ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
“ริน”เสียงพร่าเปี่ยมเมตตาเรียกหลานชายให้เข้ามาหา ร่างวางวางมือจากการปลอกผลไม้ เลื่อนเก้าอี้มานั่ง
“ยายมีอะไรจ๊ะ รับน้ำมั้ย เดี๋ยวผมรินให้" มือย่นจากการทำงานและวัยชรารั้งหลานไว้
“ริน ฟังยาย จำน้าดิฐที่มาที่ศูนย์ฯทุกเดือนได้รึเปล่า”ร่างบางเพียงพยักหน้ารับรู้ “น้าดิฐเขามาพูดขอเราจากยาย รินอยากไปอยู่กับเค้ามั้ย”
ร่างบางนิ่งอึ้งอย่างไม่มั่นใจ เขาจำได้ น้าดิฐคนดี สูง หล่อ ตามแบบต่างชาติ จนเขายึดเป็นแบบอย่าง ตั้งมั่นว่าอยากสูงเท่ห์ให้ได้อย่างนั้นบ้าง น้าดิฐมักมาเยี่ยมเยียนเขากับยายทุกเดือนพร้อมของเล่น ขนมของฝาก หนังสือต่างๆที่ขยันสรรหามาฝากเขาเรื่อยมา
บางครั้งก็พาภรรยาแสนสวย สัญชาติญี่ปุ่น มาสอนภาษาเขาทีละประโยค สองประโยคประจำ กับลูกชาย ลูกสาว วัยซนมาด้วย แม้ยายจะบอกให้พาน้องๆไปเล่น แต่ร่างเล็กของเด็กชายฝาแฝดก็รวมหัวกันแกล้งเขามากพอดู แสดงถึงความไม่ชอบใจเขาเท่าใดนัก และเด็กหญิงตัวเล็กน่ารักก็จะเข้ามาขวางประจำ เมื่อสู้พี่ไม่ได้ก็จะแล่นไปฟ้องพ่อบ้าง ร้องไห้จนแฝดทนไม่ไหวเลิกแกล้งไปเองบ้าง
นั่นทำให้เขารู้สึกรัก ผูกพันกับร่างเล็กอย่างจริงใจ คิดว่าทั้งสามเป็นน้องของเขาเอง ด้วยเพราะรอบตัวเขามีแต่ผู้ใหญ่ที่มาเรียน ทำอาหารจากยาย กับพี่แพร ลูกสาวป้าอ้อย ลุงนนท์ที่อายุห่างจากเขาถึง 5 ปีคอยเป็นเพื่อนเล่น แม้บางครั้งจะไม่ค่อยตามใจเขา จนถึงขั้นรำคาญเขาบ้างก็มี
เพราะพี่แพรก็มีเพื่อนที่โรงเรียนของตัวเอง ยิ่งช่วงนี้ เขาเข้าเรียนมหาลัยในกรุงเทพฯเมื่อปีที่แล้วยิ่งทำให้ห่างกันขึ้นไปอีก และเด็กทั้งสามมีความน่ารักต่างกันไป ฝาแฝดทำไห้เขารู้สึกเอ็นดู เล่นผาดโผนทโมนไปด้วยกันได้ และแน่นอนมีการแก้เผ็ดเล็กๆเกิดขึ้นประจำ
สาวน้อยร่างเล็กที่ชอบเกาะคิดแจ มักปรากฏตัวพร้อมตุ๊กตากระค่าย เข้ากับชื่อในนิทาน เข้ามาออดอ้อน ออเซาะ ด้วยตาสีฟ้าสวยอย่างลูกครึ่ง ประกายออดอ้อนคลอน้ำตา ทำให้ใครต่อใครเห็นแล้วยากต่อการปฏิเสธปรารถนาของสาวน้อย มักให้เขาพาไปไหนมาไหนด้วยเป็นประจำ ที่พ่อพามาเยี่ยมชมศูนย์ฯ การที่มีคนที่ตัวเล็กกว่ามาให้แกล้ง ตามง้อ ออดอ้อนบ้าง ก็ทำให้เขารู้สึกดีอีกแบบ
แต่เขาจะเป็นส่วนไหนของครอบครัวแสนสุขนั้นล่ะ ทุกคนต่างน่ารัก ดูอบอุ่นแต่เขาจะเข้าไปอยู่ตรงส่วนไหน น้าดิฐมาขอเขา...ขอเขาจากยาย...ขอทำไม...ไปทำอะไร...
