คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : |4| LURID |เฝ้ามองอยู่ห่างๆ
Cr : https://www.pinterest.com/pin/356980707965949668/
“ดวงดาวอันเจิดจรัส
ที่พวกเราเห็นได้จากไกลๆ” | Binary Star - SawanoHiroyuki[nZk]:Uru
ซีลอนทอดสายตาลงมาจากอาคารโรงเรียนวันนี้สึนะก็มีเรื่องให้ขำอีกแล้ว
เธอแฝงตัวเข้ามาก่อนและพบว่าเป้าหมายคุ้มครองทำตัวอ่อนแอมาก
เธอไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถอะไรที่เพียงพอในการขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าวองโกเล่รุ่นที่
10 ได้ ไม่มีสักอย่างเดียว
อ่อนแอ ขี้ขลาด
ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง การเรียนก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร ไม่มีพวกพ้อง
ไม่มีใครคอยหนุนหลัง
แต่ว่าไอ้การใส่บ็อกเซอร์วิ่งไปวิ่งมาในโรงเรียนน่ะเธอรู้ว่ามาจากอะไร...
ดูเหมือนท่านรุ่นที่เก้าจะใส่ใจเด็กคนนั้นมากทีเดียวถึงกับให้นักฆ่าอันดับหนึ่งมาเป็นครูสอนพิเศษส่วนตัว...
เธอไม่คิดจะเข้าไปยุ่งด้วยเพราะตัวเธอเองก็มีหน้าที่ของเธอ
ก็เข้าใจเลยล่ะว่าทำไมให้เธอมาดูอยู่ใกล้ขนาดนี้ก็เพราะดูยังไงก็ไม่ใช่คนฝั่งโลกมาเฟียเลยสักนิด...
“นี่อาจารย์
ทำไมถึงเป็นหมอนั่นล่ะ แบบนั้นน่ะ...ไม่ใช่ว่าอ่อนแอแล้วโดนฆ่าง่ายสุด ๆ
ไปเลยเหรอ” เธอชี้ลงไปที่สึนะกำลังต่อยพื้นสนามลงเรียนหลังทำการดาวน์ซิ่งหาอะไรบางอย่าง
“เดี๋ยวก็เก่งขึ้นเองคิดว่าใครมาฝึกให้กันล่ะเจ้าโง่”
ทารกปากจัดข้างตัวเธอเค้นลมหายใจออกจมูกเป็นเสียงฮึก่อนเก็บปืน
“นั่นสิเนอะ ขนาดบอสของคาบัคโลเน่ยังเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้อาจารย์เจ๋งที่สุดอยู่แล้ว”
ซีลอนเอ่ยไปตามน้ำโดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลยพร้อมยิ้มกลวงเปล่า
ยิ่งเฝ้ามองก็ยิ่งเปรียบเทียบตัวเองกับสึนะบ่อยขึ้น
หรือว่านั่นอาจจะเป็นคนปกติกันนะ
...ไม่ล่ะคงจะดูบ้าไปหน่อยเวลาถูกยิงด้วยกระสุนพิเศษของอาจารย์
แต่ว่าเจ้าห่วยสึนะที่ใครต่อใครในโรงเรียนเรียกก็เริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีทีละน้อยอย่างช้า
ๆ จบเรื่องไทม์แคปซูลลงความจริงก็ปรากฏอาจารย์วิชาวิทย์ถูกปลดออกเพราะปลอมใบประกอบวิชาชีพ
“อาจารย์เก๊นั่นออกไปได้ก็ดี”
ซีลอนไหวไหล่เมื่อเพื่อนในห้องพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อวาน
“เจ้าห่วยสึนะนี่ทำอะไรแปลก ๆ
ทั้งนั้นแต่ก็ดูจะเปลี่ยนไปมากขึ้นนะ ในทางที่ดี
เห็นว่าตอนนี้มีเด็กอันธพาลจากอิตาลี่ไปเป็นลูกน้องด้วยล่ะ
บางทีเจ้าห่วยสึนะอาจจะซ่อนอะไรไว้ก็ได้... อ๊าย!วันนี้ยามาโมโตะคุงจะลงสนามด้วยดูสิ!”
นักเรียนหญิงที่กำลังนินทาเด็กรุ่นน้องอย่างออกรสก็เกาะกระจกทันทีที่เห็นนักกีฬาสุดฮอตของโรงเรียนอย่างเทเคชิ
ยามาโมโตะ ตัวจริงทีมเบสบอลปีหนึ่งเพียงคนเดียวในลานกว้าง
เขามีนิสัยเอื้อเฟื้อและเป็นกันเองทำให้มีแฟนคลับมากมาย
“ซายากะเนี่ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไวจนตามไม่ทันแล้วน้า”
ซีลอนเลือกยิ้มขำออกมาอย่างแนบเนียนกลมกลืนไปกับบทสนทนา
“ก็ฉันอยากให้ซีลอนจังรู้หลาย ๆ
อย่างในโรงเรียนนามิโมริน่ะจะได้ชอบไง แต่เธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนใช่ไหมล่ะบางทีจบม.ปลายแล้วอาจจะไม่ได้เจอกันในมหาลัยที่ญี่ปุ่นก็ได้นี่นา”
นักเรียนหญิงมุ่ยปากแล้วชักชวนชี้ให้เพื่อนผมเงินจากอิตาลี่เห็นว่าคนไหนคือยามาโมโตะ
“โฮ่...
