คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : |11| AN ESOTERIC | ต่อกร
Cr : https://sennenkoi.tumblr.com/post/93448035146
“ฉันไม่สามารถให้เธอรู้รอยบาดแผลที่อยู่ในใจ” | words – Aimer
ข่าวปล่อยดาวเทียมถูกฉายอย่างผ่านตาผ่านหู
ซีลอนไม่ได้ใส่ใจกับทีวีที่เปิดทิ้งเอาไว้นักเพราะง่วนอยู่กับเอิร์ลเกรย์บนโต๊ะที่ระเกะระกะไปด้วยเอกสารมากมาย
หัวโต๊ะก็มีกระดานไวท์บอร์ดสำหรับใช้คำนวณสูตรจะได้ลบแก้ได้ง่ายกว่าทำบนกระดาษ
“เราพลาดอะไรไปตรงไหน?”
เอิร์ลเกรย์ขมวดคิ้วใช้ปากกาเกาศีรษะ
พวกเขาดึงเอาข้อมูลเก่าทั้งหมดของมาเฟียแต่ละแก๊งที่ยังเหลืออยู่มานั่งเทียบรายชื่อ
มีคนจากกองเอกสารมาช่วยพวกเขาสองสามคน
“เจอแล้วครับ! ข้อมูลใบหน้าที่ตรงกันกับที่กล้องของหน่วยข่าวกรองอิตาลี่จับภาพได้!” เขารีบปัดภาพขึ้นจอมอนิเตอร์ ชายผู้มีรอยยิ้มและเสน่ห์ของผู้ใหญ่ผมสีทองบลอนซ์
“สายฟ้า... สายฟ้าของ จิโลเนโร?
เป็นไปได้ยังไง บอสของจิโลเนโรรักสงบยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก?”
ซีลอนพึมพำขึ้นหลังจากเห็นใบหน้าของแกมม่าชายผู้ทำงานถวายหัวให้เด็กหญิงตัวเล็กผู้เป็นบอสของจิโลเนโร
“นั่นสิครับ
ข่าวกรองก่อนหน้าพวกเขารักสงบมากแต่เหมือนจะเปลี่ยนไปตั้งแต่เข้าร่วมกับเจสโซ่ที่มีเบียคุรันเป็นผู้นำ”
ผู้ช่วยกล่าวและเลือกหาข้อมูลกับข่าวที่เกี่ยวข้องเก่า ๆ
ออกมาจากลังเอกสารที่สุมอยู่เกือบเต็มห้อง
ทันใดนั้นเสียงสัญญาเตือนแสบแก้วหูร้องลั่นไปทั่วฐานของพวกเขา
เหล่าผู้คนที่ทำงานพากันหยุดมือและไปรวมตัวกันตามการฝึกซ้อม
“พวกมันรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่ไหน! พวกนายรีบหนีไปซะ เอิร์ลก็ด้วย ให้ตายสิ
วุ่นวายชะมัดยังไม่คืบหน้าถึงไหนเลย” ซีลอนเหวี่ยงเอกสารลงโต๊ะอย่างหัวเสียเปิดลิ้นชักในห้องเพื่อหยิบปืนออกมาปลดเซฟตี้และหย่อนตลับกระสุนใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองไปหลายตลับ
“ดูเหมือนเราจะเจออะไรไม่ชอบมาพากลเยอะเสียเหลือเกินนะ...”
เอิร์ลเกรย์ถอนหายใจไหวไหล่ “เจอกันตรงจุดนัดพบนะซีนแล้วผมจะรอ”
“จะไปหาอย่างแน่นอน
ถึงอยากให้นายอยู่ด้วยกันใจจะขาดก็เถอะ” นักฆ่าเม้มปากเป็นเส้นตรงและวิ่งออกไปจากห้องสวมแว่นและสมอลทอร์คเพื่อติดต่อกับห้องบัญชาการที่มีภาพจากกล้องทุกตัว
[ทางเข้าAแปดคน ทางเข้าBหกคน
มีทั้งอาวุธธรรมดาและปืนกลหนักระวังด้วยครับ!]
คนคุมกล้องรายงานสดจากห้องควบคุม ทยอยบอกตำแหน่งผู้บุกรุกต่าง ๆ
ให้เจ้าบ้านได้ลงมือกันตามสะดวก
“กลุ่มผู้คุ้มกันที่ยังทำงานได้ขนย้ายแพทย์และนักวิจัยหลบหนีไปซะ! สมาชิกรองจากระดับผู้บริหารคุ้มกันผู้บริหาร!
หน่วยข่าวกรองกับเอกสารอย่าลืมของสำคัญหน่วยคุ้มกันจะตามไปสมทบทีหลัง!”
[ชิชิชิชิ
เจ้าชายก็เอามั่งดิ หน่วยวายุโจมตีทางเข้าA!!!]
[โว๊ยยยย
ออกคำสั่งช้าหน่อยเดียวทำตัวเป็นคนใหญ่คนโตเชียวนะแกไอ้เปี๊ยก! หน่วยฉลามคลั่งปิดล้อมผู้บุกรุกเอาไว้!]
[พวกแกอย่าเสียงดัง! บอสกำลังพักผ่อนอยู่!]
