ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : คำถามที่พบบ่อย
ในหัวข้อนี้พี่ก็คัดลอกมาจากบทความเดิมที่พี่เกดและพี่ตี่เขียนตอบคำถามน้องๆไว้ ซึ่งพี่ๆก็เขียนได้ครบถ้วนสมบูรณ์อยู่แล้ว แต่บางคำถามอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างค่ะ
Q. จะได้เงินเดือนเท่าไหร่?
A. เงินเดือนขั้นต่ำจบป.ตรีเท่ากันกับคณะอื่นๆค่ะ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราทำงานของรัฐหรือเอกชนด้วยนะ
ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลก็จะมีเงื่อนไขและข้อตกลงแตกต่างกันค่ะ (แล้วก็ขึ้นอยู่กับความขยันและเราเลือกงานรึป่าว?)
Q. จะมีงานทำไหม?
A. งานมีแน่นอนค่ะ เพราะตอนนี้บุคลาการทางด้านของเรากำลังขาดแคลน และสามารถผลิตบุคลากรได้จำนวนน้อยต่อปี ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีงานทำ ถ้าจะไม่มีก็อาจจะเป็นเพราะน้องๆเลือกงานอย่างเดียวแหละค่ะ
Q. เรียนสายศิลป์จะเข้าคณะนี้ได้ไหม?
A. เนื่องจากคณะเราเมื่อจบมาจะได้วุฒิวิทยาศาสตรบัณฑิต (ความผิดปกติของการสื่อความหมาย) ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเรียนวิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ในตอนปี1 และวิชาคณะส่วนใหญ่ก็ต้องใช้วิชาพิ้นฐานทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน โดยจะเน้นไปทางด้านชีววิทยา และฟิสิกส์ค่ะ รวมทั้งเกณฑ์การคิดคะแนนในการแอดมิชชั่นส์ก็ต้องใช้ PAT 2 วิทยาศาสตร์ในการคิดคะแนนด้วย กล่าวโดยสรุปก็คือคณะเราก็ถือว่าเป็นคณะทางสายวิทย์คณะหนึ่ง ซึ่งอยู่ในหมวดวิทยาศาสตร์สุขภาพ พี่คิดว่าอาจจะไม่เหมาะกับน้องๆที่เรียนสายศิลป์ค่ะ
A. เนื่องจากคณะเราเมื่อจบมาจะได้วุฒิวิทยาศาสตรบัณฑิต (ความผิดปกติของการสื่อความหมาย) ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเรียนวิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ในตอนปี1 และวิชาคณะส่วนใหญ่ก็ต้องใช้วิชาพิ้นฐานทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน โดยจะเน้นไปทางด้านชีววิทยา และฟิสิกส์ค่ะ รวมทั้งเกณฑ์การคิดคะแนนในการแอดมิชชั่นส์ก็ต้องใช้ PAT 2 วิทยาศาสตร์ในการคิดคะแนนด้วย กล่าวโดยสรุปก็คือคณะเราก็ถือว่าเป็นคณะทางสายวิทย์คณะหนึ่ง ซึ่งอยู่ในหมวดวิทยาศาสตร์สุขภาพ พี่คิดว่าอาจจะไม่เหมาะกับน้องๆที่เรียนสายศิลป์ค่ะ
Q. จะต่อเป็นหมอได้ไหม?
A. ขอย้ำอีกครั้งนะคะว่าคณะเราไม่ใช่แพทย์ เป็นแค่เพียงบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น ตำแหน่งของเราก็คือสายงานเวชศาสตร์การสื่อความหมายค่ะ ซึ่งถ้าน้องอยากเรียนแพทย์ก็ต้องไปเลือกเรียนใหม่ (สอบเข้าใหม่) ถ้าน้องๆอยากเป็นหมอ พี่ว่าเรียนแพทย์ไปเลยดีกว่า เพราะน้องๆต้องมาเสียเวลาเรียนตั้ง 4 ปีแน่ะถึงจะได้ไปเรียนในสิ่งที่ต้องการจริงๆ พี่ว่าให้คนที่เค้าอยากเรียนจริงๆเรียนดีกว่าค่ะ
Q. คณะนี้เรียนกี่ปี?
A. เรียน 4 ปีค่ะ
Q. ต้องใช้คะแนนความถนัดแพทย์ไหม?
A. ไม่ใช้ค่ะ (เพราะอยู่เราอยู่ในหลักสูตรวท.บ. แต่ไม่ใช่หลักสูตรพ.บ.)
Q. จบไปแล้วทำอาชีพอะไรได้บ้าง?
A. นักแก้ไขการพูด นักแก้ไขการได้ยิน ซึ่งตำแหน่งของเราในโรงพยาบาลก็คือ นักเวชศาสตร์การสื่อความหมายค่ะ
Q. สามารถเรียนต่อป.โทได้ที่ไหนบ้าง?
A. ในต่างประเทศก็มีที่ฮ่องกง นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย อเมริกา ยุโรป ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยนั้นเปิดด้วยนะคะ
