ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    J-Rock Visual ~Star~

    ลำดับตอนที่ #86 : ~ [3] J-rock of Forever ~ OX serie No.3

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 51



    J-Rock of Forever
     
    ........................................................................

    X-Japan (X)
    X JAPAN - (C) X JAPAN

    ต้องขอโทษจริงๆนี้หามาได้แค่ 3 วงก่อนนะครับ คือถ้าหาประวัติวงที่เป็นตำนานๆ มาได้หรือ

    ยุคเก่าๆหน่อยแต่มะได้เก่ามาก ก็จะเอามาให้ได้อ่านกันนะครับแต่เรามาเริ่มวงแรกกันเลย

    ประวัติวงนี้อาจจะไม่เยอะอะไรมากเพราะ วงนี้มีประวัติมายาวนานจริงๆเลยอาจจะมีย่อเยอะไป

    หน่อยครับ งั้นก็มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า

    เอกซ์ เจแปน (X Japan) (????? ????? ekkusu japan?) หรือ X (?????? ekkusu?) วงดนตรีจากประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมากได้ก่อตั้งวงมาเมื่อปี พ.ศ. 2525 โดยผู้ริเริ่มความคิดคือ โยชิกิ X Japan เป็นวงที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงการเพลงของเพลงญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และเป็นวงที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานในวงการร็อคในประเทศญี่ปุ่น

    วงได้เริ่มดำเนินตามแผนในปี พ.ศ. 2519 สมาชิกที่ร่วมก่อตั้งมี โทชิ (โทชิมิทสึ เดยาม่า) และ โยชิกิ ซึ่งพวกเขาอายุได้แค่ 12 ปีเท่านั้น ต่อมาปี พ.ศ. 2522 ได้ก่อตั้งวงชื่อว่า Noise ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น X ในปี พ.ศ. 2525

    ต่อมาได้ออกซิงเกิ้ลแผ่นแรกของวงชื่อ "I'll kill you" (มิถุนายน พ.ศ. 2528) สมาชิกในยุคนั้นมี: โยชิกิ (กลอง, เปียโน) , โทชิ (ร้องนำ) , ยูจิ (กีตาร์) , โทโมะ (กีตาร์) , โทคุโอะ (เบส) ภายใต้สังกัดของตัวเองโดยขายได้ 10,000 แผ่น

    เมษายนปี พ.ศ. 2529 ได้ออกซิงเกิ้ลที่ชื่อ ????? (Orgasm) สมาชิกในยุคที่ 7 นี้มี: [ยชิกิ (กลอง, เปียโน) , โทชิ (ร้องนำ) , จุน (กีตาร์) , ฮิคารุ (เบส) ช่วงนี้ ทาอิจิ ได้เข้ามาร่วมวงแล้วแต่ได้ขอออกจากวงชั่วคราว

    พ.ศ. 2530 ได้สมาชิกที่ลงตัวอันประกอบไปด้วย โยชิกิ (กลอง, เปียโน) , โทชิ (ร้องนำ) , ฮิเดะ (กีตาร์) , พาตะ (กีตาร์) , ทาอิจิ (เบส) และหลังจากนั้นได้ออกวางจำหน่ายอัลบั้มอินดีย์อัลบั้มแรกชื่อ "Vanishing Vision" (14 เมษายน พ.ศ. 2531) ภายใต้สังกัดของตัวเอง (Extasy Record) โดยมียอดขายสูงสุดติดอันดับ 1 ในชาร์ทอินดีย์

    สิงหาคม พ.ศ. 2531 ได้เซ็นสัญญากับค่ายใหม่ Sony Record เพื่อเตรียมการเมเจอร์ เดบิวท์ 21 เมษายน พ.ศ. 2532 ได้ออกวางจำหน่าย อัลบั้ม เมเจอร์ เดบิวท์ ชื่ออัลบั้มว่า BLUE BLOOD

    พ.ศ. 2535 X เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่น และพวกเขาเริ่มมีความคิดเข้าสู่ตลาดโลก ซึ่งขณะนั้นในสหรัฐอเมริกานั้นได้มีวงที่ชื่อ X อยู่แล้ว พวกเขาจังตัดสินใจเปลี่ยนชื่อวงจาก X เป็น X Japan และช่วงนี้เองเป็นช่วงที่พวกเขาขาดมือเบส เนื่องจาก ทาอิจิ มือเบสคนเก่า ได้ออกจากวงไปแล้ว ในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2535 และก็ได้ ฮีธ (ฮิโรชิ โมริเอะ) เข้ามาเป็นมือเบสคนใหม่ ส่วนทาอิจินั้น หลังจากออกจากวง X ก็ได้ออกไปอยู่กับวง Loudness ซึ่งเป็นวงอาจารย์ของเขาเอง

    4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 อัลบั้ม DAHLIA ออกวางจำหน่าย อัลบั้มนี้ออกวางจำหน่ายทั่วโลก ภายใต้สังกัด East West Japan

    22 กันยายน พ.ศ. 2540 X Japan ประกาศยุบวงที่ตั้งมายาวนานถึง 15 ปี โดยประกาศการยุบวงที่โรงแรมมิยาโกะ ในการแถลงข่าวครั้งนี้มีสมาชิกที่มา 4 คน คือ โยชิกิ, ฮิเดะ, พาตะ และ ฮีธ ส่วน โทชิ นั้นได้ลาออกจากวงไปตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2540 โดยให้เหตุผลว่า มีความแตกต่างทางด้านแนวความคิดทางด้านดนตรี X Japan ไม่สามารถเปลี่ยนนักร้องนำใหม่ได้เพราะส่วนใหญ่เพลงของ X Japan แต่งโดยใช้พื้นฐานเสียงของโทชิเป็นหลัก จากการพิจารณาของสมาชิกทุกคนที่เหลือในวงหลายครั้งจึงตัดสินใจประกาศยุบวง

    กลับมารวมตัวกันใหม่

    ต้นปี พ.ศ. 2550 โทชิ นักร้องนำ ได้ออกมายืนยันการกลับมารวมตัวกันใหม่ของ X Japan ผ่านทางหน้าเว็บของเขาและบนนิตยสารเล่มหนึ่ง[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ส่วนการยืนยันจาก โยชิกิ หัวหน้าวงนั้น ยังไม่มีความแน่นอน เพราะทางโยชิกิยังคงเสียใจกับการตายของฮิเดะ และการแยกวงเมื่อสิบปีก่อน เขาเขียนในมายสเปซของเขาไว้เพียงว่า "ขอเวลาสักพัก" [1]

    ในวันที่ 4 มิถุนา พ.ศ. 2550 โยชิกิได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า กำลังทำโปนเจตท์เพลง "Without You" ซึ่งร้องให้ฮิเดะ ร่วมกับโทชิ และกำลังทาบทาม พาตะ และ ฮีธ เพื่อกลับมารวมตัวเป็น X Japan อีกครั้งนึง ซึ่งทางวงจะหานักกีตาร์ชื่อดังมาพลัดเปลี่ยนเล่นแทนตำแหน่งของฮิเดะ

    ในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2550 X Japan ได้กลับมารวมตัวกันแสดงสดที่ Aqua City เมืองโอไดบะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ เพลง I.V. เพลงประกอบของภาพยนตร์ Saw IV ที่กำลังจะออกฉายในประเทศญี่ปุ่น [2]

    ล่าสุด วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2551 X Japan ได้ออกแถลงข่าวเรื่องคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน ในชื่อคอนเสิร์ตว่า X JAPAN ATTACKS AGAIN 2008

    คอนเสิร์ตมีทั้งหมด3วันด้วยกัน จัดขึ้นในวันที่ 28-30 มีนาคม พ.ศ. 2551 ที่ TOKYO DOME
    โดยวันแรก (28 มีนาคม พ.ศ. 2551) มีชื่อว่า Hametsu ni Mukatte - Hakai no Yoru
    วันที่สอง (29 มีนาคม พ.ศ. 2551) มีชื่อว่า Hametsu ni Mukatte - Mubou no Yoru
    วันที่สาม (30 มีนาคม พ.ศ. 2551) มีชื่อว่า Hametsu ni Mukatte - Souzou no Yoru

    อัมบั้ม

    • VANISHING VISION (14 เมษายน พ.ศ. 2531)
      1. Dear Loser
      2. Vanishing Love
      3. Phantom of Guilt
      4. Sadistic Desire
      5. Give Me The Pleasure
      6. I'll Kill You
      7. Alive
      8. Kurenai
      9. Un-Finished
    • Blue Blood (21 เมษายน พ.ศ. 2532)
      1. Prologue (~World Anthem)
      2. Blue Blood
      3. Week End
      4. Easy Fight Rambling
      5. X
      6. Endless Rain
      7. ? (kurenai)
      8. Xclamation (instr. version)
      9. Orgasm
      10. Celebration
      11. Rose of Pain
      12. Unfinished
    • JEALOUSY (1 กรกฎาคม พ.ศ. 2534)
      1. es dur
      2. Silent Jealousy
      3. MISCAST
      4. Desparate Angel
      5. White Wind From Mr. Martin
      6. Voiceless Screaming
      7. Stab Me In The Back
      8. LOVE REPLICA
      9. Joker
      10. Say Anything
    • ART OF LIFE (25 สิงหาคม พ.ศ. 2536)
      1. Art of Life
    • DAHLIA (4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539) โดยมีเพลงดังนี้
      1. Dahlia
      2. Scars
      3. Longing [~togireta melody]
      4. Rusty Nail
      5. White poem
      6. Crucify my love
      7. Tears
      8. Wriggle
      9. DRAIN
      10. Forever Love [Acoustic Version]

