คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : แม่สื่อ
**********************************************
ภวินท์ เข็นรถพาแม่อวนตรงมาทางประตูหลังร้านอย่างชำนาญ โดยมีหญิงสาวเดินตามหลังมา
จนเมื่อทะลุประตูออกมาจึงเจอกับทางเดินมีหลังคาเป็นไม้ระแนงตีเป็นช่องๆ
แต่ตอนนี้ครึ้มไปด้วยสีส้มของพวงแสดที่แข่งกันออกช่ออวดสายตาคน ในสวนเล็กๆ
มีศาลาหกเหลี่ยมขนาดพอเหมาะกับพื้นที่ สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารหรือรับแขก
ซึ่งมีเก้าอี้สำหรับหกที่นั่งพอดี
ชายหนุ่มหยุดรถเข็นไว้ที่ทางเดินที่ปูด้วยอิฐสีน้ำตาลแดงซึ่งเชื่อมต่อกับศาลา
แล้วก้มลงช้อนอุ้มหญิงชราเดินขึ้นศาลาหกเหลี่ยมอย่างสบาย ปราณปรียามองดูการกระทำของภวินท์อย่างไม่เชื่อสายตา
ว่าชายหนุ่มจะดูเป็นผู้ชายอบอุ่นได้ถึงเพียงนี้
และการกระทำของเขาทำให้เธอเชื่ออย่างสนิทใจ
ชายหนุ่มวางแม่อวนบนเก้าอี้หัวโต๊ะซึ่งเป็นที่นั่งประจำ
จากนั้นหันมาผายมือให้หญิงสาวนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกันกับเขา
เมื่อทุกคนนั่งเรียบร้อยอาหารก็ถูกทยอยมาเสริฟอย่างรู้งาน
“สวนคุณยายน่ารักจังเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่หลังร้านได้”
หญิงสาวยังตื่นเต้นกับการได้เห็นความงามของสวนดอกไม้
ซึ่งช่อดอกพวงแสดที่ย้อยลงมาตามหลังคาของศาลาหกเหลี่ยมทำให้สวนเล็กๆ มีชีวิตชีวาขึ้นมาก
“ฝีมือตาวินเขาละ ทั้งคิดแบบทั้งทำเอง บอกให้จ้างก็ไม่ยอม” พูดทั้งรอยยิ้ม
อย่างมีความสุข ปราณปรียาชำเลืองตามองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อ
แล้วก็ได้รอยยิ้มกวนประสาทกลับมา จึงหันไปให้ความสนใจกับอาหารตรงหน้าแทน
“โห กับข้าวเยอะแยะจังเลยค่ะ คุณยายทานอย่างนี้ทุกวันเหรอคะ”
น้ำเสียงตื่นเต้นกับอาหารหน้าตาแปลกๆ บางอย่างก็เคยเห็นแต่ไม่เคยลิ้มรสชาดสักครั้ง
“ไม่หรอกจ้ะ วันนี้พิเศษหน่อย” ว่าเสร็จก็ส่งยิ้มไปให้กับหลานชายคนเดียว
“วันนี้คุณยายทำอาหารเลี้ยงช้าง เลยเตรียมเยอะหน่อย”
ชายหนุ่มว่าหน้าตาเฉย คนแก่ถึงกับขมวดคิ้ว ส่วนหญิงสาวคนเดียวทำหน้าเหรอหรา
หันซ้ายหันขวามองหาสัตว์ที่ชายหนุ่มกล่าวอ้าง พอหันหน้ากลับมามองชายหนุ่มก็เจอกับรอยยิ้มขำ
จึงได้รู้ว่าโดนชายหนุ่มหลอกว่าเข้าให้
“นี่คุณว่าฉันเป็นช้างเหรอ...ฮ้า”
หญิงสาวหน้าหงิกเมื่อรู้ว่าโดนแกล้ง แต่ไม่กล้าเสียงดังเพราะเกรงใจเจ้าของบ้าน ส่วนภวินท์ยังลอยหน้าลอยตายิ้มล้อเลียนหญิงสาวไม่หยุด
จนผู้อาวุโสต้องยุติ
“ตาวินเลิกแกล้งยัยหนูได้แล้ว ทำตัวเป็นเด็กเกเรไปได้” แม่อวนส่ายหน้า แต่ก็แปลกใจอยู่เช่นกันเพราะไม่เคยเห็นหลานชายเป็นตัวของตัวเองแบบนี้มานานแล้ว
