คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : | 14 | EXACERBATE | ก่อนปะทะ
“ทุกอย่างถูกวางแผนเอาไว้แล้ว
ที่เหลือก็ปล่อยให้ทุกคนวิ่งไปตามความคิดของตัวเอง” | เอิร์ล
หากจะเปรียบความรู้สึกของซีลอนในเวลานี้คงเป็นเหมือนรู้สึกถึงลมที่พัดผ่านทรวงอก
กระนั้นก็ยังคงเป็นห้วงอารมณ์ที่ชวนให้เค้นยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ
“อะไรกัน...
ท ทั้งที่! แค่กๆๆ!! ทั้งที่ไร้กล่อง!”
แบล็กสเปลบนพื้นเหลือบขึ้นมามองนักฆ่าของวองโกเล่
หญิงสาวที่พลังถูกหมายตาโดยผู้นำมิลฟิโอเล่และผู้บริหารทุกคน
พลังที่ข้ามขีดจำกัดของมนุษย์!
“โทษทีพอดีว่าโอเวอร์สเป็คก็เป็นงี้แหละ
ธรรมดา ไม่คิดว่าเพราะพวกแกอ่อนแอเลยต้องใช้กล่องช่วยหรือไง?”
เธอตอบคำถามอย่างยียวนก้มลงไปคลี่ยิ้มปั่นประสาทให้ผู้เคราะห์ร้ายที่ดันยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอและพวกพ้อง
“รู้อะไรไหม ตัวผมที่มีกล่องน่ะจะยิ่งแข็งแกร่งกว่านี้อีก
แบบที่ฟัดกับฮิบาริแล้วออกมาเสมอเลยล่ะ” เธอกระซิบแล้วหัวเราะในลำคอ
น่าเสียดายที่ชายคนนั้นสิ้นลมหายใจไปก่อนจะได้ยินเธอพูดประโยคหลัง
เธอยืนอยู่ท่ามกลางศพของแบล็กสเปลและไวท์สเปลระดับล่าง
ซีลอนเป็นตัวตนเดียวที่อิริเอะออกคำสั่งให้ทุกคนถ้าเจอและปะทะให้ล่อเธอไปเจอกลุ่มอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ
ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีชัยชนะสำหรับสมาชิกระดับล่างของมิลฟิโอเล่ที่เผชิญหน้ากับนักฆ่า
ผู้พกความแค้นมาเต็มเปี่ยมทุกคราที่ออกล่า คำสั่งที่ดูเหมือนไม่ว่ายังไงก็ต้องลากให้ซีลอนไปตายให้ได้หากไม่เข้าร่วม
และมันก็ยังเป็นแผนลวงที่ช่วยลดจำนวนพวกมันมิลฟิโอเล่ที่เธอเกลียดนักหนาอีกทาง
แม้ว่าจะทำบ่อยไม่ได้เพราะเดี๋ยวเบียคุรันจะสะกิดในตอนนี้คำสั่งของอิริเอะจึงให้หนีและลดการปะทะกับนักฆ่าลำดับเจ็ดแทน
“เจอแล้วเหรอ~ น่าเสียดายนะรอบนี้ก็เก็บสกอร์เต็มแต้มล่ะ~” ซีลอนหันไปฉีกยิ้มให้กล้องสอดแนมในโดรนที่พร้อมชูสองนิ้ว วีของชัยชนะ
และวีของวองโกเล่ ก่อนคว่ำนิ้วโป้งให้กล้องก่อนจะยิงสิ่งนั้นทิ้ง
ระหว่างที่เธอออกทำงานล่อความสนใจพวกมิลฟิโอเล่
เคลื่อนไหวไปตามจังหวัดต่าง ๆ ดึงให้พวกสอดแนมสาวถึงตำแหน่งฐานที่แท้จริงไม่ได้
พวกรีบอร์นและสึนะจากอดีตก็กำลังฝึกฝนในฐานทัพลับใต้ดิน
เธอได้ฟังเพียงความเคลื่อนไหวของทุกคนจากฟูตะหรือเบียงกี้
เพราะแม้กระทั่งโคลมในเวลานี้ก็กลับไปที่โกคุโยแลนด์เพื่อรกถูกสับเปลี่ยนกับตัวเธอในอดีต
ทุกอย่างที่ถูกวางแผนมาย่อมมีการลำดับตัวตนในการข้ามเวลามาก่อนแล้วโดยอิริเอะ
ในเวลานี้ทั้งมิลฟิโอเล่คงกำลังหัวหมุนอยู่กับข่าวที่สึนะจากอดีตเดินทางข้ามมายุคสมัยนี้
เธอพ่นลมหายใจทิ้งเกิดความเบื่อขึ้นมา
จะต้องทนทำไปอีกเท่าไหร่นะ อยากจะกลับบ้านไปนอนอยู่ข้างแฝดจะแย่อยู่แล้ว...
