คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ไปหรือไม่ไป
ปราณปรียา นอนแผ่หราปล่อยให้พัดลมโกรกอย่างเต็มที่เนื่องจากอากาศในช่วงบ่ายเริ่มร้อน
จึงต้องลากสังขารลงมานอนชั้นล่าง และเพราะกินเข้าไปเยอะส่งผลให้ง่วงจนไม่อาจจะทนไหว
ถ้าไม่รีบขอตัวกลับมาก่อนมีหวังแม่อวนคงขนของกินออกมาอีกเพียบ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ! เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ขณะที่คนนอนหลับกำลังพลิกตัวเปลี่ยนท่านอนใหม่
เป็นอันต้องตะเกียกตะกายลุกเดินไปยังต้นเหตุ
เพราะเสียงเคาะประตูเริ่มรัวถี่ขึ้นเรื่อยๆ
“มาแล้วค่า” หญิงสาวตะโกนบอก
พร้อมกับเปิดประตูออกกว้าง ทั้งที่ตายังลืมไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผู้มาเยือนส่ายหน้าอย่างขบขันกับสภาพของหญิงสาว
“เฮ้อ เป็นสาวเป็นนางริอ่านนอนกลางวัน
หัวฟูเหมือนสิงโตแถมยังน้ำลายยืดอีก” ภวินท์
แกล้งยัดข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้หญิงสาว
ปราณปรียา
ถึงกับตื่นพอได้ยินเสียงคุ้นหูพร้อมกับทำตาโตมองหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะได้สติรีบยกมือขึ้นลูบผมเป็นพัลวัน
ตามด้วยปาดฝ่ามือมั่วๆ เช็ดคราบน้ำลายซึ่งไม่รู้ว่าเปื้อนเปรอะอยู่ตรงไหนบ้าง
“หึ หึ” ภวินท์ หลุดเสียงหัวเราะในลำคอพร้อมกับส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดู
“นี่ คุณแกล้งฉันอีกแล้วใช่ไหม”
หญิงสาวแว้ดใส่ อย่างเหลืออดในความขี้อำของเขา
นี่เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตั้งแต่รู้จักกับเขามาสองวันโดนแกล้งไปกี่ครั้งแล้ว
“เปล่าสักหน่อย เอ้านี่คุณลืมของไว้” ชายหนุ่มปฏิเสธหน้าตาเฉย
พร้อมกับยื่นของในมือส่งให้ ปราณปรียารีบกลับจนลืมขันสีเงินที่ถือไปด้วยในตอนเช้า แต่พอรับขันกลับมาก็ต้องแปลกใจเพราะมีของหลายอย่างอยู่ในขันของเธอ
“อะไรคะเยอะแยะเชียว”
หญิงสาวถามด้วยความสงสัย ขณะที่หยิบถุงขึ้นมาพิจารณา
“คุณย่ากลัวคุณอดอยากก็เลยจัดกุนเชียง
หมูยอ กับไส้กรอกมาให้” ชายหนุ่มเอ่ยบอกแกมเหน็บแนม หญิงสาวจึงส่งค้อนให้
พลางคิดไปว่าเขาคงนึกว่าเธอเป็นพวกตายอดตายอยากมาจากไหน
แต่ถ้าเขาจะคิดแบบนั้นมันก็ไม่ผิด
เพราะไม่ว่าเป็นเมนูคาวหวานวันนี้เธอซัดจนเกลี้ยง
“อ้อ ถุงสีฟ้านั่นของผมนะ
ฝากไว้ก่อนเดี๋ยวจะมาเอา” เมื่อเห็นสีหน้าของอีกคน เขาก็นึกอยากแกล้งขึ้นมา
“เรื่องอะไร ของใครก็เอาไปเก็บเองสิ”
หญิงสาวไม่ยอมรับฝาก
“ที่ห้องผมไม่มีตู้เย็น
อะไรฝากนิดฝากหน่อยก็ไม่ได้ ใจดำจริง” พูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้
ปราณปรียาไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาต่อปากต่อคำด้วย ได้แต่ทำปากขมุบขมิบและทำเสียงจิ๊จ๊ะอยู่ในลำคอ
พร้อมกับจ้องชายหนุ่มเขม็ง
ก่อนที่สงครามหน้าห้องกำลังจะเริ่ม
เสียงโทรศัพท์ของภวินท์ก็ดังขึ้น เขาจึงเป็นฝ่ายละสายตาก่อนเพื่อรับโทรศัพท์
“ว่าไงหมวด” ชายหนุ่มทักปลายสายอย่างคุ้นเคย
“อะไรนะ...ตั้งแต่เมื่อไหร่...แล้วทำไมหมวดพึ่งบอกผม...อ้าวเหรอ...หมวดไปพักเถอะเดี๋ยวผมจัดการเอง”
