คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1
เอสติน:อย่าให้ฉันโหด!!!
เอสติน ขอบอก
ฉันมีชื่อว่าเอสติน ฟังดูแปลกๆใช่มั๊ยละมันแปลว่าดวงดาว อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย สถานะมีแฟนแล้ว มีพี่ชาย 2 คน คนที่หนึ่งชื่อเอสต้า และคนที่สองชื่อเอสเตอร์ แม่ฉันเสียไปตั้งแต่พวกเราทั้ง3ยังเด็ก ฉันอาศัยอยู่กับพ่อและพี่ชายมันเลยทำให้ฉันโตมาแบบแมนๆ ที่บ้านฉันประกอบธุรกิจบริษัทรับเหมาก่อสร้างและขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมากพอสมควร พี่ชายทั้งสองเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาโยธา ส่วนฉันตอนนี้อยู่ปี2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธาของมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศที่เข้ายากเชรี่ยๆ
เป็นหญิงเดี่ยวในกลุ่มชายล้วน ในกลุ่มมีสมาชิก8คน ประกอบด้วยฉัน โอเชียน แซค โหน่ง เอเดน โชจิ หนุ่ย ป็อป ไม่ค่อยอยากจะสนิทกับพวกมันเท่าไหร่เล๊ยยยย
(ไอ้ตินคร๊าบบบบบบกรุณาเสด็จออกจากที่นอนแล้วมาทำกิจกรรมของมหาลัยได้แล้วคร๊าบบบบ)ฉันยกไอโฟนออกจากหูทันที เสียงไอ้ฟรอยยังหนวกหูเหมือนเดิมแม้จะไม่ได้เจอกันตอนช่วงปิดเทอมก็เหอะ
"กูง่วง"
(โอ๊ยยยยแมร้งเป็นกันทั้งรองทั้งประธานเลยรึไง่ะเนี่ยห่ะ รุ่นนี้มันจะไปรอดมั๊ย)
"บ่นมากน่ารำคาญ"
(เอสตินมึงมามหาลัยเดี๋ยวนี้แล้วไปลากไอ้ประธานที่อยู่ข้างห้องมึงมาด้วย)
"อือ...ตอนนี้กูอยู่บ้านยังไม่ได้กลับคอนโด"เนื่องจากบ้านของฉันอยู่ค่อนข้างไกลจากมหาลัยป๊ะป๋าเลยซื้อคอนโดไว้ให้อยู่ อันที่จริงมันเป็นคอนโดของพวกเฮียๆที่อยู่ตอนเรียนมหาลัยนะ
(โอ๊ยยยยยยยย)มาองมาโอ๊ยใส่หูกูทำไมเล่าไอ้ฟายเยอร์ คิดถูกคิดผิดว่ะลงเรียนวิศวะเนี่ย
"ไอ้โหน่ง ไอ้แซคมายัง"
(ไอ้โหน่งยังไม่มา ส่วนไอ้แซคยังไม่เห็นหัวมันเหมือนกันมันเป็นประธานรุ่นนะเว้ย)เออขนาดฉันเป็นรองประธานยังไม่ไปเลย
"กี่โมงแล้ว"
(10.45แล้ว)
"ตอนเที่ยงเจอกัน เดี๋ยวจะลากไอ้พวกนั้นไปให้ด้วยแค่นี้นะบาย"
(ไอ้ตินเดี๋ยว..ติ่ด)ฉันกดตัดสายจากไอ้ฟรอยเลขานุการของสโม อ่าาฉันลืมบอกไปใช่มั๊ยว่าฉันเป็นรองประธารสโมสรณ์นักศึกษาคณะวิศกรรมศาสตร์นะ ส่วนประธานก็ไม่ใช่ใครไอ้แซค คุณเพื่อนรักของฉันเองซึ่งตอนนี้มันก็คงนอนหลับเป็นตายอยู่แน่ๆและมันคงจะปืดโทรศัพท์เพื่อไม่ให้คนติดต่อมันได้แน่ๆ ส่วนไอ้โหน่งก็คงเหมือนกันเดี๋ยวค่อยโทรหาไอ้ป็อปเอาก็ได้
และแล้วฉันก็ตื่นขึ้นมาจนได้ด้วยเวลา 11.15 เอ้าปรบมือ ใช่เรื่องมั๊ยอย่างแรกต้องอาบน้ำแต่งตัวก่อน ฉันใช้เวลาอาบน้ำ15นาที เอ้าแค่แปรงฟัน ล้างหน้า ถูสบู่จะเอาอะไรมาก ฉันแต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์เสื้อยืดคอวีสวมทับด้วยเสื้อช็อป ส่วนหน้าตาฉันขี้เกียจแต่งเพราะงั้นหน้าสด ฉันคว้ากระเป๋าเป้มาสะพายฉันชอบเป้มากกว่ากระเป๋าถือนะ โดยไม่ลืมหยิบแว่นทรงกลมของ chrome hearts มาสวมใส่ด้วย