มีร่างกายสมเป็นนักกีฬาดีนี่” นักฆ่าตามน้ำไปอย่างไม่คิดอะไรจนกระทั่งเย็นนั้นก่อนเลิกเรียนเห็นยามาโมโตะมาช่วยสึนะทำความสะอาด
บางทีเธอควรจะสอดส่องเขาหน่อยเผื่อว่าท่านอาจารย์จะเอาตัวเขาเข้าแฟมิลี่
วันถัดมาที่มีนักเรียนหญิงวิ่งเข้ามาในห้องกรีดร้องว่ายามาโมโตะอยู่บนดาดฟ้าและกำลังจะฆ่าตัวตายอย่างกะทันหัน
เพราะเมื่อเย็นวานเขาซ้อมจนแขนหัก
เด็กสาวตามคนอื่น ๆ
ไปเพราะถูกเพื่อนลากไปด้วย
อ่อนแอก็เลยอยากตาย?
แน่นอนว่าเธอไม่สามารถทำความเข้าใจความคิดของยามาโมโตะได้เลย ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยากจะหนีไปด้วยการตาย
แต่เธอก็ไม่ใช่คนประเภทเดียวกับสึนะที่พูดออกมาว่าเพราะตัวเองไม่เคยทุ่มเทกับอะไรสักอย่างได้แต่คิดว่าพยายามแล้วนะทั้งที่จริงไม่ได้ลงมือทำอะไร
เลยไม่เข้าใจว่าทำไมยามาโมโตะถึงเลือกให้มันจบแบบนี้
อย่างน้อยเธอก็คิดว่าแค่มุมมองนี้ของสึนะเป็นเรื่องน่าพอใจขึ้นมาในหลาย
ๆ เรื่องที่ห่วยล่ะนะ
เพราะไม่สามารถเข้าใจหัวใจอีกฝ่ายได้ถึงเลือกบอกว่าไม่เข้าใจหรอกไปตามตรง
และก็คิดแทนไม่ได้เพราะมุมมองมันต่างกันถึงได้อยากจะฟังเหตุผลของอีกฝ่าย
จนกระทั่งเขาคว้าสึนะที่ขอโทษแล้วหันเดินออกมาแต่รั้วก็พังแล้วตกลงไปทั้งคู่
เสียงตะโกนว่า ‘รีบอร์นกลางเวหา’ ดังขึ้นมาซีลอนก็หัวเราะหึในลำคอ
อาจารย์ของเธอยิงปืนออกไปแล้ว
ก็นะ
สึนะน่ะเป็นว่าที่ผู้เข้าแข่งชิงตำแหน่งรุ่นที่สิบของวองโกเล่จะปล่อยให้ตายโง่ ๆ
ไปทั้งแบบนี้คงยอมไม่ได้
เสียงพึมพำของเหล่านักเรียนที่คิดว่าเป็นมุกตลกอย่างทุกทีซีลอนที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้ายบ่นออกมาก่อนจะกลับเข้าอาคารเรียนไปด้วย
“มีเรื่องต้องสืบเพิ่มอีกแล้วเหรอเนี่ย ใช้งานกันหนักจังน้า...”
หลายอาทิตย์ต่อมาหลังเลิกเรียนซีลอนกลับบ้านก็เจอกับคุณนานะผู้เป็นแม่ของสึนะเข้า
“อุ๊ย คู่แฝดที่เพิ่งย้ายเข้ามาใช่ไหมจ๊ะ
เมื่อวานน้าได้กินแยมของฝากแล้วนะอร่อยมากเลยล่ะขอบใจนะ ถ้ายังไงเอาคุกกี้นี่ไปทานกันสิ”
““ขอบคุณครับคุณนานะ””
ซีลอนยิ้มหวานกับฝาแฝดตีมือกันเบา ๆ
ทั้งคู่เป็นพวกชอบขนมอยู่แล้วเลยไม่คิดจะปฏิเสธ
“น้าเพิ่งเห็นว่าเครื่องแบบโรงเรียนเดียวกับลูกน้าเลยเขาอยู่ปีหนึ่งน่ะ”
คุณนานะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ซีลอนมองห้วงอารมณ์นั้นแล้วศึกษามันเอาไว้ในใจ
“สึนะสินะ ผมก็เคยเห็นผ่าน ๆ
อยู่บ้าง” ซีลอนยักไหล่เล็กน้อยเลือกทำท่าทีสบาย ๆ เพื่อให้เข้ากับบทสนทนา
“ผมก็เหมือนกัน” เอิร์ลเกรย์เองก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ดีจ้า~”
ทารกนักฆ่าเดินกลับมาที่บ้านของซาวาดะก็พบกับอดีตลูกศิษย์และฝาแฝดของหล่อนเข้า
“โอ๊ะ
ไม่เจอกันนานเลยนะท่านอาจารย์~
มาสอนใครบางคนอยู่แถวนี้เองสินะ”
ซีลอนก้มลงแล้วทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างแนบเนียนเมื่ออยู่ต่อหน้าคนนอก
“รู้จักคุณรีบอร์นด้วยเหรอจ๊ะ
แหมเป็นเด็กอัจฉริยะสินะเนี่ย” คุณนานะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“อื้ม
ถ้าได้เรียนจากท่านอาจารย์ล่ะก็รับรองว่าต้องเก่งขึ้นแน่นอนครับคุณนานะ”
เอิร์ลเกรย์ยิ้มแล้วโบกมือให้นักฆ่าอันดับหนึ่ง
ซีลอนจึงรีบหยิบกระดาษคำตอบที่วงแดงหนึ่งร้อยคะแนนให้อาจารย์นักฆ่าดู
“ดูสิ ๆ
ผมได้เต็มอีกแล้วล่ะเจ๋งใช่ไหมล่ะ~” คำพูดของพวกเขาช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เล็กน้อย
“ท่านรุ่นที่สิบครับนั่นใครน่ะ...”
