ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ฟิคKHR/Reborn]TRICK OR TREAT~ แต่ว่าผมน่ะยังไงก็เลือกหลอกล่ะนะ~

    ลำดับตอนที่ #4 : |4| LURID |เฝ้ามองอยู่ห่างๆ

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 63



    Cr : https://www.pinterest.com/pin/356980707965949668/

    “ดวงดาวอันเจิดจรัส ที่พวกเราเห็นได้จากไกลๆ” | Binary Star - SawanoHiroyuki[nZk]:Uru

    ซีลอนทอดสายตาลงมาจากอาคารโรงเรียนวันนี้สึนะก็มีเรื่องให้ขำอีกแล้ว เธอแฝงตัวเข้ามาก่อนและพบว่าเป้าหมายคุ้มครองทำตัวอ่อนแอมาก เธอไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถอะไรที่เพียงพอในการขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าวองโกเล่รุ่นที่ 10 ได้ ไม่มีสักอย่างเดียว

    อ่อนแอ ขี้ขลาด ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง การเรียนก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร ไม่มีพวกพ้อง ไม่มีใครคอยหนุนหลัง

    แต่ว่าไอ้การใส่บ็อกเซอร์วิ่งไปวิ่งมาในโรงเรียนน่ะเธอรู้ว่ามาจากอะไร... ดูเหมือนท่านรุ่นที่เก้าจะใส่ใจเด็กคนนั้นมากทีเดียวถึงกับให้นักฆ่าอันดับหนึ่งมาเป็นครูสอนพิเศษส่วนตัว... เธอไม่คิดจะเข้าไปยุ่งด้วยเพราะตัวเธอเองก็มีหน้าที่ของเธอ ก็เข้าใจเลยล่ะว่าทำไมให้เธอมาดูอยู่ใกล้ขนาดนี้ก็เพราะดูยังไงก็ไม่ใช่คนฝั่งโลกมาเฟียเลยสักนิด...

    “นี่อาจารย์ ทำไมถึงเป็นหมอนั่นล่ะ แบบนั้นน่ะ...ไม่ใช่ว่าอ่อนแอแล้วโดนฆ่าง่ายสุด ๆ ไปเลยเหรอ” เธอชี้ลงไปที่สึนะกำลังต่อยพื้นสนามลงเรียนหลังทำการดาวน์ซิ่งหาอะไรบางอย่าง

    “เดี๋ยวก็เก่งขึ้นเองคิดว่าใครมาฝึกให้กันล่ะเจ้าโง่” ทารกปากจัดข้างตัวเธอเค้นลมหายใจออกจมูกเป็นเสียงฮึก่อนเก็บปืน

    “นั่นสิเนอะ ขนาดบอสของคาบัคโลเน่ยังเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้อาจารย์เจ๋งที่สุดอยู่แล้ว” ซีลอนเอ่ยไปตามน้ำโดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลยพร้อมยิ้มกลวงเปล่า

     


    ยิ่งเฝ้ามองก็ยิ่งเปรียบเทียบตัวเองกับสึนะบ่อยขึ้น

    หรือว่านั่นอาจจะเป็นคนปกติกันนะ ...ไม่ล่ะคงจะดูบ้าไปหน่อยเวลาถูกยิงด้วยกระสุนพิเศษของอาจารย์ แต่ว่าเจ้าห่วยสึนะที่ใครต่อใครในโรงเรียนเรียกก็เริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีทีละน้อยอย่างช้า ๆ จบเรื่องไทม์แคปซูลลงความจริงก็ปรากฏอาจารย์วิชาวิทย์ถูกปลดออกเพราะปลอมใบประกอบวิชาชีพ

    “อาจารย์เก๊นั่นออกไปได้ก็ดี” ซีลอนไหวไหล่เมื่อเพื่อนในห้องพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อวาน

    “เจ้าห่วยสึนะนี่ทำอะไรแปลก ๆ ทั้งนั้นแต่ก็ดูจะเปลี่ยนไปมากขึ้นนะ ในทางที่ดี เห็นว่าตอนนี้มีเด็กอันธพาลจากอิตาลี่ไปเป็นลูกน้องด้วยล่ะ บางทีเจ้าห่วยสึนะอาจจะซ่อนอะไรไว้ก็ได้... อ๊าย!วันนี้ยามาโมโตะคุงจะลงสนามด้วยดูสิ!” นักเรียนหญิงที่กำลังนินทาเด็กรุ่นน้องอย่างออกรสก็เกาะกระจกทันทีที่เห็นนักกีฬาสุดฮอตของโรงเรียนอย่างเทเคชิ ยามาโมโตะ ตัวจริงทีมเบสบอลปีหนึ่งเพียงคนเดียวในลานกว้าง เขามีนิสัยเอื้อเฟื้อและเป็นกันเองทำให้มีแฟนคลับมากมาย

    “ซายากะเนี่ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไวจนตามไม่ทันแล้วน้า” ซีลอนเลือกยิ้มขำออกมาอย่างแนบเนียนกลมกลืนไปกับบทสนทนา

    “ก็ฉันอยากให้ซีลอนจังรู้หลาย ๆ อย่างในโรงเรียนนามิโมริน่ะจะได้ชอบไง แต่เธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนใช่ไหมล่ะบางทีจบม.ปลายแล้วอาจจะไม่ได้เจอกันในมหาลัยที่ญี่ปุ่นก็ได้นี่นา” นักเรียนหญิงมุ่ยปากแล้วชักชวนชี้ให้เพื่อนผมเงินจากอิตาลี่เห็นว่าคนไหนคือยามาโมโตะ

