ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [F][Y][P]ราชฮาณาจักร

    ลำดับตอนที่ #1 : สภาสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชฮาณาจักร

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 54


    ความว่างเปล่าของทะเลทรายชั่งน่าทึ่ง เมื่อความมืดมาเยือน จากที่เคยร้อนในตอนกลางวันเมื่อตกค่ำกลับหนาวราวกับเอาน้ำดับไฟ หมู่เมฆกลุ่มใหญ่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วผ่านอาณาจักรทรายที่มีนามว่า"ฟาเรอห์แลนด์" บนถนนหินอ่อนที่ตรงไปสู่ประตูทางออกนอกเมือง แสงไฟจากตะเกียงโบราณริมทางส่องให้เห็นรถม้าที่กำลังวิ่งอย่างเร่งรีบเป็นระยะๆ

    "เร็วเข้าฟากอล์ฟ ข้ามิอาจรอคอยให้เวลาผ่านพ้นคืนนี้ไปได้"ชายผู้หนึ่งยื่นหน้าออกมาจากรถม้า รัศมีเปล่งปลั่งอย่างเห็นได้ชัด"เจ้าหญิงแยม็อง ตูมาเร็ต และสภาสามผู้ยิ่งใหญ่ ต้องรู้เรื่องราวทั้งหมดภายในคืนนี้ ก่อนที่รุ่งสางจะมาเยือน"

    เจ้าของโฉมหน้าอันสง่างามและน้ำเสียงอันนุ่มนวลนั้น เป็นของ ท่านฟาเรอห์ กษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรแห่งทราย

    ท่านฟาเรอห์มิอาจทำใจให้สงบลงได้ แม้นอากาศรอบกายจะหนาวเย็นเพียงใด แต่ก็ไม่อาจดับเพลิงในใจของท่านให้ทุเลาลงได้ เรื่องที่ว่าสิ่งนั้นพึ่งจะถูกค้นพบไม่ใกล้ไม่ไกลจากราชฮาณาจักร จะต้องนำไปบอกยังสภาสามผู้ยิ่งใหญ่ให้จงได้ ก่อนที่แสงสว่างของยามเช้าจะมาเยือน ก่อนที่ทุกอย่างก็จะสายเกินแก้

    รถม้าวิ้งผ่านประตูไม้บานใหญ่ที่เป็นเหมือนปราการยักษ์กั้นระหว่างเขตอาณาจักรทราย เข้าสู่อาณาจักรแห่งป่าไม้ ภายในดินแดนเต็มไปด้วยพืชนานาพันธ์เขียวขจี ธรรมชาติห้อมล้อมต่างจากอาณาจักรทรายโดยสิ้นเชิง

    หนทางข้างหน้ามุ่งสู่ปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเชิงผาท่ามกลางป่าทึบ รอบข้างยังคงมืดอยู่ แค่เพียงเวลานี้ และอีกไม่นานก็จะเช้า รถม้าหยุดลงที่หน้าปราสาทหินสูงใหญ่ดูน่ากลัวน่าเกรงขาม คนรถวิ่งมาเปิดประตูต้อนรับกษัตริย์ฟาเรอห์ผู้สูงศักดิ์ลงจากรถอย่างสมเกียรติ์ราวกับมีพรมแดงปูทางให้เดิน เสียงรองเท้าของท่านบดลงกับก้อนกรวดดังแกรบๆ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ประตูปราสาท

    "ขอบใจมากฟากอล์ฟ" ท่านฟาเรอห์เอ่ยขึ้น "แต่เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่แหล่ะ" เมื่อเห็นฟากอล์ฟทำท่าจะติดตาม

    ท่านฟาเรอห์ก้าวเท้า้อย่างรีบเร่งเดินดุ่มๆเข้าไปในปราสาทที่มืดมิดอย่างไม่หวาดกลัว แสงไฟจากคบเพลิงส่องให้เห็นเป็นเงาสะท้อนบนกำแพงอย่างน่าเกรงขาม ราวกับนักรบผู้เดินทางไปพิชิตอสูรกาย เสียงฝีเท้าหยุดลงยังประตูไม้เก่าแก่บานหนาแน่น

    "เวลาเอ๋ย เจ้าจะรีบไปไหน... ได้โปรดหยุดเวลาของเจ้าไว้สักสองสามนาทีก็ยังดี" ท่านฟาเรอห์พูดกับตัวเองเบาๆเป็นเชิงภาวนา และผลักประตูหนักอึ้งนั้นออกราวกับผลักภาระในอกออก แสงไฟสีส้มกลางห้องส่องพาดผ่านใบหน้าของท่านฟาเรอห์ และเผยให้เห็นอีกหลายใบหน้าที่นั่งล้อมรอบลานหินตรงกลางห้อง

    "ข้ามาถึงแล้ว..." เสียงของท่านฟาเรอห์ดังไปทั่วที่่ประชุมสภาสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชฮาณาจักร หลังจากเสียงประตูไม้ที่ปิดตามหลังดังปัง! เสียงในห้องประชุมก็เริ่มดังเจาะแจะจอแจราวกับฝูงจิ้งหรีดในฤดูผสมพันธ์ เหล่าขุนนางชั้นสูงกำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ "หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่" เรียกมาประชุมในยามค่ำคืนอย่างกระทันหันแบบนี้

    จนกระทั่งทุกเสียงสงบลงเมื่อท่านฟาเรอห์กล่าวขึ้นอย่างเสียงดัง กังวาลไปทั่วสภา "ขออภัย..."