[เลวี่นี่น่ารำคาญชะมัดเลยว่ามะไอ้กบ]
[คร้าบ meน่ะไม่สนหรอกว่าแต่รุ่นพี่เถอะไม่มีสมาธิเดี๋ยวก็โดนพวกลูกกระจ๊อกซิวเอาหรอกคร้าบ]
[อย่าทะเลาะกันในสายรวมสิวะ!] เสียงแปดหลอดของสคอวโล่ดังทะลุออกมา ซีลอนทำหน้าทำตาเดิม ๆ
รู้สึกชินไปเสียแล้วก็เลยปรับช่องรับเสียงของคลื่นจากตัวส่งสัญญาณสคอวโล่ให้เสียงเบากว่าระดับปกติ
[อี๋
เจ๊ไม่ชอบเลยอ่ะ มาจ้องแหวนชาวบ้านแล้วเขาแล้วบอกว่าออร่าระดับAอะไรเนี่ย หยาบคายพลังของฉันมันต้องระดับSSSอยู่แล้วนะจ๊ะ]
“หืม?”
ซีลอนทวนขึ้นหลังไล่ยิงผู้บุกรุกที่ลักลอบเข้ามาทางช่องลมก่อนจะลงไปที่ท่อระบายน้ำชั้นใต้ดินเพื่อกำจัดพวกที่ผ่านทางลับ
“ระวังทางช่องลมกับหน้าต่างด้วยกำลังเคลียร์ทางน้ำใต้ดินฝั่งใต้”
ซีลอนรายงานไปตามรูปการณ์ที่เจอ
[ไอ้เลือดที่ไหลจากช่องลมนี่ฝีมือแกนี่เอง!! นึกแค้นขึ้นมารึไง?!]
ฉลามคลั่งที่วิ่งตามทางเดินมาชนเส้นทางที่ซีลอนเพิ่งผ่านทำสีหน้าไม่ชอบออกมาเขาไม่อยากเลอะเลือดศัตรูที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนจัดการ
“ไม่อ่ะขัดหูขัดตาจะตายเหมือนวันนั้นไม่มีผิด
เลือดขึ้นหน้าขึ้นมาเลยล่ะ” ซีลอนปรายตามองนักประดาน้ำที่เข้ามาตายในรังคนอื่นด้วยสายตาเรียบเฉย
วันนั้นที่ได้เจอกับเจ้าปีศาจนั่น ก็มีเลือดไหลลงมาจากช่องลมเหมือนกัน
[ชิชิชิชิ รำลึกวันวานอะไรกันทำไมเจ้าชายไม่เห็นรู้เรื่องด้วยเลย]
“รุ่นพี่มาม่อนอยู่ไหน?”
[บังอาจอู้งานเรื่องนี้ต้องถึงหูบอส!] เลวี่ตะคอกใส่
“เบล ฟราน หามาม่อนเดี๋ยวนี้!”
[กะอีกแค่ชุมสายช้าไปหน่อยไม่ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนั้นก็ได้มั้งซีลอน
แกนี่จะรนเกินไปแล้ว ห่างงานฆ่านักรึไง เอาไปอีกสักปึกไหมล่ะ] เสียงของมาม่อนเข้าร่วมการชุมสายสื่อสารดังขึ้นนักฆ่าหัวเงินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ไม่เป็นอะไรก็ดี
สังหรณ์ใจนิดหน่อยว่าไม่ปกติแต่ก็เอาเถอะ”
[เห๊อะ
ที่มาสายก็เพราะมัวแต่หาแฝดแกอยู่นี่แหละขอบคุณฉันอย่างงามซะด้วยล่ะ] มาม่อนพ่นลมหายใจเย่อหยิ่ง
“เดี๋ยวส่งเช็คเปล่าให้ใบนึงเลยครับ...”
ซีลอนตอบกลับอย่างจริงจังทันทีแถมทิ้งท้ายประโยคอย่างสุภาพอีกด้วย
[ว๊อยยยย
อย่าไปตามใจมันมากแค่นี้เงินก็เยอะฉิบหายแล้ว!]
สคอวโล่แหกปากตะคอกใส่สายรวมพอได้ยินว่าไอ้เปี๊ยกบางคนจะส่งเช็คเปล่าให้คนที่ขี้งกเห็นแก่เงินที่สุดในคฤหาสน์ไปเขียนเลขเอง
“ทางน้ำใต้ดินเขตใต้เคลียร์”
[ชิชิชิชิ ประตู A
เคลียร์!]
[ชิ
ช้าไปแค่หน่อยเดียวอย่าคิดว่าจะได้หน้าจากบอสนักเลย! ประตู B เคลียร์!]
[ชั้นสองทางโล่งสบายจ้า~ เลวี่คุงทำดีมาก~
บอสเขาต้องเห็นความพยายามของเธออยู่แล้วแหละ~]
[แย่แล้ว! รุ่นพี่มาม่อนเป็นอะไรก็ไม่รู้อ่ะอยู่ ๆ ก็ล้มลงไปเลย!]
“ก็แค่หน้ามืดเพราะนอนไม่พออะไรงี้ปะ?”
ซีลอนเค้นหัวเราะตอบปลายสายที่กลายเป็นเอิร์ลเกรย์แบบติดตลก
[ผมว่าไม่ใช่มันผิดปกติเกินไป
พอออกมานอกฐานปุ๊บก็ล้มเลย ดูเขาทรมานมากด้วยทำยังไงดี?]