“ว่าอย่างไรเล่า อยากไปอยู่กับเขามั้ย ทำไมไม่เห็นตอบยายเลย”เมื่อเห็นว่าหลานเงียบไปนานจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง รินยังคงมีแววตาสับสนอยู่มาก
“แล้ว...เขาจะให้รินไปทำอะไรจ๊ะยาย ลูกเมียเขาก็อยู่ดี น่ารักออก แล้วที่บ้านเขาก็ออกจะรวย คนงานต่างๆในบ้านก็มีตังค์จ้างออกเยอะ”คนสูงวัยมองตาหลานชายที่ยังส่อประกายเสร้าและสับสนระคนกัน มือเหี่ยวย่นยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมสีดำตรงหน้า
“ริน น้าดิฐมาขอเราไปเป็นลูกบุญธรรม เขาจะดูแลส่งเสียเราเรียนต่อเท่าที่เราเรียนได้ แลกเปลี่ยนแค่ช่วยเป็นลูกชายที่น่ารัก ช่วยดูแลลูกเขาให้เหมือนเป็นน้องของเราแค่นั้นเอง รินน่ะ 14 ปีแล้วนะ โตพอขนาดมีลูกมีเมีย และพอที่จะดูแลตัวเอง หรือเลือกทางในอนาคตได้แล้ว
พอสอบเสร็จสัปดาห์หน้าก็ต้องสมัครเรียน ม.ปลายอยู่แล้วนี่ ไปอยู่กับเขา เราก็มีทางเลือกมากขึ้น เรียนสูงขึ้น รินก็รู้ว่ายายไม่สามารถอยู่ส่งเสียเราได้นานหรอก เงินเก็บจากที่สอนเขา ก็มาใช้จ่ายค่ารักษาก็มาก ไม่พอส่งเราเรียนหรอกนะ”
ดวงตาสวยประกายเศร้าของนรินทร์ตอนนี้เรื่อไปด้วยน้ำตา บางส่วนหยดไหลรินลงตามใบหน้าขาวที่บัดนี้ดูซูบ ขอบตาคล้ำจากการอดนอน ริมฝีปากบางเม้มแน่น
“ไม่มีก็ไม่เรียนสิจ๊ะ รินจะอยู่กับยาย ไม่ไปไหนนะ ยายอย่าไล่ผมไปไหนไกลเลยนะ ผมรักยายนะ เพราะฉะนั้นยายอยู่กับผมนานๆนะ อย่าทิ้งผมไปแบบแม่อีกคนเลย”
ร่างบางพูดขาดห้วงเพราะแรงสะอื้นฮักด้วยเสียใจ แม่ที่เสียหลังจากคลอดเขาไม่นาน เพราะสุขภาพของท่านและบ้านอยู่ไกลโรงพยาบาลกว่าจะมาถึงแม่ก็เสียเลือดมาก มาตอนนี้ ยายก็จะผลักไสเขาไปให้คนอื่นอีกหรือ เขาควรจะทำอย่างไร ดึงมือยายมาแนบแก้ม ร้องไห้อยู่อย่างนั้น
“ริน อย่าร้องลูก ลูกผู้ชายเค้าไม่ร้องไห้กันหรอก เรารู้ใช่ไหมว่าตัวเราไม่ใช่หลานยายโดยสายเลือด”ร่างบาง เงยหน้ารื้นน้ำตาขึ้นมองคนสูงวัยกว่าไม่พูดอะไร เสียงแหบพร่าพูดต่อไปตามองหลานชายนิ่ง
“นิลปัทม์ แม่เรา บอกยายเพียงว่าตัวไร้ญาติ ขาดมิตร มีเพียงสามี อยู่กินกันเงียบๆไม่มีการตบแต่ง แต่ปู่เราตามมาเจอ เขาพาพ่อเรากลับ เพราะมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่ก่อนแล้ว ปู่ให้เงินแม่เรามาก้อนหนึ่งเพื่อตั้งตัว แต่แม่นิลไม่รู้จะทำอะไร เลยนำเงินนั้นมาเช่าบ้านเล็กๆที่ตัวเมือง ออกตระเวนท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ
จนรู้ว่าตั้งท้องเราก็เลิกเดินทาง หางานทำ แต่เราก็รู้ว่าสำหรับคนที่ไม่มีเอกสาร วุฒิต่างๆ หางานยาก ได้ไม่คุ้มแรง จนมาเป็นลมเป็นแล้งอยู่บ้านยาย ตัวยายไม่มีลูกเลยให้อยู่ซะด้วยกันเสีย รู้ไหมว่ายายมีความสุขมากแค่ไหน มีลูกสาวคนสวย พร้อมหลานในท้องมาให้ดูแล ทำให้ยายหายเหงาทีเดียวหล่ะ เสียแต่ว่าสิ้นบุญเร็วนัก
อยู่ทันได้เห็นหน้าลูกชายตัวเองไม่เท่าไหร่ ตัวของแม่นิลเองก็สุขภาพไม่เอื้ออำนวยในการท้องอยู่แล้ว แต่เพราะแม่เค้ามีลูกในท้อง ซึ่งเปรียบเสมือนสายธารที่รินไหล ชะโลมจิตใจที่แห้งผากของแม่เรา จนถึงขนาดตั้งชื่อไว้ตั้งแต่เรา 5 เดือน ว่าชื่อ นรินทร์” แม้เสียงจะแหบพร่าแต่ก็เปลี่ยมด้วยความสุข กรีดนิ้วเช็ดน้ำตาที่หน้าหวานตรงหน้า
“ เพราะเป็นชื่อที่ตั้งได้ทั้งชายและหญิง และตัวรินเองก็ได้โครงหน้ามาจากแม่ ดูสวยหวาน แต่คมอย่างคนสมัยโบราณ กริยาน่ารัก ปราดเปรียวตามสมัย แต่ดวงตามาจากพ่อ”ตาสวยแข็งกร้าวขึ้นทันใดยามเอ่ยถึงพ่อ แม้จะแวบเดียว แต่หญิงชราก็เห็น ไม่รู้จะเคืองอะไรเขานักหนา
“พ่อเราพื้นเพอยู่เชียงรายเราก็รู้ มีที่ทาง ไร่นาที่นู่นก็เยอะ พี่น้องต่างแม่เราก็เคยเห็นแล้ว เค้าก็ไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไรถ้าเราจะไปอยู่ด้วย พ่อเลี้ยงตะวัน ปู่ของเราก็มีลูกชายคนเดียว ลูกสาวอีก 3 คน พ่ออาทิตย์ของเรา เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ดูมีอำนาจ ตาคมดุ ผิวขาวที่แม้คล้ำจากการตากแดดก็ยังดูขาวอยู่
ด้วยความเป็นลูกชายคนเดียว ลูกคนโตของบ้าน จึงเป็นความหวังของทุกคน แต่เพราะว่าพ่อแม่ของหลานมีเชื้อสายต่างชาติอยู่ รินมีสีตาที่สวยอย่างนี้ ยายไม่อยากให้หลานเกลียดเขาหรอกนะ เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นพ่อ เป็นคนที่แม่เรารัก ปู่เราก็ไม่ได้ตั้งใจจะห้ามหรือแยกพ่อแม่เราจากกันหรอก เขาไม่รู้ว่าแม่เราท้อง ทางฝ่ายคู่หมั้นเองก็เร่งงานแต่ง ด้วยว่ามีหน้ามีตาในวงสังคม พ่อเรามาหนีงานหมั้น งานแต่งไปทำให้ฝ่ายหญิงเสียชื่อเสียงไปมากอยู่”สายตาพร่ามัวเหลือบมองหลานชาย