เสียงของโกคุเทระดังขึ้นมาไม่มากพอจะให้คุณนายนานะได้ยินแต่มากเกินพอสำหรับประสาทหูของนักฆ่าอย่าซีลอนเธอจึงเก็บกระดาษแล้วหันไปยิ้มให้พร้อมกับฝาแฝด
“เพิ่งเคยได้เจอหน้ากันตรง ๆ
นี่แหละสึนะสินะ
พวกผมเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากอิตาลี่น่ะอยู่ปีสองแล้วก็อยู่บ้านเช่าตรงนั้น”
เอิร์ลเกรย์เอ่ยอย่างเป็นกันเองและชี้ไปยังบ้านฝั่งตรงข้ามเยื้องออกไปหนึ่งหลัง
“อ๊ะ ลืมแนะนำตัวเลย
ผมชื่อเอิร์ลเกรย์นะ ส่วนนี่ฝาแฝดของผมซีลอน ฝากตัวด้วยน้าสึนะคุง”
แฝดชายโบกมือหย่อย ๆ ดวงตาเป็นมิตรยิ้มแย้ม
สำหรับเอิร์ลเกรย์นั้นในใจชมชอบสึนะมากกว่าซันซัส แม้ว่าจะเป็นมาเฟีย
เขาก็อยากให้ยกระดับและใช้ไม้อ่อนก่อนถึงใช้ไม้แข็งไม่ใช่ปะทะตาต่อตาฟันต่อฟันแบบซันซัน
“ยินดีที่ได้รู้จักน้าคุณรุ่นน้อง”
ซีลอนชะโงกออกมาจากเงาแฝดแล้วโบกมือให้ทั้งสามคน
“โอ๊ะ รุ่นพี่เข้าใหม่ที่เป็นที่พูดถึงนี่นา
ยินดีที่ได้รู้จักน้า~”
ยามาโมโตะยิ้มซื่อโบกมือตอบกลับขณะที่โกคุเทระชะงักไปเล็กน้อยเพราะเหมือนเคยเห็นอีกฝ่ายที่ไหนมาก่อน
“รู้จักกันแล้วงั้นเข้ามาคุยกันในบ้านไหมจ๊ะ?
มาเลย ๆ” คุณนายนานะเห็นแบบนั้นก็ชวนทุกคนเข้าบ้านและเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ทั้งรุ่นพี่และเพื่อนของลูกชายรวมไปทั้งอาจารย์พิเศษตัวจิ๋วด้วย
“ไหน ๆ
ก็รู้จักกันแล้วงั้นพูดให้เคลียร์เลยแล้วกัน
เจ้านี่น่ะเป็นลูกศิษย์ฉันเองพูดอีกนัยก็คือเป็นศิษย์พี่ของแกยังไงล่ะ”
รีบอร์นโดดขึ้นไปบนไหล่ของนักฆ่าผมเงิน เธอยิ้มขึ้น
“ยินดีที่ได้รู้จักน้าว่าที่รุ่นที่สิบ”
ซีลอนเอ่ยปากอีกครั้ง
“หา?
ว่าที่อะไรท่านผู้นี้ต้องได้เป็นรุ่นที่สิบอย่างไม่ต้องสงสัย! ห้ามทำตัวหยาบคายใส่เด็ดขาด!”
โกคุเทระตบโต๊ะเสียงดัง
“น่า ๆ
แค่เล่นกันเองโกคุเทระคุงทำแบบนั้นเสียมารยาทนา” ยามาโมโตะยกมือห้ามแต่เหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟ
“ผู้พิทักษ์ของนายยังไม่รู้เหรอสึนะ
แต่ไม่เป็นไรหรอก ไม่ว่าใครจะเป็นรุ่นที่สิบผมก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ” ซีลอนไหวไหล่
“แกนี่อิเรื่อยเฉื่อยแฉะไม่เปลี่ยน
มาดไม่สมกับเป็นที่สิบเอ็ดเอาซะเลย” รีบอร์นเหล่มองเดาะลิ้นขัดอารมณ์
“ก็ผมไม่สนนี่นา
แต่ถ้าเอิร์ลชอบข้างสึนะขึ้นมาก็จะช่วยติวให้ก็ได้ถึงพวกผมจะเป็นกลางก็เถอะ”
ซีลอนยกยิ้มเหลือบมองรุ่นน้องที่ป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ดูขี้ขลาด
“ได้ลงสนามบ่อย ๆ
เดี๋ยวก็ใจกล้าและเก่งขึ้นเองนั่นแหละ เหมือนการที่ต้องฝึกบ่อย ๆ พอชินก็เก่ง”
เธอตัดบท
“มีแค่เรื่องนี้ละมั้งที่แกเห็นตรงกันฉัน”
รีบอร์นโดดลงบนโต๊ะ “มาเริ่มที่วิชาคณิตศาสตร์กันเลย!”
“งั้นไม่กวนละ กลับล่ะน้า~” ซีลอนลุกขึ้นไม่มีท่าทีล้อเล่น
“ขอโทษด้วยนะครับเพราะบทเรียนของปีหนึ่ง...”
สึนะยิ้มเจื่อน
“อาจารย์ไม่ได้มีหน้าที่สอนผมเรื่องวิชาการหรอกนะ?”
ซีลอนเลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้ม ดูท่าอีกฝ่ายคงจะเข้าใจผิดไป
“อ๊ะ! ลำดับที่สิบเอ็ด! นักฆ่าม้ามืดที่ไต่ท๊อปแรงค์ขึ้นมาในวัยสิบสองปี! อัจฉริยะนักฆ่าคนที่สอง!”