[ชิชิชิชิ
เจ้าตัวกะเปี๊ยกนั่นเนี่ยนะป่วย เจ้าชายม่ายเชื่ออ่ะ~]
[meว่าถ้าผิดปกติขนาดนั้นเป็นลมแดดอะไรงี้ปะครับหรือโลหิตจาง
แหมคนปกติก็ไม่น่าสลบทันทีที่ออกมาเจอแดดปะครับเว้นแต่จะเป็นแวมไพร์เงี้ยะ] ฟรานจีบปากจีบคอ
“อยู่ตรงไหน?”
[ทางออก 15
น่ะ]
“เดี๋ยวไปรับอยู่ตรงนั้น
จะพากลับเข้าไปห้องนิรภัย”
[โว๊ยยยย
อย่าเคลื่อนไหวกันตามใจสิวะ! ทำตามแผนกันหน่อย!]
“งั้นผบ.เอาไง?” ซีลอนถามกลับในทันทีเธอตรวจจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีผู้บุกรุกเพิ่มก็ปิดทางเข้าให้แน่นหนาเหมือนเดิมแล้วทิ้งศพผู้บุกรุกเอาไว้ให้พวกกลุ่มเก็บกวาดมาเคลียร์ทีหลัง
[น่าโมโหชะมัด เออ! เอาแบบที่แกว่านั่นแหละวะ!]
“ก็แค่เนี่ย...”
เธอเบะปากพ่นลมหายใจใส่ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางจากไปเคลียร์ทางน้ำใต้ดินทิศอื่นขึ้นไปบนชั้นพื้นดินและไปยังทางออก
15 แทน
‘มีบางอย่างผิดปกตินะครับ...’ มุคุโร่คุยกับซีลอนผ่านความคิดเขากำลังพักฟื้นสะสมพลังงานและเมื่อหลายวันก่อนก็ออกแรงไปมากตอนที่เจอกับโกร
คิชิเนีย
‘ก็คิดอย่างนั้น
แต่อะไรล่ะ ไม่อยากได้ยินแค่ลางสังหรณ์จากคนเหมือนผีหรอกนะ’
นักฆ่าหัวเงินกลอกตาเถียงกลับไปในใจ
‘บางทีคงจะเป็นอะไรที่ตาเปล่ามองไม่เห็นก็ได้นะครับ
เพราะดูเหมือนที่ญี่ปุ่นเองก็มีอัลโกบาเลโน่ป่วยประหลาดฉับพลันเหมือนกัน’ มุคุโร่ส่งข่าวจากอีกฟากโลกมาให้ เธอครุ่นคิดถึงความผิดปกติ
‘บอกทุกอย่างให้สึนะรู้
บางทีสุดยอดลางสังหรณ์เขาอาจจะทำให้เราได้อะไรก็ได้’
‘เรื่องที่ผมถูกทักออร่าแหวนระดับเอสกับที่คุณลุซซูเรียพูดด้วยไหมครับ?’
‘เดี๋ยวนะ
แกอยู่ตั้งแต่ตอนไหน... เดี๋ยวนี้หัดเป็นผีสิงตามหลอนชาวบ้านจริง ๆ เข้าแล้วสินะ! คราวหน้าหัดส่งเสียงว่าอยู่ด้วยสิโว้ย!’
‘แหม ไม่มีโอกาสได้ทักทายต่างหากครับไม่ได้สิงสักหน่อย
สิงได้ก็คงสิงไปก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้วล่ะครับ คุฟุฟุฟุฟุฟุ’
เสียงของมุคุโร่หายไป ซีลอนคิดว่าเขาคงไปติดต่อกับผู้ทำสัญญาคนอื่นที่อยู่ญี่ปุ่น
[ทำไงดี
อาการเหมือนโดนพิษเลยแต่ทำไมเป็นแค่อัลโกบาเลโน่คนเดียวละ ไม่แปลกไปหน่อยเหรอ!] เอิร์ลเกรย์เสียงร้อนรนเหมือนทำอะไรไม่ถูก เขาเป็นหมอจบแพทย์มาก็ทำงานให้วองโกเล่
และยังทำงานวิจัยเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นลูกมือหัวหน้าโครงการอื่น ๆ ในแฟมิลี่
เอิร์ลเกรย์เป็นแพทย์หนุ่มอัจฉริยะก็ว่าได้
เขาที่ไหวพริบดีและมือนิ่งรอบคอบนั้นรู้สึกว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับโรคประหลาดเป็นครั้งแรก
“มุคุโร่มาส่งข่าวว่าที่ญี่ปุ่นตอนนี้อัลโกบาเลโน่ที่อยู่ที่นั่นก็กำลังแสดงอาการแปลก
ๆ เหมือนกัน มันไม่ปกติแล้วนะ วางยา?”
[เป็นไปไม่ได้
พร้อมกันทั่วทุกมุมโลกเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้! เพราะการ์ดการระวังตัวของอัลโกบาเลโน่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาหรือแค่นักฆ่าแนวหน้าจะเข้าถึงพวกเขาได้!]
“หรือมีอะไรที่เราไม่เห็น?
มองข้ามไป?” ซีลอนพึมพำขึ้น
[แย่แล้วครับ ค่ารังสีอะไรไม่รู้พุ่งพรวดเลย! ไม่ใช่กัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายกับมนุษย์เครื่องเลยไม่แจ้งเตือนครับ! แผนกวิจัยที่กลับห้องได้ส่วนหนึ่งกำลังตรวจสอบครับ!]
