ตอนที่ 4 : 4th Rain
4th Rain
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนในที่สุดก็เข้าเดือนกุมภาแล้ว ภารกิจที่สองใกล้เข้ามาทุกทีแต่แฮร์รี่ก็ยังหาทางไขปริศนาไม่ได้ หิมะที่เริ่มละลายเป็นเหมือนตัวเร่งให้ยิ่งรู้สึกร้อนใจมากขึ้นทุกที แต่เขาจะไม่ยอมรับหรอกนะว่าช่วงแรกเขาชะล่าใจเองจนปล่อยให้วันเวลาล่วงเลยผ่านมาขนาดนี้
“เธอหาทางไขปริศนาได้หรือยังน่ะแฮร์รี่” เฮอไมโอนี่ถามขึ้นขณะที่พวกเขากำลังยืนอยู่ทางเดินข้างปราสาท มองทะเลสาบที่น้ำแข็งเริ่มละลาย หลังจากวันที่เฮอไมโอนี่ร้องไห้กับเขาไม่นานก็ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว นั่นจึงทำให้แฮร์รี่เบาใจลงมากและนับถือเธอด้วยเช่นกันที่สามารถทำใจได้เร็วขนาดนี้
“ยังเลยเฮอไมโอนี่ ฉันก็คิดหาทางอยู่นะ แต่ไม่รู้เลยว่าเสียงกรีดร้องนั่นเป็นปริศนายังไง” เด็กหนุ่มบ่นพร้อมถอนหายใจยาว
แฮร์รี่ไม่ได้คาดคิดหรอกว่าการยืนคุยกับเฮอไมโอนี่ตรงนั้นจะทำให้เขาได้เจอเซดริก และไม่คาดคิดยิ่งกว่าเมื่อเซดริกยอมใบ้วิธีที่จะไขปริศนาไข่มังกรให้ แต่ถึงจะไขได้แล้วแฮร์รี่กลับพบเรื่องที่น่าหนักใจยิ่งกว่า...
“ผมจะกลั้นหายใจใต้น้ำได้ยังไงตั้งชั่วโมงนึง แล้วนี่วันมะรืนจะแข่งแล้วผมยังหาวิธีไม่ได้เลย... ถ้าคุณเห็นใจเด็กชายที่น่าสงสารคนนี้ช่วยผมด้วยเถอะครับ เพราะเพื่อนๆผมก็ไม่มีใครคิดออกเหมือนกัน” จะเรียกว่าว่าเป็นโชคดีอันน้อยนิดหรือเปล่าแฮร์รี่ก็ไม่แน่ใจ แต่ในช่วงเวลาที่อากาศเริ่มเปลี่ยนแบบนี้จู่ๆฝนก็ตกลงมาในคืนที่การแข่งรอบที่สองใกล้เริ่มขึ้น เด็กชายที่รู้ว่าอีกด้านมีคนที่ฟังอยู่แล้วเขาก็แทบจะร้องไห้อ้อนวอน หวังว่าอีกฝ่ายน่าจะพอช่วยเหลือเขาได้
‘รู้อะไรไหม เธอควรจะคิดบ้างว่าฉันอาจจะเป็นมักเกิ้ลเลยไม่ยอมตอบเด็กประหลาดอย่างเธอ’ เสียงชายหนุ่มที่ตอบกลับมาทำเอาแฮร์รี่สะดุ้งลุกขึ้นนั่งหลังตรงทันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายตอบ แม้เสียงจะฟังดูแปลกไปบ้างจากครั้งแรกที่เขาได้ยิน แต่เรื่องนั้นช่างมันปะไรในเมื่ออีกฝ่ายยอมตอบเขาแล้ว!
“แต่นั่นก็แปลว่าคุณเป็นพ่อมดใช่ไหม? และในที่สุดคุณก็ยอมตอบผมแล้ว!” แฮร์รี่อยากให้อีกฝ่ายเห็นจริงๆว่าตอนนี้เขายิ้มจนแก้มแทบแตก
‘แล้วตกลงเธออยากให้ฉันช่วยหรืออยากพูดเรื่อยเปื่อยจนหมดเวลา?’