    “โฮ่... มีร่างกายสมเป็นนักกีฬาดีนี่” นักฆ่าตามน้ำไปอย่างไม่คิดอะไรจนกระทั่งเย็นนั้นก่อนเลิกเรียนเห็นยามาโมโตะมาช่วยสึนะทำความสะอาด บางทีเธอควรจะสอดส่องเขาหน่อยเผื่อว่าท่านอาจารย์จะเอาตัวเขาเข้าแฟมิลี่

     


    วันถัดมาที่มีนักเรียนหญิงวิ่งเข้ามาในห้องกรีดร้องว่ายามาโมโตะอยู่บนดาดฟ้าและกำลังจะฆ่าตัวตายอย่างกะทันหัน เพราะเมื่อเย็นวานเขาซ้อมจนแขนหัก

    เด็กสาวตามคนอื่น ๆ ไปเพราะถูกเพื่อนลากไปด้วย

    อ่อนแอก็เลยอยากตาย? แน่นอนว่าเธอไม่สามารถทำความเข้าใจความคิดของยามาโมโตะได้เลย ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยากจะหนีไปด้วยการตาย แต่เธอก็ไม่ใช่คนประเภทเดียวกับสึนะที่พูดออกมาว่าเพราะตัวเองไม่เคยทุ่มเทกับอะไรสักอย่างได้แต่คิดว่าพยายามแล้วนะทั้งที่จริงไม่ได้ลงมือทำอะไร เลยไม่เข้าใจว่าทำไมยามาโมโตะถึงเลือกให้มันจบแบบนี้

    อย่างน้อยเธอก็คิดว่าแค่มุมมองนี้ของสึนะเป็นเรื่องน่าพอใจขึ้นมาในหลาย ๆ เรื่องที่ห่วยล่ะนะ

    เพราะไม่สามารถเข้าใจหัวใจอีกฝ่ายได้ถึงเลือกบอกว่าไม่เข้าใจหรอกไปตามตรง และก็คิดแทนไม่ได้เพราะมุมมองมันต่างกันถึงได้อยากจะฟังเหตุผลของอีกฝ่าย

    จนกระทั่งเขาคว้าสึนะที่ขอโทษแล้วหันเดินออกมาแต่รั้วก็พังแล้วตกลงไปทั้งคู่ เสียงตะโกนว่า รีบอร์นกลางเวหาดังขึ้นมาซีลอนก็หัวเราะหึในลำคอ อาจารย์ของเธอยิงปืนออกไปแล้ว

    ก็นะ สึนะน่ะเป็นว่าที่ผู้เข้าแข่งชิงตำแหน่งรุ่นที่สิบของวองโกเล่จะปล่อยให้ตายโง่ ๆ ไปทั้งแบบนี้คงยอมไม่ได้

    เสียงพึมพำของเหล่านักเรียนที่คิดว่าเป็นมุกตลกอย่างทุกทีซีลอนที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้ายบ่นออกมาก่อนจะกลับเข้าอาคารเรียนไปด้วย “มีเรื่องต้องสืบเพิ่มอีกแล้วเหรอเนี่ย ใช้งานกันหนักจังน้า...”

     


    หลายอาทิตย์ต่อมาหลังเลิกเรียนซีลอนกลับบ้านก็เจอกับคุณนานะผู้เป็นแม่ของสึนะเข้า

    “อุ๊ย คู่แฝดที่เพิ่งย้ายเข้ามาใช่ไหมจ๊ะ เมื่อวานน้าได้กินแยมของฝากแล้วนะอร่อยมากเลยล่ะขอบใจนะ ถ้ายังไงเอาคุกกี้นี่ไปทานกันสิ”

    ““ขอบคุณครับคุณนานะ”” ซีลอนยิ้มหวานกับฝาแฝดตีมือกันเบา ๆ ทั้งคู่เป็นพวกชอบขนมอยู่แล้วเลยไม่คิดจะปฏิเสธ

    “น้าเพิ่งเห็นว่าเครื่องแบบโรงเรียนเดียวกับลูกน้าเลยเขาอยู่ปีหนึ่งน่ะ” คุณนานะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ซีลอนมองห้วงอารมณ์นั้นแล้วศึกษามันเอาไว้ในใจ

    “สึนะสินะ ผมก็เคยเห็นผ่าน ๆ อยู่บ้าง” ซีลอนยักไหล่เล็กน้อยเลือกทำท่าทีสบาย ๆ เพื่อให้เข้ากับบทสนทนา

    “ผมก็เหมือนกัน” เอิร์ลเกรย์เองก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

    “ดีจ้า~” ทารกนักฆ่าเดินกลับมาที่บ้านของซาวาดะก็พบกับอดีตลูกศิษย์และฝาแฝดของหล่อนเข้า

    “โอ๊ะ ไม่เจอกันนานเลยนะท่านอาจารย์~ มาสอนใครบางคนอยู่แถวนี้เองสินะ” ซีลอนก้มลงแล้วทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างแนบเนียนเมื่ออยู่ต่อหน้าคนนอก

    “รู้จักคุณรีบอร์นด้วยเหรอจ๊ะ แหมเป็นเด็กอัจฉริยะสินะเนี่ย” คุณนานะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

    “อื้ม ถ้าได้เรียนจากท่านอาจารย์ล่ะก็รับรองว่าต้องเก่งขึ้นแน่นอนครับคุณนานะ” เอิร์ลเกรย์ยิ้มแล้วโบกมือให้นักฆ่าอันดับหนึ่ง ซีลอนจึงรีบหยิบกระดาษคำตอบที่วงแดงหนึ่งร้อยคะแนนให้อาจารย์นักฆ่าดู

    “ดูสิ ๆ ผมได้เต็มอีกแล้วล่ะเจ๋งใช่ไหมล่ะ~” คำพูดของพวกเขาช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เล็กน้อย

