ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kakikomi Academy (รับวิจารณ์ทุกอย่าง)

    ลำดับตอนที่ #33 : [ผลตรวจรายงาน l อ.นางฟ้า] ดั่งน้ำค้างฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 57


      

     

      

    สวัสดีค่ะ วันนี้อาจารย์นางฟ้ามาส่งผลการตรวจงานเรื่อง ‘ดังน้ำค้างฟ้า ของนักเรียน หนึ่ง คือสิ่งที่ฉันเป็น

     

    ต้องบอกไว้เลยว่าช่วงนี้อาจารย์งานยุ่งมากถึงมากที่สุด ดังนั้นจะไม่มีการอรัมภบทใดๆ ทั้งสิ้น ตรงเข้าเรื่องทันที และอีกอย่างก็คือ ตามกฎแล้วอาจารย์รับอ่านแค่ 25 บทเท่านั้น หากเกินไปกว่านี้ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือนักเรียน ว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจของอาจารย์ได้ไหม และสำหรับเรื่อง ‘ดั่งน้ำค้างฟ้า อาจารย์อ่านไปได้ทั้งหมด 30 บท จาก 43 บทค่ะ

     

     

    ชื่อเรื่อง

     

    อันดับแรกสุดคือคำชมค่ะ ดั่งน้ำค้างฟ้า ชื่อเรื่องตรงและเข้ากับเนื้อหาได้ดีค่ะ นำคำมาเล่นได้เหมาะ สั้นกระชับ ได้ใจความ

     

     

    **คำเตือน  ต่อไปนี้คือคำติ กรุณาเตรียมใจไว้ให้ดี

     

     

    พล็อตเรื่อง

     

    ความรักของพระนางมาจากความประทับของกันละกันเมื่อครั้งอดีต เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งจึงทำให้ทั้งคู่รู้สึกผูกพัน ต้องตาต้องใจในกันและกัน พระเอกมีปมที่ถูกแฟนเก่าทิ้งเพราะคิดว่าเขาจนซึ่งก็คือพี่สาวนางเอก ส่วนนางเอกมีฝาแฝด พอแฝดน้องที่เป็นผู้ชายตาย นางเอกเสียใจทำใจไม่ได้ บวกกับพ่อที่คิดพิเรนทร์ยึดติดแค่ว่าจะหาคนสืบทอดตระกูล เลยให้ลูกสาวสวมรอยเป็นลูกชายตั้งแต่อายุ 14 จนกระทั่งโตเป็นสาวเรียนจบหมอ ซึ่งเป็นช่วงที่ได้มีโอกาสกลับมาเจอกับพระเอกอีกครั้ง

     

    พล็อตเรื่องแบบนี้ไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ พบเห็นกันเสมอ หลายเรื่องเขียนออกมาได้ดี ส่วนเรื่องนี้ ความยากอยู่ตรงที่ไม่ได้ปลอมตัวหรือสวมรอยแบบชั่วครั้งชั่วคราว หรือปกปิดตัวตนที่แท้จริงของนางเอกกับแค่คนกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นการปกปิดคนทั้งประเทศ และยาวนานเป็นสิบปี โดยคนที่รู้ความจริงมีเพียงแค่นางเอก พ่อนางเอก และคนใช้ ซึ่งจากที่อ่านไป 30 บท ผู้เขียนไม่ได้บอกเลยว่าใช้วิธีไหนถึงไปปิดเรื่องนี้มาได้ เริ่มแรกตอนที่น้องชายนางเอกตาย ทางโรงพยาบาลต้องออกเอกสารให้กับทางญาติ เพื่อทำไปแจ้งเรื่องต่อที่อำเภอ แล้วพ่อนางเอกทำอย่างไรกับเรื่องนี้ จะว่าติดสินบนแพทย์ผู้เขียนก็ไม่ได้บอก แล้วถ้าทำแบบนั้นจริงหมอที่ออกเอกสารต้องรู้เรื่องนี้ด้วย และต้องสนิทกับพ่อนางเอกมากๆ ไม่อย่างนั้นไม่มีหมอคนไหนกล้าทำความผิดกับจรรยาบันในอาชีพตัวเองขนาดนี้ ไหนจะเรื่องความผิดทางด้านกฎหมายอีก

