ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ฟิคKHR/Reborn]TRICK OR TREAT~ แต่ว่าผมน่ะยังไงก็เลือกหลอกล่ะนะ~

    ลำดับตอนที่ #8 : |8| INSIDIOUS | เลือกข้าง

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 63


    Cr : https://www.pinterest.com/pin/754071531343419403/

    “แค่ฝ่าผ่านพายุไปก็พอ” | Aimer - Torches

    อย่าริไปเห็นใจเชียวล่ะ...แกจะลืมสิ่งที่มุคุโร่ทำลงไปไม่ได้เด็ดขาด รีบอร์นเอ่ยเตือนลูกศิษย์คนปัจจุบัน ได้ยินดังนั้นซีลอนก็พลันนึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมา

    แล้วกรณีผมโอเคเหรอ?นักฆ่าหัวเงินเลิกคิ้ว

    แน่นอนว่าไม่ แต่เคสของแกฝั่งนั้นมันหาเรื่องเราก่อน อันที่จริงแกก็ไม่ควรจะฆ่าหมดห้องแบบนั้นเหมือนกันแถมยังทำพิเรนทร์แบบนั้นอีก รีบอร์นหรี่ตามองลูกศิษย์นักฆ่าอย่างดุร้าย

    แต่ว่าไม่ว่าจะกี่ครั้ง ผมก็จะทำแบบเดิมนะ~’ เธอยิ้มลอยหน้าลอยตาก่อนจะหัวเราะในลำคอประโยคถัดมานั้นเป็นเสียงทุ้มต่ำเย็นเหยียดเข้ากับรอยยิ้มเย้ยเมื่อหวนนึกถึงอดีตของตนในวันที่เขาตาย เอาของของนักฆ่าไปก็ต้องเตรียมใจโดนนักฆ่าตามไปเชือดสิถึงจะถูก ถ้าไม่ได้เตรียมใจเอาไว้ก็แพ้ตั้งแต่เล็งของสูงแล้วช่วยไม่ได้~’

    ด้วยความข้องใจโกคุเทระจึงไปปรึกษาจามาลที่ซีลอนกล่าวว่ารู้เรื่องของเธอดี

    ...ไม่อยากจะพูดเลยแฮะตราบใดที่แกยังไม่ใช่สมาชิกวองโกเล่ที่แท้ แต่ถ้ายัยหนูบอกว่าถามได้งั้นก็คงมั่นใจพอดูว่าฝั่งสึนะจะชนะสินะ... จะเล่านิทานให้ฟังสักเรื่องแล้วกัน จามาลเองก็เป็นหัวกะทิแนวหน้าผู้เคยถูกทาบทามให้มาเป็นสมาชิกวาเรียวายุในรุ่นก่อน เขาถอนหายใจเกาหัวนึกว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดี

    งั้นบอกแค่เรื่องที่บอกได้สิ จะว่าไปหล่อนก็พูดว่าอย่ายั่วโมโหฉันจามาลไม่เคยเตือนรึไงนี่แหละ โกคุเทระเกาหัวอีกคน

    อ้อ...เรื่องนั้นสินะ สิ่งที่ทุกคนในวองโกเล่รู้แต่ไม่พูดกัน จะทำอะไรกับเธอก็ได้แต่ไม่ใช่กับแฝดของหล่อน ห้ามแตะต้องเอิร์ลเกรย์แม้แต่ปลายนิ้ว อีกเรื่องคือเธอไม่เคยออมมือ ห้ามยั่วโมโหหรือไปลองดี แรงก์กิ้งนักฆ่าอันดับ 11 ไม่ใช่ชื่อเสียงไว้อวดอ้างเฉย ๆ หรอกนะ กับฉันเอง ยัยหนูก็ไม่เคยออมมือฉันเลยหยอกเล่นเท่าที่จะไม่เป็นอันตราย คนอื่น ๆ น่ะฉันสามารถเข้าถึงตัวได้ก่อนใช่ม้า~ อย่างสาวสวยเชคเบคโล่ หรือเบียงกี้ แต่ว่ากลับกันถ้าเป็นยัยหนูน่ะนะ หล่อนมักรับรู้ถึงอันตรายได้ก่อนเสมอ รวมถึงการขยับของฉันด้วย แค่รู้ว่าจะเข้าไปหยอกก็ชักปืนขึ้นมายิงแล้ว

    ยิง?!!’

    ใช่ยิงเลยไม่ได้ถือขู่ แถมหล่อนยังเป็นลูกศิษย์นักฆ่าอันดับหนึ่งคงไม่ต้องบอกนะว่าแม่นขนาดไหน...

    แกรอดมาได้ยังไงฟะ โกคุเทระชักสีหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

    ตอนนั้นรีบอร์นอยู่ด้วยน่ะ...อลอนโซ่ที่เป็นพ่อค้าพันธมิตรของแฟมิลี่เราด้วย เธอมีอาจารย์หลายคนเพื่อสอนให้ควบคุมพลังที่มีมากเกินไป รวมไปถึงนิสัยบางอย่างให้อยู่ร่วมกับคนหมู่มาก ตอนนั้นก็เลยรอดมาอย่างฉิวเฉียดละนะ จามาลถอนหายใจ

    พูดอย่างกับหล่อนมีปัญหางั้นแหละ ก็ดูปกตินี่ถึงจะน่ากลัวบ้างไปบางทีก็เหอะ โกคุเทระเลิกคิ้ว

