ตอนที่ 9 : [os] Forever Within a Day (Minhyun x Daehwi)
[os] Forever within A Day
Hwang Minhyun x Lee Daehwi
#Shelterain101
6,194 words
BG Music: Wanna One – Forever and A Day
(ต้องเปิดเพลงคลอไปด้วยนะคะ พลีสสส)
Trigger Warning: Suicide Attempt
The long wait, the short meeting
I will remember you
The us now
I will engrave and have it in my heart
- Forever and A Day, prod by Nell
(English translation by @mh_twt)
*
เสียงนาฬิกาในห้องยังคงเดินต่อไป ทั้งๆที่ห้วงเวลา ห้วงความทรงจำ ทุกๆความสุขที่เคยฝังรากลึก สลักลงไปด้านในสุดของหัวใจมันได้หยุดลงแล้ว
หยุดลงแบบที่ฮวังมินฮยอนไม่ได้ร้องขอ
ตรงกันข้าม –
เขาอธิษฐานในสิ่งที่ตรงข้ามกันเสมอ
“มินฮยอนอ่า พี่มินฮยอน"
และเสียงเรียกของคนที่เขารักที่สุดก็ยังคงส่งไปไม่ถึง
ในห้องที่เต็มไปด้วยความทรงจำ ห้องที่กว้างใหญ่
ใหญ่พอให้ใส่ปริมาณความสุขที่พวกเขาตักตวงไว้ด้วยกัน
ใหญ่พอที่จะปล่อยให้ปริมาณความรักเพิ่ม ขยายและกลายเป็นความหมายของคำศัพท์
คำศัพท์ที่ฮวังมินฮยอนไม่เคยร้องขอ
แต่มันเป็นสิ่งที่อีแดฮวีมักจะพูดถึงเสมอ
‘พี่ว่าความรักเราจะคงอยู่ตลอดไปไหม?’
เด็กคนนั้นถาม ในตอนที่นอนพิงตักแกร่งอย่างที่ชอบทำ นัยน์ตาคู่ที่ทอประกายแต่ความสุข เหมาะเหลือเกินกับดวงตาคู่ที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยพบ คนตัวเล็กใส่เพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ กางเกงบอลตัวเก่ง
ร่างกายที่ใส่นิยามความรักของฮวังมินฮยอนอย่างเต็มเปี่ยม
‘ไม่หรอก’
‘ทำไมล่ะ’
‘ตลอดไปมันนานกว่าช่วงอายุคนอีกนะ’
‘ถ้างั้นพี่มินฮยอนจะรักแดฮวีไปได้ถึงตอนไหน’
คนเป็นพี่ยิ้ม – เป็นแบบนี้เสมอ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่แบกอะไรหลายอย่างไว้บนไหล่เล็กๆนั่น คนที่ต้องการความมั่นคงในทุกๆอย่าง โดยเฉพาะการเป็นที่รัก
‘ทุกครั้งที่พี่ยังมีแรงลืมตาขึ้นมา ในห้วงความฝัน’
‘แล้วมันไม่ใช่ตลอดไปตรงไหน?’
หัวเราะ อีแดฮวีหัวเราะออกมาอย่างน่ารัก ในขณะที่ประโยคข้างต้นมันทำให้มินฮยอนได้แต่มึนงง
‘ในเมื่อตลอดไปสำหรับแดฮวีคือตลอดชีวิต’
‘ฮ่าๆ ยัยตัวซน!’
ใช้มือจี้เอวเล็กๆนั่นอย่างไม่รู้จะแกล้งอะไร เสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วห้องนอนที่มักจะมีกลิ่นเทียนหอมที่แดฮวีชอบเสมอ ภาพถ่ายของสถานที่ที่พวกเขาเคยไปด้วยกันถูกประดับบนเชือก ร้อยเข้ากับสายไฟสีส้ม
‘ถ้างั้นฮวีก็ห้ามทิ้งพี่นะ"
‘อื้ออออ ไม่ทิ้งหรอก คนแก่ขี้บ่นเนี่ยยยยยยยย’
ยื่นมือออกไปยืดแก้มกอมๆนั่นก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อมันยืดไม่ได้
‘เพราะพี่ไม่อยากถูกทิ้งไว้คนเดียว’
ช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่กับการขอเป็นแฟน ทุกๆโอกาสที่พิเศษและไม่พิเศษ
เป็นตัวแทนความทรงจำของความรู้สึก – รัก
‘ในห้วงนิรันดร์ที่ว่างเปล่า’
‘เค้าสัญญา!’