และต่อให้ต้องนอนอยู่ข้าง ๆ เอิร์ลตลอดไปโดยไม่ตื่นขึ้นมาอีกก็ไม่เป็นอะไร...
ถ้าตายพร้อมกันเธอไม่มีปัญหา
หรือเอิร์ลเกรย์จะมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไร
แต่ถ้าจะให้เขาตายก่อนเธอละก็
ไม่ว่าจะต้องทำอะไรเธอจะดึงดันพาเขากลับมาให้อยู่ข้าง ๆ อย่างเห็นแก่ตัว
คิดแบบนั้นแล้วเธอก็ทอดน่องไปยังมอเตอร์ไซด์คู่ใจที่จอดซ่อนเอาไว้พลางคิดถึงความรู้สึกในอกตอนนี้
‘แต่ถ้าหายไปตอนนี้คงมีคนผมยาวขี้ประชดคนนึงร้องไห้งอแงสินะไม่ชอบเอาซะเลยน้า~’
[โอยะโอยะ
ดูเหมือนยังพอจะรู้ตัวอยู่บ้างนะครับเนี่ย น่าซาบซึ้งจนน้ำตาจะไหลเลยละครับ]
“เคยบอกไปแล้วนี่ว่าไม่ชอบให้โผล่มาโดยไม่ทักก่อนน่ะ
คิดจะแอบฟังไปถึงเมื่อไหร่เจ้าผีไร้ร่าง!”
ซีลอนกระแทกเสียงอย่างหมั่นไส้
[แค่จะมาบอกว่าทางนี้เคลียร์เรียบร้อยแล้วครับ
แหม เป็นคนที่สู้ด้วยแล้วแอบน่าตื่นเต้นดีนะครับ ใจเย็นจนน่าเหลือเชื่อเชียวล่ะ] มุคุโร่สื่อสารมาทางจิตเสียงในโสตประสาทของซีลอนเป็นเสียงทุ้มยียวนกวนประสาท
“แอบน่าตื่นเต้น?
แสดงว่าหมอนั่นดิ้นไปบนมือนายอย่างที่วางแผนมาทุกอย่างล่ะสิ
ไม่เห็นแอบน่าตื่นเต้นตรงไหน มันก็เคลื่อนไหวไปตามรางที่พวกเราปูเอาไว้เท่านั้น
อีกอย่างคนที่เอาชนะมันคือโคลมไม่ใช่แกสักหน่อย แกเป็นแค่ไกด์ไม่ใช่รึไง?”
นักฆ่าเอ่ยค่อนแคะ
[ขับให้ช้าลงหน่อยก็น่าจะปลอดภัยกว่านี้นะครับ...
แล้วก็โคลมของผมน่ะเก่งอยู่แล้วเธอหัวดีจะตาย]
ซีลอนไม่ได้ลดความเร็วของยานพาหนะและถามกลับแทน
“แล้วทางนั้นล่ะเป็นยังไงบ้าง? ถ้าเจ้าโกรฟื้นจากอาการบาดเจ็บงานจะไม่เข้าแกเรอะ
มุคุโร่ที่อุตส่าห์ปล่อยข่าวว่าตายดันมาสิงสัตว์กล่องสำรองของหมอนั่นเข้าให้”
เธอกระตุกยิ้มนึกสะใจขึ้นมา โกร คิชิเนียเป็นชายสโยที่เป็นคนเก่งแต่สามานและยโส
หมอนั่นต้องไม่พลาดแฉข้อมูลที่ได้มาแน่นอน
[เป็นห่วงผมด้วยเหรอ
...ดีใจจัง]
“งานสิงาน...”
[คุฟุฟุฟุฟุ
พอดีว่าทำให้คางแตก กรามร้าว โคลมของผมนะบดขยี้หมอนั่นหนักเสียจนนิ้วก็คงขยับไม่ได้ไปสักพักเลยล่ะครับ~ แล้วก็งานส่วนของผมน่ะแทรกซึมเก่งมากเลยใช่ไหมล่ะ แถมส่งโกรไปให้โคลมของผมเชือดนิ่ม
ๆ อีก ต้องขอบคุณวิธีล่อความสนใจของคุณด้วยพวกวาเรียล่ะนะครับ]
“พวกเฮียก็แค่เบื่อที่จะรอเต็มแก่
ทางนี้ก็เลยเผลอลืมเข้ารหัสตอนติดต่อกับสายข่าว แล้วบังเอิญว่ายังมีข้อมูลหลงเหลือไว้ในอุปกรณ์สื่อสารให้แกะรอยได้
พวกวาเรียก็ออกไปยืดเส้นยืดสายเล่นเท่านั้นเอง~ ไม่ได้สั่งอะไรสักหน่อย~” ซีลอนกระตุกยิ้มร้าย
วาเรียเป็นองค์กรสุดยอดนักฆ่า พวกเขายอมไม่ได้หรอกที่ต้องเสียหน้ากับการถูกบุกถล่มปราสาทฐานที่มั่นและเกาะมาเล่
เดียโบล่าอันเป็นทรัพย์สินและหน้าที่ส่วนดูแลของวาเรีย
พวกเขาหัวเราะเป็นโทนเดียวกันอย่างชั่วร้ายเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนอย่างง่ายดาย
เป็นดั่งปีศาจร้ายที่เข้ากันได้ดีสองตัว
[หลังจากนี้จะไปไหนต่องั้นเหรอครับ?]
