คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ยัยปากร้ายกับนายปากจัด!!!
วันนี้เป็นเช้าของวันเสาร์ หลังกลับจากโลกอนาคตได้ 1 อาทิตย์ ทั้งๆที่ยังเหนื่อยๆเพลียๆกันอยู่แต่ทั้งโกคุเทระ ยามาโมโตะ เคียวโกะ และฮารุ ก็ต้องมารวมตัวกันที่บ้านของสึนะ เพื่อจะติวหนังสือกันเป็นพิเศษ หลังจากที่รู้ว่าต้องสอบในอาทิตย์หน้าที่จะถึงนี้ ทำไมโรงเรียนถึงได้โหดร้ายขนาดนี้นะ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นก็ขาดเรียนกันไปคนละ 1 อาทิตย์เต็มๆ กลับมาก็ได้เรียนแค่ 1 อาทิตย์ แล้วก็ต้องสอบปลายภาค ช่างเป็นชีวิตของเด็กมอต้นที่ลำบากยากเย็นจริงๆ ทั้ง 5 คนนัดกันไว้ว่าจะมาเจอกันที่บ้านสึนะตอน 9 โมงเช้า แต่เมื่อเวลายังไม่ถึง 8 โมง ก็มีเสียงกดกริ่งดังขึ้นที่หน้าบ้านของสึนะแล้ว
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร
กริ๊ง กริ๊ง
“รุ่นที่ 10 คร้าบบบบบบบ ผมมาแล้วคร้าบบบบบบบบ
” เสียงของเด็กหนุ่มผมสีเงินดังขึ้นมาอย่างสุภาพ ก่อนที่จะมีเสียงกดกริ่งตามมาอีกครั้ง พร้อมกับการปรากฏตัวของเด็กสาวอีกคน
กริ๊ง กริ๊ง
“คุณสึนะค้า
ฮารุอยู่หน้าบ้านแล้วนะคะ” เสียงสดใสของเด็กสาว นามว่า ฮารุ ดังขึ้นตามเสียงกริ่งนั้นไปติดๆ เด็กหนุ่มผมเงินหันมามองเธออย่างไม่สบอารมณ์นัก ก่อนที่ศึกปะทะฝีปากจะเริ่มเปิดฉากขึ้น
“เธอมาที่นี่ทำไม ?!” เด็กหนุ่มถามไปด้วยเสียงขุ่นๆ บอกให้ผู้ฟังได้รู้ว่าเขาไม่พอใจ
“พูดกับผู้หญิงแบบนี้ ไม่มีมารยาทเอาซะเลยนะคะ คุณโกคุเทระ
” เด็กสาวก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเช่นกัน มีอย่างที่ไหน เป็นผู้ชายแท้ๆ กลับไม่มีมารยาทกับผู้หญิงเลย ฮารุคิดในใจ
“ใครจะอยากมีมารยาทกับผู้หญิงอย่างเธอกันฮะ!” เด็กหนุ่มผมเงิน หรือก็คือโกคุเทระนั่นแหละ ตอบกลับอย่างเหลืออด ประโยคเมื่อกี้ของฮารุ ชักจะทำให้เขาเริ่มมีน้ำโห
“ตายๆๆ
คุณสึนะออกจะสุภาพกับผู้หญิง ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนกับคุณได้ยังไงนะคะ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย!” ฮารุเองก็เริ่มจะมีน้ำโหขึ้นเหมือนกัน ทั้งสองคนส่งสายตาอาฆาตให้กันโดยที่ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดจะละสายตาก่อน ไม่รู้ว่าทำไม เจอกันทีไร เป็นต้องทะเลาะกันทุกที และก่อนที่จะมีใครเริ่มลงไม้ลงมือ สึนะก็ลงมาห้ามทัพได้อย่างทันเวลา
“โทษที
โทษทีนะ ทั้งสองคน ฉันตื่นสายไปหน่อยน่ะ” สึนะเปิดประตูออกมา ก่อนจะหอบแฮกๆเพราะเหนื่อยจากการวิ่งลงมาจากห้องนอน
“ไม่เป็นไรครับ/ไม่เป็นไรค่ะ” ราวกับนัดกันมา ทั้งคู่หยุดส่งสายตาอาฆาตและสงบศึกกันไปชั่วขณะเมื่อเจอกับสึนะ
“แหะๆ ขึ้นไปบนห้องฉันกันเถอะ แล้วนี่
กินอะไรกันมารึยัง ?” สึนะหัวเราะแห้งๆพร้อมกับถามไถ่ไปตามเรื่อง
“เรียบร้อยครับ/เรียบร้อยค่ะ” ทั้งคู่ตอบไปพร้อมกัน และเมื่อจบประโยคทั้งสองคนก็ต้องหันมาส่งสายตาอาฆาตกันอีกครั้ง สึนะที่ดูเหตุการณ์อยู่ ก็รีบตัดบททันที
“งั้นดีเลย
ขึ้นไปรอที่ห้องฉันก่อนนะ” สึนะพูดพร้อมกับนำทั้งสองไปที่ห้องของตัวเอง
ทั้งโกคุเทระและฮารุส่งสายตาอาฆาตให้กันตลอดทางที่เดินเข้าบ้านจนกระทั่งขึ้นไปบนบ้าน สึนะขอตัวไปทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานัด ยามาโมโตะ กับเคียวโกะจึงยังมาไม่ถึง โกคุเทระกับฮารุเลยต้องนั่งรออยู่ในห้องนอนของสึนะกันสองคน ทั้งสองนั่งหันหน้ากันไปคนละด้านและไม่พูดอะไรกันเลย จนความเงียบปกคลุมทั้งห้อง โกคุเทระเลยเริ่มเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน
“ก็มาติวหนังสือนี่คะ ไม่ได้มาทำอะไรน่าเกลียด อีกอย่าง เดี๋ยวเคียวโกะจังก็มาด้วย ผู้ชายอะไร ปากร้ายยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก แถมไม่มีมารยาทสุดๆ” ฮารุโต้กลับไปบ้าง มีหรือที่คนอย่างเธอจะยอมให้ใครว่าอยู่ฝ่ายเดียว
“หน็อย ยัย ยัย โว้ย นี่ถ้าเป็นผู้ชายนะ พ่อจะบึ้มไม่ให้เหลือซากเลย ยัย ยัย ยัยปากเสีย!” โกคุเทระหันหน้ากลับมามองฮารุ ใบหน้าของเขาแดงจัดด้วยความโกรธ แต่ฮารุยังคงไม่หันกลับมามองเขา
“คิกๆๆ ไม่สนหรอกค่ะ ฮารุไม่อยากเถียงกับคุณแล้ว เถียงไปก็เปลืองน้ำลาย” ฮารุขำแบบเยาะเย้ย แล้วลุกขึ้นเดินไปเพื่อจะสำรวจห้องของสึนะ
“คิดว่าฉันอยากเถียงกับเธอรึไงฮะ ?” โกคุเทระพูดพร้อมกับคว้าข้อมือเธอไว้ แต่ฮารุดันเสียหลักล้มลงมาทับตัวโกคุเทระ ใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบ
“ว๊ายยย!/โอ๊ยยย!” ทั้งสองร้องขึ้นพร้อมกัน
“โถ่! ยัยบ้า ตัวเธอหนักยังกับช้าง ลุกขึ้นไปเลยนะ ” โกคุเทระที่ถูกทับอยู่โวยวายขึ้น ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมอง แล้วพบว่าใบหน้าของเธออยู่ใกล้เขามาก ใกล้จนใจเกิดเต้นตึกตัก ฮารุเองที่เพิ่งลืมตาขึ้นและกำลังจะโวยวาย ก็ต้องอ้าปากค้าง เพราะถูกสายตาของเขาจ้องมองอยู่ และใบหน้าที่ใกล้กันมากนั้น ก็ทำให้เธอใจเต้นไม่แพ้เขาเลย ทั้งสองสบตากันนิ่งเนิ่นนาน ราวกับว่าดวงตานั้นมีแรงดึงดูดมหาศาล และเหตุการณ์มันก็เกือบจะเป็นเหมือนในหนัง ถ้าไม่มีเจ้าตัวป่วนสองตัว พรวดพราดเข้ามาซะก่อน
“ก๊าก ฮ่าๆๆๆ ข้าวปั้นเป็นของคุณแรมโบ้!!!” เจ้าเด็กวัววิ่งเข้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เสียงของแรมโบ้ ทำให้ฮารุรีบลุกขึ้นจากท่าล่อแหลมนั้นทันที เช่นเดียวกับโกคุเทระที่ลุกขึ้นนั่งแล้วจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่
“เอามานะแรมโบ้ นั่นมันข้าวปั้นของฉันนะ!!!” ไม่นานนักอี้ผิงก็วิ่งตามแรมโบ้เข้ามา แล้วก็ต้องหยุดวิ่ง เมื่อเห็นฮารุนั่งอยู่
“สวัสดีฮารุ วันนี้มาติวหนังสือใช่มั๊ย ?” อี้ผิงหยุดเพื่อทักทายฮารุ แล้วก็ลืมไปเลยว่าตัวเองวิ่งไล่ตามเอาข้าวปั้นจากแรมโบ้อยู่ แรมโบ้ได้ทีจึงรีบเขมือบข้าวปั้นลงท้องตัวเอง
“ชะ ใช่จ้ะ อี้ผิงเป็นไงมั่งล่ะ สบายดีมั๊ย ?” ฮารุตอบกลับไปแบบตะกุกตะกักเล็กน้อย
“สบายดีจ้ะ แต่ ฮารุดูเหมือนจะไม่สบายนะ หน้าแดงจัดเลย เป็นอะไรรึเปล่า ?” อี้ผิงถามขึ้นอย่างสงสัย แล้วก็หันไปมองที่โกคุเทระบ้าง
“สวัสดีโกคุเทระ นายก็หน้าแดงเหมือนกันนี่นา ไม่สบายทั้งคู่เลยหรอ ?” เด็กๆก็ไร้เดียงสาแบบนี้ล่ะนะ แต่เพราะความไร้เดียงสานี่แหละ ที่ทำให้ทั้งสองยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก
“เป็นอะไรที่ไหนกันเล่า! ฉันแค่.. ร้อนเฉยๆต่างหาก” โกคุเทระพูด พร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น
“ฉันไม่เป็นไรหรอกจ้า อี้ผิงไปเล่นต่อเถอะนะ” ฮารุตอบไปแล้วรีบตัดบททันที อี้ผิงเองก็เหมือนจะนึกได้ รีบวิ่งตามแรมโบ้ แต่ไม่ทันซะแล้ว ข้าวปั้นถูกกินไปเรียบร้อยแล้ว ไม่นานนักสึนะก็เข้ามาพร้อมกับยามาโมโตะและเคียวโกะ ทั้ง 5 จึงเริ่มติวหนังสือกัน โดยที่วันนี้ ไม่มีเสียงทะเลาะของโกคุเทระและฮารุแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น