คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : |8| INSIDIOUS | เลือกข้าง
Cr : https://www.pinterest.com/pin/754071531343419403/
“แค่ฝ่าผ่านพายุไปก็พอ” | Aimer - Torches
‘อย่าริไปเห็นใจเชียวล่ะ...แกจะลืมสิ่งที่มุคุโร่ทำลงไปไม่ได้เด็ดขาด’ รีบอร์นเอ่ยเตือนลูกศิษย์คนปัจจุบัน
ได้ยินดังนั้นซีลอนก็พลันนึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมา
‘แล้วกรณีผมโอเคเหรอ?’
นักฆ่าหัวเงินเลิกคิ้ว
‘แน่นอนว่าไม่
แต่เคสของแกฝั่งนั้นมันหาเรื่องเราก่อน อันที่จริงแกก็ไม่ควรจะฆ่าหมดห้องแบบนั้นเหมือนกันแถมยังทำพิเรนทร์แบบนั้นอีก’ รีบอร์นหรี่ตามองลูกศิษย์นักฆ่าอย่างดุร้าย
‘แต่ว่าไม่ว่าจะกี่ครั้ง
ผมก็จะทำแบบเดิมนะ~’ เธอยิ้มลอยหน้าลอยตาก่อนจะหัวเราะในลำคอประโยคถัดมานั้นเป็นเสียงทุ้มต่ำเย็นเหยียดเข้ากับรอยยิ้มเย้ยเมื่อหวนนึกถึงอดีตของตนในวันที่เขาตาย
‘เอาของของนักฆ่าไปก็ต้องเตรียมใจโดนนักฆ่าตามไปเชือดสิถึงจะถูก
ถ้าไม่ได้เตรียมใจเอาไว้ก็แพ้ตั้งแต่เล็งของสูงแล้วช่วยไม่ได้~’
ด้วยความข้องใจโกคุเทระจึงไปปรึกษาจามาลที่ซีลอนกล่าวว่ารู้เรื่องของเธอดี
‘...ไม่อยากจะพูดเลยแฮะตราบใดที่แกยังไม่ใช่สมาชิกวองโกเล่ที่แท้
แต่ถ้ายัยหนูบอกว่าถามได้งั้นก็คงมั่นใจพอดูว่าฝั่งสึนะจะชนะสินะ...
จะเล่านิทานให้ฟังสักเรื่องแล้วกัน’ จามาลเองก็เป็นหัวกะทิแนวหน้าผู้เคยถูกทาบทามให้มาเป็นสมาชิกวาเรียวายุในรุ่นก่อน
เขาถอนหายใจเกาหัวนึกว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดี
‘งั้นบอกแค่เรื่องที่บอกได้สิ
จะว่าไปหล่อนก็พูดว่าอย่ายั่วโมโหฉันจามาลไม่เคยเตือนรึไงนี่แหละ’ โกคุเทระเกาหัวอีกคน
‘อ้อ...เรื่องนั้นสินะ
สิ่งที่ทุกคนในวองโกเล่รู้แต่ไม่พูดกัน
จะทำอะไรกับเธอก็ได้แต่ไม่ใช่กับแฝดของหล่อน ห้ามแตะต้องเอิร์ลเกรย์แม้แต่ปลายนิ้ว
อีกเรื่องคือเธอไม่เคยออมมือ ห้ามยั่วโมโหหรือไปลองดี แรงก์กิ้งนักฆ่าอันดับ 11
ไม่ใช่ชื่อเสียงไว้อวดอ้างเฉย ๆ หรอกนะ กับฉันเอง ยัยหนูก็ไม่เคยออมมือฉันเลยหยอกเล่นเท่าที่จะไม่เป็นอันตราย
คนอื่น ๆ น่ะฉันสามารถเข้าถึงตัวได้ก่อนใช่ม้า~
อย่างสาวสวยเชคเบคโล่ หรือเบียงกี้ แต่ว่ากลับกันถ้าเป็นยัยหนูน่ะนะ
หล่อนมักรับรู้ถึงอันตรายได้ก่อนเสมอ รวมถึงการขยับของฉันด้วย
แค่รู้ว่าจะเข้าไปหยอกก็ชักปืนขึ้นมายิงแล้ว’
‘ยิง?!!’
‘ใช่ยิงเลยไม่ได้ถือขู่
แถมหล่อนยังเป็นลูกศิษย์นักฆ่าอันดับหนึ่งคงไม่ต้องบอกนะว่าแม่นขนาดไหน...’
‘แกรอดมาได้ยังไงฟะ’ โกคุเทระชักสีหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
‘ตอนนั้นรีบอร์นอยู่ด้วยน่ะ...อลอนโซ่ที่เป็นพ่อค้าพันธมิตรของแฟมิลี่เราด้วย
เธอมีอาจารย์หลายคนเพื่อสอนให้ควบคุมพลังที่มีมากเกินไป
รวมไปถึงนิสัยบางอย่างให้อยู่ร่วมกับคนหมู่มาก ตอนนั้นก็เลยรอดมาอย่างฉิวเฉียดละนะ’ จามาลถอนหายใจ
‘พูดอย่างกับหล่อนมีปัญหางั้นแหละ
ก็ดูปกตินี่ถึงจะน่ากลัวบ้างไปบางทีก็เหอะ’ โกคุเทระเลิกคิ้ว
‘ถ้าอย่างนั้นมันหมายถึงลางสังหรณ์แกดี
ยัยหนูไม่ปกติ นอกจากแฝดกับท่านรุ่นที่เก้าแล้วใครก็ไม่เอาทั้งนั้น นั่นแหละปัญหา
อัจฉริยะนักฆ่าที่มีแฝดเท่านั้นที่ควบคุมได้ ไม่ว่ามองมุมไหนก็คือสัตว์ร้าย...