“ทำให้ตัวฉันเองในอดีตที่กำลังจะมาที่นี่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นแบบเต็มสูบยังไงล่ะ”
ซีลอนแสยะยิ้มเธอกำลังกลับคฤหาสน์ตัวเองในญี่ปุ่น
โคลมถูกเรียวเฮพาตัวไปที่ฐานทัพแน่นอนแล้ว
ห้าวันหลังจากนี้จะต้องตั้งทีมบุก
ระหว่างที่พวกเขากำลังวุ่นวายในงานของตัวเองเธอก็จะเก็บตัวฝึกในคฤหาสน์ของตนเองก่อนจะตามไปสมทบ
“นายเองก็ได้เวลาไปทำงานได้แล้ว
วันนี้ต้องสู้กับหมอนั่นเพื่อเอาข้อมูลบางส่วนมาไม่ใช่รึไง” ซีลอนกลอกตา
[ใช้งานกันหนักแบบนี้สงสัยงานเสร็จคงต้องขอให้จ่ายอย่างคุ้มราคาแล้วนะครับคุณนักฆ่า] เสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์
“เสร็จงานแล้วจะให้พักในร่างเอิร์ลเกรย์ก็แล้วกันนะ
เอิร์ลที่รักของฉันมีคลื่นที่พลังงานช่วยให้นายสะสมพลังได้เร็วกว่าคนทั่วไปคล้ายโคลมใช่ไหมล่ะ”
นักฆ่าสาวจี้ใจอีกฝ่าย
[แหม
คิดว่าผมจะกะรุ่งกะริ่งกลับมางั้นสินะครับ เผลอเป็นไม่ได้แช่งกันตลอดเลยนะครับ] มุคุโร่เอ็ดขึ้นมาอย่างฉุน ๆ
“สิ่งที่นายต้องไปสู้ลองเชิงด้วยเป็นสุดยอดของอันตรายในยุคสมัยนี้
แกที่ไม่มีวองโกเล่ริงทำอะไรมันไม่ได้หรอก
ยังไงทุกเพลิงธาตุย่อมไม่อาจเอาชนะเพลิงนภาได้แม้จะมีพลังเท่ากัน
นั่นเป็นพื้นฐานของพลังในโลกนี้...” ซีลอนกดเสียงต่ำอย่างหงุดหงิด
“จะเผื่อกรณีเลวร้ายที่สุดเอาไว้ ถ้าเกิดว่ามันคิดว่าแกจะแทรกซึมเข้าไป ต้องเตรียมการสร้างห้องกักกันคลื่นแบบพิเศษไว้แน่
ถ้าร่อแร่ปางตายละก็จะแทรกแซงแล้วดึงแกกลับออกมาแล้วยัดใส่เอิร์ลให้เอง เองวางใจได้เลย”
เธอพูดแบบนั้นร่างจริงของสายหมอกหนุ่มก็ลอบยิ้มอยู่ในสถานที่แสนห่างไกล
[ฝากติดต่อไปที่ฐานด้วยนะครับเพราะถ้าผมปางตายโคลมก็คงโคม่าเหมือนกัน] เขาทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนที่เสียงจะขาดหายไป
“หักหน้าเจ้าโกร
ลดกำลังศึกกันการบุกรุก
หวังว่าพวกเฮียที่อิตาลี่จะดึงคนของมันไปได้มากหน่อยนะไม่งั้นพวกซือคุงตึงมือแน่...”
ซีลอนพึมพำและบิดคันเร่งขึ้นไปอีก ความไม่สบายใจบางอย่างก่อตัวขึ้นในอก เธอเรียกมันว่าลางสังหรณ์
ซึ่งไม่เคยเป็นเรื่องดีเลยสักครั้ง
“...สงสัยต้องโทรไปบอกให้ฮิบาริข้ามประตูเข้าฐานสักหน่อยแล้วมั้ง”
เธอถอนหายใจแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดสายโทรออกด่วนหมายเลขหนึ่ง
“เฮ้
รับสายด้วยแฮะเจ้าคนเลี้ยงนก ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับโคลมละก็สอนให้เธอใช้แหวนสร้างเครื่องในซะนะ
ผมน่าจะแอบยัดโพยไกด์เอาไว้ใต้ฐานแจกันตกแต่งฐานนายสักใบละมั้ง....