“ช่วยครับ! ช่วยผมด้วยครับ!” แฮร์รี่สาบานได้ว่าเขาได้ยินเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจ แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่เพราะเขากำลังตื่นเต้นที่อีกฝ่ายยอมตอบเชียวนะ อยากจะถามอะไรเยอะแยะเชียวล่ะ แต่ตอนนี้คงต้องเอาเรื่องคอขาดบาดตายนี่ก่อน
‘จริงๆแล้วถ้าเธอขยันสักหน่อยคงรู้เรื่องคาถาฟองอากาศและฝึกมันทัน’ เด็กชายแทบจะรู้สึกได้ถึงความดูแคลนในน้ำเสียง ช่วยบอกเขาทีว่าเขาไม่ได้กำลังโดนด่าว่าขี้เกียจอยู่ใช่ไหม? ก็เขาไม่รู้วิธีฟังคำปริศนานี่ เขาไม่ผิดสักหน่อย แฮร์รี่รู้สึกอยากจะเถียง แต่อะไรบางอย่างมันบอกเขาว่าถ้ายังต้องการความช่วยเหลือก็ควรทำตัวเป็นเด็กดีเข้าไว้ เขาจึงได้แต่เงียบรอฟัง
‘เอาเถอะ ด้วยเวลาที่เหลือแค่นี้ฉันแนะนำให้เธอไปหาหญ้าเหงือกปลามาใช้แล้วกัน’
“หญ้าเหงือกปลา? ผมจะไปหามันได้จากไหน?”
‘นั่นเป็นปัญหาของเธอ ขอให้โชคดีกับการทดสอบ’ เมทของเขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะหมดเวลาไป
เช้าวันต่อมาแฮร์รี่จึงมาคุยกับรอนและเฮอไมโอนี่ เขาพึ่งรู้ว่าหญ้าเหงือกปลาเป็นสมุนไพรที่หายากไม่น้อยเลย แต่ในเวลาแค่หนึ่งวันเขาจะไปหามันได้จากที่ไหน?
“ฉันว่าฉันจะไปถามศาสตราจารย์สเปราส์ดูนะ เธอน่าจะพอรู้แหล่งที่ซื้อมันแบบเร่งด่วนอยู่บ้าง” เฮอไมโอนี่เสนอความคิดเห็นไว้แบบนั้น
แต่ในมื้อค่ำวันนั้นทั้งรอนและเฮอไมโอนี่กลับหายไป ทิ้งให้แฮร์รี่ยิ่งร้อนใจเมื่อหาสมุนไพรไม่ได้
“แฮร์รี่นายไม่นอนเหรอ? พรุ่งนี้นายต้องแข่งแล้วนี่นา?” เนวิลทักขึ้นขณะที่เห็นเพื่อนนั่งเครียดอยู่ที่ห้องนั่งเล่นคนเดียว
“ฉันยังไม่รู้เลยว่าฉันจะไปหาหญ้าเหงือกปลาได้ที่ไหน รอนกับเฮอไมโอนีก็หายไปไหนไม่รู้” แฮร์รี่ถอนหายใจยาวพร้อมใช้หัวโขกโต๊ะเบาๆ
เนวิลที่ฟังอย่างนั้นก็นิ่งไปชั่วครู่ราวกับกำลังนึกคิดอะไรบางอย่างก่อนพูดเสนอขึ้น “ฉันว่าฉันพอรู้วิธีที่จะหามันให้นายได้นะแฮร์รี่ นายไปนอนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเอาไปให้”
“จริงเหรอ?! นายหาได้แน่ๆใช่ไหม?” แฮร์รี่แทบจะเด้งตัวขึ้นจากโต๊ะมองหน้าเนวิลอย่างเปี่ยมไปด้วยความหวัง กระทั่งเนวิลพยักหน้าตอบรับทำเอาแฮร์รี่แทบอยากจะกระโดดแล้วร้องเยสดังๆ
“ขอบใจนายมากนะ! งั้นเราไปนอนกันเถอะ” เมื่อหาทางแก้ปัญหาได้แล้วแฮร์รี่ก็ลุกขึ้นยืดตัวเดินไปเข้านอนอย่างสบายใจ โดยไม่ทันสังเกตแววตาอันแปลกประหลาดของเพื่อนผู้ยื่นความช่วยเหลือ
*********
การแข่งรอบที่สองผ่านไปได้ด้วยดีเพราะหญ้าเหงือกปลาของเนวิล ถึงจะมีขลุกขลักไปบ้างเพราะแฮร์รี่พยายามช่วยตัวประกันมากกว่าหนึ่งคนจนทำให้เขาขึ้นจากน้ำมาเป็นคนสุดท้าย แต่เพราะกรรมการคนอื่นๆลงความเห็นว่าแฮร์รี่ควรได้ที่หนึ่งร่วมมากกว่าอันดับสุดท้าย เขาจึงได้ที่หนึ่งร่วมกับเซดดริก
“รู้ไหม อันที่จริงวันนั้นผมเข้าใจความหมายเพลงผิดล่ะ ผมคิดจริงๆนะว่าถ้าไม่ช่วยตัวประกันขึ้นมาภายใน1ชั่วโมงพวกเขาจะทำร้ายตัวประกันน่ะ ตอนที่ผมขึ้นมาแล้วคุยกับพวกเพื่อนๆผมถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วเขาหมายถึงให้ผมรีบขึ้นมาจากน้ำภายในหนึ่งชั่วโมงต่างหาก” แฮร์รี่กำลังนอนเล่าเรื่องการแข่งขันรอบที่สองที่ผ่านมาในเช้าวันเสาร์วันหนึ่งที่ฝนตก มันเป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนผ่านจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว อากาศที่เริ่มอุ่นขึ้นจึงทำให้มีฝนตกลงมาบ่อยขึ้นด้วยเช่นกัน และแฮร์รี่กล้าพูดได้เลยว่าตอนนี้เขาชอบฝนมากทีเดียว