    “ท่านรุ่นที่สิบครับนั่นใครน่ะ...” เสียงของโกคุเทระดังขึ้นมาไม่มากพอจะให้คุณนายนานะได้ยินแต่มากเกินพอสำหรับประสาทหูของนักฆ่าอย่าซีลอนเธอจึงเก็บกระดาษแล้วหันไปยิ้มให้พร้อมกับฝาแฝด

    “เพิ่งเคยได้เจอหน้ากันตรง ๆ นี่แหละสึนะสินะ พวกผมเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากอิตาลี่น่ะอยู่ปีสองแล้วก็อยู่บ้านเช่าตรงนั้น” เอิร์ลเกรย์เอ่ยอย่างเป็นกันเองและชี้ไปยังบ้านฝั่งตรงข้ามเยื้องออกไปหนึ่งหลัง

    “อ๊ะ ลืมแนะนำตัวเลย ผมชื่อเอิร์ลเกรย์นะ ส่วนนี่ฝาแฝดของผมซีลอน ฝากตัวด้วยน้าสึนะคุง” แฝดชายโบกมือหย่อย ๆ ดวงตาเป็นมิตรยิ้มแย้ม สำหรับเอิร์ลเกรย์นั้นในใจชมชอบสึนะมากกว่าซันซัส แม้ว่าจะเป็นมาเฟีย เขาก็อยากให้ยกระดับและใช้ไม้อ่อนก่อนถึงใช้ไม้แข็งไม่ใช่ปะทะตาต่อตาฟันต่อฟันแบบซันซัน

    “ยินดีที่ได้รู้จักน้าคุณรุ่นน้อง” ซีลอนชะโงกออกมาจากเงาแฝดแล้วโบกมือให้ทั้งสามคน

    “โอ๊ะ รุ่นพี่เข้าใหม่ที่เป็นที่พูดถึงนี่นา ยินดีที่ได้รู้จักน้า~” ยามาโมโตะยิ้มซื่อโบกมือตอบกลับขณะที่โกคุเทระชะงักไปเล็กน้อยเพราะเหมือนเคยเห็นอีกฝ่ายที่ไหนมาก่อน

    “รู้จักกันแล้วงั้นเข้ามาคุยกันในบ้านไหมจ๊ะ? มาเลย ๆ” คุณนายนานะเห็นแบบนั้นก็ชวนทุกคนเข้าบ้านและเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ทั้งรุ่นพี่และเพื่อนของลูกชายรวมไปทั้งอาจารย์พิเศษตัวจิ๋วด้วย

    “ไหน ๆ ก็รู้จักกันแล้วงั้นพูดให้เคลียร์เลยแล้วกัน เจ้านี่น่ะเป็นลูกศิษย์ฉันเองพูดอีกนัยก็คือเป็นศิษย์พี่ของแกยังไงล่ะ” รีบอร์นโดดขึ้นไปบนไหล่ของนักฆ่าผมเงิน เธอยิ้มขึ้น

    “ยินดีที่ได้รู้จักน้าว่าที่รุ่นที่สิบ” ซีลอนเอ่ยปากอีกครั้ง

    “หา? ว่าที่อะไรท่านผู้นี้ต้องได้เป็นรุ่นที่สิบอย่างไม่ต้องสงสัย! ห้ามทำตัวหยาบคายใส่เด็ดขาด!” โกคุเทระตบโต๊ะเสียงดัง

    “น่า ๆ แค่เล่นกันเองโกคุเทระคุงทำแบบนั้นเสียมารยาทนา” ยามาโมโตะยกมือห้ามแต่เหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟ

    “ผู้พิทักษ์ของนายยังไม่รู้เหรอสึนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก ไม่ว่าใครจะเป็นรุ่นที่สิบผมก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ” ซีลอนไหวไหล่

    “แกนี่อิเรื่อยเฉื่อยแฉะไม่เปลี่ยน มาดไม่สมกับเป็นที่สิบเอ็ดเอาซะเลย” รีบอร์นเหล่มองเดาะลิ้นขัดอารมณ์

    “ก็ผมไม่สนนี่นา แต่ถ้าเอิร์ลชอบข้างสึนะขึ้นมาก็จะช่วยติวให้ก็ได้ถึงพวกผมจะเป็นกลางก็เถอะ” ซีลอนยกยิ้มเหลือบมองรุ่นน้องที่ป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ดูขี้ขลาด

    “ได้ลงสนามบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ใจกล้าและเก่งขึ้นเองนั่นแหละ เหมือนการที่ต้องฝึกบ่อย ๆ พอชินก็เก่ง” เธอตัดบท

    “มีแค่เรื่องนี้ละมั้งที่แกเห็นตรงกันฉัน” รีบอร์นโดดลงบนโต๊ะ “มาเริ่มที่วิชาคณิตศาสตร์กันเลย!

    “งั้นไม่กวนละ กลับล่ะน้า~” ซีลอนลุกขึ้นไม่มีท่าทีล้อเล่น

    “ขอโทษด้วยนะครับเพราะบทเรียนของปีหนึ่ง...” สึนะยิ้มเจื่อน

    “อาจารย์ไม่ได้มีหน้าที่สอนผมเรื่องวิชาการหรอกนะ?” ซีลอนเลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้ม ดูท่าอีกฝ่ายคงจะเข้าใจผิดไป

    “อ๊ะ! ลำดับที่สิบเอ็ด! นักฆ่าม้ามืดที่ไต่ท๊อปแรงค์ขึ้นมาในวัยสิบสองปี! อัจฉริยะนักฆ่าคนที่สอง!” โกคุเทระนึกขึ้นได้เสียทีก็ผุดลุกขึ้นกำระเบิดแน่นพร้อมปกป้องสึนะในทันที

    “ปิ้งป่อง~ แต่ว่าไม่ได้มาเก็บสึนะหรอกน้า เพราะมีคนจ้างให้ผมมาคุ้มครองอยู่ห่าง ๆ ต่างหากจนกว่าเรื่องจะจบ” ซีลอนแบมือยิ้มตาหยีเพื่อปกปิดแววตาอันแสนจะว่างเปล่าของตน