    Single

  • I'LL KILL YOU (มิถุนายน พ.ศ. 2528)
  • ????? (Orgasm) (เมษายน พ.ศ. 2529)
  • ? (Kurenai) (1 กันยายน พ.ศ. 2532)
  • ENDLESS RAIN (1 ธันวาคม พ.ศ. 2532)
  • WEEK END (21 เมษายน พ.ศ. 2533)
  • Silent Jealousy (11 กันยายน พ.ศ. 2534)
  • Standing Sex / JOKER (25 ตุลาคม พ.ศ. 2534)
  • Say Anything (1 ธันวาคม พ.ศ. 2534)
  • Tears (10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536)
  • Rusty Nail (10 กรกฎาคม พ.ศ. 2537)
  • Longing ~???? Melody~ (1 สิงหาคม พ.ศ. 2538)
  • Longing ~????~ (11 ธันวาคม พ.ศ. 2538)
  • DAHLIA (26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539)
  • Forever Love (8 กรกฎาคม พ.ศ. 2539)
  • CRUCIFY MY LOVE (26 สิงหาคม พ.ศ. 2539)
  • SCARS (18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539)
  • Forever Love (Last Mix) (18 ธันวาคม พ.ศ. 2540)
  • THE LAST SONG (18 มีนาคม พ.ศ. 2541)
  • I.V.
  • Without You (28 มีนาคม พ.ศ 2551)

    สรุปสมาชิกวง X หรือ X-japan

  • โยชิกิ (พ.ศ. 2525 - ปัจจุบัน) ตำแหน่ง : กลอง, เปียโน (หัวหน้าวง)
  • โทชิ (พ.ศ. 2525 - ปัจจุบัน) ตำแหน่ง : ร้องนำ
  • ยูจิ (พ.ศ. 2528) ตำแหน่ง : กีต้าร์
  • โทโมะ (พ.ศ. 2528) ตำแหน่ง : กีตาร์
  • โทคุโอะ (พ.ศ. 2528) ตำแหน่ง : เบส
  • จุน (พ.ศ. 2529) ตำแหน่ง : กีตาร์
  • ฮิคารุ (พ.ศ. 2529) ตำแหน่ง : เบส
  • ฮิเดะ (พ.ศ. 2530 - 2540) ตำแหน่ง : กีตาร์
  • ทาอิจิ (พ.ศ. 2530 - 2535) ตำแหน่ง : เบส
  • พาตะ (พ.ศ. 2530 - ปัจจุบัน) ตำแหน่ง : กีตาร์
  • ฮีธ (พ.ศ. 2535 - ปัจจุบัน) ตำแหน่ง : เบส

    .......................................................................


    Luna sea



    มาถึงวงที่2กันแล้ว Luna sea ครับวงนี้ก็เป็นตำนานอีกวงเหมือนกันแล้วก็ดังมากถึงในเมืองไทย

    จะสู้ X ไม่ได้แต่ที่ญี่ปุ่นส่วนมากคนที่อยากเป้นนักดนตรีเค้าชอบเล่นเพลงของ วงนี้กันก่อนเลย

    งั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยเง่อ ประวัติยาวนา....จะอ่านไหวมะเนี่ย 555+

    ลูนาซี (LUNA SEA) วงดนตรีร๊อกจากประเทศญี่ปุ่น เริ่มก่อตั้งวงเมื่อปี พ.ศ. 2532 โดยสมาชิกประกอบด้วย ริวอิจิ คาวามูระ, ยาสึฮิโระ สึงิฮาระ (สึกิโซะ) , คิโยโนบุ อิโนอุเอะ (อิโนรัน) , จุน โอโนเสะ (เจ) และ ชินยะ ยามาดะ โดยทั้งห้าได้ทำงานเพลงร่วมกันจนกระทั่งประกาศแยกวงเมื่อปี พ.ศ. 2543

    สมาชิก

    • ริวอิจิ (????, Kawamura Ryuichi) นักร้องนำ

    เกิดวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 ความสูง 171 เซนติเมตร น้ำหนัก 51 กิโลกรัม บ้านเกิด คานากาว่า

    • สึกิโซะ (??? Sugihara Yasuhiro) กีตาร์ , ไวโอลิน

    เกิดวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ความสูง 175 เซนติเมตร น้ำหนัก 60 กิโลกรัม บ้านเกิด คานากาว่า

    • อิโนรัน (???? Inoue Kiyonobu [1]) กีตาร์

    เกิดวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2513 ความสูง 170 เซนติเมตร น้ำหนัก 65 กิโลกรัม บ้านเกิด คานากาว่า

    • เจ (???? Onose Jun) เบส

    เกิดวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2513 ความสูง 179 เซนติเมตรน้ำหนัก 58 กิโลกรัม บ้านเกิด โตเกียว

    • ชินยะ (???? Yamada Shinya) กลอง

    เกิดวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2513 ความสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 85 กิโลกรัม บ้านเกิด คานากาว่า

    ประวัติ

    พ.ศ. 2529

    จุดกำเนิดของลูนาซี เริ่มต้นขึ้น โดยเจ และอิโนรัน ซึ่งยังเรียนอยู่มัธยมปลาย ตอนนั้นใช้ชื่อวงว่า LUNACY เล่นเพลงอยู่ตามสถานีวิทยุและไลฟ์เฮาส์ต่างๆ โดยมีรุ่นพี่อีก 2-3 คนร่วมวงด้วยกัน

    พ.ศ. 2532

    วันที่ 16 มกราคม หลังจากที่รุ่นพี่จบการศึกษาไปแล้ว LUNACY เหลือเจและอิโนรันแค่สองคน จึงไปชวนชินยะมือกลองวง PINOCCHIO มาร่วมวง ชินยะชวนสึกิโซะมาด้วยเพราะเป็นเพื่อนสนิทกันและพี่สาวของชินยะยังเป็นครูของสึกิโซะอีกด้วย แต่ตอนอยู่วง PINOCCHIO สึกิโซะเป็นมือเบสเหมือนกับเจ ทำให้หลังจากเข้าวงต้องเปลี่ยนจากเล่นเบสมารับตำแหน่งเป็นมือกีตาร์แทน 6 พฤษภาคม ริวอิจิ ตอบรับที่จะเข้าร่วมวงกับ LUNACY หลังจากโดนชักชวนอยู่นาน ซึ่งช่วงนั้นยังเป็นนักร้องนำวง SLAUGHTER อยู่ 29 พฤษภาคม เริ่มซ้อมดนตรีร่วมกันทั้งห้าคน และตระเวนหาที่แสดงสด สถานที่แรกที่ตอบรับคือ MACHIDA PLAYHOUSE ซึ่งจุผู้ชมได้ประมาณร้อยคน 9 สิงหาคม ทำเดโมเพลงชุดแรก ประกอบด้วยเพลง Time is dead และ Nightmare โดยทำออกมาร้อยชุด 24 สิงหาคม กลับไปแสดงที่ MACHIDA PLAYHOUSE อีกครั้ง โดยนำเดโมไปขายด้วย และขายได้หมดทั้งร้อยชุด 8 พฤศจิกายน ทำเดโมเพลงชุดที่สอง ประกอบด้วยเพลง SHADE , Search for reason และ Suspicious โดยในชุดนี้ ทำออกมาพันชุด และขายได้หมดทั้งพันชุด 17 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกที่ MACHIDA PLAYHOUSE โดยผู้เข้าชมต้องซื้อบัตรเข้าไปชมและบัตรทั้ง 150 ใบก็ขายได้หมด

    พ.ศ. 2533

    ช่วงเดือนมกราคม พฤษภาคม ตระเวนออกแสดงสดตามที่ต่างๆ อย่างมากมาย และแสดงร่วมกับวงอื่นๆ ด้วย เช่น WOOD PECKER , DOOLS , Billy & the Sluts , JOOLY PICKELS และ TOKYO YANKEES เป็นต้น 3 เมษายน เข้าร่วมคอนเสิร์ต Bakunimono Bay Aria Shock ร่วมกับวง AION 29 พฤษภาคม ทำเดโมเพลงชุดที่สาม โดยนำเพลงเดโมสองชุดแรกมารวมกันและเพิ่มเพลงใหม่อีกหนึ่งเพลง คือ LASTLY และใช้ชื่อชุดนี้ว่า LASTLY 10 มิถุนายน แสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่สองที่ MACHIDA PLAYHOUSE และถือเป็นคอนเสิร์ตฉลองครบรอบหนึ่งปีของวงด้วย ซึ่งผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมจะได้รับเดโมเพลงชุดที่สามเป็นของแถม และคอนเสิร์ตครั้งนี้เอง ที่ทางวงได้เริ่มประเพณีการแต่งชุดดำเข้าชมการแสดงของพวกเค้า ซึ่งถ้าผู้ชมไม่แต่งชุดดำมา ก็จะไม่ได้เข้าชม 11 มิถุนายน สึกิโซะ ไปร่วมงาน Extasy Session ที่ Meguro Kagakan 14 สิงหาคม เข้าสังกัด Extasy Record (สังกัดของโยชิกิหัวหน้าวง X Japan) [2] 19 พฤศจิกายน แถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าจะออกอัลบั้มในสังกัด Extasy Record 24 พฤศจิกายน เปลี่ยนชื่อวง (จาก LUNACY) เป็น LUNA SEA (ลูนาซี) 18 ธันวาคม เข้าร่วมแสดงคอนเสิร์ต NEW AGE ATTACK '90 FINAL ร่วมกับวงดนตรีอื่นๆ ในค่ายเดียวกัน (ค่าย Extasy Record)

