คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : |9| SEPARABLE | อนาคตที่ต่างออกมา
Cr : https://www.pinterest.com/pin/682858362232366962/
“ไม่ว่าความสูงของเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหน
ก็ขอให้มีสิ่งที่ยังคงเดิมเหลืออยู่เถอะ” | soraru×mafumafu - gray&blue
ซีลอนไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นเท่าไหร่
ก็ไม่แน่ใจว่าเพราะสัญญานั่นหรือเป็นเธอเองที่ปิดใจคิดว่าเป็นแบบนี้แล้วจะสะดวกกับตัวเองมากกว่า...
“ถ้าฉันไม่สมหวังก็ลงนรกด้วยกันหมดนี่แหละฆ่าพวกมันซะ!!”
ซันซัสตะโกนขึ้นหลังแหวนนภาปฏิเสธเขาเนื่องจากไม่ได้สืบสายเลือดของวองโกเล่
เชคเบคโล่ไม่เห็นด้วยส่วนมาม่อนกับเบลต่างพร้อมจะลงมืออยู่แล้วต่างหัวเราะชอบใจกับวิธีการง่าย
ๆ ประหยัดเวลา
“อย่าหวังจะได้ทำเลย!” โกคุเทระกับเพื่อนของสึนะเข้ามาขวางทาง
“ชิๆๆ แต่ละคนก็เจียนตายทั้งนั้นนี่นา
อิแบบนี้ตายร้อยเปอร์เซ็นต์ชัวร์ไม่มีบิดพริ้ว~”
เบลเฟกอลหัวเราะออกมา
“แกตาถั่วรึไง? 2 ต่อ 5 แบบนี้ทางนี้ต่างหากที่ได้เปรียบ”
โกคุเทระชักสีหน้าคาบบุหรี่พร้อมจุดชนวนระเบิดในมือ
“พูดเรื่องอะไร?
คู่ต่อสู้ของพวกนายมีมากกว่านี้เป็นสิบเท่า หน่วยวอร์ริเออร์กว่า 50 คนกำลังมุ่งมาตรงนี้” มาม่อนเค้นหัวเราะเกทับด้วยจำนวนที่มากกว่า
ซีลอนฟังอยู่ห่าง ๆ
บนชั้นสองของอาคารใกล้ ๆ เหล่มองสมาชิกนักฆ่าที่สลบเรียบอาวุธด้านหลังเธอหกคน
‘อ๊ะ...นึกว่าจะมารุมยำระหว่างการแข่งเลยเก็บของอาคารนี้ไปหมดแล้วอ่ะ
อดเห็นเรื่องสนุกละสิงี้...’ นักฆ่าหัวเงินมุ่นคิ้วเคี้ยวอมยิ้มอย่างเสียดาย
“บอสวางกำลังรอเก็บกวาดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดหลังชนะศึกชิงแหวน
ทั้งหมดเป็นยอดฝีมือรองลงมาจากระดับผู้บริหารอย่างเรา”
มาม่อนลอยตัวไปมาแสดงความเหนือชั้น
“เดี๋ยวก่อนนะคะ
ระหว่างการแข่งทางเราขอห้ามไม่ให้มีคนนอกเ—”
“ม่ายรู้ม่ายสน~ ชิชิชิชิ” เบลหันไปตวัดมือใส่เชคเบคโล่ที่เข้ามาห้าม
เชือดหญิงสาวผู้ทำหน้าที่เป็นกรรมการ
สถานการณ์ที่วุ่นวายทำให้เชคเบคโล่อีกคนที่เหลืออยู่ตัดสิทธิ์ฝั่งวาเรียในการแข่งและยกเลิกอินฟาเริดฝั่งผู้ชมของสึนะ
แต่ทว่ามาม่อนเองก็เค้นหัวเราะและกล่าวว่าตนได้ตุกติกกับระบบนั่นไปก่อนแล้วทำให้มันยังคงทำงานอยู่
ซึ่งถ้าเกิดทำลายจากข้างในมันก็จะระเบิดตัวเองอย่างรุนแรง
“เอ๊ะ?... มีคนกำลังมา”
โคลมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้รับการติดต่อจากมุคุโร่ผ่านทางจิต
กลุ่มวาเรียสามคนปรากฏตัวขึ้นสร้างรอยยิ้มให้กับเบลเฟกอลก่อนจะกลายเป็นสีหน้าตื่นตะลึงของพวกเขาเพราะสิ่งที่รอไม่เป็นไปดั่งหวัง
“ขอรายงานครับ!
วาเรียคนอื่นนอกจากพวกเราเสียท่าให้ศัตรูหมดแล้วมันเก่งเกินไป! ชายผู้เหมือนมารร้ายนั่น!!”
หลังลูกตุ้มเหล็กยักษ์ที่เหวี่ยงมาใส่พวกเขาชายผู้หนึ่งก็ปรากฏตัว
“อย่าเข้าใจผิดไปล่ะวองโกเล่ ฉันไม่ได้มาช่วย
แต่มาเพื่อตอบแทนบุญคุณ!” ลันเซียหันมายิ้มให้สึนะ
ร่องรอยการสิงสู่ของมุคุโร่สร้างสายสัมพันธ์ทางจิตเอาไว้กับร่างที่เขาทำสัญญาด้วย
“คุณลันเซีย!”
