ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ฟิคKHR/Reborn]TRICK OR TREAT~ แต่ว่าผมน่ะยังไงก็เลือกหลอกล่ะนะ~

    ลำดับตอนที่ #14 : | 14 | EXACERBATE | ก่อนปะทะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 331
      31
      15 ก.ค. 63


    “ทุกอย่างถูกวางแผนเอาไว้แล้ว ที่เหลือก็ปล่อยให้ทุกคนวิ่งไปตามความคิดของตัวเอง” | เอิร์ล

    หากจะเปรียบความรู้สึกของซีลอนในเวลานี้คงเป็นเหมือนรู้สึกถึงลมที่พัดผ่านทรวงอก กระนั้นก็ยังคงเป็นห้วงอารมณ์ที่ชวนให้เค้นยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ

    “อะไรกัน... ท ทั้งที่! แค่กๆๆ!! ทั้งที่ไร้กล่อง!” แบล็กสเปลบนพื้นเหลือบขึ้นมามองนักฆ่าของวองโกเล่ หญิงสาวที่พลังถูกหมายตาโดยผู้นำมิลฟิโอเล่และผู้บริหารทุกคน พลังที่ข้ามขีดจำกัดของมนุษย์!

    “โทษทีพอดีว่าโอเวอร์สเป็คก็เป็นงี้แหละ ธรรมดา ไม่คิดว่าเพราะพวกแกอ่อนแอเลยต้องใช้กล่องช่วยหรือไง?” เธอตอบคำถามอย่างยียวนก้มลงไปคลี่ยิ้มปั่นประสาทให้ผู้เคราะห์ร้ายที่ดันยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอและพวกพ้อง “รู้อะไรไหม ตัวผมที่มีกล่องน่ะจะยิ่งแข็งแกร่งกว่านี้อีก แบบที่ฟัดกับฮิบาริแล้วออกมาเสมอเลยล่ะ” เธอกระซิบแล้วหัวเราะในลำคอ น่าเสียดายที่ชายคนนั้นสิ้นลมหายใจไปก่อนจะได้ยินเธอพูดประโยคหลัง

    เธอยืนอยู่ท่ามกลางศพของแบล็กสเปลและไวท์สเปลระดับล่าง ซีลอนเป็นตัวตนเดียวที่อิริเอะออกคำสั่งให้ทุกคนถ้าเจอและปะทะให้ล่อเธอไปเจอกลุ่มอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีชัยชนะสำหรับสมาชิกระดับล่างของมิลฟิโอเล่ที่เผชิญหน้ากับนักฆ่า ผู้พกความแค้นมาเต็มเปี่ยมทุกคราที่ออกล่า คำสั่งที่ดูเหมือนไม่ว่ายังไงก็ต้องลากให้ซีลอนไปตายให้ได้หากไม่เข้าร่วม และมันก็ยังเป็นแผนลวงที่ช่วยลดจำนวนพวกมันมิลฟิโอเล่ที่เธอเกลียดนักหนาอีกทาง แม้ว่าจะทำบ่อยไม่ได้เพราะเดี๋ยวเบียคุรันจะสะกิดในตอนนี้คำสั่งของอิริเอะจึงให้หนีและลดการปะทะกับนักฆ่าลำดับเจ็ดแทน

    “เจอแล้วเหรอ~ น่าเสียดายนะรอบนี้ก็เก็บสกอร์เต็มแต้มล่ะ~” ซีลอนหันไปฉีกยิ้มให้กล้องสอดแนมในโดรนที่พร้อมชูสองนิ้ว วีของชัยชนะ และวีของวองโกเล่ ก่อนคว่ำนิ้วโป้งให้กล้องก่อนจะยิงสิ่งนั้นทิ้ง

    ระหว่างที่เธอออกทำงานล่อความสนใจพวกมิลฟิโอเล่ เคลื่อนไหวไปตามจังหวัดต่าง ๆ ดึงให้พวกสอดแนมสาวถึงตำแหน่งฐานที่แท้จริงไม่ได้ พวกรีบอร์นและสึนะจากอดีตก็กำลังฝึกฝนในฐานทัพลับใต้ดิน เธอได้ฟังเพียงความเคลื่อนไหวของทุกคนจากฟูตะหรือเบียงกี้

    เพราะแม้กระทั่งโคลมในเวลานี้ก็กลับไปที่โกคุโยแลนด์เพื่อรกถูกสับเปลี่ยนกับตัวเธอในอดีต ทุกอย่างที่ถูกวางแผนมาย่อมมีการลำดับตัวตนในการข้ามเวลามาก่อนแล้วโดยอิริเอะ

    ในเวลานี้ทั้งมิลฟิโอเล่คงกำลังหัวหมุนอยู่กับข่าวที่สึนะจากอดีตเดินทางข้ามมายุคสมัยนี้