    พ.ศ. 2534

    วันที่ 1 มกราคม ทำสัญญากับบริษัท SWEET CHILD 4-31 มกราคม เข้าห้องบันทึกเสียง อัดเสียงอัลบั้มแรก (อัลบั้ม LUNA SEA) 11 กุมภาพันธ์ แสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่ Meguro Kagakan เป็นครั้งแรก ซึ่งที่นี่เป็นไลฟ์เฮาส์ที่มีขนาดใหญ่กว่า MACHIDA PLAYHOUSE โดยขายบัตรได้หมดทั้งสามร้อยสามสิบใบ 10-22 มีนาคม เข้าร่วมทัวร์คอนเสิร์ต Nuclear Fusion Tour กับเพื่อนร่วมค่าย Extasy Record อีกสองวง คือวง Signs of love posion และ Gilles de Rais โดยผู้ซื้อบัตรเข้าชมจะได้รับซีดีที่รวมเพลงตัวอย่างของทั้ง 3 วงเป็นของแถม (เพลงของลูนาซี ที่อยู่ในซีดีนี้คือเพลง Precious ที่มีความยาวสามสิบวินาที) 21 เมษายน วางจำหน่ายอัลบั้มแรก ที่มีชื่อว่า LUNA SEA 27 เมษายน แสดงคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มที่ Shinzuku Nissin Power Station บัตรแปดร้อยใบ จำหน่ายได้หมดในเวลาสามสิบนาที 18 พฤษภาคม แสดงคอนเสิร์ตฉลองครบรอบสองปีของวงที่ MACHIDA PLAYHOUSE 13-27 มิถุนายน ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกของวงภายใต้ชื่อ UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE I' โดยแสดงในไลฟ์เฮาส์ขนาดกลาง 8 แห่ง และสามารถขายบัตรได้หมดทุกรอบ

    6 กรกฎาคม หลังจากหยุดพักหนึ่งสัปดาห์ จึงเริ่มการทัวร์คอนเสิร์ตอีกรอบ ครั้งนี้ใช้ชื่อว่า UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE II' โดยทัวร์ครั้งนี้มีตารางสิ้นสุดการแสดงในวันที่ 19 กันยายน 22-25 กรกฎาคม เป็นช่วงที่ไม่มีตารางแสดงคอนเสิร์ต จึงเริ่มแต่งเพลงและอัดเสียงสำหรับอัลบั้มใหม่ 19 กันยายน แสดงคอนเสิร์ตรอบสุดท้ายของการทัวร์ UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE II' ที่ Nippon Seinenkan แต่ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม เกิดพายุฝนตกหนักมากเมื่อถึงเวลาแสดง ผู้ชมกว่าครึ่งของความจุ 1,250 ที่นั่ง ยังมาไม่ถึง ทางวงจึงได้ตัดสินใจเลื่อนการแสดงออกไปหนึ่งชั่วโมง เพื่อรอผู้ชมที่ติดพายุฝนให้มาทันการแสดง 1-6 ตุลาคม เก็บตัวเพื่อแต่งเพลงและอัดเสียงสำหรับอัลบั้มใหม่ 13 ตุลาคม เริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งในชื่อทัวร์ว่า UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE III' โดยจะสิ้นสุดการทัวร์ครั้งนี้วันที่สามสิบธันวาคม 29 ตุลาคม เข้าร่วมแสดงคอนเสิร์ต Extasy Summit ของทางค่าย Extasy Record ที่ Nippon Budokan ร่วมกับศิลปินร่วมค่ายวงอื่นๆ เช่น Virus , Gilles de Rais , Tokyo Yankees และ X JAPAN เป็นต้น ซึ่งในวันนั้น นับเป็นครั้งแรกที่ลูนาซี ได้แสดงในฮอลล์ขนาดใหญ่อย่าง Nippon Budokan ระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ต UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE II' ทางวงได้รับการติดต่อจากค่ายเพลงต่างๆ ประมาณ 16 แห่งและในที่สุดก็ได้เลือกที่จะเซ็นต์สัญญากับบริษัท MCA Victor ซึ่งตามเดิมนั้น ทาง MCA Victor ต้องการให้ลูนาซีเข้าห้องบันทึกเสียงทำอัลบั้มแรกทันทีที่การทัวร์ UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE II' เสร็จสิ้น แต่ทางวงเลือกที่จะทัวร์คอนเสิร์ต UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE III' อีกครั้ง ก่อนที่จะทำอัลบั้ม 29-30 ธันวาคม ทัวร์คอนเสิร์ต UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE III'สองรอบสุดท้ายที่ Nippon Seinenkan โดยจำหน่ายบัตรทั้ง 2,600 ใบได้หมดภายในวันเปิดจองวันแรก และระหว่างการแสดง ทางวงก็ได้ประกาศเรื่องการเซ็นต์สัญญากับบริษัท MCA Victor ให้ผู้ชมรับทราบ

    พ.ศ. 2535

    เดือนมกราคม ตั้งแฟนคลับอย่างเป็นทางการโดยใช้ชื่อว่า 'SLAVE' 13 มกราคม-14 กุมภาพันธ์ เข้าห้องบันทึกเสียงอัลบั้มแรกในสังกัด MCA Victor 13 มีนาคม-12 เมษายน ออกรายการทีวีต่างๆ (TV jacks tour) เพื่อโปรโมทอัลบั้มแรก 20-26 มีนาคม ทัวร์คอนเสิร์ตชื่อ 'Dear SLAVE Tour' แสดงทั้งหมด 3 รอบโดยวันที่ 20 แสดงที่ชิบูยะ มีผู้ชมประมาณ 2,250 คน วันที่ 25 แสดงที่นาโกย่าผู้ชมประมาณ 550 คน และวันที่ 26 แสดงที่โอซาก้า ผู้ชมประมาณ 700 คน 2 พฤษภาคม ถ่ายทำวิดีโอโปรโมท IMAGE OR REAL 20 พฤษภาคม กลับไปแสดงคอนเสิร์ตที่ MACHIDA PLAYHOUSE อีกครั้งในโอกาสครบรอบ 3 ปีของวงโดยในครั้งนี้ได้จัดประเพณีแต่งชุดดำเช่นเคย แต่ในครั้งนี้ได้เข้มงวดถึงขนาดที่สื่อมวลชนที่ไปทำข่าวก็ต้องแต่งชุดดำด้วย ภายหลังมีข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ทำให้ MACHIDA PLAYHOUSE เสียหายเป็นอย่างมาก เพราะจำนวนคนที่เข้าไปชมมีมากเกินกว่าสถานที่จะรับได้ 21 พฤษภาคม อัลบั้มแรก 'IMAGE' ในสังกัด MCA Victor ออกวางจำหน่ายซึ่งถือเป็นการเดบิวต์อย่างเป็นทางการ และทำยอดขายสูงสุดได้อันดับ 9 ออริค่อน ชาร์ท (Oricon Chart) 28 พฤษภาคม-8 มิถุนายน ทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้มแรกในชื่อ 'LUNA SEA CONCERT TOUR 1992 IMAGE OR REAL' ทั่วประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมด 7 รอบ 18-26 กรกฎาคม ออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งชื่อ 'Image or real encore tour' 22 กรกฎาคม วิดีโอ IMAGE OR REAL ออกวางจำหน่ายและสามารถทำยอดขายขึ้นอันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท (Oricon Chart) 27 กันยายน-24 ตุลาคม ทัวร์คอนเสิร์ตรอบสุดท้ายของอัลบั้ม IMAGE ใช้ชื่อทัวร์ว่า After The Image Tour และ 29 ตุลาคม กลับไปร่วมงานคอนเสิร์ต Extasy Summit 1992 กับสังกัดเดิม Extasy Record 31 ตุลาคม คอนเสิร์ต Extasy Summit 1992 รอบสุดท้ายที่ Nippon Budokan แต่ครั้งนี้แทนที่จะแต่งชุดดำเหมือนเคยตามปกติ พวกเขากลับแต่งชุดขาวกันทั้งวง

