คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : |5| IDIOSYNCRATIC | เพื่อน(?)เก่า
Cr : https://www.pinterest.com/pin/356980707966623441/
“พายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมา
ในตอนนี้เมฆฝนได้ถูกพัดเคลื่อนไป” | Aimer - LAST STARDUST
“ขอบใจมากดีโน่! ถ้าเป็นพวกเดียวกับที่ทำตัวเป็นปัญหานักละก็พอจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงใช้วิธีแปลก
ๆ เพราะมันเพิ่งจะแหกคุกออกมา!
เลยยังไม่มีข้อมูลของทางเรานี่เองนะ!”
ซีลอนยืนพิงตู้โทรศัพท์ที่รีบอร์นกำลังคุยกับบอสรุ่นที่สิบของคาบัคโลเน่
“การชิงพื้นที่อำนาจสินะ” ลูกศิษย์นักฆ่าถอนหายใจ “ได้ข่าวเก่าไปก็งี้ล่ะนะ แต่การที่มันได้แรงค์กิ้งเก่าของฟูตะไปก็คงเป็นมาเฟียสักแฟมิลี่ล่ะมั้ง เจ้ากรรมการคุมกฎนั่นคงหัวเสียแย่เลยที่โดนหางเลขไปด้วย อยากเห็นหน้าคุณเขาตอนแพ้ยับซะจริง” ซีลอนลูบริมฝีปากแล้วแสยะยิ้มร้ายกาจออกมา เมื่อไม่นานมานี้พวกนักเรียนของนามิโมริถูกลอบทำร้ายติด ๆ กัน แถมยังถอนฟันออกไปด้วย
ถ้าแค่ในเวลานี้ฮิบาริเองก็ไม่ใช่คนที่เก่งขนาดที่เธอจะชนะไม่ได้
แต่ว่าหากเป็นหลังจากที่หมอนั่นเข้าพวกกับสึนะก็คงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลย
เพราะผู้สืบทอดรวมถึงผู้พิทักษ์แต่ละแหวนจำต้องได้รับการฝึกฝนจากครูพิเศษเพื่อแข็งแกร่งขึ้นให้มากพอจะรับมือกับแฟมิลี่อื่น
ๆ ในอนาคต
“ไม่อยากจะตกแรงค์เลยน้า...”
เธอเอ่ยยานคาง
“ก็ไสหัวไปฝึกซะสิ”
รีบอร์นโดดออกมาจากตู้โทรศัพท์
“อาจารย์พูดง่ายจังเลย อ๊ะ
แต่ว่าผมน่ะไม่สนใจหรอกนะถ้าพวกเขาเก่งงานผมก็น้อยลงจริงไหม?
แล้วผมก็จะได้เล่นกับเอิร์ลอีกเยอะ ๆ เลย~”
เธอกระตุกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
มือถือของซีลอนสั่นด้วยข้อความจากสายข่าวที่แฝงตัวอยู่ในเมืองนามิโมริ
“โดนเล่นงานเข้าให้แล้วแน่ะอาจารย์
โกคุเทระเอ้าท์ไปแล้วล่ะ~
แต่ตรงนั้นมีสึนะกับยามาโมโตะอยู่ด้วย~” เธอยิ้มคิกคัก
“ไม่ได้เจอเรื่องน่าสนุกแบบนี้มาสักพักแล้วแฮะ ขอร่วมวงด้วยได้ปะอาจารย์~”
“บอกให้พวกมันพาโกคุเทระไปที่ห้องพยาบาลนามิโมริแทนโรงพยาบาลซะ
เจ้าจามาลอยู่นั่นปลอดภัยกว่า แล้วแกน่ะเป็นผู้เฝ้าสังเกตไม่ใช่รึไงเจ้าบ้า”
นักฆ่าจิ๋วออกคำสั่ง
“คร้าบ~” ซีลอนกดโทรออก
“ฮัลโหล
ซีลอนเองน้าอาจารย์รีบอร์นบอกว่าโรงพยาบาลไม่ปลอดภัยพาไปหาจามาลที่ห้องพยาบาลนามิโมริแทนล่ะ
เอ๋? ฉันมีเบอร์นายได้ไงเหรอ? ฮ่ะฮ่าไปถามหาจากแฟนคลับนายก็ได้มาแล้วล่ะง่ายจะตาย
แค่นี้น้ายามะคุง” เธอตัดบทแล้ววางสายไป
รอยยิ้มวิกลจริตคล้ายเก็บกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ทำให้มุมปากบิดเบี้ยว
“น่าสนุกจังเลยน้า ถึงโกคุเทระจะไม่ใช่พวกติดแรงค์กิ้งในปัจจุบันแต่อีกฝ่ายก็น่าจะเก่งน่าดู
อยากลองฆ่าดูจัง~ เน่ ๆ ผมขายข่าวให้เอามะ?