โกคุเทระนึกขึ้นได้เสียทีก็ผุดลุกขึ้นกำระเบิดแน่นพร้อมปกป้องสึนะในทันที
“ปิ้งป่อง~ แต่ว่าไม่ได้มาเก็บสึนะหรอกน้า เพราะมีคนจ้างให้ผมมาคุ้มครองอยู่ห่าง ๆ
ต่างหากจนกว่าเรื่องจะจบ”
ซีลอนแบมือยิ้มตาหยีเพื่อปกปิดแววตาอันแสนจะว่างเปล่าของตน
“เพราะงั้นน้าสึนะ รีบ ๆ
เก่งดีกว่าการฝึกของอาจารย์น่ะอำมหิตจะตายไป” เธอแสยะยิ้มเย้ยเหล่มองทารกนักฆ่า
ใบหน้าที่แท้จริงทำให้เด็กหนุ่มขวัญอ่อนผงะไป
“ไปแกล้งไม่ได้นะซีน
พวกเขาไม่ได้โตมาเพื่ออยู่ในสังกัดแบบเราสักหน่อย
ให้คนธรรมดามาฝึกปางตายก็ออกจะยากอยู่หรอก...” เอิร์ลเกรย์จับบ่าฝาแฝดปราบไม่ให้แสดงท่าทีไปมากกว่านี้
“ถ้าเอิร์ลว่างั้นผมก็ว่าตาม~” ซีลอนหันไปยิ้มแย้ม
“จริงสิท่านอาจารย์ คือว่านะรีบหน่อยดีกว่ามั้งงั้นเดี๋ยวเขาก็เป็นรุ่นที่สิบไม่ได้หรอก”
ซีลอนจิ้มอกสึนะคลี่ยิ้มอย่างไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น
“แต่ผมไม่ได้—”
“มันไม่ใช่เรื่องที่นายจะตัดสินใจได้ด้วยตัวคนเดียวซะด้วยสิสึนะ
เพราะงั้นได้แต่บอกว่าพยายามเข้าน้า~ อ่ะนะ”
“เดี๋ยวก่อนถึงจะเป็นเธอก็เถอะ
ฉันไม่ยอมให้ดูถูกท่านรุ่นที่สิบหรอกนะ! มาแข่งกัน! ถ้าแพ้ต้องขอโทษท่านรุ่นที่สิบซะ” โกคุเทระเดือดจัดโวยขึ้น
สำหรับซีลอนแล้วไม่มีทางที่จะเข้าใจท่าทีของสโมคกิ้ง
บอมบ์ ฮายาโตะ
เธอไม่ถนัดทำความเข้าใจประเภทความรู้สึกที่มีรักเป็นส่วนประกอบเท่าไหร่
และหากจะนำมาเปรียบเทียบความรู้สึกของเธอต่อเอิร์ลเกรย์แล้วก็ยังต่างออกมาอยู่ดี
เธอไม่สนใจคนที่มาดูถูกเอิร์ลเกรย์หรอกนะ
เพราะคนที่รู้ดีว่าใครเป็นยังไงก็คือตัวเอง และคนสนิท อีกอย่างแค่เอาความสามารถของเอิร์ลตอกหน้าพวกมันก็ไม่มีใครกล้าเผยอหน้ามาท้าทายปากดีอีก
“ทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วยล่ะ
แปลกดีจัง ก็ได้แข่งอะไรล่ะผลคะแนนสอบรายวิชาไหมเพิ่งประกาศเอง?” ซีลอนไหวไหล่
ตอบตกลงเพื่อจบหัวข้อให้รวดเร็วที่สุด
“หึ มั่นใจมากสินะ
แต่ขอโทษด้วยเธอคงแพ้” โกคุเทระโชว์กระดาษข้อสอบที่เขียนปากกาแดงคะแนนเต็ม 100 ทั้งสามใบในวิชาภาษาญี่ปุ่น คณิต และวิทย์
“รุ่นน้องเก่ง ๆ
ก็มีอยู่เหมือนกันสิน้าเพราะผมเองก็คิดว่าข้อสอบโรงเรียนนี้มันง่ายเกินไปหน่อยล่ะ”
ซีลอนหยิบกระดาษคะแนนออกมาในวิชาเดียวกันคะแนนเต็มแบบเดียวกับโกคุเทระ
“บ้าน่า!”
ซีลอนแสยะยิ้มหัวเราะในใจ
ต้องขอบคุณโชคที่อีกฝ่ายเลือกสามวิชานี้ขึ้นมา
เพราะแม้จะเต็มร้อยไปหลายวิชาแต่ภาษาอังกฤษเป็นหลุมอยู่วิชาเดียวที่เธอไม่ได้คะแนนสวยงามเช่นนี้
“น่าเสียดายน้า แต่ไม่ได้มีแค่นายที่ขยันหรอกนะฮายาโตะคุง
บ๊ายบาย~”
“เดี๋ยวก่อน! ยังมีวิชาสังคม ศิลปะ กับภาษาต่างประเทศอีก!”