‘พวกเขาเลยใจอ่อนยอมให้เธอได้ที่หนึ่งร่วมงั้นหรือ?’ เสียงทุ้มจากอีกฟากที่ตอบกลับมาทำให้แฮร์รี่ยิ้มทุกครั้งที่ได้ยิน เด็กชายรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่วันนั้นอีกฝ่ายหลุดบ่นเขาออกมา และขอบคุณความตื้อของเขาที่ทำให้เมทของเขายอมตอบกลับจนได้คุยกันแบบนี้
“ผมคิดว่าอาจจะแบบนั้นล่ะมั้ง ผมเห็นอาจารย์ใหญ่คุยกับราชาเงือกด้วยก่อนไปประชุมแล้วประกาศผล ราชาเงือกอาจจะเล่าความพยายามของผมก็ได้นะ!” เด็กชายเว้นจังหวะพูดเล็กน้อยพอให้ได้ยินเสียงหัวเราะหึหึจากอีกฝ่ายก่อนเริ่มพูดต่อ “จริงสิ ผมยังไม่รู้แม้แต่ชื่อคุณเลย แต่คุณรู้เรื่องผมซะเกือบหมดแล้ว”
‘เพราะเธอคือเด็กชายผู้รอดชีวิตไงล่ะ เด็กชายคนดังที่ขยับตัวนิดหน่อยก็เป็นข่าว’
“นั่นเลยทำให้คุณรู้จักผมก่อนที่ผมจะบอกชื่อคุณอีกงั้นเหรอ?” แฮร์รี่ขมวดคิ้วบางๆ หงุดหงิดนิดหน่อยที่อีกฝ่ายดูจะรู้จักเขาดีในขณะที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เขากำลังคุยด้วยนี่เป็นใคร
‘ข่าวมันก็แค่ลงว่าเธอกำลังทำอะไร แต่ที่ฉันมั่นใจว่าเธอคือแฮร์รี่ พอตเตอร์เพราะตัวเธอเองที่ช่างบ่นนั่นบ่นนี่ทั้งนั้น ถ้าฉันเป็นผู้เสพความตายเธอคงได้ตายไปแล้วรู้ตัวไหม’ ถ้าเขาเคยถูกพ่อเลี้ยงดูมาแฮร์รี่กล้าพูดได้เลยว่าเขารู้สึกเหมือนกำลังโดนพ่อบ่นอย่างไรชอบกลจึงอดไม่ได้ที่จะแอบเบะปากเล็กน้อย
“แต่ผมก็ยังมีชีวิตนี่นาแสดงว่าคุณไม่ใช่ผู้เสพความตายสักหน่อย แล้วเมื่อไหร่คุณจะยอมบอกผมสักทีว่าคุณเป็นใคร?”
เสียงที่ได้กลับมาก่อนคำตอบคือเสียงถอนหายใจที่ดังยาวเหยียดแบบที่แฮร์รี่บอกได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังอ่อนใจกับอะไรบางอย่าง ‘เรียกฉันว่าโจเซฟ และเพื่อไม่ให้เธอซักไซ้รู้แค่ว่าฉันเปิดร้านขายยาอยู่ที่ไหนสักแห่งที่เธอไม่จำเป็นต้องรู้’
แม้ใจอยากจะถามอะไรต่ออีกสักหน่อยแต่เสียงฝนที่เริ่มดังจางๆกลับมาทำให้รู้ว่าเวลาใกล้หมดลงแล้ว “ก็ได้ เรียกผมว่าแฮร์รี่นะถึงคุณจะรู้อยู่แล้วเถอะ แต่ก็ยินดีที่ได้รู้จักนะโจเซฟ” และแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เห็น แฮร์รี่ก็อดที่จะยิ้มกว้างไม่ได้จริงๆ
**********
อากาศของช่วงฤดูใบไม้ผลินับเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุดในรอบปี หากแต่บรรยากาศภายในโรงเรียนตอนนี้กลับอึมครึมผิดกับสภาพอากาศภายนอก เนื่องด้วยข่าวการตายอย่างเป็นปริศนาของนายบาร์ตี้ เคร้าซ์ เหล่าอาจารย์ในโรงเรียนจึงต้องหามาตรการป้องกันความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้น
“ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยโจเซฟ อีกไม่นานก็จะแข่งรอบที่สามแล้วแต่มามีเรื่องแบบนี้ก่อน แถมผมก็ฝันไม่ค่อยดีอีก มันจะไม่มีเรื่องอะไรระหว่างแข่งใช่ไหม?” แฮร์รี่นั่งเขี่ยอาหารค่ำพลางคุยกับเมทของตน
นับเป็นเวลาเกือบ3เดือนแล้วตั้งแต่ที่คู่ของเขายอมพูดคุยกับเขาครั้งแรก แฮร์รี่ได้ค้นพบว่าเมทของเขาน่าจะอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก เพราะโจเซฟสามารถตอบกลับเขาได้เกือบครึ่งของจำนวนครั้งที่ฝนตกที่ฮอกวอต และครั้งนี้ก็นับเป็นอีกครั้งที่เมทของเขาฝนตกพร้อมเขาพอดี
‘เธอฝันอีกแล้วหรือ?’