    เธอพ่นลมหายใจทิ้งเกิดความเบื่อขึ้นมา จะต้องทนทำไปอีกเท่าไหร่นะ อยากจะกลับบ้านไปนอนอยู่ข้างแฝดจะแย่อยู่แล้ว... และต่อให้ต้องนอนอยู่ข้าง ๆ เอิร์ลตลอดไปโดยไม่ตื่นขึ้นมาอีกก็ไม่เป็นอะไร... ถ้าตายพร้อมกันเธอไม่มีปัญหา หรือเอิร์ลเกรย์จะมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไร แต่ถ้าจะให้เขาตายก่อนเธอละก็ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรเธอจะดึงดันพาเขากลับมาให้อยู่ข้าง ๆ อย่างเห็นแก่ตัว

    คิดแบบนั้นแล้วเธอก็ทอดน่องไปยังมอเตอร์ไซด์คู่ใจที่จอดซ่อนเอาไว้พลางคิดถึงความรู้สึกในอกตอนนี้

    แต่ถ้าหายไปตอนนี้คงมีคนผมยาวขี้ประชดคนนึงร้องไห้งอแงสินะไม่ชอบเอาซะเลยน้า~’

    [โอยะโอยะ ดูเหมือนยังพอจะรู้ตัวอยู่บ้างนะครับเนี่ย น่าซาบซึ้งจนน้ำตาจะไหลเลยละครับ]

    “เคยบอกไปแล้วนี่ว่าไม่ชอบให้โผล่มาโดยไม่ทักก่อนน่ะ คิดจะแอบฟังไปถึงเมื่อไหร่เจ้าผีไร้ร่าง!” ซีลอนกระแทกเสียงอย่างหมั่นไส้

    [แค่จะมาบอกว่าทางนี้เคลียร์เรียบร้อยแล้วครับ แหม เป็นคนที่สู้ด้วยแล้วแอบน่าตื่นเต้นดีนะครับ ใจเย็นจนน่าเหลือเชื่อเชียวล่ะ] มุคุโร่สื่อสารมาทางจิตเสียงในโสตประสาทของซีลอนเป็นเสียงทุ้มยียวนกวนประสาท

    “แอบน่าตื่นเต้น? แสดงว่าหมอนั่นดิ้นไปบนมือนายอย่างที่วางแผนมาทุกอย่างล่ะสิ ไม่เห็นแอบน่าตื่นเต้นตรงไหน มันก็เคลื่อนไหวไปตามรางที่พวกเราปูเอาไว้เท่านั้น อีกอย่างคนที่เอาชนะมันคือโคลมไม่ใช่แกสักหน่อย แกเป็นแค่ไกด์ไม่ใช่รึไง?” นักฆ่าเอ่ยค่อนแคะ

    [ขับให้ช้าลงหน่อยก็น่าจะปลอดภัยกว่านี้นะครับ... แล้วก็โคลมของผมน่ะเก่งอยู่แล้วเธอหัวดีจะตาย]

    ซีลอนไม่ได้ลดความเร็วของยานพาหนะและถามกลับแทน “แล้วทางนั้นล่ะเป็นยังไงบ้าง? ถ้าเจ้าโกรฟื้นจากอาการบาดเจ็บงานจะไม่เข้าแกเรอะ มุคุโร่ที่อุตส่าห์ปล่อยข่าวว่าตายดันมาสิงสัตว์กล่องสำรองของหมอนั่นเข้าให้” เธอกระตุกยิ้มนึกสะใจขึ้นมา โกร คิชิเนียเป็นชายสโยที่เป็นคนเก่งแต่สามานและยโส หมอนั่นต้องไม่พลาดแฉข้อมูลที่ได้มาแน่นอน

    [เป็นห่วงผมด้วยเหรอ ...ดีใจจัง]

    “งานสิงาน...”

    [คุฟุฟุฟุฟุ พอดีว่าทำให้คางแตก กรามร้าว โคลมของผมนะบดขยี้หมอนั่นหนักเสียจนนิ้วก็คงขยับไม่ได้ไปสักพักเลยล่ะครับ~ แล้วก็งานส่วนของผมน่ะแทรกซึมเก่งมากเลยใช่ไหมล่ะ แถมส่งโกรไปให้โคลมของผมเชือดนิ่ม ๆ อีก ต้องขอบคุณวิธีล่อความสนใจของคุณด้วยพวกวาเรียล่ะนะครับ]

    “พวกเฮียก็แค่เบื่อที่จะรอเต็มแก่ ทางนี้ก็เลยเผลอลืมเข้ารหัสตอนติดต่อกับสายข่าว แล้วบังเอิญว่ายังมีข้อมูลหลงเหลือไว้ในอุปกรณ์สื่อสารให้แกะรอยได้ พวกวาเรียก็ออกไปยืดเส้นยืดสายเล่นเท่านั้นเอง~ ไม่ได้สั่งอะไรสักหน่อย~” ซีลอนกระตุกยิ้มร้าย วาเรียเป็นองค์กรสุดยอดนักฆ่า พวกเขายอมไม่ได้หรอกที่ต้องเสียหน้ากับการถูกบุกถล่มปราสาทฐานที่มั่นและเกาะมาเล่ เดียโบล่าอันเป็นทรัพย์สินและหน้าที่ส่วนดูแลของวาเรีย

    พวกเขาหัวเราะเป็นโทนเดียวกันอย่างชั่วร้ายเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนอย่างง่ายดาย เป็นดั่งปีศาจร้ายที่เข้ากันได้ดีสองตัว

    [หลังจากนี้จะไปไหนต่องั้นเหรอครับ?]