    ถ้าอย่างนั้นมันหมายถึงลางสังหรณ์แกดี ยัยหนูไม่ปกติ นอกจากแฝดกับท่านรุ่นที่เก้าแล้วใครก็ไม่เอาทั้งนั้น นั่นแหละปัญหา อัจฉริยะนักฆ่าที่มีแฝดเท่านั้นที่ควบคุมได้ ไม่ว่ามองมุมไหนก็คือสัตว์ร้าย... เลยต้องสอนให้ควบคุมอารมณ์กับคิดอย่างคนธรรมดา ปกติก็ไม่อะไรแต่จะขัดหูขัดตาเป็นพิเศษถ้าต้องต่อปากต่อคำกับคนประเภทที่ไม่ชอบ อย่างเช่นคนที่อ่อนแอแต่ไม่รู้ว่าอ่อนแอ... ดังนั้นคำเตือนที่บอกว่าอย่ามายั่วโมโห อาจจะหมายถึงแกที่คอยแต่จะพึ่งคนอื่นโดยไม่ลองทำอะไรก่อน จามาลสบตาลูกศิษย์

    ก็อย่างว่าอะน้า~~ พยายามเข้าล่ะโกคุเทระคุง อีกแง่ของอาการไม่ชอบนั่นหมายถึงนายยังเก่งได้มากกว่านี้อีกแต่ตอนนี้ไปไม่ถึงขั้นนั้นน่ะ จามาลหมุนปากกาไปมา

    หลายคนในวองโกเล่รู้กันว่ายัยหนูมันตาแหลม อาจจะเพราะติดตามท่านรุ่นที่เก้าตั้งแต่เด็กเลยพอรู้วิธีมองคนบ้าง แววตาแสนทะเยอทะยานนั่นกับการจ้องสบอย่างไม่เสตาหนี เหมือนถูกงูจ้องเพียงแค่ไม่มีจิตสังหารเท่านั้น

    ทั้งที่บางมุมก็พอจะนับเป็นคนสวยได้หรอกน้าแต่ไม่ไหว ๆ ยัยหนูนั่นเหมาะกับเครื่องแบบทหารมากกว่าเดรสอีก หมอชีกอกลอกตาเสียดาย

     



    ในศึกชิงแหวนเมฆาซีลอนตามมาดูด้วย มอเรตตี้แจ้งเธอมาว่าเขาถึงอิตาลี่แล้วกำลังตามหาผู้ดูแลนอกแก๊งที่บุกเข้าไปช่วยรุ่นที่เก้า สภาพตอนนี้ที่คฤหาสน์เป็นการปะทะกันภายใน ซันซัสได้เล่นตุกติกอย่างที่พวกเขากังวล

    สนามแข่งของเมฆาติดตั้งปืนกลไว้รอบด้านพื้นที่ที่จะไม่ถูกอาวุธกราดใส่มีเพียงตรงกลางเล็กน้อย พื้นดินโดยรอบก็ติดกับระเบิดเอาไว้อีก

    แต่ว่าคู่ต่อสู้ของโกร่ามอสก้าคือฮิบาริ ชายที่แข็งแกร่งเสียจนนักฆ่าหัวเงินคิดว่าถ้าไปสู้กับสัตว์ประหลาดละก็ สัตว์ประหลาดยังต้องแพ้เลยละมั้ง พัฒนาก้าวกระโดดของฮิบาริมาจากประสบการณ์ชกต่อยโดยตรงการที่ได้ดีโน่เวอร์ชันหัวหน้าแก๊งมาเฟียช่วยขัดเกลาทำให้เขาเร็วขึ้น โจมตีแรงขึ้นและรู้จักใช้กลยุทธ์ขึ้นมาบ้าง

    เป็นคนที่ไม่อยากจะยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามเลยน้า ดูทรงแล้วน่าจะปีนขึ้นไปได้อีกนี่สิ แรงค์กิ้งในอนาคตต้องสั่นแหง ซีลอนลูบคางแล้วถอนหายใจ

    “ไม่อยากแรงค์ตกเลยน้า...” เธอพึมพำออกมาขมวดคิ้วมองการต่อสู้ของฮิบาริที่จบอย่างว่องไว แถมยังไปท้าทายซันซัสให้ลงมาตีกันอีก การที่หัวหน้าหน่วยวาเรียยอมลงมาเล่นด้วยก็เป็นหลักฐานมากพอว่าเล่นตุกติกจริง ๆ อย่างซันซัสน่ะเหรอจะลงมือเองถ้าไม่สำคัญ ไม่มีทางปกติเฉดหัวลูกน้องไปทำตลอด

    การที่ซันซัสย้ำตลอดว่าไม่ได้ทำอะไรเป็นการตอบฮิบาริหรือใช้อาวุธทำให้เธอยิ่งขมวดคิ้ว มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

    ตู้ม!!

    โกร่ามอสก้ายิงระเบิดไปทางฮิบาริและเริ่มคลั่งทำลายทุกอย่าง กระทั่งขีปนาวุธขนาดจิ๋วพุ่งเป็นลูกหลงไปโดนอาคารเรียน

    “ระบบทำลายล้างสินะ” ซีลอนลูบคางตีหน้าเครียด “จงใจให้พังเพื่อให้ระบบรวนจนควบคุมไม่ได้...ก็นะ นิสัยสมกับเป็นเฮีย เขาไม่ได้คนอื่นก็ต้องไม่ได้”

    “หึๆฮ่าๆๆๆ เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เลยนะ!” ซันซัสยืนหัวเราะอยู่กลางควันคลุ้งจากระเบิด

    “ไอ้บ้านั่นมันตั้งใจทำให้เหมือนอุบัติเหตุเลยยั่วโมโหฮิบาริสินะ! มันกะฆ่าพวกเราทุกคนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!” โกคุเทระกัดฟันแล้วกดไหล่เจ้าบ้าเบสบอลลงให้หลงเศษคอนกรีต โคลมที่เดินหลงไปก็มีเคนกับจิคุสะช่วยผลักให้นอนราบเพื่อหลบระเบิดแต่โกร่ามอสก้าหันมาจับเป้าหมายเป็นพวกเขาแทน

    “แย่แล้ว!” โกคุเทระล้วงระเบิดออกมาแต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะช่วยอะไรได้ไหม