“อืม... แต่ผมคุยกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์แล้ว เขาบอกว่าไม่ต้องไปสนใจมันมันอาจจะเป็นแค่ความฝัน”
‘เธอฝันถึงเรื่องอะไรล่ะคราวนี้?’
“ผมฝันเห็นโวลเดอ—”
‘อย่าเอ่ยชื่อนั้น!’ โจเซฟขัดเสียงดังเสียจนแฮร์รี่สะดุ้ง แต่เขาก็พอเข้าใจได้ว่าทำไม เพราะยังไงเสียคนส่วนใหญ่ก็ยังคงกลัวการพูดชื่อโวลเดอมอร์ออกมาตรงๆอยู่ดี
“อ่าขอโทษครับ” แฮร์รี่พูดเสียงสลด
‘ช่างมันเถอะ เล่าต่อไปสิว่าเธอฝันอะไร’
“ผมฝันเห็นคนที่ไม่ควรเอ่ยนามกำลังพูดกับลูกสมุนคนนึงของเขาว่าความผิดของลูกน้องคนนั้นได้รับการแก้ไขแล้ว ลูกสมุนคนนั้นจะไม่ต้องเป็นอาหารให้งูตัวใหญ่ที่อยู่ข้างๆเขาแล้ว เขาจะเอาผมให้งูตัวนั้นกินแทน แล้วผมก็เจ็บแผลเป็นมากๆจนสะดุ้งตื่นเลยล่ะ” แฮร์รี่เลี่ยงที่จะพูดชื่อหางหนอนเพราะเขาคิดว่าพูดไปโจเซฟก็คงไม่รู้อยู่ดีว่าหางหนอนคือใคร และแฮร์รี่ก็ไม่อยากจะเล่าเรื่องหางหนอนสักเท่าไหร่เพราะมันจะยิ่งกระพือไฟความแค้นในตัวเขา
‘แต่ดัมเบิลดอร์ก็ยังบอกเธอว่าไม่ต้องใส่ใจงั้นสินะ ถ้าอย่างนั้นบางทีมันอาจจะเป็นแค่ความฝันจริงๆก็ได้เธออย่าพึ่งกังวลไปก่อน’ เสียงที่ตอบกลับราวปลอบประโลมนั้นทำให้แฮรี่รู้สึกอุ่นวาบขึ้นกลางอกอย่างประหลาด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ช่วยให้ความกังวลของเขาหายไปสักเท่าไหร่
“ไม่รู้สิ ลางสังหรณ์ผมไม่ค่อยดีเลยโจเซฟ แล้วมันเป็นแบบนี้ทีไรมักจะมีเรื่องใหญ่ๆตามมาทุกทีเลย” เด็กชายตัดเนื้อชิ้นเล็กๆกินไปอีกคำก่อนจะวางมีดและส้อมลง ยิ่งคุยเรื่องเครียดๆยิ่งทำให้เขาไม่ค่อยมีอารมณ์อยากกินสักเท่าไหร่
‘ถ้าคิดอย่างนั้นก็อย่าได้ลดการ์ดของตัวเองลงจงระวังตัวไว้ตลอดเวลา แต่ก็อย่าเครียดเกินไปจนกินอะไรไม่ลงเสียล่ะ’ สิ้นคำทักนั้นทำเอาแฮร์รี่ที่พึ่งจะวางมีดลงถึงกับชะงักและหันมองดูรอบตัวทันที
“คุณไม่ได้กำลังแอบมองผมอยู่ใช่ไหม?”