โกคุเทระไม่ละความพยายามทำให้เอิร์ลเกรย์หลุดขำออกมาเบา ๆ
“เธอแพ้แหน่ะซีน
ไม่น่าเล่นเป็นเด็กเลยนะ” ฝาแฝดชายยิ้มอ่อนโยนเหล่มองรุ่นน้องที่พยายามให้ซีลอนขอโทษสึนะคุง
“โดนรู้ซะแล้วน่าเบื่อจัง
แพ้ก็แพ้ ถ้าเปลี่ยนเป็นภาษาอื่นอาจจะเต็มร้อยอีกวิชาก็ได้”
ซีลอนหยิบกระดาษข้อสอบที่เหลือออกมาคลี่
ภาษาอังกฤษเป็นใบเดียวที่คะแนนคาบเส้นเกือบตก
“เยส! ท่านรุ่นที่สิบวางใจได้เลยครับผมน่ะเพียบพร้อมสมกับเป็นมือขวาแน่นอน!” โกคุเทระกำหมัดดีใจที่ชนะคะแนนสอบรุ่นพี่สาว
ซีลอนไหวไหล่แล้วก้มลงไปหาสึนะที่เตี้ยกว่าเล็กน้อย
“ขอโทษที่ทำตัวเหมือนไม่เคารพน้าสึนะคุง
แต่ก็ไม่เคารพจริง ๆ นั่นแหละเพราะผมทำงานให้รุ่นที่เก้าอยู่ตอนนี้ตราบใดที่ปู่ป๋าไม่ได้ลงจากตำแหน่งผมก็จะไม่สวามิภักดิ์ให้รุ่นถัดไปก่อนเวลาหรอกน้า”
ซีลอนยิ้มยียวนแล้วถอยกลับมา
“ท ทำงานให้ท่านรุ่นที่เก้า!” โกคุเทระช็อกไปกับคำพูดนั่น
“แม่นแล้วจ้า! เงาขึ้นตรงหนึ่งเดียว ณ หลังเก้าอี้ของชายผู้มากความสามารถ
รุ่นที่เก้าแห่งวองโกเล่แฟมิลี่ยังไงล่ะ~”
ซีลอนกอดอกยืดอวดเล็กน้อยให้ดูสมวัยก่อนจะกลับมาทำท่าทีปกติ
“เพราะงั้นน้าไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมาลอบฆ่าสึนะหรอกนะ”
ซีลอนหัวเราะในลำคอ เธอตามสอดส่องสึนะมาตลอดหลายสัปดาห์นี้
“เดี๋ยวนะงั้นแรมโบ้ล่ะไม่นับเรอะ! ไหนจะคนที่ชื่อเบียงกี้อีก!”
สึนะตาโตเอ่ยขึ้นอย่างข้องใจ
“ก็คุณเบียงกี้เขาเป็นพันธมิตรของวองโกเล่นี่นา
คิดซะว่าถูกพี่สาวคนสวยเขาฝึกพิเศษให้หลบอาหารพิษแล้วกันนะ ส่วนแรมโบ้... อ้อ
นั่นสินะ ไม่เห็นมีพิษภัยตรงไหนเลยเป็นแค่นักฆ่าโนเนมไม่ใช่เหรอ?
ถ้าถูกเด็กระดับนั้นฆ่าเอามันก็...นะ”
แววตาดูถูกของนักฆ่าลำดับสิบเอ็ดมองสึนะอย่างสงสารก่อนจะหลุดโอ้ยอย่างเสียมาดเพราะเอิร์ลเกรย์หยิกเข้าให้
“เสียมารยาทนะซีนขอโทษเดี๋ยวนี้เลย
สึนะคุงไม่ได้โตมาแบบพวกเรานะ” คนที่เป็นคนปกติที่สุดเอ่ยขึ้น
ฝาแฝดของเขาเบะปากเล็กน้อย
“โทษที
ผมโตมาแบบปลาใหญ่กินปลาเล็กน่ะถ้าไม่เก่งขึ้นมีหวังไม่ได้โตแหง ขอโทษน้า”
แม้จะหาความจริงใจได้น้อยแต่เอิร์ลเกรย์ก็ยอมลงให้เพราะเข้าใจว่าความคิดความอ่านของฝาแฝดตนเองค่อนข้างแตกต่างจากชาวบ้านเขา
“ร รุ่นพี่โตมาแบบไหนล่ะนั่น”
“รังของนักฆ่ายังไงล่ะ~ ยินดีต้อนรับสู่ปฐมบทการก้าวเข้าสู่มาเฟียแฟมิลี่!
หวังว่าจะได้พบคุณในอีกหลายสิบปีข้างหน้านะซือคุง!”
ซีลอนแบมือออกข้างหัวเราะในลำคอและโบกมือลาพวกเขาเพื่อกลับบ้านตนเอง
“รุ่นพี่เขาเป็นนักฆ่า!?”
“บอกไปแล้วนี่หัดฟังซะบ้างเจ้าสึนะ! ลูกศิษย์นักฆ่าที่น่าภูมิใจเชียวล่ะ!