อย่าตัดสายกันสิวะนังคนเกลียดการสุมหัว”
นักฆ่าหัวเราะในลำคอเมื่อใครบางคนที่ปลายสายคงเส้นคงวามาเสมอ
เมฆาที่เลื่อนลอยทำเท่าที่อยากทำ
เธอจึงโทรไปหามือขวาของฮิบาริแทน
“เฮ่
บอกเจ้านายแกซิว่าถ้าทำงานที่วานให้
แล้วมุคุโร่มันหายดีพอจะให้ซัดได้เมื่อไหร่ฉันเตรียมลานประลองให้เอง”
ซีลอนใช้ประโยชน์จากผู้พิทักษ์ทั้งคู่โดยไม่รู้สึกอะไรนัก
ยังไงก็ตีกันบ่อยเป็นว่าเล่นทุกครั้งที่ประชุมร่วมอยู่แล้ว
จะชกกันนอกรอบก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับฮิบาริกับมุคุโร่ตามสบโอกาส
เสียงปลายสายตอบกลับมาว่าจะพยายามช่วยพูดให้เธอก็วางสายลง
“...หรือฉันควรขู่มันด้วยผู้ดูแลนอกแก๊งคนนั้นดีวะ...ไม่ดีกว่าใช้เธอคนนั้นสงสัยฉันจะตายเอง”
ซีลอนกลอกตาแล้วพับโครงการใช้ใครบางคนข่มขู่ฮิบาริ ซีลอนนึกถึงเธอคนนั้นขึ้นมาก็อดกระตุกยิ้มไม่ได้
ในพาราเรลเวิร์ลทั้งหลายนั้นถึงจะมีเราที่คล้ายเราแต่ก็ต่างออกไปตามทางเลือกอันมากมาย
ในบรรดาเส้นทางคู่ขนานเหล่านั้น
ไม่ได้มีแค่พวกเธอคู่แฝดที่ไร้การดำรงอยู่ในบางพาราเรลเวิร์ล...ทั้งอลอนโซ่ อัลม่า
หรือกระทั่งผู้ดูแลนอกแก๊งที่มีพลังน้ำแข็งหัวกะทิผู้รับสืบทอดจากอิเอมิสึก็ไม่ได้อยู่ในวองโกเล่
เหมือนชะตาที่ไหลมารวมกัน
ในพาราเรลเวิร์ลที่บังเอิญว่าพวกเธอมีตัวตนอยู่ในแก๊ง
‘อยากเห็นคุณนายบ้านฮิบาริชะมัด...’
ซีลอนกลับมาที่คฤหาสน์
เมื่อลงมาในห้องสังเกตการณ์ใต้ดิน เจ้าหน้าที่คอยแปลข้อความใส่รหัสก็รายงานให้เธอฟังตั้งแต่เธอก้าวเท้าเข้ามาในห้อง
“สัญญาณของคุณมุคุโร่ขาดติดต่อไปแล้วครับ
เป็นไปตามที่คาดพวกมันคงสร้างห้องรบกวนคลื่นแบบพิเศษขึ้นมา กรณีเลวร้ายที่สุดคงเป็นห้องที่กักกันสลายตัวเพื่อหลบหนีของคุณมุคุโร่ด้วยครับ”
ได้ยินดังนั้นเธอก็เท้าคางเอนหัวกับพนักวางแขนโซฟานิ่งคิดอะไรนิดหน่อย
“เดี๋ยวจัดการเก็บกู้ทางนั้นให้
แล้วที่อิตาลี่กับฐานหลักญี่ปุ่นล่ะ?” เธอถามอีกเรื่องกลับไป
เจ้าหน้าที่เฝ้ามอนิเตอร์ก็ทยอยรายงาน
“ฐานหลักญี่ปุ่นยังไม่มีความเคลื่อนไหวครับ
แต่จากเพดานปรับพิเศษที่แอบทำเอาไว้พบคลื่นไฟฟ้าบางอย่างขนาดเล็ก คาดว่าเป็นตัวส่งสัญญาณครับ
มีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกบุกภายในวันถัดไป!
จะให้แจ้งไหมครับ?”
“แจ้งไปที่ฮิบาริให้เตรียมต้อนรับลูกไก่ก็พอ...”
ซีลอนถอนหายใจ ถึงจะถูกบุกแต่ฮิบาริก็คือฮิบาริ หมอนั่นคงสนุกสนานไปกับการสู้
“ฐานที่อิตาลี่ส่งข้อความเข้ารหัสมาแล้วครับ
กำลังเตรียมการเคลื่อนไหว
แล้วก็ส่งข่าวให้ทางผู้บริหารในอดีตเตรียมบุกฐานลับของมิลฟิโอเล่สาขาญี่ปุ่นครับ
พวกเขาจะบุกสาขาอิตาลี่และทวงปราสาทคืน!”