‘แปลว่าเธอกินไม่ลงจริงๆสินะ’ ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะหึหึแบบที่แฮร์รี่รู้สึกได้ว่ามันน่าหมั่นไส้ชะมัด แต่ยังไม่ทันได้โต้ตอบอะไรกลับอีกฝ่ายก็ชิงพูดตัดบทเสียก่อน
‘ฉันต้องไปแล้วแฮร์รี่ ไว้คุยกันคราวหลัง’ เขาทิ้งท้ายไว้อย่างนั้นและทิ้งให้แฮร์รี่อยู่กับความเงียบอีกสักพักกว่าเสียงรอบตัวจะดังกลับมา
“นายรู้อะไรไหมแฮร์รี่ ช่วงนี้ฝนตกทีไรฉันเห็นนายพูดไปยิ้มไปอย่างน่าขนลุกทุกที” รอนพูดขึ้นทันทีที่แน่ใจว่าเพื่อนจะได้ยินเขาแน่ๆ
“ฉันเปล่านะ!” แฮร์รี่เถียงกลับแต่รอนดูจะไม่เชื่อซักเท่าไหร่
“ไม่เอาน่ะรอน อย่าไปแซวแฮร์รี่สิ” เฮอไมโอนี่พยายามช่วยไกล่เกลี่ยทำให้รอนเปลี่ยนเป้าหมายไปหาเธอแทน
“แล้วเธอล่ะเฮอไมโอนี่ ช่วงนี้ฉันไม่เห็นเธอคุยกับคู่เธอเลย?” แฮร์รี่ได้แต่เบิกตากว้างดึงเสื้อของเพื่อนซี้รัวๆให้รีบเปลี่ยนเรื่องพูด แต่ดูเหมือนจะสายเกินไปเมื่อเฮอไมโอนี่วางช้อนและลุกขึ้นจากโต๊ะไปโดยไม่พูดอะไร
“รอน! นายไปทักเรื่องนั้นทำไม!”
“เกิดอะไรขึ้นกับยายนั่นน่ะ?” รอนยังคงมองเพื่อนอย่างมึนงงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวเท่าไหร่นักจนแฮร์รี่ต้องถอนหายใจแรงๆ
“โซลเมทของเฮอไมโอนี่ตัดสัมพันธ์กับเธอแล้ว เพราะเขามีแฟนสาวที่กำลังจะแต่งงานด้วย ฉันไปบังเอิญเจอเฮอไมโอนี่กำลังร้องไห้พอดีเลยรู้เรื่องเข้า ฉันไม่เล่าให้นายฟังเพราะกะว่าจะให้เฮอไมโอนี่พูดเองเมื่อเธอพร้อม”
เมื่อได้ฟังคำอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นรอนกลับพบว่าภายในตัวเขามีอารมณ์ตีกันยุ่งเหยิงไปหมด ทั้งเสียใจที่ทำให้เพื่อนสาวน่าจะร้องไห้อีกหน ทั้งดีใจที่รู้ว่าเฮอไมโอนี่จะไม่มีคู่โชคชะตาอีกแล้ว ทั้งรู้สึกผิดและไม่เข้าใจที่ตนเองดีใจกับเรื่องแบบนั้น รอนหันไปหาแฮร์รี่อย่างมึนๆและถามคำถามโง่ๆออกไป “แล้วฉันควรจะทำยังไงดี?”
“ปล่อยเธอไปก่อนดีกว่า ฉันว่าเธอคงไม่ได้โกรธนายหรอกเพราะนายไม่รู้เรื่อง ไว้เฮอไมโอนี่เย็นลงแล้วนายค่อยไปคุยกับเธอแล้วกัน” รอนได้แต่พยักหน้าตอบรับคำแนะนำของแฮร์รี่แล้วมองไปตามทางที่เพื่อนสาวเดินหายไป
**********
และแล้วการแข่งรอบที่สามก็มาถึง ทันทีที่แฮร์รี่ลับสายตาเข้าไปในเขาวงกตเซเวอรัสก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่พุ่งขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ จริงอยู่ที่ทางกระทรวงยังไม่สามารถจับคนที่ฆ่าคุณเคร้าช์ได้ แต่ทางโรงเรียนก็มีการวางมาตรการป้องกันความปลอดภัยให้ผู้เข้าแข่งขันอย่างเข้มงวดแล้ว เซเวอรัสจึงไม่เข้าใจตนเองนักว่ากำลังกังวลอะไรอยู่
หลังการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นไม่นานนักพลุสีแดงก็ถูกจุดขึ้นจากในเขาวงกต ศาสตราจารย์วิชาปรุงยาหวังเหลือเกินว่าเด็กชายคนนั้นจะยอมแพ้และรีบออกมาจากเขาวงกตโดยไว แต่ปรากฏว่าคนที่ออกมาจากเขาวงกตก่อนนั้นกลับมีเพียงครัมและเฟลอร์แทน
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่เซเวอรัสยิ่งรู้สึกไม่ค่อยดีมากขึ้นเท่านั้น ทั้งแฮร์รี่และเซดดริกหายไปในเขาวงกตอยู่เป็นชั่วโมง จนเหล่าคณะกรรมการเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติจึงต้องตามเข้าไปในเขาวงกตเพื่อหาเด็กทั้งสอง นั่นรวมถึงตัวเซเวอรัสเองด้วย
