย้มสดใส ระรื่นที่ได้เกทับใครบางคนที่ค่อย ๆ หารเอาเวลาที่ใช้ร่วมกับฝาแฝดไปจากเขา

    “อันนี้อร่อยแฮะ น่าจะถูกปากนายที่ชอบลิ้นจี่” ซีลอนใช้ส้อมชี้ไปยังซอสผลไม้บนแป้งวาฟเฟิล

    เขาจะถือซะว่ามันเป็นนิสัยใหม่ที่เกิดขึ้นเพื่อเขาคนเดียวแล้วกันนะ...

    ทั้งคู่ค่อย ๆ ผ่อนคลายกับวันหยุดภายในร้านคาเฟ่อบอวลกลิ่นทะเลและกาแฟมิ้นต์ ทำตัวเรื่อยเปื่อยราวกับเป็นคนธรรมดาที่แสร้งเป็นอย่างคนปกติทั่วไป

    “ชอบเวลานั่งกินนอนกินนะ แต่อีแบบนี้กลับรู้สึกว่าสงบเกินปกติไปหน่อย” นักฆ่าสาววางถ้วยกาแฟที่ชงด้วยน้ำส้มลง

    “ไม่ใช่ว่านั่นเป็นนิสัยเสพติดการต่อสู้ที่ต้องทำให้มันหายไปรึยังไงครับ?” มุคุโร่เลิกคิ้วหัวเราะในลำคอ พวกเขาทั้งคู่ไม่มีทางลืมหรอกว่าเป็นอะไร และทำอะไรได้บ้าง แต่ว่าการใช้ชีวิตอยู่ในฉากหน้านี้ก็เป็นสิ่งจำเป็น...

    “คราวหน้าไปไหนดี?” สายหมอกหนุ่มถามขึ้น

    “...ครั้งหน้าคงต้องหลังจากจบเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ ถึงตอนนั้นค่อยคิดก็ได้...เผื่อบอสจ่าย”

    “หมายถึงแค่เราสิ” เขาพ่นลมหายใจฮึดฮัดเล็กน้อย

    “เอาน่า วันหยุดพร้อมกันหายากจะตายไ—”

    เสียงริงโทนสมาร์ตโฟนของนักฆ่าดังขึ้นซึ่งตั้งค่าให้ใช้เพลงต่างกันไปตามปลายสาย

    “ครับๆ จะรีบกลับไป ด่วนขนาดต้องยืมมือผมคนนี้เลยสิน้า” ซีลอนกระตุกยิ้ม มุคุโร่ยกมือลูบหน้าเซ็ง ๆ ที่ถูกขัดจังหวะระหว่างการเดตเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้

    กฎพื้นฐานของมาเฟียเบื้องต้น ถ้าบอสเรียกหาไม่ว่าทำอะไรอยู่ก็ต้องไปพบ พวกเขาเช็กบิลและกำลังออกจากอควาเรี่ยมเพื่อกลับไปยังสำนักงานเก๊ซึ่งแท้จริงเป็นรังมาเฟีย

    “เป็นมาเฟียที่เอาแต่ใจเสียเหลือเกิน...” สายหมอกค่อนแคะใครบางคนที่โทรมาซึ่งถ้าไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูงก็คงเป็นนภาผมฟูคนนั้น

    “นายก็หัดให้เบอร์คนอื่นบ้างอาจจะโดนโทรจิกใช้เยอะกว่าฉันก็ได้ใครจะไปรู้” ซีลอนยักไหล่

    “ผมไม่มีทางให้เบอร์ติดต่อกับพวกมาเฟียหรอกนะครับคุณก็รู้ดีกว่าใคร” มุคุโร่หรี่ตาจ้องอีกฝ่าย

    “อืม รู้ดีด้วยว่ายังคงเล็งช่วงสึนะการ์ดตกอยู่ แต่ไม่ยกให้ง่าย ๆ หรอกนะ” ซีลอนแสยะยิ้มตอบกลับไปด้วยท่าทีสนุกสนาน

    “คิดว่าน่าจะช่วยได้ละมั้ง จะขอบใจให้ฟูฟ่องหน่อยก็ได้” เธอยกมุมปากขึ้น “พอมีนายอยู่ด้วยแล้วใต้น้ำก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่”

    “ได้ยินแบบนั้นก็ค่อยคุ้มค่าเหนื่อยหน่อยครับ...” เขาคลี่ยิ้มอย่างโล่งอก “เพราะว่าผมเองก็คิดเหมือนกัน”

    “ฟังไม่ค่อยขึ้นเลยแฮะ เพราะนายเป็นต้นคิดมาที่นี่ด้วยมั้ง” นักฆ่ากระตุกยิ้มมุมปาก

    งานของพวกเขาต่างหน้าที่กันและมุคุโร่เองถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ได้เสนอหน้าเข้าไปในตึกหรือรังของวองโกเล่เลย ตรงกันข้ามกับซีลอนที่มักอยู่ให้เห็นใกล้ ๆ กับสึนะแทบตลอดเวลา

    “ก็สถานที่ที่จัดไฟสีไพลินไม่ค่อยมีนี่ครับเห็นแบบนี้ผมก็ข่มความแขยงเอาไว้เหมือนกันนะ” มุคุโร่มุ่ยหน้าเล็กน้อย

    “ไม่ชอบใต้น้ำเหมือนกันยังจะชวนมาอีก พามาเพิ่มภูมิต้านทานมันก็ดี แต่เข้าตัวเองก็ไม่คุ้มเท่าไหร่หรอกน่า” ซีลอนเหล่ผู้พิทักษ์สายหมอก

    “แต่วันนี้ผลก็ออกมาดีนี่ครับ?”