    พ.ศ. 2536

    วันที่ 20 มกราคม เป็นช่วงพักวง สึกิโซะ เจ และอิโนรันจึงไปร่วมกันทำเพลงใช้ชื่ออัลบั้ม Dance 2 Noise 4 โดยในเพลง Revive~walts for reminiscence of mind สึกิโซะรับทำเองทั้งหมด นอกจากนี้ เจและอิโนรันไปร่วมงานกับฮิเดะ (HIDE) มือกีตาร์วงเอกซ์ ในชื่อเฉพาะกิจว่า MxAxSxS ร่วมทำเพลงชื่อ Frozen Bug ซึ่งเพลงนี้ ต่อมาได้อยู่ในอัลบั้ม HIDE YOUR FACE ของฮิเดะด้วย 24 กุมภาพันธ์ ซิงเกิ้ลแรก 'BELIEVE' ออกวางจำหน่าย โดยในสัปดาห์แรกทำยอดขายได้ที่ 200,000 แผ่นอยู่ที่อันดับ 11 ออริค่อน ชาร์ท 1 เมษายน แสดงคอนเสิร์ตเฉพาะสมาชิกแฟนคลับ ใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า '?SPECIAL PRESENT FROM LUNA SEA?' ที่ชิบูยะ ฮอลล์ 16 เมษายน ทัวร์คอนเสิร์ตในชื่อ 'LUNA SEA CONCERT TOUR 1993 SEARCH FOR MY EDEN' เพื่อโปรโมทอัลบั้มใหม่ที่กำลังจะวางขายโดยแสดงในไลฟ์เฮาส์ทั่วประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 14 แห่ง 21 เมษายน อัลบั้มที่สอง 'EDEN' ออกวางจำหน่าย ยอดขายของสัปดาห์แรกอยู่ที่อันดับ 5 ของออริค่อน ชาร์ท 21 กรกฎาคม ซิงเกิ้ลที่สอง 'IN MY DREAM (WITH SHIVER) ' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายที่อันดับ 9 ของออริค่อน ชาร์ท 21 สิงหาคม ออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งในชื่อ 'LUNA SEA CONCERT TOUR 1993 SEARCH FOR MY EDEN ENCORE' ครั้งนี้เล่นในฮอลล์ขนาดใหญ่ทั้ง 4 รอบ (Nagoya Shimin Kaiken, Ssaka Koseinenkin Kaiken และ Nippon Budokan-2 รอบ) 26 สิงหาคม แสดงคอนเสิร์ตรอบแรกที่ Nippon Budokan ท่ามกลางพายุเฮอร์ริเคนที่พัดกระหน่ำกรุงโตเกียวตั้งแต่วันที่ 25 27 สิงหาคม ตามกำหนดการคอนเสิร์ตรอบสองที่ Nippon Budokan แต่พายุที่รุนแรงทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ไม่สามารถมาชมได้ ทางวงจึงเลื่อนการแสดงออกไป 30 สิงหาคม แสดงคอนเสิร์ต 'LUNA SEA CONCERT TOUR 1993 SEARCH FOR MY EDEN ENCORE Final' ที่ Nippon Budokan โดยบันทึกภาพเป็นวิดีโอเพื่อวางจำหน่ายด้วย 16 ธันวาคม วิดีโอรวมภาพคอนเสิร์ตและคลิปต่างๆ ในชื่อ Sin After Sin ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายได้ที่อันดับสองออริค่อน ชาร์ท 18 ธันวาคม เริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตชื่อ 'LUNA SEA Concert Tour '93-'94 The Garden of Sinners' ทั่วประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 19 แห่ง รวม 20 รอบ 26 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตที่ Shinjuku NISSIN POWER STATION ใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า '???' (พระจันทร์และทะเล)

    พ.ศ. 2537

    12 กุมภาพันธ์ คอนเสิร์ตรอบสุดท้ายของทัวร์ The garden of sinners tour ที่ Yogohama Arena ในครั้งนี้เกิดพายุหิมะที่ตกหนักมากที่สุดในรอบ 25 ปีของโตเกียว ทำให้ทางการต้องปิดถนนหลายสายเนื่องจากโดนหิมะท่วมถนนจนมิด ทำให้การเดินทางทุลักทุเลทั้งทางวงเองและผู้ชม จนต้องเลื่อนการแสดงออกไปอีกหนึ่งชั่วโมง เนื่องจากลูนาซี ถูกภัยธรรมชาติเล่นงานในทัวร์คอนเสิร์ตรอบสุดท้ายถึงสามครั้ง (1.UNDER THE NEW MOON TOUR 'EPISODE II' final เจอพายุฝนกระหน่ำ 2.Search for my EDEN encore tour final เจอพายุเฮอร์ริเคน 3.The garden of sinners tour final เจอพายุหิมะ) ทำให้สื่อมวลชนญี่ปุ่นขนานนามว่า ลูนาซี เป็นวงที่ก่อให้เกิดภัยธรรมชาติ 24 มีนาคม ซิงเกิ้ล Tell me ของฮิเดะ ออกวางจำหน่าย โดยมีเพลงแถมเป็น Scanner ซึ่งริวอิจิไปร่วมร้องด้วย เมษายน เริ่มเข้าห้องอัดเสียงเพื่อทำเพลงอัลบั้มที่สาม 21 กรกฎาคม ซิงเกิ้ลที่สาม 'ROSIER' ออกวางจำหน่ายและสามารถขึ้นสู่อันดับ 3 ออริค่อน ชาร์ทได้ทันทีที่วางขายและในสัปดาห์แรกทำยอดขายได้กว่า 400,000 แผ่น 30 กรกฎาคม ร่วมแสดงในคอนเสิร์ต L.S.B. (ชื่อคอนเสิร์ตนำมาจากอักษรตัวแรกของแต่ละวง) ร่วมกับวง Soft Ballet และ Buck-Tick ซึ่งช่วงที่ลูนาซีกำลังแสดงก็เกิดฝนตกกระหน่ำลงมา 11-12 สิงหาคม แสดงคอนเสิร์ต SLAVES only GIG เป็นคอนเสิร์ตสำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกแฟนคลับเท่านั้น จัดที่ Shibuya Gogaido โดยในรอบสอง (วันที่ 12) เพื่อนๆ จัดงานฉลองวันเกิดแบบเซอร์ไพร์สให้กับเจ-มือเบสในช่วง encore ของการแสดง 21 กันยายน ซิงเกิ้ลที่สี่ 'TRUE BLUE' ออกวางจำหน่าย โดยในซิงเกิ้ลนี้สามารถขึ้นถึงอันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ทได้ทันทีที่วางขายและยอดขายสัปดาห์แรกอยู่ที่ 450,000 แผ่น 26 ตุลาคม อัลบั้มที่สาม 'MOTHER' ออกวางจำหน่าย ในสัปดาห์แรกยอดขายอยู่ที่ 700,000 แผ่น อยู่ที่อันดับสองออริค่อน อัลบั้มชาร์ท 16-17 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตสองรอบที่ Nippon Budokan โดยสามารถจำหน่ายบัตรได้หมดภายใน 15 นาทีที่เปิดจำหน่าย 24 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตที่ Osaka Jo Hall 27 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตที่ Nippon Budokan อีกหนึ่งรอบ ในครั้งนี้ใช้เวลาจำหน่ายบัตร 20 นาที 31 ธันวาคม รับรางวัลมิวสิกวิดิโอยอดเยี่ยมจากเพลง ROSIER ในงาน Nippon Award Taisho (Japan's record award)

    พ.ศ. 2538

    มกราคม ถ่ายทำมิวสิกวิดิโอเพลง MOTHER ที่ประเทศไอร์แลนด์ 22 กุมภาพันธ์ ซิงเกิ้ลที่ห้า 'MOTHER' ออกวางจำหน่าย อยู่อันดับสองออริค่อน ชาร์ทด้วยยอดขาย 300,000 แผ่น 17 มีนาคม เริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตโดยใช้ชื่อทัวร์ว่า Mother of Love,Mother of Hate ใช้เวลาทัวร์ทั้งสิ้น 3 เดือน 3 วัน แสดงใน 27 เมืองทั่วประเทศญี่ปุ่น 21 พฤษภาคม แสดงคอนเสิร์ต Mother of Love,Mother of Hate ทัวร์รอบสุดท้ายที่ Nagoya Kokusaikaigojyo Century Hall 24 พฤษภาคม วิดีโอ 'ECLIPSE I' ออกวางจำหน่าย ซึ่งเป็นการรวมมิวสิกวิดีโอของลูนาซีตั้งแต่เพลง Dejavu ตอนโปรโมทอัลบั้ม IMAGE จนถึงเพลง MOTHER ซิงเกิ้ลล่าสุด และทำยอดขายอยู่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท 1 สิงหาคม สึกิโซะไปช่วยเล่นไวโอลินโซโล่ให้กับวง Media Youth เพื่อนร่วมค่าย Extasy Record ในเพลง Climax อัลบั้ม Spirit 21 สิงหาคม สึกิโซะไปร่วมทำงานในอัลบั้ม Flower in the dark เพลง Smell และอัลบั้ม Tribute to auto-mod เพลง Deathtopia 13 พฤศจิกายน ซิงเกิ้ลที่หก 'DESIRE' ออกวางจำหน่าย และขึ้นอันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ทได้ทันทีที่วางขาย 23 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ต LUNATIC TOKYO ที่โตเกียวโดม (Tokyo Dome) ซึ่งเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จุคนได้ 55,000 คน โดยบัตรกว่า 50,000 ใบ จำหน่ายหมดภายใน 4 ชั่วโมง 51 นาที