    “ทำให้ตัวฉันเองในอดีตที่กำลังจะมาที่นี่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นแบบเต็มสูบยังไงล่ะ” ซีลอนแสยะยิ้มเธอกำลังกลับคฤหาสน์ตัวเองในญี่ปุ่น

    โคลมถูกเรียวเฮพาตัวไปที่ฐานทัพแน่นอนแล้ว ห้าวันหลังจากนี้จะต้องตั้งทีมบุก ระหว่างที่พวกเขากำลังวุ่นวายในงานของตัวเองเธอก็จะเก็บตัวฝึกในคฤหาสน์ของตนเองก่อนจะตามไปสมทบ

    “นายเองก็ได้เวลาไปทำงานได้แล้ว วันนี้ต้องสู้กับหมอนั่นเพื่อเอาข้อมูลบางส่วนมาไม่ใช่รึไง” ซีลอนกลอกตา

    [ใช้งานกันหนักแบบนี้สงสัยงานเสร็จคงต้องขอให้จ่ายอย่างคุ้มราคาแล้วนะครับคุณนักฆ่า] เสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์

    “เสร็จงานแล้วจะให้พักในร่างเอิร์ลเกรย์ก็แล้วกันนะ เอิร์ลที่รักของฉันมีคลื่นที่พลังงานช่วยให้นายสะสมพลังได้เร็วกว่าคนทั่วไปคล้ายโคลมใช่ไหมล่ะ” นักฆ่าสาวจี้ใจอีกฝ่าย

    [แหม คิดว่าผมจะกะรุ่งกะริ่งกลับมางั้นสินะครับ เผลอเป็นไม่ได้แช่งกันตลอดเลยนะครับ] มุคุโร่เอ็ดขึ้นมาอย่างฉุน ๆ

    “สิ่งที่นายต้องไปสู้ลองเชิงด้วยเป็นสุดยอดของอันตรายในยุคสมัยนี้ แกที่ไม่มีวองโกเล่ริงทำอะไรมันไม่ได้หรอก ยังไงทุกเพลิงธาตุย่อมไม่อาจเอาชนะเพลิงนภาได้แม้จะมีพลังเท่ากัน นั่นเป็นพื้นฐานของพลังในโลกนี้...” ซีลอนกดเสียงต่ำอย่างหงุดหงิด “จะเผื่อกรณีเลวร้ายที่สุดเอาไว้ ถ้าเกิดว่ามันคิดว่าแกจะแทรกซึมเข้าไป ต้องเตรียมการสร้างห้องกักกันคลื่นแบบพิเศษไว้แน่ ถ้าร่อแร่ปางตายละก็จะแทรกแซงแล้วดึงแกกลับออกมาแล้วยัดใส่เอิร์ลให้เอง เองวางใจได้เลย” เธอพูดแบบนั้นร่างจริงของสายหมอกหนุ่มก็ลอบยิ้มอยู่ในสถานที่แสนห่างไกล

    [ฝากติดต่อไปที่ฐานด้วยนะครับเพราะถ้าผมปางตายโคลมก็คงโคม่าเหมือนกัน] เขาทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนที่เสียงจะขาดหายไป

    “หักหน้าเจ้าโกร ลดกำลังศึกกันการบุกรุก หวังว่าพวกเฮียที่อิตาลี่จะดึงคนของมันไปได้มากหน่อยนะไม่งั้นพวกซือคุงตึงมือแน่...” ซีลอนพึมพำและบิดคันเร่งขึ้นไปอีก ความไม่สบายใจบางอย่างก่อตัวขึ้นในอก เธอเรียกมันว่าลางสังหรณ์ ซึ่งไม่เคยเป็นเรื่องดีเลยสักครั้ง

    “...สงสัยต้องโทรไปบอกให้ฮิบาริข้ามประตูเข้าฐานสักหน่อยแล้วมั้ง” เธอถอนหายใจแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดสายโทรออกด่วนหมายเลขหนึ่ง

    “เฮ้ รับสายด้วยแฮะเจ้าคนเลี้ยงนก ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับโคลมละก็สอนให้เธอใช้แหวนสร้างเครื่องในซะนะ ผมน่าจะแอบยัดโพยไกด์เอาไว้ใต้ฐานแจกันตกแต่งฐานนายสักใบละมั้ง.... อย่าตัดสายกันสิวะนังคนเกลียดการสุมหัว” นักฆ่าหัวเราะในลำคอเมื่อใครบางคนที่ปลายสายคงเส้นคงวามาเสมอ