    ระเบิดกัมปนาทดังสนั่นจากการยิงอาวุธของโกร่ามอสก้าปะทะเข้ากับบางสิ่ง

    ไฟสีส้มของเพลิงนภาลุกไหวอยู่หลังม่านควัน สึนะมาช่วยพวกเขาไว้ทันท่วงที รีบอร์นกับบาจิลตามมาสมทบทีหลังซีลอนก็รายงานสถานการณ์คร่าว ๆ ให้ฟัง

    “งั้นรึ แปลกแฮะ” รีบอร์นขมวดคิ้วขยับปีกหมวกของตน

    “ใช่ไหมล่ะ ไม่ชอบใจเลย... มันมีบางอย่างไม่เมคเซ้นส์ บางอย่างที่ผมไม่รู้” ซีลอนกระสับกระส่ายเมื่อเห็นสึนะต่อสู้กับโกร่ามอสก้า

    “มันอ้อมค้อมเกินไป ทำไมต้องรอให้แพ้ฮิบาริก่อน” รีบอร์นเอ่ยขึ้นบาจิลก็นิ่วหน้าคิดตาม อันที่จริงถ้าหุ่นนั่นมากความสามารถเมื่อคลั่ง ไม่จำเป็นต้องรอให้ฮิบาริชนะน็อกก็ได้

    โทรศัพท์ของซีลอนสั่นสายเรียกเข้าคือมอเรตตี้พอดีกับที่สึนะกำลังผ่าหุ่นนั่นพอดี

    “มีอะไรเพิ่—” เธอสนทนากับปลายสายก่อนที่ทั้งลานจะถูกกดดันด้วยจิตสังหารของนักฆ่าผู้มีพลังนอกเหนือทรีนิเซตเต้ มือที่กำโทรศัพท์เส้นเลือดปูดจนเหล็กกรอบบิดด้วยแรงกำ

    ทั้งคำพูดและสายตาประจักษ์ถึงเตาพลังงานที่ใช้ขับเคลื่อนโกร่ามอสก้า ชายชราคนหนึ่งร่วงลงมาจากหุ่นในสภาพไม่สู้ดีนัก

    ““อะไรน่ะ! มีคนอยู่ข้างใน!?””

    “ผม...เคยพูดไปแล้ว” ซีลอนพึมพำออกมา นอกจากความตกใจเรื่องคนในหุ่นอาวุธทุกคนใกล้ ๆ ต่างก็เหลือบมองอย่างไม่กล้าหันไปสบสายตาโดยตรงกับนักฆ่าลำดับ 11 เธอที่เบิกตากว้าง กัดปากจนแตก เต็มไปด้วยความโกรธเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า คลุ้งไอสีดำราวกับหมอกควันแผ่ออกมาจากร่างของเธอ

    “เป็นไปไม่ได้! ท่านรุ่นที่เก้า!” บาจิลตื่นตะลึงลืมกระทั่งพุ่งเข้าไปช่วย

    “เคยพูดไปแล้ว เคยพูดไปแล้ว...” เสียงของเธอดังขึ้นก่อนจะตวาดออกมาสีหน้า แววตา ทุก ๆ กิริยาและบรรยากาศที่หนาวไปถึงกระดูกสันหลังแล่นมาถึงท้ายทอย ทั้งที่โทสะเธอนั้นระเบิดออกมาอย่างดุเดือด “เคยพูดไปแล้วว่าเฮียจะทำอะไรกับใครฉันไม่สน! มีแค่สองคนเท่านั้นที่ห้ามแตะต้องแม้แต่ปลายเส้นผม คือเอิร์ลเกรย์ กับรุ่นที่เก้า! เคยพูดไปแล้วแท้ๆ!!!

    “ท ทำไมถึงอยู่ข้างในโกร่ามอสก้าล่ะ” สึนะทรุดลงข้างร่างของชายชรา

    “โครงสร้างนี่มัน ว่าแล้วเชียว” รีบอร์นเดินไปสำรวจซากเอ่ยเสียงขรึม ซีลอนไม่ได้สนใจพวกสึนะกับอาจารย์ของตนอีกแต่เบนจิตสังหารทั้งหมดไปยังคนเพียงคนเดียว เบลเฟกอลกับเลวี่ที่ยืนอยู่ทิศเดียวกันผงะและเหงื่อแตกไปโดยสัญชาตญาณ แน่นอนว่าเคยปะทะกันโดยอ้างการซ้อมหลายครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่ถูกมองด้วยสายตานักล่า ไม่เคยสัมผัสประสบการณ์ของเหยื่อเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกเลี้ยงหญิงของรุ่นที่เก้า เธอไม่เคยทำแบบนี้กับพวกเขา ไม่ว่าจะซ้อมต่อสู้กี่ครั้งก็ไม่เคยพุ่งจิตสังหารใส่ใครอย่างเจาะจงกับพวกพ้องในคฤหาสน์

    ในพริบตาของการขยับเสมือนปีกของความมืดที่โอบคลุม รวดเร็ว เงียบเชียบแม้จะไม่สามารถลงมือกับซันซัสได้ถึงตาย แต่คนที่เคยอยู่ร่วมคฤหาสน์กันมาหลายปีก็ปะทะกันอย่างรุนแรง

    สัตว์ร้ายที่มีคนเพียงสองคนเท่านั้นที่คุมอยู่กำลังกระชากโซ่ที่รัดรอบคอของตน แต่ก็ทำได้แค่นั้น เธอห้ามตัวเองไม่ให้ฆ่า เพราะได้สัญญาเอาไว้...

