ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจรักภูธร

    ลำดับตอนที่ #9 : แพทย์หญิงพิมพ์ชนก

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 59


    จั่วหัวมาแบบนี้ เธอไม่ใช่ตัวร้ายนะคะ แค่เกือบๆ 

    **************************************************************



              เมื่อรับประทานอาหารทั้งคาวหวานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปราณปรียาจึงรีบขอตัวกลับด้วยเกรงว่าแม่อวนกับภวินท์อาจมีเรื่องต้องพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว แต่กลับเป็นแม่อวนที่ยังไม่ยอมให้ลุกหนีและชักชวนให้รอดื่มน้ำชาด้วยกันก่อน  ด้วยความเกรงใจผู้อาวุโสหญิงสาวจึงต้องอยู่รอตามคำขอ

              ไม่นานบนโต๊ะอาหารก็ว่างเปล่า ก่อนที่แม่บ้านจะยกสำรับชาเข้ามาวางและทำท่าจะรินชาเสริฟ แต่ภวินท์ขอทำเอง ชายหนุ่มรินชาจากกาใส่ในถ้วยชาสามใบ แล้วยกถ้วยชาเสริฟแม่อวนเป็นคนแรก ตามด้วยหญิงสาว และของตนเอง แต่ยังไม่ทันได้จิบชาสายตาก็เหลือบไปเห็นแขกผู้มาใหม่เดินตรงมายังศาลาหกเหลี่ยม

              “สวัสดีครับคุณพิมพ์ มาทันเวลาดื่มชาพอดีเลย” ชายหนุ่มลุกจากที่นั่งเดินมารอแขก ก่อนจะผายมือเชิญหญิงสาวผู้มาใหม่นั่งลงข้างๆ กับหญิงสาวอีกคน

              แพทย์หญิงพิมพ์ชนก ที่ยังใส่ชุดเครื่องแบบของโรงพยาบาลยกมือไหว้ผู้อาวุโสก่อนจะนั่งที่ให้เรียบร้อย พอดีกับที่ชายหนุ่มเลื่อนถ้วยชาที่เพิ่งจะรินใหม่ให้คุณหมอสาว

              “เสียดายจัง มาไม่ทันกินข้าวเช้าด้วยกันเลยนะ หนูพิมพ์” หญิงชราเอื้อนเอ่ย เพราะหมอสาวเป็นแขกอีกคนที่ได้รับเกียรติร่วมโต๊ะอาหารอยู่บ่อยครั้ง  แรกทีเดียวเพราะความบังเอิญที่พิมพ์ชนกออกเวรและมาทานอาหารเช้าที่ร้านแม่อวน จึงได้พบกับภวินท์ ซึ่งมาตักบาตรและทานข้าวเช้าเป็นเพื่อนแม่อวนประจำ  ชายหนุ่มจึงชวนคุณหมอสาวร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน และครั้งต่อๆ มาก็เป็นความประจวบเหมาะพอดีเหมือนครั้งแรก

              แม้แม่อวนจะไม่ได้รังเกียจอะไร แต่ก็พอมองออกว่าการมาร่วมรับประทานอาหารเช้าของพิมพ์ชนก ในครั้งหลังๆ เป็นความตั้งใจของฝ่ายหญิงซะมากกว่า ส่วนภวินท์นั้นแม้จะไม่เคยบอกถึงความรู้สึกที่มีกับหมอสาว แต่หญิงชรารู้จักชายหนุ่มดีว่าเขาปฏิบัติกับหมอพิมพ์ชนก เฉกเช่นสุภาพบุรุษทั่วไปพึงกระทำกับสุภาพสตรี


              “วันนี้พิมพ์ติดเคสต่อเนื่องเลยออกเวรช้าค่ะ ก็เลยทานเช้าที่นั่นเลย” หมอพิมพ์ชนกเอ่ยตอบด้วยท่าทางสุภาพ พร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอ ก่อนจะมองมาที่หญิงสาวอีกคนที่นั่งข้างๆ ด้วยแววตาสงสัย

              “อ้อ..นี่หนูกระต่าย” หญิงชราแนะนำสาวน้อยอีกคน ที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่เงียบๆ

              ปราณปรียา ยกมือไหว้อีกฝ่ายเพราะเดาเอาว่าคุณหมอสาวน่าจะอายุมากกว่าตนไม่กี่ปี พิมพ์ชนก รับไหว้ทันทีเช่นกัน

              “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณหมอ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ เผื่อเจ็บไข้ได้ป่วยจะได้ขอยาฟรี” หญิงสาวยิ้มกว้าง ฝากเนื้อฝากตัวแถมมุขตลกตบท้าย ทำเอาทุกคนยิ้มตาม