ขยันซ้อมไม่ขาดไม่เคยต้องคอยบอกว่าให้ไปซ้อมก็ฝึกฝนอยู่เสมอ
เปี่ยมไปด้วยพรแสวงจนปืนป่ายด้วยกำลังของตนเองมาได้สูงขนาดนี้”
รีบอร์นกอดอกสารธยายให้ฟัง
“เล่นกันจริงจังมาเลยน้าแถมมีไปเตี๊ยมกับรุ่นพี่ด้วยเจ้าหนูนี่กว้างขวางจริง”
ยามาโมโตะยิ่งประทับใจรีบอร์นที่ตนเข้าใจว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องสึนะเข้าไปอีก
“ให้ความรู้สึกมีสีสันดีจังแฮะ
แต่ว่าน้า ปวกเปียกแบบนั้นตอนนี้แค่งัดกับระดับมือสมัครเล่นยังไม่ไหวเลยละมั้ง~” ซีลอนประสานมือหลังคอขณะนอนเปื่อยอยู่บนโซฟาในบ้านเช่า
“น่าสงสารเขาออกซีลอน ก็เขาโตมาเป็นคนธรรมดานี่ไม่เหมือนพวกเราที่เจอกับโลกเบื้องหลังตั้งแต่เด็ก”
เอิร์ลเกรย์ส่งจดหมายให้ฝาแฝด เธอเปิดอ่านแล้วก็จุดไฟเผาทิ้งไปในถังเหล็กใกล้ ๆ
“มอเรตตี้จะมาญี่ปุ่นแหน่ะ
ดีเลยกำลังอยากรู้เรื่องบนเกาะมาเล่เดียโบล่าพอดี คิดถูกจริง ๆ ที่ส่งหมอนี่ผสมเข้าไปในพวกที่ต้องกำจัดด้วย”
ซีลอนกระดิกเท้าแล้วลุกขึ้นมานั่งเปิดมือถือที่สั่นข้อความเข้า
“เย็นนี้ผมกลับดึกนะล็อกบ้านดี ๆ
ล่ะ”
นักฆ่าสาวอ่านจดหมายที่ไม่มีเนื้อหาอะไรเป็นพิเศษแต่แฝงรหัสลับเอาไว้ของหน่วยข่าวกรอง
‘อยู่ญี่ปุ่นคอยปกป้องว่าที่ผู้ท้าชิงตำแหน่งรุ่นที่สิบที่จะต้องสู้กับซันซัส’ สำหรับซีลอนเธอไม่เห็นหนทางที่สึนะจะชนะซันซันในเวลานี้ได้เลย
แต่ถึงอย่างนั้นวันนี้เธอก็ยังมีงานเข้ามือไม่ขาดอยู่
“พวกสายลับแฟมิลี่อื่นที่เข้ามาสืบข่าวแล้วเล็งเก็บสึนะน่ะมีเยอะกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีกน้า...พวกเขาเห็นอะไรในซือคุงกันนะถึงจะเก็บเขาไม่ใช่เฮีย...”
เธอไหวไหล่เปลี่ยนชุดพร้อมออกไปทำงานให้ทะมัดทะแมงและใส่กางเกง รัดเข็มขัดอาวุธกับต้นขาและเอวซ่อนปืนและมีดเอาไว้ใต้เสื้อนอกที่คลุมปิด
“ในทุกวันที่แสนธรรมดาและล้ำค่า...”
เอิร์ลเกรย์กระตุกยิ้มเอ่ยขึ้นมา
“เพราะที่ไหนสักแห่งมีคนกำลังปกป้องมันไว้อยู่...
ผมเนี่ยเท่ไปเลยน้า~ เอิร์ลเกรย์ภูมิใจใช่ไหมล่ะ~” เธอเผยท่าทีขี้เล่นซุกซนออกมาจากใจ
“ใช่แล้วเพราะว่าฝาแฝดของผมเก่งกว่าใคร
ๆ ทั้งนั้น ถึงอย่างนั้นก็ห้ามประมาทนะซีน ระวังตัวด้วย” ฝาแฝดหนุ่มเข้าไปลูบหัวบีบแก้มเบา
ๆ เอ่ยอย่างห่วงใยและโบกมือลา
เธอโบกตอบและออกไปจากบ้านอย่างเป็นธรรมชาติราวกับไปซื้อของที่ตลาดและกลับมาเท่านั้น
ในระหว่างทางก็กดน้ำอัดลมจากตู้ขายเครื่องดื่มแล้วยืนซดอยู่หน้าตู้เงียบ
ๆ ชายในชุดมิดชิดกับหมวกไหมพรมเข้ามาข้าง ๆ และกดเครื่องดื่มออกมา
“โหดร้ายจังนะครับถึงผมจะมี ‘อาดิโอ้’ แต่ก็เกือบไม่รอดเหมือนกันนะครับ”
มอเรตตี้ยิ้มเจื่อนแล้วดื่มกาแฟกระป๋อง
พวกเขาส่งข่าวสั้น ๆ กันผ่านข้อความถึงตำแหน่งนัดหมายและเวลาเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร
“แต่ฉันมั่นใจมากเลยนะว่านายจะรอดกลับมามอเรตตี้
คนที่โดนเพลิงพิโรธคงมีแค่เจ้าอ๊อตอะไรนั่นเท่านั้นแหละแล้วเป็นยังไงบ้าง?”
ซีลอนถอนหายใจหลังดื่มน้ำอัดลมไปอึกใหญ่ ถ้าเอิร์ลเกรย์รู้คงดุเรื่องชอบอะไรหวาน ๆ
จนกลัวว่าจะไม่ตายเพราะแก่แต่ตายเพราะโรคเบาหวานเอามากกว่า
“เป็นไปตามที่คาดครับ
เขาทรยศท่านซันซัสจริง ๆ
แถมยังมีส่วนรู้เห็นกับพวกทหารเก่าที่บุกยึดเก่าอีกดูเหมือนผลประโยชน์ร่วมจะเป็นอาวุธรุ่นใหม่นะครับ”
มอเรตตี้ไหวไหล่ เด็กสาวที่ได้ข่าวก็แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย
“งั้นโบนัสจะโอนไปให้ต่างหากแล้วกันทำขวัญแกที่เกือบตายจริงเสียหน่อย
แต่ว่าถึงกับมาส่งข่าวด้วยตัวเองแบบนี้น่ะ
มาดูหน้าว่าที่รุ่นที่สิบกับเขาด้วยเหรอนายน่ะ”
ซีลอนเหล่มองชายข้างตัวที่มากอายุกว่าแต่เธอก็ไม่ได้แสดงความเคารพนัก
“ครับ! เพราะเห็นว่าเป็นเชื้อสายตรงจากรุ่นที่หนึ่งครับ
ถ้าสง่างามเหมือนกันก็คงจะดีนะครับ” มอเรตตี้จินตนาการอย่างปลาบปลื้ม
“ไม่ไหวอ่ะ
ตอนนี้ไม่มีเค้าสักนิด ภาพวาดนั่นหล่อกว่าตั้งเยอะ
อีกอย่างตอนนี้ยังเป็นเจ้าห่วยอยู่เลย คงต้องให้เวลาอีกหน่อย
ไหนจะเรื่องรวบรวมผู้พิทักษ์อีก
แต่ก็เอาเถอะได้นักฆ่าอันดับหนึ่งอย่างท่านอาจารย์มาลงมือสอนด้วยตัวเองแบบนี้ไม่นานก็คงพอเห็นแววบ้างแหละ
เพราะถ้าไม่จำที่สอนเดี๋ยวก็ตายก่อนไปเอง” ซีลอนพูดอย่างไม่ใส่ใจพ่นถอนหายใจเบื่อ
ๆ
“เคยมีใครเตือนไหมครับว่าคุณหนูชอบพูดดับฝันคนอื่นบ่อยมาก...”