    “เพราะงั้นน้าสึนะ รีบ ๆ เก่งดีกว่าการฝึกของอาจารย์น่ะอำมหิตจะตายไป” เธอแสยะยิ้มเย้ยเหล่มองทารกนักฆ่า ใบหน้าที่แท้จริงทำให้เด็กหนุ่มขวัญอ่อนผงะไป

    “ไปแกล้งไม่ได้นะซีน พวกเขาไม่ได้โตมาเพื่ออยู่ในสังกัดแบบเราสักหน่อย ให้คนธรรมดามาฝึกปางตายก็ออกจะยากอยู่หรอก...” เอิร์ลเกรย์จับบ่าฝาแฝดปราบไม่ให้แสดงท่าทีไปมากกว่านี้

    “ถ้าเอิร์ลว่างั้นผมก็ว่าตาม~” ซีลอนหันไปยิ้มแย้ม

    “จริงสิท่านอาจารย์ คือว่านะรีบหน่อยดีกว่ามั้งงั้นเดี๋ยวเขาก็เป็นรุ่นที่สิบไม่ได้หรอก” ซีลอนจิ้มอกสึนะคลี่ยิ้มอย่างไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น

    “แต่ผมไม่ได้—”

    “มันไม่ใช่เรื่องที่นายจะตัดสินใจได้ด้วยตัวคนเดียวซะด้วยสิสึนะ เพราะงั้นได้แต่บอกว่าพยายามเข้าน้า~ อ่ะนะ”

    “เดี๋ยวก่อนถึงจะเป็นเธอก็เถอะ ฉันไม่ยอมให้ดูถูกท่านรุ่นที่สิบหรอกนะ! มาแข่งกัน! ถ้าแพ้ต้องขอโทษท่านรุ่นที่สิบซะ” โกคุเทระเดือดจัดโวยขึ้น

    สำหรับซีลอนแล้วไม่มีทางที่จะเข้าใจท่าทีของสโมคกิ้ง บอมบ์ ฮายาโตะ เธอไม่ถนัดทำความเข้าใจประเภทความรู้สึกที่มีรักเป็นส่วนประกอบเท่าไหร่ และหากจะนำมาเปรียบเทียบความรู้สึกของเธอต่อเอิร์ลเกรย์แล้วก็ยังต่างออกมาอยู่ดี เธอไม่สนใจคนที่มาดูถูกเอิร์ลเกรย์หรอกนะ เพราะคนที่รู้ดีว่าใครเป็นยังไงก็คือตัวเอง และคนสนิท อีกอย่างแค่เอาความสามารถของเอิร์ลตอกหน้าพวกมันก็ไม่มีใครกล้าเผยอหน้ามาท้าทายปากดีอีก

    “ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วยล่ะ แปลกดีจัง ก็ได้แข่งอะไรล่ะผลคะแนนสอบรายวิชาไหมเพิ่งประกาศเอง?” ซีลอนไหวไหล่ ตอบตกลงเพื่อจบหัวข้อให้รวดเร็วที่สุด

    “หึ มั่นใจมากสินะ แต่ขอโทษด้วยเธอคงแพ้” โกคุเทระโชว์กระดาษข้อสอบที่เขียนปากกาแดงคะแนนเต็ม 100 ทั้งสามใบในวิชาภาษาญี่ปุ่น คณิต และวิทย์

    “รุ่นน้องเก่ง ๆ ก็มีอยู่เหมือนกันสิน้าเพราะผมเองก็คิดว่าข้อสอบโรงเรียนนี้มันง่ายเกินไปหน่อยล่ะ” ซีลอนหยิบกระดาษคะแนนออกมาในวิชาเดียวกันคะแนนเต็มแบบเดียวกับโกคุเทระ

    “บ้าน่า!

    ซีลอนแสยะยิ้มหัวเราะในใจ ต้องขอบคุณโชคที่อีกฝ่ายเลือกสามวิชานี้ขึ้นมา เพราะแม้จะเต็มร้อยไปหลายวิชาแต่ภาษาอังกฤษเป็นหลุมอยู่วิชาเดียวที่เธอไม่ได้คะแนนสวยงามเช่นนี้

    “น่าเสียดายน้า แต่ไม่ได้มีแค่นายที่ขยันหรอกนะฮายาโตะคุง บ๊ายบาย~

    “เดี๋ยวก่อน! ยังมีวิชาสังคม ศิลปะ กับภาษาต่างประเทศอีก!” โกคุเทระไม่ละความพยายามทำให้เอิร์ลเกรย์หลุดขำออกมาเบา ๆ

    “เธอแพ้แหน่ะซีน ไม่น่าเล่นเป็นเด็กเลยนะ” ฝาแฝดชายยิ้มอ่อนโยนเหล่มองรุ่นน้องที่พยายามให้ซีลอนขอโทษสึนะคุง

    “โดนรู้ซะแล้วน่าเบื่อจัง แพ้ก็แพ้ ถ้าเปลี่ยนเป็นภาษาอื่นอาจจะเต็มร้อยอีกวิชาก็ได้” ซีลอนหยิบกระดาษข้อสอบที่เหลือออกมาคลี่ ภาษาอังกฤษเป็นใบเดียวที่คะแนนคาบเส้นเกือบตก

    “เยส! ท่านรุ่นที่สิบวางใจได้เลยครับผมน่ะเพียบพร้อมสมกับเป็นมือขวาแน่นอน!” โกคุเทระกำหมัดดีใจที่ชนะคะแนนสอบรุ่นพี่สาว ซีลอนไหวไหล่แล้วก้มลงไปหาสึนะที่เตี้ยกว่าเล็กน้อย