เลยต้องสอนให้ควบคุมอารมณ์กับคิดอย่างคนธรรมดา
ปกติก็ไม่อะไรแต่จะขัดหูขัดตาเป็นพิเศษถ้าต้องต่อปากต่อคำกับคนประเภทที่ไม่ชอบ
อย่างเช่นคนที่อ่อนแอแต่ไม่รู้ว่าอ่อนแอ... ดังนั้นคำเตือนที่บอกว่าอย่ามายั่วโมโห
อาจจะหมายถึงแกที่คอยแต่จะพึ่งคนอื่นโดยไม่ลองทำอะไรก่อน’
จามาลสบตาลูกศิษย์
‘ก็อย่างว่าอะน้า~~
พยายามเข้าล่ะโกคุเทระคุง
อีกแง่ของอาการไม่ชอบนั่นหมายถึงนายยังเก่งได้มากกว่านี้อีกแต่ตอนนี้ไปไม่ถึงขั้นนั้นน่ะ’ จามาลหมุนปากกาไปมา
หลายคนในวองโกเล่รู้กันว่ายัยหนูมันตาแหลม
อาจจะเพราะติดตามท่านรุ่นที่เก้าตั้งแต่เด็กเลยพอรู้วิธีมองคนบ้าง
แววตาแสนทะเยอทะยานนั่นกับการจ้องสบอย่างไม่เสตาหนี
เหมือนถูกงูจ้องเพียงแค่ไม่มีจิตสังหารเท่านั้น
‘ทั้งที่บางมุมก็พอจะนับเป็นคนสวยได้หรอกน้าแต่ไม่ไหว
ๆ ยัยหนูนั่นเหมาะกับเครื่องแบบทหารมากกว่าเดรสอีก’
หมอชีกอกลอกตาเสียดาย
ในศึกชิงแหวนเมฆาซีลอนตามมาดูด้วย
มอเรตตี้แจ้งเธอมาว่าเขาถึงอิตาลี่แล้วกำลังตามหาผู้ดูแลนอกแก๊งที่บุกเข้าไปช่วยรุ่นที่เก้า
สภาพตอนนี้ที่คฤหาสน์เป็นการปะทะกันภายใน ซันซัสได้เล่นตุกติกอย่างที่พวกเขากังวล
สนามแข่งของเมฆาติดตั้งปืนกลไว้รอบด้านพื้นที่ที่จะไม่ถูกอาวุธกราดใส่มีเพียงตรงกลางเล็กน้อย
พื้นดินโดยรอบก็ติดกับระเบิดเอาไว้อีก
แต่ว่าคู่ต่อสู้ของโกร่ามอสก้าคือฮิบาริ
ชายที่แข็งแกร่งเสียจนนักฆ่าหัวเงินคิดว่าถ้าไปสู้กับสัตว์ประหลาดละก็ สัตว์ประหลาดยังต้องแพ้เลยละมั้ง
พัฒนาก้าวกระโดดของฮิบาริมาจากประสบการณ์ชกต่อยโดยตรงการที่ได้ดีโน่เวอร์ชันหัวหน้าแก๊งมาเฟียช่วยขัดเกลาทำให้เขาเร็วขึ้น
โจมตีแรงขึ้นและรู้จักใช้กลยุทธ์ขึ้นมาบ้าง
‘เป็นคนที่ไม่อยากจะยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามเลยน้า
ดูทรงแล้วน่าจะปีนขึ้นไปได้อีกนี่สิ แรงค์กิ้งในอนาคตต้องสั่นแหง’ ซีลอนลูบคางแล้วถอนหายใจ
“ไม่อยากแรงค์ตกเลยน้า...”
เธอพึมพำออกมาขมวดคิ้วมองการต่อสู้ของฮิบาริที่จบอย่างว่องไว
แถมยังไปท้าทายซันซัสให้ลงมาตีกันอีก
การที่หัวหน้าหน่วยวาเรียยอมลงมาเล่นด้วยก็เป็นหลักฐานมากพอว่าเล่นตุกติกจริง ๆ
อย่างซันซัสน่ะเหรอจะลงมือเองถ้าไม่สำคัญ ไม่มีทางปกติเฉดหัวลูกน้องไปทำตลอด
การที่ซันซัสย้ำตลอดว่าไม่ได้ทำอะไรเป็นการตอบฮิบาริหรือใช้อาวุธทำให้เธอยิ่งขมวดคิ้ว
มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
ตู้ม!!
โกร่ามอสก้ายิงระเบิดไปทางฮิบาริและเริ่มคลั่งทำลายทุกอย่าง
กระทั่งขีปนาวุธขนาดจิ๋วพุ่งเป็นลูกหลงไปโดนอาคารเรียน
“ระบบทำลายล้างสินะ” ซีลอนลูบคางตีหน้าเครียด
“จงใจให้พังเพื่อให้ระบบรวนจนควบคุมไม่ได้...ก็นะ นิสัยสมกับเป็นเฮีย
เขาไม่ได้คนอื่นก็ต้องไม่ได้”
“หึๆฮ่าๆๆๆ
เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เลยนะ!”
ซันซัสยืนหัวเราะอยู่กลางควันคลุ้งจากระเบิด
“ไอ้บ้านั่นมันตั้งใจทำให้เหมือนอุบัติเหตุเลยยั่วโมโหฮิบาริสินะ! มันกะฆ่าพวกเราทุกคนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!” โกคุเทระกัดฟันแล้วกดไหล่เจ้าบ้าเบสบอลลงให้หลงเศษคอนกรีต
โคลมที่เดินหลงไปก็มีเคนกับจิคุสะช่วยผลักให้นอนราบเพื่อหลบระเบิดแต่โกร่ามอสก้าหันมาจับเป้าหมายเป็นพวกเขาแทน
“แย่แล้ว!” โกคุเทระล้วงระเบิดออกมาแต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะช่วยอะไรได้ไหม
ระเบิดกัมปนาทดังสนั่นจากการยิงอาวุธของโกร่ามอสก้าปะทะเข้ากับบางสิ่ง
ไฟสีส้มของเพลิงนภาลุกไหวอยู่หลังม่านควัน
สึนะมาช่วยพวกเขาไว้ทันท่วงที
รีบอร์นกับบาจิลตามมาสมทบทีหลังซีลอนก็รายงานสถานการณ์คร่าว ๆ ให้ฟัง
“งั้นรึ แปลกแฮะ” รีบอร์นขมวดคิ้วขยับปีกหมวกของตน
“ใช่ไหมล่ะ ไม่ชอบใจเลย...