    “ก็ได้ ๆ ไม่เถียงแล้ว”

    “จะไปจริง ๆ เหรอครับ? ไม่ทำตัวเหลวไหลอย่างไม่ว่างกำลังกินช็อกโกแลตอยู่?”

    “ไม่เอาน่า ถ้าจัดการกันเองไหวก็คงไม่โทรมาเรียกฉันหรอกจริงไหม? ถ้ารู้สึกว่าเวลาเดตไม่สาแก่ใจไว้ตอนเย็นค่อยมาต่อกันก็ได้”

    “ไม่ให้เข้าร้านเหล้าครับ...” มุคุโร่ยิ้มเย็นดักคอคนดื่มจัดจนเจ้าตัวเดาะลิ้นออกมาเพราะโดนรู้ทัน

    “บาร์ค็อกเทล?”

    “ก็โทนเดียวกันนั่นแหละครับไม่อนุญาต”

    “คนโดนวอแวมันนายไม่ใช่ฉันสักหน่อย” ซีลอนแสยะยิ้มเพราะหน้าตาดีเกินไปก็เลยมีคนมาชวนคุยเป็นเรื่องปกติ

    “ก็เพราะแบบนั้นเลยไม่ชอบไงครับ ถ้าจะดื่มก็ดื่มที่บ้านคุณเอง”

    “ฟีลมันได้ที่ไหน เอาเถอะนอนเปื่อยที่บ้านก็ได้” ซีลอนไม่ได้คิดจะต่อความยาวสาวความยืดอีก

    “อย่าลืมดอกเบี้ยที่ค้างไว้ละครับ”

    “มันจะง่ายกว่านี้สุด ๆ ถ้านายยอมเขียนตัวเลขลงไปในเช็คเปล่าที่ฉันให้ไป”

    “อยากได้คุณมากกว่าเพราะงั้นไม่เขียนตัวเลขลงไปหรอกครับ คุฟุฟุฟุฟุฟุ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างอารมณ์ดีและขึ้นรถไปด้วยกับเธอ

    “ฉันกำลังจะกลับฐานนะ?” ซีลอนทักขึ้นเมื่อสายหมอกคาดเข็มขัดนิรภัยที่นั่งข้างคนขับ

    “ผมไม่ได้เข้าฐานสักหน่อยก็แค่ตามคุณไปเท่านั้น” เขาว่าอย่างนั้น

    “ตามใจ...” เธอก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก

    “ก็จะกลับบ้านพร้อมกันไม่ใช่เหรอครับ?” มุคุโร่บอกจุดประสงค์ออกมาในที่สุด

    “อ่า...เอางั้นก็ได้”

    “พอรถติดจะได้อยู่ด้วยกันนานขึ้นอีกหน่อย”

    “นายก็แค่อยากให้รถมันติดเท่านั้นแหละ...” ซีลอนเบะปากใส่

    “รถไม่ติดก็จูบฆ่าเวลาได้นะครับ”

    “ฆ่าตัวตายสิวะรถชนพอดี”

    “ตอนติดไฟแดง”

    “เส้นนี้มันมีไฟแดงที่ไหน...” ทั้งคู่โต้ตอบกันเรื่อยเปื่อยไม่หยุดทั้งขำทั้งหมั่นไส้จนที่สุดซีลอนก็ปัดรำคาญไปด้วยวิธีเดิม ๆ ของเธอที่มักจะสร้างภาระให้ตัวเองทีหลัง

    “เอาไว้คืนนี้”

    “ครับ ๆ เอาไว้คืนนี้ก็ได้” สายหมอกยิ้มเยาะก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเอ็นดูความปัดภาระของอีกฝ่ายที่มักจะบ่นขึ้นมาในภายหลัง แต่ว่าเพราะว่ายอมลงให้ถึงพูดแบบนั้นออกมา เขาจะคิดเสียว่านี่เป็นความใจอ่อนที่เธอมีต่อเขาก็แล้วกันนะ

    “หรือไม่ก็ทบไปคืนพรุ่งนี้ถ้างานไม่เสร็จ” ซีลอนขมวดคิ้วสมมติถึงงานที่บอสจัดการเองไม่ได้จนต้องโทรมาขอให้ช่วยว่าอาจจะยุ่งยากกว่าที่คิด

    “เอาที่คุณสะดวกเลย~ คุฟุฟุฟุฟุ”

    “อยากให้เสร็จแล้วก็มาช่วยกันซะสิ?” นักฆ่ากระตุกยิ้มพลางหมุนพวงมาลัยรถ

    “มีราคาที่ต้องจ่ายนะครับ”

    “ก็บอกแล้วให้เขียนเลขลงเช็คเปล่าใบนั้น...”