    “ฉันเป็นพี่ของแก แกฆ่าฉันไม่ลงหรอกไอ้เปี๊ยก ลึก ๆ แล้ว...แกใจอ่อนเหมือนไอ้แก่นั่น...” ซันซัสแสยะยิ้มไม่หลบและรับหมัดที่ชกเข้ามา เกลี่ยเลือดกบปากไม่ยี่หระ จิตสังหารที่ขบเขี้ยวกันและกันต่อหน้าสัตว์ร้าย ทั้งคู่จ้องตาอย่างไม่คิดจะหนี เสือกับงูที่ขู่กันด้วยความนึกคิดกดให้หายใจลำบาก แต่สำหรับนักฆ่าแนวหน้าทั้งสองไม่ได้ส่งผลอะไรขนาดนั้น มันแค่ทำให้รับรู้ว่าอีกฝ่ายโกรธหรือยโสแค่ไหนก็เท่านั้น

    “ไม่ใช่! ! ฉันไม่ได้ฆ่าเฮียไม่ลงเพราะเฮียเป็นพี่ แต่เพราะฉันสัญญากับปู่เอาไว้!! เพราะปู่รักพี่มากเลยให้ฉันสัญญา ไม่ว่าเฮียเผลอทำอะไรลงไปจะ-ต้อง! ไม่เผลอ! ฆ่าเฮีย! อย่างเด็ดขาด!!! ชีวิตของเฮียรุ่นที่เก้าซื้อเอาไว้ จากฉัน!!!” ซีลอนกำหมัดเหวี่ยงมือออกไปด้านหน้าพลังไร้รูปร่างข่วนใบหน้าของซันซัสเป็นรอยแดงแต่ไม่มีปากแผลเปิด เธอถลึงตาอย่างที่ไม่เคยทำเพราะโกรธมาก แต่เพราะสัญญาเอาไว้แล้ว สัญญาที่ให้กับผู้มีพระคุณ เธอไม่รู้สึกก็จริง จะแกล้งพลั้งมือฆ่าไปเลยก็ได้ แต่ว่า...

    ทั้งหมดนี้เป็นความต้องการของรุ่นที่เก้า เป็นความใจอ่อนของชายแก่คนนั้น เป็นความรัก ความห่วงใย เป็นครอบครัวที่เธอในอดีตคงจะโหยหาอยากจะรู้สึกบ้าง แต่ไม่เป็นไร เธอรู้ว่าถ้ายังมีความรู้สึกรักและห่วงใยคนอื่นจะเคลื่อนไหว หายใจ แสดงออกยังไง ในตอนนี้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ สมบูรณ์แบบเพราะความภักดีในใจเธอ

    ถึงจะไม่รู้สึกอะไรแต่รู้ว่าควรทำอะไร ศรัทธาของเธอต่อรุ่นที่เก้ามันรุนแรง เจตจำนงในการทำงานถวายชีวิตให้เพราะความภักดีนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ได้ปั้นแต่งขึ้นมา

    “อย่ามาพูดให้ตลกหน่อยเลย! ไอ้แก่นั่นน่ะนะ! ไม่มีทาง!! แกน่ะไม่สามารถรับรู้ถึงความรักได้! ไม่ได้แม้แต่น้อย!!” ซันซัสถลึงตาใส่

    “ความภักดีของฉันไม่ใช่ความรัก! มันเป็นความเชื่อมั่น! เป็นสัญญา!!

    “หึ ฮ่าๆๆๆ แกเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้วไอ้เปี๊ยก... เพราะเจ้าของเก๊นั่นพลั้งมือไปแล้ว! ใครกันนะที่ต่อยตาแก่แบบไม่ยั้งมือ! มันเป็นคนทำร้ายรุ่นที่เก้าเองกับมือ!” ซันซัสถือแต้มเป็นต่อ นี่เป็นแผนที่เขาวางไว้และพยายามอดทนอย่างไม่เคยทำ

    “ใครกันที่ผ่าตาแก่ไปพร้อมโกร่ามอสก้า” หัวหน้าของวาเรียกระตุกรอยยิ้ม

    “ไม่ใช่หรอก...คนที่ผิดคือฉันเอง” ชายชราเอ่ยออกมาเมื่อได้สติ

    ““ท่านรุ่นที่เก้า!/ปู่!”” สึนะกับรีบอร์นที่อยู่ใกล้ที่สุดตะโกนขึ้น ซีลอนที่ไกลออกมาก็ได้ยินเพราะหูที่ดีกว่าคนปกติ

    “ในที่สุดก็ได้พบเธอ สึนะโยชิคุง... ฉันขอโทษที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะความใจอ่อนของฉันเอง...ทำให้ซันซัสตื่นขึ้นจากการหลับใหลอันยาวนาน” ชายชราเปิดปาก คนที่มีส่วนรู้เห็นและได้ข่าวคดีกรงนกต่างชะงักไป

    “หมายความว่ายังไงที่ว่าตื่นขึ้น คนที่เกี่ยวข้องกับคดีกรงนกควรจะถูกขับไล่และกักบริเวณอย่างเข้มงวด...” รีบอร์นกดเสียงต่ำ สึนะที่ไม่เข้าใจคำว่าคดีกรงนกนั้นมีรีบอร์นอธิบายให้ฟัง

    ซีลอนนั้นรู้อยู่แล้วจากที่เจอมากับตัวและปะติดปะต่อข่าวต่าง ๆ แต่เธอก็คือเธอไม่ร้อนรน ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องใส่ใจนักเพราะในเมื่อปู่รักซันซัสเหมือนลูกชายแท้ ๆ ไม่ว่าเขาต้องการจะทำอะไรเธอจึงเพียงสนับสนุนปู่เท่านั้น ปู่ที่ใจดีและทำให้เอิร์ลเกรย์ได้รู้สึกเหมือนเป็นคนธรรมดา ปู่ที่รักสงบคนนั้น

    “แค่กๆ...ทุกครั้งที่ฉันได้ยินเรื่องราวของเธอจากรีบอร์นและซีลอน ทั้งเรื่องที่โรงเรียน เพื่อน ๆ ของเธอ ผู้หญิงที่เธอรัก เธอเป็นเด็กที่จิตใจอ่อนโยนเกินไปไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียเอาซะเลย...” ชายชรากล่าวและเว้นวรรคไปครู่ “ไม่เคยเต็มใจจะสู้สักครั้ง ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับภาวนาให้มันจบลงเร็ว ๆ แต่เพราะอย่างนั้นแหละฉันถึงเลือกเธอให้เป็นรุ่นที่สิบ” ชายชราจุดไปที่ปลายนิ้วและแตะกับหน้าผากของว่าที่เดชิโม่

