คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : โชคชะตานำพา (2)
รถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์คันใหญ่
วิ่งเข้ามาจอดที่แฟลตตำรวจห้องที่สาม เจ้าของรถวาดขาลงจากรถ
ก่อนที่จะถอดหมวกกันน็อกแบบเต็มใบวางไว้บนถังน้ำมันรถ เผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มภายใต้ไรเคราเขียวครึ้ม
ชายหนุ่มสะบัดผมที่ยาวระต้นคอให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะเดินไปหยุดหน้าประตู ยกแขนขึ้นใช้มือคลำไปที่คานไม้เหนือประตู เมื่อเจอแล้วจึงนำสิ่งนั้นมาไขประตูเข้าไป
ทันทีที่เข้ามาในห้อง
ชายหนุ่มก็โยนกระเป๋าสัมภาระโครมลงบนโซฟา แล้วก็ตรงไปที่ห้องน้ำใต้บันไดจัดการทำธุระส่วนตัว
ไม่ถึงสิบนาทีชายหนุ่มก็เดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูบนศีรษะ และกางเกงขาสั้นสีดำเพียงตัวเดียว สภาพภายในห้องยังคงสะอาดดีทั้งที่เขาไม่ได้อยู่มาเป็นเดือน
นั่นก็เพราะก่อนกลับมาได้โทรแจ้งให้แม่บ้านมาทำความสะอาดไว้รอ
แม้ว่าแฟลตตำรวจจะคับแคบไปหน่อย
แต่ชายหนุ่มก็ชินซะแล้ว อีกทั้งงานส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้อยู่กับที่
ดังนั้นเรื่องการกินอยู่ หลับนอน จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญมากมายสำหรับเขา
ร้อยตำรวจเอก ภวินท์ ภูเพชรกล้า
ชายหนุ่มหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวที่มีอยู่ในห้อง
พร้อมกับกดรีโมทโทรทัศน์เปิดรายการกีฬาที่ชอบ ก่อนเอนกายลงไปตามความยาวของโซฟา ชายหนุ่มหลับตาลงพักสายตา
เกือบเดือนที่เขาไม่ได้มีเวลาที่เรียกว่าหลับจริงๆ จังๆ
แต่นั่นก็เพราะเขาเลือกที่จะไม่ปล่อยให้ตัวเองมีเวลาว่าง
ภารกิจที่ได้รับมอบหมายในคราวนี้ ยืดเยื้อกว่าทุกครั้ง
เพราะต้องประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านในการตรวจจับขบวนการขโมยรถส่งไปขายต่างประเทศโดยทางเรือ
ซึ่งกว่าจะทำการล่อซื้อได้ก็กินเวลานาน เพราะแก๊งนี้รอบคอบมาก
หลายครั้งที่ทางทีมงานพลาดคว้าน้ำเหลว
แต่ครั้งนี้มีการวางแผนรัดกุมจึงสามารถจับผู้ร่วมขบวนการได้
การทำงานก็ยากลำบาก
เพราะเขาและทีมงานต้องใช้ชีวิตกันอยู่ริมน้ำ คอยสังเกตการณ์เวลากลางคืน
ซึ่งเป็นเวลาที่จะส่งมอบของกัน
แม้ว่าจะจัดการกับแก๊งนี้ได้สำเร็จแต่ก็ใช่ว่าการกระทำผิดกฎหมายลักษณะนี้จะหมดไป เพราะตลอดแนวชายแดนอันยาวไกลที่มีแม่น้ำขวางกั้นก็ง่ายต่อการกระทำผิด และมีโอกาสเล็ดรอดสายตาของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
ภวินท์ หลับตาคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตเรื่อยเปื่อย
หลายเรื่องตีกันในสมอง แต่แวบหนึ่งใบหน้าของหญิงสาวผมยาวที่มองเขาด้วยสายตาเอาเรื่องก็ผุดขึ้นมาในความคิด ก่อนที่ชายหนุ่มจะงีบหลับไป
*******************************************************************
“น้องต่าย ไม่ไปด้วยกันจริงๆ