ฉันหยิบไอโฟนออกมาจากกระเป๋าเป้ก่อนจะกดไล่หารายชื่อของคุณแฟน ฉันกดโทรออกแล้วรอสักพัก อ่อแฟนฉันชื่อโอเชียนเป็นหนึ่งในแก๊งของฉันเอง เจอกันครั้งแรกตอนฉันซ่อมหลังคาตึกอยู่ เรียนคณะแพทยศาสตร์เป็นฝาแฝดกับไอ้แซคนิสัยต่างกันมาก แต่ฉันก็ไม่อยากว่าอะไรไอ้แซคมันมากหรอกเพราะนิสัยเหมือนกันเดี๋ยวจะเข้าตัวเองกร๊ากกกก
(ว่าไง)
"อยู่คอนโดป่าวว่ะไอ้แซคมันออกไปมหาลัยยัง"
(ไม่รู้สิฉันออกมาก่อนนะ)มึงเป็นฝาแฝดกันจริงๆป่ะเนี่ย
"คือแบบถ้าปลุกมันไปมหาลัยด้วยกันมันจะเป็นไรมั๊ยเนี่ย"
(ฉันรีบนะวันนี้เปิดเทอมวันแรกแล้วไอ้แซคมันขี้เซาจะตายแล้วตอนนี้อยู่มหาลัยหรอ)
"เปล่า พึ่งตื่นนะต้องลากเอาไอ้แซคกับไอ้โหน่งไปมหาลัยด้วย ไอ้ฟรอยมันสั่งไว้"ฉันกดวางสายจากไอ้โอเชียน ก่อนจะต่อสายไปหาไอ้ป็อปทันที ไอ้ป็อปกับไอ้โหน่งเป็นลูกพี่ลูกน้องอ่ศัยอยู่ที่ทาวน์เฮาส์เดียวกัน ซึ่งเป็นที่ที่พวกฉันไปดื่มด้วยกันบ่อยๆ
(โทรมาทำสากไรว่ะเอสติน)น้ำเสียงงัวเงียมาเลยนะมึงไอ้ป็อป
"อยู่บ้านกับไอ้โหน่งช่ะ"
(เออทำไม)
"ไม่ทำไมหรอกมึงตื่นแล้วลากไอ้โหน่งไปที่คณะวิศวกรรมด่วน"ไอ้ป็อปมันเรียนนิเทศ สาขาภาพยนตร์ ส่วนไอ้โหน่งเรียนวิศวะ สาขาคอม
(ถ้ากูไม่รับสายกูก็จะไม่ต้องตื่นใช่มั๊ย)
"ฉลาดมากเพื่อนเลิฟเร็วๆด้วยละกูไม่อยากรับมือกับไอ้หอยฟรอยคนเดียว"เฮ้อ ถ้าในกลุ่มไม่มีโอเชียน โชจิ เอเดน กลุ่มนี้จะมีสาระป่ะถามจริง
ฉันแว๊นฟีโน่ลูกรักออกมาจากบ้านแล้วขับไปที่คอนโดของฉันทันที ฉันไม่ได้จะไปห้องฉันหรอกห้องข้างๆของฉันต่างหากแม้จะไม่อยากไปเท่าไหร่ ถึงโอเชียนจะรักความสะอาดมากเท่าไหร่แต่แซคก็มีสกิลการที่ทำให้รกมากกว่าเข้าใจนะ ฉันกดออดห้องของพวกแฝดรัวๆเห้ยหรือว่าจะตายไปแล้ว อย่าพึ่งตายนะเว้ยแซคกูไม่อยากเป็นประธานรุ่น
"ไอ้แซคตายรึยังงงง"
"......"สิ่งได้รับมาคือความเงียบ
"แซคเร็วๆมันจะบ่ายแล้วนะเว้ยยยยยย เควี้ยแซค"หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ ก่อนที่ไอ้แซคมันจะเสนอหน้าออกมามันอยู่ในชุด กางเกงยีนส์เสื้อยืดคอวีสีดำสวมทับด้วยช็อปสภาพกำลังใส่รองเท้า หน้าตาเหมือนคนยังไม่ตื่น
"มึงเมาค้างหรอนี่ถามจริง"
"กูง่วงชิปเมื่อกี๊เผลอเปิดโทรศัพท์ไอ้เชี่ยฟรอยใส่มาไม่ยั้งเลยเหี้ยกูมึน"
"กูก็ไม่ต่างกับมึงหรอกสหายเอ๋ยและตอนนี้มึงกับกูควรจะไปมหาลัยได้แล้วนะเฟ้ย"ฉันเดินนำไอ้แซคมาที่ลิฟท์ พวกเราเดินตรงไปที่ฟีโน่ของฉัน เนื่องจากคณะแพทย์กับคณะวิศวะมันอยู่กันคนละฟากตอนปี1ฉันเลยให้ไอ้แซคติดรถไปมหาลัยทุกวัน
กว่าจะถึงมหาลัยก็ปาไปเที่ยงกว่าแล้ว และทันทีที่มาถึงก็ได้รับคำสรรเสริญจากทุกคนกันทั่วหล้า(ประชด) โดนไอ้เลขาสโมด่าแบบไม่บันยะบันยังก่อนจะพากันไปหาอะไรกินที่แคนทีนคณะเกรงว่าถ้าจะไปกินที่แคนทีนกลางคงไม่ทัน
"ปีนี้หญิงเยอะกว่ารุ่นเราเนอะ"ฉันพูดพร้อมกับกวาดสายตาไปทั่วๆ ปีนี้เห็นไอ้ฟรอยมันบอกว่ามี 45 คนปีฉันมีแค่30คนเองแถมภาคโยธามีฉันคนเดียวอีก
"เออแต่ปีนี้ภาคโยธาหญิงน้อยกว่ารุ่นเรานะ"ห่ะ ฉันหันไปมองไอ้โหน่งแทบจะทันที คือแบบภาคโยธารุ่นของฉันเป็นรุ่นเดียวที่มีผู้หญิงหลงมา ซึ่งคือฉันคนเดียวงั้นปีนี้ก็...