สึนะใจชื้นขึ้นเมื่อมีพรรคพวกที่แข็งแกร่งตามมาสมทบในสถานการณ์ที่กำลังระส่ำระสาย
ซีลอนแกว่งเท้าอยู่บนอาคารจึงนึกครึ้มโดดลงมาย่างเท้าเข้าสนามรบขนาดย่อมด้วยอีกคนแต่ไม่ได้เพื่อเข้าไปสู้
ไม่มีทางเลยที่วาเรียเพียงสองคนในสภาพไม่พร้อมจะต่อกรกับจำนวนของฝั่งสึนะที่มากกว่า
และลันเซียเองก็ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในอิตาลี่เหนือลำพังเพียงกำลังรบของเขาคนเดียวก็กินขาดได้ไม่ยากแล้ว
เชคเบคโล่ยึดแหวนนภาคืนจากซันซัสตามกฎเพื่อส่งมอบให้ผู้สืบทอดที่แท้ตามการแข่งขัน
“ตามที่พวกแกต้องการ...
คำทำนายเป็นจริงแล้วคงจะชอบใจล่ะสิ” ซันซัสเอ่ยจิกกัดอย่างหงุดหงิด
เขาพยายามวางแผนอย่างรอบคอบมาตลอดและอดทนรอทั้งที่ไม่ชอบแต่กลับลงเอยไม่เหมือนตามที่ตั้งใจ
“ขอแย้งหน่อยค่ะ
นี่ไม่ใช่ความต้องการของพวกเราและไม่ใช่ผลของการทำนาย...”
เชคเบคโล่ที่เข้าไปหยิบแหวนเอ่ยขึ้น
กล่าวความจริงหนึ่งข้อที่ซันซัสไม่ได้รู้ตลอดมา “ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
หน้าที่ของท่านจบลงแล้วค่ะ”
ซีลอนนั่งยอง ๆ ข้างบอสแห่งวาเรียด้วยรอยยิ้มเสแสร้งที่ไม่ต้องปั้นแต่งมากนักกับคนที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ
“เหนื่อยหน่อยน้าเฮีย~ แต่เดี๋ยวผมแบกไปโรงหมอให้เอง”
“ฮึ... ไอ้พวกเจ้าเล่ห์เอ๊ย”
ซันซัสทิ้งท้ายไว้ก่อนสลบ เชคเบคโล่ประกาศผลใหม่
“ผู้ที่จะได้เป็นรุ่นถัดไปคือซาวาดะ
สึนะโยชิ และผู้พิทักษ์ทั้งหกค่ะ!”
นั่นคือประโยคสุดท้ายของค่ำคืนนั้น
ในเวลาต่อมาทางสึนะจึงได้มีงานฉลองขึ้นโดยใช้เรื่องบังหน้าเป็นงานเลี้ยงฉลองที่แรมโบ้หายดีทั้งที่จริงคือการฉลองให้สึนะที่ได้รับตำแหน่งเดชิโม่
แม้ว่าจะยังไม่ต้องขึ้นตำแหน่งทันทีเพราะรุ่นที่เก้ายังอยู่และอาการดีขึ้นมากแล้วก็ตาม
“ทาเคซูชินี่อร่อยจังแฮะ แต่แบบไม่มีวาซาบิอร่อยที่สุดแล้วอ่ะนะ”
ซีลอนออกความเห็นปากก็เคี้ยวซาชิมิไปพลาง
“วาซาบินี่ไม่เผ็ดสักหน่อยน่าจะกินได้นี่นา...”
เอิร์ลเกรย์หันไปยิ้มเจื่อนใส่แฝด ทั้งคู่นั่งอยู่ร่วมงานฉลองด้วย
“โอ้! บ้านซาวาดะมาสักที!” พ่อของยามาโมโตะเอ่ยอย่างดีใจที่เพื่อนลูกชายมากันครบครึกครื้นในร้านของเขา
““ยินดีด้วยน้า~”” ฝาแฝดชูแก้วน้ำผลไม้ขึ้นสูงใส่เจ้าภาพพอเป็นพิธี
“แล้วไว้นั่งเก้าอี้นั่นเมื่อไหร่ฉันค่อยไปอยู่หลังเก้าอี้นายนะซือคุง~” ซีลอนฉีกยิ้มสร้างใบหน้าที่อารมณ์ดีได้อย่างแนบเนียนเพราะรสอาหารก่อนหน้า
“คือว่าผมไม่ได้อยากเป็นรุ่นที่สิบ...”