    เมฆาที่เลื่อนลอยทำเท่าที่อยากทำ เธอจึงโทรไปหามือขวาของฮิบาริแทน

    “เฮ่ บอกเจ้านายแกซิว่าถ้าทำงานที่วานให้ แล้วมุคุโร่มันหายดีพอจะให้ซัดได้เมื่อไหร่ฉันเตรียมลานประลองให้เอง” ซีลอนใช้ประโยชน์จากผู้พิทักษ์ทั้งคู่โดยไม่รู้สึกอะไรนัก ยังไงก็ตีกันบ่อยเป็นว่าเล่นทุกครั้งที่ประชุมร่วมอยู่แล้ว จะชกกันนอกรอบก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับฮิบาริกับมุคุโร่ตามสบโอกาส เสียงปลายสายตอบกลับมาว่าจะพยายามช่วยพูดให้เธอก็วางสายลง

    “...หรือฉันควรขู่มันด้วยผู้ดูแลนอกแก๊งคนนั้นดีวะ...ไม่ดีกว่าใช้เธอคนนั้นสงสัยฉันจะตายเอง” ซีลอนกลอกตาแล้วพับโครงการใช้ใครบางคนข่มขู่ฮิบาริ ซีลอนนึกถึงเธอคนนั้นขึ้นมาก็อดกระตุกยิ้มไม่ได้

    ในพาราเรลเวิร์ลทั้งหลายนั้นถึงจะมีเราที่คล้ายเราแต่ก็ต่างออกไปตามทางเลือกอันมากมาย

    ในบรรดาเส้นทางคู่ขนานเหล่านั้น ไม่ได้มีแค่พวกเธอคู่แฝดที่ไร้การดำรงอยู่ในบางพาราเรลเวิร์ล...ทั้งอลอนโซ่ อัลม่า หรือกระทั่งผู้ดูแลนอกแก๊งที่มีพลังน้ำแข็งหัวกะทิผู้รับสืบทอดจากอิเอมิสึก็ไม่ได้อยู่ในวองโกเล่

    เหมือนชะตาที่ไหลมารวมกัน ในพาราเรลเวิร์ลที่บังเอิญว่าพวกเธอมีตัวตนอยู่ในแก๊ง

    อยากเห็นคุณนายบ้านฮิบาริชะมัด...

     


    ซีลอนกลับมาที่คฤหาสน์ เมื่อลงมาในห้องสังเกตการณ์ใต้ดิน เจ้าหน้าที่คอยแปลข้อความใส่รหัสก็รายงานให้เธอฟังตั้งแต่เธอก้าวเท้าเข้ามาในห้อง

    “สัญญาณของคุณมุคุโร่ขาดติดต่อไปแล้วครับ เป็นไปตามที่คาดพวกมันคงสร้างห้องรบกวนคลื่นแบบพิเศษขึ้นมา กรณีเลวร้ายที่สุดคงเป็นห้องที่กักกันสลายตัวเพื่อหลบหนีของคุณมุคุโร่ด้วยครับ” ได้ยินดังนั้นเธอก็เท้าคางเอนหัวกับพนักวางแขนโซฟานิ่งคิดอะไรนิดหน่อย

    “เดี๋ยวจัดการเก็บกู้ทางนั้นให้ แล้วที่อิตาลี่กับฐานหลักญี่ปุ่นล่ะ?” เธอถามอีกเรื่องกลับไป เจ้าหน้าที่เฝ้ามอนิเตอร์ก็ทยอยรายงาน

    “ฐานหลักญี่ปุ่นยังไม่มีความเคลื่อนไหวครับ แต่จากเพดานปรับพิเศษที่แอบทำเอาไว้พบคลื่นไฟฟ้าบางอย่างขนาดเล็ก คาดว่าเป็นตัวส่งสัญญาณครับ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกบุกภายในวันถัดไป! จะให้แจ้งไหมครับ?”

    “แจ้งไปที่ฮิบาริให้เตรียมต้อนรับลูกไก่ก็พอ...” ซีลอนถอนหายใจ ถึงจะถูกบุกแต่ฮิบาริก็คือฮิบาริ หมอนั่นคงสนุกสนานไปกับการสู้

    “ฐานที่อิตาลี่ส่งข้อความเข้ารหัสมาแล้วครับ กำลังเตรียมการเคลื่อนไหว แล้วก็ส่งข่าวให้ทางผู้บริหารในอดีตเตรียมบุกฐานลับของมิลฟิโอเล่สาขาญี่ปุ่นครับ พวกเขาจะบุกสาขาอิตาลี่และทวงปราสาทคืน!” ชายอีกคนที่เฝ้าตัวส่งสัญญาณเครือข่ายจากอิตาลี่รายงาน

    “รายงานด่วนครับ! ใกล้ฐานญี่ปุ่น มีกลุ่มโดรนลาดตระเวนขนาดเล็กกระจายตัวอยู่ที่ศาลเจ้านามิโมริ ให้ส่งคนออกไปไหมครับ?”

