ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจรักภูธร

    ลำดับตอนที่ #18 : กนกวลี

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 59


                    “เป็นผู้หญิงยิงเรือกลับบ้านค่ำๆ มืดๆ ให้คนเขานินทา พ่อแม่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว แกรู้บ้างไหม” นางสมจิตร บ่นลูกสาวเสียยืดยาว แม้จะเป็นปกติที่ลูกสาวคนเดียวมักอยู่ไม่ติดบ้านก็ตาม

                    “ไปทำรายงานกับเพื่อนมาแม่  จะบ่นอะไรนักหนา ไม่เบื่อบ้างหรือไง” สาวน้อย กนกวลีเบ้ปากเถียงกลับผู้เป็นแม่ ขณะที่เดินไปหยิบผลไม้บนโต๊ะกินอย่างไม่สนใจในคำสอนของมารดา

                    “เฮอะ..ทำรายงานทั้งปี ถ้าทำมันทุกวันแบบนี้แกไม่จบด็อกเตอร์แล้วเหรอนังนก  แล้วดูแต่งตัวเข้าสิ เสื้อผ้าดีๆ ไม่มีใส่หรือไง ถ้าจะใส่แบบนี้คราวหลังแกไม่ต้องใส่ดีกว่า” คราวนี้ นางสมจิตรวางมือจากการรีดผ้า หันมาเท้าสะเอวสวดลูกสาวเป็นการใหญ่ เพราะเหลืออดมานานกับพฤติกรรมของ กนกวลี ดูแต่งตัวเข้าเสื้อนี่ก็แทบจะเห็นไปถึงไหนๆ ส่วนกางเกงนั่นน่าจะเรียกว่ากางกางชั้นในซะมากกว่า ทั้งสั้นทั้งรัดแนบเนื้อไปหมดอย่างนั้น

                    “โอ้ย...เบื่อ เบื่อ เบื่อ” สาวน้อย ตะโกนใส่หน้ามารดา ก่อนจะเดินสะบัดก้นหนีขึ้นบ้านไป ปล่อยให้มารดายืนบ่นอยู่กับดินฟ้าอากาศต่อไป

                    “เออ เบื่อเป็นคนเดียวหรือไง ฉันก็เบื่อเหมือนกันนั่นแหละ มีลูกกะเขาคนเดียว หาดีไม่ได้ ให้ไปเรียนก็ริอ่านแต่เที่ยว” นางอยากจะบ่นว่ามากกว่านั้น แต่ก็เกรงว่าจะเป็นขี้ปากชาวบ้านมากกว่าเดิม เพราะห้องติดกันแบบนี้ แค่จามก็ได้ยินกันทั้งคูหา

                    พอบ่นลูกสาวเสร็จก็หันมาสนใจงานตรงหน้าต่อ  ตั้งแต่อยู่กินกับดาบเรืองมาหลายปี นางก็ยึดอาชีพรับจ้างซักรีดเสื้อผ้า รวมทั้งเครื่องแบบของข้าราชการ ฝีมือของนางสมจิตรนับว่าใช้ได้ตำรวจส่วนใหญ่จึงใช้บริการซักรีดเสื้อผ้ากับนาง รวมทั้งหนุ่มโสดอย่างผู้กองภวินท์ก็เช่นกัน นอกจากนั้นยังรวมถึงการทำความสะอาดห้องพักในช่วงที่ชายหนุ่มไม่อยู่อีกด้วย

                    นางสมจิตรเงยหน้าขึ้นมองชุดที่แขวนอยู่บนราว จึงนึกขึ้นได้ว่าเป็นชุดของผู้กองภวินท์ นี่ก็จะสองทุ่มแล้วยังไม่เห็นมาเอา ปกติชายหนุ่มจะมาเอาเองไม่ต้องไปส่งหรือว่าจะติดธุระกันแน่

     

                    ที่ห้องของผู้กองภวินท์ การชุมนุมของสามหนุ่มยังไม่เลิกรา และยังมีสมาชิกเพิ่มมาอีกคนคือดาวประกาย ที่คอยทำสำรับอาหารบริการให้กับสามหนุ่ม เพราะนานครั้งถึงจะมีเวลาได้สังสรรค์กันจึงดื่มกันเล็กน้อยพอให้คุยสนุกสนาน ส่วนภวินท์เองก็ต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เพราะเขียวไปทั้งตัว