“เอาหละครับ งั้นผมขอทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วยการแนะนำธรรมเนียมการทานอาหารของคนที่นี่ให้แขกได้รับทราบนะครับ”
ชายหนุ่มทำหน้าตาจริงจังขึ้นมา ส่วนคนแก่ได้แต่นั่งอมยิ้ม
อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างที่สันนิษฐานตั้งแต่ตอนแรกหรือไม่
“ธรรมเนียมอะไรเหรอคะคุณยาย หนูมาอยู่นี่เป็นเดือนไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะ”
ปราณปรียา ไม่อยากจะเชื่อคนตรงหน้า จึงหันไปขอความเห็นจากผู้อาวุโส
“เอ่อ..ก็” คนแก่จนมุม เพราะไม่ได้เตรียมคำตอบ
“ก็กำลังจะบอกอยู่นี่ไง” ภวินท์ชิงพูดขึ้นมาก่อน
แล้วเริ่มแนะนำอาหารทีละชนิด
“เริ่มแรกจะแนะนำให้รู้จักอาหารประจำถิ่นแต่ละอย่าง
จานนี้เรียกว่า ขนมจีนน้ำยาปู ส่วนนั่นปอเปี๊ยะสด ถัดไปแหนมห่อใบมะยม
จานนั้นไส้กรอกญวณ...ส่วน...”
“จานนี้ปอเปี๊ยะทอดไม่ใช่เหรอคะ อันนี้ฉันเคยกิน” ปราณปรียา
เถียงคอเป็นเอ็นเมื่อชายหนุ่มชักจะมั่วไปเรื่อย แต่คนมั่วก็ยังทำหน้าตาเฉย ทั้งที่นึกขำท่าทางของหญิงสาว
“อ้าว...เหรอ” แกล้งลากเสียงยาว จนน่าหมั่นไส้
ส่วนคนที่สังเกตการณ์อยู่ก็เริ่มจะแน่ใจว่าคนของตัวเอง มีท่าทางแปลกไปจริงๆ
และแปลกไปในทางที่แม่อวนอยากจะเห็นมานานแล้ว นางได้แต่นั่งอมยิ้มมองดูเหตุการณ์
“เข้าเรื่องซะทีเถอะคุณ เดี๋ยวคุณยายหิวแย่” เอาคนแก่มาอ้าง
ทั้งที่คนที่หิวจะแย่คือตัวเธอเอง
เพราะท้องเริ่มปะท้วงตั้งแต่ภวินท์แนะนำอาหารจานแรกแล้ว
“ประเด็นมันอยู่ตรงจานสุดท้ายนี่แหละ นี่เค้าเรียกว่าแหนมเนือง”
ชายหนุ่มชี้นิ้วไปที่อาหารอย่างสุดท้ายบนโต๊ะ ซึ่งจัดอยู่ในถาดขนาดย่อม ประกอบไปด้วย
หมูยอหั่นเป็นชิ้นพอคำ กับเครื่องเคียงหลายชนิด ข้างๆ
ถาดมีถ้วยน้ำจิ้มและตะกร้าพลาสติกขนาดเล็กสำหรับใส่ผักกินกับแหนมเนือง
ปราณปรียา รู้จักอาหารจานนี้ดี
จึงมองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาเต็มไปด้วยคำถาม
“แบมือมา”
“ฮะ...” ปราณปรียา ทำหน้างง
***********************************************
ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจะเริ่มมีฉากมุ้งมิ้งของพระ-นาง แล้วนะคะ
ส่วนผู้กองก็ชักจะกวนนางเอกของเราบ่อยเกินไปละ
ฝากติดตามกันด้วยนะคะ รีดเดอร์ทุกท่าน
อย่าลืมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ
พอเห็นรีดเดอร์ เม้นท์มาที ไรท์นี่ ฮึดขึ้นมาเลยค่า
ไรท์จะพยายาม อัพทุกวันนะคะ อาจจะวันละเล็กละน้อยนะค้า
เพราะว่าไรท์มีงานประจำค่า...เอิ่ม...ต้องทำงานรับใช้ประชาชนก่อนถึงมาทำงานที่ฝัน
นอกเวลาราชการค่ะ....ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ความคิดเห็น