“รินลองเลือกดูนะว่าจะไปอยู่กับใคร จะไปอยู่ที่เชียงรายกับพ่อ กับน้องต่างแม่ที่เคยพบหน้าคร่าตากันเมื่อปีที่แล้ว หรือว่าจะตกลงใจไปกับน้าดิฐ เมียรึลูกเขาเราก็เห็นก็เล่นด้วยกันออกบ่อย”ร่างบางนั่งนิ่ง อย่างคนตัดสินใจไม่ได้
“ยายไม่อยากบังคับรินหรอก แต่อนาคตของเราตัวเราต้องเลือกเอง เมื่อทำอะไรไปแล้วจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าทำไมไม่เลือกอย่างนั้น ไม่ทำอย่างนี้ ตัวยายรู้ตัวเองดี ว่าอยู่ได้แค่ไหน กำลังตัวเองถึงไหน แล้วรินล่ะ รู้รึยังว่าตัวเองจะอยู่ได้แค่ไหน จะเป็นอะไร จะทำอะไร ยายมีแต่จะสนับสนุนเราเท่าที่ยายทำได้เท่านั้นนะ”
“ขอโทษค่ะ ถึงเวลาคนไข้ไปตรวจนะคะ”ร่างโปร่งของพยาบาลเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ มือย่นยกมือให้หยุด ขอคุยกับหลานก่อนที่บุรุษพยาบาลจะเข็นรถออกไป
“รินไปอาบน้ำอาบท่า อ่านหนังสือหนังหาไป สอบเสร็จค่อยมาตอบยาย ก็ได้สิ้นเดือนนี้ตัวแทนของแต่ละฝ่ายจะมารับคำตอบ ไม่ต้องรีบให้คำตอบยายตอนนี้หรอก”
โอย จะขาดใจ
purple( อิรอส ) amilie >_<"
ทุกคนคงมีบ้าน แต่"บ้าน"ของแต่ละคนมีความหมายไม่เหมือนกัน บ้านที่เป็นปัจจัย 4 ให้เราอยู่อาศัยบ้านที่มีคนที่รักรอเราอยู่ บ้านที่รอให้เรากลับไปซบไออุ่นบ้านที่รัก บ้านที่ที่ทุกคนใฝ่ฝันอยากมีอยากอบอุ่นมีครอบครัวของตัวเองแต่ก็มีใคร
หลายคนที่ไม่มีบ้านไม่มีใครที่ทำให้รู้สึกว่าเรามีบ้านอยู่ หรือมีก็ไม่สามารถรับรู้ถึงความอบอุ่นถวิลหานั้นได้อีกสำหรับผมแล้วบ้านจะไม่เป็นบ้าน ถ้าไม่มีคนที่อยู่ในบ้าน คนที่รัก ที่ห่วงและผูกพันใครหลายคนที่มี "บ้าน"ขอให้รักษามันไว้ตราบ...เท่านาน เท่าที่ยัง...มีคนที่เรา...รัก...และ...รัก...เรา
........................................................................
หลายคนที่ไม่มีบ้านไม่มีใครที่ทำให้รู้สึกว่าเรามีบ้านอยู่ หรือมีก็ไม่สามารถรับรู้ถึงความอบอุ่นถวิลหานั้นได้อีกสำหรับผมแล้วบ้านจะไม่เป็นบ้าน ถ้าไม่มีคนที่อยู่ในบ้าน คนที่รัก ที่ห่วงและผูกพันใครหลายคนที่มี "บ้าน"ขอให้รักษามันไว้ตราบ...เท่านาน เท่าที่ยัง...มีคนที่เรา...รัก...และ...รัก...เรา
........................................................................