มันมีบางอย่างไม่เมคเซ้นส์ บางอย่างที่ผมไม่รู้”
ซีลอนกระสับกระส่ายเมื่อเห็นสึนะต่อสู้กับโกร่ามอสก้า
“มันอ้อมค้อมเกินไป
ทำไมต้องรอให้แพ้ฮิบาริก่อน” รีบอร์นเอ่ยขึ้นบาจิลก็นิ่วหน้าคิดตาม
อันที่จริงถ้าหุ่นนั่นมากความสามารถเมื่อคลั่ง ไม่จำเป็นต้องรอให้ฮิบาริชนะน็อกก็ได้
โทรศัพท์ของซีลอนสั่นสายเรียกเข้าคือมอเรตตี้พอดีกับที่สึนะกำลังผ่าหุ่นนั่นพอดี
“มีอะไรเพิ่—” เธอสนทนากับปลายสายก่อนที่ทั้งลานจะถูกกดดันด้วยจิตสังหารของนักฆ่าผู้มีพลังนอกเหนือทรีนิเซตเต้
มือที่กำโทรศัพท์เส้นเลือดปูดจนเหล็กกรอบบิดด้วยแรงกำ
ทั้งคำพูดและสายตาประจักษ์ถึงเตาพลังงานที่ใช้ขับเคลื่อนโกร่ามอสก้า
ชายชราคนหนึ่งร่วงลงมาจากหุ่นในสภาพไม่สู้ดีนัก
““อะไรน่ะ! มีคนอยู่ข้างใน!?””
“ผม...เคยพูดไปแล้ว”
ซีลอนพึมพำออกมา นอกจากความตกใจเรื่องคนในหุ่นอาวุธทุกคนใกล้ ๆ ต่างก็เหลือบมองอย่างไม่กล้าหันไปสบสายตาโดยตรงกับนักฆ่าลำดับ
11 เธอที่เบิกตากว้าง กัดปากจนแตก เต็มไปด้วยความโกรธเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า
คลุ้งไอสีดำราวกับหมอกควันแผ่ออกมาจากร่างของเธอ
“เป็นไปไม่ได้! ท่านรุ่นที่เก้า!”
บาจิลตื่นตะลึงลืมกระทั่งพุ่งเข้าไปช่วย
“เคยพูดไปแล้ว เคยพูดไปแล้ว...”
เสียงของเธอดังขึ้นก่อนจะตวาดออกมาสีหน้า แววตา ทุก ๆ กิริยาและบรรยากาศที่หนาวไปถึงกระดูกสันหลังแล่นมาถึงท้ายทอย
ทั้งที่โทสะเธอนั้นระเบิดออกมาอย่างดุเดือด
“เคยพูดไปแล้วว่าเฮียจะทำอะไรกับใครฉันไม่สน!
มีแค่สองคนเท่านั้นที่ห้ามแตะต้องแม้แต่ปลายเส้นผม คือเอิร์ลเกรย์ กับรุ่นที่เก้า! เคยพูดไปแล้วแท้ๆ!!!”
“ท
ทำไมถึงอยู่ข้างในโกร่ามอสก้าล่ะ” สึนะทรุดลงข้างร่างของชายชรา
“โครงสร้างนี่มัน ว่าแล้วเชียว”
รีบอร์นเดินไปสำรวจซากเอ่ยเสียงขรึม
ซีลอนไม่ได้สนใจพวกสึนะกับอาจารย์ของตนอีกแต่เบนจิตสังหารทั้งหมดไปยังคนเพียงคนเดียว
เบลเฟกอลกับเลวี่ที่ยืนอยู่ทิศเดียวกันผงะและเหงื่อแตกไปโดยสัญชาตญาณ
แน่นอนว่าเคยปะทะกันโดยอ้างการซ้อมหลายครั้ง
แต่ไม่มีสักครั้งที่ถูกมองด้วยสายตานักล่า ไม่เคยสัมผัสประสบการณ์ของเหยื่อเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกเลี้ยงหญิงของรุ่นที่เก้า
เธอไม่เคยทำแบบนี้กับพวกเขา ไม่ว่าจะซ้อมต่อสู้กี่ครั้งก็ไม่เคยพุ่งจิตสังหารใส่ใครอย่างเจาะจงกับพวกพ้องในคฤหาสน์
ในพริบตาของการขยับเสมือนปีกของความมืดที่โอบคลุม
รวดเร็ว เงียบเชียบแม้จะไม่สามารถลงมือกับซันซัสได้ถึงตาย แต่คนที่เคยอยู่ร่วมคฤหาสน์กันมาหลายปีก็ปะทะกันอย่างรุนแรง
สัตว์ร้ายที่มีคนเพียงสองคนเท่านั้นที่คุมอยู่กำลังกระชากโซ่ที่รัดรอบคอของตน
แต่ก็ทำได้แค่นั้น เธอห้ามตัวเองไม่ให้ฆ่า เพราะได้สัญญาเอาไว้...