พอดีว่าทางนั้นนะผมรู้จักอยู่คนนึงซะด้วยสิ~”
แรงกดดันจากนักฆ่าอันดับหนึ่งไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
แต่นั่นก็ทำให้ซีลอนขำออกมาเหมือนเพิ่งฟังมุกตลก
“คุณเองก็ห่วงเจ้าลูกศิษย์นั่นนี่...ไม่เล่นแล้วก็ได้
ผมน่ะเป็นคนของวองโกเล่มาตลอดอยู่แล้ว และนี่จดหมายจากปู่ป๋าถึงซือคุงฉบับแรกล่ะ”
ซีลอนกระตุกยิ้มส่งซองจดหมายให้อาจารย์นักฆ่าและเล่าข้อมูลระหว่างทางที่ออกวิ่งหลบเลี่ยงสายตาผู้คนบนหลังคาอาคารตรงกลับไปที่นามิโมริ
ซีลอนยืนเฝ้าอยู่นอกอาคารในขณะที่ทารกนักฆ่ากลับไปหาสึนะและเลออนที่สงบลงแล้วเกาะอยู่บนเพดาน
“ดีจ้า!”
“นั่นมันอาร๊าย!!”
“เลออนสงบแล้วกลายเป็นดักแด้ไปน่ะ”
“ดักแด้!”
“ทางนี้เกิดเรื่องใหญ่แล้วนะแกมัวไปทำอะไรอยู่!” สึนะเริ่มสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขึ้นมาด้วยความกลัวและรู้สึกผิดที่ทำให้โกคุเทระถูกลูกหลงไป จากการที่ฝ่ายศัตรูท้าทายถึงเขาด้วยจำนวนเหยื่อและฟันที่ถูกถอนตามแรงค์กิ้งผู้แข็งแกร่งในนามิโมริ
“ไปตรวจสอบเรื่องนักโทษแหกคุกของอิตาลี่ไงล่ะ! เมื่อสองอาทิตย์ก่อนมีคดีแหกคุกคุมขังมาเฟียที่ทำผิดร้ายแรง
เจ้าพวกนั้นแหกคุกพร้อมฆ่าผู้คุมทิ้งทั้งหมดออกมากับคนอื่น ๆ เครือข่ายข่าวสารมาเฟียบอกว่ามันเป็นเด็กชายที่ชื่อมุคุโร่กับลูกน้องอีกสองซึ่งมันอยู่ญี่ปุ่นแล้วตอนนี้
สิบวันก่อนมีนักเรียนเข้าใหม่ที่โกคุโยใช้เวลาแป๊บเดียวก็สยบอันธพาลโรงเรียนนั้นแล้วกลายเป็นหัวหน้าเห็นว่าชื่อ
โรคุโด มุคุโร่ นี่แหละ” รีบอร์นอธิบายเสียยืดยาวเพื่อกระชับสถานการณ์ในตอนนี้ให้สึนะเข้าใจอย่างรวดเร็ว
“ด
เดี๋ยวนะพวกนั้นเป็นมาเฟียเหมือนกันเหรอ!!”
“กลับกันเลย ถูกมาเฟียขับไล่ต่างหาก”
รีบอร์นเฉลยออกมา
ซีลอนที่ยืนอยู่ด้านนอกก็กลั้นขำ
‘อ่า... ก็นะช่วยไม่ได้ล่ะนะ’
เพราะจดหมายนั่นกับความรักในพวกพ้องและคำพูดเล็ก
ๆ น้อย ๆ ของรีบอร์นทำให้สึนะตัดสินใจจะไปถล่มรังมุคุโร่กันกับโกคุเทระและยามาโมโตะ
เบียงกี้เองก็ไปช่วยด้วยโดยใส่หมวกมาสคอตครึ่งหน้าเอาไว้เพราะไม่งั้นกำลังรบสำคัญอย่างโกคุเทระจะเป็นลมช็อกไปก่อนจะได้แสดงฝีมือ
ทางรีบอร์นเองก็ยื่นมือเข้าช่วยมากไม่ได้เพราะติดสัญญา กระสุนดับเครื่องชนก็เหลือเพียงนัดเดียว
ตัวประกันที่เขียนในจดหมายก็ดันเป็นนักจัดอันดับแห่งดวงดาวฟูตะเสียอีก
ซีลอนติดตามพวกเขาไปห่าง ๆ เพราะเธอเองก็ได้คำสั่งให้คอยสังเกตการณ์เฉย ๆ เสียด้วย
ปู่ป๋าไม่ห้ามเธอหรอกนะถ้าจะโดดลงไปเล่นด้วยแต่ว่าเธอคิดว่าจะออกไปแค่จำเป็นเท่านั้น
อย่างเช่นจะถูกฆ่าก่อนศึกชิงแหวนอะไรทำนองนั้น
รอยยิ้มร้าย ๆ ปรากฏอยู่บนใบหน้า
เอิร์ลเกรย์เองก็อยู่บ้านเรียบร้อยระบบรักษาความปลอดภัยพิเศษที่ติดตั้งก็ทำงานได้ดี
เธอไม่ต้องกังวลว่าจะมีไอ้เวรคนไหนเข้าไปปาดคอฝาแฝดที่รักจึงสงบใจลงได้บ้างเล็กน้อยเมื่อต้องทำงานไกลออกมา
ทางเคียวโกะจัง ฮารุจัง ก็มีจามาลและแรมโบ้กับอี้ผิงสิบปีข้างหน้าประกบอยู่
หายห่วงไปได้สักระยะ
ซีลอนคำนวณเวลาในใจแล้วยังคงตามเฝ้าสังเกต
ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยแม้ยามาโมโตะจะถูกเคนกัดแขน
หรือศึกที่เอ็มเอ็มพ่ายแพ้ให้กับเจ๊เบียงกี้อย่างรวดเร็ว
กระทั่งสึนะที่เจอเข้ากับเบิร์ส
“...ให้คะแนนระดับดูเป็นโฆษณาคั่นแล้วกัน”
ซีลอนแกว่งเท้ายังคงอำพรางตัวเองอยู่ห่างออกมา
เอาเข้าจริงระดับนี้คงไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก ก็ดูไม่มีปัญหาสักนิด
“เจอกับลันเซียแล้วแฮะ
นี่สิแมตช์สนุก!” นักฆ่าลำดับสิบเอ็ดแสยะยิ้มอยู่บนต้นไม้ “ไหนดูซิว่าปู่ป๋าตาแหลมจริงไหมที่เลือกซือคุงน่ะ”
ซีลอนเฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดโดยไม่ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือแต่อย่างใด กระสุนดับเครื่องชนนัดสุดท้ายถูกใช้เพื่อให้สึนะสามารถจัดการลันเซียได้
หูของนักฆ่าทำให้ได้ยินบทสนทนาที่ไกลออกไปได้พ่วงกับที่เธอฝากเครื่องดักฟังเอาไว้กับอาจารย์รีบอร์น
‘คุณน่ะลังเลที่จะฆ่าคน!’
