คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : มอบตัว
เช้าวันอาทิตย์ที่หญิงสาวรอคอย เวลาแห่งการเอาคืนมาถึงเร็วเกินไป เพราะเจ้าตัวอ่อนเพลียจนไม่อยากจะลุกออกจากที่นอน คงเพราะนั่งรถตากแดดตากลมทั้งวัน ประกอบกับความเมื่อยล้าตามร่างกายจึงทำให้เธอตื่นสายกว่าปกติ จนเลยเวลาที่จะไปใส่บาตรกับแม่อวนซะแล้ว
หญิงสาวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อส่งไลน์บอกหญิงชราถึงเหตุผลที่ไม่สามารถไปตักบาตรด้วยได้
ด้วยรู้สึกผิดและเกรงใจหากจะปล่อยให้ผู้ใหญ่รอ ทั้งที่สัญญากันไว้แล้ว
เมื่อจัดการธุระเสร็จก็แอบขี้เกียจนอนเอาแรงอีกสักงีบ โดยลืมเรื่องการแก้แค้นไปเสียสนิท
ตามนิสัยโกรธง่ายหายเร็วของเจ้าตัว
ยังไม่ทันได้งีบหลับเสียงไลน์ก็ดังขึ้นมาก่อน คนจะนอนทำหน้าขัดใจเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบต้นตอของความหงุดหงิด เมื่ออ่านข้อความผ่านโทรศัพท์เป็นอันต้องสะดุ้งและหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
(
ยัยต่ายพี่กำลังจะไปหา ล้างหน้าล้างตาได้แล้ว ) เจ้าของข้อความหาใช่ใคร
เพราะรูปภาพที่โชว์หน้าคนส่งบอกให้รู้อย่างชัดเจน
“
พี่ไก่โต้ง ! !” หญิงสาวอุทานเสียงแผ่ว
รู้สึกถึงพลังงานที่น้อยลงทุกทีของตน เมื่อพี่ชายจอมเนี้ยบกำลังจะมาหาแบบไม่ได้นัดหมาย
ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วหันซ้ายหันขวา คว้าได้ผ้าเช็ดหน้าวิ่งลงไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการกับตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเป็นจังหวะสามครั้ง
ดูเหมือนคนเคาะจะใจเย็น
แต่เจ้าของห้องกลับหูผึ่งรีบเช็ดหน้าเช็ดตาออกจากห้องน้ำมาอย่างไว
“มาเร็วไปไหมเนี่ยพี่โต้ง
เหาะมาหรือไงกัน” ปราณปรียา บ่นอุบขณะที่เปิดประตูห้องให้ผู้มาเยือน
แต่ก็ต้องอ้าปากค้างเพราะคนที่มาไม่ใช่เป้าหมาย
“คนไม่สบายบ่นได้ด้วยเหรอ”
ภวินท์ ยักคิ้วพูดหน้าตาเฉย แล้วมันใช่เวลาไหมเนี่ย
พอตั้งสติได้หญิงสาวก็รีบฉุดแขนลากชายหนุ่มเข้ามาในห้องพร้อมกับปิดประตูเสร็จสรรพ
“อะไรกัน
ลากผู้ชายเข้าห้องตอนกลางวันแสกๆ อย่างนี้เลย” กล่าวล้อเลียนแกมขำ
“ไม่ตลกค่ะ
แล้วคุณไม่อยู่ทานข้าวกับคุณยายหรือคะ”
“ท่านเป็นห่วง
กลัวว่าคุณไม่สบายแล้วจะไม่ได้กินอะไร เลยสั่งให้ผมเอาโจ๊กมาให้”
เขาตอบคำถามพร้อมกับชูของที่ถือให้ดู ก่อนจะวางถุงใส่โจ๊กบนโต๊ะเล็กข้างห้องพร้อมกับหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเล็กข้างกัน
“อ๊ะ
อ๊ะ ใครให้นั่งไม่ทราบ” หญิงสาวรีบท้วงทันที
“คนอุตส่าห์ส่งข้าวส่งน้ำ
นั่งพักแค่นี้ก็ไม่ได้ ใจร้ายจัง” แม้ถ้อยคำจะฟังเหมือนตัดพ้อ
แต่แววตาระยิบระยับกลับทำให้คนฟังรู้สึกหมั่นไส้อย่างไรไม่รู้
“อย่าเยอะค่ะ
เรื่องเก่าเรายังไม่ได้ชำระความกันเลยนะ” ปราณปรียา