ชายอีกคนที่เฝ้าตัวส่งสัญญาณเครือข่ายจากอิตาลี่รายงาน
“รายงานด่วนครับ! ใกล้ฐานญี่ปุ่น มีกลุ่มโดรนลาดตระเวนขนาดเล็กกระจายตัวอยู่ที่ศาลเจ้านามิโมริ
ให้ส่งคนออกไปไหมครับ?”
ซีลอนขมวดคิ้ว
เธอแค่เดินหมากตามที่เอิร์ลและสึนะไกด์เอาไว้ให้ช่วยสานต่อเพื่อผลักดันสึนะและพวกพ้องในอดีตให้ไปสู่จุดสูงสุดและเป้าหมายที่แท้ของพวกเขา
การต้องมานั่งตัดสินใจเรื่องยุ่งยากทั้งที่ไม่ได้เป็นกระทั่งผู้ดูแลนอกแก๊งก็ออกจะเกินความสามารถไปหน่อย
“...ไม่ชอบงานนี้เลยน้า พวกแกก็รู้ว่าฉันน่ะเหมาะกับการรับคำสั่งแล้วออกไปฆ่าพวกมันมากกว่าสั่งพวกแกเสียอีก”
เสียงหัวเราะครืนดังไปทั่วห้อง
บรรดาลูกน้องสังกัดเงาหลังเก้าอี้มีทั้งชายและหญิง ส่วนใหญ่จะเป็นนักวิจัยและแพทย์
รองลงมาด้วยหน่วยสอดแนมและนักคุ้มครองที่มีอยู่หยิบมือแต่เป็นคนคุณภาพที่ซีลอนคัดและฝึกด้วยตัวเองในภายหลัง
เธอเป็นหัวหน้าที่พวกเขาต่างพร้อมใจกันลงความเห็นว่าใจดีแบบเดี๋ยวผีเข้าผีออก
เป็นเรื่องยากที่จะคอยเอาใจเธอ แต่พออยู่ด้วยกันสักพักจนรู้ตื้นลึกหนาบาง เธอไม่จำเป็นต้องมีคนคอยเอาใจหรือประจบ
แค่รายงานและทำงานตามหน้าที่ไปก็พอ ความไว้วางใจของบอสใหญ่วองโกเล่ต่อเธอมีมากจนพวกเขาก็ต่างเคารพการตัดสินใจของเธอ
นักฆ่าหลังเก้าอี้ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเงาของอัจฉริยะ ความสามารถของเธอด้านงานบริหารเป็นรองเอิร์ลเกรย์และสึนะหลายขุมก็จริง
แต่การคาดเดาคำนวณถึงวิธีการที่สองคนนั้นจะใช้ เธอจะอนุมานออกมาได้อย่างแม่นยำเรากับว่าพวกเขาเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น
พวกเราก็แค่เฝ้ามองไม่ให้มีอะไรนอกลู่นอกทาง ที่นั่นจะถูกบุกอยู่แล้ว
ส่งคนไปจะเร่งให้พวกมันรู้ตัวเร็วขึ้น... เสร็จจากนี่คงว่างไปอีกพักใหญ่
แต่ก็อย่าลืมสลับเวรยามมาเช็กข้อความเผื่อมีรหัสส่งมาให้ช่วยอะไร”
“จะให้ส่งที่ตั้งฐานทัพมิลฟิโอเล่ที่ญี่ปุ่นไปให้ท่านฮิบาริรึเปล่าครับ
จะได้ตามไปสมทบท่านรุ่นที่สิบด้วย” หนึ่งในบรรดาลูกน้องเธอทักขึ้น
“ส่งโลเคชั่นไป...
ข้อความเขียนว่า ‘แทรกตาราง’ ก็แล้วกัน เจ้าหมอนั่นรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง”
ซีลอนทิ้งท้ายคำสั่งเอาไว้แล้วลุกขึ้นออกไปจากห้อง
เธอขึ้นจากชั้นใต้ดินไปที่ชั้นผิวดิน
ออกจากลิฟต์แล้วตรงไปยังโถงพยาบาล วันนี้ฝาแฝดของเธอก็ยังคงหลับลึกอยู่
เสียงลมหายใจสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าเขายังหลับสนิทอยู่
“เขาเพิ่งหลับไปใหม่น่ะครับ
คุณมาคลาดอีกแล้ว” แพทย์ประจำบ้านเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าใครเข้ามาขณะกำลังเช็กปริมาณสารอาหารผ่านน้ำเกลือและยาที่ใช้คงสภาพกล้ามเนื้อก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกประโยค
“เขานอนนานแล้วนะครับ หมออยากให้คุณชายเขากายภาพเพิ่มเพราะเดี๋ยวกล้ามเนื้อจะลีบกว่านี้...”
“เดี๋ยวมุคุโร่จะมาสิงเอิร์ล...