    “ขอโทษที่ทำตัวเหมือนไม่เคารพน้าสึนะคุง แต่ก็ไม่เคารพจริง ๆ นั่นแหละเพราะผมทำงานให้รุ่นที่เก้าอยู่ตอนนี้ตราบใดที่ปู่ป๋าไม่ได้ลงจากตำแหน่งผมก็จะไม่สวามิภักดิ์ให้รุ่นถัดไปก่อนเวลาหรอกน้า” ซีลอนยิ้มยียวนแล้วถอยกลับมา

    “ท ทำงานให้ท่านรุ่นที่เก้า!” โกคุเทระช็อกไปกับคำพูดนั่น

    “แม่นแล้วจ้า! เงาขึ้นตรงหนึ่งเดียว ณ หลังเก้าอี้ของชายผู้มากความสามารถ รุ่นที่เก้าแห่งวองโกเล่แฟมิลี่ยังไงล่ะ~” ซีลอนกอดอกยืดอวดเล็กน้อยให้ดูสมวัยก่อนจะกลับมาทำท่าทีปกติ

    “เพราะงั้นน้าไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมาลอบฆ่าสึนะหรอกนะ” ซีลอนหัวเราะในลำคอ เธอตามสอดส่องสึนะมาตลอดหลายสัปดาห์นี้

    “เดี๋ยวนะงั้นแรมโบ้ล่ะไม่นับเรอะ! ไหนจะคนที่ชื่อเบียงกี้อีก!” สึนะตาโตเอ่ยขึ้นอย่างข้องใจ

    “ก็คุณเบียงกี้เขาเป็นพันธมิตรของวองโกเล่นี่นา คิดซะว่าถูกพี่สาวคนสวยเขาฝึกพิเศษให้หลบอาหารพิษแล้วกันนะ ส่วนแรมโบ้... อ้อ นั่นสินะ ไม่เห็นมีพิษภัยตรงไหนเลยเป็นแค่นักฆ่าโนเนมไม่ใช่เหรอ? ถ้าถูกเด็กระดับนั้นฆ่าเอามันก็...นะ” แววตาดูถูกของนักฆ่าลำดับสิบเอ็ดมองสึนะอย่างสงสารก่อนจะหลุดโอ้ยอย่างเสียมาดเพราะเอิร์ลเกรย์หยิกเข้าให้

    “เสียมารยาทนะซีนขอโทษเดี๋ยวนี้เลย สึนะคุงไม่ได้โตมาแบบพวกเรานะ” คนที่เป็นคนปกติที่สุดเอ่ยขึ้น ฝาแฝดของเขาเบะปากเล็กน้อย

    “โทษที ผมโตมาแบบปลาใหญ่กินปลาเล็กน่ะถ้าไม่เก่งขึ้นมีหวังไม่ได้โตแหง ขอโทษน้า” แม้จะหาความจริงใจได้น้อยแต่เอิร์ลเกรย์ก็ยอมลงให้เพราะเข้าใจว่าความคิดความอ่านของฝาแฝดตนเองค่อนข้างแตกต่างจากชาวบ้านเขา

    “ร รุ่นพี่โตมาแบบไหนล่ะนั่น”

    “รังของนักฆ่ายังไงล่ะ~ ยินดีต้อนรับสู่ปฐมบทการก้าวเข้าสู่มาเฟียแฟมิลี่! หวังว่าจะได้พบคุณในอีกหลายสิบปีข้างหน้านะซือคุง!” ซีลอนแบมือออกข้างหัวเราะในลำคอและโบกมือลาพวกเขาเพื่อกลับบ้านตนเอง

    “รุ่นพี่เขาเป็นนักฆ่า!?”

    “บอกไปแล้วนี่หัดฟังซะบ้างเจ้าสึนะ! ลูกศิษย์นักฆ่าที่น่าภูมิใจเชียวล่ะ! ขยันซ้อมไม่ขาดไม่เคยต้องคอยบอกว่าให้ไปซ้อมก็ฝึกฝนอยู่เสมอ เปี่ยมไปด้วยพรแสวงจนปืนป่ายด้วยกำลังของตนเองมาได้สูงขนาดนี้” รีบอร์นกอดอกสารธยายให้ฟัง

    “เล่นกันจริงจังมาเลยน้าแถมมีไปเตี๊ยมกับรุ่นพี่ด้วยเจ้าหนูนี่กว้างขวางจริง” ยามาโมโตะยิ่งประทับใจรีบอร์นที่ตนเข้าใจว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องสึนะเข้าไปอีก

     



    “ให้ความรู้สึกมีสีสันดีจังแฮะ แต่ว่าน้า ปวกเปียกแบบนั้นตอนนี้แค่งัดกับระดับมือสมัครเล่นยังไม่ไหวเลยละมั้ง~” ซีลอนประสานมือหลังคอขณะนอนเปื่อยอยู่บนโซฟาในบ้านเช่า

    “น่าสงสารเขาออกซีลอน ก็เขาโตมาเป็นคนธรรมดานี่ไม่เหมือนพวกเราที่เจอกับโลกเบื้องหลังตั้งแต่เด็ก” เอิร์ลเกรย์ส่งจดหมายให้ฝาแฝด เธอเปิดอ่านแล้วก็จุดไฟเผาทิ้งไปในถังเหล็กใกล้ ๆ

    “มอเรตตี้จะมาญี่ปุ่นแหน่ะ ดีเลยกำลังอยากรู้เรื่องบนเกาะมาเล่เดียโบล่าพอดี คิดถูกจริง ๆ ที่ส่งหมอนี่ผสมเข้าไปในพวกที่ต้องกำจัดด้วย” ซีลอนกระดิกเท้าแล้วลุกขึ้นมานั่งเปิดมือถือที่สั่นข้อความเข้า