    ซีลอนขมวดคิ้ว เธอแค่เดินหมากตามที่เอิร์ลและสึนะไกด์เอาไว้ให้ช่วยสานต่อเพื่อผลักดันสึนะและพวกพ้องในอดีตให้ไปสู่จุดสูงสุดและเป้าหมายที่แท้ของพวกเขา การต้องมานั่งตัดสินใจเรื่องยุ่งยากทั้งที่ไม่ได้เป็นกระทั่งผู้ดูแลนอกแก๊งก็ออกจะเกินความสามารถไปหน่อย “...ไม่ชอบงานนี้เลยน้า พวกแกก็รู้ว่าฉันน่ะเหมาะกับการรับคำสั่งแล้วออกไปฆ่าพวกมันมากกว่าสั่งพวกแกเสียอีก”

    เสียงหัวเราะครืนดังไปทั่วห้อง บรรดาลูกน้องสังกัดเงาหลังเก้าอี้มีทั้งชายและหญิง ส่วนใหญ่จะเป็นนักวิจัยและแพทย์ รองลงมาด้วยหน่วยสอดแนมและนักคุ้มครองที่มีอยู่หยิบมือแต่เป็นคนคุณภาพที่ซีลอนคัดและฝึกด้วยตัวเองในภายหลัง

    เธอเป็นหัวหน้าที่พวกเขาต่างพร้อมใจกันลงความเห็นว่าใจดีแบบเดี๋ยวผีเข้าผีออก เป็นเรื่องยากที่จะคอยเอาใจเธอ แต่พออยู่ด้วยกันสักพักจนรู้ตื้นลึกหนาบาง เธอไม่จำเป็นต้องมีคนคอยเอาใจหรือประจบ แค่รายงานและทำงานตามหน้าที่ไปก็พอ ความไว้วางใจของบอสใหญ่วองโกเล่ต่อเธอมีมากจนพวกเขาก็ต่างเคารพการตัดสินใจของเธอ นักฆ่าหลังเก้าอี้ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเงาของอัจฉริยะ ความสามารถของเธอด้านงานบริหารเป็นรองเอิร์ลเกรย์และสึนะหลายขุมก็จริง แต่การคาดเดาคำนวณถึงวิธีการที่สองคนนั้นจะใช้ เธอจะอนุมานออกมาได้อย่างแม่นยำเรากับว่าพวกเขาเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่

    “ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น พวกเราก็แค่เฝ้ามองไม่ให้มีอะไรนอกลู่นอกทาง ที่นั่นจะถูกบุกอยู่แล้ว ส่งคนไปจะเร่งให้พวกมันรู้ตัวเร็วขึ้น... เสร็จจากนี่คงว่างไปอีกพักใหญ่ แต่ก็อย่าลืมสลับเวรยามมาเช็กข้อความเผื่อมีรหัสส่งมาให้ช่วยอะไร”

    “จะให้ส่งที่ตั้งฐานทัพมิลฟิโอเล่ที่ญี่ปุ่นไปให้ท่านฮิบาริรึเปล่าครับ จะได้ตามไปสมทบท่านรุ่นที่สิบด้วย” หนึ่งในบรรดาลูกน้องเธอทักขึ้น

    “ส่งโลเคชั่นไป... ข้อความเขียนว่า แทรกตารางก็แล้วกัน เจ้าหมอนั่นรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง” ซีลอนทิ้งท้ายคำสั่งเอาไว้แล้วลุกขึ้นออกไปจากห้อง

    เธอขึ้นจากชั้นใต้ดินไปที่ชั้นผิวดิน ออกจากลิฟต์แล้วตรงไปยังโถงพยาบาล วันนี้ฝาแฝดของเธอก็ยังคงหลับลึกอยู่

    เสียงลมหายใจสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าเขายังหลับสนิทอยู่

    “เขาเพิ่งหลับไปใหม่น่ะครับ คุณมาคลาดอีกแล้ว” แพทย์ประจำบ้านเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าใครเข้ามาขณะกำลังเช็กปริมาณสารอาหารผ่านน้ำเกลือและยาที่ใช้คงสภาพกล้ามเนื้อก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกประโยค “เขานอนนานแล้วนะครับ หมออยากให้คุณชายเขากายภาพเพิ่มเพราะเดี๋ยวกล้ามเนื้อจะลีบกว่านี้...”

