คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : |1| DISCOMBOBULATE | เงาเล็ก ๆ ผู้ขึ้นตรงต่อเบื้องบน
“พวกเรานั้นต่างก็มีความฝันที่งดงาม
ความฝันงดงามที่ซักวันต้องหมดลง”
- Binary Star/Cage - SawanoHiroyuki[nZk] -
ในชีวิตคนเราจะมีสักกี่ครั้งที่โชคชะตาพลิกผันกลับดีเป็นร้ายหรือคลายร้ายกลายดี...โอกาสสักครั้งหนึ่งนั่นมาเยือนพวกเขามากกว่าสองครั้ง...
ครั้งแรกเปลี่ยนจากเด็กแฝดผู้ควรอยู่ในครอบครัวอบอุ่นมาเติบโตในสถานกำพร้าชานเมืองอิตาลี่
ความเป็นอยู่ของพวกเขาไม่แย่นัก แต่เอ่ยได้ไม่เต็มปากว่าดีเท่าไหร่...
ไม่มีใครรู้ว่าผู้ใดเป็นคนเอาเด็กแฝดที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลและรอยฉีดยามาทิ้งเอาไว้
ซิสเตอร์เองก็กลัวว่าทั้งคู่จะไม่รอดก่อนหมดฤดูหนาวแต่พวกเขาก็ดวงแข็งกว่าที่คิด
ครั้งที่สองพอห้าขวบได้ไม่นานก็เปลี่ยนชีวิตในโลกใต้ตะวันเจิดจ้า
กลับต้องมาอาศัยใต้แสงเย็นเหยียบของโลกเบื้องหลัง
ชายแก่คนหนึ่งมาหาพวกเขาและรับอุปถัมภ์ทั้งคู่กลับไปที่คฤหาสน์ของตน
บ้านหลังใหม่นี้มืดดำน่ากลัวแต่ว่ากลับอบอุ่นยิ่งกว่าสถานที่ที่จากมา
‘ซันซัส
ตั้งแต่ว่านี้เด็กพวกนี้จะมาเป็นลูกพี่ลูกน้องของลูกนะรู้จักกันไว้สิ’ ชายผู้บอกว่าเป็นรุ่นที่เก้ายิ้มแย้มและดันหลังเด็กแฝด
ผู้เป็นแฝดชายเผยสีหน้าระแวดระวังและหวาดกลัวพี่ชายที่โตกว่าเกือบสิบปี กลับกันแฝดหญิงที่เค้าหน้าคล้ายกันมากได้ยิ้มแฉ่งเดินเข้าไปเกาะอย่างไม่กลัวตาย
‘พี่จ๋า?’
“คุณอลอนโซ่ คอนติน
รุ่นที่เก้ากำลังรอคุณอยู่เลย” ชายในสูทดำนำทางพ่อค้าอาวุธไปยังห้องประชุมเล็ก อลอนโซ่เป็นหนึ่งในนักค้าขายที่ติดต่อทำสัญญากับวองโกเล่แฟมิลี่
เป็นหนุ่มวัยรุ่นตัวสูงผอมที่มีใบหน้าร้ายลึก มักยิ้มอ่านยากที่ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับเด็กแฝดในอุปถัมภ์ของรุ่นที่เก้า
แค่แรกสบตากับแฝดคนหนึ่งเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้มีความสามารถแฝง
แววตาทะเยอทะยานสีน้ำเงินนั่นกับใบหน้านิ่งงันราวกับประเมินเขา
ก่อนจะเดินผ่านไปแต่ก็ยังได้ยินบทสนทนาสั้น ๆ
ของเด็กคนนั้นกับทายาทท่านรุ่นที่เก้า
“ไอ้เปี๊ยก ให้ไว” ซันซัสเอ็ดเด็กที่ตัวเล็กกว่าพลางยีผมสีเงินสว่าง
“เฮียอ่า...ไปดูเฮียฝึกยิงปืนน่าเบื่อจะตายยังไงก็เข้าเป้าทุกนัดนี่”
ซีลอนบุ้ยปากแต่ก็เดินตามพี่ชายบุญธรรมไป
“ทำไม อยากลองดูบ้างรึไง ก็เอาสิ
ถ้ามันเข้าสักนัดฉันจะสอนแกให้” ซันซัสเค้นหัวเราะขึ้นจมูก
“สัญญาแล้วนะ! จับตาดูให้ดีเพราะว่าเฮียต้องได้สอนผมแน่!”
เสียงเจื้อยแจ้วนั่นร่าเริงขึ้นไปอีกระดับพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่รีบจ้ำหายไป
อลอนโซ่เข้าไปในห้องประชุมและนั่งลงกับโซฟา
ตั้งแต่ที่เขาขึ้นเป็นหัวกลุ่มการค้าเดอะวีคได้ไม่นานนี่ก็เป็นปีแรกที่เขาได้เข้าพบคู่ค้ารายใหญ่โดยตรง
“คงตกใจสินะที่เรียกมากะทันหันทั้งที่เพิ่งรับตำแหน่งจากพ่อของเธอ
แต่ทางฉันก็มีเรื่องอยากจะไหว้วานคนรุ่นใหม่ไฟแรงเสียหน่อย...