    “ฉันขอโทษ แต่ดีแล้วล่ะที่เป็นเธอ” ปลายนิ้วของชายแก่ร่วงลงพร้อมสติที่ดับวูบ สึนะถูกกระตุ้นความทรงจำและหวนนึกขึ้นมาได้ว่าเคยพบกับอีกฝ่ายมาก่อนเมื่อสมัยเขายังเป็นเด็ก คุณปู่ที่ใจดี

    “ไม่นะ! อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะครับรุ่นที่เก้า!!” สึนะกุมมือที่ไม่มีเรี่ยวแรงเหลือขึ้นโวยวายทั้งน้ำตา มือที่เย็นยะเยือกแตะลงบนไหล่ของเด็กชายแล้วดันเขาให้หลบออก

    “หลบไป” เสียงของรุ่นพี่เย็นกว่าครั้งไหน ๆ ซีลอนตรวจสอบบาดแผลและอุ้มชายชราขึ้นด้วยสองแขนเหล่มองสึนะย้ำคำหนักแน่นเสียงแข็ง “แก ทำหน้าที่ของแกซะ ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ต้องชนะไอ้เวรนั่น ชนะเท่านั้นจำเอาไว้”

    “?” สึนะไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายในทันทีจึงได้แต่แสดงสีหน้างุนงง

    “เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณจะเอารุ่นที่เก้าไปไหนไม่ได้!” เชคเบคโล่ปรากฏตัวออกมาขวางซีลอน แต่ไม่สามารถเข้าใกล้นักฆ่าหลังเก้าอี้ของรุ่นที่เก้าได้เพราะต่างขาสั่นนิ่งงัน กับจิตสังหารและพลังมายาของอีกฝ่ายที่เข้าหลอกหลอนปลายประสาท รู้ซึ้งถึงความกลัว และไม่อาจจะขยับตัวเพราะระดับต่างกันเกินไป แม้ว่าเชคเบคโล่พร้อมที่จะมีตัวตายตัวแทนมาเปลี่ยนตัวตลอดก็ตาม

    “อย่าบังอาจเผยอหน้าให้มากเชคเบคโล่ พวกแกเป็นแค่กลุ่มที่ขึ้นตรงต่อรุ่นที่เก้าภายหลังฉันคนนี้ซึ่งเป็น เงาหลังเก้าอี้ของท่านรุ่นที่เก้า แค่ตำแหน่งพวกแกก็ไม่มีสิทธิ์ขวางฉันแล้ว” ท่าทีเอื่อยเฉื่อยไม่สนใจอะไรของนักฆ่าหัวเงินตลอดมาทำให้พวกเธอไม่ทันได้คิดว่าอีกฝ่ายจะซุกซ่อนอะไรไว้บ้าง ดูเรื่อยเปื่อยจนลืมไปว่าเธอคือนักฆ่าหลังเก้าอี้ของรุ่นที่เก้า คือนักฆ่าลำดับที่ 11 ของโลกมืด

    “การพยาบาลบาดแผลสาหัสที่พวกแกทำกันไม่ได้ ไม่ได้ความว่าไม่มีคนทำไม่ได้ อย่าเอาบรรทัดฐานของตัวเองมาตัดสินคนอื่น” เธอกดเสียงต่ำเอ่ยออกมาอย่างคุกคาม “เป็นแค่เครื่องประดับก็ทำหน้าที่เครื่องประดับของพวกแกไป” เธอเหลือบมองทุกคนทิ้งท้ายเอาไว้ สัมผัสน่าขนลุกพวยพุ่งขึ้นจนสึนะที่มีสุดยอดลางสังหรณ์สะบัดหน้าไปมองอย่างหวาดกลัว

    อะไรบางอย่างที่น่าขยะแขยงกว่าตอนที่สู้กับมุคุโร่ เหมือนสีที่มืดมิดยิ่งกว่า เหมือนโพรงลึกที่มองไม่เห็นก้นหลุมจ้องมองกลับมา กลุ่มควันดำโอบคลุมทั้งรุ่นที่เก้าและซีลอนหายไปจากตรงนั้น ไม่ใช่ภาพมายาไม่ทิ้งร่องรอยและเค้าไอจิตอะไรเอาไว้เลย

    รีบอร์นจ้องมองพลังนั่นอย่างพิจารณา สึนะกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ มันไม่เหมือนมนุษย์เป็นความรู้สึกที่ต่างออกไปและเขาก็อธิบายไม่ได้ มุคุโร่นั่นมีบรรยากาศน่ากลัวและน่าขนลุกเหมือนภูตผี เหมือนผู้กลับมาจากความตายที่พาความตายมาด้วย แต่ซีลอนนั้นต่างออกไปซึ่งในตอนนี้เองเขาก็ไม่สามารถนิยามหรือเปรียบเปรยความรู้สึกนั้นได้

    “ให้อภัยไม่ได้ การกระทำเช่นนั้นต่อรุ่นที่เก้ามันผิดต่อจิตวิญญาณของวองโกเล่ บาดแผลบนตัวตาแก่คือหลักฐานว่าเป็นฝีมือของแก เพราะฉะนั้นผลของศึกชิงแหวนจึงต้องเป็นโมฆะ และแกจะต้องตายเพื่อเซ่นวิญญาณรุ่นที่เก้า” ซันซัสยกมุมปากขึ้น เขารอคอยเวลานี้มานาน เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน อุตส่าห์อดทนรอคอยอย่างที่ไม่เคยชอบทำ