สึนะห่อเหี่ยวลงเล็กน้อยใครต่อใครก็ไม่ฟังเขาเลยสักนิดเขาแค่ไม่อยากให้ชายที่น่ากลัวอย่างซันซัสสืบทอดวองโกเล่ก็เท่านั้น
“อ่านะ... บอกไปแล้วนี่ว่าไม่ใช่เรื่องที่นายจะตัดสินใจคนเดียวสุดท้ายเดี๋ยวนายก็มายืนฝั่งนี้เองนั่นแหละพยายามเข้า~” ซีลอนไหวไหล่ไม่ได้มองเห็นความเดือดเนื้อร้อนใจของรุ่นน้องแต่อย่างใด
“ฮะๆๆ
พี่ดีโน่เองก็เคยพูดงั้นเหมือนกันแล้วดูนั่นดิ”
ซีลอนสัพยอกบอสแฟมิลี่พันธมิตรแล้วชี้ไปทางม้าพยศที่ยิ้มเจิดจ้าร่าเริงอยู่กับงานเลี้ยง
เขาไม่มีบรรยากาศของมาเฟียสักนิด เหมือนรุ่นที่เก้า เหมือนสึนะ
“ไม่ชอบมาเฟียคาวเลือดนายก็สร้างแก๊งที่ขาวสะอาดขึ้นมาดิ
จะไปยากอะไร” รุ่นพี่หัวเงินประสานมือหลังท้ายทอยไม่เข้าใจว่าติดใจตรงไหน “ทำให้แก๊งในรุ่นของตัวเองเป็นอย่างที่ตัวเองชอบ
บอสที่ไหนเขาก็ทำกันแบบนี้ นายจะทำบ้างก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน
ปู่ป๋าเองก็เป็นมาเฟียใจดีนะ
ไม่ค่อยได้ทำอะไรนอกกฎหมายนักหรอกส่วนใหญ่ก็ดูแลคุ้มครองพื้นที่ของตัวเองคอยเก็บกวาดพวกผิดกฎหมายที่ล้ำเส้นเข้ามากบดานหรือค้าขายในเขตพวกเรา”
ซีลอนยกตัวอย่างให้ฟัง
“มีเรื่องแบบนั้นด้วย!?” สึนะผงะไป
“มีดิ ก็อย่างเช่นกำจัดพวกค้ายาในเขต
หรือพวกค้ามนุษย์ บางกลุ่มมันซื้อตำรวจกับศาลไว้แล้วหนีไปเรื่อย
เรื่องบางอย่างในเมื่อกฎหมายทำอะไรไม่ได้ก็ใต้ศาลเตี้ยในเขตพวกเราจัดการ
เราจะดีกับคนที่ทำดี และจะร้ายกับพวกนอกคอก
วองโกเล่ที่ฉันรู้จักของปู่ก็เป็นงี้แหละ แต่ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะว่ามันมีพวกบ้าเลือดชอบสงครามอยู่ด้วย
เพราะฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
นักฆ่าหัวเงินแสยะยิ้มร้ายเหล่มองรุ่นน้องที่จะเป็นบอสของเธอในอนาคตสักวัน
“อึ๋ย...”
สึนะทำหน้าปูเลี่ยนไม่แปลกใจเท่าไหร่แต่ว่าทั้งซีลอนทั้งมุคุโร่มีบางอย่างที่เขาก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
ปากบอกว่าอันตรายระวังเอาไว้เถอะแต่บางที ก็คงมาเพื่อช่วยเหลือจริง ๆ นั่นแหละ
“แล้วเอาไว้นายขึ้นรับตำแหน่งเมื่อไหร่ฉันจะบอกความลับให้ฟัง
สิ่งที่นายต้องรู้เพื่อใช้ควบคุมฉัน แต่ระวังล่ะ เพราะถ้านายเลือดผิดขึ้นมาล่ะก็ ฉันพร้อมจะแว้งกัดฝังคมเขี้ยวลงบนคอของนายถึงตายนายเสมอ...ซือคุง~” ดวงตาวาววับสีไพลินประกายสนุกสนานมองไปที่เดชิโม่ของตน
จินตนาการถึงอนาคตที่สว่างไสว
และหนทางข้างหน้าว่าเด็กชายข้างตัวจะนำพาวองโกเล่ไปในทิศทางไหน...
‘คงมีเรื่องสนุกรออยู่นั่นแหละ~’ เธอคิดเช่นนั้นคลายมือลงแล้วสอดในกระเป๋าเสื้อคลุมตัวเองหันไปเฮฮากับฝาแฝดในงานเลี้ยงปล่อยให้สึนะต้องรับมือกับอาหารพิษของเบียงกี้อย่างไม่คิดจะช่วยแต่อย่างใด
-- ญี่ปุ่น 8 ปีต่อมา --
“อีกไม่กี่เดือนก็ใกล้จะครบเก้าปีแล้วสิ
ใกล้ได้ฤกษ์ฉลองแล้วแฮะ เปิดไวน์ที่สะสมเอาไว้ดีไหมนะ?” นักฆ่าหัวเงินลูบคางแล้วเหล่ขอความเห็นกับวายุหนุ่มที่กำลังพ่นควันอยู่ข้างตัว
“คิดจะอวดไวน์ร้อยปีอีกแล้วรึไงหา?
น่าหมั่นไส้ฉิบ แต่ก็เอาสิ วันฉลองเก้าปีของท่านรุ่นที่สิบจะให้ใช้ไวน์กะหลั่ว ๆ
ได้ยังไง” โกคุเทระพ่นหายใจพร้อมควันออกมา
“เดี๋ยวนะแล้วทำไมแกดันมีไวน์ร้อยปีสำหรับฉลองรับตำแหน่งทุกปีเลยสิน่า...” วายุหนุ่มขมวดคิ้วหนัก
“พอดีมีเส้นสายกับไร่นิดหน่อยเลยได้โควตาเป็นลูกค้าสำหรับไวน์ทุกล็อตการผลิตแน่นอน
ที่เหลือก็กว้านซื้อพวกบ่มใกล้ครบร้อยปีเก็บเอาไว้รอไล่เปิด
แค่นี้ก็มีไวน์ร้อยปีสำหรับทุกงานฉลองแล้ว” ซีลอนไหวไหล่ดึงมวนบุหรี่ขึ้นมาคาบแล้วแบมือใส่วายุ
เจ้าของซองบุหรี่ขมวดคิ้วเขาไม่เคยเห็นหล่อนสูบบุหรี่สำเร็จสักครั้ง
และไม่ว่าจะเป็นความหวังหรือแค่การอยากลองของของหล่อน
กับเพื่อนที่ทำงานด้วยกันมาหลายปีเขาจะช่วยสนองอย่างการจุดไฟให้หน่อยก็ได้
“ไม่จำเลยนะครับว่าไม่เคยสูบสำเร็จน่ะ...”
มุคุโร่ยังคงเหมือนผีเดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ ยื่นมือมาบี้ปลายบุหรี่ที่ติดไฟของนักฆ่าสาวทิ้งลงพื้น
“อะไรวะ...”
นักฆ่าพ่นถอนหายใจลูบหน้าเซ็ง ๆ “ไม่อร่อยหรอกครับคุณเคยถามโกคุเทระแล้วนี่”
มุคุโร่เลิกคิ้วยิ้ม ๆ
“ได้ยินว่ากำลังคุยเรื่องเก่า ๆ
ก็เลยอยากร่วมวงด้วยนิดหน่อย...” คนตาสองสีกระตุกยิ้ม
“ไม่รู้สิน้า” ซีลอนไหวไหล่
ไม่คิดจะคุยเรื่อยสมัยเก่าต่อเพื่อกวนประสาทกลับ เธอเหล่มองซองบุหรี่ของโกคุเทระนิดหน่อย
เจ้าของซองบุหรี่ก็ยกมือปิดฝาแล้วเก็บเข้ากางเกงอย่างไม่คิดจะให้อีกฝ่ายได้หยิบไปเปลืองอีก
“เอานี่ไปแทนแล้วกันครับ” มุคุโร่ส่งกล่องเยลลี่เคลือบช็อกโกแลตให้ถึงมือนักฆ่า
เธอไม่ได้เรื่องมากอะไรรับมาเปิดกินเล่นฆ่าเวลาทันที
“ไม่เคยคิดเลยนะว่าพวกเราจะมาถึงจุดที่ยืนคุยกันแบบนี้ได้”
โกคุเทระบี้บุหรี่ทิ้ง
เขาอยากสูบต่ออีกหน่อยแต่สายตาเชือดเฉือนของผู้พิทักษ์สายหมอกดันทำเอาเขาหมดอารมณ์
“นั่นสินะ คนนึงก็ปากพูดจ้องชิงร่างแต่ก็ยังไม่เห็นลงมือสักที
ส่วนอีกคนก็ใจร้อนฉิบหายไม่คาดฝันถึงมุมที่แกจะยืนสูบบุหรี่ตีหน้าเครียดกับลูกน้องที่ไม่ส่งข่าวมาเสียที”
นักฆ่าชี้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ขนาบตนปากก็เคี้ยวขนมของตนไป
“นักฆ่าลำดับสิบเอ็ดที่ปากบอกว่าใครจะชนะก็ไม่มีปัญหา
แต่เอาเข้าจริงตอนท่านรุ่นที่สิบขึ้นตำแหน่งได้สองปีก็บ่นกระปอดกระแปดว่างานน้อยนี่ก็คิดไม่ถึงนะ”
โกคุเทระเค้นหัวเราะขึ้นจมูกเยาะเย้ยใครบางคน
“รวมพลคนไม่น่าญาติดีกันเหรอเนี่ย
แปลกตาจัง~ ฮะๆๆๆ กำลังคุยอะไรกันอยู่ขอสนุกด้วยดิ” ยามาโมโตะโผล่มาร่วมวงคล้องแขนพาดไหล่ผู้พิทักษ์วายุและนักฆ่าหัวเงินที่เวลานี้เป็นเงาหลังเก้าอี้รุ่นที่สิบ
“กำลังพูดถึงเรื่องเก่า ๆ
เลยล่ะครับ แล้วนี่นัดรวมพลผู้พิทักษ์เหรอครับ? ปล่อยให้โคลมที่น่ารักของผมไม่ได้บัตรเชิญด้วยได้ยังไง?”
มุคุโร่ขมวดคิ้ว
“ถ้าไม่ได้บัตรแกจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ไง
ใช้สมองหน่อยสิวะ” ซีลอนเหล่มองใช้หลังมือเคาะอกอีกฝ่าย
“แหม
ก็โคลมที่น่ารักของผมเขาเซ้นส์ดีนี่ครับ” มุคุโร่หัวเราะในลำคอโอ้อวดหญิงสาวที่ถูกเขาสิงและใช้มายาคลุมร่างอยู่ตอนนี้
“ก็ต้องขอบคุณเซ้นส์โคลมจริง ๆ
อ่ะนะ ได้เธอช่วยเอิร์ลที่รักของผมไว้หลายครั้งเลยล่ะ ได้มาอยู่ด้วยแล้วหายห่วงขึ้นมาเปราะนึง”
นักฆ่าโคลงหัว
“เดี๋ยวนี้ก็ยังซวยแปลก ๆ
อยู่สินะ?” ยามาโมโตะเลิกคิ้วดึงแขนกลับ
“อ่า... เดี๋ยวของร่วงใส่
เดี๋ยวของพุ่งใส่ หนัก ๆ ก็รถเฉี่ยวกับมีดร่วงใส่ลงมาอะไรทำนองนั้น