“ฉันเป็นพี่ของแก แกฆ่าฉันไม่ลงหรอกไอ้เปี๊ยก
ลึก ๆ แล้ว...แกใจอ่อนเหมือนไอ้แก่นั่น...” ซันซัสแสยะยิ้มไม่หลบและรับหมัดที่ชกเข้ามา
เกลี่ยเลือดกบปากไม่ยี่หระ จิตสังหารที่ขบเขี้ยวกันและกันต่อหน้าสัตว์ร้าย ทั้งคู่จ้องตาอย่างไม่คิดจะหนี
เสือกับงูที่ขู่กันด้วยความนึกคิดกดให้หายใจลำบาก แต่สำหรับนักฆ่าแนวหน้าทั้งสองไม่ได้ส่งผลอะไรขนาดนั้น
มันแค่ทำให้รับรู้ว่าอีกฝ่ายโกรธหรือยโสแค่ไหนก็เท่านั้น
“ไม่ใช่! ! ฉันไม่ได้ฆ่าเฮียไม่ลงเพราะเฮียเป็นพี่ แต่เพราะฉันสัญญากับปู่เอาไว้!! เพราะปู่รักพี่มากเลยให้ฉันสัญญา ไม่ว่าเฮียเผลอทำอะไรลงไปจะ-ต้อง! ไม่เผลอ! ฆ่าเฮีย! อย่างเด็ดขาด!!! ชีวิตของเฮียรุ่นที่เก้าซื้อเอาไว้ จากฉัน!!!”
ซีลอนกำหมัดเหวี่ยงมือออกไปด้านหน้าพลังไร้รูปร่างข่วนใบหน้าของซันซัสเป็นรอยแดงแต่ไม่มีปากแผลเปิด
เธอถลึงตาอย่างที่ไม่เคยทำเพราะโกรธมาก แต่เพราะสัญญาเอาไว้แล้ว
สัญญาที่ให้กับผู้มีพระคุณ เธอไม่รู้สึกก็จริง จะแกล้งพลั้งมือฆ่าไปเลยก็ได้
แต่ว่า...
ทั้งหมดนี้เป็นความต้องการของรุ่นที่เก้า
เป็นความใจอ่อนของชายแก่คนนั้น เป็นความรัก ความห่วงใย
เป็นครอบครัวที่เธอในอดีตคงจะโหยหาอยากจะรู้สึกบ้าง แต่ไม่เป็นไร
เธอรู้ว่าถ้ายังมีความรู้สึกรักและห่วงใยคนอื่นจะเคลื่อนไหว หายใจ แสดงออกยังไง
ในตอนนี้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ สมบูรณ์แบบเพราะความภักดีในใจเธอ
ถึงจะไม่รู้สึกอะไรแต่รู้ว่าควรทำอะไร
ศรัทธาของเธอต่อรุ่นที่เก้ามันรุนแรง
เจตจำนงในการทำงานถวายชีวิตให้เพราะความภักดีนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ได้ปั้นแต่งขึ้นมา
“อย่ามาพูดให้ตลกหน่อยเลย! ไอ้แก่นั่นน่ะนะ! ไม่มีทาง!!
แกน่ะไม่สามารถรับรู้ถึงความรักได้! ไม่ได้แม้แต่น้อย!!” ซันซัสถลึงตาใส่
“ความภักดีของฉันไม่ใช่ความรัก! มันเป็นความเชื่อมั่น! เป็นสัญญา!!”
“หึ ฮ่าๆๆๆ
แกเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้วไอ้เปี๊ยก... เพราะเจ้าของเก๊นั่นพลั้งมือไปแล้ว! ใครกันนะที่ต่อยตาแก่แบบไม่ยั้งมือ!
มันเป็นคนทำร้ายรุ่นที่เก้าเองกับมือ!” ซันซัสถือแต้มเป็นต่อ นี่เป็นแผนที่เขาวางไว้และพยายามอดทนอย่างไม่เคยทำ
“ใครกันที่ผ่าตาแก่ไปพร้อมโกร่ามอสก้า”
หัวหน้าของวาเรียกระตุกรอยยิ้ม
“ไม่ใช่หรอก...คนที่ผิดคือฉันเอง”
ชายชราเอ่ยออกมาเมื่อได้สติ
““ท่านรุ่นที่เก้า!/ปู่!”” สึนะกับรีบอร์นที่อยู่ใกล้ที่สุดตะโกนขึ้น
ซีลอนที่ไกลออกมาก็ได้ยินเพราะหูที่ดีกว่าคนปกติ
“ในที่สุดก็ได้พบเธอ
สึนะโยชิคุง... ฉันขอโทษที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะความใจอ่อนของฉันเอง...ทำให้ซันซัสตื่นขึ้นจากการหลับใหลอันยาวนาน”
ชายชราเปิดปาก คนที่มีส่วนรู้เห็นและได้ข่าวคดีกรงนกต่างชะงักไป
“หมายความว่ายังไงที่ว่าตื่นขึ้น
คนที่เกี่ยวข้องกับคดีกรงนกควรจะถูกขับไล่และกักบริเวณอย่างเข้มงวด...”
รีบอร์นกดเสียงต่ำ สึนะที่ไม่เข้าใจคำว่าคดีกรงนกนั้นมีรีบอร์นอธิบายให้ฟัง
ซีลอนนั้นรู้อยู่แล้วจากที่เจอมากับตัวและปะติดปะต่อข่าวต่าง
ๆ แต่เธอก็คือเธอไม่ร้อนรน
ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องใส่ใจนักเพราะในเมื่อปู่รักซันซัสเหมือนลูกชายแท้ ๆ
ไม่ว่าเขาต้องการจะทำอะไรเธอจึงเพียงสนับสนุนปู่เท่านั้น
ปู่ที่ใจดีและทำให้เอิร์ลเกรย์ได้รู้สึกเหมือนเป็นคนธรรมดา ปู่ที่รักสงบคนนั้น
“แค่กๆ...ทุกครั้งที่ฉันได้ยินเรื่องราวของเธอจากรีบอร์นและซีลอน
ทั้งเรื่องที่โรงเรียน เพื่อน ๆ ของเธอ ผู้หญิงที่เธอรัก เธอเป็นเด็กที่จิตใจอ่อนโยนเกินไปไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียเอาซะเลย...”