    พ.ศ. 2539

    25 มีนาคม ซิงเกิ้ลที่เจ็ด 'END OF SORROW' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท

    22 พฤษภาคม อัลบั้มที่สี่ 'STYLE' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท

    มิถุนายน ตระเวนออกรายการทีวีและวิทยุเพื่อโปรโมทอัลบั้ม STYLE

    16-18 มิถุนายน แสดงคอนเสิร์ต SLAVE only GIG ที่ NHK Hall จำนวนสองรอบ ซึ่งจัดสำหรับสมาชิกแฟนคลับ 'SLAVE' เท่านั้น

    15 กรกฎาคม ซิงเกิ้ลที่แปด 'IN SILENCE' และวิดีโอบันทึกการแสดงสด 'LUNATIC TOKYO Tokyo Dome' ออกวางจำหน่ายพร้อมกัน และสามารถขึ้นอันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท ทั้งซิงเกิ้ลชาร์ท และวิดีโอชาร์ท

    16 กรกฎาคม -สามสิบสิงหาคม ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่น ใช้ชื่อทัวร์ว่า UNENDING STYLE TOUR แสดงทั้งหมด 16 รอบ ในฮอลล์ขนาดใหญ่ 9 แห่ง ซึ่งรอบแรกคือวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ Yogohama Arena และรอบสุดท้ายแสดงวันที่สามสิบสิงหาคม ที่ Nippon Budokan

    4 กันยายน ริวอิจิ และสึกิโซะไปร่วมทำอัลบั้ม Life in Tokyo โดยริวอิจิร่วมทำสองเพลงคือ Ain't that pecular ซึ่งทำร่วมกับ Hiroki (วง Media Youth) และ D-KIKU โดยใช้ชื่อร่วมกันว่า R.H.D. ส่วนอีกเพลงคือ Sons Of Pioneers ซึ่งริวอิจิได้เปลี่ยนเนื้อเพลงและร้องเป็นภาษาญี่ปุ่น (จากต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษ) ด้านสึกิโซะทำเพลงในอัลบั้มนี้สองเพลงคือ The Experience Of Swimming ร่วมงานกับ D-KIKU และ Noriko (Dream Dolphin) ใช้ชื่อร่วมกันว่า Le Fou และอีกเพลงคือ Quiet Life ซึ่งสึกิโซะทำเองทั้งหมดรวมไปถึงเสียงร้องด้วย

    20 ตุลาคม ทัวร์คอนเสิร์ต UNENDING STYLE encore TOUR 1996~ to RISE~ แสดงทั้งหมด 28 แห่ง รอบแรกแสดงที่ Green Hall Saganiohno ในโตเกียว และรอบสุดท้ายแสดงวันที่ 19 ธันวาคม ที่อาโอโมริ

    23 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ต UNENDING STYLE TOUR Final Christmas Stadium ~ Mafuyu No Yagai ~ ที่ Yogohama Stadium ในคอนเสิร์ตครั้งนี้พวกเขาได้ประกาศถึงแผนที่จะพักกิจกรรมต่างๆ ของวงไว้เป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อแยกย้ายกันไปทำงานเดี่ยว คอนเสิร์ตครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนการพักวง

    พ.ศ. 2540

    21 พฤษภาคม วิดีโอรวมภาพคอนเสิร์ตตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน 'REW' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท

    17 ธันวาคม อัลบั้มรวมเพลงซิงเกิ้ลและเพลงแถม 'SINGLES' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท และจัดงานแถลงข่าวการกลับมารวมตัวอีกครั้งของวงพร้อมทั้งแสดงคอนเสิร์ตที่ Akasaka Blitz

    พ.ศ. 2541

    15 เมษายน ซิงเกิ้ลที่เก้า 'STORM' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท

    3 มิถุนายน ซิงเกิ้ลที่สิบ 'SHINE' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท

    1 กรกฎาคม ซิงเกิ้ลที่สิบเอ็ด 'I for You' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับสองออริค่อน ชาร์ท ซึ่งเพลง I for You นี้เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง ?? ?????? (คามิซะมะ โมสุโคะชิดาเคะ) ของบริษัทฟูจิ เทเลแคสติ้งจำกัด โดยมีนักแสดงนำคือทาเคชิ คาเนชิโร่ และเคียวโกะ ฟูคาดะ

    23 กรกฎาคม อัลบั้มที่ห้า 'SHINE' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท ซึ่งเพลง BREATHE ที่อยู่ในอัลบั้มนี้เป็นหนึ่งในเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องมู่หลาน (MULAN) ของวอลต์ ดิสนีย์

    1-5 สิงหาคม แสดงคอนเสิร์ต 'SLAVE GIG'98' โดยจำกัดเฉพาะสมาชิกแฟนคลับของพวกเขาเท่านั้น จัดแสดงทั้งหมด 3 รอบในฮอลล์ขนาดใหญ่ วันที่หนึ่งสิงหาคม แสดงที่ Shibuya Public Hall วันที่ 4 สิงหาคม แสดงที่ Aichi Public Hall และรอบสุดท้ายวันที่ 5 สิงหาคม แสดงที่ The Osaka Public Hall

    9-10 สิงหาคม แสดงคอนเสิร์ต 'WALT DiSNEY PICTURES PRESENTS MULAN MEETS LUNA SEA 1998 REVIVE ?????' ที่ Yogohama Stadium โดยมีผู้ชมรวมทั้งสองวันที่ 80,000 คน

    24 กันยายน เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่น ครั้งนี้ใช้ชื่อทัวร์ว่า 'WALT DiSNEY PICTURES PRESENTS MULAN MEETS LUNA SEA CONCERT TOUR 1998 SHINING BRIGHYLY' โดยแสดงทั้งหมด 33 รอบในฮอลล์ 26 แห่งทั่วประเทศ

    23-24 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่โตเกียวโดม ใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า 'IDO PRESENTS LUNA SEA CONCERT TOUR 1998 SHINING BRIGHYLY FINAL END OF PERIOD in TOKYO DOME'

    พ.ศ. 2542

    มกราคม ทัวร์คอนเสิร์ต 'LUNA SEA FIRST ASIAN TOUR 1999' ทั้งหมด 3 แห่ง วันที่ 9 มกราคม แสดงที่ไต้หวัน วันที่ 14 มกราคม แสดงที่ฮ่องกง และรอบสุดท้ายแสดงที่เซี่ยงไฮ้ในวันที่ 17 มกราคม

    29 พฤษภาคม อัลบั้มรวมเพลงคอนเสิร์ต 'NEVER SOLD OUT' ออกวางจำหน่าย ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับ 5 ออริค่อน ชาร์ท

    30 พฤษภาคม แสดงคอนเสิร์ต 'LUNA SEA 10TH ANNIVERSARY GIG [ NEVER SOLD OUT ] CAPACITY ?' ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตฉลองครบ 10 ปีที่ก่อตั้งวง โดยจัดแสดงบนเวทีกลางแจ้งในโตเกียวซึ่งสามารถจุผู้ชมได้หนึ่งแสนคน

    29 กันยายน วิดีโอคอนเสิร์ต '10TH ANNIVERSARY GIG [NEVER SOLD OUT] CAPACITY ? LIVE !' และวิดีโอประมวลภาพคอนเสิร์ต '10TH ANNIVERSARY GIG [NEVER SOLD OUT] CAPACITY ? DOCUMENT!' ออกวางจำหน่าย โดยทำยอดขายสุงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งและสองของออริค่อน ชาร์ท ตามลำดับ

    23 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ต 'The Millennium Eve' ที่โตเกียวโดมร่วมกับวงเกลย์ (GLAY) มีผู้เข้าชมประมาณ 55,000 คน

    พ.ศ. 2543

    1 มกราคม แสดงคอนเสิร์ตแรกของปี 2000 ที่ Zepp Tokyo ผู้เข้าชมประมาณ 3,000 คน

    19 มกราคม อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง เจมส์ บอนด์ 007 ตอน The world is not enough ออกวางจำหน่าย โดยมีเพลง Sweetest Coma Again เป็นหนึ่งในเพลงประกอบ

    29 มีนาคม ซิงเกิ้ลที่สิบสอง 'gravity' ออกวางจำหน่าย ซึ่งระยะเวลาห่างจากอัลบั้มล่าสุด (SHINE) ที่วางจำหน่ายประมาณหนึ่งปี 8 เดือน โดยซิงเกิ้ลนี้มียอดขายสูงสุดอยู่ที่อันดับหนึ่งออริค่อน ชาร์ท โดยเพลง gravity และ My Lover ซึ่งเป็นเพลงแถมในซิงเกิ้ล ได้รับเลือกเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ANOTHER HEAVEN นำแสดงโดย โยสุเกะ อิกุจิ และมิวาโกะ อิชิคาว่า

    17 พฤษภาคม ซิงเกิ้ลที่สิบสาม 'TONIGHT' ออกวางจำหน่าย สัปดาห์แรกอยู่ที่อันดับ 4 ออริค่อน ชาร์ท