     

    ต่อมานางเอกเข้าเรียนหมออีก นักศึกษาแพทย์ทุกคนต้องผ่านการตรวจร่างกายอย่างละเอียด มีการเอ็กซเรย์ร่างกาย เพื่อเอาผลตรวจนี้ไปยื่นตอนเข้าเรียน ถ้าไม่มีใบรับรองนี้เข้าเรียนไม่ได้ แถมเข้าไปเรียนแล้ว นักศึกษาชายจะกลายเป็นต้นแบบให้เพื่ือนๆ นักศึกษาตรวจร่างกาย ซึ่งถึงตรงนี้ต้องถอดเสื้อออก มีการจับ ลูบคลำเพื่อฝึกในเรื่องการตรวจโรค เรียนรู้เกี่ยวกับอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งในหนึ่งปีจะฝึกแบบนี้หลายครั้ง ซึ่งผู้เขียนไม่ได้อธิบายไว้เลยสักนิดอีกเช่นกัน ว่านางเอกหลบเลี่ยงมาได้อย่างไร

     

    คำแนะนำ

     

    จากที่อาจารย์ลองถามนักศึกษาแพทย์มา เขาลงความเห็นว่าถ้าปลอมตัวมาตั้งแต่แรกเริ่มเรียนหมอเลย ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะต้องมีผลตรวจร่างการไปประกอบการยืนเรื่องเข้ารับการศึกษา ไหนจะเรื่องการฝึกตรวจร่างกายอีก เกี่ยวกับพล็อตแบบนี้ความเป็นไปได้นั้นแทบเป็น 0 ซึ่งตรงนี้หากเป็นได้ อาจารย์แนะนำให้เปลี่ยนพล็อตค่ะ เพื่อความสมเหตุผล ให้งานเขียนมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าเป็นอย่างเช่นในตอนนี้ นิยายเรื่องนี้ถือว่าพล็อตหละหลวมมาก แต่ถ้าผู้เขียนคิดว่าแก้ไม่ได้ หนักเกินไป และนี่ก็เป็นแค่นิยายไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมากนัก ก็ปล่อยไว้เหมือนเดิม แต่ก็อย่างให้เขียนบอกบ้างว่านางเอกหลบเลี่ยงอุปสรรคพวกนี้อย่างไร ไม่ใช่จู่ๆ ก็กระโดดข้ามไปเลย เหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น

     

     

     

    การบรรยายและบทสนทนา

     

    เป็นจุดอ่อนอีกอย่างที่ผู้เขียนต้องเร่งแก้ไขค่ะ โดยเฉพาะช่วงต้นเรื่องตั้งแต่บทแรกจนถึงบทที่ 20 เลยก็ว่าได้ ความสามารถในเรื่องการบรรยายถือว่าค่อนข้างอ่อน โดยเฉพาะบทแรก เปิดเรื่องมาแบบจู่ๆ ก็โดดออกมา ขาดเสน่ห์และแรงดึงดูดให้ตามอ่านต่ออย่างร้ายกาจ แค่ช่วง 3-4 ย่อหน้าแรกที่ไม่ได้ยาวมากมายอะไร แต่ก็จับยัดตัวละครมาเต็มไปหมด ทั้งพ่อแม่พระเอก แฟนเก่า ชื่อคนใช้ เข้าใจว่าผู้เขียนต้องการปูพื้นฐานตัวละครให้ช่วงเริ่ม เพื่อให้คนอ่านเข้าใจประวัติความเป็นมา แต่เพราะการบรรยายยังไม่ดีพอ เล่าเรื่องไม่เก่ง แทนที่คนอ่านจะเข้าใจกลับนั่งงงเป็นไก่ตาแตก แล้วที่หนักสุดก็ตรงชื่อพระเอก “คิดถึงเสมอ” สำหรับอาจารย์แล้ว การตั้งชื่อตัวละครแปลกๆ ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องไม่ดีหรือไม่ควร แปลกกว่านี้ก็มี แต่ถ้าแปลกแล้วต้องเขียนบทบรรยายให้ดีกว่านี้ เพราะที่เป็นอยู่ปัจจุบันพออ่านแล้วยิ่งงงไปกันใหญ่ ที่เห็นได้ชัดๆ คือ 2 บรรทัดแรก พระเอกคิดเรื่องมอเตอร์ไซต์ของเขาที่ทำงานเก็บเงินจนสามรถซื้อมาได้สำเร็จ แต่พอกวาดตาอ่านต่อมา “นายคิดถึงเสมอ” ทีนี้สะดุดเลย ต้องวกกลับไปอ่านราวๆ 3 รอบว่ากำลังบรรยายถึงความคิดของพระเอก หรือเอ่ยชื่อพระเอกที่ชื่อ คิดถึงเสมอกันแน่