“ริน”เสียงพร่าเปี่ยมเมตตาเรียกหลานชายให้เข้ามาหา ร่างวางวางมือจากการปลอกผลไม้ เลื่อนเก้าอี้มานั่ง
“ยายมีอะไรจ๊ะ รับน้ำมั้ย เดี๋ยวผมรินให้" มือย่นจากการทำงานและวัยชรารั้งหลานไว้
“ริน ฟังยาย จำน้าดิฐที่มาที่ศูนย์ฯทุกเดือนได้รึเปล่า”ร่างบางเพียงพยักหน้ารับรู้ “น้าดิฐเขามาพูดขอเราจากยาย รินอยากไปอยู่กับเค้ามั้ย”
ร่างบางนิ่งอึ้งอย่างไม่มั่นใจ เขาจำได้ น้าดิฐคนดี สูง หล่อ ตามแบบต่างชาติ จนเขายึดเป็นแบบอย่าง ตั้งมั่นว่าอยากสูงเท่ห์ให้ได้อย่างนั้นบ้าง น้าดิฐมักมาเยี่ยมเยียนเขากับยายทุกเดือนพร้อมของเล่น ขนมของฝาก หนังสือต่างๆที่ขยันสรรหามาฝากเขาเรื่อยมา
บางครั้งก็พาภรรยาแสนสวย สัญชาติญี่ปุ่น มาสอนภาษาเขาทีละประโยค สองประโยคประจำ กับลูกชาย ลูกสาว วัยซนมาด้วย แม้ยายจะบอกให้พาน้องๆไปเล่น แต่ร่างเล็กของเด็กชายฝาแฝดก็รวมหัวกันแกล้งเขามากพอดู แสดงถึงความไม่ชอบใจเขาเท่าใดนัก และเด็กหญิงตัวเล็กน่ารักก็จะเข้ามาขวางประจำ เมื่อสู้พี่ไม่ได้ก็จะแล่นไปฟ้องพ่อบ้าง ร้องไห้จนแฝดทนไม่ไหวเลิกแกล้งไปเองบ้าง
นั่นทำให้เขารู้สึกรัก ผูกพันกับร่างเล็กอย่างจริงใจ คิดว่าทั้งสามเป็นน้องของเขาเอง ด้วยเพราะรอบตัวเขามีแต่ผู้ใหญ่ที่มาเรียน ทำอาหารจากยาย กับพี่แพร ลูกสาวป้าอ้อย ลุงนนท์ที่อายุห่างจากเขาถึง 5 ปีคอยเป็นเพื่อนเล่น แม้บางครั้งจะไม่ค่อยตามใจเขา จนถึงขั้นรำคาญเขาบ้างก็มี
เพราะพี่แพรก็มีเพื่อนที่โรงเรียนของตัวเอง ยิ่งช่วงนี้ เขาเข้าเรียนมหาลัยในกรุงเทพฯเมื่อปีที่แล้วยิ่งทำให้ห่างกันขึ้นไปอีก และเด็กทั้งสามมีความน่ารักต่างกันไป ฝาแฝดทำไห้เขารู้สึกเอ็นดู เล่นผาดโผนทโมนไปด้วยกันได้ และแน่นอนมีการแก้เผ็ดเล็กๆเกิดขึ้นประจำ
สาวน้อยร่างเล็กที่ชอบเกาะคิดแจ มักปรากฏตัวพร้อมตุ๊กตากระค่าย เข้ากับชื่อในนิทาน เข้ามาออดอ้อน ออเซาะ ด้วยตาสีฟ้าสวยอย่างลูกครึ่ง ประกายออดอ้อนคลอน้ำตา ทำให้ใครต่อใครเห็นแล้วยากต่อการปฏิเสธปรารถนาของสาวน้อย มักให้เขาพาไปไหนมาไหนด้วยเป็นประจำ ที่พ่อพามาเยี่ยมชมศูนย์ฯ การที่มีคนที่ตัวเล็กกว่ามาให้แกล้ง ตามง้อ ออดอ้อนบ้าง ก็ทำให้เขารู้สึกดีอีกแบบ
แต่เขาจะเป็นส่วนไหนของครอบครัวแสนสุขนั้นล่ะ ทุกคนต่างน่ารัก ดูอบอุ่นแต่เขาจะเข้าไปอยู่ตรงส่วนไหน น้าดิฐมาขอเขา...ขอเขาจากยาย...ขอทำไม...ไปทำอะไร...