นักวิจัยใต้ดินของอีเธอร์ที่หายหน้าหายตาไปนานเหมือนจะเคลื่อนไหว เธอเองที่มีความหลังไม่ดีกับพวกมันคงอยากจะได้ยินข่าวนี้”
ชายแก่ยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ
“เด็กในโครงการวิจัยมีชีวิตรอดหลายคนสองในพวกนั้น...”
คู่แฝดโตมาท่ามกลางผู้คนที่อาศัยในโลกเบื้องหลัง
ซีลอนไม่ได้ใส่ใจนักเพราะว่าชีวิตที่เป็นอยู่ก็ออกจะดี แม้จะมีเรื่องที่คนธรรมดาคงไม่ได้เห็นกันเกิดขึ้นบ่อยไปหน่อย
และเพราะว่าเป็นเด็กดี
ถึงจะเบื่อเวลาต้องเรียนไปบ้างแต่ท่านรุ่นที่เก้าที่เรียกตัวเองว่าปู่ก็มักจะพาฝาแฝดออกไปเที่ยวเล่นตามสบโอกาสเสมอ
เป็นชีวิตที่เหมือนคนปกติไม่มีผิด แค่ไม่มีพ่อกับแม่
ตั้งแต่เด็กเธอไม่เข้าใจสายตาของซันซัสเท่าไหร่
แล้วก็ไม่เข้าใจรอยยิ้มนั่นที่มักปรากฏเวลาเธอทำได้ดีตอนเรียนยิงปืนหรือใช้มีด
เพราะว่าเห็นทุกคนใช้ได้ก็เลยอยากใช้ได้บ้างเท่านั้น
แต่ว่าเธอก็คิดว่าสำหรับเฮียเธอคงเป็นของเล่นอย่างแรร์ล่ะมั้ง
ก็เอิร์ลเกรย์ของเธอไม่ถนัดเรื่องออกแรง เลยหมกตัวอยู่แต่ในห้องสมุดมากกว่าดูจะเป็นที่ถูกใจของเลขารุ่นที่เก้ามากกว่าด้วย
“คืนนี้ไม่ต้องออกจากห้องเข้าใจไหม
ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แกแค่นอนไปจนถึงเช้าก็พอ” ซัสซัสที่มาส่งแฝดเข้านอนเขาพ่นลมหายใจออกจมูก
“เข้าจาย” เด็กแฝดขานรับยานคางแล้วช่วยกันปิดประตู
ในวินาทีก่อนที่ภาพภายนอกจะถูกบานประตูบังไปเธอก็เห็นแววตาอีกแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
มันดูประกายแต่ดุร้าย... เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยถามเฮียแล้วกันหรือไม่ก็สังเกตเอา
‘ว่าแต่ไม่ให้ออกจากห้องเนี่ยคืนนี้จะมีอะไรผิดปกติสินะ?’
ซีลอนสรุปกับตัวเองในหัว จูงมือฝาแฝดปีนขึ้นเตียงนอน
ในคืนนั้นมีเสียงปะทะกันดังสนั่น
เอิร์ลเกรย์สั่นเล็กน้อยแต่ก็พยายามกุมมือฝาแฝดที่เพิ่งจะตื่นขึ้นมา
“ซีลอน...ข้างนอกเขาตีกันเหรอ?”
เด็กชายไม่มั่นใจว่าควรจะออกไปรึเปล่า หรือพวกเขาควรหนีไหม?
“ม่าย เฮียบอกว่าให้อยู่แต่ในห้อง...
แต่ถ้าห้องเราโดนบุกไว้ค่อยคิดหนีอีกทีแล้วกันเนอะ” เด็กหญิงขยี้ตาแล้วหาว
เธอไม่จำเป็นต้องวิ่งหนีเสียหน่อย เสียงมันไกลออกไปมาก และคงจะเป็นเสียงระเบิดจึงลั่นดังมาถึงตรงนี้
“เฮียจะเป็นอะไรไหมนะ?” เอิร์ลเกรย์ขมวดคิ้วด้วยความเป็นห่วง
“ไม่หรอกเฮียดื้อจะตาย คงได้แผลแต่เดี๋ยวก็ออกมาขี้เหวี่ยงเหมือนเดิมนั่นแหละ”
ซีลอนตลบผ้าห่มคลุมหัวหวังว่ามันจะช่วยลดเสียงดังลงไปได้บ้างแต่อากาศในผ้าห่มจำกัดทำให้อบอ้าวขึ้นมาแทน
“ฟุว อึดอัดอ่ะ
เมื่อไหร่เสียงจะจบนะ?”
“อือ นั่นสิ”
เอิร์ลเกรย์พยักหน้าพลางเอามืออุดหูด้วย แต่ไม่นานเสียงปืนก็หยุดลง
““จบแล้วล่ะมั้ง?””