    23 พฤษภาคม แสดงคอนเสิร์ต 'PREMIERE OF LUNACY 2000' ที่ Nippon Budokan

    12 กรกฎาคม อัลบั้มที่หก 'LUNACY' ออกวางจำหน่าย อันดับสูงสุดในออริค่อน ชาร์ทคือ อันดับ 3

    15 กรกฎาคม ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่น ใช้ชื่อทัวร์ว่า 'LUNA SEA CONCERT TOUR 2000 BRAND NEW CHAOS' แสดงในฮอลล์ทั่วประเทศ 6 แห่ง ทั้งหมด 12 รอบ

    9 ตุลาคม ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่น ใช้ชื่อทัวร์ว่า 'LUNA SEA CONCERT TOUR 2000 BRAND NEW CHAOS ACT II' แสดงในฮอลล์ทั่วประเทศ 10 แห่ง ทั้งหมด 20 รอบ

    8 พฤศจิกายน ซิงเกิ้ลที่สิบสี่ 'LOVE SONG' ออกวางจำหน่าย

    10-11 พฤศจิกายน แสดงคอนเสิร์ตที่ฮ่องกง ใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า 'LUNA SEA CONCERT TOUR 2000 BRAND NEW CHAOS IN HONG KONG'

    23 ธันวาคม อัลบั้มรวมเพลง 'PERIOD' ออกวางจำหน่าย

    26-27 ธันวาคม แสดงคอนเสิร์ตอำลาของวงลูนาซี ใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า 'LUNA SEA THE FINAL ACT TOKYO DOME' รวมสองวันผู้ชมประมาณ 93,000 คน และในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ลูนาซี ได้ประกาศแยกวงอย่างเป็นทางการ

    พ.ศ. 2550

    ทางวงได้ประกาศการกลับมารวมตัวกันใหม่ เพื่อเล่นคอนเสิร์ต One Night : Dejavu ที่สนามโตเกียว โดม เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ต่อหน้าผู้ชมกว่า 55,000 คนที่รอคอยการกลับมาของวง ริวอิจิยังกล่าวในคอนเสิร์ตให้กำลังใจเเฟนๆว่า Luna Sea อาจจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งพร้อมสร้างสรรค์ผลงานใหม่ออกมาด้วย

    พ.ศ. 2551

    Luna Sea มีกำหนดจะไปเล่นทัวร์คอนเสิร์ตของวง X Japan ซึ่งจะใช้ชื่อว่า "hide memorial summit" เพื่อเป็นการรำลึกถึงฮิเดะ ในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้กับบรรดาวงร็อกอีกจำนวนมาก

    ...................................................................


    L'Arc~en~Ciel
    L'Arc~en~Ciel - (C) Sony Music Entertainment (Japan) Inc.

    วงนี้เป้นวงที่ผมรู้จักเป้นวงแรกใน J-rock ครับและชอบมากที่สุดเหมือนกัน บ้ามากๆตอนรุ้จัก

    แรกๆเลยแต่พอมาเจอแนว วิช่วล วงนี้เริ่มจางหายไปนิดๆนะ(- * -) แต่ยังไม่ลืมเพลงยังเพราะ

    โดนใจผมอยู่ฟังเพลงบางเพลงทีไรผมซึ้งจริงๆ ไม่ได้โม้นะ เพลงเค้าเพราะจริงๆ โดนใจเลย

    เข้าเรื่องกันเลยละกันนะไม่ต้องเสียเวลา

    L'Arc~en~Ciel (ลาร์ก~ออง~เชียล) (???? ?? ???? raruku an shieru?) ในประเทศไทยนิยมเรียกว่า ลาร์ค ออง เซียล[ต้องการแหล่งอ้างอิง] เป็นชื่อของวงดนตรีร็อกที่กำเนิดและโด่งดังมากในประเทศญี่ปุ่น แถบเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้เริ่มเข้าสู่ตลาดในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน

    ชื่อวง L'Arc~en~Ciel เป็นภาษาฝรั่งเศส มีความหมายว่า รุ้ง มีประวัติอันยาวนานเริ่มตั้งแต่ก่อตั้งวงในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1991 จนถึงปัจจุบัน มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ tetsu hyde ken และ yukihiro(ชื่อสมาชิกที่ใช้ในวงจะเป็นตัวอักษรพิมพ์เล็กทั้งหมด)

    ตัวอย่างชื่อเพลงของวงนี้ที่มีความโดงดังในประเทศไทย คือ เพลง "Pieces" เพลง "Driver's High" (เพลงประกอบอะนิเมะเรื่อง จีทีโอ คุณครูพันธุ์หายาก) เพลง "get out from the shell" (เพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณารถยนต์โตโยต้าในปี พ.ศ. 2543) และเพลง "READY STEADY GO" และ "Link" (เพลงประกอบอะนิเมะเรื่อง แขนกล คนแปรธาตุ)

    แนวทางการเล่นดนตรีของ L'arc~en~ciel

    L'Arc~en~Ciel เป็นวงดนตรีร็อกที่มีแนวทางในการเล่นดนตรีที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่แนวเดียว สมาชิกทุกคนในวงสามารถแต่งทำนองเพลงและเนื้อร้องได้ด้วยตัวเอง เพื่อใช้ในวงของตัวเอง โดยจะนำเพลงมาเรียบเรียงเสียงด้วยกันเมื่อต้องการทำอัลบัม ดังนั้น แนวเพลงจะเป็นในรูปแบบเฉพาะขึ้นอยู่กับสมาชิกแต่ละคน และ เอกลักษณ์ของวง คือ มีความผสมผสานของเสียงดนตรีมากมายนอกเหนือจากเครื่องดนตรี 3 ชิ้น (กีตาร์ กีตาร์เบส กลองชุด) เสียงดนตรีจะมีความแตกต่างของตัวโน้ตในหนึ่งท่อนอยู่มาก และ จะหลากหลายไปตามแนวเพลงต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบันตามแบบที่สมาชิกอยากให้เป็น เปรียบเสมือนชื่อของวง ที่หมายถึงสายรุ้งที่พาดผ่านท้องฟ้า

    ประวัติ

    Tetsu (ญี่ปุ่น: ?? ; ไทย: เท็ตสึ) ซึ่งเล่นดนตรีในตำแหน่งกีตาร์เบสของวง มีความคิดริเริ่มที่จะสร้างวงดนตรีของตัวเอง และเสาะหาสมาชิกของวง จนกระทั่งเดือน กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1991 เขาได้ก่อตั้งวงสำเร็จในฐานะวงอินดี้ (ยังไม่ได้สังกัดในบริษัทค่ายเพลงใหญ่) และเริ่มการแสดงที่บ้านเกิดจังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยมี Hyde (ญี่ปุ่น:???, ไทย:ไฮด์) เป็นนักร้องนำ ซึ่งเป็นคนที่มีชื่อเสียงในหมู่แฟนเพลงอินดี้ในขณะนั้นอยู่แล้ว

    จนปี ค.ศ. 1992 สมาชิก 2 คน (Hiro และ Pero) ลาออกจากวงในเวลาไม่ห่างจากกันเท่าไหร่ เท็ตสึได้ขอร้องให้เพื่อนรุ่นพี่ที่อยู่ข้างบ้านในสมัยเด็ก Ken (?? ; เคน) มาเป็นสมาชิกของวง และร่วมอัดเสียงสำหรับแรกภายในเวลาสองอาทิตย์ต่อมา ซึ่งในขณะนั้นเคนยังเรียนหนังสืออยู่ในมหาวิทยาลัยสาขาวิศวกรรมก่อสร้าง และ สำหรับตำแหน่งกลอง เท็ตสึได้ชักชวน Sakura ซึ่งเป็นเล่นดนตรีในตำแหน่งกลองที่ไม่สังกัดวงดนตรีใดๆ มาร่วมวง ในปี ค.ศ. 1993 "DUNE" อัลบัมแรกของวง ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งของวงดนตรีอินดี้ในขณะนั้น

    ปี ค.ศ. 1994 วงได้รับการยอมรับโดยบริษัทโซนี่มิวสิกในประเทศญี่ปุ่น (Ki/oon Records หรือ Sony Music Japan) ให้เซ็นสัญญาออกผลงานภายใต้ชื่อของบริษัทได้เป็นเวลา 10 ปี โดยนับตั้งแต่ซิงเกิลแรกในปีนั้น "Blurry Eyes" อัลบัมต่างๆในปีถัดมาคือ Tierra (1994), heavenly (1995) และ True (1996) ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง

    ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1997 หลังจากวงได้จบทัวร์คอนเสริตไปเรียบร้อย และกำลังจะออกซิงเกิลใหม่ชื่อ "the Fourth Avenue Cafe" นั้นเอง Sakura โดนตำรวจควบคุมตัวด้วยข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้ส่งผลกระทบกับกิจกรรมของวงที่ต้องหยุดลง รวมทั้งซิงเกิลใหม่ต้องระงับการวางแผงในทันที Sakura จึงแสดงความรับผิดชอบด้วยการประกาศลาออกจากวง ท่ามกลางความสบสนของแฟนเพลงและสื่อมวลชนในขณะนั้นสมาชิกที่เหลือทั้ง 3 ต้องเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ นักว่าปีนี้เป็นปีที่ตกต่ำที่สุดของวง อย่างไรก็ตามในเดือนสิงหาคมปีเดียวกันนั้นเอง วงได้เริ่มต้นการทำงานใหม่อีกครั้งโดยออกซิงเกิลใหม่ชื่อ "นิจิ" (?) ซึ่งเป็นคำในภาษาญี่ปุ่นแปลว่ารุ้ง ซึ่งมีความหมายเดียวกันกับชื่อวงนั่นเอง และขณะนั้นวงได้ประกาศกลับมาด้วยการประกาศการแสดงสดที่จัดขึ้นเพียงแค่รอบเดียวในวันที่ 23 ธันวาคมปีเดียวกัน โดยใช้ชื่อว่า L'Arc~en~Ciel 1997 REINCARNATION ซึ่งตั๋วเข้าชมการแสดงได้ขายหมดภายในเวลา 4 นาที ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันการต้อนรับกลับของแฟนเพลงและเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ของวงการเพลงญี่ปุ่น

    เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1998 Yukihiro (ญี่ปุ่น:????, ไทย:ยูกิฮิโระ) ประกาศเข้ารวมวงอย่างเป็นทางการในตำแหน่งกลอง ซึ่งตามความจริง ยูกิฮิโระได้เข้าร่วมวงนับตั้งแต่ช่วงเวลาที่อัดเสียง ถ่ายทำภาพยนตร์ฟรีวิลของเพลงนิจิ และแสดงสดในปี ค.ศ. 1997 ในเดือนเดียวกันนั้นเองซิงเกิลใหม่ "winter fall" และอัลบัม HEART ในเดือนถัดมาก็สามารถนำความนิยมอันดับหนึ่งกลับมาให้กับวง

    ต่อมา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 วงได้มีทัวร์คอนเสริตไปตามฮอลล์ต่างๆทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งหมด 47 แห่งแสดงไปทั้งหมด 56 รอบมีคนดูทั้งหมดประมาณ 230,000 คน ชื่อว่า L'Arc~en~Ciel'98 Heart ni hi wo tsukero! ซึ่งมีการขายบัตรจนหมดภายในเวลา 3 นาที ใน 2 ปีนี้มีการออกซิงเกิลทั้งหมด 8 แผ่นติดต่อกัน ในจำนวนนั้นซิงเกิลแฝดสาม คาโซ (??), HONEY, และ ชินโชขุ ลูสคอนโทรล (??-lose control) ที่ออกวางแผงในวันเดียวกันและเป็นประวัติใหม่ของวงการเพลงญี่ปุ่นอยู่ด้วย ในปีนี้เอง วงได้รับรางวัลต่างๆภายในประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวน 3 รางวัลคือ Zen Nihon Yusenhousou Gold Request Grand Prix, THE JAPAN RECORD AWARD Excellency Award และ Best Group Clip Award

    ซึ่งภายหลัง ในปี ค.ศ. 1999 วงก็ยังได้รับรางวัลต่างๆอย่างต่อเนื้อง คือ Gold Arrow Awards Music Award Grand Prix, THE JAPAN GOLD DISC AWARD เพลง คาโซ HONEY และ snow drop ได้รับเลือกให้เป็นเพลงประจำปี อัลบัม HEART เป็น ร็อกอัลบัมประจำปี และในปลายปีนี้ วงก็ยังได้รับรางวัล Best Dresser Award 1999 ของประเทศญี่ปุ่น ในปีนี้เองยังมีการออกอัลบัมแฝดสอง ark และ ray ในวันเดียวกันและเป็นประวัติใหม่ของวงการเพลงญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง สมาชิกของวง tetsu และ hyde ได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆในทวีปเอเชียเพื่อเป็นการส่งเสริมการขายและแนะนำวง ซึ่งหนึ่งในนั้นมี ประเทศไทย รวมอยู่ด้วย

    ปี ค.ศ. 2000 ได้รับรางวัล GOLD DISC AWARD อีกครั้งหนึ่งโดยซิงเกิล "HEAVEN'S DRIVE" เป็นเพลงของปี ซิงเกิล "NEO UNIVERSE/finale" และ อัลบัม ark และ ray เป็นซิงเกิลและอัลบัมร็อกของปี ในปีเดียวกัน yukihiro แสดงความสามารถพิเศษโดยการนำเพลงต่างๆของวงที่มีอยู่มารีมิกซ์ใหม่ และวางแผงเป็นอัลบัมรีมิกซ์แรกของวง ชื่อ "ectomorphed works" ก่อนหน้าการออกอัลบัมใหม่ของวงชื่อ REAL และปีนี้วงได้มีการจัดทัวร์ขึ้นถึง 2 ครั้ง ในจำนวนนั้นมี TOUR 2000 REAL อยู่ด้วยซึ่งทัวร์นี้จัดเพียงแค่ 4 แห่งมีการแสดงทั้งหมด 10 ครั้งแต่มีคนดูทั้งหมด 411,000 คน ซึ่งในรอบสุดท้ายได้มีการจัดการถ่ายทอดสดออกทางโทรทัศน์ทั่วประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมด 5 ช่อง 1 ช่องเพื่อดูภาพรวมของทั้งวง อีก 4 ช่องเป็นภาพเฉพาะสมาชิกแต่ละคน คนละ 1 ช่อง

    วันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2001 เว็บไซต์ยาฮูเจแปน เปิดเว็บไซต์พิเศษให้แฟนเพลงทั่วทวีปเอเชียโดยมีตั้งเป้าไว้สำหรับผู้เข้าชมทั้งหมด 1.5 หมื่นล้านคนเพื่อร่วมออกเสียงเลือกเพลงซิงเกิลที่ชอบ โดยผลที่ได้จะเป็นผลของแต่ละประเทศ ประผลรวมของทุกประเทศ เพื่อการออกอัลบัมรวมซิงเกิลซึ่งมีรายชื่อเพลงแตกต่างกันอยู่ 1 เพลงในแต่ละประเทศในทวีปเอเชีย ชื่อ Clicked Singles Best 13

    เริ่มต้นจากปี ค.ศ. 2001 จนเวลาปัจจุบันสมาชิกแต่ละคนเริ่มที่จะมีการออกผลงานเดี่ยวของตัวเอง (solo) เริ่มจาก tetsu ที่ใช้ชื่อว่า "TETSU69" ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อ "tetsu" ในปี ค.ศ. 2006 ส่วน hyde ใช้ชื่อว่า "HYDE" yukihiro ออกผลงานเดี่ยวด้วยชื่อ "yukihiro" และหลังจากนั้นตั้งวงของตัวเองชื่อ acid android ส่วน ken ได้ชักชวน Sakura อดีตสมาชิกมารวมวงด้วยกันชื่อว่า SONS OF ALL PUSSYS (S.O.A.P.) และได้เริ่มทำผลงานเดียวของตัวเองในชื่อว่า "Ken" ในปี ค.ศ. 2006 อีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม สมาชิกยังไม่ได้หยุดการทำงานของวงซะทีเดียว ในปี ค.ศ. 2003 สมาชิกแต่ละคนได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งและแสดงไลฟ์ที่จัดขึ้นเพียง 7 วันชื่อ Shibuya Seven days 2003 ในเขตชิบุยะจังหวัดโตเกียว โดยใช้สีของรุ้งเป็นสัญญลักษณ์ของแต่ละวัน และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ตั๋วเข้าชมสามารถขายหมดภายในเวลา 3 นาที หลังจากนั้นเมื่อมีการเซ็นสัญญาใหม่กับริษัทโซนี่ในประเทศญี่ปุ่นแล้ว วงได้มีการออกผลงานต่อเนื่องและสลับกันไปกับผลงานเดี่ยว โดยอัลบั้มของวงหลังจากนั้นคือ SMILE (ปีค.ศ. 2004) และ AWAKE (ปีค.ศ. 2005) และการจัดทัวร์คอนเสริตต่างๆ

    ปี ค.ศ. 2004 มีการแสดงสดที่เขตบัลติมอล มลรัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา (1st Mariner Arena, Baltimore, Maryland)

    ปี ค.ศ. 2005 มีการแสดงสดที่เมืองโซล ประเทศเกาหลี (Olympic Park, Seoul) และเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน (Shanghai Grand Stage)

    ปี ค.ศ. 2006 เนื่องในโอกาสฉลองวงครบรอบ 15 ปี มีการวางแผงซิงเกิลที่ผ่านไปแล้วพร้อมกันทั้งหมด 15 แผ่นด้วยกันในวันเดียวกัน รวมทั้งซิงเกิลที่ไม่สามารถออกวางแผงได้ในปี ค.ศ. 1997 คือ "the Fourth Avenue Cafe" และมีการออกอัลบัมแฝด ark และ ray พร้อมกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการออกผลงานเก่าทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นยังได้รับความนิยมในอันดับต้นทั้งหมด และนอกจากนั้นยังมีการแสดงสดชื่อ 15th L'Anniversary Live ซึ่งจัดเพียงแค่ 2 รอบที่โตเกียวโดมเท่านั้น คนดูทั้งหมด 109,652 คน ตั๋วขายหมดภายในเวลา 2 นาที ซึ่งส่วนนึงของเพลงที่ได้รับคัดเลือกมาเล่นในครั้งนี้ เกิดจากออกเสียงของแฟนๆทั่วโลกผ่านทางเว็บไซต์ การแสดงสดในครั้งนี้จึงมีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 30 นาที