    “เดี๋ยวมุคุโร่จะมาสิงเอิร์ล... ไว้ตอนนั้นค่อยให้หมอนั่นใช้ร่างเอิร์ลเดินไปเดินมาในคฤหาสน์แล้วกัน จะได้กายภาพร่างเนื้อไปในตัวด้วย” ซีลอนตัดบท

    “อืม... คงต้องบอกเชฟให้ทำอาหารอ่อนซะแล้วล่ะครับจะได้ปรับสภาพกระเพาะของคุณชายไปด้วย คุณมุคุโร่จะอยู่สิงร่างคุณชายนานไหมครับเผื่อหมอจะทำตารางออกกำลังกายให้เขาด้วย” แพทย์ประจำบ้านเธอถามอีกเรื่อง ซีลอนลูบคางครุ่นคิด

    “ไม่แน่ใจ ลำดับแผนมันค่อนข้างยืดหยุ่นแต่อาจจะไม่ถึงสองวีคละมั้ง ออกตารางมันก็ได้อยู่แหละ” เธอก้มลงมองฝาแฝดบนเตียง ปรารถนาจะได้เห็นเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นเธอจะทุ่มหมดหน้าตักเพื่อรักษาร่างกายของเอิร์ลเกรย์ให้อยู่ในสภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอก้มลงจูบหน้าผากชายที่คล้ายเธอมากบนเตียง

    “ฝากด้วยนะแล้วค่ำนี้จะเข้ามาใหม่” ซีลอนละสายตาจากเอิร์ลเกรย์ไปที่หมอก่อนจะออกจากห้องไป สองเท้าก้าวขึ้นบันไดปูพรมไปยังชั้นสอง ในระหว่างทางเดินยาวมีกรอบรูปหรูหรามากมายที่ผนึกทั้งรูปถ่ายและภาพวาดสีน้ำมันเอาไว้

    หางตาของเธอเห็นบางอย่างเคลื่อนไหวจึงหยุดเดินลง

    ภาพเพ้นท์ของใครบางคนที่ไม่โตขึ้นเลยตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันและไม่เคยเป็นมนุษย์

    “จ้างวาดภาพข้ารึ ออกมาดูดีไม่เลวนี่...แต่ว่าจะดีกว่าถ้าเก็บให้มิดชิดกว่านี้นะ” มันหัวเราะคิกคักลูบมือกับกรอบภาพอย่างสนใจ เจ้าปีศาจไหวหางปลายลูกศรไปมาและเหลือบมองเจ้าของคฤหาสน์

    “ทำไม ถึงโผล่มา” ซีลอนขมวดคิ้วยุ่ง แต่ละครั้งที่เจ้านี่โผล่มาไม่เคยเป็นเรื่องดีสักครั้ง ทุกรอบที่เจอหน้าแม้แต่ในความฝันก็มักจะมาเพื่อบอกว่าความตายได้เรียกหาชื่อของใครบางคนที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง

    “วางใจได้คราวนี้ไม่ใช่ความตายที่เรียกหาเขาหรอก... ข้าแค่เห็นพวกเจ้าพยายามกันดีแต่นักฆ่าแถวนี้กลับแทบไม่มีส่วนร่วมในสงครามนี้เลย ดูไม่สมเป็นเจ้าเลยนะลูกมนุษย์”

    ซีลอนหันไปเผชิญหน้ากับปีศาจที่ทำสัญญาด้วย เธอเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

    “ก้าวเข้าไปสิ ในสงครามนั่น...แล้วถ้าชนะครั้งนี้ข้าจะคืนให้” มันหันมาแสยะยิ้ม

    ประโยคที่ทิ้งท้ายเอาไว้ทำให้ซีลอนใจสั่น แต่ว่า กลับกลัวขึ้นมา

    คืนอะไร? เอิร์ลเกรย์ใช่ไหม? พลัง? หรือว่าความรู้สึก? เธอไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้นถ้าไม่ได้เอิร์ลเกรย์ที่แข็งแรงสมบูรณ์กลับมา

    “เจ้าหนูเอิร์ลเกรย์เขาเริ่มเบื่อโต๊ะน้ำชาในสวนของข้าแล้ว... จะคืนให้ก็ได้ แต่ว่าต้องชนะเจ้าผิวเผือกนั่นน่ะนะ ชนะเท่านั้น” ปีศาจย้ำคำและม้วนปลายผมสีขาวของตัวเองที่สั้นเอามาก

    “ทำไม...” ไม่มีการแลกเปลี่ยนไหนที่จะไม่มีราคาที่ต้องจ่าย และครั้งนี้สิ่งที่เจ้าปีศาจที่เรียกขานตัวเองว่ายมทูตนั้นได้เสนอสิ่งที่มันไม่ได้บอกราคาที่ต้องจ่ายออกมา ซีลอนหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง แปลก...แปลกมาก

    “มีคนงอแงว่าขอร้องละช่วยทำสัญญาด้วยที เพราะงั้น อย่าเอาอะไรไปจากซีนอีกได้ไหม~” มันยักไหล่เลียนประโยคของคนผู้นั้นให้เธอฟัง

    “ไม่! ไม่เด็ดขาด จะเอาอะไรไปจากเอิร์ล!” ซีลอนตวาดออกไป รู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายที่สร้างสัญญาฉบับใหม่ขึ้นมาคือเอิร์ลเกรย์

    “เจ้าไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจว่าทำหรือไม่ทำเสียหน่อย~ มีสิทธิ์แค่เลือกจะช่วยวองโกเล่จนชนะ หรือแพ้ไปพร้อมกันเท่านั้น” มันฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์

    “งั้นทำไม...”