โกหก อีแดฮวีกลายเป็นเด็กคนโกหกโดยไม่ตั้งใจ
ไม่เคยตั้งใจ
ไม่เคยคาดฝันให้มันเกิดขึ้น
ไม่เคยคิดอยากให้ช่อดอกไม้พวกนั้นแห้งเหี่ยว
และร่วงโรยลงไป – กลายเป็นเศษเข็มที่ทำร้ายฮวังมินฮยอน
ไม่เคยคิดว่าเชือกที่ร้อยภาพกว่าสิบภาพนั้นจะไม่มีภาพใบใหม่อีกแล้ว
Do you know, my heart like this
I can’t be too happy, I’ll get sad
Everything that disappear when I wake up
Could this be that sort of dream, could it be
วันเวลาผ่านไปอย่างไม่เคยเหน็ดเหนื่อย
ที่มันเป็นแบบนั้น เพราะมันมี 'ห้วงเวลา' ที่ 'เวลา’ อยากเร่งไปให้ถึงหรือเปล่านะ?
เหมือนกับที่ฮวังมินฮยอน
พยายามเร่งเข็มวินาที่ให้ไปถึงคำว่ากัลปาวสาน
เพื่อพานพบนิรันดรของเขา – ความสุขนิรันด์
อีแดฮวี
If only we could be forever, is that not possible
The long wait, The short meeting
I will remember you
The us now
I will engrave and have it in my heart
ความสุขนิรันด์ท่ีแอบทิ้งของขวัญไว้มากมาย เตรียมพร้อมให้ชีวิตของมินฮยอนเป็นไปอย่างราบรื่น
บ้านหลังใหม่แห่งนี้ที่มีเปียโนวางไว้อยู่กลางห้อง โพสอิทมากมายที่แปะเตือนทุกอย่างที่มินฮยอนมักจะลืม เสื้อผ้าที่ไม่ได้เข้าคู่กัน แต่ก็มีกลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นเดียวกัน กรอบรูปที่เป็นหลักฐานของเศษเสี้ยวความทรงจำ
เศษเสี้ยวความทรงจำหากเทียบกับเวลาทั้งชีวิต
ความทรงจำในช่วงวัยรุ่นทั้งหมดที่เป็นของกันและกัน
ชีวิตมหาวิทยาลัยที่เป็นได้อย่างราบรื่นเพราะการเอาใจใส่กันและกัน
สู่จุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิต
ที่ฮวังมินฮยอนไม่เคยต้องการ
ที่เขายอมเอาอะไรก็ได้ ที่ตัวเขามี หรือไม่มี
ถ้าไม่มีมินฮยอนก็จะไปหามันมาให้ได้
แลกกับเสี้ยววินาทีที่เขาสามารถรับรู้การมีตัวตนอยู่ของคนรักได้
Oh I love you
And I will love you
ให้เขาได้โอบกอดคนรักผ่านสัมผัสอันคุ้นเคย
ให้เขาได้โอบกอดคนรักผ่านสายตาที่เอ่อล้นไปด้วยความรัก
ให้เขาได้โอบกอดคนรักผ่านถ้อยคำที่จะทำให้ร่างกายที่กำลังเย็นชืด – อบอุ่นขึ้นบ้าง
ให้อีแดฮวีได้รับรู้ความรักที่ฮวังมินฮยอนมีให้
อีกสักเสี้ยววินาทีก็ยังดี
ไม่สิ
คงเป็นพรข้อสุดท้ายในชีวิตของมินฮยอน
Instead of forever, just one more day
You have been waiting for quite a long time, right?