ชายชรากล่าวและเว้นวรรคไปครู่ “ไม่เคยเต็มใจจะสู้สักครั้ง
ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับภาวนาให้มันจบลงเร็ว ๆ แต่เพราะอย่างนั้นแหละฉันถึงเลือกเธอให้เป็นรุ่นที่สิบ”
ชายชราจุดไปที่ปลายนิ้วและแตะกับหน้าผากของว่าที่เดชิโม่
“ฉันขอโทษ
แต่ดีแล้วล่ะที่เป็นเธอ” ปลายนิ้วของชายแก่ร่วงลงพร้อมสติที่ดับวูบ
สึนะถูกกระตุ้นความทรงจำและหวนนึกขึ้นมาได้ว่าเคยพบกับอีกฝ่ายมาก่อนเมื่อสมัยเขายังเป็นเด็ก
คุณปู่ที่ใจดี
“ไม่นะ! อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะครับรุ่นที่เก้า!!” สึนะกุมมือที่ไม่มีเรี่ยวแรงเหลือขึ้นโวยวายทั้งน้ำตา
มือที่เย็นยะเยือกแตะลงบนไหล่ของเด็กชายแล้วดันเขาให้หลบออก
“หลบไป”
เสียงของรุ่นพี่เย็นกว่าครั้งไหน ๆ ซีลอนตรวจสอบบาดแผลและอุ้มชายชราขึ้นด้วยสองแขนเหล่มองสึนะย้ำคำหนักแน่นเสียงแข็ง
“แก ทำหน้าที่ของแกซะ ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ต้องชนะไอ้เวรนั่น ชนะเท่านั้นจำเอาไว้”
“?”
สึนะไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายในทันทีจึงได้แต่แสดงสีหน้างุนงง
“เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณจะเอารุ่นที่เก้าไปไหนไม่ได้!” เชคเบคโล่ปรากฏตัวออกมาขวางซีลอน แต่ไม่สามารถเข้าใกล้นักฆ่าหลังเก้าอี้ของรุ่นที่เก้าได้เพราะต่างขาสั่นนิ่งงัน
กับจิตสังหารและพลังมายาของอีกฝ่ายที่เข้าหลอกหลอนปลายประสาท รู้ซึ้งถึงความกลัว
และไม่อาจจะขยับตัวเพราะระดับต่างกันเกินไป แม้ว่าเชคเบคโล่พร้อมที่จะมีตัวตายตัวแทนมาเปลี่ยนตัวตลอดก็ตาม
“อย่าบังอาจเผยอหน้าให้มากเชคเบคโล่
พวกแกเป็นแค่กลุ่มที่ขึ้นตรงต่อรุ่นที่เก้า ‘ภายหลัง’
ฉันคนนี้ซึ่งเป็น ‘เงาหลังเก้าอี้’ ของท่านรุ่นที่เก้า แค่ตำแหน่งพวกแกก็ไม่มีสิทธิ์ขวางฉันแล้ว” ท่าทีเอื่อยเฉื่อยไม่สนใจอะไรของนักฆ่าหัวเงินตลอดมาทำให้พวกเธอไม่ทันได้คิดว่าอีกฝ่ายจะซุกซ่อนอะไรไว้บ้าง
ดูเรื่อยเปื่อยจนลืมไปว่าเธอคือนักฆ่าหลังเก้าอี้ของรุ่นที่เก้า คือนักฆ่าลำดับที่
11 ของโลกมืด
“การพยาบาลบาดแผลสาหัสที่พวกแกทำกันไม่ได้
ไม่ได้ความว่าไม่มีคนทำไม่ได้ อย่าเอาบรรทัดฐานของตัวเองมาตัดสินคนอื่น” เธอกดเสียงต่ำเอ่ยออกมาอย่างคุกคาม
“เป็นแค่เครื่องประดับก็ทำหน้าที่เครื่องประดับของพวกแกไป”
เธอเหลือบมองทุกคนทิ้งท้ายเอาไว้ สัมผัสน่าขนลุกพวยพุ่งขึ้นจนสึนะที่มีสุดยอดลางสังหรณ์สะบัดหน้าไปมองอย่างหวาดกลัว
อะไรบางอย่างที่น่าขยะแขยงกว่าตอนที่สู้กับมุคุโร่
เหมือนสีที่มืดมิดยิ่งกว่า เหมือนโพรงลึกที่มองไม่เห็นก้นหลุมจ้องมองกลับมา
กลุ่มควันดำโอบคลุมทั้งรุ่นที่เก้าและซีลอนหายไปจากตรงนั้น ไม่ใช่ภาพมายาไม่ทิ้งร่องรอยและเค้าไอจิตอะไรเอาไว้เลย
รีบอร์นจ้องมองพลังนั่นอย่างพิจารณา
สึนะกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ มันไม่เหมือนมนุษย์เป็นความรู้สึกที่ต่างออกไปและเขาก็อธิบายไม่ได้
มุคุโร่นั่นมีบรรยากาศน่ากลัวและน่าขนลุกเหมือนภูตผี
เหมือนผู้กลับมาจากความตายที่พาความตายมาด้วย แต่ซีลอนนั้นต่างออกไปซึ่งในตอนนี้เองเขาก็ไม่สามารถนิยามหรือเปรียบเปรยความรู้สึกนั้นได้
“ให้อภัยไม่ได้ การกระทำเช่นนั้นต่อรุ่นที่เก้ามันผิดต่อจิตวิญญาณของวองโกเล่
บาดแผลบนตัวตาแก่คือหลักฐานว่าเป็นฝีมือของแก เพราะฉะนั้นผลของศึกชิงแหวนจึงต้องเป็นโมฆะ
และแกจะต้องตายเพื่อเซ่นวิญญาณรุ่นที่เก้า” ซันซัสยกมุมปากขึ้น
เขารอคอยเวลานี้มานาน เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน อุตส่าห์อดทนรอคอยอย่างที่ไม่เคยชอบทำ
“อย่างนี้นี่เอง...