    “อย่างนี้นี่เอง... แกรอคอยเวลานี้สินะ เพราะถ้าแกชนะศึกชิงแหวนไปตั้งแต่แรก พวกที่อยู่ในคดีกรงนกจะต่อต้านแก ถึงต้องเขียนให้สึนะเป็นตัวร้ายเพื่อเปิดศึกล้างแค้นอย่างเป็นธรรม แล้วแกก็จะได้ความเชื่อใจของคนอื่นในแฟมิลี่ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในศึกนี้ด้วย” รีบอร์นสรุปเรื่องราวทั้งหมดได้ก็จ้องไปยังผู้กล่าวอ้างตนว่าจะต้องมีการล้างแค้นขึ้น “ศึกชิงแหวนนี่ถูกเตี๊ยมเอาไว้เพื่อให้ซันซัสได้ครอบครองทุกอย่างของวองโกเล่”

    “อะไรกัน เพื่อเรื่องแค่นี้...” สึนะสะอึกไป เขาเป็นคนที่เติบโตมาอย่างคนธรรมดา ไม่มีทางจะเข้าใจความคิดของพวกซันซัสได้เลย

    “อย่าคาดเดาอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าค่ะคุณรีบอร์น คำพูดทุกคำพูดพวกเราได้บันทึกเอาไว้อย่างเป็นทางการนะคะ” สองสาวเชคเบคโล่หายใจคล่องขึ้นเมื่อนักฆ่าหัวเงินหายไปแล้วจึงรีบอ้างถึงอำนาจควบคุมและจับตามองการแข่งขัน

    โกคุเทระกับยามาโมโตะได้ยินก็คาดเดาว่าทางเชคเบคโล่นั้นแท้จริงอยู่ฝ่ายเดียวกับซันซัสแต่แรก เพื่อสร้างเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้นมา

    “จะยังไงก็เชิญ ฉันฉุนขาดแล้ว” ประโยคนี้ไม่ใช่คำขู่ของรีบอร์น จิตสังหารของเขาเข้าถึงสองเชคเบคโล่ทันทีเช่นกัน แต่เขาก็ระงับความหงุดหงิดนั่นไว้ “แต่ตามที่สาบานไว้กับรุ่นที่เก้า ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งกับการต่อสู้ของลูกศิษย์ แต่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าลูกศิษย์ที่เกลียดการต่อสู้เข้าไส้จะว่ายังไง” ทารกนักฆ่าเหลือบมองสึนะที่ตัดสินใจได้แล้ว

    สายตาแน่วแน่สีส้มนั้นประกายเพลิงนภาที่ลุกไหวออกมาด้วยเจตจำนงของตนเอง การยืนหยัดเพื่อคนอื่นของสึนะไม่เคยให้ผลลัพธ์ที่น่าผิดหวัง

    “ซันซัส แหวนวงนั้นฉันขอคืน... อย่าหวังว่าฉันจะให้แกได้สืบทอดตำแหน่งของรุ่นที่เก้า!

     



    “เอาเลือดมา!” เสียงโหวกเหวกของทีมแพทย์ดังขึ้นเมื่อรุ่นที่เก้าถูกพามาโดยซีลอนในสภาพเจ็บหนัก

    “ไม่ต้องห่วงเชื่อใจผมได้เลย!” เอิร์ลเกรย์บีบมือที่เปื้อนเลือดของฝาแฝดแล้ววิ่งไปขัดมือกับทีมแพทย์มือฉมัง เธอแค่ขานรับในลำคอแล้วนั่งลงอย่างคนหมดแรงที่เก้าอี้ยาวแถวนั้น หยิบมือถือที่กรอบร้าวขึ้นมาโทรออกไปหาม้าพยศว่าเธอเผลออุ้มปู่มาก่อนเขาจะเข้าไปเสียแล้ว

    [อ่า ได้ยินจากอาจารย์แล้วนะว่าเธอเองก็เลือดขึ้นหน้าพาท่านรุ่นที่เก้าไปแล้ว คนเจ็บอื่นไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจะตามไปสมทบที่โรงพยาบาล] ปลายสายเป็นฝ่ายรีบร้อนพูดก่อนเธอจะได้เอ่ยปากเองเสียอีก

    [คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเรื่องมันจะลงเอยแบบนี้] ดีโน่ถอนหายใจเบา ๆ

    “หึ” นักฆ่าหลุดหัวเราะออกมาในลำคอ

    [เดี๋ยวนะ หรือว่า!]

    “เพราะผมน่ะเคลื่อนไหวตามความต้องการของปู่ทุกอย่าง ไม่ต้องห่วงเขาจะไม่ตายหรอก แต่จนกว่าเรื่องนี้จะจบคงต้องขอให้เงียบไว้ล่ะนะรุ่นพี่~” ซีลอนแตะปลายนิ้วกับริมฝีปากของตัวเองแม้อีกฝ่ายคงจะไม่มีทางเห็นด้วยรอยยิ้มลอยชาย

    [เดี๋ยวนะ...] ดีโน่ลดเสียงลงคล้ายกระซิบ [หมายความว่ายังไงซีลอนพูดมาเลยนะ]

    “ปู่เขารู้ว่าถ้าปล่อยเฮียออกมาเขาเองนั่นแหละที่จะเสี่ยง... นี่เป็นการตัดสินใจของปู่เขาให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ นิสัยของเฮียปู่เขารู้ดี...ยิ่งกว่าใคร แต่ไม่คิดว่าจะทำขนาดนี้อ่ะนะ” ซีลอนถอนหายใจ

    [แล้วเธอก็ให้รุ่นที่เก้าทำตามแผนซันซัสเนี่ยนะ! จะบ้ารึไง!] ดีโน่เอ็ดเอาแต่ก็ยังพยายามกดเสียงเบาเพื่อไม่ให้ใครได้ยิน

    “ถ้าไม่ประมาณนี้เฮียเขาจะรู้ว่าพวกเราเป็นฝ่ายจูงให้เขาเดินมาในเส้นทางนี้ตลอดปู่เขาว่างั้น ผมก็เห็นด้วยนะเพราะว่าเฮียเขาขี้ระแวงจะตาย แต่ว่าก็นะ สายตาคนยโสคงไม่คิดหรอกว่าตาแก่ใจดีรักสงบจะวางหมากเอาไว้ทุกอย่างแล้ว ทุกอย่างเพื่อผลักดันให้เดชิโม่เป็นคนรักสันติแบบตัวเอง ในบรรดาแต่ละรุ่นนอกจากปู่แล้วก็มีรุ่นแรกที่ใจดีมาก ๆ คงอยากให้สึนะเป็นอีกรุ่นนั่นแหละ” ซีลอนบ่นไปเรื่อยเปื่อย

    [เธอควรจะห้ามท่านบ้างนะ...]