The times you’ve been sad alone, it’s okay now
It was like this so I could meet you
"มินฮยอนอ่า"
ทรุดตัวลงอย่างหมดแรง เพราะความพยายามในการตระโกนเรียกชื่อคนรักนับร้อย นับหมื่น นับแสนครั้ง ตระโกนเรียกต่อไปทั้งๆที่ไม่เหลือความเจ็บปวดใดๆทางร่างกายอีกแล้ว
การตระโกนเรียกชื่อใครซักคนดังๆอย่างต่อเนื่องไม่ได้ทำให้อีแดฮวีรู้สึกเจ็บคออีกแล้ว แต่ก็ยังตระโกนเรียกต่อไป ต่อให้รู้ว่าเสียงของอีแดฮวีจะส่งไปไม่ถึงฮวังมินฮยอน
แต่ความรักของเขาจะส่งไปถึงเสมอ
ส่งไปถึงบุคคลอันเป็นที่รัก
ที่กำลังแตกสลายเพราะตัวแดฮวี
คนที่ให้สัญญาและให้นิยามคำว่านิรันดร
เป็นคนเดียวกับที่ทำลายคำสัญญา
เป็นคนเดียวกับที่แสดงให้เห็นว่าความรู้สึกอันเป็นนิรันด์คือการลงโทษที่สาหัสขนาดไหน
Now that we’ve met
I will remember you
The us now
I will engrave and have it in my heart
ฝังรากลึกลงไป
ทั้งบาดแผล ความสุข หยาดน้ำตาที่กลั่นเป็นเลือด เสียงหัวเราะ
ทุกๆอย่างย้ำชัดถึงความรักที่เคยมีอยู่
และจะคงอยู่
เหมือนชื่อของฮวังมินฮยอนที่จะถูกผูกติดกับอีแดฮวีเสมอ
Oh I love you
And I will love you
‘นี่มินฮยอน’
‘หืม?’
‘อยากแต่งงานหรือเปล่า?’
ถามออกมาทั้งๆที่ส่งต่อความเศร้าผ่านทางดวงตา ความเศร้าของความจริงอันโหดร้ายของประเทศที่พวกเขาเรียกว่าบ้านเกิดที่รังเกียจเพศที่สามมากกว่าสัตว์เดรัจฉาน
‘ก็แค่การใส่สูทเดินในโบสถ์ พี่ใส่ในห้องให้แดฮวีดูก็ได้’
‘ไม่เอาดิ มินฮยอนนนนนน จริงจังนะ’
ปัดมือของคนรักออก กอดอก ก่อนจะยู่ปากเพื่อแสดงความจริงจังของตัวเอง
‘แดฮวี อีแดฮวี’
เรียกชื่อของคนรักในโหมดจริงจัง จัดการรวบมือเรียวสวยคู่เล็กนั่นไว้จนมิด ยกขึ้นมาจูบโดยที่ไม่ละสายตาจากอีกคน
‘ช่วงชีวิตทั้งชีวิตของพี่น่ะ – การแต่งงานมันไม่สำคัญอะไรเลย’
ส่งมือเขาไปลูบกลุ่มผมหนาหนุ่มนั่นอย่างรักใคร่ ก้มลงไปประทับจูบลงบนหน้าผากมน แช่ทิ้งไว้ราวกับจะปล่อยให้คนตัวเล็กซึมซับความรู้สึกรักที่เอ่อล้นขึ้นมา
‘ถ้าเทียบกับการมีอยู่ของอีแดฮวีในช่วงหนึ่งของชีวิต – ในช่วงชีวิตทั้งชีวิตของฮวังมินฮยอน’
มินฮยอนยิ้มออกมากว้าง ยิ้มกว้างจนตาปิด เมื่อคนรักโถมเข้ามากอดเขาไว้แน่นเหมือนลูกลิง กอดแน่นจนไม่รู้สึกถึงอากาศที่รอดผ่าน
คงจะมีแต่เวลา
เสี้ยวเวลาที่รอดผ่านตัวพวกเขาไปได้
ผ่านไปอย่างโหดร้าย
ผ่านไปโดยไม่คิดย้อนกลับมาคืนความรักของมินฮยอน
Instead of forever, just one more day
In the times that go by
Without our distance getting further apart
Without running away
I will be holding on to you tightly
Like this
ฮวังมินฮยอนยิ้ม
เมื่อเขาปล่อยตัวเองไว้ในห้องนี้นานจนตัวเองจำเวลาข้างนอกไม่ได้เสียแล้ว เหตุการณ์ที่อยู่ข้างนอกไร้ความหมายโดยสมบูรณ์แบบ เมื่อข้างกายของมินฮยอนไร้อ้อมกอดของใครคนนั้น ทุกๆอย่างดูเกิดขึ้นมาอย่างว่างเปล่าและไร้แก่นสาร เหมือนฮวังมินฮยอนที่ถูกดึงทึ้งจากมือที่มองไม่เห็น