    “เย็นนี้ผมกลับดึกนะล็อกบ้านดี ๆ ล่ะ” นักฆ่าสาวอ่านจดหมายที่ไม่มีเนื้อหาอะไรเป็นพิเศษแต่แฝงรหัสลับเอาไว้ของหน่วยข่าวกรอง

    อยู่ญี่ปุ่นคอยปกป้องว่าที่ผู้ท้าชิงตำแหน่งรุ่นที่สิบที่จะต้องสู้กับซันซัส สำหรับซีลอนเธอไม่เห็นหนทางที่สึนะจะชนะซันซันในเวลานี้ได้เลย

    แต่ถึงอย่างนั้นวันนี้เธอก็ยังมีงานเข้ามือไม่ขาดอยู่

    “พวกสายลับแฟมิลี่อื่นที่เข้ามาสืบข่าวแล้วเล็งเก็บสึนะน่ะมีเยอะกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีกน้า...พวกเขาเห็นอะไรในซือคุงกันนะถึงจะเก็บเขาไม่ใช่เฮีย...” เธอไหวไหล่เปลี่ยนชุดพร้อมออกไปทำงานให้ทะมัดทะแมงและใส่กางเกง รัดเข็มขัดอาวุธกับต้นขาและเอวซ่อนปืนและมีดเอาไว้ใต้เสื้อนอกที่คลุมปิด

    “ในทุกวันที่แสนธรรมดาและล้ำค่า...” เอิร์ลเกรย์กระตุกยิ้มเอ่ยขึ้นมา

    “เพราะที่ไหนสักแห่งมีคนกำลังปกป้องมันไว้อยู่... ผมเนี่ยเท่ไปเลยน้า~ เอิร์ลเกรย์ภูมิใจใช่ไหมล่ะ~” เธอเผยท่าทีขี้เล่นซุกซนออกมาจากใจ

    “ใช่แล้วเพราะว่าฝาแฝดของผมเก่งกว่าใคร ๆ ทั้งนั้น ถึงอย่างนั้นก็ห้ามประมาทนะซีน ระวังตัวด้วย” ฝาแฝดหนุ่มเข้าไปลูบหัวบีบแก้มเบา ๆ เอ่ยอย่างห่วงใยและโบกมือลา

    เธอโบกตอบและออกไปจากบ้านอย่างเป็นธรรมชาติราวกับไปซื้อของที่ตลาดและกลับมาเท่านั้น

    ในระหว่างทางก็กดน้ำอัดลมจากตู้ขายเครื่องดื่มแล้วยืนซดอยู่หน้าตู้เงียบ ๆ ชายในชุดมิดชิดกับหมวกไหมพรมเข้ามาข้าง ๆ และกดเครื่องดื่มออกมา

    “โหดร้ายจังนะครับถึงผมจะมี อาดิโอ้แต่ก็เกือบไม่รอดเหมือนกันนะครับ” มอเรตตี้ยิ้มเจื่อนแล้วดื่มกาแฟกระป๋อง

    พวกเขาส่งข่าวสั้น ๆ กันผ่านข้อความถึงตำแหน่งนัดหมายและเวลาเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร

    “แต่ฉันมั่นใจมากเลยนะว่านายจะรอดกลับมามอเรตตี้ คนที่โดนเพลิงพิโรธคงมีแค่เจ้าอ๊อตอะไรนั่นเท่านั้นแหละแล้วเป็นยังไงบ้าง?” ซีลอนถอนหายใจหลังดื่มน้ำอัดลมไปอึกใหญ่ ถ้าเอิร์ลเกรย์รู้คงดุเรื่องชอบอะไรหวาน ๆ จนกลัวว่าจะไม่ตายเพราะแก่แต่ตายเพราะโรคเบาหวานเอามากกว่า

    “เป็นไปตามที่คาดครับ เขาทรยศท่านซันซัสจริง ๆ แถมยังมีส่วนรู้เห็นกับพวกทหารเก่าที่บุกยึดเก่าอีกดูเหมือนผลประโยชน์ร่วมจะเป็นอาวุธรุ่นใหม่นะครับ” มอเรตตี้ไหวไหล่ เด็กสาวที่ได้ข่าวก็แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย

    “งั้นโบนัสจะโอนไปให้ต่างหากแล้วกันทำขวัญแกที่เกือบตายจริงเสียหน่อย แต่ว่าถึงกับมาส่งข่าวด้วยตัวเองแบบนี้น่ะ มาดูหน้าว่าที่รุ่นที่สิบกับเขาด้วยเหรอนายน่ะ” ซีลอนเหล่มองชายข้างตัวที่มากอายุกว่าแต่เธอก็ไม่ได้แสดงความเคารพนัก

    “ครับ! เพราะเห็นว่าเป็นเชื้อสายตรงจากรุ่นที่หนึ่งครับ ถ้าสง่างามเหมือนกันก็คงจะดีนะครับ” มอเรตตี้จินตนาการอย่างปลาบปลื้ม

    “ไม่ไหวอ่ะ ตอนนี้ไม่มีเค้าสักนิด ภาพวาดนั่นหล่อกว่าตั้งเยอะ อีกอย่างตอนนี้ยังเป็นเจ้าห่วยอยู่เลย คงต้องให้เวลาอีกหน่อย ไหนจะเรื่องรวบรวมผู้พิทักษ์อีก แต่ก็เอาเถอะได้นักฆ่าอันดับหนึ่งอย่างท่านอาจารย์มาลงมือสอนด้วยตัวเองแบบนี้ไม่นานก็คงพอเห็นแววบ้างแหละ เพราะถ้าไม่จำที่สอนเดี๋ยวก็ตายก่อนไปเอง” ซีลอนพูดอย่างไม่ใส่ใจพ่นถอนหายใจเบื่อ ๆ

    “เคยมีใครเตือนไหมครับว่าคุณหนูชอบพูดดับฝันคนอื่นบ่อยมาก...”

