คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เมื่อพบกาน ^o^
Chap 1 ^o^ เมื่อพบกัน
ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง
“ เอ่อ.. มันจาดีหรอคับ วันนั้นอาจารย์ใหญ่ก็เกือบจับได้แล้วนะคับ” T^T
“เอาเหอะหน่าลุง ผมไม่ยอมให้จารย์จับได้หรอก”
“....”
“งั้นลุงไม่ต้องเอา เดี๋ยวผมปีนข้ามไปเลยก็ได้” ผมพูดพร้อมหันหลังให้ลุงยาม
ทำไมมันเซงอย่างนี้วะ ชีวิตนี้ เห้อ !
“ไอหนู เดี๋ยวๆ เอาก็เอา” ผมหยิบแบงค์ 5 ร้อยในกระเป๋า ลุงยามรีบวิ่งมา
หึ ทุกคนก็เห็นแก่เงินทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เธอคนที่ผมเคยคิดจะรัก
พอถึงกำแพงผมก็กระโดดข้ามกำแพงอย่างชำนาญ
ว่าแต่ ผมจะทำอะไรดีหละเนี่ย ?
ผมหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบแล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ
“เห้ย รายวะ” ผมร้องขึ้นพร้อมกับล้มลงไปกองกับพื้นด้วยแรงชนจากเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
อะไรวะ ชนแล้วไม่ขอโทษ
แล้วร่างเธอก็ลับตาผมไป
เออแปลก ผู้หญิงโดดเรียนด้วยหรอวะ ?
ที่โรงพยาบาล
“โถ่ ม๊าผิงบอกกี่ครั้งแล้ว ว่าให้กินยาตามหมอสั่ง แล้วทีนี้เป็นไงหละค่ะ”
T^T ฉันต่อว่าแม่ไปพลางปาดน้ำตาออก
“อย่าร้องสิลูก ม๊าไม่เป็นอะไรแล้ว เห็นรึเปล่า ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้”ม๊าพูดไปลูบผมฉันอย่างเอ็นดู
“.....” ฉันพยายามหยุดสะอื้น
“แล้วนี้ออกมาจากโรงเรียนยังไงหละลูก ตาวินโทรไปบอกหรอ” (-_-)(_ _)(-_-)(_ _)
“ใช้ไม่ได้เลยนะ ม๊าอุส่าบอกแล้วว่าอย่าเพิ่งโทรไปหาลูก เนี่ยเห็นไหม ต้องขาดเรียนมาอีกแล้ว”
“ไม่เกี่ยวกับพี่วินเลยนะม๊า พี่วินเค้าทำถูกแล้ว ขืนถ้าพี่วินไม่โทรมาบอกผิงจะโกรธทั้งคู่เลย”
“ก็ม๊าไม่ได้เป็นอะไรมากหนิ อย่าห่วงไปเลยลูก”
“ค่ะๆ รู้แล้วม๊าออกจะแข็งแรง”ฉันพูดพลางเลื่อนผ้าห่มขึ้นคลุมจนถึงคอ
“แล้วนิพี่วินไปไหนหรอคะ”
“เห็นบอกว่าจะมีเรียน ม๊าก็เลยให้ไป ตอนแรกก็ไม่ยอมแต่ม๊าก็บังคับให้ไป”
“อ้อ ค่ะ ม๊าพักผ่อนเยอะๆนะคะ เดี๋ยวผิงไปคุยกับหมอก่อน”
“จ้า”ฉันนั่งรอให้ม๊าหลับ แล้วจึงเดินออกมา จากหัองผู้ป่วยรวม แล้วไปหาหมอ
“หนูคือลูกสาวคุณพิมพาใช่ไหม”
“ค่ะ”
“หนูไม่มีญาติคนอื่นเลยหรอ ที่พอจะเป็นเจ้าของไข้ได้”
“เอ่อ หนูอยู่กับม๊าแค่ 2 คนค่ะ ป๊าหนูเสียไปเมื่อ 5 ปีก่อนค่ะ”
“อืมๆ ลุงเสียใจด้วยละกันนะ”
“ค่ะ”
“คืองี้ อาการโรคหัวใจของม๊าหนูก็คงเป็นตั้งแต่ ป๊าหนูเสียไปใช่ไหม”
“ค่ะ ม๊าเครียดมาก แต่หนูก็รักษาอย่างต่อเนื่องนะคะ แต่ม๊าหนูไม่ค่อยชอบทานยาหนะค่ะ หนูเลยไม่รู้จะทำยังไงแล้ว” ฉันพูดพลางกระพริบตา ไล่น้ำตาออกไป
“อาการของม๊าหนูเนี่ย ก็ถือว่าเป็นมากเลยนะ หนูคงจะรู้ว่าต้องผ่าตัด
ก่อนจะไม่ทันเวลานะ เพราะดูจากอาการแล้วเนี่ยก็น่าเป็นห่วง ”
“หนูทราบค่ะ แต่หนูยังทำงานหาเงินไม่ครบเลย” น้ำตาที่อัดอั้นมานานมันก็ไหลออกมา
ฉันพ่ายแพ้ต่อความอ่อนแออีกแล้วสินะ
“อันนี้โรงพยาบาลเรา ช่วยหนูได้นะ โรงพยาบาลเราเนี่ย มีการผัดผ่อนค่ารักษาพยาบาลได้”
“จิงหรอคะ แล้วต้องทำยังไงบ้างคะ”
“คืออย่างนี้นะ...”