ตื่นขึ้นมาเพื่อนึกย้อนภาพความทรงจำต่างๆ
หลับลงเพื่อฝันถึงอนาคตที่ไม่มีวันมาถึงของพวกเขา
ปล่อยให้น้ำตาไหลลงเพื่อแสดงความรักที่ตนมีให้คนรัก
ความรักที่มีแต่ความตายเท่านั้นที่จะสามารถพรากจากพวกเขาได้
ร่างโปร่งเดินไปหยุดลงบนเปียโนหลังโปรดขอแดฮวี
หัวเราะออกมาเมื่อพบว่ามันมีชีทเปียโดนที่มีชื่ออีแดฮวีเขียนกำกับไว้
เพลงที่อีกฝ่ายแต่งไว้ให้กับเขา มินฮยอนหยิบโน้ตเปียโนขึ้นมากอง กวาดสายตาดูคอร์ดคร่าวๆ ก่อนจะทำให้สิ่งที่คนรักสร้างทิ้งไว้ในอดีต – กลายเป็นปัจจุบัน
เพลงที่ถูกเล่นพร้อมกับน้ำตา
เพลงที่ถูกเล่นพร้อมหยาดน้ำข้นๆที่ไหลลงมาตามจังหวะการใช้แรง
เพลงที่ถูกเล่นด้วยความรักและจิตวิญญาณทั้งหมดของฮวังมินฮยอน – แด่อีแดฮวี
เพลงรักที่จะถูกเล่นเพียงครั้งเดียว ไม่มีการย้อนกลับไปเล่นคอร์ดที่ผิดพลาด ดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดสิ้นเหมือนการเดินทางของเวลา
เหมือนกับหยาดน้ำตาของอีแดวีตอนนี้ที่ฮวังมินฮยอนจะไม่มีวันมองเห็น
อีแดฮวีที่ทั้งกำลังเสียใจ
แต่ก็ดีใจที่คนรักจะถูกปลดปล่อยจากความทรมานที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นเสียที
I won’t let you go
I will remember you
The us now
I will engrave and have it in my heart
ในตอนที่พวกเขากำลังแยกกันไปทำตามความฝันของกันและกัน
ให้คำสัญญาว่าจะกลับมาเจอกันในตอนที่ประสบความสำเร็จแล้ว
มันน่าตลก
คงเป็นเรื่องตลกของพระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียว
ในตอนที่เครื่องบินกำลังนำพาคนรักของมินฮยอนกลับมา
กลับมาแบบไม่เหลือร่องรอยใด้ๆให้ฮวังมินฮยอนโอบกอด
เจ็บปวด ตกกระทบ แตกสลาย
ทั้งตัว – ทั้งร่างกายของอีแดฮวี
เศษซากของเครื่องบิน
กับภาพความทรงจำที่ยังชัดเจนอยู่เสมอ
ให้ฮวังมินฮยอนโอบกอดความทรงจำเหล่านั้น
โอบกอดห้องของพวกเขา
โอบกอดข้าวของของอีแดฮวีที่รอให้เจ้าของกลับมาอย่างไม่มีวันหมดอายุ
โอบกอดทั้งๆที่ร่างกายตัวเองเต็มไปด้วยรอยแผลจากรอยมีด รอยช้ำ รอยเล็บ จนไร้ร่องรอยความหล่อหรือน่าเกรงขาม แต่ถึงแบบนั้นฮวังมินฮยอนก็ยังเป็นคนๆเดิม คนที่อีแดฮวีรักจนหมดหัวใจ
เหลือเพียงความทรงจำและสิ่งของที่เย็นชืด
เหมือนร่างกายของคนรักที่จากไป
แต่ถึงแบบนั้น
อย่างน้อย มันก็ทำให้ร่างกายของมินฮยอนรู้สึกอุ่นขึ้นมาได้ หยดน้ำตาอุ่นๆที่ไหลย้อนขึ้นมา กลายเป็นสิ่งเดียวที่บอกว่าฮวังมินฮยอนกำลังหายใจอยู่
Oh I love you
And I will love you
ฮวังมินฮยอนที่กำลังหายใจ
ในขณะที่ใช้พลังที่เหลืออยู่ –
ในการฝังทุกความรู้สึกลงไปให้ลึกที่สุด
ให้ชัดที่สุด
Instead of forever, just one more day
Exactly just one more day