                    “ทำไมดาวไม่ชวนน้องกระต่ายมาด้วยหละจ๊ะ” จ่าสมยศ เอ่ยถามอย่างรู้ใจเจ้านาย

                    “ชวนแล้ว แต่เธอปฏิเสธ คงจะเพลียด้วยแหละเพราะว่าดาวให้กินยาแก้แพ้ไปสองเม็ด”

                    “ลักหลับเลยดีไหมพี่” หมวดหนุ่มจอมทะเล้นเสนอแนะทีเล่นทีจริง

                    “ก็ดีนะ” ภวินท์ ตอบขึ้นมาลอยๆ ส่งผลให้อีกสามคนร้อง “ห๊า !” พร้อมกัน

                    “เตะแกสักทีก็ดีนะ ไอ้ทะลึ่ง” ผู้กองหนุ่มทำท่าขยับแข้งขยับขา มีหรือที่คนทะลึ่งจะอยู่ให้โดนเตะรีบกระโดดหลบอย่างว่องไว ส่วนสองสามีภรรยาต่างก็หัวเราะขบขันกับท่าทางของหมวดศรุต

                    “โหดร้ายอ่ะ” พอพ้นเขตอันตราย ก็ไม่วายโอดครวญอีก  หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวอย่างดาวประกายได้แต่ส่ายหน้าที่สามหนุ่มเล่นกันเหมือนเด็กๆ

                    เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามที เบนความสนใจของทุกคนในห้องให้หันไปมองที่ต้นเสียง

                    “เดี๋ยวผมเปิดเองพี่” ศรุต รีบอาสาเพราะอยู่ใกล้ประตูกว่าใคร

                    “ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันเปิดเอง” ภวินท์ ห้ามไว้เพราะคิดว่าคนที่มาเคาะประตูน่าจะมีธุระกับเจ้าของห้องมากกว่า

                    “ฮั่นแน่...คิดว่าเป็นใครหรือเปล่า” หมวดรุ่นน้องล้อเลียนไม่เลิก และไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็ต้องรีบกระโดดหลบบาทาของรุ่นพี่อีกรอบ หลีกทางให้เจ้าของห้องได้เป็นคนเปิดประตูเอง

                    เมื่อประตูเปิดออกชายหนุ่มก็ถึงกับอึ้ง ส่วนอีกสามคนข้างในก็พลอยทำหน้าลุ้นไปด้วย

                    “สวัสดีค่ะผู้กอง ลูกนกเอาชุดมาส่งค่ะ” สาวน้อยวัยเฉียด 20 เอ่ยขึ้นก่อน

                    “เอิ่ม...ครับ” ภวินท์ เพิ่งหาเสียงตัวเองเจอ หลังจากอึ้งอยู่นานก็เพราะเครื่องแต่งกายของแม่สาวน้อยตรงหน้านั่นเอง เสื้อกล้ามรัดรูปและกางเกงขาสั้นที่สั้นไปถึงไหนๆนั่น คงจะไม่ปลอดภัยแน่หากเจ้าหล่อนเที่ยวเดินไปไหนต่อไหนในเวลากลางคืนอย่างนี้

                    “เดี๋ยวลูกนกเอาไปแขวนในห้องให้นะคะ” หลังจากที่คาดว่าชายหนุ่มคงตกตะลึงในรูปร่างของตนเอง ก็รีบเสนอบริการเสริมทันทีพร้อมกับทำท่าจะผลักประตูเข้าไป แต่ชายหนุ่มยกมือเป็นเชิงห้ามไว้ก่อน

                    “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่เก็บเองน้องนกไม่ต้องลำบาก” ผู้กองหนุ่มปฏิเสธอย่างนุ่มนวล

                    “ไม่ลำบากเลยค่ะ ลูกนกอยากทำให้เรียบร้อย” แม่นกน้อยยังยืนยันที่จะเข้าไปให้ได้ จนชายหนุ่มต้องล่าถอยเพราะกลัวจะแตะเนื้อต้องตัวเจ้าหล่อนเข้า แต่ยังไม่ทันที่กนกวลีจะเดินเข้าไปก็ต้องชะงัก

                    “แหม...นึกว่าเสียงใคร ที่แท้ก็ลูกนกลูกกาแถวนี้นี่เอง” เสียงดาวประกายขัดขึ้นมา พร้อมกับเปิดประตูออกกว้าง จนสามารถมองเห็นสมาชิกทุกคนในห้อง ทำเอาสาวน้อยหน้าม้านไปเพราะคิดว่าผู้กองอยู่คนเดียว