ที่โรงเรียน..
“จิงหรอแก แล้วงี้แกจะไปหาเงินมาจากไหนหละหลังผ่าตัดเสร็จ”ยายแนต
เพื่อนสนิทฉันพูดขึ้นหลังจากที่ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฉันตอบไปอย่างเซ็งๆ
“ให้เวลาแค่ 3 เดือนเอง งานอะไรจะได้เงินเยอะขนาดนั้นเนี่ย” มันบ่นต่อ
“......”
“กะไอแค่งานพิเศษที่แกทำอยู่ทุกวันเนี่ย มันก็ยังไม่รู้จะพอค่ายาไหมเลย”
“เห้อ..”ฉันถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“ฉันบอกแกแล้ว ให้แกเอาเงินฉันไปก่อนแกก็ไม่ยอม”ยายพิมเพื่อนสนิทอีกคนโผล่หน้าออกมาจากแป้งพับ
“ฉันว่าเราพูดเรื่องนี้กันหลายครั้งแล้วนะ ไม่มีทาง”
ใช่ ยังไงฉันก็ไม่มีวันยื้มเงินยายพิมอีกแน่ หลังจากที่ฉันเคยยืมมาแล้ว แต่พอจะไปคืนมันกลับทำไม่รู้เรื่องซะงั้น -_-
ยายพิมบ้านมันรวยถึงระดับมหาเศรษฐีเลยก็ว่าได้ ส่วนยายแนตบ้านมันก็ถือว่ามีฐานะค่อนข้างรวยแต่ไม่ถึงยายพิม ส่วนฉัน เห้อ.. จะว่าไปบ้านฉันก็รวยพอๆกับยายพิมหนะแหละ อาจจะรวยกว่าด้วยซ้ำ แต่พอช่วงที่ฉันขึ้นม.1 บริษัทของป๊ากลับล้มละลาย ฉันยังจำได้ติดตาตอนที่ป๊ามาบอกลาแล้วกระโดดตึกไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นบ้านที่มีก็โดนยึด สมบัติทุกอย่างไม่เหลือติดตัวซักชิ้น ม๊าเครียดมากจึงล้มป่วยเป็นโรคหัวใจไปอีกคน หลังจากนั้นฉันก็ทำงานหาเลี้ยงตัวเองกับม๊ามาตลอด ส่วนเงินค่าเทอมฉันได้ทุนเพราะผอ.รู้จักกับป๊าฉัน ฉันต้องทำงานพิเศษทุกวันตอนแรกฉันก็เหนื่อยแล้วก็ท้อแท้เหมือนกัน แต่พอยิ่งเห็นอาการป่วยของม๊าแล้ว ฉันก็ต้องสู้ ^o^
ทุกอย่างคงจะไม่เป็นแบบนี้ถ้าไม่มีคนๆนั้น คนที่ทำลายบริษที่ป๊ารักลงกับมือ
“ศุภวิต ตั้งต้นตระกูลไกล”
“เห้ย ไอเฟย์จะไปไนวะ”เสียงไอต้นตะโกนถามผม
“....”ผมไม่สนใจแล้วเดินต่อไป ผมเดินไปเรื่อยๆ จนไปถึงหลังโรงเรียน ที่ผมบอกไปตอนแรก ว่าทุกคนเห็นแก่เงินทั้งนั้น มันก็อาจจะไม่หมดหลอกนะ ยกเว้นไอต้นคนนึงแล้วกัน
ใครๆ ก็ว่าผมเป็นเหมือนเจ้าชายน้ำแข็ง แต่ผมไม่สนหรอก ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ผมเบื่อจะตายอยู่แล้ว ที่ต้องอยู่ท่ามกลางผู้หญิงที่ชื่นชอบผม มันน่ารำคาญมากๆ ผมนึกว่าเรื่องแบบนี้จะหมดไปถ้าผมย้ายโรงเรียนแต่ผมเพิ่งรู้ตัว ว่าคิดผิดถนัดเลย
“เห้ย...” ผมเซไปด่วยแรงผลัก อะไรอีกวะเนี่ย ซวยชิบ แล้วผมก็เห็นร่างไวๆ
ของเด็กผู้หญิงคนนึงคุ้นๆแหะ
“หนิ เธอ”ผมรีบวิ่งไปกระชากแขนเธอ
พอผู้หญิงคนนั้นหันมา บอกได้คำเดียว “ตุ๊กตา” เธอต้องเป็นตุ๊กตาแน่นอน
ดวงตากลมโตมีแววดื้อรันแฝงอยู่ ผมสีน้ำตาลพลิ้วไหว เหมาะกับใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ ช่วงเวลาที่เราสบตากัน หัวใจผมเต้นรัวอย่างประหลาด ผมเป็นอะไรไปเนี่ย
“มีอะไร ฉันรีบ” เสียงเธอปลุกผมตื่นจากภวังค์
“เธอชนฉัน” ผมพยายามพูดดีกับเธอ แต่แววตากลับเฉยชา ทำไงได้ผมมันเป็นแบบนี้หนินา
“แล้วไง ฉันรีบ”
“หนิเธอ ไม่มีมารยาทเลยนะ ขอโทษสิ” ผมเริ่มเดือด
“ไม่จำเป็น” เธอสะบัดมือจากการรัดกุมของผม แล้วรีบวิ่งจากไป...
อะไรวะเนี่ย !
“โถ่เว้ย...” ผมสบถอย่างอารมณ์เสีย
ความคิดเห็น