    “เหอะ... มันเป็นความผิดของคนที่หวังสูงเองไม่ใช่รึยังไง” เธอเหล่มองอย่างฉุน ๆ แล้วปาขวดลงถังขยะ

    “ไปสืบมาด้วย สลักเบญจมาศทำไมพวกมันเล็งสึนะเร็วขนาดนี้” เธอทิ้งคำสั่งเอาไว้และรับเศษกระดาษจากมอเรตตี้มาขณะสวนกันและแยกกันไปเพียงแค่นั้น

    นักฆ่าต่างถิ่นมักจะตกเป็นเป้าสังเกตได้ง่ายและเสียเปรียบเรื่องภูมิประเทศที่คนท้องถิ่นคุ้นเคยกว่าตามตรอกเล็กตรอกน้อย

    ถ้าหน่วยสืบข่าวของวองโกเล่เป็นพวกกระจอกล่ะนะ... แผนที่คร่าว ๆ ของตรอกเล็กตรอกน้อยในพื้นที่เป้าหมายถูกวาดขึ้นมาและเขียนรายละเอียดส่งให้เธออ่านเล่นระหว่างนั่งเครื่องบินเล่น ไม่นึกว่าวันที่จะได้ไปพื้นที่จริงจะเร็วกว่าที่คิดไวมาก อันที่จริงที่ไวคือสายตาที่จับจ้องมาทางสึนะมากกว่า...

    หรือเพราะบางทีใครบางคนคงเด่นเกินไป อย่างท่านอาจารย์ ทารกในสูทดำที่เดินไปไหนมาไหนตัวคนเดียว

    นักฆ่ารุ่นเยาว์ซ่อนตัวนั่งห้อยเท้าอยู่บนบันไดหนีไฟในตรอกหนึ่งเพียงรอเวลาและเฝ้ามองกลุ่มคนสองสามคนที่เดินเข้ามาสูบบุหรี่คุยกัน

    “เด็กนั่นน่ะนะ ไม่ล่ะ ดูยังไงก็เป็นคนเจ้าห่วยคนหนึ่ง”

    “แต่สายข่าวรายงานมาว่าเขาเกี่ยวข้องกับนักฆ่าอันดับหนึ่งของอิตาลี่เชียวนะ มันต้องมีอะไรบ้างล่ะ”

    “งั้นสังเกตอีกสักระยะดีไหมถ้ามีความเกี่ยวข้องจริงค่อยคิดหาทางใช้มันเพื่อต่อรองให้ลูกพี่ได้ผลประโยชน์”

    ซีลอนนวดหัวคิ้วแล้วถอนหายใจเบา ๆ โดดลงไปกลางวงตวัดขาจัดการหนึ่งในนั้นให้สลบในครั้งเดียวก่อนจะจัดการอีกสองคนด้วยโดยไม่รอแม้แต่จะให้พวกมันควักอาวุธ

    “ลูกน้องเคลื่อนไหวกันเองโดยไม่ผ่านหัวหน้าสินะ ไม่มีลำดับอาวุโสเอาซะเลย เพราะแบบนี้ไงถึงยังเป็นแก๊งระดับต่ำหน่ะ” เธอกดสายตามองอย่างดูถูก

    “กรณีนี้ยังไงก็ฆ่าไม่ได้สินะ...ไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้... หรือทิ้งดีนะ...” เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เธอตัดสินใจลากพวกมันไปกองกันท้ายซอยตันแล้วหาซื้อสีกระป๋องมาพ่นข้อความทิ้งไว้ลวก ๆ

    อย่ายุ่งกับเรื่องของแฟมิลี่คนอื่น เธอโคลงหัวแล้วหยุดมือลง

    “เท่านี้ก็พอละมั้ง...” ซีลอนเหลือบมองมุมบนขวาของตึกที่มีเงาคน เธอไม่ได้สนใจตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้ลงมายุ่มย่ามกับเธอ

    ไม่คิดว่านอกจากคนบนตึกแล้วยังมีอีกกลุ่มที่เดินเข้ามาหาน่าแปลกใจทีเดียวที่จะพบกับกลุ่มพันธมิตรไวขนาดนี้

    “คาบัคโลเน่... รุ่นพี่ดีโน่ ไม่เจอกันนะนะครับ ไม่คิดว่าคุณก็มาอยู่ที่นี่กับเขาด้วย” ซีลอนหันไปทักทายบอสใหญ่รุ่นที่สิบของแฟมิลี่พันธมิตรและลูกน้องคนสนิท

    “เจอกี่ทีก็ยังน่าขนลุกไม่เปลี่ยนเลยน้าศิษย์น้อง ทางนี้เองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันแหละว่าจะถูกอาจารย์เรียกตัวมาน่ะ ถึงพอจะรู้ก็เถอะ” ดีโน่กล่าวยิ้ม ๆ

    “ในฐานะคนที่ได้รับการฝึกให้เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟีย คุณเป็นตัวอย่างที่ดีและใกล้เคียงกับสึนะที่สุดช่วยไม่ได้อ่ะนะ” เด็กสาวไหวไหล่

    “พวกมันเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่คาดเหรอ?” ดีโน่รายตามองคนที่นอนกองกันอยู่

    “ก็แค่พวกปลายแถวที่เคลื่อนไหวโดยไม่ผ่านหัวหน้าแก๊งระดับล่างน่ะไม่ได้อันตรายกับพวกเราหรอกแต่ขู่ไว้ก่อนดีกว่า” ซีลอนเอาเท้าเขี่ยคนที่นอนไม่ได้สติเหล่านั้นราวสิ่งของ