ทั้งคู่เอ่ยออกมาประโยคเดียว ล้มตัวลงนอนกอดกันกลมในผ้าห่มจากนั้นในเช้ารุ่งขึ้นท่านรุ่นที่เก้าที่อุปถัมภ์พวกเขาก็ไม่ได้กล่าวถึงซันซัสที่ไม่ได้มาทานอาหารเช้าด้วยกัน
ยังไงอีกฝ่ายก็เอาแน่เอานอนไม่ได้และมักตื่นช่วงสายของวันอยู่แล้ว
ในมื้อเที่ยงซีลอนสอดส่ายสายตามองหาพี่บุญธรรมแต่ก็ไม่เห็น
“ไม่ต้องหา ซันซัสจะไม่อยู่หลายปี...เรื่องยิงปืนปู่จะหาครูมาให้นะซีลอน”
ท่านรุ่นที่เก้ากล่าวเช่นนั้น
“โอเค~” เจ้าตัวเล็กไม่เถียงอะไรนัก
และเข้าใจว่าสักวันเธอก็คงจะต้องทำงานเหมือนคุณน้าที่ใส่สูทดำในคฤหาสน์
แต่ว่าเธอก็ไม่เสียใจหรอกที่ข้ามมายังโลกฝั่งนี้
มีผู้อุปถัมภ์ที่ใจดี มีอาหารและที่นอนอบอุ่นเสื้อผ้านุ่มนิ่มและที่ให้วิ่งเล่น
ได้รับการสั่งสอนมารยาทและความรู้ทางวิชาการต่าง ๆ อย่างที่สถานกำพร้าเทียบไม่ติด
สำหรับคนที่มาจากที่ต่ำกว่าอย่างเธอกับฝาแฝดจึงไม่ได้ต่อต้านกับอนาคตเปื้อนเลือดเหล่านั้น
แต่ว่าเวลาแห่งความสุขมักอยู่ไม่นาน
จุดหักเหครั้งที่สามคือในช่วงเก้าขวบ
เด็กตัวน้อยปีนลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำตอนที่เธอกำลังจะออกมากลับมีเสียงกระจกแตกและฝีเท้าของผู้บุกรุก
บนเตียงว่างเปล่า...
เขาที่ใช้ชีวิตตลอดมาโดยมีตัวเองอีกคนร่วมยิ้มและร้องไห้อยู่ด้วยเสมอก็ทำอะไรบ้าบิ่นขึ้นมา...
‘ไม่เป็นไรก็ซีลอนกับผมพวกเรามีเครื่องติดตาม
แค่ตามไปก็พาแล้วก็ยิงพวกมันซะ’ เด็กชายหยิบปืนออกมาจากที่ซ่อนและรีบวิ่งไปที่ห้องอิเล็กทรอนิกส์เพื่อหยิบเครื่องติดตาม
พวกผู้ใหญ่วิ่งวุ่นกันเพราะเหตุบุกรุกที่หยามกันซึ่งหน้า
และเพราะการปะทะที่ยาวนานจึงทำให้พวกเขามารู้ตัวว่าเด็กสองคนถูกลักพาไปจากคฤหาสน์ก็เกือบชั่วโมงถัดมา
เอิร์ลเกรย์ใช้จักรยานไฟฟ้าลัดเลาะไปตามตรอกซอยเพื่อตามสัญญาณของฝาแฝด
เขาจะไม่วิ่งลงถนนใหญ่เพราะมันผิดปกติเกินไปที่เด็กตัวเล็ก ๆ
จะออกมากลางค่ำกลางคืนแถมเขายังพกอาวุธอีก
เด็กชายเชี่ยวชาญเรื่องระบบไฟฟ้ากับอุปกรณ์ไฮเทค
เมื่อตำแหน่งของพวกเขาใกล้กันมากแต่มองไม่เห็นกันจึงรู้ได้ทันทีว่าแฝดของตนคงอยู่ใต้ดินหรือชั้นบนของอาคารสักแห่งรอบนี้
เขาเปิดระบบติดตามขั้นสองและทำให้ต่างหูของฝาแฝดส่งสัญญาณไฟฟ้าออกมาเพื่อตรวจจับสภาพโดยรอบ
แม้จะทำงานได้ไม่ดีนักเพราะเป็นรุ่นทดลองแต่ก็มากพอให้เขาคลำทางเข้าไปช่วยเธอได้
ฝาแฝดไม่ได้แค่ฉลาดกว่าเด็กวัยเดียวกันอย่างมนุษย์ปกติ...แต่เพราะทั้งคู่เป็นเด็กที่รอดจากการทดลองของแล็บอีเธอร์
ทำให้มีศักยภาพเหนือมนุษย์จากการเลือกเฟ้นยีนที่ดีที่สุดออกมาในบรรดาหลายหลอดทดลอง
พวกที่รอดตายมีหยิบมือ
และนักวิจัยที่ยังหลงเหลือมนุษยธรรมก็นำพวกเขาหลบหนีออกไปส่งตามสถานกำพร้าแห่งต่าง