“รังสี?... ดาวเทียมเรอะ! เอิร์ล! พามาม่อนเข้าฐานเดี๋ยวนี้!” ซีลอนวิ่งไปพบพวกเขากำลังหลบอยู่ในแนวไม้
“แล้วเรื่องผู้บุกรุกล่ะ!?” เอิร์ลเกรย์อุ้มทารกนักฆ่าขึ้น
นักวิจัยกับหน่วยแพทย์ที่อยู่ด้วยกลุ่มเล็ก ๆ ลุกตามพร้อมจะเคลื่อนย้ายตำแหน่ง
“ฉันจัดการเอง ตามมาติดๆ
เกิดอะไรขึ้นยกกระเป๋าบังหัวกับอกไว้มันเป็นรุ่นผลิตพิเศษน่าจะกันกระสุนได้หลายครั้งอยู่”
ซีลอนเปลี่ยนตลับกระสุนปืนทั้งสองกระบอก เธอถนัดสองข้างเหมือนซันซัส
แม้ว่าอาวุธที่เลออนคายให้ตอนจบการศึกษากับอาจารย์รีบอร์นจะไม่ใช่ปืนคู่ก็ตาม
ที่แล้วมาเธอยังไม่เคยใช้มันสักครั้งเพราะที่ผ่านมาไม่มีความจำเป็นต้องเข้าใกล้เหยื่อระยะประชิดเลย
หลังจากกลับเข้ามาได้เธอก็ยืนเฝ้าคุ้มกันอยู่นอกห้อง
[ไม่ไหวครับ เป็นรังสีที่ไม่รู้จักเลย! ต้องขอเวลาอีกสักพักเพื่อวิเคราะห์แล้วสร้างรังสีส่วนกลับครับ!]
ทั้งนักวิจัยทั้งแพทย์ชุลมุนกันใหญ่เมื่อหนึ่งในผู้บริหารวาเรียล้มตึงลงไป
ซีลอนลูบปากตัวเองครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างก่อนจะเดินเข้าไปที่เตียงของมาม่อนวาดมือผ่านเพื่อใช้พลังงานสีดำ
‘ตัดขาดรังสีแปลกปลอมภายนอกจะแยกยังไงดี
สร้างคลื่นรบกวน? ไม่ใช่รังสีปกติเพราะผ่านคอนกรีตมาได้
แถมยังไม่รบกวนเครื่องวัดกัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์’ ซีลอนเบิกตากว้างขึ้นจ้องมองร่างของอัลโกบาเลโน่ที่จวนเจียนจะตายอย่างครุ่นคิด
“ถ้าไม่ใช่รังสีทั่วไปก็คือรังสีส่วนกลับ?
รังสีพิเศษที่มีผลต่ออัลโกบาเลที่ถูกจุกนมสาป?
การวิเคราะห์ส่วนประกอบและทำการกักกั้นรังสีด้วยรังสีหักล้างจำต้องใช้เวลาพอสมควรในสถานการณ์แบบนี้”
เอิร์ลเกรย์ขมวดคิ้วหนักพิมพ์การคำนวณคู่ไปกับหน้าจอวิเคราะห์ที่นักวิจัยห้องรังสีส่งมาให้
“ผมทำได้เร็วกว่านั้น แต่ถ้าในระยะยาวก็คงต้องเป็นแบบที่นายบอก”
ซีลอนกำมือตัวเองบีบอัดมวลควันสีดำที่ห้อมล้อมทารกนักฆ่าเพื่อดัดแปลงคุณสมบัติของหมอกควันดำนอกเหนือพลังทั่วไปของโลกใบนี้
สีหน้าของมาม่อนเริ่มดีขึ้นตามลำดับและกลายเป็นการนอนพักอย่างสงบ
“ตั้งเอาไว้ที่สองชั่วโมงจะหายไปน่าจะทันกับทางนายนะเอิร์ล”
ซีลอนพ่นลมหายใจออก
“อื้ม! ยังคงกะเวลาได้ยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนนะสำหรับผมการวิเคราะห์เพื่อสร้างรังสีกักกันเฉพาะทางแค่สามสิบนาทีก็พอแล้วแต่ต้องให้เวลาช่างเทคนิคของเราสร้างเครื่องกั้นตามทางเข้าฐานด้วยก็คงราว
ๆ นั้นแหละนะ สมกับเป็นฝาแฝดของผมจริงๆ” เอิร์ลเกรย์ยิ้มแย้มอารมณ์ดี
“เพราะว่าเป็นนายที่ไม่ใช่นายละมั้ง?”
เธอเอ่ยติดตลกพลางยักไหล่ก่อนจะออกไปจากห้องไม่รบกวนการทำงานและคอยคุ้มกันพวกเขาทีมวิจัยจากผู้บุกรุก
‘ดูเหมือนว่าจะได้เรื่องแล้วนี่ครับ’
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่าโผล่มาเหมือนผีน่ะ...”
ซีลอนถอนหายใจเอ็ดเสียงผู้พิทักษ์สายหมอกในหัว
‘คุฟุฟุฟุฟุ แหม
ต้องขอโทษทีนะครับพอดีว่าไม่มีร่างแถวนั้นให้ใช้ได้เลย โคลมที่น่ารักของผมก็ไม่ว่างซะด้วยสิ
เก่งขึ้นมากจนน้ำตาจะไหลเลยล่ะครับ’
เสียงของชายหนุ่มโอ้อวดนางิที่น่าจะกำลังต่อต้านผู้บุกรุกอยู่ในสวน
“แล้วไงทางงั้นไหวไหมต้องให้ไปช่วยไหม?”