"โยธาปีนี้ร้างผู้หญิงอีกแล้วหรอว่ะ"พี่กายพี่รหัสฉันพูดจบก็วางข้าวลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงข้างๆฉันทันที เห้อนี่มันถึงขั้นขาดแคลนแล้วนะเฟ้ยผู้หญิงนี่ก็อะไรฟ่ะ ไปแต่คณะสบายๆแมร้งไม่ลุยเลย(พาล)
"เออไอ้ตินมึงอ่ะผู้หญิงหนึ่งเดียวในโยธาทำตัวให้เป็นผู้หญิงหน่อยดิวะ เป็นถึงรองดาวมหาลัยหน้าก็สวย"พี่เอ็มพูดเฉยๆก็ได้ไม่ต้องจิ้มหมูไปแดก ก็อย่างว่าฉันเป็นอดีตรองดาวมหาลัย =_=
"พี่เอ็มบอกให้พี่กายเลิกใช้ฉันทำเรื่องถึกๆก่อนเหอะ พี่รหัสบ้าไรว่ะรับน้องด้วยการให้ไปซ่อมหลังคานะห่ะ"เหอะๆซ่อมหลังคา แบกปูน ยกอิฐ ผสมปูน ทำมาแทบจะทั้งหมดแล้วเหอะเนี่ย
"เอ้ามึงเป็นน้องที่ดีต้องเชื่อฟังพี่เหอะ"
"มันใช่หรอ"
"เออไอ้แซคไอ้ตินตอนเช้ามึงไม่ได้มาใช่มั๊ยว่ะกูสั่งซ่อมดีมั๊ยเนี่ย"น่านนนนน ไม่เคยหรอกผู้หญิงอ่ะ พี่รหัสกูโหดสาสสสสสส
"ไอ้โหน่งด้วยเหอะพี่"
"รุ่นนี้แมร้งล่มจมเออตอนบ่ายมาก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วจะมาทำหอยหลอดอะไร"ถามได้ตรงจุดมากพี่เคนให้10กระโหลก
"ไอ้ฟรอยอะพี่แมร้งโทรไปตามจิกให้มาเนี่ย ชาติก่อนเกิดเป็นไก่รึไงกูอยากจะรู้"เห็นด้วยคะเพื่อนแซค
"เออพรุ่งนี้ไอ้โหน่งมึงเข้าว้ากน้องด้วย ส่วนไอ้แซคกับเอสตินพรุ่งนี้เข้าห้องสโมเช้าหน่อยพี่มีเรื่องจะคุย"พี่เคนพูดจบก็ก้มหน้าลงไปซู๊ดเส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างเอร็ดอะร่อย ทำไมดูอุบาทว่ะ
"พี่วอร์มติดต่อพี่เอิร์ธได้ป่ะ"ไอ้โหน่งมันหันไปถามพี่รหัสมันที่นั่งเงียบไม่ไหวติง พี่วอร์มพูดน้อยต่อยหนักตีนหนักด้วย
"ถามหามันเพื่อ"
"ตอนปิดเทอมผมกลับบ้านที่เชียงใหม่อ่ะเฮียแกฝากซื้อของนี่ก็ซื้อมาให้แต่ลืมเอามาเลยถามว่าเห็นพี่เอิร์ธรึเปล่า"
"ไอ้เอิร์ธมันยังไม่กลับจากบาหลีเลยเห็นมันบอกว่ามันติดลม"พี่เอิร์ธประธานปี3ยังไม่กลับจากบาหลี เหตุเพราะติดลมรู้อย่างงี้น่าจะไปอิตาลี่กับป๊ะป๋าด้วยจะได้มีข้ออ้าง
"เออพวกมึงช่วงนี้จะไปไหนก็ระวังด้วยละพวกกูพึ่งมีเรื่องกับวิศวะมหาลัยอื่น"พี่รหัสฉันนี่ก็ซ่าจริง เรียนวิศวะต้องอดทนสิบล้อชนต้องไม่ตาย
"มหาลัยไหนอีกพี่จะได้ระวังตัวถูก"ไอ้โหน่งมันถามขึ้น เพราะกิ๊กมันอยู่แทบจะทั่วกรุงเทพ
"มหาลัย...นะมึงก็อย่าพึ่งไปหากิ๊กมึงละรอให้เรื่องซาลงถ้ามันไม่มีเรื่องกับไอ้สายฟ้าต่ออีกนะ"เหอะๆพี่สายฟ้าตัวจี๊ดของคณะวิศวะ กินเหล้าที่ไหนโดนกระทืบที่นั่นตลอด
หลังจากที่คุยกันไปเรื่อยพวกพี่ๆก็นึกครึ้มอะไรไม่รู้พาพวกเราไปเลี้ยงหนัง ซึ่งมันโคตรหายากมากๆที่คุณพี่รหัสจะเลี้ยงหนัง พวกเราเลยตอบตกลงแทบจะทันที ทำให้ตอนนี้บุคคลหน้าตาดีโคตรๆมาเดินอวดโฉมกันอยู่ที่ห้างให้พวกสาวๆแทะเล็มเล่นโดยมีฉันเป็นหญิงเดี่ยว สมาชิกประกอบไปด้วย ฉัน ไอ้แซค ไอ้โหน่ง พี่กาย พี่เอ็ม พี่เคน พี่สายฟ้า(ตัวเรียกเท้า) สาวๆหลายคนมองมาที่ฉันอย่างอิจฉาก็แน่ละผู้หญิงคนเดียวในดงผู้ชาย
"กูอยากดูเรื่องนี้อะมึง"พี่กายพูดพร้อมกับชี้ไปที่โปสเตอร์หนังสยองขวัญ
