ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจรักภูธร

    ลำดับตอนที่ #8 : แม่สื่อ (2)

    • อัปเดตล่าสุด 24 มิ.ย. 59




    แอบใส่รูปหน้าตาแหนมเนืองมาให้น้ำลายไหลกันค่ะ

    *********************************************************************

    “แบมือมา”

    “ฮะ...” ปราณปรียา ทำหน้างง 

    “แบมือมา เร็วๆ” ชายหนุ่มเร่ง เมื่อเห็นว่าอีกคนยังนั่งเฉย  หญิงสาวยอมทำตามแบบเก้ๆ กังๆ เพราะไม่ไว้ใจเขา ภวินท์จึงรวบข้อมือของเธอจับไว้แล้วดึงข้ามโต๊ะมาใกล้กับจานแหนมเนือง แกะนิ้วมือที่กำแน่นด้วยความตกใจให้แบออก โดยไม่ได้มองดูหน้าของอีกฝ่ายที่กำลังเป็นสีชมพูระเรื่อ และตัวเกร็งด้วยความเขินอาย

    ชายหนุ่มเลือกผักกาดหอมขึ้นมาเทียบกับขนาดฝ่ามือของปราณปรียา จนได้ขนาดที่ใกล้เคียง

    “เอาล่ะ” เขาบอกพร้อมกับปล่อยมือของหญิงสาวให้เป็นอิสระ ปราณปรียาที่มองอย่างใจจดใจจ่อรีบชักมือกลับ สอดมือลงไปใต้โต๊ะเหมือนกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย

     ขณะที่ภวินท์วางแผ่นแป้งที่แช่น้ำจนนิ่มลงบนผักกาดหอม ตามด้วยผักแพรว ใบชมวง และเครื่องเคียงอย่างอื่นตบท้ายด้วยการตักน้ำจิ้มราดลงไป แล้วยื่นจานมาวางตรงหน้าหญิงสาวที่ทำหน้างงๆ

    “เจ้าของบ้านจะห่อแหนมเนืองให้กับแขก เป็นธรรมเนียมและมารยาทอย่างนึง...กินสิ” เขาอธิบายให้ฟังเหมือนรู้ว่าหญิงสาวกำลังไม่เข้าใจ พร้อมกับผายมือเชิญชวนให้แขกทาน ปราณปรียาพยักหน้าหงึกหงัก ทำปากอ๋อ

    แต่เอ แหนมเนืองคำนี้ใหญ่ไปไหมเนี่ย แต่ไม่เป็นไรใช้ช้อนแบ่งออกก็ได้หญิงสาวคิดในใจ ก้มหน้ามองแหนมเนืองคำใหญ่ในจาน แล้วจับช้อนขึ้นมาตั้งท่าจะหั่นออกจากกัน

    “อ๊ะ อ๊ะ กินแหนมเนืองเค้าไม่ใช้ช้อนกันหรอก” ภวินท์ร้องท้วง

    “เอ๊า ก็คุณทำซะคำใหญ่ขนาดนี้ฉันจะเอาเข้าปากไปได้ยังไง” ปราณปรียา เริ่มฉุนไม่รู้เมื่อไหร่จะได้กินซะที

    “ผมวัดจากขนาดมือของคุณแล้วเมื่อกี๊นี้ไง อย่าบอกนะว่ากินไม่ได้ หรือว่ารังเกียจการใช้มือกินอาหาร นี่เป็นวิถีชาวบ้านเลยนะคุณ เป็นพัฒนากรได้ไงเนี่ยไม่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับชุมชนซะเลย” ชายหนุ่มร่ายยาว ยิ่งเห็นหน้าตาบูดบึ้งกับท่าทางฮึดฮัดของคนตรงหน้ายิ่งอยากแกล้ง

    ปราณปรียา ยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้

    “พอ พอ ฉันยอมละ พูดอย่างกับฉันเป็นอาชญากรงั้นแหละ” ถอนหายใจพรืดใหญ่กับความกวนประสาทของคนตรงหน้า 

    “กินคำเดียวให้หมดด้วยหละ มันเป็นธรรมเนียม” ได้โอกาสสำทับเสียงเข้ม

    ปราณปรียา ใช้มือรวบผักกาดหอมและแผ่นแป้งให้ห่อเข้าหากัน ซึ่งยากกว่าที่คิดเพราะเครื่องเคียงมันเยอะจนจะล้นทะลักออกมาอยู่รอมร่อ  ขณะที่ชายหนุ่มต้องใช้ความพยายามในการกลั้นเสียงหัวเราะอย่างเต็มที่กับภาพที่เห็นจนต้องเบือนหน้าหนีหลายครั้ง  ส่วนผู้อาวุโสเพียงคนเดียวเริ่มสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดสนิทสนมที่หลานชายมอบให้กับปราณปรียา  ทั้งที่ผ่านมาชายหนุ่มไม่เคยแสดงอาการสนใจ ใส่ใจผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน ถึงจะเป็นการแสดงออกในเชิงกลั่นแกล้งแต่คนแก่รู้จักนิสัยคนของตัวเองดี ว่าเป็นคนชอบแกล้ง ชอบอำแค่ไหน แต่จะเป็นเฉพาะกับคนที่เขาให้ความสนใจเท่านั้น