แกรอคอยเวลานี้สินะ เพราะถ้าแกชนะศึกชิงแหวนไปตั้งแต่แรก
พวกที่อยู่ในคดีกรงนกจะต่อต้านแก
ถึงต้องเขียนให้สึนะเป็นตัวร้ายเพื่อเปิดศึกล้างแค้นอย่างเป็นธรรม
แล้วแกก็จะได้ความเชื่อใจของคนอื่นในแฟมิลี่ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในศึกนี้ด้วย”
รีบอร์นสรุปเรื่องราวทั้งหมดได้ก็จ้องไปยังผู้กล่าวอ้างตนว่าจะต้องมีการล้างแค้นขึ้น
“ศึกชิงแหวนนี่ถูกเตี๊ยมเอาไว้เพื่อให้ซันซัสได้ครอบครองทุกอย่างของวองโกเล่”
“อะไรกัน เพื่อเรื่องแค่นี้...”
สึนะสะอึกไป เขาเป็นคนที่เติบโตมาอย่างคนธรรมดา ไม่มีทางจะเข้าใจความคิดของพวกซันซัสได้เลย
“อย่าคาดเดาอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าค่ะคุณรีบอร์น
คำพูดทุกคำพูดพวกเราได้บันทึกเอาไว้อย่างเป็นทางการนะคะ”
สองสาวเชคเบคโล่หายใจคล่องขึ้นเมื่อนักฆ่าหัวเงินหายไปแล้วจึงรีบอ้างถึงอำนาจควบคุมและจับตามองการแข่งขัน
โกคุเทระกับยามาโมโตะได้ยินก็คาดเดาว่าทางเชคเบคโล่นั้นแท้จริงอยู่ฝ่ายเดียวกับซันซัสแต่แรก
เพื่อสร้างเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้นมา
“จะยังไงก็เชิญ ฉันฉุนขาดแล้ว”
ประโยคนี้ไม่ใช่คำขู่ของรีบอร์น จิตสังหารของเขาเข้าถึงสองเชคเบคโล่ทันทีเช่นกัน
แต่เขาก็ระงับความหงุดหงิดนั่นไว้ “แต่ตามที่สาบานไว้กับรุ่นที่เก้า
ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งกับการต่อสู้ของลูกศิษย์ แต่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าลูกศิษย์ที่เกลียดการต่อสู้เข้าไส้จะว่ายังไง”
ทารกนักฆ่าเหลือบมองสึนะที่ตัดสินใจได้แล้ว
สายตาแน่วแน่สีส้มนั้นประกายเพลิงนภาที่ลุกไหวออกมาด้วยเจตจำนงของตนเอง
การยืนหยัดเพื่อคนอื่นของสึนะไม่เคยให้ผลลัพธ์ที่น่าผิดหวัง
“ซันซัส แหวนวงนั้นฉันขอคืน...
อย่าหวังว่าฉันจะให้แกได้สืบทอดตำแหน่งของรุ่นที่เก้า!”
“เอาเลือดมา!” เสียงโหวกเหวกของทีมแพทย์ดังขึ้นเมื่อรุ่นที่เก้าถูกพามาโดยซีลอนในสภาพเจ็บหนัก
“ไม่ต้องห่วงเชื่อใจผมได้เลย!” เอิร์ลเกรย์บีบมือที่เปื้อนเลือดของฝาแฝดแล้ววิ่งไปขัดมือกับทีมแพทย์มือฉมัง
เธอแค่ขานรับในลำคอแล้วนั่งลงอย่างคนหมดแรงที่เก้าอี้ยาวแถวนั้น
หยิบมือถือที่กรอบร้าวขึ้นมาโทรออกไปหาม้าพยศว่าเธอเผลออุ้มปู่มาก่อนเขาจะเข้าไปเสียแล้ว
[อ่า ได้ยินจากอาจารย์แล้วนะว่าเธอเองก็เลือดขึ้นหน้าพาท่านรุ่นที่เก้าไปแล้ว
คนเจ็บอื่นไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจะตามไปสมทบที่โรงพยาบาล]
ปลายสายเป็นฝ่ายรีบร้อนพูดก่อนเธอจะได้เอ่ยปากเองเสียอีก
[คิดไม่ถึงจริง ๆ
ว่าเรื่องมันจะลงเอยแบบนี้] ดีโน่ถอนหายใจเบา ๆ
“หึ” นักฆ่าหลุดหัวเราะออกมาในลำคอ
[เดี๋ยวนะ หรือว่า!]
“เพราะผมน่ะเคลื่อนไหวตามความต้องการของปู่ทุกอย่าง
ไม่ต้องห่วงเขาจะไม่ตายหรอก
แต่จนกว่าเรื่องนี้จะจบคงต้องขอให้เงียบไว้ล่ะนะรุ่นพี่~”
ซีลอนแตะปลายนิ้วกับริมฝีปากของตัวเองแม้อีกฝ่ายคงจะไม่มีทางเห็นด้วยรอยยิ้มลอยชาย
[เดี๋ยวนะ...]
ดีโน่ลดเสียงลงคล้ายกระซิบ [หมายความว่ายังไงซีลอนพูดมาเลยนะ]
“ปู่เขารู้ว่าถ้าปล่อยเฮียออกมาเขาเองนั่นแหละที่จะเสี่ยง...