ทำหน้าเหนื่อยกับพ่อคนเรื่องเยอะ
“ผมก็มามอบตัวแล้วนี่ไง
จะลงโทษยังไงก็เชิญ” ชายหนุ่มผายมือ หน้าตาไม่สะทกสะท้าน
จนเมื่อเสียงเคาะประตูถี่รัวดังขึ้น
ทั้งสองคนจ้องหน้ากันเขม็ง
ปราณปรียา
รีบเอามือปิดปากชายหนุ่มเพราะกลัวว่าเขาจะพูดอะไรออกมา
ขณะที่สมองเริ่มประมวลผลว่าจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร
“คุณออกประตูหลังไปก่อน
ฉันขอร้อง” หญิงสาวบอกแทบเป็นเสียงกระซิบ พร้อมกับทำหน้าวิงวอน
มือทั้งสองยังใช้ปิดปากชายหนุ่มอยู่
“อำไอ”
ภวินท์ ถามกลับเสียงอู้อี้เพราะโดนปิดปากไม่สามารถพูดได้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก
คราวนี้ดูเหมือนจะแรงกว่าครั้งแรกและนานกว่าเดิม ปราณปรียารู้สึกใจหายวูบ
หากว่าคนข้างนอกพังประตูได้คงทำแล้ว
และหากว่าพี่ชายของเธอเข้ามาเจอผู้ชายอยู่ในห้องแบบนี้แล้วละก็
คงได้กลับไปอยู่บ้านถาวรเป็นแน่แท้
ภวินท์
เห็นสีหน้าวิตกกังวลของหญิงสาวจึงยอมลุกขึ้น
แล้วเดินออกประตูหลังห้องโดยมีหญิงสาวรุนหลังให้ไวขึ้น
พอพ้นประตูเจ้าของห้องก็รีบปิดอย่างเร็วไว
“มาแล้วค่า”
ปราณปรียา สะบัดหน้าไปมาเพื่อเข้าสู่โหมดปกติ พร้อมรับแขกคนสำคัญ
“ช้าจริง
ตื่นสายหรือเรา” ปราณต์ ก่อเกียรติสกุล หรือ ไก่โต้ง คุณชายจอมเนี้ยบประจำบ้าน
ก่อเกียรติสกุล ขมวดคิ้วทันทีที่เห็นหน้าน้องสาวสุดที่รัก
“วันนี้วันหยุดค่ะคุณชาย
ดิฉันเป็นข้าราชการนะคะ” น้องสาวแขวะเข้าให้
“จริงสินะพี่ลืมไป
เมื่อกี้ได้ยินเสียงเราคุยกับใคร อยู่กับเพื่อนเหรอ” ปราณต์
เอ่ยถามพร้อมกับก้าวเข้ามาในห้อง ไล่สายตาพิจารณาสภาพความเป็นอยู่ตั้งแต่ประตู
เดินเลยไปเปิดประตูห้องน้ำพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไป
“อยู่คนเดียวค่ะ
เมื่อกี้ต่ายคุยโทรศัพท์กับเพื่อน” รู้สึกว่าตัวเองโกหกได้ไม่เนียน
แต่ยังดีที่อีกคนสนใจสภาพแวดล้อมมากกว่าจะหันมามองหน้าคนตอบ
“อยู่เข้าไปได้ไง
ทั้งเก่า ทั้งแคบ คุณภาพชีวิตแย่มาก” มาแล้วไงคุณชายจอมเนี้ยบ
เริ่มบ่นเรื่องคุณภาพชีวิตอีกแล้ว
“แหมข้าราชการเงินเดือนน้อยก็อย่างนี้แหละค่ะ
จะไปเช่าคอนโดโก้หรูอยู่ คงได้กินมาม่าทั้งเดือน” น้องสาวไม่วายเถียงกลับ
“แล้วใครบังคับเรากัน
บ้านเราลำบากหรือไงถึงต้องมาทำตัวลำบากแบบนี้ ฮึ” ปราณต์ หันกลับมามองน้องสาวตาเขียว
อยู่บ้านดีๆ ไม่ชอบ ชอบทำให้ตัวเองลำบาก แล้วยังทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วงอีก
นึกแล้วน่าจับตีก้นจริงๆ ยัยน้องสาวจอมดื้อคนนี้
“ต่ายก็ไม่ได้ลำบากอะไรนี่คะ
ทำงานกับชาวบ้านสนุกจะตาย คนที่นี่มีน้ำใจถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่แก่งแย่งชิงดีกันเหมือนคนเมืองกรุง”
หญิงสาวเสียงอ่อนลง ชักแม่น้ำทั้งห้าเข้ามาร่วม และก็ได้ผลทุกครั้งเพราะปราณต์เองก็มีท่าทีอ่อนลงเช่นกัน
“เรานี่นะ
ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อยรู้บ้างไหม” ปราณต์ ลูบหัวน้องสาวอย่างอ่อนใจ
ทำอย่างไรได้ในเมื่อปราณปรียาเปรียบเหมือนลมหายใจของทุกคนในครอบครัว
เขาซึ่งเป็นพี่ชายย่อมอยากเห็นน้องสาวมีความสุขอยู่แล้ว
“แล้วนี่พี่โต้งมาถูกทางได้ไง แล้วตั้งใจมาหาต่าย หรือว่ามีธุระแถวนี้คะ”
หญิงสาวถามขึ้นหลังจากเชื้อเชิญให้พี่ชายนั่งลงบนโซฟาตัวเล็ก
“ให้ตอบคำถามไหนก่อนหละ
นี่มันยุคสมัยไหนกันแล้ว ทุกวันนี้นั่งจิ้มก็เห็นหลังคาบ้านกันละ พอดีพี่มาดูที่ทำรีสอร์ทแถวนี้ เห็นกรรมการส่วนใหญ่สนใจอยากจะมาลงทุนทางภาคอีสาน
เน้นกลุ่มลูกค้าที่รักธรรมชาติและชอบทำบุญไหว้พระ อ้อ
เกือบลืมไปคุณแม่ฝากขนมมาให้เยอะแยะ”
ว่าแล้วก็ลุกออกไปเรียกคนขับรถที่รออยู่ข้างนอกให้ยกของจากท้ายรถยุโรปคันงามออกมา
มีถุงกระดาษหลายใบล้วนแต่เป็นขนมจากร้านชื่อดังที่หญิงสาวชอบทานทั้งนั้น
“กินหมดนี่คงได้อ้วนเป็นหมูตอนกันพอดี”
ปราณปรียา เห็นอนาคตตัวเองรำไร
แต่ก็อดยิ้มให้กับความรักความห่วงใยของคนเป็นแม่ไม่ได้
“พี่โต้งกินข้าวหรือยังคะ”
“นี่มันกี่โมงกันแล้ว”
ปราณต์ ถามกลับพร้อมกับส่ายหน้าในความไม่มีวินัยของน้องสาว ซึ่งต่างกับเขาลิบลับ
เขาถูกเลี้ยงดูมาอย่างเข้มงวดเพราะเป็นลูกชายคนแรก
ที่บิดามารดาคาดหวังให้เป็นผู้ดูแลกิจการทุกอย่าง
รวมทั้งความเป็นอยู่ของน้องสาวเพียงคนเดียวด้วย
“ลืมไปเลยว่าพูดอยู่กับคุณชายจอมเนี้ยบ”
ปราณปรียา ลอยหน้าลอยตาล้อเลียนพี่ชาย
“เบื่อจะคุยกับเด็กไม่รู้จักโต
คุณพ่อคุณแม่ตามใจเราซะจนเคยตัว” ว่าแล้วก็ลุกจากที่นั่ง จัดเสื้อสูทให้เข้าที่เข้าทาง
“อ้าว
จะกลับแล้วเหรอคะ”
“พี่ต้องไปดูทำเลอีกหลายที่เพื่อจะได้นำเสนอที่ประชุมใหญ่
คงจะอยู่แถวนี้อีกหลายวัน ถ้าพอมีเวลาก่อนกลับพี่อาจจะแวะมาหาเราอีก”
“อย่าลืมซื้อแหนมเนืองไปฝากที่บ้านด้วยนะคะ
ที่นี่เค้าทำอร่อยมากค่ะ” หญิงสาวรีบแนะนำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นทันที
ขณะที่เดินมาส่งชายหนุ่มหน้าประตู ปราณต์หันกลับมาร่ำลาอีกครั้ง
“อ้อ...โจ๊กในถุงนั่น..”
“ทำไมคะ
! !” ปราณปรียา
รีบพูดขึ้นแทบเป็นเสียงตะโกน พร้อมกับทำตาโต ปราณต์หรี่ตามองอย่างจับสังเกต
ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เช่นเดิม
“พี่แค่จะบอกว่าถ้าซื้อมาหลายวันแล้ว
ก็เอาไปทิ้งซะ อย่ากินของค้างคืนเดี๋ยวไม่สบาย”
“อ๋อ...”
ลากเสียงยาวอย่างโล่งอก
แม้ว่าปราณต์จะรู้สึกผิดสังเกต
แต่น้องสาวคนนี้ก็ไม่เคยทำอะไรที่นอกลู่นอกทางให้ต้องปวดหัวสักครั้ง
จึงปล่อยผ่านไปก่อน เพราะเขาเองก็มีภารกิจสำคัญที่ต้องทำเช่นกัน
********************************************
ตอนนี้มี " พี่ไก่โต้ง " โผล่เข้ามา ฝากกันไว้ก่อนนะคะ
จะมีเรื่องราวของเค้าเช่นกันค่ะ อิมเมจประมาณนี้ค่ะ คุณชายจอมเนี้ยบ
ความคิดเห็น