‘รีบอร์นเป็นอัลโกบาเลโน่ที่ฉลาดครับ
พอปะติดปะต่อเรื่องการปล่อยดาวเทียมสื่อสารกับเรื่องนี้ได้เลยรู้ว่าเป็นคลื่นรังสีพิเศษ
ที่น่าเป็นห่วงคืออัลโกบาเลโน่คนอื่นที่อยู่ต่างประเทศต่างหากครับ
แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ปัญหาของผมหรอกนะ
ดีซะอีกไม่ต้องลงมือทำอะไรพวกมาเฟียก็จะล้มหายตายไปเสียแล้ว’
ถ้อยคำแอบแฝงการเยาะเย้ยเป็นเอกลักษณ์ที่ซีลอนเองก็ชินไปแล้ว
ไม่รู้จะอธิบายยังไงแต่ถ้าเทียบกับคนทั่วไปเวลาน้อยใจหรือไม่สบอารมณ์ขึ้นมามุคุโร่ก็มักจะประชดประชันเก่งขึ้นมาอีกเบอร์จากปกติ
“เรื่องแหวนล่ะ”
‘ดูเหมือนอาจจะเกี่ยวข้องกับดาวเทียมครับ
หาสัญญาณจากพลังที่ปล่อยออกจากแหวน
น่าแปลกที่ทั้งที่แม้จะไม่ใช้พลังไฟธาตุแต่กลับตรวจจับได้ด้วย’
“ตรวจจับทั้งที่ไม่ได้ใช้พลัง...”
ซีลอนทวนคำแล้วลูบคางขมวดคิ้วแน่น
“มีวิธีป้องกันอยู่หรอกแต่รุ่นพี่มาม่อนตอนนี้ไม่รู้จะทำไหวไหมนี่สิ”
‘โซ่กักการตรวจจับสินะครับ
ผมก็คิดแบบนั้น แต่พวกเราสายหมอกน่ะไม่ต้องพึ่งโซ่นั่นก็ปกปิดแหวนของตนเองได้’
“อ่า เพราะถ้าทำไม่ได้คงต้องมาใหม่ล่ะนะว่าทำไมแกถึงกระจอกแบบนั้น”
นักฆ่าหัวเงินสัพยอกเสียงในหัวขึ้นแล้วเค้นหัวเราะ
‘ไม่ได้ทำสัญญากับปีศาจแบบคุณเสียหน่อย
แต่ก็เอาเถอะสำหรับพวกเราแล้วนี่ก็คงเป็นเรื่องปกติอีกนั่นแหละครับ’ มุคุโร่ทอดถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
“ทำไมถึงอยากได้แหวนกับเอิร์ล...
ทั้งคู่มีความหมายอะไรกับมัน?” ซีลอนเลิกคิ้วแล้วพิงกำแพงตรงทางเดิน
เสียงการปะทะเงียบลงแล้วบางทีคงจะจบไวกว่าที่คิด
“...สงสัยงานจะหยาบ
มุคุโร่นายไปประกบโคลมไว้ ดูท่าว่าฐานตรงนี้ก็คงยื้อไว้ไม่ได้แล้ว” ซีลอนกัดปากอารมณ์เสียเธอเดาะลิ้นแล้วเข้าไปในห้อง
“เตรียมอพยพ! ต้องทิ้งฐานแล้ว!! เอิร์ลเอาข้อมูลออกมาให้หมด! เราจะไปสร้างตัวกักกันที่ฐานใหม่!”
เธอร้อนรนเพราะประสาทหูของเธอได้ยินฝีเท้าจำนวนมากที่ไม่ใช่เสียงของพวกในฐานที่ปกติจะวิ่งกัน
“บ้าน่า! นี่คฤหาสน์วาเรียนะ!”
เอิร์ลเกรย์ดึงข้อมูลทั้งหมดใส่ต่างหูของตนเองที่เป็นแผ่นสำรองใช้เก็บข้อมูลฉุกเฉินเหมือนแฝด
ต่างหูของพวกเขาเป็นแผ่นชิพคล้ายทรัมไดร์ฟที่ใช้งานได้แต่อยู่ในรูปเครื่องประดับ
ซีลอนก้าวยาว ๆ ไปปลดต่างหูของตัวเองออกแล้วใส่ให้เอิร์ลเกรย์เพื่อสลับเอาข้อมูลสำคัญมาไว้ที่ตัวเองอย่างทุกที
ฝาแฝดของเธอไว้ใจจะฝากข้อมูลสำคัญเอาไว้กับเธอมากกว่าตัวเอง ฝาแฝดของเธอกลัดทรัมไดร์ฟที่ทำขึ้นมาเป็นเครื่องประดับให้เธอพวกเขาเช็กว่ามันจะไม่หลุดออกมาคนในห้องก็ถือกระเป๋าคนละใบเตรียมพร้อมหนีแล้ว
ทีมแพทย์และนักวิจัยกลุ่มย่อยที่ทำงานให้กับวองโกเล่เพราะทุนวิจัยหนาก็ส่วนหนึ่ง
เป็นบุญคุณก็ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนก็คงเป็นอุดมการณ์
พวกเขาเชื่อว่าสังคมใต้ดินบางทีก็ขับเคลื่อนสังคมและโลกได้มากกว่าสังคมคนปกติ
งานวิจัยที่ทำเงินทางการแพทย์ไม่ได้สูงจะไม่ถูกพิจารณาให้ดำเนินโครงการ
การวิจัยรังสีหรืออาวุธก็ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด ไม่ต้องพูดถึงวิทยาการใหม่ ๆ