“เหอะ...
มันเป็นความผิดของคนที่หวังสูงเองไม่ใช่รึยังไง” เธอเหล่มองอย่างฉุน ๆ แล้วปาขวดลงถังขยะ
“ไปสืบมาด้วย ‘สลักเบญจมาศ’ ทำไมพวกมันเล็งสึนะเร็วขนาดนี้” เธอทิ้งคำสั่งเอาไว้และรับเศษกระดาษจากมอเรตตี้มาขณะสวนกันและแยกกันไปเพียงแค่นั้น
นักฆ่าต่างถิ่นมักจะตกเป็นเป้าสังเกตได้ง่ายและเสียเปรียบเรื่องภูมิประเทศที่คนท้องถิ่นคุ้นเคยกว่าตามตรอกเล็กตรอกน้อย
ถ้าหน่วยสืบข่าวของวองโกเล่เป็นพวกกระจอกล่ะนะ...
แผนที่คร่าว ๆ
ของตรอกเล็กตรอกน้อยในพื้นที่เป้าหมายถูกวาดขึ้นมาและเขียนรายละเอียดส่งให้เธออ่านเล่นระหว่างนั่งเครื่องบินเล่น
ไม่นึกว่าวันที่จะได้ไปพื้นที่จริงจะเร็วกว่าที่คิดไวมาก อันที่จริงที่ไวคือสายตาที่จับจ้องมาทางสึนะมากกว่า...
หรือเพราะบางทีใครบางคนคงเด่นเกินไป
อย่างท่านอาจารย์ ทารกในสูทดำที่เดินไปไหนมาไหนตัวคนเดียว
นักฆ่ารุ่นเยาว์ซ่อนตัวนั่งห้อยเท้าอยู่บนบันไดหนีไฟในตรอกหนึ่งเพียงรอเวลาและเฝ้ามองกลุ่มคนสองสามคนที่เดินเข้ามาสูบบุหรี่คุยกัน
“เด็กนั่นน่ะนะ ไม่ล่ะ
ดูยังไงก็เป็นคนเจ้าห่วยคนหนึ่ง”
“แต่สายข่าวรายงานมาว่าเขาเกี่ยวข้องกับนักฆ่าอันดับหนึ่งของอิตาลี่เชียวนะ
มันต้องมีอะไรบ้างล่ะ”
“งั้นสังเกตอีกสักระยะดีไหมถ้ามีความเกี่ยวข้องจริงค่อยคิดหาทางใช้มันเพื่อต่อรองให้ลูกพี่ได้ผลประโยชน์”
ซีลอนนวดหัวคิ้วแล้วถอนหายใจเบา
ๆ โดดลงไปกลางวงตวัดขาจัดการหนึ่งในนั้นให้สลบในครั้งเดียวก่อนจะจัดการอีกสองคนด้วยโดยไม่รอแม้แต่จะให้พวกมันควักอาวุธ
“ลูกน้องเคลื่อนไหวกันเองโดยไม่ผ่านหัวหน้าสินะ
ไม่มีลำดับอาวุโสเอาซะเลย เพราะแบบนี้ไงถึงยังเป็นแก๊งระดับต่ำหน่ะ” เธอกดสายตามองอย่างดูถูก
“กรณีนี้ยังไงก็ฆ่าไม่ได้สินะ...ไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้...
หรือทิ้งดีนะ...” เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เธอตัดสินใจลากพวกมันไปกองกันท้ายซอยตันแล้วหาซื้อสีกระป๋องมาพ่นข้อความทิ้งไว้ลวก
ๆ
‘อย่ายุ่งกับเรื่องของแฟมิลี่คนอื่น’ เธอโคลงหัวแล้วหยุดมือลง
“เท่านี้ก็พอละมั้ง...”
ซีลอนเหลือบมองมุมบนขวาของตึกที่มีเงาคน
เธอไม่ได้สนใจตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้ลงมายุ่มย่ามกับเธอ
ไม่คิดว่านอกจากคนบนตึกแล้วยังมีอีกกลุ่มที่เดินเข้ามาหาน่าแปลกใจทีเดียวที่จะพบกับกลุ่มพันธมิตรไวขนาดนี้
“คาบัคโลเน่... รุ่นพี่ดีโน่
ไม่เจอกันนะนะครับ ไม่คิดว่าคุณก็มาอยู่ที่นี่กับเขาด้วย”
ซีลอนหันไปทักทายบอสใหญ่รุ่นที่สิบของแฟมิลี่พันธมิตรและลูกน้องคนสนิท
“เจอกี่ทีก็ยังน่าขนลุกไม่เปลี่ยนเลยน้าศิษย์น้อง
ทางนี้เองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันแหละว่าจะถูกอาจารย์เรียกตัวมาน่ะ ถึงพอจะรู้ก็เถอะ” ดีโน่กล่าวยิ้ม ๆ
“ในฐานะคนที่ได้รับการฝึกให้เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟีย
คุณเป็นตัวอย่างที่ดีและใกล้เคียงกับสึนะที่สุดช่วยไม่ได้อ่ะนะ” เด็กสาวไหวไหล่
“พวกมันเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่คาดเหรอ?”