    “อยากได้เจ้าของบัญชีครับไม่ใช่เงิน”

    “...ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนคงคิดว่าหมายถึงเงินทั้งหมดน่ะนะ” นักฆ่าพ่นขำออกมาเล็กน้อย

    “เงินน่ะผมก็มี แล้วก็มันไม่ใช่จะหายากอะไร คุณน่ะทั้งมีค่าแล้วก็หายากกว่าตั้งเยอะ”

    “จ้า ๆ เข้าใจแล้ววันนี้ขยันหยอดเป็นพิเศษนะ แต่ถึงจะพูดไปก็ไม่ใจอ่อนให้หรอกนะ เก็บมือแล้วนั่งดี ๆ เลยเจ้าสายหมอก” นักฆ่ายื่นมือไปดีดเหม่งผู้พิทักษ์ที่เลื้อยมากุมมือเธอขณะเปลี่ยนเกียร์

    จนกระทั่งกลับถึงฐานมุคุโร่ที่เง้างอนก็เงียบตั้งแต่โดนดีดหน้าผาก ต้นเหตุที่คิดว่าตัวเองไม่ได้ผิดเลยก็เลยต้องง้ออย่างไม่มีทางเลือก

    “มุคุโร่... รู้นะว่าได้ยิน นี่...” นักฆ่าถอนหายใจในใจแล้วปลดเข็มขัดนิรภัยของตนออกดับเครื่องยนต์ลง

    “...”

    “เป็นสายหมอกขี้น้อยใจจริง ๆ แต่ก็ไม่ใช่ไม่ชอบหรอกนะ” นักฆ่าแซวแล้วก็หัวเราะในลำคอเอี่ยวตัวไปปลดสายเข็มขัดนิรภัยให้คนนั่งข้าง ๆ ก่อนจะกดเบาะและปรับให้มันนอนลง

    “ใช่ ผมมันเป็นคนแบบนั้นแหละ” มุคุโร่ตีหน้าหงุดหงิด แต่ก็เก็บซ่อนแววตาตื่นเต้นเมื่ออีกฝ่ายปีนมานั่งคร่อมตนเองไม่ได้

    “ใช่ ๆ เป็นคนขี้น้อยใจที่น่ารักไง” นักฆ่ากระตุกยิ้มลูบแก้มอีกฝ่ายก้มลงจูบง้อสองสามที จูบหน้าผากที่เคยดีด จูบเปลือกตาข้างที่ครอบปิดสีแดงสวยงาม และจูบลงที่ริมฝีปากสวย ๆ ของเขา

    “ไปทำงานละน้า นายจะนอนอยู่ในรถก็ตามใจ หรือจะขับกินลมเล่นก็ได้แล้วจะส่งข้อความไปก่อนงานเสร็จสักสิบนาที” เธอทิ้งท้ายเอาไว้แล้วลงจากรถไป ทิ้งกุญแจรถเอาไว้ในฝ่ามือของสายหมอกหนุ่ม

    “...” มุคุโร่หลุบตาลงพักสายตาในรถที่เลื่อนกระจกลงให้อากาศถ่ายเทเล็กน้อย เขานิ่งคิดอยู่หลายนาทีก่อนจะลงจากรถไปเปิดฝั่งคนขับสตาร์ทและจัดการปิดกระจก ลงมาจากยานพาหนะและล็อกมัน หย่อนกุญแจรถคันโปรดของเธอลงกระเป๋าเสื้อด้านในของตัวเอง

    เขากับซีลอนจากสายเลือดแท้ ๆ เป็นคนต่างชาติที่ไม่สนใจว่าใครจะมองเวลากอดหรือวอแวกับคนรักอยู่แล้ว คนที่ต้องม้วนหน้าไหม้มันเป็นคนญี่ปุ่นที่มักแสดงความรักกับคนรักในพื้นที่ส่วนตัวต่างหาก คิดได้ดังนั้นสายหมอกเจ้าเล่ห์ก็ตามเข้าไปที่ฐานและเริ่มต้นการตามวอแวนักฆ่าหลังเก้าอี้ของวองโกเล่คนปัจจุบันซึ่งหน้าไหม้รีบยกแฟ้มปิดหน้าตัวเองหลายต่อหลายครั้ง

    _____________________________

    แวบมาแปะแฟนอาร์ตให้ตัวเองใจฟูเล่น กำลังเข็นตัวเองให้ทำชาเล้นท์วันละภาพเดือนตุลาอยู่ค่ะ
    หัวข้อวันที่สองอควาเรี่ยม ถ้าไม่ติดขัดอะไรจะมาลองเดตตอนพิเศษในอควาเรี่ยมภายหลังค่ะ U u U

    อีกบรรยากาศ แอบชอบอันล่างมากกว่า Y u Y

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×