ๆ ก่อนที่จะถูกเอเธเนียแฟมิลี่กวาดล้างเพราะขัดผลประโยชน์กับอีเธอร์แฟมิลี่ทั้งที่ต้นสายตระกูลเป็นเส้นเดียวกัน
นี่เป็นความลับที่ฝาแฝดไม่รู้
และเป็นเหตุผลที่รุ่นที่เก้าแห่งวองโกเล่ยื่นมือเข้ามายุ่งด้วยตัวเอง
ความอัจฉริยะพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากแล็บผิดกฎหมายของมาเฟีย
เสียงกรีดร้องของเด็กคนหนึ่งลั่นห้อง
เอิร์ลเกรย์มุดไปตามท่อลมเพื่อเข้าใกล้และหาทางช่วยเหลือฝาแฝดด้วยความคิดเด็ก ๆ
‘เขาทำได้น่าแค่ยิงปืนไม่ยากหรอก’ เด็กชายปลอบตัวเองในใจ น้ำตารื้นเพราะฝาแฝดที่ดิ้นอยู่บนเตียงถูกฉีดอะไรบางอย่างเข้าไปจนเส้นเลือดที่แขนปูดขึ้นมาอย่างผิดปกติ
เขาเล็งปืนไปที่นักวิจัยพวกนั้น
ปัง! โพละ!
เด็กชายมือสั่นแล้วอ้วกออกมากับภาพที่ต่างจากจินตนาการเอาไว้แต่ก็พยายามเล็งยิงคนถัดไป
“ผมมาช่วยแล้วนะ ฮึก... ผ
ผมมาช่วยแล้ว” เอิร์ลเกรย์กลั้นสะอื้นพยายามคุมมือที่สั่นให้นิ่งลง
มันไม่เหมือนที่เขาคิดไว้ ทำไมเขากลับไม่รู้สึกดีเลยที่ยิงคนชั่วพวกนี้
แต่ถ้าเขาไม่ทำ...ฝาแฝดของเขาจะ...
ปัง!
“ยิงท่อลม!”
ปังปังปัง!!!
สายตาของซีลอนพร่าเลือนเพราะฤทธิ์ยาเธอเห็นภาพมัวแต่ก็พออนุมานได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
อาจจะเป็นสัญชาตญาณ หรือพลังพิเศษของฝาแฝดเธอรู้ว่าเอิร์ลเกรย์อยู่ที่นี่...
กระสุนที่ยิงหัวนักวิจัยมาจากทางช่องลม
แม้นัดที่สองจะพลาดเพราะอะไรก็ตามมันก็ยังโดนหน้าอกผู้ใหญ่คนหนึ่งให้ล้มลงไปร้องอย่างเจ็บปวดบนพื้น
“ยิงท่อลม!”
เสียงกระสุนดังขึ้นหลายนัดตามมาด้วยฝนสีเลือดจากท่อบนเพดาน
‘นั่นน่ะ...นั่น’ เธอนิ่งงันไปราวกับว่าความเจ็บปวดในเส้นเลือดพลันหายวับ
หนาวเหน็บ... และหวาดกลัว
“เด็กว่ะ...นึกว่าจะตัวเป้งเสียเวลาฉิบหาย”
ผู้ใหญ่บางคนหิ้วศพเด็กชายออกมาจากท่อลมและตรวจดูว่าไม่มีผู้บุกรุกอื่น
“อ...อ๊า!!!!” ซีลอนดิ้นอยู่บนเตียงผ่าตัดพยายามกระชากข้อมือข้อเท้าออกจาสายหนังที่รัดอยู่ต่อให้เกิดบาดแผล
ต่อให้เลือดออก แต่ทำไมข้างในถึงเจ็บยิ่งกว่านะ
เจ็บเหมือนมีอะไรมาทุบในอก...
แสบพล่านไปในเส้นเลือดตั้งแต่หัวใจไปยังปลายนิ้ว
‘ไม่เข้าใจ! ไม่เข้าใจ!’ เธอคิดว่าบางทีเธอควรจะเสียใจ
แต่ว่ากลับรู้สึกโกรธขึ้นมา... มันมากกว่าโกรธแต่เธอไม่รู้จักคำที่จะมาอธิบายความรู้สึกเหล่านี้
เหมือนจะระเบิดออกมา
และถ้าระเบิดออกมาได้ก็คงจะดี จะได้ลากพวกมันไปนรกกับเธอ
‘กล้าดียังไง
กล้าดียังไง ถึงทำกับเอิร์ล พวกมันทุกตัว จะต้อง...ชดใช้!!’
“พวกแก— จะต้อง...ชดใช้—” แม้ว่าสิ่งที่ปะทุอยู่ภายในจะเหมือนเพลิงลุกโหมแต่ร่างกายและลำคอกลับเปล่งเสียงออกมาได้แค่คล้ายจะร้องไห้
‘แล้วทำไมต้องเป็นเอิร์ลกับเธอกันล่ะ?’