“ว่าอย่างไรเล่า อยากไปอยู่กับเขามั้ย ทำไมไม่เห็นตอบยายเลย”เมื่อเห็นว่าหลานเงียบไปนานจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง รินยังคงมีแววตาสับสนอยู่มาก
“แล้ว...เขาจะให้รินไปทำอะไรจ๊ะยาย ลูกเมียเขาก็อยู่ดี น่ารักออก แล้วที่บ้านเขาก็ออกจะรวย คนงานต่างๆในบ้านก็มีตังค์จ้างออกเยอะ”คนสูงวัยมองตาหลานชายที่ยังส่อประกายเสร้าและสับสนระคนกัน มือเหี่ยวย่นยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมสีดำตรงหน้า
“ริน น้าดิฐมาขอเราไปเป็นลูกบุญธรรม เขาจะดูแลส่งเสียเราเรียนต่อเท่าที่เราเรียนได้ แลกเปลี่ยนแค่ช่วยเป็นลูกชายที่น่ารัก ช่วยดูแลลูกเขาให้เหมือนเป็นน้องของเราแค่นั้นเอง รินน่ะ 14 ปีแล้วนะ โตพอขนาดมีลูกมีเมีย และพอที่จะดูแลตัวเอง หรือเลือกทางในอนาคตได้แล้ว
พอสอบเสร็จสัปดาห์หน้าก็ต้องสมัครเรียน ม.ปลายอยู่แล้วนี่ ไปอยู่กับเขา เราก็มีทางเลือกมากขึ้น เรียนสูงขึ้น รินก็รู้ว่ายายไม่สามารถอยู่ส่งเสียเราได้นานหรอก เงินเก็บจากที่สอนเขา ก็มาใช้จ่ายค่ารักษาก็มาก ไม่พอส่งเราเรียนหรอกนะ”
ดวงตาสวยประกายเศร้าของนรินทร์ตอนนี้เรื่อไปด้วยน้ำตา บางส่วนหยดไหลรินลงตามใบหน้าขาวที่บัดนี้ดูซูบ ขอบตาคล้ำจากการอดนอน ริมฝีปากบางเม้มแน่น
“ไม่มีก็ไม่เรียนสิจ๊ะ รินจะอยู่กับยาย ไม่ไปไหนนะ ยายอย่าไล่ผมไปไหนไกลเลยนะ ผมรักยายนะ เพราะฉะนั้นยายอยู่กับผมนานๆนะ อย่าทิ้งผมไปแบบแม่อีกคนเลย”
ร่างบางพูดขาดห้วงเพราะแรงสะอื้นฮักด้วยเสียใจ แม่ที่เสียหลังจากคลอดเขาไม่นาน เพราะสุขภาพของท่านและบ้านอยู่ไกลโรงพยาบาลกว่าจะมาถึงแม่ก็เสียเลือดมาก มาตอนนี้ ยายก็จะผลักไสเขาไปให้คนอื่นอีกหรือ เขาควรจะทำอย่างไร ดึงมือยายมาแนบแก้ม ร้องไห้อยู่อย่างนั้น
“ริน อย่าร้องลูก ลูกผู้ชายเค้าไม่ร้องไห้กันหรอก เรารู้ใช่ไหมว่าตัวเราไม่ใช่หลานยายโดยสายเลือด”ร่างบาง เงยหน้ารื้นน้ำตาขึ้นมองคนสูงวัยกว่าไม่พูดอะไร เสียงแหบพร่าพูดต่อไปตามองหลานชายนิ่ง
“นิลปัทม์ แม่เรา บอกยายเพียงว่าตัวไร้ญาติ ขาดมิตร มีเพียงสามี อยู่กินกันเงียบๆไม่มีการตบแต่ง แต่ปู่เราตามมาเจอ เขาพาพ่อเรากลับ เพราะมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่ก่อนแล้ว ปู่ให้เงินแม่เรามาก้อนหนึ่งเพื่อตั้งตัว แต่แม่นิลไม่รู้จะทำอะไร เลยนำเงินนั้นมาเช่าบ้านเล็กๆที่ตัวเมือง ออกตระเวนท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ
จนรู้ว่าตั้งท้องเราก็เลิกเดินทาง หางานทำ แต่เราก็รู้ว่าสำหรับคนที่ไม่มีเอกสาร วุฒิต่างๆ หางานยาก ได้ไม่คุ้มแรง จนมาเป็นลมเป็นแล้งอยู่บ้านยาย ตัวยายไม่มีลูกเลยให้อยู่ซะด้วยกันเสีย รู้ไหมว่ายายมีความสุขมากแค่ไหน มีลูกสาวคนสวย พร้อมหลานในท้องมาให้ดูแล ทำให้ยายหายเหงาทีเดียวหล่ะ เสียแต่ว่าสิ้นบุญเร็วนัก