แต่แล้วสิ่งที่เขากลัวที่สุดก็เกิดขึ้น ตรามารบนแขนขวาของเขาร้อนขึ้นดั่งโดนไฟแผดเผา มันเป็นสัญญาณบอกว่าจอมมารกำลังเรียกตัวผู้เสพความตายทุกคนให้กลับไปหา และนั่นหมายความว่าจอมมารฟื้นคืนอำนาจแล้ว แต่เซเวอรัสยังไม่สามารถไปหาจอมมารได้ตอนนี้ตราบที่เขายังไม่ได้คุยกับดัมเบิลดอร์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตรามาร และอีกประเด็นที่สำคัญ หากเขายังไม่เจอตัวเจ้าเด็กพอตเตอร์เขาคงไม่สามารถไปหาจอมมารได้ด้วยสภาพจิตกระวนกระวายอย่างนี้
เพราะมันเป็นจุดอ่อนที่จอมมารจะทะลุกำแพงสกัดใจของเขาได้ทันที…
***********
แฮร์รี่ไม่รู้แล้วว่าตัวเองกลับมาที่ฮอกวอตได้อย่างไร เรื่องที่สุสานเหมือนจะเลือนรางแต่ก็ดูแจ่มชัด เซดดริกตายแล้วและยิ่งฟังจากที่มู้ดดี้ตัวปลอมนั่นบอกเขายิ่งทำให้เขามวนท้องจนแทบอาเจียน แฮร์รี่รู้ว่าทุกคนอยากถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาไม่อยากนึกถึงมันอีก ไม่อยากเล่ามันอีกครั้ง เห็นภาพในหัวนั้นอีกครั้ง เขาอยากทำเพียงแค่นอนและตื่นมาพบว่ามันเป็นแค่ฝันร้ายเท่านั้น ต้องขอบคุณดัมเบิลดอร์ที่เข้าใจเขาและขอให้คนอื่นๆไม่รบกวนถามเขาในเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้
หากแต่เขานอนได้ไม่นานนักเสียงเอะอะก็ดังขึ้นจนปลุกเด็กหนุ่มขึ้นจากห้วงนิทรา แฮร์รี่พบว่าศาสตราจารย์มักกอลนากัลกำลังเถียงอยู่กับฟัดจ์เรื่องการบุกรุกเดินในโรงเรียนพร้อมผู้คุมวิญญาณเพื่อตามหาดัมเบิลดอร์
แฮร์รี่เคยคิดว่าฟัดจ์เป็นรัฐมนตรีที่มีเมตตา แต่นาทีที่เขาพยายามจะปฏิเสธที่จะเชื่อว่าโวลเดอมอร์กลับมาแล้ว ฟัดจ์ก็เป็นเพียงแค่คนขี้ขลาดที่เห็นแก่ตัวคนนึง แม้สเนปจะทำสิ่งที่เหลือเชื่ออย่างการเผยตรามารที่แขนให้ดูต่อหน้านักเรียนบางส่วนรวมถึงคุณนายวีสลีย์ และเล่าถึงสิ่งที่โวลเดอมอร์ใช้ยามเรียกเหล่าลูกสมุนของเขา ฟัดจ์ก็ยังคงค้านหัวชนฝาที่จะเชื่อว่าโวลเดอมอร์กลับมาแล้วอยู่ดี
“ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำขนาดนั้นเลย ถึงเราจะรู้กันอยู่แล้วก็เถอะว่าเขาดูจะชอบอะไรมืดๆ แต่ไม่คิดว่าเขาจะยอมประกาศตัวต่อหน้านักเรียนขนาดนี้แหะ” รอนเริ่มพูดขึ้นหลังจากที่พวกผู้ใหญ่แยกย้ายกันไปหมด
“เพราะทั้งดัมเบิลดอร์และรัฐมนตรีคิดว่าเขาเป็นสายลับให้ฝั่งเราไงล่ะ เขาเลยคิดว่าถึงจะเปิดเผยไปก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง” แฮร์รี่พูดพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เพราะยังไงเขาก็พอรู้มาสักพักแล้วว่าสเนปพ้นมลทินเรื่องผู้เสพความตายไปนานแล้วด้วยดัมเบิลดอร์เป็นผู้ช่วยยืนยัน
“บางทีเขาอาจจะคิดว่านายเขากลับมาแล้วเขาจะเปิดเผยตัวก็ไม่เห็นเป็นไรหรือเปล่า?” รอนยังคงแย้งต่อ
“ฉันว่าสเนปคงไม่โง่ขนาดทำอย่างที่เธอว่าหรอกรอน นี่เขาแทบจะประกาศตัวชัดเจนเลยนะว่าอยู่ฝั่งเรา ฉันว่าโวลเดอมอร์จะต้องมาตามฆ่าเขามากกว่า” แฮร์รี่พยักหน้าเห็นด้วยกับความเห็นของเฮอไมโอนี่ แม้เขาจะยังไม่ค่อยไว้ใจสเนปนักแต่เมื่อสเนปออกตัวเสี่ยงชีวิตขนาดนี้แล้วก็ยังนับว่าพอเชื่อใจได้ใช่ไหมนะ?