              “งกได้ตลอด” ภวินท์ เบือนหน้าไปทางอื่นก่อนจะพูดขึ้นมาลอยๆ ปราณปรียาจ้องเขม็งพร้อมกับพ่นลมหายใจดังฟืดฟาด

              พิมพ์ชนก ลอบสังเกตอาการของชายหนุ่มกับสาวน้อยหน้าหวานที่มีท่าทีแปลกๆ ต่อกัน และเป็นท่าทีที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นใจอย่างไรชอบกล  ด้วยดูเหมือนว่าชายหนุ่มผู้เงียบขรึมอย่างภวินท์ จะมีสีหน้าและแววตาที่แปลกไปจากที่เธอเคยเห็น  แม้ชายหนุ่มจะดูสุภาพและเงียบขรึมเหมือนเช่นที่ผ่านมา

              “เท้าหายดีหรือยังคะแม่อวน ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” หมอสาวหันมาถามอาการของหญิงชรา เนื่องจากทราบข่าวว่าเดินหกล้มเมื่อวันก่อน

              “ค่อยยังชั่วแล้วจ้ะ แต่ยังเดินไม่ถนัดเท่าไหร่ ช่วงนี้ก็อาศัยรถเข็นไปก่อน” หญิงชราตอบ

              บรรยากาศการดื่มชาดูครึกครื้นขึ้นมา เมื่อมีสมาชิกเพิ่มอีกคน เพราะคุณหมอสาวต้องคอยตอบคำถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ของสาวน้อยไม่ขาดปาก วันนี้คงเป็นวันที่พิมพ์ชนกได้ใช้ปากในการพูดมากที่สุด และดูเหมือนสาวน้อยจะเป็นจุดศูนย์กลางของวงสนทนา เพราะแม้แต่ภวินท์ก็ยังหลุดยิ้มหลายครั้งกับความใสซื่อที่ปราศจากการเสแสร้งของปราณปรียา

              บทสนทนาเป็นอันต้องชะงัก เมื่อเสียงโทรศัพท์ของพิมพ์ชนกดังขึ้น หญิงสาวขอตัวเพื่อเดินออกมารับโทรศัพท์ ไม่ถึงนาทีหมอสาวก็เดินกลับมา

              “พิมพ์คงต้องขอตัวก่อนนะคะ พอดีมีเคสผ่าตัดด่วน” หมอสาวเอ่ยบอกด้วยเสียงราบเรียบ ไม่ได้มีอาการตื่นเต้นแต่อย่างใด พร้อมกับยกมือไหว้ลาผู้อาวุโส  ก่อนหันไปยิ้มน้อยๆให้กับชายหนุ่ม

    “เสียดายจังค่ะ กำลังคุยสนุกเลย”ปราณปรียาหน้ามุ่ย ลุกขึ้นยกมือไหว้ลาหมอสาว จึงได้รับรอยยิ้มน้อยๆ กลับมา ก่อนที่ร่างสูงโปร่งในชุดกาวน์จะก้าวขาเร็วๆ ลงจากศาลาหกเหลี่ยม ด้วยใบหน้าเรียบเฉยยากที่จะคาดเดาถึงความรู้สึกนึกคิด

    ปราณปรียา นั่งลงจิบชาต่อนึกชื่นชมพิมพ์ชนกอยู่ในใจ ด้วยบุคลิกลักษณะที่ดูสวยสง่า แววตาที่ไม่สื่อความหมายใดๆ ท่าทีที่สงบนิ่ง คำพูดคำจาสุภาพน่าฟังและรอยยิ้มน้อยๆ ที่เจ้าตัวมักแสดงออก ซึ่งเป็นสิ่งช่วยยืนยันว่าเธอยังมีความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป เธอเหมือนเจ้าหญิงผู้สูงส่งอยู่บนหอคอยงาช้าง เมื่อนึกเปรียบกับตัวเองก็ต้องถอนหายใจพรืดใหญ่ ถ้าเธอสงบเสงี่ยมได้สักครึ่งหนึ่งของหมอพิมพ์ชนกก็คงดี

    “เป็นอะไร...อาหารไม่ย่อยหรือไง” ภวินท์ แขวะเข้าให้กับท่าทีถอนหายใจของหญิงสาว

    “เชอะ !” สะบัดบ็อบใส่ชายหนุ่มอย่างเหลืออด เอะอะก็เอาแต่หาเรื่องเธอ  ชายหนุ่มนึกอยากจะบิดแก้มนวลที่สะบัดใส่นั่นด้วยความหมั่นเขี้ยวสักที

     

    ****************************************


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×