นี่เป็นการตัดสินใจของปู่เขาให้เรื่องมันเป็นแบบนี้
นิสัยของเฮียปู่เขารู้ดี...ยิ่งกว่าใคร แต่ไม่คิดว่าจะทำขนาดนี้อ่ะนะ” ซีลอนถอนหายใจ
[แล้วเธอก็ให้รุ่นที่เก้าทำตามแผนซันซัสเนี่ยนะ! จะบ้ารึไง!] ดีโน่เอ็ดเอาแต่ก็ยังพยายามกดเสียงเบาเพื่อไม่ให้ใครได้ยิน
“ถ้าไม่ประมาณนี้เฮียเขาจะรู้ว่าพวกเราเป็นฝ่ายจูงให้เขาเดินมาในเส้นทางนี้ตลอดปู่เขาว่างั้น
ผมก็เห็นด้วยนะเพราะว่าเฮียเขาขี้ระแวงจะตาย แต่ว่าก็นะ สายตาคนยโสคงไม่คิดหรอกว่าตาแก่ใจดีรักสงบจะวางหมากเอาไว้ทุกอย่างแล้ว
ทุกอย่างเพื่อผลักดันให้เดชิโม่เป็นคนรักสันติแบบตัวเอง
ในบรรดาแต่ละรุ่นนอกจากปู่แล้วก็มีรุ่นแรกที่ใจดีมาก ๆ คงอยากให้สึนะเป็นอีกรุ่นนั่นแหละ”
ซีลอนบ่นไปเรื่อยเปื่อย
[เธอควรจะห้ามท่านบ้างนะ...]
“ห้ามแล้ว
ปู่บอกว่ามีหลานเก่งยังไงก็ไม่เป็นอะไรแน่นอนเดี๋ยวฉันก็แบกเขาไปหาหมอทัน แล้วฉันก็ดันทำตามที่ตาแก่นั่นพูดไว้เป๊ะ
น่ากลัวชะมัด...”
[ฮะๆๆ บอกแล้วว่าหัวใจยังจำเป็นนะ]
“โทษทีที่ต้องดับฝัน
แต่ความภักดีของผมไม่ได้มีเศษเสี้ยวของความรักอยู่หรอก มันเป็นความเชื่อต่างหาก
แค่ตอบแทน... รุ่นพี่รู้...ว่าชีวิตนี้ปู่เก็บผมมา เพราะงั้นนอกจากเอิร์ลเกรย์แล้วคนที่ผมจะตายให้ได้คือรุ่นเก้าเท่านั้น”
[งั้นที่บอกว่าฝั่งไหนจะชนะก็ไม่มีปัญหานี่ก็...]
“ก็ไม่มีปัญหาจริง ๆ นั่นแหละ
แค่ว่าปู่เขาเลือกฝั่งสึนะอ่ะนะ
แล้วก็เลยเดินเกมเหมือนตามไม่ทันซันซัสเขาเท่านั้นแหละ พรุ่งนี้ก็อย่าหลุดพิรุธออกไปล่ะ
ยังไงก็ฝากเก็บกวาดคนเจ็บต่ออีกวันด้วย พรุ่งนี้น่าจะมีเจ็บหนักเยอะอยู่” ซีลอนเอ่ยเตือนให้อย่าเพิ่งลดการ์ดระวังลง
[เข้าใจแล้ว
ฝากความห่วงใยถึงรุ่นที่เก้าด้วย แล้วฉันจะซื้อช็อกโกแลตไปฝาก]
“จริงปะเนี่ยโหย
รักตายเลยนะศิษย์พี่~ แต่ไม่อร่อยปาหัวนะ...” ซีลอนหลุดหัวเราะออกมาไขว้เท้านั่งสบายอารมณ์แม้ว่าจะเป็นการแสร้งทำก็ตาม
อืม...มันคงเป็นประมาณนี้ถ้าเธอยังปกติล่ะนะ
แต่ว่าเรื่องที่ชอบของหวานนะเป็นเรื่องจริง
หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมานิดหน่อยเมื่อคิดว่าจะได้ขนมรองท้อง
[หัวรุนแรงชะมัด
เออ ๆ จะซื้อแพง ๆ ให้เลยมันต้องอร่อยอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ]
“ขนมญี่ปุ่นอร่อย ๆ มีเยอะจะตาย
แต่ก็เอาเถอะช็อกโกแลตที่อร่อยน่ะผมรออยู่ที่โรงพยาบาลนะ บาย”
ซีลอนวางสายแล้วแกว่งสายมือถือ สงสัยต้องซื้อใหม่เพราะเล่นจนสมจริงไปนิด
หรือบางทีเธออาจจะโกรธจริง ๆ
ก็ได้... ไม่ชอบเอาซะเลยเวลาใจเต้นเกินกว่าระดับธรรมดา
ทั้งชีวิตของเธอที่เคยชินมาหัวใจจะเต้นแรงขึ้นเมื่อออกแรงหนักเท่านั้นแหละ
แล้วก็เวลาอยู่กับแฝดนิดหน่อย
“ไอ้ความรู้สึกอย่างมนุษย์นี่ก็น่ารำคาญเหมือนกันนะ...”
เธอพึมพำแล้วเหลือบมองข้างตัวที่ไม่มีอะไร เธอเห็นอะไรหรือ อันที่จริงก็ไม่หรอก...แต่ได้ยินเสียง...
เสียงของคนที่อยู่ในคุกน้ำแน่นหนา
สถานที่คุมขังที่เข้มงวดที่สุดของวินดิเช่
‘ก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกันครับ
ก็แค่เคยล่ะนะ ฟุฟุฟุฟุ’ เสียงหัวเราะเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นในหัว
มุคุโร่แม้จะเคยสร้างบาดแผลเพื่อใช้เป็นสัญญาและสื่อในการยึดชิงร่างของซีลอนเอาไว้
แต่เขาไม่สามารถเข้ามาสิงสู่ในร่างเธอที่มีอะไรบางอย่างแข็งแกร่งกว่าเขาได้
น่าขนลุกกว่า ดำมืดยิ่งกว่าปลายสุดของวัฏสงสารที่เคยพบพาน
แต่ว่า แม้จะสิงร่างไม่ได้
ก็ใช้สื่อสารกับเธอได้ เป็นเรื่องคลายเบื่อที่ดีทีเดียวเพราะมันแทบไม่ต้องใช้พลังเลย
‘แหม แต่ว่าการแสดงนั่นทำได้แนบเนียนไปเลยนะครับ
ขนาดผมเองยังอุตส่าห์นึกว่าจะได้อะไรบ้างเพื่อแลกกับแผนการนั่นที่ผมรู้เสียอีก
น่าเสียดายๆ’ สายหมอกหนุ่มตอบกลับมา
“ถ้าไม่ประมาณนั้น...”