"กูว่าเรื่องนี้หนุก"พี่สายฟ้าชี้ไปที่โปสเตอร์หนังรัก ถุยยยคุณพี่หน้าอย่างเถื่อนดูหนังรักนี่นะ
"ผมอยากดูการ์ตูนว่ะพี่"ไอ้โหน่งชี้ไปที่อนิเมชั่นเรื่องดัง โดยมีฉันพยักหน้าส่งเสริมด้วยเรื่องนี้ฉันชอบมากอย่างมันส์อะบู๊กันเลือดสาด
"ไรว่ะอยู่มหาลัยนี่มึงดูการ์ตูนหรอ"แหมเอาซ่ะเจ็บ
"ไอ้วอร์มเอาไง"พี่เคนหันไปถามพี่วอร์มที่นิ่งเงียบ ฉันส่งสายตาไปให้อย่างเต็มรัก คุณพี่น้องอยากดูเรื่องนี้จริงๆนะเว้ยและดูเหมือนจะเป็นผลเมื่อพี่วอร์มหันมาสบตากับฉันปิ๊งๆก่อนจะยกนิ้วชี้ไปที่โปสเตอร์อนิเมชั่นที่ฉันอยากดู
"รักพี่วอร์มวะ ตามนี้นะเฮียไปซื้อบัตรให้น้องหน่อย"พี่กายหันมาทำปากขมุบขมิบให้ฉันก่อนจะเดินไปซื้อบัตร
"ไอ้วอร์มแมร้งกูเห็นมึงชอบดูการ์ตูนเรื่องนี้มานานละ"
"ก็กูชอบ"
"อีกตั้ง30นาทีไปหาเดินเล่นกันเหอะ"พี่สายฟ้าออกความคิดเห็นพวกเราเลยยกโขยงกันไป ฉันโหน่งกับพี่วอร์มขอแยกตัวออกมาเพราะจะไปซื้อหนังสือการ์ตูน คนอื่นๆก็พาก็ไปที่เกมส์เซ็นเตอร์
"เอสตินอ่านเรื่องนี้ด้วยหรอ"พี่วอร์มมองฉันแบบอึ้งๆที่เห็นฉันถือการ์ตูนอะไรอยู่ รู้จักกันมาก็นานนะพี่ไม่รู้นิสัยน้องเลยรึไงเนี่ย
"ไม่อ่านจะซื้อหรอพี่"พอฉันพูดจบพี่วอร์มแกก็ส่งสายตาอาฆาตมาให้ทันที น่านนนนกวนนิดกวนหน่อยก็ไม่ได้ พวกเราเดินเลือกกันอยู่นานจนได้ของที่ต้องการแล้วเดินไปหาพวกพี่ๆที่รออยู่ และสิ่งที่พวกเราพบเจอคือพี่สายฟ้ามีเรื่อง คุณพี่มึงเนี่ยเรียกหาเท้าจริงๆเลย
"มึงไอ้เหี้ยสายฟ้ามึงกล้ามากนะที่ไปฟาดหัวน้องชายกู"ฝั่งนั้นชี้หน้าพี่สายฟ้าก่อนจะพูดเสียงเหี้ยม คงเป็นคนที่พี่สายฟ้าไปมีเรื่องไว้แน่ๆ
"น้องชายมึงอ่อนเอง เดินมาให้กูฟาดหัวทำด๋อยไรเล่า"
"มึงอย่าอยู่เลย"แต่ก่อนที่ทั้งสองจะกระโจนเข้าหากันพี่เคนซึ่งควบคุมอารมณ์ได้ดีที่สุดก็ยกมือเบรกไว้ก่อนจะพูดเสียงเหี้ยม
"พอเลยมึงอย่ามีเรื่องกันเรื่องมันแล้วก็แล้วไปปะ"
"ถ้าน้องชายมึงโดนบ้างจะทำยังไง"
"หึคงไม่ว่ะเพราะน้องกูไม่อ่อน"
พลั่ก สิ้นเสียงพี่เคนฝั่งนั้นก็ฟาดหมัดมาที่ใบหน้าของพี่เคนทันที ฉันเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ถึงพี่เคนจะใจดีขนาดไหนแต่ดีกรีความโหดนะมียิ่งกว่าพี่สายฟ้าซ่ะอีก
"เอ้าเหี้ยแล้วมึง"เอาละคุณพี่ซัดกันนัวเลยทีเดียวถามว่าฉันทำอะไรอยู่ตอนนี้คำตอบคือ ดึงอิพี่วอร์มไว้ไม่ให้เข้าไปร่วมวง พี่วอร์มองค์ลงละซวยยกห้างไม่อยากจะพูด
ปี๊ดๆ ฉันหันไปตามเสียงก่อนจะเจอยามรักษาความปลอดภัยที่กำลังมุ่งหน้ามาอยู่ ไอ้โหน่งกับไอ้แซครีบไปห้ามพวกพี่ๆไว้ก่อน ส่วนฉันก็กระซิบบอกพี่วอร์มให้พาพวกพี่ๆโกย ไอ้โหน่งที่แยกพี่กายได้ก็รีบพากันวิ่งไป ส่วนฉันก็รีบวิ่งไปกับไอ้แซคไปที่ลานจอดรถแล้วกระโดดขึ้นฟีโน่แว๊นออกมาทันที
"เหี้ยพี่เคนแมร้งน่ากลัว"
"เหอะๆมึงไม่เห็นหน้าพี่วอร์มหรอกไอ้ห่าแซคโคตรจะโหดดึงไว้นี่แทบจะปลิว"นึกถึงแล้วยังขนลุกไม่หายพี่ท่านน่ากลัวจริงๆ
RrrrrRrrrr
ฉันหยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋าเมื่อเห็นเบอร์คนที่โทรเข้ามาแล้วก็ทำเอาใจเต้นแปลกๆ หมอนั่นรู้เรื่องฉันแล้วแหงแซะจะโดนบ่นมั๊ยเนี่ย แต่สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจรับสายที่โทรเข้ามาเพราะเกรงว่าปลายสายจะอกแตกตายซ่ะก่อน
"ว่า"
(เอสตินอยู่ไหน)จะกดเสียงต่ำทำไมไอ้หมอ เวลาพูดเสียงนิ่งๆแบบนี้เป็นอะไรที่ฉันกลัวที่สุดละ
"อยู่บนรถกับแซค"ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกฝ่ายที่ดังลอดเข้ามา พร้อมกับมีเสียงของโชจิกับเอเดนด้วย สงสัยจะอยู่คณะอักษรมั้ง
(เรามีเรื่องต้องคุยกันนะมาที่คณะอักษรด้วย)
"เออๆเรียกไอ้โหน่งกับไอ้ป็อปมาด้วยละ"ฉันกดตัดสายหยิบสมาร์ทโฟนใส่กระเป๋าตามเดิม พร้อมกับบอกจุดหมายใหม่ให้ไอ้แซคอีกครั้งก่อนที้พวกเราจะแว๊นเข้ามหาลัย พอเข้าเขตคณะอักษรที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลคณะวิศวะ พวกนักศึกษาต่างก็จ้องมองมาทางพวกฉันอย่างสนอกสนใจแน่ละท่อรถฉันเสียงเบาซ่ะที่ไหนละ
"ว๊าวๆนั่นมันใครกันนะ”
“นั่นมันเด็กของพวกไอ้เอิร์ธนี่หว่า"ฉันกับไอ้แซคพร้อมใจกันหันไปตามเสียงถ้าลองได้มีชื่อพวกเฮียมาเอี่ยวนี่ไม่พ้นอริเฮียมันเป็นแน่แท้ และก็เป็นจริงๆตัวจี๊ดของคณะสถาปัตยกรรม คาร์ทกับคาร์ลบุคคลที่มีเรื่องกับเฮียทุกครั้งที่เจอหน้า ว่าแต่มาทำอะไรที่คณะบริหารว่ะ
“เอ้า ไอ้เอิร์ธไม่ได้สอนหรอวะว่าเจอรุ่นพี่ต้องทำยังไง”
“สวัสดีคะ”ฉันพูดเสร็จก็รีบลากไอ้แซคให้หนีทันทีอยู่นานไม่ดีเดี๋ยวจะมีเรื่องกันได้ ฉันเดินมาที่ม้าหินอ่อนที่มีพวกไอ้หล่อโอเชียนนั่งอยู่
“ไอ้โหน่งยังมาไม่ถึงหรอวะ”ฉันทรุดตัวนั่งลงข้างๆโอเชียนก่อนจะถามหาคุณเพื่อนที่แยกตัวกันไปตั้งแต่อยู่ห้าง
“เอสตินมีเรื่องอีกแล้วใช่มั๊ย”โอเชียนถามฉันเสียงเครียด ฉันหันไปขอความช่วยเหลือจากแฝดผู้น้องของโอเชียนทันที
“เรื่องนี้แซคจะไม่ยุ่ง”น่านนนน ฟายเยอร์เพื่อนเวรนี่ ฉีนส่งสายตาอาฆาตไปให้ไอ้แซคก่อนจะหันมาหาคุณแฟนที่มองมาด้วยสายตาดุๆ
“ฉันไม่ได้มีเว้ย แต่พวกที่มีนะเฮียสายฟ้าต่างหาก”
“เห้อ..ฉันห่วงเธอจริงๆนะซิ่วไปเรียนคณะอื่นเถอะขอร้อง”ตีนฉันกระตุกถีบเข้าที่หน้าแข้งของอีกฝ่ายอย่างจัง จ้องมองอย่างเอาเรื่อง
“เคยคุยกันแล้วไงว่าจะป็นวิศวกร”โอเชียนถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะยื่นมือมายีหัวฉันเบาๆ ฉันเตะไปที่หน้าแข้งของโอเชียนอีกครั้ง
“เพื่อนเล่นหรอ”
“ไม่ใช่เพื่อนครับเป็นแฟน”แหนะมียงมีหยอดนะเห้ยยย ฉันหยิกเข้าที่แก้มของโอเชียนเบาๆก่อนจะจิ้มลงไปที่หน้าผากของอีกฝ่าย
“ลองเป็นแค่เพื่อนดิ”ฉันชกเบาๆไปที่แขนของโอเชียนอย่างหมั่นไส้ ส่วนพวกที่เหลือนะหรอนั่งทำปากขมุบขมิบอยู่นั่นและ สักพักไอ้โหน่งก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าอารมณ์เสียสุดๆ ก่อนที่มันจะทิ้งร่างควายๆของมันนั่งข้างไอ้ป็อปลูกพี่ลูกน้องมัน
“อ้าวมึง ไปแดกรังแตนมาจากไหนว่ะหน้าตาเหมือนคนขี้เกียจหายใจ”ไอ้ป็อปมันถามซี้มัน คำเปรียบนี่เนาะ
“เมื่อกี๊กูเจอพวกไอ้คาร์ลไอ้คาร์ท แมร้งมันมาทำหอกอะไรคณะนี้ว่ะ”