    “ทำไมถึงช่วยตั้งมากขนาดนี้งั้นเหรอ? เพราะน่ากินละมั้ง?” มันเอ่ยตัดบทซีลอนอีกครั้ง หัวเราะ และโคลงหัว

    “เพราะว่าน่ากินมาก ทั้งคู่นั่นแหละ แต่ว่า...ข้ากินวิญญาณไม่ได้มาตั้งนานแล้ว เพราะงั้นก่อนที่จะกลายเป็นของผู้อื่นได้สู้ทำสัญญาแล้วตีตราจับจองเอาไว้...ไม่ให้มีใครหน้าไหนมาชุบมือเปิบกินพวกเจ้าได้ทั้งนั้น” มันเล่าและยิ้มยโส

    “พยายามเข้าล่ะ เพราะว่าเอิร์ลเกรย์ที่อยู่ในสวนน้ำชากับข้ากำลังเฝ้ามองเจ้าอยู่ ด้วยดวงตาเดียวที่ข้าใช้มองโลกใบนี้นั่นแหละ” เจ้าปีศาจชี้มาที่ตาขวาของซีลอน ดวงตาของปีศาจ

    “แล้วก็เรื่องเจ้ามุคุอะไรนั่น ข้าจัดการช่วยดึงเศษเสี้ยวออกมาให้แทนแล้วตอนนี้น่าจะกำลังฟื้นสภาพในตัวเอิร์ลอยู่ หมากแต่ละตัวใกล้จะสมบูรณ์แบบแล้ว”

    “แล้วก็สำหรับเจ้าเมื่อสิบปีที่แล้ว ข้าจะเทรนนิ่งให้เอง วิธีใช้พลังให้เหมือนปีศาจโดยไม่ใช้พลังสีดำนั่นยังไงล่ะ” มันแสยะยิ้มเหี้ยมก่อนทุกอย่างจะหายไปจากสายตา ซีลอนในอนาคตถูกสับเปลี่ยนตัวในที่สุด

     


    “ทุกคนถูกใครบางคนยิงบาซูก้าทศวรรษจากด้านหลัง แล้วทำไมมีแค่ฉันที่โดนยิงจัง ๆ ตรงหน้าเลยวะ?” ร่างของนักฆ่าวัยรุ่นนั่งกอดอกหลังคุยกับมุคุโร่ในร่างของเอิร์ลเกรย์ เธอต้องใช้เวลาอยู่นานมากกว่าจะสงบลง ซึ่งก็หลังทำลายหุ่นฝึกในห้องเทรนนิ่งไปซะเกลี้ยงหลังจากที่มาเห็นสภาพของเอิร์ลเกรย์ที่อยู่ไม่ต่างกับตายไปแล้ว

    “เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ได้เร็วกว่าคนอื่นละมั้งครับ คุณในอนาคตเป็นคนบอกให้ยิงต่อหน้าเอง แล้วก็นี่เป็นแผนที่คุณ อิริเอะ สึนะกับฮิบาริเท่านั้นที่รู้ อ้อ เอิร์ลเกรย์อีกคนด้วย ส่วนผมรู้บ้างไม่รู้บ้างล่ะนะ” มุคุโร่อธิบายเรื่องราวคร่าว ๆ ให้เจ้าของคฤหาสน์ได้เข้าใจ

    “เวลามีไม่มากนะครับ ในขณะที่ทุกคนกำลังบุกฐานมิลฟิโอเล่สองประเทศพร้อมกัน คุณมีเวลาเตรียมตัวฝึกน้อยที่สุด เพราะหลังจากบุกฐานสำเร็จพวกเราคงมีเวลาไม่มากก่อนที่จะต้องปะทะกับสงครามที่แท้” มุคุโร่พูดต่อแล้วส่งอาวุธกล่องให้กับเด็กสาวที่มาจากโลกอดีตและอาจในโลกคู่ขนาน

    “จุดไฟบนแหวนเพื่อใช้ต่างกุญแจไขรูบนกล่อง รูปแบบของกล่องมีหลายประเภททั้งอาวุธ และสัตว์ หรืออาจจะเป็นอุปกรณ์อย่างอื่น การใช้งานมีหลายประเภทขึ้นกับปริมาณไฟที่ใช้และรูปแบบของสิ่งที่อยู่ในกล่อง ยกตัวอย่างเช่นสัตว์กล่องส่วนใหญ่จะหมดอ่อนแรงเมื่อไฟที่ใส่เอาไว้หมด ส่วนอุปกรณ์บางอย่างก็จะหยุดทำงาน” มุคุโร่ปรายตาไปที่ของในมืออีกฝ่ายก่อนจะเผยมือให้ลองทำดู