                    “มาค่ะ เดี๋ยวพี่ดาวเอาชุดไปเก็บให้ผู้กองเอง” ไม่พูดเปล่า แต่ดาวประกายถือโอกาสที่กนกวลียืนงงอยู่ฉกไม้แขวนเสื้อมาถือไว้ซะเอง

                    “เอ๊ะ !” สาวน้อยทำเสียงไม่พอใจ พร้อมกับชักสีหน้าตามความรู้สึก แต่ก็ต้องจำยอมล่าถอยเพราะโดนสายตาพิฆาตของสาวรุ่นพี่จิกตอบกลับมา

                    “งั้นลูกนกกลับแล้วนะคะ” สาวน้อยเสียงแข็งเพราะถูกขัดใจ จากนั้นก็สะบัดก้นเดินฉับๆ กลับไปทางเดิม ส่วนดาวประกายเบ้ปากตามหลังด้วยความหมั่นไส้

                    “เชอะ...ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ริอ่านมายั่วผู้ชายถึงห้อง”

                    “แหม เจ๊ดาวก็พูดซะเด็กเขาเสียเลย แต่หุ่นน้องเขาก็น่าดูชมนะ” หมวดศรุต ทำตาวิบวับ

                    “เห็นด้วยเลยครับหมวด” จ่าสมยศ ยืนยันคำพูดของหมวดหนุ่มอีกคน ส่วนอีกหนุ่มได้แต่ส่ายหน้ากับความทะเล้นของทั้งคู่ แม้จะรู้ว่าดีแต่ปากกันทั้งนั้น

                    “หนอย เข้าข้างกันเข้าไป เรื่องคราวก่อนถ้าไม่เห็นแก่นายแม่นะ ดาวไม่มีทางยกโทษให้พี่แน่” เสียงดาวประกายแวดขึ้นมาทันที ทำเอาจ่าสมยศสะดุ้งโหยง

                    “บรรยากาศเริ่มมาคุ ผมว่าผมกลับดีกว่าพี่” หมวดศรุต หันไปกระซิบกระซาบกับภวินท์ ผู้กองหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วยเพราะเห็นว่าน่าจะแยกย้ายกันได้แล้ว  

                    “อ้าว  หมวดจะทิ้งให้ผมเผชิญเหตุคนเดียวเหรอครับ” จ่าสมยศ ทำหน้าเหมือนคนกำลังจะโดนเชือด เมื่อหันไปเห็นหมวดศรุตโบกมือหยอยๆ ออกไป พอหันไปอีกทางภวินท์เองก็เดินขึ้นชั้นบนไปแล้ว เหลือเพียงดาวประกายที่กำลังจะกลายร่างเป็นนางยักษ์

                    “ไม่ต้องหาตัวช่วย บอกมาสิวันนั้นมีอะไรมากกว่านั้นใช่ไหม ถึงได้มองตามเด็กนั่นตาละห้อยแบบนี้ ห๊า”

                    “โถ เมียจ๋าอย่าเสียงดังสิจ๊ะ นี่ไม่ใช่ห้องเรานะ มีอะไรกลับไปเคลียร์ที่ห้องเราดีกว่านะ” จ่าสมยศ ยกมือขึ้นมาจุ๊ปาก

                    “เดี๋ยวขอเก็บของก่อน แต่อย่าคิดว่าจะรอดแล้วกัน” ว่าแล้วก็รีบเก็บถ้วยชาม พร้อมหลักฐานบนโต๊ะทุกอย่างให้เรียบร้อย โดนมีจ่าสมยศคอยช่วยอีกแรง พร้อมกับบ่นอีกยาวยืด

                    ส่วนภวินท์นอนฟังเสียงสองสามีภรรยาทะเลาะกันอยู่บนห้อง ก่อนจะยิ้มอย่างสบายใจเมื่อคิดไปถึงหญิงสาวอีกคนที่อยู่ห่างกันเพียงห้องว่างห้องหนึ่งกั้นไว้ คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กระมังที่ทำให้เขาคิดอะไรฟุ้งซ่านไปเรื่อย หรือเป็นเพราะพื้นที่ว่างในหัวใจมีความรู้สึกบางอย่างเข้ามาจับจองกันแน่

    *******************************************************

    น้องลูกนกคนนี้ช่างยั่วจริงๆ เชียว แต่วีรกรรมของหล่อนยังไม่หมดนะจ๊ะ

    บอกไว้ก่อนว่าตัวป่วนของจริง หนูกระต่ายต้องระวังตัวให้ดี อิ อิ

    เป็นกำลังใจให้หนูกระต่าย และเผื่อแผ่ให้ไรท์ด้วยคนนะค้า 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×