ส่วนในประเทศไทยมีที่รามาฯที่เดียวค่ะ
ส่วนในประเทศไทยมีที่รามาฯที่เดียวค่ะ
Q. สามารถเรียนต่อป.โทที่รามาฯได้เลยหรือเปล่า?
A. สำหรับเรื่องหลักสูตรป.โทตอนนี้ทางคณะเปิดรับแบบปีเว้นปีนะคะ โดยจะรับนักศึกษาป.โทรุ่นต่อไปในปีการศึกษา 2557 แล้วก็รุ่นถัดไปในปี 2559 สลับปีเว้นปีแบบนี้ค่ะ ซึ่งจะรับเฉพาะนักศึกษาที่จบปริญญาตรีจากคณะเราเท่านั้น จึงจะสามารถสมัครสอบได้ โดยในหลักสูตรปริญญาโทนี้ก็เปิดทั้ง 2 เอกเลย คือเอกแก้ไขการพูด และแก้ไขการได้ยินค่ะ
Q. ต้องได้คะแนนเท่าไหร่ถึงจะเข้าคณะนี้ได้?
A. อันนี้มันก็ขึ้นอยู่กับคะแนนของแต่ละปีนะคะ พี่ก็บอกไม่ได้เหมือนกัน แต่ยังไงก็สู้นะคะ เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนค่ะ ^^
Q. เวลาแยกสาขา เค้าเลือกกันอย่างไร?
A. ตอนแยกเอกตอนปี 3 (เทอม 1) อาจารย์ให้เขียนว่าเราอยากเลือกสาขาไหนค่ะ
แต่ละเอกก็รับได้ไม่เกิน 15 คนค่ะ ถ้าเกินก็อาจจะมีสอบสัมภาษณ์เกิดขึ้น
Q. ต้องสอบใบประกอบโรคศิลป์หรือป่าว?
A. สอบค่ะ โดยเราต้องไปทำการสอบเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลป์
ถ้าไม่งั้นจะถือว่าผิดกฎหมาย (ยกเว้นว่าไม่ทำงานในด้านนี้) ซึ่งคนที่จะสอบได้ก็ต้องจบจากทางสาขานี้
และต้องมีชั่วโมงปฏิบัติงานทางคลินิกมาไม่น้อยกว่า 350 ชั่วโมงด้วยค่ะ
Q. มีสมาคมรองรับหรือไม่?
A. มีค่ะ สมาคมของเราก็คือสมาคมโสตสัมผัสและแก้ไขการพูดแห่งประเทศไทยค่ะ (THAISHA)
ซึ่งก็จะมีเครือข่ายของนักแก้ไขการพูดและการได้ยินในประเทศไทยเข้าร่วม โดยจะมีการจัดการประชุมสัมมนาในทุกๆปี
Q. จะได้เรียนภาษามือหรือไม่?
A. ในหลักสูตรของรุ่นพี่เป็นต้นไป (ปีการศึกษา 2555) วิชาภาษามือได้มีการยกเลิกไปแล้วค่ะ พี่แอบเสียดายนะเนี่ย
Q. จะได้เรียนภาษามือหรือไม่?
A. ในหลักสูตรของรุ่นพี่เป็นต้นไป (ปีการศึกษา 2555) วิชาภาษามือได้มีการยกเลิกไปแล้วค่ะ พี่แอบเสียดายนะเนี่ย
Q.เรียนจบแล้วจะต้องใช้ทุนหรือไม่?
A.เรียนจบแล้วก็สามารถหางานทำได้เลย แล้วแต่ว่าเราจะเลือกทำงานที่ไหนครับผม
Q.แล้วคณะเรามีทุนบ้างรึเปล่าค่ะ?
A.ถ้าพูดถึงเรื่องทุนในการกู้ยืมเรียนนั้นก็ทำเรื่องขอกองทุนให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.)ได้ครับ แต่ถ้าพูดถึงทุนในการเรียนต่อ เช่น ไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็จะมีโครงการเข้ามาเรื่อยๆครับ อันนี้ก็ขอให้ตั้งใจสอบเข้ามาให้ได้ก่อน แล้วมาติดตามตอนต่อไปและกันเนอะ^^
Q.เรียนจบแล้วจะสามารถทำงานได้ที่ไหนบ้าง?
A.เมื่อเรียนจบแล้วก็สามารถทำงานได้ทั้งในโรงพยาบาล (เป็นนักแก้ไขการพูดและนักแก้ไขการได้ยิน รวมถึงการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย) ในโรงเรียน โรงเรียนการศึกษาพิเศษต่างๆ บ้านเด็กพิการต่างๆ หรือในบริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัทผลิตเครื่องช่วยฟังสำหรับนักแก้ไขการได้ยิน ส่วนนักแก้ไขการพูดก็เช่นกัน เห็นได้จากนักร้องที่ร้องเพลงเพราะๆ นักแก้ไขการพูดก็เป็นหนึ่งในทีมผู้ทำให้เสียงของคนเราดีขึ้นเหมือนกันนะครับ
ที่สำคัญต่อไปในอนาคตหากมีกฎหมายสถานพยาบาลแล้ว เราก็จะสามารถเปิดคลินิกรักษาเป็นของตัวเองได้เลย ตอนนี้ถ้าจะทำงานในคลินิกเราก็ต้องทำร่วมกับคลินิกของหมอไปก่อนนะจ๊ะ ก็แล้วแต่นะครับว่าน้องๆจะเลือกทำที่ไหน อย่างไรครับ
ที่สำคัญต่อไปในอนาคตหากมีกฎหมายสถานพยาบาลแล้ว เราก็จะสามารถเปิดคลินิกรักษาเป็นของตัวเองได้เลย ตอนนี้ถ้าจะทำงานในคลินิกเราก็ต้องทำร่วมกับคลินิกของหมอไปก่อนนะจ๊ะ ก็แล้วแต่นะครับว่าน้องๆจะเลือกทำที่ไหน อย่างไรครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น