ไว้ตอนนั้นค่อยให้หมอนั่นใช้ร่างเอิร์ลเดินไปเดินมาในคฤหาสน์แล้วกัน จะได้กายภาพร่างเนื้อไปในตัวด้วย”
ซีลอนตัดบท
“อืม...
คงต้องบอกเชฟให้ทำอาหารอ่อนซะแล้วล่ะครับจะได้ปรับสภาพกระเพาะของคุณชายไปด้วย คุณมุคุโร่จะอยู่สิงร่างคุณชายนานไหมครับเผื่อหมอจะทำตารางออกกำลังกายให้เขาด้วย”
แพทย์ประจำบ้านเธอถามอีกเรื่อง ซีลอนลูบคางครุ่นคิด
“ไม่แน่ใจ
ลำดับแผนมันค่อนข้างยืดหยุ่นแต่อาจจะไม่ถึงสองวีคละมั้ง ออกตารางมันก็ได้อยู่แหละ”
เธอก้มลงมองฝาแฝดบนเตียง ปรารถนาจะได้เห็นเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นเธอจะทุ่มหมดหน้าตักเพื่อรักษาร่างกายของเอิร์ลเกรย์ให้อยู่ในสภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
เธอก้มลงจูบหน้าผากชายที่คล้ายเธอมากบนเตียง
“ฝากด้วยนะแล้วค่ำนี้จะเข้ามาใหม่”
ซีลอนละสายตาจากเอิร์ลเกรย์ไปที่หมอก่อนจะออกจากห้องไป
สองเท้าก้าวขึ้นบันไดปูพรมไปยังชั้นสอง ในระหว่างทางเดินยาวมีกรอบรูปหรูหรามากมายที่ผนึกทั้งรูปถ่ายและภาพวาดสีน้ำมันเอาไว้
หางตาของเธอเห็นบางอย่างเคลื่อนไหวจึงหยุดเดินลง
ภาพเพ้นท์ของใครบางคนที่ไม่โตขึ้นเลยตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันและไม่เคยเป็นมนุษย์
“จ้างวาดภาพข้ารึ
ออกมาดูดีไม่เลวนี่...แต่ว่าจะดีกว่าถ้าเก็บให้มิดชิดกว่านี้นะ” มันหัวเราะคิกคักลูบมือกับกรอบภาพอย่างสนใจ
เจ้าปีศาจไหวหางปลายลูกศรไปมาและเหลือบมองเจ้าของคฤหาสน์
“ทำไม
ถึงโผล่มา” ซีลอนขมวดคิ้วยุ่ง แต่ละครั้งที่เจ้านี่โผล่มาไม่เคยเป็นเรื่องดีสักครั้ง
ทุกรอบที่เจอหน้าแม้แต่ในความฝันก็มักจะมาเพื่อบอกว่าความตายได้เรียกหาชื่อของใครบางคนที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง
“วางใจได้คราวนี้ไม่ใช่ความตายที่เรียกหาเขาหรอก...
ข้าแค่เห็นพวกเจ้าพยายามกันดีแต่นักฆ่าแถวนี้กลับแทบไม่มีส่วนร่วมในสงครามนี้เลย
ดูไม่สมเป็นเจ้าเลยนะลูกมนุษย์”
ซีลอนหันไปเผชิญหน้ากับปีศาจที่ทำสัญญาด้วย
เธอเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
“ก้าวเข้าไปสิ
ในสงครามนั่น...แล้วถ้าชนะครั้งนี้ข้าจะคืนให้” มันหันมาแสยะยิ้ม
ประโยคที่ทิ้งท้ายเอาไว้ทำให้ซีลอนใจสั่น
แต่ว่า กลับกลัวขึ้นมา
คืนอะไร?
เอิร์ลเกรย์ใช่ไหม? พลัง? หรือว่าความรู้สึก? เธอไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้นถ้าไม่ได้เอิร์ลเกรย์ที่แข็งแรงสมบูรณ์กลับมา
“เจ้าหนูเอิร์ลเกรย์เขาเริ่มเบื่อโต๊ะน้ำชาในสวนของข้าแล้ว...
จะคืนให้ก็ได้ แต่ว่าต้องชนะเจ้าผิวเผือกนั่นน่ะนะ ชนะเท่านั้น”
ปีศาจย้ำคำและม้วนปลายผมสีขาวของตัวเองที่สั้นเอามาก
“ทำไม...”