ไม่สบายใจให้อยู่คนเดียวเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรเพราะถ้าผมไม่ได้อยู่ด้วยก็จะวานให้หลาย
ๆ คนช่วยจับตาแล้ว” ซีลอนยักไหล่ยิ้ม ๆ “คนทั้งวองโกเล่รู้ดีว่าถ้าจะให้ผมถวายหัวเขาต้องปลอดภัย~”
หลายปีมานี้ใช้เวลาร่วมกันก็ต่างรับรู้และเข้าใจความไม่ปกติของนักฆ่าหัวเงินคนนี้ขึ้นมาก
ทั้งเหตุผลว่าทำไมคนที่คอยกุมบังเหียนสัตว์ร้ายถึงได้มีแค่เอิร์ลเกรย์กับรุ่นที่เก้า
ทั้งเหตุผลของความเก่งกาจเหนือมนุษย์ ไหนจะพลังนอกเหนือเพลิงมายา
เหตุผลที่คนตรงหน้ามีไฟผสม และการเสแสร้งแกล้งยิ้มอย่างเป็นมิตรแทบตลอดเวลา
และนานพอจะรู้ว่าถ้าไม่อยากคุยกับอะไรที่เหมือนคนให้ส่งขนมอร่อย
ๆ ให้แทะเล่นไปพลางระหว่างบทสนทนาจะช่วยได้มากทีเดียว
“เห็นแบบนี้แล้วนึกถึงวันนั้นเลยแฮะ”
ยามาโมโตะหัวเราะและยิ้ม ยกมือยีผมสาวนักฆ่าที่มากวัยกว่าหนึ่งปีอย่างไม่กลัวตาย
โกคุเทระทำหน้าสยองแต่ไม่ได้พูดอะไร
ไม่เชิงสิทธิ์พิเศษอะไรแต่เพราะซีลอนไม่เห็นถึงเจตนามุ่งร้ายของเจ้าบ้าเบสบอลก็เลยไม่ได้มีท่าทีเวลาที่เขายีผมหรือกอดคอหล่อน
แน่นอนว่าเรียวเฮเองก็เหมือนกัน
“ไม่คิดเลยนะว่าเงาหลังเก้าอี้ของท่านรุ่นที่เก้าจะปลงใจสวามิภักดิ์กับสึนะน่ะ
ดีใจจังที่เป็นพวกเดียวกัน” ชายพกดาบญี่ปุ่นดูอารมณ์ดีเสมอ
พวกเขาเติบโตขึ้น สูงขึ้น
ภูมิฐานและเก่งกาจมากขึ้น เป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีเพราะนอกจากทางกายภาพแล้วสติปัญญากับฉับแหลมขึ้นด้วย
นักฆ่าหัวเงินพึงพอใจมากทีเดียวที่ไม่ต้องมาทำงานให้คนไม่มีหัวคิด
“พอดีว่าอยากเห็นเงาร่างใครบางคนให้ชัดอีกสักหน่อยก็เลยเผลอเดินตามมาด้วยน่ะ...
พวกนายยังไม่เคยเห็นภาพสีน้ำมันของรุ่นที่หนึ่งสินะ?” ซีลอนมองรอบวงแล้วเลิกคิ้ว
“ฉันยังเคยเห็นแค่ภาพรวมของรุ่นที่แปดกับรุ่นที่เก้าเอง...ไม่ได้โตมาในคฤหาสน์นั่นเสียหน่อยจะไปเคยได้ยังไง”
โกคุเทระผู้เคยอยู่อิตาลี่ค่อนแคะ
“เออเห้ยนี่ก็ลืมไป ...จะอธิบายภาพนั้นยังไงดีนะ
รุ่นที่หนึ่งน่ะสง่างามมากเลยล่ะ และเงาร่างที่สูงส่งนั้นคล้ายซือคุงมากทีเดียว
ถ้าโตแล้วเป็นได้แบบนั้นก็คุ้มค่าที่จะตามมาล่ะนะ” ซีลอนหัวเราะในลำคอเสียงทุ้ม “เดี๋ยวพวกนายต้องประชุมกัน
งั้นฉันไปดีกว่าเพราะถ้ามีงานเดี๋ยวบอสก็เรียกฉันไปคุยส่วนตัวเอง”
นักฆ่าหัวเงินประสานมือหลังคอเดินออกไปจากเขตสูบบุหรี่
“...นี่คิดบ้างไหมว่าทำไมเธอถึงเข้ามาที่นี่ทั้งที่ไม่ได้สูบน่ะ?
สงสัยจัง” ยามาโมโตะขยับไหล่โคลงหัวเมื่อนึกถึงที่แล้วมา
เวลาโกคุเทระสูบบุหรี่บางครั้งเธอจะโผล่มาชวนคุยแล้วก็เนียนหยิบบุหรี่ไป
“...”