ดีโน่รายตามองคนที่นอนกองกันอยู่
“ก็แค่พวกปลายแถวที่เคลื่อนไหวโดยไม่ผ่านหัวหน้าแก๊งระดับล่างน่ะไม่ได้อันตรายกับพวกเราหรอกแต่ขู่ไว้ก่อนดีกว่า”
ซีลอนเอาเท้าเขี่ยคนที่นอนไม่ได้สติเหล่านั้นราวสิ่งของ
“ลำบากหน่อยน้ารุ่นน้อง
แต่ว่าผลงานยังดีไม่มีเปลี่ยน ก็พอจะเข้าใจล่ะว่าทำไมท่านรุ่นเก้าถึงหวงขนาดนั้น”
รุ่นที่สิบแฟมิลี่ข้างเคียงวางมือลงบนหัวแล้วจับโยกไปมาอย่างเอ็นดู
ซีลอนไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษจึงไม่ได้ออกท่าทีรังเกียจ
“แล้วเอิร์ลยังโชคร้ายแปลก ๆ
อยู่ไหม?” เขาถามขึ้นถึงฝาแฝดเด็กสาวตรงหน้า
“ก็เรื่อย ๆ อย่างว่าละนะ ความตายเรียกหาอยู่เสมอนั่นแหละถ้าไปอยู่ในที่เสี่ยง
ๆ น่ะ เดี๋ยวของร่วงใส่บ้าง เดี๋ยวพังลงมาบ้าง เจ็บตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ
บ่อยแต่ไม่ได้อันตรายขนาดนั้นเพราะพวกที่บังอาจมายุ่มย่ามในเขตนามิโมริล่ะฆ่าไปหมดแล้วล่ะ”
เธอกล่าวอย่างเรียบเฉย
นักฆ่าท้องถิ่นน่าจะรู้ดีว่าครอบครัวซาวาดะเป็นกลุ่มคนที่ห้ามเข้าไปยุ่งจากอิทธิพลของคุณอิเอมิสึผู้เป็นบิดาของว่าที่รุ่นที่สิบ
“พวกที่ทะเล่อทะล่าข้ามเขตมาด้วยงานล่าหัวคนของซาวาดะมีแต่นักฆ่าต่างถิ่นต่างประเทศทั้งนั้น
คงได้กลิ่นนั่นแหละว่าจะมีการเปลี่ยนรุ่นเร็ว ๆ นี้ เลยลามไปถึงคนรอบตัวซาวาดะด้วย
ส่วนคุณเบียงกี้ถึงปากจะบอกว่ามาตามอาจารย์ก็เถอะแต่เธอก็ช่วยกำจัดพวกน่าสงสัยไปได้พอสมควร
ต้องขอบคุณเธอล่ะนะ เพราะไม่ได้ขึ้นกับวองโกเล่แท้ ๆ ”
ซีลอนเล่าให้อีกฝ่ายฟังอย่างไม่ใส่ใจ
“...แต่ว่ารุ่นพี่โผล่หน้ามาแบบนี้อาจารย์คงกะจะทยอยให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทำความรู้จักกันสึนะสินะ...
ผมน่ะชอบวิธีการของซันซัสมากกว่าอีก” นักฆ่าตัวน้อยเผยมือออกข้างตัวข้างนึงเซ็ง ๆ
“เธอนี่หัวรุนแรงไม่เปลี่ยนเลยนะ”
ดีโน่หัวเราะเบา ๆ
“เพราะความรุนแรงมันเด็ดขาดกว่าความยุติธรรมไงล่ะ...”
คนเห็นต่างไหวไหล่ “แต่ก็ไม่ได้รังเกียจสีสันอันสดใสของพวกเขาหรอกนะ
ก็พอจะเข้าใจคุณอิเอมิสึล่ะว่าทำไมถึงชอบคุณนานะ
ไม่เหมือนคนที่อยู่โลกเบื้องหลังเหมือนเราสักนิด เปล่งประกาย ระยิบระยับดีนะ
ซื่อตรงและชวนให้รู้สึกสบายใจ...” เธอเว้นไปครู่
“แต่ว่าเพื่อจะได้ครองคู่กับคนแบบนั้น
สำหรับพวกเราที่อยู่ฝั่งนี้ก็คงต้องทำงานหนักเพื่อปกป้องเอาไว้...ผมน่ะมีแค่เอิร์ลเกรย์ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้ว
ความรักสำหรับนักฆ่าเนี่ย... ไม่จำเป็นจริง ๆ นั่นแหละ” เธอกลอกตาอย่างเฉยชา
“แต่ก็ดูไม่ได้รังเกียจอะไรขนาดนั้นนี่
หัวใจก็ยังจำเป็นสำหรับคนที่อยู่โลกเบื้องหลังอยู่นะ” ดีโน่ยักไหล่
“บางทีน่ะนะ”
ซีลอนหันหลังแล้วโบกมือลากบอสแฟมิลี่พันธมิตรเพื่อกลับบ้าน คนบนยอดตึกหายไปแล้ว
‘พวกท้องถิ่นสินะ...’
เธอเหลือบมองเงาคนบนตึกที่หายไป ‘เอาเถอะดูท่าจะรู้ดีว่าไม่ควรสอดมือเข้ามายุ่ง’
ความคิดเห็น