“คาร์ลเป็นแฟนกับพี่พลอยอดีตดาวคณะนี้นะ”หนุ่งเงยหน้าจากแม็คบุ๊กขึ้นมาตอบก่อนจมันจะก้มลงไปต่อ
“เห้ยตินแฟนเก่าเฮียเอิร์ธใช่ป่าววะพี่พิมเนี่ย”โหน่งพูดขึ้นมาทันทีที่โชจิพูดจบฉันคิดตามก่อนจะนึกออก แม่อดีตดาวคณะบริหารผู้ที่หวิดจะมีเรื่องกับฉันแทบจะทุกครั้งที่เจอกัน
“อ๋อ..นี่ถึงขนาดแย่งแฟนเฮียเลยเฮียมันยังไม่เลิกป่าวว่ะ”แซคพูดเสริมส่วนฉันเริ่มจะหวั่นๆเหอะๆ ถ้าประธานปี3มันโกรธขึ้นมาไม่ทำลายมหาลัยเลยอ่อวะ พี่พิมแมร้งก็ใจง่ายแค่อิพี่เอิร์ธมันกลับบ้านเกิดช่วงปิดเทอมก็เปลี่ยนไปหาชายอื่น นี่รักเฮียกูจริงปะเนี่ยถามจริง
“เออแล้วเรียกมาทำด๋อยไรเนี่ย”ฉันถามพลางดูดน้ำโค้กของโอเชียนไปด้วย โชจิเงยหน้าจากหนังสือก่อนจะตอบฉัน
“วันนี้อนิเมชั่นเรื่องใหม่เข้าไปดูกัน”
“เออวันนี้ว่าจะได้ดูอยู่แล้วเชียวแต่พวกเฮียๆดันมีเรื่องก่อน”ฉันพูดขึ้นมาอย่างนึกได้รู้สึกเสียดายนิดๆแหะ ฉันนั่งเล่นกันซักพักไอ้หนุ่ยมันก็ขอตัวไปทำงานของมันต่อและจะแวะไปส่องสาวนิเทศกับไอ้ป็อปด้วย โชจิกับเอเดนก็มีรับน้องตอนบ่าย ไอ้โหน่งขอตัวไปส่องสาวกับไอ้หนุ่ย ไอ้แซคแวะไปแกล้งน้องที่คณะ ส่วนฉันตอนนี้กำลังนั่งกินขนมพร้อมกับเล่นเกมส์ในแม็คบุ๊กของคุณแฟนไปด้วยฉันกับโอเชียนอยู่ที่คาเฟ่แถวมหาลัย จะเรียกคาเฟ่ก็ไม่ถูกเพราะตกดึกมันก็กลายเป็นบาร์เหล้าขนาดย่อม และเจ้าของร้านก็คือเฮียเอสเตอร์พี่ชายคนรองของฉันนั่นเอง เป็นธุรกิจตอนที่เฮียเรียนอยู่มหาลัยแต่ส่วนมากเฮียมันไม่ค่อยจะเข้าร้านหรอกเพราะต้องออกไปแคมป์งานบ่อยๆ
“เอ้าน้องตินมานานแล้วหรอคะ”ฉันเหลือบตามองพี่รินคนที่ชอบมาเกาะแกะเฮียฉันบ่อยๆ ทั้งที่เฮียมันก็มีแฟนแล้วอย่างเฉยชา ก่อนจะเล่นเกมส์ต่อฉันว่าจะต้องอัพเวลให้แซงไอ้เอเดนให้ได้ พอเห็นว่าฉันเงียบพี่รินก็ดูจะหน้าเสียไปหน่อยเป็นจังหะเดียวกันกับที่โอเชียนเอานมสดปั่นมาให้ฉันพอดี
โอเชียน ขอบอก
สวัสดีครับทุกคนผมชื่อโอเชียนครับ^^(ยิ้มหล่อ)เป็นแฟนกับเอสตินสาวสวยสุดโหดประจำคณะวิศวกรรม เอสตินเป็นผู้หญิงที่สวยมากจริงๆถ้าตัดนิสัยโหดๆและห่ามๆของตัวเองไปนะอยากรู้ความโหดของเอสตินมั๊ยละครับ เด็กปี 1 ที่พี่ปี 3 กลัว ตอนผมเจอเอสตินครั้งแรกความรู้สึกที่กระแทกเข้ามาคือสวยมากๆ แต่หลังจากที่ได้รับรู้นิสัยของเอสตินผมว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนมีเสน่ห์มาก นอกจากจะไม่งี่เง่าแล้วเธอยังรู้จักวางตัวและฉลาดมากๆ ไอ้แซคมันเคยนินทาเอสตินว่าชาตินี้คงไม่มีแฟนเพราะเอสตินฉลาดเกินไป แต่พอหลังจากนั้น2วันเอสตินก็มาบอกชอบผม มันทำให้ผมอึ้งจริงๆเพราะผมก็กำลังจะไปบอกเธออยู่พอดี ผมยังจำได้ดีวินาทีที่เธอบอกกับผมตอนนั้นผมกับเธอกำลังนั่งกินไอติมกันอยู่2คน
“โอเชียนกูชอบมึงว่ะ”วินาทีนั้นเหมือนโลกทั้งใบมันหยุดหมุน หัวใจผมพองโตและเพิ่มอัตราการเต้นอย่างบ้าคลั่ง แตกต่างจากเอสตินที่ดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับอะไรสักอย่าง
“o_o”
“จะอึ้งทำหอกอะไรเนี่ย” สาบานเถอะครับว่านี้คือคำพูดของคนที่บอกว่าชอบผม