ที่มีแนวโน้มจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือพัฒนาไปเป็นอาวุธได้
หรือวิทยาการที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานในปัจจุบันก็จะถูกผัดผ่อนไปก่อน
พวกเขาที่อยู่ที่นี่ก็คงเพราะใจที่อยากจะเห็นโครงการของตัวเองสำเร็จขึ้นมาและเป็นประโยชน์
อย่างน้อยงานของพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในมือองค์กรเปื้อนเลือดนัก
เสียงฝีเท้าจำนวนมากทำให้พวกเขาตื่นกลัว
แต่บางทีคิดว่าคงจะไม่เป็นอะไรเพราะตอนนี้ ที่นี่ มีนักฆ่าลำดับสิบเอ็ดของโลกเบื้องหลังอยู่ขวางพวกเขากับผู้บุกรุก
พวกเขาชอบเธอในฐานะที่เก่งกาจมากถ้ามีคำสั่งให้คุ้มครองพวกเขาจะปลอดภัยถ้าได้คนคนนี้คอยปกป้อง
แต่ในขณะเดียวกันก็หวาดกลัวเพราะนิสัยเอาแน่เอานอนไม่ได้
เธอมักจะมีเหตุผลกับฝาแฝดเท่านั้น
ราวกับทุกอย่างก็ผิดทั้งหมดนั่นแหละหากคนที่ก่อเรื่องไม่ใช่เอิร์ลเกรย์
“มาให้เชือดถึงที่ก็สะดวกดี
เจ้าพวกหนูสกปรกเอ๊ย” นักฆ่าสาวแสยะยิ้มกระหน่ำยิงไปอย่างไม่เสียดายลูกกระสุน
เธอเป็นลูกศิษย์ของผู้ใดกัน การจะพลาดมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
และตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยขาดการฝึกซ้อมอย่างคนย้ำคิดย้ำทำดั่งที่เคยเป็นมาตลอด
ทว่าการที่ไม่อาจก้าวข้ามลำดับไปได้เพราะเหนือกว่าเธอมีแต่พวกสัตว์ประหลาดยิ่งกว่าเธอเอง
ใช่
แม้จะทำสัญญากับปีศาจที่เรียกขานตนเองว่าเป็นยมทูตก็ตามก็ยังมีสิ่งที่ทำไม่ได้อยู่ดี
นักฆ่าเชือดเรียบกลุ่มผู้บุกรุก
เสียงกระสุนที่ดีดตัวจากลำกล้องกระทบพื้นก้องสะท้อนไปทั่วและหยุดลงตอนที่เธอเปลี่ยนตลับกระสุน
“ตามมา”
หลังจากออกนำหน้าและจัดการพวกชุดดำล้วนเธอก็ปะทะเข้ากับกลุ่มชุดขาวล้วนด้านนอก
เธอใช้ไฟมายาไปเล็กน้อยกับปืน นานกว่าเมื่อครู่จึงพาทุกคนฝ่าออกไปได้อย่างปลอดภัย
กลุ่มสนับสนุนมาพร้อมรถ เธอยืนส่งให้พวกเขากระจายไปกับพวกผู้คุ้มกันมือดี และท้ายสุดคือส่งเอิร์ลเกรย์กับมาม่อนที่สะลึมสะลือขึ้นมาอย่างปวดหัว
“ได้สติแล้วใช่ไหมรุ่นพี่มาม่อน
ถ้าไม่อยากเฉียดตายอีกก็ทำโซ่ผนึกจุกนมให้ทุกคนที่สวมแหวนซะ
พวกมันรู้ตำแหน่งพวกเราผ่านแหวน เหมือนที่รุ่นพี่ใช้ภาพขี้มูกนั่นแหละ
และถ้าโซ่สร้างไม่ทันก็ใช้พลังมายารบกวนสัญญาณไปพลางคงช่วยได้สักระยะ...อ้อ
ผมช่วยรุ่นพี่เอาไว้ถือว่าเจ๊ากับที่ช่วยคุ้มครองเอิร์ลแล้วก่อนเนอะ
เจอกันที่ฐานใหม่” เธอทิ้งท้ายเอาไว้กำชับสมิธที่เพิ่งหายดีด้วยความเป็นห่วงฝาแฝด ยื่นมือไปเพิ่มพลังสีดำรอบตัวทารกนักฆ่าเพื่อยืดเวลาออกไปก่อนจะกล่าวว่าอีกสามชั่วโมงคงจะคลาย
หวังว่าฐานใหม่จะทำเครื่องกักกันรังสีเสร็จก่อนที่พลังของเธอจะสลายไป ซีลอนยืนส่งทั้งคู่จนลับตาแล้วถอนหายใจ
จะทำยังไงให้พวกมันไม่กล้าเผยอหน้ามายุ่งกับวองโกเล่อีกเป็นครั้งที่สอง
แต่จากการเล่นใหญ่ใช้รังสีคลื่นพิเศษเพื่อจู่โจมอัลโกบาเลทั่วโลกก็เหนือความคิดคนธรรมดาไปมากแล้ว
ไม่ใช่คนที่เธอชอบต่อกรด้วยเลยเพราะไม่เข้าใจทั้งเป้าหมายและเหตุผล
“มิลฟิโอเล่สินะ...
ดูเหมือนการตัดสินใจของผมที่เดินตามสึนะมาก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นี่?