    “แล้วทำไมแกถึงเป็นเทรนนิ่งฉันร่วมกับไอ้ปีศาจนั่นวะ...” นี่คือสิ่งที่ซีลอนไม่เข้าใจที่สุด

    “เพราะว่าคนอื่นเขาก็ง่วงอยู่กับการฝึกไงครับ ส่วนผมก็กำลังพักรักษาตัวในร่างของฝาแฝดคุณอยู่ ในอนาคตเอิร์ลเกรย์คุงให้ผมสร้างสัญญาเอาไว้กับเขาเพื่อใช้ร่างกายได้เป็นกรณีพิเศษ คลื่นของเขาเป็นประโยชน์กับการฟื้นตัวของผมถึงจะแสดงออกว่ามีพลังของเมฆาแต่ข้างในของเอิร์ลมีธาตุอรุณซึ่งส่งผลดีกับการรักษาบาดแผลซ่อนอยู่ด้วยครับ ส่วนเหตุผลของเจ้าปีศาจตัวนั้นผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน บางทีคุณในอนาคตคงสัญญาอะไรเอาไว้กับมันละมั้งครับ” มุคุโร่ไหวไหล่ เขาไม่ได้อยู่ในสภาพของชายที่ชื่อมุคุโร่แต่แรก แต่เป็นเอิร์ลเกรย์ที่เสยผมขึ้นและมีดวงตาข้างขวาเป็นสีแดงแทน

    “เอาล่ะครับงั้นมาเริ่มเลคเชอร์ที่คุณทิ้งเอาไว้ให้ผมช่วยกันเถอะ... ทริกการร่นระยะฝึกให้คุณในตอนนี้ใกล้เคียงกับคุณในสิบปีให้หลังน่ะ” มุคุโร่ฉีกยิ้มแล้วชูปึกกระดาษขึ้นมา

     



    หลังจากสิบวันที่บุกฐานสำเร็จ เบียคุรันได้นัดหมายล่วงหน้าพวกเขาไปยังสถานที่จัดการแข่งช้อยส์ ที่ศาลเจ้านามิโมริ

    [ดูเหมือนพวกนายจะมาไม่ครบนะฉันบอกแล้วนี่ว่าต้องทุกคนที่มาจากอดีตน่ะ] ภาพฉายนั่นก้มลงมามองสมาชิกที่อยู่ในสูทเครื่องแบบ ชุดตัดพิเศษสำหรับออกศึก มาเฟียกำเนิดจากศาลเตี้ยเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรม เครื่องแบบออกศึกของพวกเขาจึงเป็นสูทที่ใส่เพื่อให้ความเคารพต่ออีกฝ่าย

    ในขณะที่แสงค่อยๆบีบลงบ่งบอกเวลาที่นับถอยหลังลงทุกวินาที

    “พวกนายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ...” ฮิบาริเข้ามายังพื้นที่พร้อมกับยามาโมโตะที่ยิ้มแย้มเอ่ยขอโทษขอโพย

    “เฮ้! ขอโทษที่ให้รอนะ!” พวกเขามายืนรวมกลุ่มก่อนที่มอเตอร์ไซด์สีดำคันหนึ่งจะปาดเข้ามาแล้วเบรกปัดตัวออกข้างทิ้งรอยไหม้ล้อไว้บนพื้นปูหิน นักฆ่าผู้มาจากอดีตก็เข้ามารวมตัวทันเวลาพอดี

    “ไม่คิดว่าต้องร่วมงานกับเดชิโม่อีกนะเนี่ย ปกติงานของผมน่ะแค่อยู่หลังเก้าอี้แล้วเชือดแต่คนที่บอสสั่งเหอะ” ซีลอนพูดอย่างมีน้ำโห เธออยู่ในสูทดำพอดีตัวมีเข็มขัดคาดอาวุธเต็มเอวและต้นขาอยู่ในสภาพพร้อมรบ

    “เอาล่ะ ลุย! วองโกเล่บ็อกซ์!” สึนะให้สัญญาทุกคนเพื่อเปิดกล่องวองโกเล่ในการชาร์ตพลังไฟห้าล้านเฟียม่าโวลต์ ซึ่งตัวเลขสูงของพลังไฟที่ทุกคนพร้อมใจกันเปิดกล่องดีดสูงไปเป็นสองเท่าจากที่เบียคุรันตั้งเอาไว้

    EXACERBATE หมายถึง ทำให้รุนแรงขึ้น, ทำให้หนักขึ้น, ทำให้โกรธเคือง, ทำให้ช้ำ, ทำให้แย่ลง
    เอิร์ลเกรย์กับซีลอนนี่วาดทีให้อารมณ์คนหนึ่งเป็นเที่ยงคืนอีกคนเป็นรุ่งเช้ามากๆ ฮาาาาา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×