โกคุเทระเหล่มองมุคุโร่ที่เดินออกไปเช่นกัน
“อัญเชิญคนตายยากเฉพาะกิจละมั้ง”
ผู้พิทักษ์วายุเอ่ยติดตลกแล้วหลุดหัวเราะออกมา “เพราะเธอไม่เคยแอบสูบได้สำเร็จ”
โกคุเระเขย่าซองบุหรี่คิดจะสูบอีกสักมวน
“ไปได้แล้วน่า
แค่นี้กลิ่นก็ติดตัวแล้วสึนะไม่ห้ามก็จริงแต่เป็นห่วงคนสูบจัดอย่างนายแน่”
ผู้พิทักษ์วรุณคลี่ยิ้มตีไหล่เพื่อนสนิท
“ชิเจ้าบ้าเบสบอลเอ๊ย”
คนหัวร้อนง่ายส่งเสียงหงุดหงิดแต่ก็ยอมออกจากเขตสูบบุหรี่เตรียมเข้าประชุมใหญ่
ศูนย์บัญชาการใต้ดินสร้างขึ้นเพื่อความสะดวกของการเข้าออกและรวมพลโดยที่ไม่ตกเป็นเป้าสายตาคนนอกง่าย
ๆ ซีลอนที่เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยในฐานไม่นานนักก็ถูกเรียกประชุมจากสึนะเองโดยตรงเช่นกัน
นักฆ่าหัวเงินเดินเข้าห้องประชุมพร้อมอมยิ้มมากมายในมือ
“รุ่นพี่!” สึนะเห็นอีกฝ่ายก็ยกมุมปากทั้งสองข้างขึ้นเล็กน้อย
ถึงจะสูงขึ้นแต่ก็ยังคงเตี้ยกว่านักฆ่าหัวเงิน
“อืม ๆ อ่ะ ให้อันนึงแล้วกัน”
เจ้าของอมยิ้มส่งลูกอมราคาแพงให้เจ้านายหนึ่งชิ้นก่อนจะแกะเข้าปากหนึ่งชิ้นวางพวกมันที่เหลือลงบนโต๊ะกลางมือซ้ายล้วงกระเป๋าเสื้อโค้ท
“ไม่ใช่เรื่องนี้สักหน่อย
แต่ก็ทานละนะขอบคุณ” สึนะยิ้มเจื่อนกับนิสัยชอบแกล้งไม่อ่านบรรยากาศของเงาหลังเก้าอี้ตัวเอง
ตั้งแต่ที่เขารับตำแหน่งบอสวองโกเล่รุ่นที่สิบ นอกจากภาระหน้าที่แล้วเขาก็ได้ซีลอนมาเป็นผู้คุ้มครองลับ
ๆ และคอยทำงานสกปรกให้โดยตรงแม้ว่าเขาจะไม่เคยสั่งให้เจ้าหล่อนไปเก็บใครเลยก็ตาม
“ช่วงนี้ถ้าจะไปอิตาลี่ระวังหน่อยนะครับ
เริ่มมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้น” สึนะเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
“คร้าบ~ แล้วบอสอยากได้อะไรปะเดี๋ยวซื้อมาฝาก” ซีลอนขานรับด้วยรอยยิ้มเหมือนตลอดมาถามกลับอย่างไม่ใส่ใจ
“ผมพูดจริงนะรุ่นพี่...
มันเริ่มไม่ปกติที่มีหลายแฟมิลี่โดนเก็บไปอย่างไม่มีเหตุผล
ถึงพวกเราจะรีบวิ่งวุ่นหาข่าวกันก็เถอะ” สึนะพูดทั้งที่คาบอมยิ้มอยู่
“อืม...
ยังไม่มีเครือข่ายไหนของฉันส่งข่าวมานี่สิ” ซีลอนขมวดคิ้วลูบคางตัวเองหยิบมือถือขึ้นมาเช็คไม่มีแม้กระทั่งข้อความเข้า
“เอาเป็นว่าจะระวังนะแล้วก็ไหน ๆ ไปเที่ยวอิตาลี่แล้วจะสอดส่องให้เองเลยแล้วกัน
พอดีแฟมฯพันธมิตรส่งบัตรเชิญร้านอาหารมาอาจจะมีข่าวดี ๆ ก็ได้จริงไหม~” ซีลอนโชว์บัตรเชิญร้านอาหารอย่างหรูราคาแพงให้บอสดู
กระดาษดำพิมพ์ทองปั้มลายนูน
“ผมก็ห้ามรุ่นพี่ไม่เคยอยู่ซะด้วยสิระวังตัวมาก
ๆ เลยนะครับ หรือจะพาโกคุเทระไปด้วยไหมครับ?” ซีลอนไขว้แขนปฏิเสธทันที “ขอผ่าน
ฉันจะไปเดทกับแฝดที่รัก คนนอกงดเจ๋อ!”
พวกเขาประชุมกันเรื่องที่แฟมิลี่มาเฟียหลายแห่งหายไปอย่างลึกลับบ้างก็ถูกกวาดล้างยกแก๊ง
ตอนแรกก็มองมุคุโร่ด้วยสายตาเชิงตำหนิแต่เขายกมือขึ้นปฏิเสธทันทีว่าไม่ใช่ฝีมือของตนถามซีลอนได้...
ทว่าสายหมอกที่ขอให้นักฆ่าหัวเงินยืนยันความบริสุทธ์ของตนก็เป็นเรื่องที่ฟังดูแปลกยิ่งกว่าเสียอีก สึนะเลยต้องเรียกเงาหลังเก้าอี้ตัวเองเข้ามาในห้องประชุมระดับผู้บริหารด้วยอย่างช่วยไม่ได้
“แล้วที่ว่ามุคุโร่บอกให้ถามรุ่นพี่เรื่องแฟมิลี่ที่หายไปไม่ใช่ฝีมือเขานี่...”
สึนะถามไปตรง ๆ เขาไม่ถนัดเลียบเคียงถามซีลอนเท่าไหร่อีกอย่างหล่อนก็เป็นคนตรง ๆ
อยู่แล้วการอ้อมค้อมใส่น่าจะทำให้เธอหงุดหงิดมากกว่า
“วันไหน?” นักฆ่าหัวเงินขมวกคิ้วกัดอมยิ้ม
เธอขมวดคิ้วแล้วเปิดปฏิทินในมือถือขึ้นดู
“เอ๋?”