Remember me
This song
This song is only for you
เผื่อว่าความรักของเขามันจะส่งไปถึงคนบนฟ้า
เผื่อว่าพระเจ้าจะรำคาญเสียงร้องไห้ของมินฮยอน จนส่งแดฮวีกลับมา
แค่วันเดียว –
ขอแค่เพียงหนึ่งวัน
ให้มินฮยอนได้ใช้ดวงตาบันทึกภาพของอีแดฮวีในตอนที่อีกฝ่ายประสบความสำเร็จ
ขอแค่เพียงหนึ่งชั่วโมง
ให้มินฮยอนได้ใช้เวลาฟังสิ่งที่แดฮวีอยากฝากเอาไว้ ทั้งคนสำคัญที่อยากจะฝากให้ดูแล ของที่ฝากไว้ คำสัญญาที่ให้คนอื่น
ฮวังมินฮยอนจะเป็นคนรักษาคำสัญญานั้นทั้งหมดเอง
ขอเพียงแค่หนึ่งนาที
ให้มินฮยอนได้พรมจูบลงบนใบหน้าของคนรัก พร้อมกับพร่ำบอกรักไปด้วย
ให้ฮวังมินฮยอนได้บอกเย้ยยมทูตว่าเขารักอีแดฮวีมากขนาดไหน
แต่พระเจ้าก็ไม่สนใจคำขอเหล่านั้น
ฮวังมินฮยอนจึงตัดสินใจทำให้คำขอสุดท้ายของเขาเป็นจริง
Oh I love you
And I will love you
ฮวังมินฮยอนไม่ต้องการย้อนเวลาใดๆทั้งนั้น
เขารู้ตัวดีว่าได้ใช้ทุกๆวินาทีอย่างคุ้มค่า
ว่าเขาปล่อยให้ความรักที่มีให้กันและกันซึมซับและเคลื่อนผ่านเหมือนห้วงเวลาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
แต่ในตอนนี้
ตอนที่เวลาในโลกมินฮยอนมันหยุดหมุนไปแล้ว
และเขาก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง
ที่ไม่ได้รับโอกาส
ไม่มีเวลาสักเสี้ยววินาที
Instead of forever, just one more day
Instead of forever, just one more day
ในการใช้เศษเวลานั้นตระคองกอดร่างกายของคนรักที่อาจสั่นไหวเพราะความกลัว
ในการใช้เศษเข็มวินาทีที่ปริแตกนั้น
เทียบมันกับความชั่วนิรันดร์
ที่คงอยู่ในความรู้สึก`
และกำลังจะหมดลงในตอนที่โน้ตตัวสุดท้ายถูกเล่น
อ้อมกอดของคนรักที่ไม่อาจรับรู้ได้อีกแล้ว
ในตอนสุดท้ายของชีวิต
ฮวังมินฮยอนได้แสดงให้เห็น – ถึงนิยามของคำว่าตราบชั่วกัลปาวสานของตนเอง
ชั่วนิรันด์ที่อาจดำเนินต่อไป
หรืออาจจบลง
ในตอนที่น้ำตาของฮวังมินฮยอนหยุดไหล – ตกกระทบลงมา
กลายเป็นชั่วนิรันด์ที่ถูกย่อและหดลงให้เหลือเพียงวันสุดท้ายของชีวิต
จบลงในเสี้ยววินาที ทั้งที่รอมาชั่วชีวิต
กับการได้พบคนที่สามารถเรียกว่าเป็น The Love of my Life
THE END
Please comment or tag #Shelterain101
Talk:ฟังเพลงแล้วร้องไห้ ก็เลยเปิดเวิร์ดขึ้นมาแบบไม่ได้วางพล็อตเลย;___;ฮืออ เพลงดีมากจริงๆค่ะ หวังว่าจะชอบ(ร้องไห้)ไปด้วยกันนะคะ สารภาพว่าแต่งขึ้นมาเพราะหาคนร้องไห้เห็นเพื่อนค่ะ แงT____T
ปล.การดำเนินเรื่องอาจจะตัดไปตัดมาหน่อยนะคะ เราอยากให้มันสะเปะสะปะเหมือนความทรงจำที่ผุดมาในหัวมินฮยอนตอนนี้อ่ะค่ะ;___;
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อ่านแล้วเกือบร้องไห้เลยค่ะ แต่ก็พยายามจะฮึ้บๆ ไว้ให้ได้
น่าสงสารทั้งคู่ที่จากกันไปโดยที่ยังไม่ได้บอกลากันเลย ทั้งๆ ที่ตั้งหน้าตั้งตารอจะได้เจอกันแล้วแท้ๆ