สงครามมันแค่ช้าไปหน่อยก็เท่านั้น”
ดวงตาวาวโรจน์สีไพลินกลอกไปมาและยิงไปด้านหลังตัวเองโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง
โดรนเครื่องเล็กร่วงลงกับพื้นก่อนจะระเบิด
“เอ้า ๆ มาเล่นกันเถอะ”
ซีลอนใช้มายาคลุมกายและกลายเป็นเอิร์ลเกรย์ ครั้งก่อนเขาถูกล่าอย่างเป็น ๆ
แสดงว่าเอิร์ลเกรย์จะต้องมีนัยสำคัญอะไรบางอย่างที่มิลฟิโอเล่ต้องการตัวไป
การแสดงสีหน้าของเธอน่ะคนปกติแยกไม่ออกหรอกนะ...
ซีลอนในคราบแฝดชายกอดอุ้มกระเป๋าแล้วกลับเข้าไปในตึกด้วยท่าทีร้อนรน
ฐานทัพหลักของวองโกเล่ที่อิตาลี่ถูกถล่มยับ
แม้จะมีความเสียหายเรื่องสถานที่มากแต่ส่วนใหญ่สมาชิกหนีกันทัน
มีแค่หน่วยจู่โจมบางกลุ่มที่เสียชีวิตไป
วาเรียเลือดขึ้นหน้าทันทีที่ถูกลูบคมกันแบบนี้พวกเขากระจายตัวกันกบดาน
จากนั้นดูเหมือนพวกมิลฟิโอเล่จะใช้ซากคฤหาสน์เพื่อตั้งเป็นฐานชั่วคราว
สึนะคิดว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล
ดูเหมือนเป้าหมายของมิลฟิโอเล่จะพุ่งเป้ามาที่แหวนวองโกเล่ จุกนมอัลโกบาเลโน่
และตัวของเอิร์ลเกรย์
ฝาแฝดกับโคลมที่ถูกมุคุโร่ใช้ร่างบินกลับมาที่ญี่ปุ่น
สึนะเองก็ออกคำสั่งสร้างฐานใต้ดินและติดตั้งประตูกันรังสีเฉพาะขึ้นในที่ดินว่างเปล่าทันที
การก่อสร้างใช้เวลาไม่นานนักด้วยเทคโนโลยีโอเวอร์สเปคของทีมวิจัยวองโกเล่
‘เป้าหมายจับเป็นเอิร์ลเกรย์ที่จริงก็มีเรื่องเดียวไม่ใช่เหรอครับ?
ก็เพื่อดึงรุ่นพี่ไปฝั่งนั้นไง?’
สึนะขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งเธอและคนอื่นถึงคิดไม่ถึงเรื่องนี้
‘แต่เอิร์ลจะไม่หักหลังวองโกเล่’ ซีลอนขมวดคิ้วและคิดว่าเรื่องนี้มันไร้สาระสิ้นดี
‘เพราะฝั่งนั้นคงคิดว่าจะเจรจาสำเร็จละมั้งครับ?’ สึนะตีหน้ายุ่งคิดหนักถึงเรื่องอื่น ๆ ด้วย
‘ยังไงก็ตามเรื่องแหวนใช้แล้วทิ้งไปถึงไหนแล้วครับคุณจางนีนี่’
‘เรียบร้อยขอรับ! กระผมใช้เวลาอยู่นานทีเดียวเพื่อปรับให้สามารถเข้ากันได้กับกล่องอาวุธและเสถียรพลังของท่านฮิบาริ
สามารถดึงความสามารถออกมาได้สุดขีดแต่ว่าแหวนก็จะพังในทันทีขอรับ! ส่วนของท่านอื่น ๆ
กระผมวัดจากค่าพลังแล้วทำให้สามารถรองรับพลังไฟได้มากกว่าที่วัดอีกหน่อยคาดว่าคงไม่มีใครต้องใช้แหวนแบบจุดไฟแล้วทิ้งแบบท่านฮิบาริหรอกขอรับ’ นักประดิษฐ์ใต้สังกัดวองโกเล่รายงานผล
‘พวกมันจะเอาวองโกเล่ริงไปทำไม?
แหวนวงอื่นน่ะไม่เท่าไหร่แต่แหวนนภาจะปฏิเสธคนที่ไม่ใช่สายเลือดวองโกเล่นะ’ ซีลอนพิงกำแพงห้องประชุมพลางลูบปากคิด
นึกวิธีที่เอาไปใช้ได้ก็ไม่เห็นจะมีหนทางใดให้ดึงพลังออกมาได้นอกจากสวมแหวน จนกระทั่งนึกขึ้นมาได้ว่าบางทีเธอคงชินกับของนอกระบบไปหน่อย...
‘ทรีนิเซตเต้สินะ...’ เงาหลังเก้าอี้พึมพำออกมา
‘รุ่นพี่รู้อะไรเหรอครับ!?’ สึนะผุดลุกขึ้นอย่างลนลาน
แม้จะเป็นข้อมูลไม่มีแหล่งรับรองเขาก็อยากได้พวกมันทั้งหมด
‘จะรู้ก็รู้
ไม่รู้ก็ไม่รู้เพราะได้ยินแค่ชื่อจากไอ้เจ้าปีศาจนั่นน่ะสิ... อะไรน้า...