    “ห้ามแล้ว ปู่บอกว่ามีหลานเก่งยังไงก็ไม่เป็นอะไรแน่นอนเดี๋ยวฉันก็แบกเขาไปหาหมอทัน แล้วฉันก็ดันทำตามที่ตาแก่นั่นพูดไว้เป๊ะ น่ากลัวชะมัด...”

    [ฮะๆๆ บอกแล้วว่าหัวใจยังจำเป็นนะ]

    “โทษทีที่ต้องดับฝัน แต่ความภักดีของผมไม่ได้มีเศษเสี้ยวของความรักอยู่หรอก มันเป็นความเชื่อต่างหาก แค่ตอบแทน... รุ่นพี่รู้...ว่าชีวิตนี้ปู่เก็บผมมา เพราะงั้นนอกจากเอิร์ลเกรย์แล้วคนที่ผมจะตายให้ได้คือรุ่นเก้าเท่านั้น”

    [งั้นที่บอกว่าฝั่งไหนจะชนะก็ไม่มีปัญหานี่ก็...]

    “ก็ไม่มีปัญหาจริง ๆ นั่นแหละ แค่ว่าปู่เขาเลือกฝั่งสึนะอ่ะนะ แล้วก็เลยเดินเกมเหมือนตามไม่ทันซันซัสเขาเท่านั้นแหละ พรุ่งนี้ก็อย่าหลุดพิรุธออกไปล่ะ ยังไงก็ฝากเก็บกวาดคนเจ็บต่ออีกวันด้วย พรุ่งนี้น่าจะมีเจ็บหนักเยอะอยู่” ซีลอนเอ่ยเตือนให้อย่าเพิ่งลดการ์ดระวังลง

    [เข้าใจแล้ว ฝากความห่วงใยถึงรุ่นที่เก้าด้วย แล้วฉันจะซื้อช็อกโกแลตไปฝาก]

    “จริงปะเนี่ยโหย รักตายเลยนะศิษย์พี่~ แต่ไม่อร่อยปาหัวนะ...” ซีลอนหลุดหัวเราะออกมาไขว้เท้านั่งสบายอารมณ์แม้ว่าจะเป็นการแสร้งทำก็ตาม

    อืม...มันคงเป็นประมาณนี้ถ้าเธอยังปกติล่ะนะ แต่ว่าเรื่องที่ชอบของหวานนะเป็นเรื่องจริง หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมานิดหน่อยเมื่อคิดว่าจะได้ขนมรองท้อง

    [หัวรุนแรงชะมัด เออ ๆ จะซื้อแพง ๆ ให้เลยมันต้องอร่อยอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ]

    “ขนมญี่ปุ่นอร่อย ๆ มีเยอะจะตาย แต่ก็เอาเถอะช็อกโกแลตที่อร่อยน่ะผมรออยู่ที่โรงพยาบาลนะ บาย” ซีลอนวางสายแล้วแกว่งสายมือถือ สงสัยต้องซื้อใหม่เพราะเล่นจนสมจริงไปนิด

    หรือบางทีเธออาจจะโกรธจริง ๆ ก็ได้... ไม่ชอบเอาซะเลยเวลาใจเต้นเกินกว่าระดับธรรมดา ทั้งชีวิตของเธอที่เคยชินมาหัวใจจะเต้นแรงขึ้นเมื่อออกแรงหนักเท่านั้นแหละ แล้วก็เวลาอยู่กับแฝดนิดหน่อย

    “ไอ้ความรู้สึกอย่างมนุษย์นี่ก็น่ารำคาญเหมือนกันนะ...” เธอพึมพำแล้วเหลือบมองข้างตัวที่ไม่มีอะไร เธอเห็นอะไรหรือ อันที่จริงก็ไม่หรอก...แต่ได้ยินเสียง...

    เสียงของคนที่อยู่ในคุกน้ำแน่นหนา สถานที่คุมขังที่เข้มงวดที่สุดของวินดิเช่

    ก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกันครับ ก็แค่เคยล่ะนะ ฟุฟุฟุฟุ เสียงหัวเราะเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นในหัว

    มุคุโร่แม้จะเคยสร้างบาดแผลเพื่อใช้เป็นสัญญาและสื่อในการยึดชิงร่างของซีลอนเอาไว้ แต่เขาไม่สามารถเข้ามาสิงสู่ในร่างเธอที่มีอะไรบางอย่างแข็งแกร่งกว่าเขาได้ น่าขนลุกกว่า ดำมืดยิ่งกว่าปลายสุดของวัฏสงสารที่เคยพบพาน

    แต่ว่า แม้จะสิงร่างไม่ได้ ก็ใช้สื่อสารกับเธอได้ เป็นเรื่องคลายเบื่อที่ดีทีเดียวเพราะมันแทบไม่ต้องใช้พลังเลย

    แหม แต่ว่าการแสดงนั่นทำได้แนบเนียนไปเลยนะครับ ขนาดผมเองยังอุตส่าห์นึกว่าจะได้อะไรบ้างเพื่อแลกกับแผนการนั่นที่ผมรู้เสียอีก น่าเสียดายๆ สายหมอกหนุ่มตอบกลับมา

    “ถ้าไม่ประมาณนั้น...”