อยู่ทันได้เห็นหน้าลูกชายตัวเองไม่เท่าไหร่ ตัวของแม่นิลเองก็สุขภาพไม่เอื้ออำนวยในการท้องอยู่แล้ว แต่เพราะแม่เค้ามีลูกในท้อง ซึ่งเปรียบเสมือนสายธารที่รินไหล ชะโลมจิตใจที่แห้งผากของแม่เรา จนถึงขนาดตั้งชื่อไว้ตั้งแต่เรา 5 เดือน ว่าชื่อ นรินทร์” แม้เสียงจะแหบพร่าแต่ก็เปลี่ยมด้วยความสุข กรีดนิ้วเช็ดน้ำตาที่หน้าหวานตรงหน้า
“ เพราะเป็นชื่อที่ตั้งได้ทั้งชายและหญิง และตัวรินเองก็ได้โครงหน้ามาจากแม่ ดูสวยหวาน แต่คมอย่างคนสมัยโบราณ กริยาน่ารัก ปราดเปรียวตามสมัย แต่ดวงตามาจากพ่อ”ตาสวยแข็งกร้าวขึ้นทันใดยามเอ่ยถึงพ่อ แม้จะแวบเดียว แต่หญิงชราก็เห็น ไม่รู้จะเคืองอะไรเขานักหนา
“พ่อเราพื้นเพอยู่เชียงรายเราก็รู้ มีที่ทาง ไร่นาที่นู่นก็เยอะ พี่น้องต่างแม่เราก็เคยเห็นแล้ว เค้าก็ไม่ได้รังเกียจรังงอนอะไรถ้าเราจะไปอยู่ด้วย พ่อเลี้ยงตะวัน ปู่ของเราก็มีลูกชายคนเดียว ลูกสาวอีก 3 คน พ่ออาทิตย์ของเรา เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ดูมีอำนาจ ตาคมดุ ผิวขาวที่แม้คล้ำจากการตากแดดก็ยังดูขาวอยู่
ด้วยความเป็นลูกชายคนเดียว ลูกคนโตของบ้าน จึงเป็นความหวังของทุกคน แต่เพราะว่าพ่อแม่ของหลานมีเชื้อสายต่างชาติอยู่ รินมีสีตาที่สวยอย่างนี้ ยายไม่อยากให้หลานเกลียดเขาหรอกนะ เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นพ่อ เป็นคนที่แม่เรารัก ปู่เราก็ไม่ได้ตั้งใจจะห้ามหรือแยกพ่อแม่เราจากกันหรอก เขาไม่รู้ว่าแม่เราท้อง ทางฝ่ายคู่หมั้นเองก็เร่งงานแต่ง ด้วยว่ามีหน้ามีตาในวงสังคม พ่อเรามาหนีงานหมั้น งานแต่งไปทำให้ฝ่ายหญิงเสียชื่อเสียงไปมากอยู่”สายตาพร่ามัวเหลือบมองหลานชาย
“รินลองเลือกดูนะว่าจะไปอยู่กับใคร จะไปอยู่ที่เชียงรายกับพ่อ กับน้องต่างแม่ที่เคยพบหน้าคร่าตากันเมื่อปีที่แล้ว หรือว่าจะตกลงใจไปกับน้าดิฐ เมียรึลูกเขาเราก็เห็นก็เล่นด้วยกันออกบ่อย”ร่างบางนั่งนิ่ง อย่างคนตัดสินใจไม่ได้
“ยายไม่อยากบังคับรินหรอก แต่อนาคตของเราตัวเราต้องเลือกเอง เมื่อทำอะไรไปแล้วจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าทำไมไม่เลือกอย่างนั้น ไม่ทำอย่างนี้ ตัวยายรู้ตัวเองดี ว่าอยู่ได้แค่ไหน กำลังตัวเองถึงไหน แล้วรินล่ะ รู้รึยังว่าตัวเองจะอยู่ได้แค่ไหน จะเป็นอะไร จะทำอะไร ยายมีแต่จะสนับสนุนเราเท่าที่ยายทำได้เท่านั้นนะ”
“ขอโทษค่ะ ถึงเวลาคนไข้ไปตรวจนะคะ”ร่างโปร่งของพยาบาลเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ มือย่นยกมือให้หยุด ขอคุยกับหลานก่อนที่บุรุษพยาบาลจะเข็นรถออกไป
“รินไปอาบน้ำอาบท่า อ่านหนังสือหนังหาไป สอบเสร็จค่อยมาตอบยาย ก็ได้สิ้นเดือนนี้ตัวแทนของแต่ละฝ่ายจะมารับคำตอบ ไม่ต้องรีบให้คำตอบยายตอนนี้หรอก”
โอย จะขาดใจ
purple( อิรอส ) amilie >_<"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น