    ปี ค.ศ. 2007 วันที่ 4 เมษายน มีการวางแผงดีวีดี 5 แผ่นในกล่องเดียวชื่อ FIVE LIVE ARCHIVES ซึ่งมีมูลค่าถึง 29,400 เยน (ประมาณ 8,800 บาท) ซึ่งดีวีดีที่ทำไว้ชุดแรกได้รับความนิยมจนมีการสั่งจองหมดก่อนวันกำหนดวางแผงในบางร้านค้า ซิงเกิลใหม่กำหนดการวางแผงวันที่ 5 พฤษภาคม ชื่อ "SEVENTH HEAVEN" โดยเปิดตัวในโอริคอนชาร์ทสัปดาห์แรกด้วยอันดับ 1 , มีทัวร์คอนเสริตทั่วประเทศทั้งหมด 30 แห่ง 34 รอบ ภายในเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคม ชื่อ "Are you ready? 2007 mata heart ni hi wo tsukero!" เข้าร่วมการแสดงสดแสดงในงาน INCHEON PENTAPORT ROCK FESTIVAL 2007 ในวันที่ 28 กันยายน เวลา 21:30 - 23:00 นาฬิกาที่ประเทศเกาหลี ซิงเกิลใหม่กำหนดการวางแผงวันที่ 29 สิงหาคม ชื่อ "MY HEART DRAWS A DREAM" เปิดตัวในโอริคอนชาร์ทสัปดาห์แรกด้วยอันดับ 1 , ดีวีดีบันทึกการแสดงสด "15th L'Anniversary Live" ของวันที่ 26 พฤษจิกายน ปีค.ศ. 2006 ซึ่งมีความยาวประมาณ 3 ชั่วโมง กำหนดการวางแผงวันที่ 12 กันยายน ซิงเกิลใหม่กำหนดการวางแผงวันที่ 10 ตุลาคม เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์อะนิเมะเรื่อง กันดั้มดับเบิ้ลโอ ชื่อ "DAYBREAK'S BELL" ซิงเกิลใหม่กำหนดการวางแผงวันที่ 14 พฤศจิกายน ชื่อ "Hurry Xmas" ซึ่งซีดีที่ทำไว้ชุดแรกที่จะมีการเพิ่มดีวีดีอีกหนึ่งแผ่นในราคาสูงกว่า ได้รับความนิยมจนมีการสั่งจองหมดก่อนวันกำหนดวางแผงในบางร้านค้าภายในเวลาไม่กีวันภายหลังจากวันประกาศ อัลบัมใหม่กำหนดการวางแผงวันที่ 21 พฤศจิกายน ชื่อ "KISS" ดีวีดีรวมมิวสิกวีดีโอตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 ถึงปีค.ศ. 2005 รวม 8 เพลง ชื่อ "CHRONICLE 3" กำหนดการวางแผงวันที่ 12 ธันวาคม

    สมาชิกในวงปัจจุบัน

    เท็ตสึ (tetsu) - กีตาร์เบส และ หัวหน้าวง

    ไฮด์ (hyde) - นักร้องนำ และ แต่งเนื้อเพลง

    เคน (ken) - กีตาร์ (1992~) 

    ยูกิฮิโระ (yukihiro) - กลอง (1997~)

    สมาชิกเก่า

    ซากุระ (Sakura) - กลอง และ เพอร์คัชชัน (1992-1997)

    เปโระ (Pero) - กลอง (1991-1992)

    ฮิโระ (Hiro) - กีตาร์ (1991-1992)

    การจัดวงในชื่ออื่นด้วยสมาชิกในขณะนั้น

    นักร้องและนักดนตรีในวง L'Arc~en~Ciel มีความสามารถในการใช้เครื่องดนตรีหลายชนิด และสามารถแต่งเพลงโดยการกำหนดเสียงของเครื่องดนตรีต่างๆของวงได้ จึงได้เกิดความคิดที่สมาชิกของวงทำการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันการร้องและเล่นดนตรีกันภายในวง ในช่วงระยะเวลาต่างๆวงที่ได้มีการสับเปลี่ยนตำแหน่งสมาชิกนั้นจะมีจุดมุ่งมายและการเรียกชื่อแตกต่างกันไป

    [แก้] P'UNK~EN~CIEL

    P'UNK~EN~CIEL (2004~) (ไทย: พังค์ ออง เชียล) เป็นวงดนตรีพังค์ร็อก ที่จัดขึ้นภายหลังจากที่ L'Arc~en~Ciel หยุดการทำงานเนื่องจากสมาชิกวงได้แยกย้ายไปทำงานโซโลและเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมาย คือ เพื่อพัฒนาทักษะทางดนตรีของสมาชิกให้มีเพิ่มมากขึ้น วงเริ่มขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ โดยการแทรกเพลง "มิลกี้ เวย์" (milky way) เข้ามาในซิงเกิล "จิยู เอะ โนะ โชไต" (??????) ด้วยการออกซิงเกิลคู่ (double side single) ชื่อ "Round and Round 2005" ในแผ่นเดียวกันกับ ซิงเกิลของ L'Arc~en~Ciel ชื่อ "Killing Me" โดยได้มีการยอมรับบุคคลภายนอกมาร่วมวงคือ ซายากะ อาโอกิ (??????? Aoki Sayaka?) ในฐานะ พังค์ อาโอกิ (P'UNK ??) และเริ่มการแสดงสดของวงทางโทรทัศน์ และ งานแสดงร่วมกับศิลปินอื่นๆในงาน เท็งกะ ซัง แดนเจอร์ ทรี (??-?- DANGER III) ซึ่งจัดขึ้นบริษัทสังกัดเก่า แดนเจอร์ ครู อินซ์ (DANGER CRUE INC.)

    • สมาชิกของวง
      • TETSU P'UNK - ร้องนำ
      • HYDE P'UNK - กีตาร์
      • YUKI P'UNK - กีตาร์เบส
      • KEN P'UNK - กลอง
    • เพลงของวง
      • milky way
      • Round and Round 2005
      • Round and Round 2005 feat. P'UNK ??
      • ?? ?????
      • HEAVEN'S DRIVE 2005
      • Promised land 2005
      • HONEY 2007
      • Feeling Fine 2007
      • ???? [SEA IN BLOOD 2007]
      • I Wish 2007
      • Dune 2008

    [แก้] D'ARK~EN~CIEL

    D'ARK~EN~CIEL (1996-1997) (ไทย: ดาร์ค ออง เชียล) เป็นวงดนตรีเฮฟวี่เมทัลร็อกที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการให้ความสนุกกับผู้ชมในขณะดูการแสดงสด ไม่มีการประกาศการจัดตั้งวงอย่างเป็นทางการ มีเพลงที่อัดและนำมาแทรกไว้ในลักษณะเพลงเดียวติดต่อกัน ใช้ชื่อเหมือนชื่อวง คือ D'ARK~EN~CIEL เป็นเพลงเสริมในซิงเกิล (c/w song) ของ L'Arc~en~Ciel คือซิงเกิล "the Fourth Avenue Cafe" ซึ่งไม่สามารถวางแผงได้ในปี ค.ศ. 1997 จนกระทั่งปี ค.ศ. 2006 ได้มาการนำซิงเกิลนี้มาวางแผงได้อีกครั้งหนึ่ง เพลงของวงนี้จึงสามารถเปิดเผยสู่สาธรณะชนอย่างเป็นทางการในปีนี้เอง

    • สมาชิกของวง
      • DARK TETSU - นักร้องนำ
      • HYDE DARK - กีตาร์
      • Suck-D'ark-La - กีตาร์เบส
      • Ken D'Ark - กลอง
    • เพลงของวง
      • D'ARK~EN~CIEL (DARK SONG ~ D?A?R?K ~DARK IN MY LIFE~ ~ ACCIDENT ~ INSANITY ~~~ FROM HELL)

    [แก้] KIOTO

    KIOTO (1995) เป็นวงดนตรีร็อก ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการให้ความสนุกกับผู้ชมในขณะดูการแสดงสด ด้วยสาเหตุที่ tetsu เป็นเพื่อนกับ ชิเงะรุ โจชิมะ (????? J?shima Shigeru?) หัวหน้าวงดนตรีเพลงป๊อปญี่ปุ่นชื่อ TOKIO และชื่นชอบในการร้องเพลง จึงนำเพลงของวงนี้มาเล่นในแนวของวงตัวเอง และตั้งชื่อวงเป็นคำผวนของชื่อวงเจ้าของเพลง

    • สมาชิกของวง
      • tetsu - นักร้องนำ
      • hyde - กีตาร์
      • sakura - กีตาร์เบส
      • ken - กลอง
    • เพลงของวงเล่นไว้
      • LOVE YOU ONLY

    ................................................................

    Dr. Fu   Dr. Fu  

  • ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×