สึนะส่งเสียงทั้งตกใจทั้งสงสัย
“ฉันถามว่า มันบอกให้มาถามว่ามันไม่ได้ทำนี่หมายถึงวันไหน”
คำตอบที่เหนือความคาดหมายทำให้โกคุเทระวงวันที่ของแต่ละคดีส่งให้
ซีลอนรับมาแล้ววางลงกับโต๊ะไถจอมือถือ
“ยืนยันให้ได้ครึ่งนึง
สามเดือนที่แล้วฉันพาแฝด โคลม กับลูกน้องไปเที่ยวบาหลีที่อินโดนีเซีย แล้วมันก็โผล่มายึดร่างสาวน้อยของฉันเสียฉิบเกือบทั้งทริป”
ซีลอนวางมือถือลงบนโต๊ะปัดรูปถ่ายให้ดู
“วีคถัดมาบินไปต่อที่เวียดนามย่านดานัง
เพราะนัดติดต่อกับเส้นสายของฉันที่ไทยนิดหน่อย มันก็โผล่มาอีก
โอ้ยเหม็นขี้หน้าฉิบหาย อดเห็นโคลมใส่อ่าวหญ่ายเลย” โกคุเทระกลั้นขำริมฝีปากบิดเบี้ยวเพราะข่มยิ้มตัวเองเอาไว้
เขานึกอยู่แล้วว่าไอ้วิธีที่ชอบมาดึงบุหรี่เขาทั้งที่ไม่เคยแอบสูบสำเร็จน่ะหมายความว่ายังไง
“สองเดือนก่อนไปโตเกียวดิสนีย์แลนด์เข้าบ้านผีสิงยังเป็นโคลมตอนออกดันเป็นไอ้เวรนี่
ทริปพาไปถลุงเงินย่านการค้าเลยพับไป
อ้อแล้วก็สามวีคที่แล้วมีนัดเจรจาพันธมิตรเพิ่มแล้วโคลมอยู่ใกล้ฉันที่สุดก็เลยเรียกมารับรู้ด้วยแต่คนเข้าประชุมเป็นหมอนั่นอ่ะนะ”
ซีลอนชี้นิ้วไปที่มุคุโร่ก่อนจะยักไหล่ว่าที่สงสัยก็พูดไปหมดแล้ว
“เป็นห่วงโคลมจังละสิ! ก็พอเข้าใจอยู่เพราะถ้าทำได้ฉันก็อยากตามไปดูแลเคียวโกะใกล้ ๆ
สุดขั้วเหมือนกันนะ!” เรียวเฮหัวเราะออกมาเสียงดัง
“คุณแรมโบ้ว่าไม่ใช่เพราะแบบนั้นอ่ะ...”
ผู้พิทักษ์อัสนีที่โตขึ้นมองผู้พิทักษ์สายหมอกกับเงาหลังเก้าอี้บอสด้วยสายตาเปลี่ยนไป
“อะไรกัน อยู่กับผมน่าห่วงตรงไหน
ออกจะใจดีและป๋าขนาดนี้ โปรยเงินให้ถลุงได้ตามใจทุกอย่างเลยนะ” ซีลอนแสยะยิ้ม
“เน้อแรมโบ้” เธอหันไปหาพวกที่มักจะหนีบไปเที่ยวด้วยบ่อย ๆ แรมโบ้พยักหน้าอย่างรวดเร็วให้ป๋านักเปย์ที่แม้บางเวลาจะดูกลวงเปล่าไปหน่อย
แต่ถ้าทริปนั้นมีคุณเอิร์ลเกรย์พวกเขาก็ไม่ต้องทนรับมือกับสีหน้าแสร้งทำอันแนบเนียนของซีลอนนัก
“อยู่ด้วยนานเดี๋ยวโคลมของผมจะเสียคนเอาสินะครับ
เลยต้องโผล่ไปขวางบ่อย ๆ” มุคุโร่หัวเราะในลำคอเหล่มองนักฆ่าหัวเงินที่เก็บมือถือไปเดาะลิ้นชักสีหน้าใส่เขาไป
“ถ้างั้น...ประชุมครั้งนี้ก็ให้มุคุโร่ตามรุ่นพี่ไปด้วยแล้วกันครับนี่เป็นคำสั่ง”
สึนะรู้ดีว่าการขอร้องซีลอนอัตราส่วนที่เธอจะขอปฏิเสธคือหกในสิบ แต่ถ้าเป็นคำสั่งโอกาสที่เธอจะทำตามคือร้อยเปอร์เซ็นต์
รุ่นพี่ของเขาใจดีมากและพยายามทำตัวเป็นมนุษย์ปกติอยู่เสมอ เหตุการณ์ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ช่วยยืนยันอะไร
ๆ ได้ไม่น้อยเลย
‘ถ้าฉันที่เป็นคนปกติก็น่าจะทำแบบนี้’ นั่นคือประโยคที่เขามักได้ยินเวลาเจอกับตัวเมื่ออีกฝ่ายใจดีเป็นพิเศษ
ใจดีเหมือนกับพวกเขาน้อง ๆ ที่เธอคอยตามดูแล ใจดีกับโคลมกับแรมโบ้
และยังรวมไปถึงแก๊งสาว ๆ อย่างเคียวโกะ ฮารุ ฮานะและเบียงกี้
นอกจากงานของแฟมิลี่ซีลอนก็คอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยของพวกเธอเป็นระยะเพราะนับว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวองโกเล่
“ชิ
เป็นแรมโบ้หรือยามาโมโตะไม่ได้รึไง?” ซีลอนถอนหายใจล้วงมือใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองแล้วหรี่ตามองบอสบนเก้าอี้หัวโต๊ะ
“แฮะๆ ไม่ได้ครับ
แรมโบ้ห้ามรุ่นพี่อยู่ที่ไหน ส่วนยามาโมโตะมีงานอื่นต้องไปทำ”
สึนะเกาแก้มยิ้มเจื่อน
เขาไม่ถนัดการสั่งคนเท่าไหร่แต่เพราะอยู่ด้วยกันมานานก็พอจะรู้นิสัยลึก ๆ
ของแต่ละคนบ้าง ถ้ามุคุโร่อยู่กับซีลอนเธอจะระวังตัวมากขึ้น ไม่รู้ว่าไปมีคดีอะไรกันมาแต่เขาก็หยิบประโยชน์ตรงนี้มาใช้งาน
อีกอย่างกับคนอื่น ๆ ในบรรดาผู้พิทักษ์ล้วนหัวอ่อน ตามความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเธอไม่ทัน
อย่างน้อยมุคุโร่ก็เป็นคนหัวไวไหวพริบดีและเขามั่นใจว่าดีไม่ดีอาจจะเจ้าเล่ห์กว่าซีลอนก็เป็นได้
“เข้าใจแล้วคร้าบ
ตามบอสสั่งเลยก็ได้” ซีลอนถอนหายใจเล็กน้อย “แล้ว...เรียกมาถามแค่นี้?”