    “ลำบากหน่อยน้ารุ่นน้อง แต่ว่าผลงานยังดีไม่มีเปลี่ยน ก็พอจะเข้าใจล่ะว่าทำไมท่านรุ่นเก้าถึงหวงขนาดนั้น” รุ่นที่สิบแฟมิลี่ข้างเคียงวางมือลงบนหัวแล้วจับโยกไปมาอย่างเอ็นดู ซีลอนไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษจึงไม่ได้ออกท่าทีรังเกียจ

    “แล้วเอิร์ลยังโชคร้ายแปลก ๆ อยู่ไหม?” เขาถามขึ้นถึงฝาแฝดเด็กสาวตรงหน้า

    “ก็เรื่อย ๆ อย่างว่าละนะ ความตายเรียกหาอยู่เสมอนั่นแหละถ้าไปอยู่ในที่เสี่ยง ๆ น่ะ เดี๋ยวของร่วงใส่บ้าง เดี๋ยวพังลงมาบ้าง เจ็บตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ บ่อยแต่ไม่ได้อันตรายขนาดนั้นเพราะพวกที่บังอาจมายุ่มย่ามในเขตนามิโมริล่ะฆ่าไปหมดแล้วล่ะ” เธอกล่าวอย่างเรียบเฉย

    นักฆ่าท้องถิ่นน่าจะรู้ดีว่าครอบครัวซาวาดะเป็นกลุ่มคนที่ห้ามเข้าไปยุ่งจากอิทธิพลของคุณอิเอมิสึผู้เป็นบิดาของว่าที่รุ่นที่สิบ

    “พวกที่ทะเล่อทะล่าข้ามเขตมาด้วยงานล่าหัวคนของซาวาดะมีแต่นักฆ่าต่างถิ่นต่างประเทศทั้งนั้น คงได้กลิ่นนั่นแหละว่าจะมีการเปลี่ยนรุ่นเร็ว ๆ นี้ เลยลามไปถึงคนรอบตัวซาวาดะด้วย ส่วนคุณเบียงกี้ถึงปากจะบอกว่ามาตามอาจารย์ก็เถอะแต่เธอก็ช่วยกำจัดพวกน่าสงสัยไปได้พอสมควร ต้องขอบคุณเธอล่ะนะ เพราะไม่ได้ขึ้นกับวองโกเล่แท้ ๆ ” ซีลอนเล่าให้อีกฝ่ายฟังอย่างไม่ใส่ใจ

    “...แต่ว่ารุ่นพี่โผล่หน้ามาแบบนี้อาจารย์คงกะจะทยอยให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทำความรู้จักกันสึนะสินะ... ผมน่ะชอบวิธีการของซันซัสมากกว่าอีก” นักฆ่าตัวน้อยเผยมือออกข้างตัวข้างนึงเซ็ง ๆ

    “เธอนี่หัวรุนแรงไม่เปลี่ยนเลยนะ” ดีโน่หัวเราะเบา ๆ

    “เพราะความรุนแรงมันเด็ดขาดกว่าความยุติธรรมไงล่ะ...” คนเห็นต่างไหวไหล่ “แต่ก็ไม่ได้รังเกียจสีสันอันสดใสของพวกเขาหรอกนะ ก็พอจะเข้าใจคุณอิเอมิสึล่ะว่าทำไมถึงชอบคุณนานะ ไม่เหมือนคนที่อยู่โลกเบื้องหลังเหมือนเราสักนิด เปล่งประกาย ระยิบระยับดีนะ ซื่อตรงและชวนให้รู้สึกสบายใจ...” เธอเว้นไปครู่

    “แต่ว่าเพื่อจะได้ครองคู่กับคนแบบนั้น สำหรับพวกเราที่อยู่ฝั่งนี้ก็คงต้องทำงานหนักเพื่อปกป้องเอาไว้...ผมน่ะมีแค่เอิร์ลเกรย์ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้ว ความรักสำหรับนักฆ่าเนี่ย... ไม่จำเป็นจริง ๆ นั่นแหละ” เธอกลอกตาอย่างเฉยชา

    “แต่ก็ดูไม่ได้รังเกียจอะไรขนาดนั้นนี่ หัวใจก็ยังจำเป็นสำหรับคนที่อยู่โลกเบื้องหลังอยู่นะ” ดีโน่ยักไหล่

    “บางทีน่ะนะ” ซีลอนหันหลังแล้วโบกมือลากบอสแฟมิลี่พันธมิตรเพื่อกลับบ้าน คนบนยอดตึกหายไปแล้ว

    พวกท้องถิ่นสินะ...เธอเหลือบมองเงาคนบนตึกที่หายไป เอาเถอะดูท่าจะรู้ดีว่าไม่ควรสอดมือเข้ามายุ่ง


    LURID หมายถึง น่าขนลุก
    ฟิคเรื่องนี้วางตัวซีลอนกับแฝดมาไม่ได้ให้เข้าไปยุ่งกับไทม์ไลน์หลักเกี่ยวกับพวกสึนะมากนักในช่วงแรก ๆ
    ไรท์คิดว่าในมุมที่ต่างออกมาทั้งพวกฆ่าติดอันดับกับพวกหัวกะทิแนวหน้าของโลกเบื้องหลังมารวมตัวกันที่ญี่ปุ่นในเขตเดียวกันคงมีแฟมิลี่อื่นระแคะระคาย
    แต่ว่าในเนื้อหาหลักไม่เจออะไรก็ก็คงเพราะรีบอร์นกับลูกน้องผู้สนับสนุนคอยจัดการทุกอย่างให้ไม่ได้เจอกับกลุ่มทายาทผู้สืบทอดตรง ๆ ค่ะ
    ซีลอนที่เป็นเงาหลังเก้าอี้ของรุ่นที่เก้าเลยมุ่งเน้นไปที่เก็บกวาดคนที่หวังเข้ามาเจ๋อกับพวกสึนะมากกว่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×