คำพูดนั้นทำให้เงาหลังเก้าอี้รุ่นที่เก้าเบิกตากว้างจับจ้องไปที่อนาคตรุ่นที่สิบ
กรีดยิ้มขึ้นมาเหมือนเจอของเล่นใหม่น่าสนใจ
เธอสืบข่าวพวกเขามาแล้วและรู้ว่าลันเซียคือขุนพลเงาของมุคุโร่ทั้งคดีฆาตกรรมในแฟมิลี่ตัวเองต่าง
ๆ ก็ล้วนถูกมุคุโร่ควบคุมเขาไม่ได้อยากทำ
“ตาดี... ศักยภาพมี...
แต่ต้องจนตรอก ถ้าเก่งเร็วขึ้นก็พอมีเค้าอยู่หรอกน้า...” เธอหัวเราะในลำคอ
“ให้สักห้าคะแนนแล้วกัน” เธอชอบความเด็ดขาดของซันซัส
แต่เหนือกว่านั้นคือแววตาที่มองคนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
“อยากได้ตานั่นจัง~” ซีลอนคลี่ยิ้มตามพวกเขาที่เข้าไปในอาคาร
และยังคงเพียงเฝ้ามองเหมือนที่ทำมาตลอด
“หรือว่าจะเชียร์ซือคุงดีน้า...
อืม ถ้าเขารวบรวมผู้พิทักษ์ได้ก่อนศึกชิงแหวนค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน” เจ้าตัวอิเรื่อยเฉื่อยแฉะยืนทนโท่แต่ก็ไม่มีใครเห็นเพราะคุณสมบัติของไฟมายาอันแข็งแกร่งเกินกว่าที่เคนและจิคุสะจะสัมผัสได้แน่นอนว่ารวมถึงโกคุเทระและฮิบาริด้วย
ในพริบตาฮิบาริสามารถน็อกเคนได้ด้วยการโจมตีเดียวจากทอนฟาที่รุนแรง
‘อยากได้หมอนี่มาเข้าวองโกเล่จังแฮะ
แต่เห็นอาจารย์เล็งเอาไว้อยู่... ถ้างั้นก็คงเป็นสมาชิกในอนาคตคนหนึ่งแน่นอนสินะ...’ ซีลอนยืนมองและเก็บข้อมูลของอนาคตพวกพ้องเหล่มองโกคุเทระที่พิษเริ่มทำงานและเสียเลือด
‘สามารถเอาชนะนักฆ่าจากแล็บเอนทรานิโอได้’ ซีลอนกลอกตามองผู้คุมกฎที่ล้มจิคุสะลง
“นี่ ยังมีคนที่เก่งกว่านี้อีกนะฮิบาริ”
เธอตัดสินใจปรากฏตัวจากความว่างเปล่า
“เป็นผีรึยังไง” กรรมการผู้คุมกฎเหล่มอง
แม้จะแปลกใจแต่ก็ไม่แสดงออกให้จับสังเกตได้
“นั่นสิน้า
เป็นพรรคพวกในอนาคตน่ะ ขึ้นไปข้างบนสิแก้แค้นสักหน่อยเป็นไง? แต่ผมไม่ช่วยหรอกนะ”
ซีลอนยักไหล่
“หน็อยยัยรุ่นพี่ตัวแสบ” โกคุเทระกุมอกตัวเอง
“นี่เป็นบททดสอบของสึนะ
ผมที่เป็นคนสังเกตช่วยไม่ได้หรอกนะ” ซีลอนก้มมองว่าที่มือขวาและเหลือบมองฮิบาริที่ทำท่าจะเดินไปคนเดียว
“โกคุเทระเขาช่วยนายออกมาจากซากตึกนายก็ใช้หนี้เป็นการลากหมอนี่ขึ้นไปชั้นบนสิจะได้หายกัน
จริงสิจามาลฝากที่มาให้ล่วงหน้า ยาชะลอพิษของนายโกคุเทระ
และนี่ยาแก้ไข้ซากุระของฮิบาริ แพ้ใช่ไหมล่ะ จะไปแก้แค้นมันหน่อยไหมล่ะฮิบาริ”
นักฆ่าทิ้งซองยาไว้ให้โกคุเทระและพูดพาดพิงถึงกรรมการคุมกฏ ก่อนจะหายตัวไปอีกครั้งแต่ที่จริงเธอไม่ได้ไปไหนแค่ยืนกลั้นขำดูพวกเขามีปากเสียงกันเล็กน้อยจบด้วยการที่ฮิบาริยอมพยุงโกคุเทระหาทางขึ้นไปชั้นบนเพื่อสมทบกับสึนะ