‘ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย...ไม่-ยุ-ติ-ธรรม!’
“กราฟพลังแฝงพุ่งสูงจนเลยลิมิตเตอร์ไปแล้ว! ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้จะหัวใจวายตาย!”
“รีบฉีดยาลด! เพิ่มยาคลายกล้ามเนื้อเข้าไปด้วย!”
เธอไม่เข้าใจว่าพวกเขาทำอะไร
แต่ตอนนี้นอกจากอาการเจ็บแล้วเธอก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่รู้จักอยู่เต็มไปหมด
อะไรที่ลุกไหว?
หรืออาจจะฝังซ่อนอยู่ข้างใน?
และเธอเองก็รู้สึกว่ามันจะเป็น...สิ่งที่ทำให้เธอมีอำนาจเหนือพวกผู้ใหญ่ได้
ระเบิดไฟธาตุแตกตัวออกอย่างรุนแรงโดยมีเด็กหญิงเป็นศูนย์กลาง
เธอวิงเวียน ไม่เข้าใจหรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอรู้จักไฟพวกนี้
ไฟที่ไม่ทำร้ายเจ้าของ แบบเดียวกับซันซัสและรุ่นที่เก้า
เข็มขัดหนังที่รัดเอาไว้ลุกไหม้จนทำให้เป็นอิสระ
แต่ว่าร่างที่นอนอยู่บนแอ่งเลือดข้างเตียงนั้นไม่มีการตอบสนองอย่างคนมีชีวิต
เด็กหญิงตัวน้อยทึ้งผมสะอื้น
ไฟธาตุอรุณรักษาเยียวยาได้... เธอจำที่พวกผู้ใหญ่เคยสอนเอาไว้ได้
‘ทำอะไรได้บ้าง’ เธอพยายามจะควบคุมไฟธาตุอรุณแต่ว่ามันกลับไม่ยอมเป็นไปตามที่คิด
อย่าว่าแต่ควบคุมการเคลื่อนไหวเลย แค่จะดับเพลิงที่โหมไหม้รอบ ๆ
ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ
“คำตอบคือไม่มีเลยน่ะสิ”
ร่างของใครบางคนนอนเท้าคางอยู่กลางอากาศ “น่าประทับใจจังที่ใช้พลังที่ไม่รู้จักได้
ถึงกับทำให้เกิดการสั่นสะเทือนจนสร้างรูขึ้นมาในบรรดาพาราเรลเวิร์ล...
แถมยังน่าอร่อยอีกต่างหาก”
สิ่งนั้นฉีกยิ้มฟันแหลมที่ไม่เหมือนมนุษย์เรียงตัวสวยงามและไม่ให้ความรู้สึกเป็นมิตรอยู่
สัญชาตญาณของซีลอนยังคงทำงานได้อย่างดีเยี่ยม...
มันกรีดร้องตะโกนว่าที่อยู่ตรงหน้า... สู้ไม่ได้
“มันต้องมีสักสิ่ง ที่ทำได้บ้าง”
เด็กหญิงกัดฟันพูด
เธอไม่เชื่อหรอกว่าวิทยาการของวองโกเล่ที่ทำได้ทุกอย่างนั้นจะเอาฝาแฝดเธอกลับมาไม่ได้
“อย่างเช่น?”
บางสิ่งนั้นคลี่ยิ้มเอียงคอเล็กน้อย
ผมสีขาวโพลนกับดวงตาแดงก่ำหรี่โค้งดูสนุกสนานเสียเต็มประดา
“ตายไปด้วย” ร่างเล็ก ๆ
เอียงคอตอบสิ่งที่ทำได้อย่างแน่นอนกลับไป ดวงตาที่เบิกกว้างไม่คิดจะหลบหรือเบนหนี
ไม่ใช่เพราะกล้าหาญหรือสนใจ แต่เป็นเพราะหัวใจได้พังลงไปแล้ว
“ช่างไม่รักชีวิตเอาเสียเลย
ถ้าอย่างนั้นขายให้กับข้าสิ แล้วจะจ่ายให้อย่างงามเชียวล่ะ” มันกลางอากาศพลิกตัวแล้วเปลี่ยนไปนั่งขัดสมาธิ
เพราะเปลี่ยนท่าทางไปจึงทำให้เห็นว่านั่นเหมือนอะไรบางอย่างที่ไม่มีมนุษย์เชื่อว่าจะมีตัวตนอยู่จริง
เขาแหลมเล็กสีแดง ปีกและหางปลายลูกศรสีเดียวกัน
‘บางทีมันคงเป็นภาพหลอน’ ซีลอนคิดอย่างนั้น
“ไม่มีอะไร มีค่า ไปมากกว่า
เอิร์ล” และเพราะสวนไปเช่นนั้นมันก็ยิ้มออกมา
“จ่ายให้อย่างงามเป็นเขาที่กลับมามีชีวิต
เหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” เล็บดำของมันกรีดกับอกเสื้อเป็นกากบาท
ต่อให้เป็นการหลอนไปเองแต่ซีลอนก็เต็มใจจะตกลง
ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ช่างเป็นภาพหลอนที่งดงามเด็กตัวน้อยคิดเช่นนั้น...