    ท่านกระแอมไอหนึ่งทีและพูดต่อ "ขออภัยอย่างสูงทุกท่าน... ที่้าเดินทางมาถึงช้าก็เพราะว่าคนรถของข้า..."

    "ข้าคิดว่าท่านกำลังจะขออภัยผิดเรื่องแล้วล่ะเพคะ..." ขุนนางหญิงท่านหนึ่งพูดขัดขึ้นในเชิงไม่พอใจ

    "ท่านน่าจะขออภัยในเรื่องที่เรียกพวกเรามาประชุม ณ ที่สภาสามผู้ยิ่งใหญ่ ในยามดึกๆดื่นๆเสียมากกว่า" เธอใช้หลังมือท้าวคางอย่างเบื่อหน่ายและไม่สบอารมณ์ เปลี่ยนท่าเป็นนั่งไขว่ห้าง และทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้บุนวมอย่างไม่พอใจ เธอเน้นเสียงพูดทีละพยาง "ด้วยเรื่องอะไร..."

    "ขออภัยอย่างยิ่งท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ" ท่านฟาเรอห์สวนกลับด้วยการเน้นเสียงทีละพยางเช่นกัน "แต่ข้าเกรงว่า จะไม่ใช่เรื่องของท่าน แต่เพียงผู้เดียว หากแต่เป็นปัญหาใหญ่ที่เราจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา"

    ขุนนางหญิงนางนั้นจิกสายตามองท่านฟาเรอห์อย่างจองหอง หากแต่ท่านทำเป็นมองไม่เห็น และเบนสายตาไปทางอื่น "ข้าเกรงว่าจะแจงปัญหาพร้อมๆกันเมื่อ ท่านพยาแต็น และเจ้าหญิงแยม็องมาถึง" ในระหว่างนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาและเปิดโอกาศให้ขุนนางท่านอื่นได้ซักถาม จนกระทั่งเวลาร่วงเลย

    เสียงประตูไม้เปิดออกดังเอี๊ยดอ๊าด! และกระแทกกับดังปัง!อย่างรวดเร็ว ลมแรงชนิดพัดกระดาษปลิวแล่นผ่านลำตัวของท่านฟาเรอห์ไปอย่างรวดเร็ว แทบจะไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนอยู่ของ ท่านพยาแต็น ที่ได้นั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมแล้ว

    "เจ้าเรียกข้ามาในยามดึกดื่นเช่นนี้ ด้วยเหตุอันใดกัน..." ท่านพยาแต็น พูดไปหาวไป ร่างกายที่เป็นผึ้งยักษ์ลอกคาบอย่างรวดเร็วและถอดรูปออกเป็นกายมนุษย์ คาบกลายเป็นผุยผงระยิบระยับลอยหายไปกับอากาศ

    "ข้า..."

    "ข้ากำลังจะเข้านอนอยู่แล้วเชียว เจ้าดันส่งสารมากวนซะนี่"

    "ข้าเพียง..."

    "ข้ารู้ๆเจ้าคงไม่ได้มีเรื่องไร้สาระหรอกใช่มั้ย นี่ดีนะที่ว่าข้ามีปีกวิเศษที่หายวับไปที่ไหนก็ได้ภายในพริบตา"

    ต้องยอมรับว่าท่านฟาเรอห์ไม่ค่อยชอบขี้หน้าพยาแต็นเท่าไร ทั้งรูปกายผิดมนุษย์มนา ทั้งนิสัยแปลกประหลาดที่ชอบพูดเองเออเอง และชอบพูดมาก มันทำให้ท่านฟาเรอห์อยากจะจับพยาแต็นไปประหารชีวิตด้วยการเรอกรอกหูเอาให้จุกอกตาย

    และเสียงประตูไม้ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเสียงแง้มเบาๆ กลิ่มหอมของดอกไม้เอ่อทะลักออกมาจากเงามืดเบื้องหลังบานประตู พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาในที่สภาสามผู้ยื่งใหญ่อย่างช้าๆ และเป็นจังหวะ

    นั่นคือสิ่งที่เตือนว่า เจ้าหญิงแยม็อง ตูมาเร็ต ได้มาถึงแล้ว...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×