แม่คิดว่าพอขึ้นไปถึงเจ้าฮิบาริจะทิ้งโกคุเทระลงพื้น
แถมยังพูดว่าใช้หนี้คืนให้แล้วนะเสียอีก
นักฆ่าที่พรางตัวตามมาได้แต่กลั้นขำอย่างติดตลกจากภาพที่เห็น
“จริง ๆ
เลยน้าปล่อยให้คนนอกมาเอะอะโวยวาย จิคุสะมัวทำอะไรอยู่”
มุคุโร่ตัวจริงบ่นขึ้นเมื่อเห็นพวกเขา
“แฮะ ๆ ถ้าถามถึงเจ้าแว่นกับเจ้าหมาน้อยนั่นล่ะก็นอนแอ้งแม้งอยู่ชั้นล่างนู้น”
โกคุเทระที่เป็นฝ่ายตอบคำถามกระตุกยิ้มขึ้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้จัดการเองก็ตาม
สึนะรีบถามไถ่อาการของเพื่อนสนิทตัวเองขณะที่ฮิบาริเดินเข้าใกล้มุคุโร่
“เตรียมใจไว้ดีรึยัง...”
“แหม น่ากลัวจังเลยนะครับ”
และแม้มุคุโร่ตั้งใจจะจัดการกับฮิบาริให้จบก่อนค่อยไปล้มสึนะ
เขาก็ต้องตกใจที่กรรมการคุมกฎนามิโมริไม่ล้มพับลงไปเมื่อเจอมายาเสมือนจริงของซากุระอย่างครั้งแรก
โกคุเทระจึงได้ทีเกทับอย่างสะใจ
“หึ พอดีจามาลฝากเจ้านี่มาด้วยเฟ้ย!” เขาชูซองยาขึ้น
“ยาแก้ไข้ซากุระ!”
ซีลอนประเมินเวลาอีกครั้งจึงโทรหาทีมแพทย์ของวองโกเล่ที่รอเข้ามาสมทบภายหลัง
“ต้องรีบพาทุกคนไปโรงพยาบาล!” สึนะนึกขึ้นได้หลังจากทุกอย่างสิ้นสุดลงก็ตะโกนขึ้น
รีบอร์นเหลือบมองมุมห้องซีลอนที่พรางตัวอยู่ก็ทำสัญญาณมือว่าไม่มีปัญหา
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกนะ
ทีมแพทย์มือดีของวองโกเล่มุ่งมาทางนี้แล้ว” ทารกนักฆ่าแปลสารและเอ่ยขึ้น
“ทีมแพทย์ที่ว่านั่นไม่จำเป็นหรอกนะครับ...เพราะไม่มีใครจะรอดไปจากที่นี่ได้อยู่แล้ว”
มุคุโร่กระตุกยิ้มและเอ่ยคำลาจ่อปืนกับขมับตัวเอง “แล้วพบกันใหม่”
ปัง!
“จบแล้วสินะ?” สึนะยังคงงงงวย
และไม่ได้ลดการระมัดระวังตัวลง กระทั่งเบียงกี้ที่ฟื้นขึ้นมาขอให้โกคุเทระช่วยพยุงเขาก็โพล่งขึ้นมา
“อย่าเข้าใกล้เบียงกี้นะโกคุเทระ!” สึนะก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันเขาแค่รู้สึกว่ามันไม่ใช่...
“นี่ฉันเองไง?” อาเจ๊เอียงคอเล็กน้อยแต่ในจังหวะที่โกคุเทระยื่นมือไปช่วยพยุงเธอก็แทงสามง่ามใส่ผู้เป็นน้องชาย
“โอ๊ะ ฉันทำอะไรลงไปน่ะ...”
เบียงกี้ดูงุนงงเล็กน้อย
รีบอร์นโดดไปตีจมูกของเธอด้วยมือเล็ก
ๆ “ตั้งสติหน่อย ที่แทงไปน่ะเจ้าน้องชายนะ...”
“นี่ฉันทำเรื่อง...”
เบียงกี้แทงสามง่ามใส่แม้แต่กับรีบอร์น “อะไรลงไป!?”
ทั้งสึนะและโกคุเทระต่างอึ้งไปตามกันแต่รีบอร์นมีหรือจะพลาดท่า
“เป็นเรื่องละไง”
พวกเขาเถียงกันเล็กน้อย สึนะที่จับจ้องเบียงกี้ก็หลุดพูดขึ้น “โรคุโด มุคุโร่?”