จินตนาการถึงแฝดที่ลุกขึ้นมาอีกครั้ง อยู่กับเธอ
เหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดเขาไม่ได้...ตาย
“ด้วยอะไร”
ใช่ไม่ว่าด้วยอะไรเธอจะตอบคำว่าตกลงกลับไป
ถ้าเพื่อแลกกับชีวิตของฝาแฝดแล้วย่อมคุ้มค่าจะจ่าย ต่อให้เป็นวิญญาณก็ตาม
“พลังเจ็ดสีนั่น ตานั่น
แล้วก็ความรู้สึกอีกสักหน่อย แล้วจะแถมอย่างอื่นให้ด้วยแล้วกันนะ~ เพราะว่าเธอก็คงไม่ต้องการจะเจอเรื่องแบบนี้บ่อยใช่ไหมล่ะ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นบอกให้เด็กหญิงรู้ว่าเธอเรียกร้องมันได้ แต่ก็ต้องจ่ายเพิ่ม
“พลังที่จะฆ่าพวกมันทุกตัว”
เธอต้องการแค่นี้ แค่ลากพวกมันทุกตัวมาไว้ใต้เท้าแล้วเหยียบย่ำให้แหลก
“กว้างจังน้า อยากให้พูดเป็นรูปธรรมกว่านี้หน่อยล่ะ~” มันเหยียดขาลงพื้นแล้วอุ้มเอิร์ลเกรย์ขึ้นมาแม้เลือดจะเปื้อนมือแต่กลับไม่เปื้อนเสื้อผ้าที่สวมอยู่
“พลังนอกเหนือไฟธาตุเพราะจะเอามันไปนี่ใช่ไหม
ให้อย่างอื่นมาสิ” เด็กสาวเอ่ยขึ้น
“อืมก็ได้อยู่หรอก
แลกพลังเจ็ดสีนั่นกับพลังนอกระบบ ส่วนฝาแฝดแลกกับอะไรดีนะ...รู้แล้ว~ ความรู้สึกที่ไม่จำเป็นของเธอดีไหม คุ้มค่า~ เอาล่ะ
ความรู้สึกไหนที่ไม่จำเป็นกับเธอล่ะ...เลือกจ่ายมาได้เลย”
มันเผยมือใส่เด็กหญิงบนเตียง
ซีลอนไม่คิดว่าตัวเองจะได้เลือกจึงนิ่งงันไปเพื่อขบคิด
พลันนึกถึงประโยคของซันซัสและสมาชิกหัวกะทิของวาเรียขึ้นมาบางคน
‘สิ่งที่ไม่จำเป็นกับนักฆ่า…’
“ความรัก”
ซีลอนเอ่ยขึ้นถึงหนึ่งห้วงอารมณ์ที่จะตัดทิ้งไป
ใช่ความรักไม่จำเป็นสำหรับนักฆ่า
ในโลกเบื้องหลังนี้สายสัมพันธ์คือสิ่งที่ถ่วงรั้งสองขา ทำให้พะว้าพะวัง
และเป็นจุดอ่อน
“แน่นอนว่าไม่รวมรักที่มีต่อฉันอีกคน
ไม่รวมความรักที่มีต่อฝาแฝด ต่อเอิร์ลเกรย์” เธอกล่าวอย่างชัดเจนว่ายกเว้นฝาแฝด
เจ้าปีศาจนอกระบบหัวเราะออกมา
“อืม ไหวพริบดี~ เอาแบบนั้นก็ได้
อุตส่าห์จ่ายด้วยอะไรน่าสนุกขนาดนี้มาให้งั้นจะสมนาคุณให้หน่อยก็แล้วกัน...”
มันจรดปลายนิ้วกับกลางอกของเด็กชาย เสกสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาภายใต้กลิ่นคาวเลือด
ร่างของฝาแฝดที่ไร้บาดแผลนอนหลับสนิทไม่รับรู้อะไร
“จะให้เจ้าเรียกข้าว่าอะไรดี...ใช่แล้ว...
ยมทูตแล้วกัน ทำสัญญากับยมทูตถึงได้ช่วงชิงเอาฝาแฝดกลับมาจากความตายได้”
ยมทูตผมขาวกรีดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ลากปลายเล็บกับอกของเอิร์ลเกรย์เกิดแสงเรือขึ้นมาครู่หนึ่งก่อนจางหาย
“เขาจะตายได้สี่ครั้งเท่านั้นจำเอาไว้
ผู้ที่หลีกหนีจากความตายจะถูกความตายไล่ตามจนกว่าคนผู้นั้นจะอยู่ถูกที่ถูกทางในท้ายที่สุด...”