********
ถึงแม้จะเกิดเรื่องมากมายแต่สุดท้ายปิดเทอมหน้าร้อนก็มาถึง แม้ข่าวลือการกลับมาของโวลเดอมอร์จะทำให้โลกเวทมนตร์เริ่มระส่ำระส่าย แต่โลกมักเกิ้ลทุกอย่างยังดูเป็นปกติดี โดยเฉพาะที่บ้านในซอยพรีเว็ตแห่งนี้ที่ก็ยังดูไม่ต้อนรับเขาอยู่เหมือนเดิม
‘แปลว่าคนที่คุณก็รู้ว่าใครกลับมาแล้วจริงๆสินะ’
“ใช่ครับ ถึงตอนนี้ทางกระทรวงจะยังทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เถอะ”
แฮร์รี่พูดคุยกับโซลเมทของเขาในเย็นวันหนึ่งขณะที่พวกเดอร์สลีย์กำลังทานอาหารกันที่โต๊ะ แฮร์รี่รอช่วงเวลานี้มาสักพักใหญ่ เพราะดูเหมือนว่าเมื่อเขากลับมาที่ซอยพรีเว็ตเวลาที่ฝนตกของเขากับโจเซฟก็จะยิ่งพร้อมกันยากขึ้น แต่อย่างน้อยช่วงเวลาที่ทิ้งห่างไปก็ทำให้แฮร์รี่สามารถเล่าเรื่องที่เกิดที่สุสานได้ง่ายขึ้น แม้จะชวนให้มวนท้องทุกครั้งที่คิดถึงมันก็ตาม
‘ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกให้คนรู้จักระวังตัวกันให้มากขึ้น เธอเองก็ด้วยล่ะดูเหมือนว่าเธอจะยังเป็นเป้าหมายเขาอยู่สินะ’ แฮร์รี่ลอบยิ้มให้กับคำถามนั้น มันชวนให้รู้สึกดีทุกครั้งที่รู้ว่ามีคนเป็นห่วงเขา ไม่ใช่แค่เฉพาะกับโซลเมทของเขาหรอกนะที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ กับคุณนายวีสลีย์ก็ด้วยเช่นกัน แฮร์รี่รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่เธอคอยเป็นห่วงเขายามมีเรื่องต่างๆ
“ผมคิดว่าโวล— คนที่ไม่ควรเอ่ยนามคงไม่กล้าบุกเข้ามาในโรงเรียนหรอก ตราบใดที่ยังมีดัมเบิลดอร์อยู่ ยกเว้นแต่เขาจะโดนสเนปหักหลังน่ะนะ” แฮร์รี่รีบพูดแก้ก่อนที่จะโดนดุเรื่องการพูดโวลเดอมอร์ออกมาตรงๆอีก เขาจำได้แม่นเลยล่ะนะว่าน้ำเสียงที่ดุเขาตอนนั้นน่ากลัวแค่ไหนแม้ไม่ต้องเห็นหน้า
‘เธอคิดว่าอาจารย์ปรุงยาของเธอไว้ใจไม่ได้งั้นหรือ?’ น้ำเสียงที่ถามกลับมาดูจะเจือไปด้วยความไม่พอใจจางๆที่แฮร์รี่ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาคาดเดาเอาว่าอาจจะเพราะเขาหลุดชื่อโวลเดอมอร์ออกมานิดหน่อยล่ะมั้ง?