“หึหึหึหึ”
ใบหน้าของนักฆ่าสาวรุ่นใหญ่แสยะขึ้นพร้อมลายแตกที่ลามจากแก้มไปยังตาขวา
“พบกันอีกแล้วนะ”
ท่ามกลางความวุ่นวายของพวกเขาซีลอนหลุดหัวเราะขึ้นมาและตัดสินใจแสดงตัวเมื่อมุคุโร่สลับไปสิงโกคุเทระแทน
“ไอ้เจ้ากระสุนที่ทำเป็นยิงตัวตายนั่นนะ”
รีบอร์นกำลังจะอธิบายให้สึนะ นักฆ่าผู้เป็นลูกศิษย์ก็สอดปากขึ้นอย่างไม่กลัวตาย
เผยร่างกายออกจากมายาสายหมอกมายืนข้างสึนะ
“กระสุนต้องห้าม
กระสุนสิงสู่สินะครับอาจารย์”
“รุ่นพี่ซีลอน!” สึนะตกใจเหมือนเห็นผี
“โอ๊ะ อยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ?
น่าตกใจจริง ๆ ที่นักฆ่าฝีมือดีอย่างคุณอยู่ข้างเด็กคนนั้นน่ะ” มุคุโร่ในร่างโกคุเทระเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ
“คืองี้น้าซือคุง
กระสุนต้องห้ามน่ะถูกทำลายทั้งจำนวนที่มีและวิธีผลิต เพราะเอนทรานิโอ้ที่สร้างมันขึ้นมาน่ะ ทั้งวิธีใช้กับผลลัพธ์ของมันออกจากเหี้ยมไปหน่อยเลยถูกแบนในหมู่มาเฟีย”
คนอยู่มาก่อนรวบรัดข้อมูลให้สมองน้อย ๆ ของเด็กชายที่เพิ่งก้าวเท้ามาในโลกเบื้องหลัง
“แกไปรู้จักกันมันได้ยังไง...”
รีบอร์นหรี่ตามองลูกศิษย์ที่ค่อนข้างจะชอบเป็นพิเศษ
เธอตาโค้งเป็นเสี้ยวพระจันทร์เพราะรอยยิ้ม
“เผอิญว่าเคยสู้กันครั้งที่อิตาลี่อ่ะ
แต่ว่าผมชนะนะ...ขาดลอย ระวังสามง่ามของมุคุโร่ด้วยล่ะสึนะถ้าเกิดมีแผลจากเจ้านั่นละก็จะโดนหมอนั่นยึดร่างได้ล่ะนะ”
เธอหัวเราะในลำคอแล้วไกด์การหลบเลี่ยงให้
“แต่ว่าตาของนายนี่วิเศษไปเลยนะสึนะ...
อยากได้จัง มองครู่เดียวก็รู้แบบนี้
นี่คือสุดยอดลางสังหรณ์ของสายเลือดที่แท้รึเปล่านะ” สึนะชะงักไปกับรอยยิ้มและแววตาคุกคามของซีลอน
เขาเพิ่งเคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของเธอเป็นครั้งแรก ถูกมองและพิจารณาราวกับเป็นสิ่งของ
“เน่ ถ้านายไม่อยากขึ้นเป็นบอสละก็งั้นขอตาทั้งสองข้างได้ปะ มันต้องเป็นประโยชน์กับวองโกเล่มากแน่”
คำพูดที่ขัดแย้งกับน้ำเสียลอยชายนั่นทำให้สึนะขนลุกเกรียวรีบส่ายหน้าพัลวัน
“อ๊ะ งั้นพยายามเข้านะครับซือคุง
ท่านอาจารย์ ผมเป็นผู้สังเกตการณ์ล่ะคงช่วยไม่ได้จนจะวิกฤติแล้วจริง ๆ อ่ะนะ หมอนั่นใช้ท่าไม้ตายของคนที่สิงได้ด้วยนะระวังหน่อย...แล้วก็...สิงได้มากกว่าหนึ่งคนด้วยล่ะ~ อ๋อ ตาสีแดงนั่นก็ยังใช้ได้อยู่ด้วยนะระวังหน่อยน้า~” เธอโบกมือแล้วโดดถอยออกไปห่าง ๆ
“โอ๊ะโอ๋
คุณแทบจะเผยไต๋ของผมเสียหมดเปลือกเลยนะครับซีลอนไม่เห็นใจกันบ้างเลย” มุคุโร่ถอนหายใจ
ทั้งโกคุเทระ เบียงกี้ เคนและจิคุสะกลายเป็นตุ๊กตาที่เขากำลังชักใยควบคุมด้วยตัวเอง
“พอดีว่าตอนนี้นายอยู่ฝ่ายตรงข้ามผมน่ะนะ เพราะงั้นไม่มีการช่วยเหลือสำหรับนายหรอกน้า”
นักฆ่าสาวยิ้มเยาะและคาดหวังจะได้ดูอะไรสนุก ๆ ต่อจากนี้
“ถ้าไม่ใช่ว่าแกเป็นคนของรุ่นที่เก้าน่ะนะ
ฉันเชือดแกแน่” รีบอร์นเดาะลิ้น
“นี่ลูกศิษย์ไงลืมเหรอครับ
ผมนะถวายวิญญาณให้วองโกเล่อยู่แล้วล่ะไม่ทรยศเหมือนเจ้าอ๊อตตาเบียหรอกนะไว้ใจกันหน่อยน่า”
เธอประสานมือรั้งท้ายทอยหลังลากร่างของฮิบาริที่สลบอยู่หลบออกมาจากวงต่อสู้
ในนาทีวิกฤตเลออนที่เป็นดักแด้อยู่หลังคอของรีบอร์นก็ระเบิดตัวออกยิงโยงสายเหนียวไปรอบด้านลอยอยู่กลางอากาศ
“โอ๊ะ ขั้นตอนสำคัญเลยน้า” ซีลอนหลุดพูดออกมาข้างสนามรบเพราะเธอเองก็เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนั้นมาครั้งหนึ่ง
“น นั่นมัน?”