ทรีนิเซตเต้ สามเซตของเครื่องประดับที่ทรงพลัง หนึ่งในนั้นมีวองโกเล่ริงด้วย
และถ้าพวกมันเล็งจุกนมของอัลโกบาเลโน่แสดงว่าจุกนมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น...’
ซีลอนโคลงหัวไปมาก่อนจะเอ่ยอีกประโยค ‘แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกมันรวมกันแล้วจะทำอะไรได้’
สึนะเรียกประชุมและตัดสินใจตัดไฟแต่ต้นลม
เขาเคยพูดเอาไว้แล้วถ้าวองโกเล่จะเดินไปในทางที่ผิดเขาจะทำลายวองโกเล่ด้วยมือเขาเอง
และคราวนี้ก็ดูเหมือนจะมาถึงจุดเปลี่ยนที่ว่านั่นเข้าให้
นภารวบรวมแหวนทั้งหมดและตัดสินใจทำลายทิ้ง
พวกเขาหันไปใช้แหวนสำรองที่ไม่ใช่วองโกเล่ริงแทน แม้ประสิทธิภาพจะด้อยลงมาเล็กน้อย
ซีลอนลาดตระเวนไล่ฆ่าพวกมิลฟิโอเล่ไปทั่วไม่ว่าจะในญี่ปุ่นหรืออิตาลี่
และเพราะเธอไม่ถูกตรวจจับแม้จะใช้พลังจากพลังนอกระบบ
ดูเหมือนเครื่องมือตรวจจับจะอ่านค่าของพลังสีดำนั่นไม่ได้
นับว่าเป็นเรื่องฆ่าเวลาที่สาแก่ใจนักฆ่าหัวเงินมากทีเดียวที่ได้ทำทั้งงานและแก้แค้นไปในตัว
แต่ว่าเธอเองก็รู้ตัวว่าขอบเขตพลังของตัวเองด้อยลงจากการเสียพลังเมฆาไปทั้งหมด
เอิร์ลเกรย์พยายามทบทวนวิธีต่าง
ๆ เพื่อหาทางเอาชนะมิลฟิโอเล่ไม่ว่าจะการสร้างพันธมิตรหรือขัดขาพวกมันแต่ทว่าไม่ว่าจะเป็นแผนของเขาหรือของสึนะ
นอกจากจะไม่สำเร็จแล้วบางครั้งยังถูกตลบหลังจนเกือบเสียบุคลากรไปอีกด้วย
ราวกับถูกชายผู้นั้นควบคุมเอาไว้ทุกอย่างแล้ว
ซีลอนในห้องประชุมลับที่มีแค่เธอฝาแฝด
รีบอร์นกับสึนะแทบจะเอาเท้าก่ายหน้าผาก
จะทำยังไง
“มันมีข้อมูลของพวกเราทั้งหมดแน่
ไม่อย่างนั้นจะวิเคราะห์ทุกอย่างแบบนี้ได้ยังไง” เอิร์ลเกรย์นวดหัวคิ้ว
สึนะที่ขอให้เขามาช่วยวิเคราะห์สถานการณ์ก็ปวดหัวไม่ต่างกัน
“มันต้องมีวิธีสิ...”
ซีลอนขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจ “ถ้าเป็นฉันสมัยก่อนคงจะง่ายขึ้นละนะก็มีพลังเมฆาอยู่ด้วย...”
“แล้ว...
เมลล์นั่นนายคิดว่าของจริงรึเปล่า” รีบอร์น
“คิดว่าเป็นของจริง... อย่างคนที่คอยแปลสารให้เป็นแฮกเกอร์อันดับสี่ที่ทำงานอิสระด้วย
ฉันเชื่อในลางสังหรณ์ของตัวเองนะ” สึนะสรุปออกมา
“งั้นก็มาเริ่มกันเถอะ แผนของบอสน่ะ...เราจะต้องทำให้เสร็จก่อนที่พวกมันจะรู้ว่าคนของฝั่งมันคิดจะตุกติก”
ซีลอนกางกระดาษแผ่นใหญ่ลงบนโต๊ะ “ข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาจากอัลม่า แอชเชอร์น่ะ...”
“พวกเราคงจะวุ่นวายน่าดูเลยนะหลังจากนี้”
สึนะหัวเราะเบา ๆ
“อืม คงต้องทิ้งพวกโน้ตการลัดฝึกเอาไว้ให้ตัวเองเมื่อเกือบสิบปีก่อนด้วย
ถ้าทำได้ก็คงก้าวกระโดดน่าดู แหม
ตัวฉันที่จะอนาคตจะเก่งกว่าฉันในตอนนี้นี่น่าสนุกแฮะ
จะปีนขึ้นไปได้อีกเท่าไหร่กันนะ...” นักฆ่าหัวเงินแสยะยิ้ม
โดยที่ไม่รู้เลยว่าเมื่อเวลานั้นมาถึงมันจะมีเรื่องราวมากมายจนทำให้เธอแทบจะสติแตกอย่างที่ไม่เคยเป็น
ไม่รู้ถึงสัญญาและแผนการลับอีกขั้นของสึนะและเอิร์ลเกรย์
“ผมเองก็คงต้องทิ้งโน้ตเอาไว้เยอะเลยสิน้า~” เอิร์ลเกรย์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
หลายต่อหลายครั้งที่ถูกปกป้องคราวนี้เขาเองก็จะเป็นฝ่ายปกป้องบ้าง แม้ว่าอาจจะเป็นเพียงซีลอนในโลกคู่ขนานอื่นก็ตาม
ความคิดเห็น