“สเนปเป็นผู้เสพความตายเชียวนะ ถึงจะบอกว่าเพราะเป็นสายลับก็เถอะ แต่จะรู้ได้ยังไงว่าเขาจะไม่หักหลังเอาทีหลังน่ะ แถมดัมเบิลดอร์ก็ดูเชื่อใจเขามากเลยด้วย ผมเคยถามอาจารย์ใหญ่ด้วยนะว่าทำไมถึงไว้ใจสเนปนัก แต่เขาก็บอกแค่ว่ามันเป็นเรื่องของเขากับสเนป ผมเลยไม่แน่ใจอยู่ดีว่าควรจะเชื่อใจสเนปน่ะ” แฮร์รี่บ่นยาวออกมาในรวดเดียวอย่างอัดอั้นเรื่องที่ดูจะไม่มีใครคิดว่าสเนปจะสับปลับเลยสักนิด
‘ไม่ใช่เพราะว่าเธออคติต่อเขาเองล่ะ?’ คำพูดที่ดูเหมือนจะจี้โดนใจดำเต็มๆทำให้แฮร์รี่ต้องส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างฟึดฟัด
“ทำอย่างกับว่าเขาชอบผมอย่างนั้นล่ะ เจอหน้าทีไรก็หาเรื่องทุกที”
‘นั่นแปลว่าเธอยอมรับว่าเธออคติสินะ’ เด็กชายได้แต่อ้าปากพะงาบๆอยากจะเถียงกลับแต่ก็ไม่รู้จะเถียงอย่างไรดี
“ก็...อคติด้วยแต่มันก็มีมูลด้วยนี่นา” เด็กชายพึมพำอย่างยอมจำนนแต่ไม่ยอมแพ้เสียทีเดียว
‘ระวังเกลียดสิ่งไหนจะได้สิ่งนั้นล่ะ’ โจเซฟพูดเสียงแผ่วเบา แต่โชคร้ายที่ช่วงเวลาติดต่อใกล้หมดลงแล้ว เสียงของครอบครัวเดอร์สลีย์ที่แทรกขึ้นมาดังกลบเสียงของโจเซฟเสียจนแฮร์รี่ฟังไม่รู้เรื่องว่าประโยคสุดท้ายนั้นโจเซฟพูดว่าอะไร
Talk : เย้ๆและก็จบไปแล้วกับตอน4(ที่ตั้งใจว่าจะให้เป็นตอน3 ฮา) เป็นไงบ้างคะยาวจุใจกันดีไหม? เท่าที่เราคิดไว้หลังจากนี้อาจจะมาอัพที่ประมาณเดือน-สองเดือนต่อหนึ่งตอนนะคะเพราะช่วงเปิดเทอมเต็มรูปแบบแล้วเวลาน่าน้อยลงเยอะเลย
แล้วก็เราอ่านคอมเม้นทุกคอมเม้นนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจจริงๆค่ะ อ่านละตัวลอยๆเลยบางที(ฮา)
สุดท้ายนี้ เจอกันตอนหน้านะคะ คาดว่าน่าจะอีกสักราวๆเดือนกว่าเหมือนเดิม แต่ไม่ทิ้งไปไหนแน่นอนค่ะ 3
ปล.เราลืมบอก ใครที่สงสารเฮอไม่ต้องห่วงนะคะเดี๋ยวคู่หลักจบเรามีตอนพิเศษคู่รอนเฮอให้แน่นอน~ แค่มาใส่เป็นน้ำจิ้มไปก่อนตอนนี้ 555+
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มาอัพเถอะหนา ไรต์ผู้น่ารัก รออยู่
น่ารักกกกกก >/////< ระวังเกลียดสิ่งไหนจะได้สิ่งนั้นนะจ๊ะนู๋รี่ จะรอนะไรเตอร์ สู้ๆ
คนที่อคติด้วยที่สุดแท้จริงแล้ว เป็นเนื้อคู่กัน สมกันดีเชียว สเนปเกลียดเจมส์ ได้แฮร์รี่ที่เหมือนเจมส์เป็นคู่
คุณเมทจะช่วยน้องได้บ้างมั้ย ในปีที่แฮร์รี่จะลำบากแสนสาหัสนี้
เราอ่าน sshp มาเยอะมากก บอกเลยว่าชอบพล็อตแบบนี้มากเลยอ่าไรท์ อัพตอนเดือนก็ไม่เป็นไรรร~ อยู่ด้วยกันไปนานๆน้าาาา สู้ๆค่าไรท์><
จะปลอมเสียงไปได้สักกี่น้ำกันเชียว! ใจอ่อนถึงขนาดยอมคุยด้วยแล้วนี่น่าาา
ป.ล. ดะ--เดือนนึง แม่จ๋าาา!
แฮร์รี่เอ๊ยเชื่อใจเซอเวอรัสหน่อยซิ!!!!
มาทีละนิดแต่มาเร็วกว่าครั้งละเดือนได้ไหมค่ะ ฮืออออ อยากอ่านต่อ ยิ่งทิ้งท้ายไว้ว่าเกลียดอะไรระวังจะได้อย่างนั้นอีก
(เดี๋ยวสักวันป๋าก็จะหลงน้องเองน่ะแหละ 555)
*รออ่านเสมอนะคะไรท์
สู้ๆนะ
**ขอบคุณมากค่ะ
มีการแอบนินทาคู่เมทตัวเองด้วย ถ้ารี่รู้นะว่าเป็นสเนป????????????
ปล. สู้ๆค่ะ
จะรอนะคะ แม้จะนานหน่อยก็ตาม ฮืออ;___; สู้ๆนะคะ จะเปิดเทอมแล้วเหมือนกัน เฮ้ออออ