‘เดี๋ยวอีกฝ่ายที่ขี้ระแวงเอามากจะสงสัยเสียก่อน
คุณพูดวลีนี้มาหลายครั้งแล้วครับซีลอน’
“...รู้แล้วก็ไม่น่าถามนะ
หรือว่านายจะเป็นคนขี้เหงาแบบที่อาจารย์พูดเอาไว้จริง ๆ โถ...น่าสงสาร เบื่อแย่เลยนะต้องนอนนิ่ง
ๆ ในคุกน้ำน่ะ” ซีลอนม้วนปลายผมอย่างคนไม่มีอะไรทำ
พูดกับอากาศราวกับกำลังคุยกับใครบางคน หน่วยแพทย์ผู้สนับสนุนใบ้กินไปตามกันเวลาเดินผ่านเธอเพราะมือถือก็ไม่ได้ถือไว้แนบหู
และแม้คำพูดจะดูใจดีแค่ไหนแต่น้ำเสียงนั้นคล้ายจะย้ำเยาะในที ยิ่งกับคำว่าคุกน้ำด้วยแล้วพวกเขาคงต้องคิดกันใหม่ว่าพลังมายาสายหมอกของเธอแกร่งขนาดไหนถึงคุยกันคนอยู่ห่างขนาดนั้นได้
“นายทำให้ฉันดูเป็นผู้ป่วยจิตเวช...
คุยกับคนที่ไม่มีร่างนี่ลำบากแฮะ สงสัยต้องซื้อสมอลทอร์คมาใช้ซะแล้วมั้งถ้าจะโผล่มาเล่นด้วยบ่อยขนาดนี้”
‘คุฟุฟุฟุฟุฟุฟุ
ดูเหมือนใครบางคนก็คงต้องซื้อสมอลทอร์คจริงซะแล้วล่ะครับ เพราะผมเองก็คงมาหาเรื่องแก้เบื่อบ่อย...’
“ไม่ใช่ว่าออกมาต้องใช้?” ซีลอนเลิกคิ้วเล็กน้อย
เธอจำได้ว่าหลังจากศึกชิงแหวนสายหมอกเขาก็หายไปอย่างไวด้วยท่าทีอิดโรย
ในหัวของนักฆ่าเต็มไปด้วยคำถาม
‘ดูเหมือนว่านอกจากโคลม
คุณก็เป็นอีกคนที่คลื่นตรงกับผมมั้งครับ แค่คุยด้วยเลยแทบไม่เสียพลังนัก’
“แต่ก็เสียอยู่ดี ไสหัวไปนอนไป๊”
ซีลอนสรุปออกมาแล้วออกไปไล่ เธอพ่นลมหายใจแล้วพิงหัวกับผนังหลังเก้าอี้
‘คุฟุฟุฟุฟุฟุ
น่าเสียดายนะครับแต่คนที่ตัดสินใจว่าจะไปหรือจะมาเป็นผมคนนี้ไม่ใช่คุณ’
“...”
ซีลอนกลอกตาและลองคิดขึ้นเล่น ๆ ว่าพลังนอกระบบทรีนิเซตเต้ที่เธอถือครองจะสามารถไล่สายหมอกของสึนะไปได้หรือไม่...
แต่กระนั้นก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรจริงจังเพราะพลังสีดำนั้นทุกครั้งที่ใช้มีราคาที่เธอต้องจ่ายเสมอ
ในเช้ารุ่งขึ้นสึนะไปโรงเรียนหลังจากที่แจ้งหยุดเพราะป่วยไปหลายวัน
โรงเรียนนามิโมริสะอาดเรียบร้อยราวกับเรื่องเมื่อหลายต่อหลายคืนที่เกิดการปะทะกันนั้นไม่เคยเกิด
“ซ่อมเสร็จแล้ว!?” สึนะผงะไปกับสภาพของโรงเรียนในตอนกลางวัน
“ถ้าซ่อมเสร็จพวกผมก็คงไม่ต้องทำงานหรอก-นะ—”
ซีลอนหาวหวอดตบบ่าเล็ก ๆ ของว่าที่เดชิโม่ ข้างตัวเธอมีฝาแฝดที่ดูเหมือนนอนไม่พออีกคน
“นอกจากเจ้าพวกนี้ก็ยังมีคนของเชคเบคโล่นอกรั้วคอยสร้างภาพมายาปกปิดส่วนที่ซ่อมไม่ทันอยู่
ดูทางนู้นโน้นเจ้าสึนะ” รีบอร์นหันไปนอกสนามกีฬาของโรงเรียน
“รุ่นพี่...คือว่า—”
“ไม่ขอตอบคำถาม”
“งะ!” สึนะทำหน้าปูเลี่ยน เขาตามความคิดของซีลอนไม่ทันเท่าไหร่แต่ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่าคนคนนนี้เป็นมิตรของเขาอย่างแน่นอน
“แกน่ะสนใจแค่เรื่องการแข่งหน้าอย่างเดียวก็พอ
ทีมสนับสนุนของวองโกเล่ไม่ใช่กระจอกจำเอาไว้” ซีลอนใช้นิ้วดันหน้าผากเด็กหนุ่ม “โอ๊ะ
วันนี้ห้องฉันมีสอบเช้าไปก่อนละไว้เจอกันคืนนี้” นักฆ่าหัวเงินเหวี่ยงกระเป๋าขึ้นไหล่ก่อนจะจากไปพร้อมแฝด
ความคิดเห็น