“แค่ชอบป่าวว่ะไม่ได้จะเอามาทำสามีไม่ต้องอึ้ง ทำอย่างกับไม่เคยเจอคนบอกชอบงั้นแหละ หึไอ้อ่อน”ว่าจบคุณเธอก็แสยะยิ้มแบบสมเพชมาให้ผม ผมมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา ผมสีบลอนด์ทองโดดเด่น หน้าตาที่ไร้การแต่งหน้าแต่กลับดูใสและดูโดดเด่น เสื้อยืดสีดำสกรีนลายกราฟฟิคเท่ๆ กับแจ๊กเก็ตหนังสีดำ กางเกงยีนส์สีซีดขาดๆ แว่นตาทรงกลมที่สวมใส่อยู่ หูที่เจาะ3รูและใส่จิลเท่ๆทุกสิ่งบนร่างกายล้วนแต่เป็นแบรนด์เนมทั้งนั้น
“นี่จะไม่พูดอะไรเลยรึไงหรือว่าอึ้งอยู่นะ”นิ้วชี้เรียวจิ้มมาที่หน้าผมเบาๆ
“เอสตินฉันว่าฉันก็ชอบเธอนะเป็นแฟนกันนะ”ปฏิกิริยาที่ผมได้รับคือสีหน้างงๆของเอสติน ก่อนที่คิ้วเรียวๆจะเลิกขึ้นสูง
“เห้ยแค่ชอบไม่ได้จะเอามาเป็นแฟน”
“แต่ฉันอยากดูแลเธอนะเอสติน”
“โตแล้วดูแลตัวเองได้เหอะ”ดูคำตอบสิครับผู้หญิงคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ แต่ก็นะนี่เป็นจุดต่างที่ผมชอบเธอสุดๆ
“แล้วทำยังไงถึงจะยอมคบละ”
“ต้องรักกันก่อนดิถึงจะคบได้ถามยากถามเย็นเนอะ”นั่นละครับทำให้ผมต้องตามจีบเธออยู่นานกว่าจะรู้สึกรักผมขึ้นมา
ตอนนี้ผมกำลังรอนมสดปั่นกับชาเขียวของผมอยู่ เอสตินไม่ชอบกินกาแฟแต่ชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดบนโลก เมื่อปีที่แล้วไปบ้านไอ้โหน่งที่เชียงใหม่พ่อแม่มันต้มเหล้าโทให้กินครับ เอสตินกับไอ้แซคนี่รีบวิ่งเข้าหาเลยผมห้ามไม่ทันเลยต้องปล่อยให้กิน ผมหันกลับไปมองเอสตินที่นั่งเล่นแม็คบุ๊กของผมอยู่ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน ปากบางๆนั้นเม้มเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ทุกการกระทำของเอสตินมันช่างหน้าดูจริงๆสำหรับผม สายตาผมเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งผมสีน้ำตาลอ่อนดัดลอน ใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางราคาแพงเธอคือพี่ริน รุ่นพี่ปี5 คณะผมเองครับว่าแต่คุยอะไรกันกับเอสตินนะแต่ดูเหมือนไอ้โหดของผมจะไม่สนใจสักนิด
“ชาเขียวกับนมสดปั่นได้แล้วคะน้องโอเชียน”ผมรับถาดมาจากพี่บิ๋มก่อนจะเดินไปหาเอสตินที่นั่งไม่สนใจโลกอยู่ พอผมไปถึงพี่รินก็หันมาทักผมเสียงใสเชียว
“อ้าวน้องโอเชียนมาทำอะไรหรอค่ะ”พี่รินส่งยิ้มหวานมาให้ผม ผมเหล่ตามองเอสตินก็เห็นว่าไม่ได้สนใจอะไรจึงยิ้มตอบพี่เค้าไปพอเป็นพิธีแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามของเอสตินพร้อมกับยื่นนมปั่นไปให้ด้วย
“น้องโอเชียนมากันแค่สองคนหรอคะ”พี่รินยังไม่ละความพยายามหลังจากที่เห็นผมไม่พูดอะไรผมไม่ค่อยอยากจะพูดอะไรมากกลัวไอ้โหดงอนแต่ว่าพอมาคิดดูดีๆเอสตินแทบจะไม่เคยหึงผมสักครั้งพอถามก็บอกว่า “จำเป็นหรอว่ะก็นายไม่ได้เล่นด้วยนิแล้วทำไมจะต้องหึง” เป็นไงละไอ้โหดของผมน่ารักมั๊ย
“ครับพี่ริน”ผมตอบไปตามมารยาทผมไม่ชอบที่จะฉีกหน้าใครแบบเอสตินกับไอ้แซคนะครับ เพราะเอสตินกับแซคนิสัยมันเหมือนกันมากแทบจะเป็นฝาแฝดกันเลยมันทำให้ผมทำตัวได้ถูกเวลาอยู่กับเอสติน
“จะเป็นไรมั๊ยคะถ้าพี่จะขอ..”