เหรอ...อ่ะ ให้คิดดูอีกที” เสียงสาวใหญ่ อายุเกือบจะสามสิบห้า
กำลังใช้ความพยายามออดอ้อนหญิงสาวรุ่นน้องในที่ทำงานให้ไปเที่ยวด้วยกันในคืนนี้ หลังจากที่เคยชวนหลายครั้งแล้วแต่ ปราณปรียา
ก็ยังปฏิเสธเหมือนเช่นเคย
“ขอตัวจริงๆ ค่ะ พี่หมอน
เย็นวันศุกร์ต่ายมีนัดวีดีโอคอลกับแม่ค่ะ ขาดไม่ได้จริงๆ
แล้วถ้าแม่รู้ว่าหนีเที่ยวมีหวังได้กลับไปอยู่บ้านถาวร” ปราณปรียา
ยังยืนยันคำตอบเดิม นอกจากจะอ้างคนเป็นแม่แล้ว
หญิงสาวเองก็ไม่เคยพิสมัยการเที่ยวกลางคืนอยู่แล้ว
สายสมร คงต้องยอมแพ้ตามเดิม
แต่ก็อดจะกล่าวทีเล่นทีจริงไม่ได้
“แหม อย่างนี้พี่ก็อดกินฟรีนะสิ
น้องต่ายนะน้องต่าย ช่วยพี่สักครั้งก็ไม่ได้” ทำเสียงกระเง้ากระงอด
อย่างกับสาววัยรุ่น แต่ด้วยรูปร่างอวบอ้วน
และผิวขาวเนื่องจากมีเชื้อสายจีนจึงทำให้เธอดูน่าหยิกมากกว่า น่าหมั่นไส้
สาเหตุที่ต้องมาอ้อนวอนสาวรุ่นน้อง
ก็เพราะว่าปลัดอำเภอหนุ่มที่ขยันมาแจกขนมจีบปราณปรียา ตั้งแต่มาทำงานวันแรกมาขอร้องขาใหญ่อย่างสายสมร
ให้ช่วยเป็นแม่สื่อให้
“ไว้จะชดเชยให้ เป็นเป็ดย่าง กับ
เอ็มเคชุดใหญ่ตอนสิ้นเดือนละกันนะคะ” ปราณปรียา ยื่นข้อเสนอปลอบใจ
ส่งผลให้สาวใหญ่ยิ้มแก้มแทบปริ โผเข้ามากอดคนตัวเล็กกว่าไว้แน่นพร้อมกับหอมแก้มหญิงสาวฟอดใหญ่ ปราณปรียาถึงกับขนลุกแม้จะเคยโดนสายสมรแกล้งแบบนี้ประจำ
ก็เรื่องกินฟรีสายสมร สู้ขาดใจไม่เลือกหน้าเจ้ามืออยู่แล้ว
“เฮ้อ...เอาเถอะ ก็พอชดเชยกันได้หละนะ
น่ารักอย่างนี้ไงถึงมีคนอยากเลี้ยงข้าวตลอด เป็นพี่หน่อยไม่ได้จะจัดให้กระเป๋าฉีกเลย หึ”
“งั้นต่ายกลับก่อนนะคะ จะซักผ้าด้วยค่ะ
พรุ่งนี้วันหยุดจะได้ตื่นสายหน่อย” ปราณปรียา เอ่ยกับรุ่นพี่
ก่อนจะพนมมือไหว้ซึ่งสายสมรก็ยกมือรับไหว้กลับมาเช่นกัน
เนื่องจากวันนี้เป็นวันศุกร์ ที่สำนักงานจึงเหลือเพียงสายสมรที่เป็นธุรการ
กับปราณปรียาที่เป็นน้องใหม่อยู่ประจำสำนักงาน ส่วนคนอื่นๆ ก็ไปรับลูกบ้าง
ไปทำธุระส่วนตัวบ้าง ดูจะเป็นธรรมเนียมสำหรับข้าราชการในอำเภอเล็กๆ ไปซะแล้ว
ปราณปรียา ปั่นจักรยานกลับมาถึงห้องพักในเวลาประมาณเกือบห้าโมงเย็น ซึ่งเจ้าจักรยานสีฟ้าได้กลายเป็นพาหนะคู่ใจสำหรับเธอในตอนนี้
และดูเหมือนจะถูกใจเธอมากกว่ารถเก๋งยี่ห้อหรูที่เคยใช้ตอนอยู่เมืองกรุงซะอีก
หญิงสาวเริ่มเข้าใจแล้วว่าการใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นเช่นไร
บางทีความสุขก็ไม่ได้มาจากการใช้ของแพงๆ กินอาหารแพงๆ หรือขับรถราคาแพง ซึ่งค่านิยมในเรื่องนี้ ปราณปรียาได้เริ่มซึมซับมาตั้งแต่สมัยออกค่ายตอนเป็นนักศึกษา
****************************************************************
ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ
ฝากคอมเม้นไว้เป็นกำลังใจให้กันบ้างค่ะ
ติ ชม ได้แต่อย่าด่านะคะ กลัวหมดแรงเขียนซะก่อน
ตอนหน้า พระ-นาง จะป๊ะกันแล้วนะคะ
ความคิดเห็น