    เดี๋ยวอีกฝ่ายที่ขี้ระแวงเอามากจะสงสัยเสียก่อน คุณพูดวลีนี้มาหลายครั้งแล้วครับซีลอน

    “...รู้แล้วก็ไม่น่าถามนะ หรือว่านายจะเป็นคนขี้เหงาแบบที่อาจารย์พูดเอาไว้จริง ๆ โถ...น่าสงสาร เบื่อแย่เลยนะต้องนอนนิ่ง ๆ ในคุกน้ำน่ะ” ซีลอนม้วนปลายผมอย่างคนไม่มีอะไรทำ พูดกับอากาศราวกับกำลังคุยกับใครบางคน หน่วยแพทย์ผู้สนับสนุนใบ้กินไปตามกันเวลาเดินผ่านเธอเพราะมือถือก็ไม่ได้ถือไว้แนบหู และแม้คำพูดจะดูใจดีแค่ไหนแต่น้ำเสียงนั้นคล้ายจะย้ำเยาะในที ยิ่งกับคำว่าคุกน้ำด้วยแล้วพวกเขาคงต้องคิดกันใหม่ว่าพลังมายาสายหมอกของเธอแกร่งขนาดไหนถึงคุยกันคนอยู่ห่างขนาดนั้นได้

    “นายทำให้ฉันดูเป็นผู้ป่วยจิตเวช... คุยกับคนที่ไม่มีร่างนี่ลำบากแฮะ สงสัยต้องซื้อสมอลทอร์คมาใช้ซะแล้วมั้งถ้าจะโผล่มาเล่นด้วยบ่อยขนาดนี้”

    คุฟุฟุฟุฟุฟุฟุ ดูเหมือนใครบางคนก็คงต้องซื้อสมอลทอร์คจริงซะแล้วล่ะครับ เพราะผมเองก็คงมาหาเรื่องแก้เบื่อบ่อย...

    “ไม่ใช่ว่าออกมาต้องใช้?” ซีลอนเลิกคิ้วเล็กน้อย เธอจำได้ว่าหลังจากศึกชิงแหวนสายหมอกเขาก็หายไปอย่างไวด้วยท่าทีอิดโรย ในหัวของนักฆ่าเต็มไปด้วยคำถาม

    ดูเหมือนว่านอกจากโคลม คุณก็เป็นอีกคนที่คลื่นตรงกับผมมั้งครับ แค่คุยด้วยเลยแทบไม่เสียพลังนัก

    “แต่ก็เสียอยู่ดี ไสหัวไปนอนไป๊” ซีลอนสรุปออกมาแล้วออกไปไล่ เธอพ่นลมหายใจแล้วพิงหัวกับผนังหลังเก้าอี้

    คุฟุฟุฟุฟุฟุ น่าเสียดายนะครับแต่คนที่ตัดสินใจว่าจะไปหรือจะมาเป็นผมคนนี้ไม่ใช่คุณ

    “...” ซีลอนกลอกตาและลองคิดขึ้นเล่น ๆ ว่าพลังนอกระบบทรีนิเซตเต้ที่เธอถือครองจะสามารถไล่สายหมอกของสึนะไปได้หรือไม่... แต่กระนั้นก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรจริงจังเพราะพลังสีดำนั้นทุกครั้งที่ใช้มีราคาที่เธอต้องจ่ายเสมอ

     



    ในเช้ารุ่งขึ้นสึนะไปโรงเรียนหลังจากที่แจ้งหยุดเพราะป่วยไปหลายวัน โรงเรียนนามิโมริสะอาดเรียบร้อยราวกับเรื่องเมื่อหลายต่อหลายคืนที่เกิดการปะทะกันนั้นไม่เคยเกิด

    “ซ่อมเสร็จแล้ว!?” สึนะผงะไปกับสภาพของโรงเรียนในตอนกลางวัน

    “ถ้าซ่อมเสร็จพวกผมก็คงไม่ต้องทำงานหรอก-นะ—” ซีลอนหาวหวอดตบบ่าเล็ก ๆ ของว่าที่เดชิโม่ ข้างตัวเธอมีฝาแฝดที่ดูเหมือนนอนไม่พออีกคน

    “นอกจากเจ้าพวกนี้ก็ยังมีคนของเชคเบคโล่นอกรั้วคอยสร้างภาพมายาปกปิดส่วนที่ซ่อมไม่ทันอยู่ ดูทางนู้นโน้นเจ้าสึนะ” รีบอร์นหันไปนอกสนามกีฬาของโรงเรียน

    “รุ่นพี่...คือว่า—”

    “ไม่ขอตอบคำถาม”

    “งะ!” สึนะทำหน้าปูเลี่ยน เขาตามความคิดของซีลอนไม่ทันเท่าไหร่แต่ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่าคนคนนนี้เป็นมิตรของเขาอย่างแน่นอน

    “แกน่ะสนใจแค่เรื่องการแข่งหน้าอย่างเดียวก็พอ ทีมสนับสนุนของวองโกเล่ไม่ใช่กระจอกจำเอาไว้” ซีลอนใช้นิ้วดันหน้าผากเด็กหนุ่ม “โอ๊ะ วันนี้ห้องฉันมีสอบเช้าไปก่อนละไว้เจอกันคืนนี้” นักฆ่าหัวเงินเหวี่ยงกระเป๋าขึ้นไหล่ก่อนจะจากไปพร้อมแฝด

    INSIDIOUS หมายถึง เล่กระเท่ห์ร้ายกาจ หลอกลวง
    นะฮะ เจ้าซีลอนผู้เป็นเงาหลังเก้าอี้เคลื่อนไหวไปตามความต้องการของรุ่นที่เก้าตั้งนานแล้ว ทุกๆอย่าง U u U
    ซีลอน - ปู่ค้าบบบ ผมเก่งป่ะ เก่งมากๆเลยใช่ปะ เพราะงั้นขอขนมเยอะๆเลยนะ~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×