ยมทูตเอ่ยแล้วหัวเราะขึ้นเมื่อสบเข้ากับแววตาไม่เป็นมิตรของเด็กสาว
“กระนั้นหากเรียก ข้าก็จะ...
รีบมาช่วย แต่ว่าไม่ได้ฟรีหรอกนะ~”
มันจรดนิ้วกับปากตัวเองและยิ้ม
“เพราะว่าอุตส่าห์ให้พลังมาตั้งเจ็ดอย่าง
แต่ข้าจะไม่เอาไปทั้งหมดหรอกนะ เพราะว่าราคาของมันมากกว่าสิ่งที่ข้าแลกไป... ให้ความมืดอยู่เคียงข้างเจ้าก็แล้วกัน
ยิ่งมืดมิดยิ่งได้เปรียบ ทั้งความมืดที่ครอบคลุมจนไม่เห็นสิ่งใด
และเงาชัดเข้มใต้แสงเจิดจ้า จะเป็นพลังคลุ้งหมึกคล้ายน้ำมันดินในเลือดของเจ้า...”
มันกดเล็บกับอุ้งมือตัวเองให้เกิดแผลจนเลือดนอง
“ดื่มสิ”
ซีลอนไม่แม้แต่จะหยุดคิดเธอเงยหน้าอ้าปากปล่อยให้ตัวตนตรงหน้าเทเลือดกลิ่นเถ้าไฟลงคอตัวเอง
ความเจ็บปวดที่มีไม่ต่างกับตอนโดนฉีดยากระตุ้นแล่นไปทั่วเหมือนวิ่งไปตามเส้นเลือด
“และเพราะว่าเป็นพลังนอกระบบ
จำต้องค้ำจุนด้วยของนอกระบบ... แหวนสองวงนี้สร้างขึ้นเพื่อปรับเสถียรร่างกาย
วงนี้ทำให้ใช้ได้แค่หนึ่งไฟธาตุเท่านั้น วงสีเงินทำให้เหลือสองอานุภาพในการกดพลังด้อยกว่าวงสีทอง”
มันวางแหวนลงบนเตียงเหล็กปล่อยให้เด็กหญิงเลือกสวมเอง
“ทำไมต้องกดเอาไว้?”
ซีลอนถามขึ้น การใช้ไฟได้เจ็ดธาตุไม่ใช่เรื่องดีหรืออย่างไร?
“ลองทายดูสิว่าทำไมมนุษย์ถึงใช้ไฟธาตุได้เพียงแค่
1 จาก 7” ยมทูตกระตุกยิ้ม
ก่อนที่มันจะตอบเองโดยไม่รอให้เด็กสาวคิด
“ก็เพราะว่าร่างกายมนุษย์รับพลังมากขนาดนั้นไม่ไหวยังไงล่ะ...
มันจะทำให้เซลล์เสื่อมอย่างรวดเร็ว
พูดอย่างรวบรัดก็คือยิ่งทรงพลังมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตายไวมากขึ้นเท่านั้น
เนื่องจากเจ้าเอ่ยปากจ่ายมาตั้งมากมาย ให้เจ้ากับฝาแฝดตายเร็วข้าก็ไม่สนุกนะซิ~”
เสียงหัวเราะในลำคอของมันไม่ได้ทำให้ซีลอนรู้สึกดีแต่ก็หยิบแหวนโซ่สีเงินขึ้นมาสวม
และสวมแหวนสีทองให้เอิร์ลเกรย์
เธอจ่ายไปตั้งมากมายเพราะงั้นแล้วก็ต้องมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ฝาแฝด
“แน่นอนว่าตานั่นแลกเป็นค่าแหวนล่ะนะ~” ผู้มากอำนาจราวกับจะเสกสรรได้ทุกอย่างเอ่ยอีกครั้ง
เด็กหญิงกระตุกเล็กน้อยเม้มปากเป็นเส้นตรงเพราะเธอเกลียดความเจ็บปวด
“ไม่ต้องห่วงไม่ควักออกไปหรอก
เพราะตาที่ข้ารับมาเป็นสิทธิ์ในการมองและควบคุมของเจ้า เพราะว่าข้านะเลือกจ่ายแบบควักเนื้อตัวเองเชียวนะ~”
ยมทูตคลี่ยิ้มแล้วเกลี่ยเส้นผมสีเงินหยดเลือดตัวเองลงบนตาขวาของเด็กตัวน้อย
ปัง!!!