ไม่มีการแลกเปลี่ยนไหนที่จะไม่มีราคาที่ต้องจ่าย
และครั้งนี้สิ่งที่เจ้าปีศาจที่เรียกขานตัวเองว่ายมทูตนั้นได้เสนอสิ่งที่มันไม่ได้บอกราคาที่ต้องจ่ายออกมา
ซีลอนหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง แปลก...แปลกมาก
“มีคนงอแงว่าขอร้องละช่วยทำสัญญาด้วยที
เพราะงั้น อย่าเอาอะไรไปจากซีนอีกได้ไหม~”
มันยักไหล่เลียนประโยคของคนผู้นั้นให้เธอฟัง
“ไม่! ไม่เด็ดขาด จะเอาอะไรไปจากเอิร์ล!” ซีลอนตวาดออกไป รู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายที่สร้างสัญญาฉบับใหม่ขึ้นมาคือเอิร์ลเกรย์
“เจ้าไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจว่าทำหรือไม่ทำเสียหน่อย~ มีสิทธิ์แค่เลือกจะช่วยวองโกเล่จนชนะ
หรือแพ้ไปพร้อมกันเท่านั้น” มันฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์
“งั้นทำไม...”
“ทำไมถึงช่วยตั้งมากขนาดนี้งั้นเหรอ?
เพราะน่ากินละมั้ง?” มันเอ่ยตัดบทซีลอนอีกครั้ง หัวเราะ และโคลงหัว
“เพราะว่าน่ากินมาก
ทั้งคู่นั่นแหละ แต่ว่า...ข้ากินวิญญาณไม่ได้มาตั้งนานแล้ว
เพราะงั้นก่อนที่จะกลายเป็นของผู้อื่นได้สู้ทำสัญญาแล้วตีตราจับจองเอาไว้...ไม่ให้มีใครหน้าไหนมาชุบมือเปิบกินพวกเจ้าได้ทั้งนั้น”
มันเล่าและยิ้มยโส
“พยายามเข้าล่ะ
เพราะว่าเอิร์ลเกรย์ที่อยู่ในสวนน้ำชากับข้ากำลังเฝ้ามองเจ้าอยู่ ด้วยดวงตาเดียวที่ข้าใช้มองโลกใบนี้นั่นแหละ”
เจ้าปีศาจชี้มาที่ตาขวาของซีลอน ดวงตาของปีศาจ
“แล้วก็เรื่องเจ้ามุคุอะไรนั่น
ข้าจัดการช่วยดึงเศษเสี้ยวออกมาให้แทนแล้วตอนนี้น่าจะกำลังฟื้นสภาพในตัวเอิร์ลอยู่
หมากแต่ละตัวใกล้จะสมบูรณ์แบบแล้ว”
“แล้วก็สำหรับเจ้าเมื่อสิบปีที่แล้ว
ข้าจะเทรนนิ่งให้เอง วิธีใช้พลังให้เหมือนปีศาจโดยไม่ใช้พลังสีดำนั่นยังไงล่ะ”
มันแสยะยิ้มเหี้ยมก่อนทุกอย่างจะหายไปจากสายตา
ซีลอนในอนาคตถูกสับเปลี่ยนตัวในที่สุด
“ทุกคนถูกใครบางคนยิงบาซูก้าทศวรรษจากด้านหลัง
แล้วทำไมมีแค่ฉันที่โดนยิงจัง ๆ ตรงหน้าเลยวะ?” ร่างของนักฆ่าวัยรุ่นนั่งกอดอกหลังคุยกับมุคุโร่ในร่างของเอิร์ลเกรย์
เธอต้องใช้เวลาอยู่นานมากกว่าจะสงบลง ซึ่งก็หลังทำลายหุ่นฝึกในห้องเทรนนิ่งไปซะเกลี้ยงหลังจากที่มาเห็นสภาพของเอิร์ลเกรย์ที่อยู่ไม่ต่างกับตายไปแล้ว
“เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ได้เร็วกว่าคนอื่นละมั้งครับ
คุณในอนาคตเป็นคนบอกให้ยิงต่อหน้าเอง แล้วก็นี่เป็นแผนที่คุณ อิริเอะ
สึนะกับฮิบาริเท่านั้นที่รู้ อ้อ เอิร์ลเกรย์อีกคนด้วย ส่วนผมรู้บ้างไม่รู้บ้างล่ะนะ”
มุคุโร่อธิบายเรื่องราวคร่าว ๆ ให้เจ้าของคฤหาสน์ได้เข้าใจ
“เวลามีไม่มากนะครับ
ในขณะที่ทุกคนกำลังบุกฐานมิลฟิโอเล่สองประเทศพร้อมกัน
คุณมีเวลาเตรียมตัวฝึกน้อยที่สุด เพราะหลังจากบุกฐานสำเร็จพวกเราคงมีเวลาไม่มากก่อนที่จะต้องปะทะกับสงครามที่แท้”
มุคุโร่พูดต่อแล้วส่งอาวุธกล่องให้กับเด็กสาวที่มาจากโลกอดีตและอาจในโลกคู่ขนาน
“จุดไฟบนแหวนเพื่อใช้ต่างกุญแจไขรูบนกล่อง
รูปแบบของกล่องมีหลายประเภททั้งอาวุธ และสัตว์ หรืออาจจะเป็นอุปกรณ์อย่างอื่น
การใช้งานมีหลายประเภทขึ้นกับปริมาณไฟที่ใช้และรูปแบบของสิ่งที่อยู่ในกล่อง
ยกตัวอย่างเช่นสัตว์กล่องส่วนใหญ่จะหมดอ่อนแรงเมื่อไฟที่ใส่เอาไว้หมด ส่วนอุปกรณ์บางอย่างก็จะหยุดทำงาน”
มุคุโร่ปรายตาไปที่ของในมืออีกฝ่ายก่อนจะเผยมือให้ลองทำดู
“แล้วทำไมแกถึงเป็นเทรนนิ่งฉันร่วมกับไอ้ปีศาจนั่นวะ...”