“อาวุธใหม่ของนายในฐานะลูกศิษย์ของท่านอาจารย์น่ะ
ตอนที่รุ่นพี่ดีโน่ได้ฉายาม้าพยศก็ได้เลออนคายแส้กับน้องเต่าให้
ของนายจะเป็นอะไรกันน้า” ซีลอนนั่งยอง ๆ เท้าคางอย่างสนใจเป็นผู้ตอบคำถามของสึนะที่กำลังงง
“ไม่ให้เป็นอย่างนั้นหรอกครับ!” มุคุโร่ควบคุมร่างกายของแต่ละคนเพื่อสกัดกั้นการเข้าถึงตัวเลออนและแม้จะผ่าเจ้ากิ้งก่าเป็นสองซีก
แต่สุดท้ายถุงมือไหมพรมก็ถูกสวมในมือของสึนะ กระสุนที่หล่นมาจากถุงมือนั่นจะถูกส่งให้รีบอร์นยิงใส่สึนะ
เขาก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นักฆ่าลำดับสิบเอ็ดเฝ้ามองอย่างใจเย็นเพราะไม่คิดว่ากระสุนนั่นจะด้าน
‘ไม่ กำลังมา...’
ซีลอนที่นั่งอยู่ข้างสนามแสยะยิ้มกว้างขึ้น
ถุงมือเปลี่ยนรูปร่างไปหลังจากสึนะตัดสินใจได้เด็ดขาด
“ถ้ายังไม่ได้ซัดนายละก็ฉันตายตาไม่หลับหรอก!” ไฟบนหน้าผากถูกปลุกขึ้นมาด้วยเจตจำนงของตัวสึนะเองเป็นครั้งแรก
กระสุนเสียงบ่นแตกต่างจากกระสุนก่อนหน้า และนั่นก็กระตุ้นสายเลือดที่แท้จริงของวองโกเล่ในตัวสึนะขึ้นมาส่งผลให้ภาพมายาของมุคุโร่ไม่สามารถหลอกตาสึนะได้อีก
“สุดยอดลางสังหรณ์-ของจริง!” ผู้เฝ้าสังเกตการณ์อย่างซีลอนได้แต่เบิกตากว้างและยิ้มอย่างสนใจยกมือปิดปากหลวม
ๆ อย่างตื่นเต้น นั่นเป็นสัญลักษณ์ของสายเลือดที่แท้
เหตุผลที่รุ่นที่เก้าเห็นควรว่าสึนะจะได้เป็นรุ่นที่สิบไม่ใช่เฮียซันซัสของเธอ
“ดวงตาที่มองทะลุปรุโปร่งแบบนี้เองสินะ ปู่ไม่ได้ส่งผมมาเพื่อปกป้องสึนะห่าง ๆ
แต่ให้มาเห็นเจ้านี่ คุณสมบัติที่แท้! น่าสนุกจัง~ แบบนี้ค่อยดูดีขึ้นหน่อย ถ้าเป็นแบบนี้ได้เสมอละก็ไว้ศึกชิงแหวนก็คงรอดมาได้อย่างไม่ต้องห่วงล่ะนะ~”
มือถือของซีลอนสั่นขึ้น เธอละความสนใจจากศึกตรงหน้าและรับสายหน่วยแพทย์มาถึงแล้วเธอไม่จำเป็นต้องอยู่นี่อีก
เมื่อสุดยอดลางสังหรณ์ของสายเลือดตื่นขึ้นความสามารถของสึนะในเวลานี้สามารถที่จะชนะมุคุโร่ได้สบาย
ๆ เธอจึงละจากตำแหน่งและออกไปนำทางหน่วยแพทย์
เมื่อซีลอนกลับมาอีกครั้งคนของโกคุโยก็ไม่อยู่นี่นั่นแล้ว
“ขอโทษที่ให้คอยครับคนเจ็บอยู่ไหน!” หน่วยแพทย์เข็นเตียงและหอบหิ้วอุปกรณ์เข้ามา เธอเดินรั้งท้ายและสังเกตถึงสีหน้าเศร้าสร้อยของสึนะ
“สงสารพวกเขาเหรอสึนะ
ทั้งที่พวกเขาจะใช้ร่างบงการนายเนี่ยนะ”
ซีลอนโผล่ไปด้านหลังรุ่นน้องถามอย่างตรงไปตรงมา
“พวกเขาไม่ได้อยากทำแบบนี้ตั้งแต่แรกนี่ครับ
ไม่ได้อยากเป็นตัวร้าย...ก็แค่...โอ้ยๆๆๆ เจ็บๆๆ อ๊ากเจ็บ! นี่มันอะไรเนี่ยเจ็บไปทั้งตัวเลย!” เด็กชายเริ่มกุมท้องโอดโอย
“โหมดต่อสู้ของกระสุนเสียงบ่นมันใช้ร่างกายอย่างหนักน่ะ
ภาระที่ร่างกายได้รับเลยกลายมาเป็นความเจ็บปวด”
“พูดจริงง่ะ! โอ้ยยยช่วยด้วย!”