               สุดท้ายคนเจ้าแผนการก็ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะไว้ได้ เมื่อภาพที่เห็นคือหญิงสาวหน้าตาน่ารักกำลังแหงนหน้า อ้าปากกว้างพยายามยัดแหนมเนืองคำใหญ่เข้าไปในปากอย่างยากลำบาก  และความพยายามของเธอสัมฤทธิ์ผลเมื่อสามารถจัดการให้แหนมเนืองเข้าไปอยู่ในปากได้สำเร็จ ส่งผลให้แก้มป่องเป็นปลาทอง

              “ฮะ ฮะ ฮ่า” ชายหนุ่มหัวเราะตัวงอ เสียงดัง แม่อวนฟาดมือลงบนแขนพ่อคนแผนเยอะด้วยความหมั่นไส้ และสงสารคนโดยแกล้ง ส่วนหญิงสาวได้แต่ทำตาเหลือกส่งค้อนให้ชายหนุ่มไปหลายครั้ง เพราะปากไม่ว่างจะตอบโต้ได้

              “พอได้แล้วตาวิน จะแกล้งน้องไปถึงไหน กินข้าวไม่อร่อยกันพอดี” หญิงชราส่งค้อนให้หลานชาย หลังจากโดยฝ่ามือชายหนุ่มจึงตั้งสติได้ กระแอมกระไอสองสามครั้งแก้เขินที่โดนคนแก่รู้ทัน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกลืนอาหารลงคอแล้ว จึงยื่นน้ำส่งให้ ปราณปรียารีบคว้าแก้วน้ำไปดื่มโดยไม่ลืมส่งค้อนให้ก่อนด้วยความโมโหที่โดนแกล้งอีกแล้ว

              สรุปว่าเธอโดนชายหนุ่มหลอกอีกตามเคย ปราณปรียาจดบันทึกความแค้นไว้ในใจ และคิดหาทางเอาคืนให้สาสม ไม่งั้นเธอต้องอกแตกตายแน่ๆ

              “ลงมือทานกันเถอะ เลยเวลามามากแล้ว” แม่อวนเอ่ยตัดบท เพราะบรรยากาศเริ่มจะไม่ดีเมื่อสาวน้อยเพียงคนเดียวเงียบลงถนัดตา ส่วนอีกคนก็ทำหน้าตาเฉย น่าเขกกะโหลกสักที

              “ตักปอเปี๊ยะให้น้องหน่อยตาวิน” ว่าแล้วก็หันไปออกคำสั่งพ่อคนต้นเหตุ ที่ทำหน้าเหรอหราน่าหมั่นไส้ แต่ก็ยอมทำตาม โดยการตักปอเปี๊ยะที่ตัดไว้พอดีคำวางใส่จานให้หญิงสาวพร้อมกับตักน้ำจิ้มราดให้ด้วย ปราณปรียาก้มหน้าก้มตาเอ่ยพึมพำขอบคุณเบาๆ ตามมารยาท เพราะอารมณ์ยังไม่ปกติ

              ภวินท์ มองคนที่ก้มหน้าก้มตาด้วยสายตาที่สื่อความหมายบางอย่าง ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ตัวแต่คนแก่ที่นั่งตรงหัวโต๊ะดูออกด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ยาวนาน และนางจะยินดีเป็นอย่างมากหาก    ภวินท์จะมีความรัก เพราะอาจทำให้ชายหนุ่มลืมความเศร้าและกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง

              “ลองชิมดูซิหนูกระต่ายว่าอร่อยไหม ของที่ร้านทำเองนะ” หญิงชราชวนคุย เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเงียบเกินไป

              “อร่อยจังค่ะคุณยาย” หญิงสาวยิ้มแก้มป่อง เมื่อได้ลองชิมอาหารตรงหน้า ความอร่อยทำให้ลืมเรื่องเคืองใจจนหมด คงเพราะท้องเริ่มปะท้วง พลันสายตาเจ้ากรรมเผลอไปสบตากับชายหนุ่มตรงหน้าที่นั่งมองอยู่ก่อนแล้ว จึงรีบตวัดสายตากลับมาด้วยความหมั่นไส้คนชอบแกล้ง

              ภวินท์ รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะของตัวเอง เมื่อเห็นการกระทำน่ารักน่าชังของหญิงสาว ทำให้ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว และลอบมองดูหญิงสาวที่กำลังคุยจ้อกับแม่อวน ขณะที่ตัวเองตักอาหารทานเงียบๆ

    **************************************

    มาทีละน้อยๆ แต่จะพยายามมาให้บ่อยๆ นะคะ

    ขอเม้นท์เป็นกำลังใจบ้างก็ดีนะคะ แต่ไม่เม้นท์ก็ไม่ว่ากันเนาะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×