นี่คือสิ่งที่ซีลอนไม่เข้าใจที่สุด
“เพราะว่าคนอื่นเขาก็ง่วงอยู่กับการฝึกไงครับ
ส่วนผมก็กำลังพักรักษาตัวในร่างของฝาแฝดคุณอยู่ ในอนาคตเอิร์ลเกรย์คุงให้ผมสร้างสัญญาเอาไว้กับเขาเพื่อใช้ร่างกายได้เป็นกรณีพิเศษ
คลื่นของเขาเป็นประโยชน์กับการฟื้นตัวของผมถึงจะแสดงออกว่ามีพลังของเมฆาแต่ข้างในของเอิร์ลมีธาตุอรุณซึ่งส่งผลดีกับการรักษาบาดแผลซ่อนอยู่ด้วยครับ
ส่วนเหตุผลของเจ้าปีศาจตัวนั้นผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน
บางทีคุณในอนาคตคงสัญญาอะไรเอาไว้กับมันละมั้งครับ” มุคุโร่ไหวไหล่
เขาไม่ได้อยู่ในสภาพของชายที่ชื่อมุคุโร่แต่แรก
แต่เป็นเอิร์ลเกรย์ที่เสยผมขึ้นและมีดวงตาข้างขวาเป็นสีแดงแทน
“เอาล่ะครับงั้นมาเริ่มเลคเชอร์ที่คุณทิ้งเอาไว้ให้ผมช่วยกันเถอะ...
ทริกการร่นระยะฝึกให้คุณในตอนนี้ใกล้เคียงกับคุณในสิบปีให้หลังน่ะ” มุคุโร่ฉีกยิ้มแล้วชูปึกกระดาษขึ้นมา
หลังจากสิบวันที่บุกฐานสำเร็จ
เบียคุรันได้นัดหมายล่วงหน้าพวกเขาไปยังสถานที่จัดการแข่งช้อยส์
ที่ศาลเจ้านามิโมริ
[ดูเหมือนพวกนายจะมาไม่ครบนะฉันบอกแล้วนี่ว่าต้องทุกคนที่มาจากอดีตน่ะ]
ภาพฉายนั่นก้มลงมามองสมาชิกที่อยู่ในสูทเครื่องแบบ
ชุดตัดพิเศษสำหรับออกศึก
มาเฟียกำเนิดจากศาลเตี้ยเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรม
เครื่องแบบออกศึกของพวกเขาจึงเป็นสูทที่ใส่เพื่อให้ความเคารพต่ออีกฝ่าย
ในขณะที่แสงค่อยๆบีบลงบ่งบอกเวลาที่นับถอยหลังลงทุกวินาที
“พวกนายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ...”
ฮิบาริเข้ามายังพื้นที่พร้อมกับยามาโมโตะที่ยิ้มแย้มเอ่ยขอโทษขอโพย
“เฮ้! ขอโทษที่ให้รอนะ!”
พวกเขามายืนรวมกลุ่มก่อนที่มอเตอร์ไซด์สีดำคันหนึ่งจะปาดเข้ามาแล้วเบรกปัดตัวออกข้างทิ้งรอยไหม้ล้อไว้บนพื้นปูหิน
นักฆ่าผู้มาจากอดีตก็เข้ามารวมตัวทันเวลาพอดี
“ไม่คิดว่าต้องร่วมงานกับเดชิโม่อีกนะเนี่ย
ปกติงานของผมน่ะแค่อยู่หลังเก้าอี้แล้วเชือดแต่คนที่บอสสั่งเหอะ” ซีลอนพูดอย่างมีน้ำโห
เธออยู่ในสูทดำพอดีตัวมีเข็มขัดคาดอาวุธเต็มเอวและต้นขาอยู่ในสภาพพร้อมรบ
“เอาล่ะ
ลุย! วองโกเล่บ็อกซ์!”
สึนะให้สัญญาทุกคนเพื่อเปิดกล่องวองโกเล่ในการชาร์ตพลังไฟห้าล้านเฟียม่าโวลต์
ซึ่งตัวเลขสูงของพลังไฟที่ทุกคนพร้อมใจกันเปิดกล่องดีดสูงไปเป็นสองเท่าจากที่เบียคุรันตั้งเอาไว้
ความคิดเห็น