ซีลอนก้มมองรุ่นน้องที่เจ็บจนสลบไปเองก็หัวเราะขึ้นในลำคอ
รีบอร์นเดินเข้ามาลูบผมลูกศิษย์คนปัจจุบัน
“สงสัยต้องเคี่ยวให้มากกว่านี้
แต่เท่านี้ก็นับว่าทำตามคำสั่งของรุ่นที่เก้าได้สำเร็จ ทำได้ดีมากสึนะ!” หลังจากนั้นเหมือนรีบอร์นจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ง่วงจนน็อกไปอีกคน
ซีลอนถอนหายใจเล็กน้อยแล้วตามหน่วยแพทย์ที่หามพวกเขาไปด้วย
“ใจดีแบบนี้ก็ดีอยู่หรอกนะ เป็นประเภทที่เอิร์ลเกรย์ชอบซะด้วยสิ
ยังไงดีน้าเชียร์นายหรือเฮียดีหว่า...” นักฆ่างึมงำกับตัวเองเบา ๆ
ในหน้าการแข่งขันเบสบอลภาคฤดูใบไม้ร่วงซีลอนกับเอิร์ลเกรย์ก็ไปนั่งดูยามาโมโตะที่ข้างสนามกับพวกสึนะ
รีบอร์นชวนพวกเธอมาก็เลยมาเพราะไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว
โกคุเทระอารมณ์เสียเพราะทีมตรงข้ามแววจะแพ้ทีมของยามาโมโตะจนสึนะต้องห้ามให้เขาใจเย็นลงหลังจากที่เดือดจนจวนจะปาระเบิดลงไปกลางสนาม
เรียวเฮที่มาช่วยห้ามก็ดันตะโกนว่าอยากให้ยามาโมโตะมาเข้าชมรมมวยจนถูกสึนะตัดมุกว่าผิดคิวไปด้วยอีกคน
บอลที่ฟาลว์พุ่งมาทางอัฒจันทร์ได้เบียงกี้ที่สวมถุงมือก็รับเอาไว้อย่างสวยงามจนเอิร์ลเกรย์อดปรบมือให้ไม่ได้
“เอาปิ่นโตมาให้น่ะ”
ยังไม่ทันจนประโยคดีโกคุเทระก็น้ำลายฟูมปากน็อกหนีไปคนแรก
บรรยากาศแสนสุขสันต์ที่เหมือนกับเรื่องก่อนหน้านี้ศึกเฉียดตายกับมุคุโร่เป็นแค่จินตนาการไปเอง
สึนะขนลุกและหันไปด้านหลังอย่างงงงวย แต่ก็คิดว่าเป็นการคิดไปเองของตนเท่านั้นจึงละความสนใจและเข้าไปช่วยโกคุเทระที่กำลังเป็นลมแทน
แต่กับนักฆ่ามืออาชีพสองคนที่อยู่ด้วยตรงนั้นจึงเผยยิ้มต่างกันไปและหันไปมองด้านหลัง
“อยู่คนเดียวท่าจะเหงานะ
อยากมีเรื่องเมื่อไหร่ก็มาได้ทุกเมื่อล่ะ!”
นักฆ่าตัวจิ๋วกระตุกยิ้มอวดดี
“สักวันหนึ่ง”
เด็กชายที่เดินผ่านหลังพวกเขาไปเอ่ยขึ้นราวกับต่อบทสนทนา
“ที่นี่ไม่เหมือนที่นั่นหรอกนะ
ถ้าจะมาเข้าร่วมละก็ไว้มาเล่นด้วยกันเถอะ สักวันของนายน่ะ”
ซีลอนแสยะยิ้มเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้หันไป
และพอไปได้ไกลพอรีบอร์นก็เอ่ยขึ้น
“จะว่าไปแกยังไม่ได้เล่าเรื่องที่รู้จักมันเลย...” ทารกนักฆ่าหันไปเตะแขนลูกศิษย์เสียแรง
“แหม ก็นานแล้วนะ
เราอยู่ที่ฐานเอนทรานิโอ้น่ะ...ในวันที่เขาฆ่าทุกคน ผมไปรับเอิร์ลที่แล็บอีกฟากฐานแฟมิลี่
มารู้ทีหลังเพราะปะทะกันนี่แหละ มุคุโร่พูดกับสึนะใช่ไหมล่ะว่าสึนะเป็นผู้ชายคนแรกที่ชนะเขา”
ซีลอนเหล่มองอาจารย์ตัวเล็กและชี้นิ้วใส่ตัวเองอย่างขี้เล่นแม้ว่าทั้งหมดจะแค่แสร้งก็ตาม
“ส่วนผมน่ะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ชนะเขาล่ะ~ ก็นะ ถึงจะใช้อาวุธนั่นสร้างบาดแผลให้ผมเขาก็ไม่สามารถสิงผมได้หรอก
เพราะว่ามีบางสิ่งที่อันตรายกว่าหมอนั่นสิงผมอยู่ก่อนนานแล้ว
เจ้านั่นเลยไม่สามารถแทรกตัวเองเข้ามาในการควบคุมร่างของผมได้ยังไงล่ะ” ซีลอนเท้าคางแกว่งขาพร้อมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจทอดสายตามองฝาแฝดอย่างห่วงใยที่กำลังช่วยปฐมพยาบาลโกคุเทระ
“...”