“คุณหนู!” บอดี้การ์ดจากวองโกเล่รีบตามมาช่วยเหลือพวกเขาแต่ช้ากว่าสิ่งที่จบไปแล้ว
“แน่นอนว่าข้ามิใช่ภาพหลอนแต่อย่างใด”
ยมทูตแสยะยิ้มกรีดหัวเราะชอบใจ หายไปก่อนที่กระสุนจะเข้าถึงตัวมันเสียอีก
ความเย็นแทงไขกระดูกจากตาขวาทำให้ซีลอนรู้สึกถึงเลือดของปีศาจที่ไหลเวียนอยู่ในร่างตัวเองมากระจุกรวมที่ตาขวา
ทำสัญญากับปีศาจ
ไม่คิดว่ามันเท่าเทียมหรอกหรือ เป้าหมายที่ชัดเจนกับราคาที่จ่ายไป มีความสุขจนกว่าจะถึงเวลาที่สัญญาจะเริ่มผุพังลง
ทัศนียภาพของตาขวามืดบอดไป
แต่ก็ยังรับรู้ว่ามีมันและกลอกกลิ้งไปมาโดยที่เธอไม่ได้เป็นผู้ควบคุม
นี่คงเป็นความหมายของตาที่ยมทูตตนนั้นกล่าว
มันจบแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล
เธอกระชับอ้อมกอดที่คล้องฝาแฝดเอาไว้เงียบ ๆ ไม่ต้อง...กังวล
“คุณหนูตาของคุณ...” คนที่มาช่วยแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนใจจากนั้นจึงพยายามหาอะไรเงา
ๆ ที่สามารถสะท้อนเงาได้ชัดเจนส่งให้เด็กหญิง
เนื้อตาขาวกลายเป็นสีดำสนิท
และรูม่านตาก็เปลี่ยนไปคล้ายวงรีแต่เธอไม่ได้สนใจมันนัก
“ช่างมัน ฉันได้สิ่งที่ดีกว่ามาแล้ว”
เด็กหญิงวางถอดโลหะเงากับเตียงเหล็ก
ไม่จำเป็นต้องมีมันก็ได้ในเมื่อจ่ายมันเพื่อตัวเองและตัวเองอีกคนได้
อ้อมแขนของซีลอนรัดฝาแฝดแน่นขึ้น
ต้องให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรมาแย่งเขาไปได้อีก
ต้องให้แน่ใจว่าเขาจะปลอดภัย
ต้องให้แน่ใจว่าเธอมีพลังมากพอจะกำจัดทุกสิ่งที่ขวางทาง ‘พวกเรา’
เอิร์ลเกรย์นอนป่วยในวันถัดมา
ส่วนซีลอนก็เข้าพบผู้อุปถัมภ์
บรรยากาศรอบตัวเด็กหญิงที่เปลี่ยนไปอย่างมากบอกถึงเวลาอันเหมาะสมที่เธอจะก้าวเท้าสู่โลกเบื้องหลัง
“นี่ปู่... สอนผมหน่อยสิ
ทุกอย่าง ทุก ๆ อย่างของโลกใต้เงา อาวุธ ยาพิษ วิธีฆ่า และพลังที่จะไม่แพ้ใครทั้งนั้น”
แววตาสีครามยังคงเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานเป็นสิ่งที่ทั้งซันซัสและรุ่นที่เก้าชื่นชอบมันเป็นอย่างมาก
เพลิงสีครามของไฟมายาถูกจุดขึ้นอย่างจงใจ
เธอควบคุมมันได้ด้วยแหวนโซ่ที่คอยเติมเต็มเสถียรพลังอันผิดเพี้ยนนี้
พวกเขาที่อยู่มาก่อนสัมผัสได้ถึงปีศาจร้ายในตัวเด็กน้อยหนึ่งในฝาแฝด
เหมือนดังงูที่ไม่ข้องเกี่ยวหากไม่มีธุระด้วย
ไม่ระรานก่อนถ้าไม่ถูกล้ำเขต
และเมื่อรับรู้ถึงอันตรายที่เข้ามาในถิ่นของตนพร้อมสัญญาณอันตราย
ก็พร้อมจะกัดและพ่นพิษถึงตาย
เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ปลุกอสูรร้ายขึ้นมา
สัญชาตญาณและความอาฆาตที่ลืมตาจ้องมองโลกใบนี้นั้นเบิกกว้างอย่างต้องการจะจดจำพวกมันทุกตัวที่อาจเข้ามายุ่มย่ามกับชีวิตของเธอ
ไม่ว่าใครก็มีประตูในใจที่ไม่ควรไปแตะต้องเพราะเมื่อมันเปิดขึ้นมาหนึ่งครั้ง...ก็ไม่อาจปิดสนิทได้อีกตลอดกาล
“ชีวิตนี้ป๋าเก็บมา เพราะงั้นเพื่อปกป้องเอิร์ลจากพวกมันและตอบแทนป๋า
ดังนั้น ผมก็จะ...เป็นเงาอยู่หลังเก้าอี้ของคุณ” เธอได้ตัดสินใจแล้ว
ถึงเส้นทางต่อจากนี้ เส้นทางที่สองมือจะเปียกโชกไปด้วยเลือด และถนนที่จะมีแต่ความตายของพวกมันทั้งหมดซ้อนทับถมจนเป็นบันไดให้เหยียบข้ามไป
ความคิดเห็น