เธอเลิกคิ้ว
สึนะยื่นซองเอกสารให้นักฆ่าหัวเงินด้วยสองมือ
“รบกวนด้วยครับ แต่ว่าถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ถึงตายนะ...”
เปลี่ยนแก๊งให้เป็นในแบบที่ตัวเองชอบมักเป็นสิ่งที่ผู้เป็นหัวทำกันบ่อย
ๆ ในสังคมมาเฟีย สึนะที่เข้ารับตำแหน่งมาหลายปีเองก็เดินตามรอยนั้นและเปลี่ยนให้วองโกเล่สงบสุขสว่างไสวไปตามครรลองเท่าที่จะทำได้
“ค้ายาอีกละ โอเค
เดี๋ยวจัดการให้ไม่ต้องห่วง”
ซีลอนไหวไหล่รับเอกสารไปไล่กรีดข้อมูลบุคคลแล้วทำหน้าเบื่อออกมา ตั้งแต่สึนะรับตำแหน่งงานฆ่าก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
และวอร์ริเออร์เองแม้จะเป็นองค์กรใต้วองโกเล่แต่ก็ยังคงทำงานเปื้อนเลือดตามสไตล์ของตน
ทะเลาะกันบ่อย ตีกันทุกงานกระชับมิตร
แต่เธอก็ไม่คิดมากอะไรหรอกเพราะถ้าจะหวังฆ่าสึนะคงต้องข้ามศพเธอไปซะก่อนตามหน้าที่ล่ะนะ
“รุ่นพี่สิต้องห่วงตัวเองครับ!” สึนะเอ่ยย้ำอีกครั้งอย่างหวั่นใจ เงาหลังเก้าอี้เขาดื้อขึ้นรึเปล่านะ?
ฝาแฝดกับมุคุโร่ออกจากสนามบินที่อิตาลี่ก็ลากกระเป๋าเดินทางไปขึ้นรถจากคฤหาสน์ทันทีรถเรียบหรูสีดำ
คนขับรถจากวองโกเล่รู้นิสัยของลูกบุญธรรมท่านรุ่นที่เก้าดีจึงไม่ได้ชวนคุยหรือเปิดประเด็นอะไร
เธอไม่เคยสนใจคนอื่นนอกจากฝาแฝดอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องงานเธอก็พร้อมจะรับฟัง ซีลอนพักสายตาบนรถพร้อมกุมมือฝาแฝดเอาไว้
จังหวะสูบฉีดของเลือดเอิร์ลเกรย์ทำให้เธอสบายใจ ไม่เป็นไร...เขายังอยู่
เป็นอาการเสพติดผสมความวิตกจริตของเธอที่เป็นมานานและเป็นมาถึงตอนนี้
“ได้ข่าวว่าที่นี่มีปัญหาเกิดขึ้น
ทางเราได้ข่าวอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?”
“ครับ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องขยายอำนาจของแฟมิลี่หนึ่งการที่มีแก๊งเล็ก
ๆ มากมายถูกกำจัดไปดูเหมือนเพราะไม่ต้องการจะเข้าร่วมครับคุณหนู พวกเรากำลังตามจับหางพวกมันว่าเป็นคนของแก๊งไหนอยู่
ต้องการคนคุ้มกันเพิ่มไหมครับ?” สมิธอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ เขาเป็นหนึ่งในผู้คุ้มกันใต้บังคับบัญชาของเครือข่ายฝาแฝด
“จัดมาให้หน่อยแล้วกัน
แล้วพวกค้ายาในเขตเราเรื่องไปถึงไหนแล้ว” ซีลอนถอนหายใจเล็กน้อย มันเป็นงานก็ช่วยไม่ได้ที่ต้องพัวพันกับคนหมู่มากแบบที่ปกติไม่ค่อยชอบ
เพราะต้องคอยระวังสีหน้าให้ดี
“ยืนยันข้อมูลตรงกับที่คุณหนูส่งมาครับ
พวกมันซ่อนตัวอยู่ที่คอนโดฯย่านการค้าดูเหมือนจะมีเด็กวิ่งยาเยอะพอสมควร
แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแก๊งไหนเป็นพิเศษน่าจะหนีข้ามเขตมาสร้างตัวใหม่ครับ”
นักฆ่ากลอกตานึกว่าจะจัดการพวกมันที่เข้ามาล้ำเขตยังไงให้หลาบจำโดยไม่ได้ฆ่าดี
“ค่ำนี้มีนัดพวกนายรู้แล้วใช่ไหม
ส่งคนมาเป็นสายข่าวกระจายไว้ด้วยนะ...เผื่อเอาไว้” เอิร์ลเกรย์ไหว้วานอีกเรื่อง
“รับทราบครับ ผมจะส่งคนที่ดีที่สุดไปสามคน”
ความคิดเห็น