“เพราะว่าเสียอะไรไปเพื่อได้พลังมา
ก็เลยรู้สึกว่าคล้ายกันละมั้งแต่ว่าผมเก่งกว่าล่ะ~
หมอนั่นก็สนใจตาของผมอยู่เหมือนกัน พอ ๆ กับที่ผมชอบตาสีแดงของเขานั่นแหละแต่ว่าให้โดนทดลองโดนเอนทรานิโอ้เนี่ยไม่เอาอ่ะ
ผมได้วิธีได้พลังที่เจ็บตัวน้อยกว่าและอำนาจมากกว่ามาแล้ว”
นักฆ่าลำดับสิบเอ็ดยิ้มแป้นให้ผู้เป็นอาจารย์ “คุณยังขาดใช่ไหมล่ะ
ผู้พิทักษ์สายหมอกน่ะ” เจ้าตัวฉีกยิ้มร้ายแล้วเหล่มองสึนะ
“วุ่นวายซะจริง” รีบอร์นพ่นลมหายใจขยับปีกหมวกด้วยรอยยิ้ม
“แต่ถ้าได้มุคุโร่มาเข้าร่วมละก็มีสิทธิ์ชนะรุ่นพี่มาม่อนได้เลยน้า
การที่มีผมเป็นสายข่าวให้ดีใช่ไหมล๊า” ซีลอนฉีกยิ้มโอ้อวดตัวเองเต็มที่
ช่วยไม่ได้ก็เธอโตมากับวาเรีย
รู้จักกันดีพอสมควร แต่ว่าเธอก็ยังไม่ใส่ใจอยู่ดีนั่นแหละ
“แล้วก็นะ หึหึหึหึ
เพราะเป็นท่านอาจารย์หรอกนะเลยเซอร์วิสข่าวสักหน่อย อย่าลืมตอบแทนกันล่ะ...”
ซีลอนกระซิบข่าวคราวจากทางอิตาลี่ให้นักฆ่าอันดับหนึ่งฟัง
“พายุกำลังจะมาสินะ...”
“เรื่องสนุกต่างหาก~” คนเห็นต่างยักไหล่
“เอาเป็นว่าช่วงนี้จะลอบตามห่าง
ๆ แล้วโดดไปร่วมแจมถ้าเห็นว่าน่าสนุกอ่ะนะ ยังไงก็จะให้ใครตายก่อนการตัดสินอย่างเป็นทางการไม่ได้จริงป่ะ
ผมน่ะเอาใจใส่กันขนาดนี้ก็อยากได้ขนมเยอะ ๆ จังเลยน้า”
นักฆ่าที่แสร้งขี้เล่นเอ่ยขึ้น
“น่ารำคาญเดี๋ยวก็เหนี่ยวซะเลยนี่”
“น่ากลัวจัง~” แน่นอนว่าไม่ได้หมายความตามคำพูดแม้แต่น้อย
ซีลอนผู้ทิ้งความเป็นมนุษย์ไปหลายส่วนหัวเราะร่าเริงแต่แววตากลับคมกริบฉายชัดถึงสายตาของนักล่า
เหล่มองสึนะและยิ้มเหยียด
“ดูท่าว่าฝั่งที่เอิร์ลชอบจะน่าสนุกกว่าฝั่งเฮียอีกอ่ะนะ
เพราะงั้นจะคอยเก็บกวาดให้เอง~
ไม่ต้องห่วงผมก็ยังคิดเหมือนเดิมนั่นแหละ
ไม่ว่าใครจะขึ้นเป็นรุ่นที่สิบผมก็ไม่สนใจนักหรอก ก็ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเท่าไหร่นี่นา”
เธอแสยะยิ้มเค้นหัวเราะขึ้นจมูก
ความสงบก่อนพายุเข้า แสนธรรมดา
ร่าเริง ก่อนความมืดจะโหมกระหน่ำเข้ามาในเส้นทางที่สึนะเริ่มก้าวออกไป
“ก็น้า~ เพราะซือคุงมีสายเลือดเดียวกับท่านผู้นั้น ผมคิดว่ามันต้องสนุกแน่เลยล่ะ
อาจารย์~ อดใจรอให้เขามีมาดแบบภาพวาดนั้นไม่ไหวแล้วจะต้องสุดยอดมากแน่
ๆ วองโกเล่ในรุ่นของพวกผมน่ะ”
อาจารย์นักฆ่าได้แต่ถอนหายใจฟังสิ่งที่ลูกศิษย์ผู้ผิดปกติระริกระรี้เล่ามา
ก็ไม่ผิดนักเพราะหากเทียบกับภาพสีน้ำมันเก่าแก่นั่นเพียงมองผ่านก็รู้เลยว่าสืบเชื้อสายกันมา
เค้าเงารูปร่างของชายผู้ยิ่งใหญ่ต้นตำรับของวองโกเล่แฟมิลี่
แต่พอโตขึ้นมาหน่อยส่วนตัวก็คิดว่าโกร่าจำเป็นต้องมีเพื่อให้เรื่องเดินไปในเส้นนี้อยู่ ปรับตัวละครอยู่หลายครั้งแต่ก็ยังแมรี่ซูมาก ๆ อยู่ดี
ความคิดเห็น