ชายหนุ่มสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที พอวางสายก็หันหลังจะเดินกลับห้องของตนเองโดยไม่ร่ำลาเจ้าของห้อง
แต่ต้องชะงักเมื่อหญิงสาวที่คอยสังเกตการณ์อยู่วิ่งมาดักทางไว้
ภวินท์ทำหน้าดุใส่หญิงสาว เขาไม่มีเวลามาล้อเล่นกับเธอต่อ
แต่อีกฝ่ายยังทู่ซี้ไม่ยอมหลบ
“มีอะไรหรือเปล่า
ทำไมคุณทำหน้าเครียดแบบนี้” หญิงสาวถามออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะสังหรณ์ใจบางอย่าง
“ไม่เกี่ยวกับคุณหรอกน่า”
ชายหนุ่มทำหน้ายุ่ง เพราะเรื่องร้อนใจที่ตำรวจรุ่นน้องโทรมาแจ้งข่าว
ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงสาย แต่บังเอิญชายหนุ่มเพิ่งเปิดโทรศัพท์
“เกี่ยวกับจ่าสมยศหรือเปล่าคะ”
สุดท้ายก็ตัดสินใจถามออกไป ชายหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ปราณปรียาจึงเล่าเรื่องเมื่อตอนสายหลังจากที่เธอกลับจากบ้านแม่อวน
ก็เจอกับจ่าสมยศที่อาการเหมือนคนเมาค้างลนลานเข้ามาถามหาดาวประกาย พอได้คำตอบก็ขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทันที
หญิงสาวจะร้องห้ามก็ห้ามไม่ทัน จะบอกให้ดาวประกายรู้ก็ลืมขอเบอร์โทรศัพท์อีกฝ่ายไว้
ส่วนอีกใจหนึ่งก็คิดว่าจ่าสมยศคงจะไปตามง้อภรรยากลับบ้าน พอคิดได้อย่างนั้นจึงคลายความกังวลลงไปและกลับเข้าห้องพักเพื่อจัดการงานบ้านที่เป็นอีกงานประจำสำหรับวันหยุดเช่นนี้ พอตกบ่ายหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนหญิงสาวจึงเลือกจะพักผ่อนสายตาจนกระทั่งภวินท์มาเคาะประตูห้อง
“ฉันคิดว่าจ่าสมยศคงจะไปตามง้อพี่ดาวกลับบ้าน
ก็เลยไม่ได้บอกใคร” ทำเสียงอ่อย
“เฮ้อ..คงไม่เป็นไรหรอกถ้าจ่าสมยศไม่ขับรถสายตรวจไป”
และถ้าไม่เมาค้างด้วย ชายหนุ่มถอนหายใจ
เห็นทีคราวนี้คงต้องจับเข่าคุยกันจริงจังซะแล้ว
“แล้วคุณจะไปตามแกที่ไหนคะ
ป่านนี้ถึงไหนแล้วก็ไม่รู้” ปราณปรียา นึกเป็นห่วงว่าจ่าสมยศอาจไปไม่ถึงที่หมาย เมื่อหญิงสาวถามขึ้นมาชายหนุ่มจึงคิดตามหลักเหตุผล
ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นคงมีคนรายงานเข้ามาแล้ว และดูจากเวลาจ่าสมยศน่าจะถึงที่หมายโดยปลอดภัย
จึงคลายความร้อนรนลง
“แล้วคุณคิดว่าจ่าสมยศจะไปที่ไหนหละ”
ชายหนุ่มถามกลับแทนคำตอบ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องของตนเอง ปล่อยให้หญิงสาวพ่นลมหายใจด้วยความขุ่นเคืองที่โดนกวนประสาทอีก
สิบนาทีต่อมาผู้กองหนุ่มสะพายกระเป๋าเป้คู่ใจไว้บนหลังพร้อมกับจูงเจ้าเข้มออกมาจอดที่หน้าห้องพัก
ปิดล็อคประตูห้องเรียบร้อยก่อนก้าวยาวๆ ขึ้นควบบนมอเตอร์ไซค์คู่ใจ
พร้อมกับหยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาสวมแต่ยังไม่ทันได้ใส่ก็ต้องตกใจเกือบหงายหลังเมื่อมีตัวอะไรสักอย่างกระโดดเกาะกระเป๋าของเขาอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย...” ชายหนุ่มหน้าเหวอ
เมื่อหันกลับไปเจอสิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายกับมนุษย์ผู้หญิงนั่งซ้อนท้ายอยู่ แถมยังเกาะกระเป๋าแน่นไม่ยอมปล่อย
********************************************
ความคิดเห็น