“สลัดดดด โอ๊ยโดนkillเลย เจ๊โต๊ะอื่นมันก็มีเยอะแยะป่ะแล้วนี่เห็นมั๊ยตายเลยโดนไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ถ้าเก็บเวลไม่ทันทำไงห่ะ”พี่รินเริ่มหน้าซีดทีละนิดเพราะเอสตินตอนนี้ช่างหน้ากลัวถ้าใครได้ยินข่าวลือของเอสตินก็กลัวทั้งนั้นและครับ ไอ้โหดของผมดันองค์ลงซ่ะแล้วสิ ผมก้มดูนาฬิกข้อมือก็พบว่าใกล้จะถึงเวลาที่นัดกันไว้แล้ว
“เอสตินนี่ได้เวลาแล้วนะ”
“เออจริงด้วยรีบไปเหอะ”
พวกเราดูหนังเสร็จเอสตินก็เกิดอาการวอนท์แว่นมากๆเจ้าตัวไม่พูดพล่ำทำเพลงเดินดุ่มๆไปหยิบแว่นมาแล้วจ่ายเงินทันที และตอนนี้กำลังเลือกกางเกงยีนส์อยู่ ส่วนคนอื่นๆมันหายไปไหนก็ไม่รู้แล้วสิ ผมมองเอสตินที่กำลังขะมักเขม้นในการเลือกกางเกงอย่างยิ้มๆ ผมละสายตาจากเอสตินก่อนจะไปสะดุดกับร้านสกรีนเสื้อที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“เอ้าเสร็จแล้วป่ะ”แรงสะกิดจากด้านหลังพร้อมกับเสียงหวานๆของเอสตินลอยเข้ามา ผมหันไปฉีกยิ้มกว้างให้ก่อนจะคว้ามือเรียวเล็กของอีกฝ่ายมากุมไว้
“เอสตินทำเสื้อคู่กันป่ะ”
“จำเป็น”
“จำเป็นสิมาเถอะน่า”ผมลากเอสติน ไปร้านสกรีนเสื้อก่อนจะเลือกเสื้อยืดมา 2 ตัว ผมรับปากกาจากเจ้าของร้านก่อนจะส่งให้เอสตินไป
“เขียนว่าไรดีว่ะ”เอสตินนั่งยองๆตั้งเข่าขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะหยิบกระดาดมาวางไว้ ผมนั่งลงข้างๆพร้อมกับเริ่มคิดไปเรื่อยๆไอ้หวานๆเลี่ยนๆนะเอสตินไม่เอาหรอกผมรู้ ผมเบนสายตาไปมองดูว่าเอสตินเขียนคำว่าอะไร
“มองไรๆ”ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พร้อมกับจรดปากกาเขียนลงไปก่อนจะยื่นให้พี่เจ้าของร้าน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกผมมารับเสื้อนะครับ”
“โอเคเดี๋ยวพี่เก็บไว้ให้”ผมเดินจูงมือเอสตินมาเรื่อยๆมีผู้ชายหลายคนที่มองมาที่เอสตินนะครับ แต่พอเห็นมือที่ประสานกับผมอยู่ก็หันหน้าหนีไปที่ผู้ชายมองขนาดนี้คงเพราะส่วนหนึ่งเอสตินถอดช็อปไว้ที่รถ
“นี่ไม่อยากรู้หน่อยหรอว่าเขียนว่าอะไร”ผมจิ้มเบาๆไปที่แก้มของเอสติน เจ้าตัวเลิกคิ้วข้างหนึ่งก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
“เดี๋ยวก็ได้รู้อยู่ดีนิ”
“ไม่อยากรู้จริงดิ”
“อ่าห่ะ”
“แต่อยากบอกนะฉันเขียนว่า....”ผมก้มลงไปกระซิบเบาๆก่อนจะฉวยหอมแก้มเอสตินไปหนึ่งที เจ้าตัวกระพริบตาปริบๆก่อนที่มือเรียวจะง้างขึ้น ผมกระโดดหนีก่อนจะออกแรงวิ่งหลบเอสตินที่เลือดขึ้นหน้าอย่างโกรธหรืออายก็ไม่รู้
“รักสาวเสื้อช็อป”
“รักหนุ่มเสื้อกาวน์”
*****************************************************************
อาจไม่สนุกเท่าที่ควรนะคะ
เพราะเป็นตอนแรก
ความคิดเห็น