     

    หลังจากนั้นพออ่านมาถึงบทที่ 12 จู่ๆ ผู้เขียนก็บรรยายว่ากลับมาสู่ปัจจุบัน!!

     

    เล่นเอาอาจารย์นี่อ้าปากค้างตาเหลือกไปราวๆ 3 วินาทีเลย เพราะไม่มีตรงไหนที่ผู้เขียนบรรยายอย่างชัดเจนเลยว่า พระเอกของเราเขาคิดถึงอดีตเยอะแยะขนาดนั้น เล่าเรื่องมาราวกับเป็นปัจจุบัน แถมยังวกกลับมาฉากเดิมที่มีเจ้ามอเตอร์ไซต์คันละล้านกว่านั่นอีก 10 บทกับการย้อนอดีตที่ยาวนาน(มาก) ย้อนจนคนอ่านไม่รู้ตัวเลยว่าย้อนตั้งแต่เมื่อไร เป็นการย้อนที่สุดแสนงงงวยและไร้แบบแผน เพราะจุดเริ่มแรกคือพระเอกคิดถึงอดีตของตัวเอง เรื่องต่างๆ ที่เล่ามาควรเป็นความทรงจำที่ผ่านจากสายตาของพระเอกเท่านั้น แต่นี่กลับไปเล่าเรื่องอื่นของนางเอก ซึ่งพระเอกไม่ได้มีส่วนร่วมเลยสักนิด (โดยเฉพาะฉากที่น้องชายนางเอกตาย) แล้วคุณนายแพทย์คิดถึงเสมอเข้าไปรู้ได้ยังไง? แบบนี้ไม่เท่ากับว่าพระเอกรู้ความจริงเรื่องการสวมรอยมาตั้งแต่แรกหรือ ซึ่งตรงนี้เป็นความบกพร่องของผู้เขียนเต็มๆ ในเรื่องความผิดพลาดด้านการบรรยาย   

     

    คำบางคำไม่สมควรต้องอยู่ในการบรรยาย ใส่เข้าไปแล้วทำให้อ่านสะดุด ไม่ลื่นไหล อ่านแล้วรู้สึกติดขัดน่าหงุดหงิด และผู้เขียนก็มักใส่มาเกือบตลอดเวลา อย่างคำว่าคุณพ่อ คุณแม่  ถ้าเป็นบทพูดของตัวละครไม่เป็นไร แต่บทบรรยายไม่ต้องใส่มา เพราะมันทำให้เรื่องนี้ขาดความเป็นธรรมชาติ บางครั้งมาเจอประโยคบรรยาย  คุณแม่พนิดาของเขา , คุณพ่อของนายคิดถึงเสมอ , คุณพ่ออัศนัย ภัรทวรรธ  หรือไม่ก็แนวๆ คล้ายกันนี้ แค่เปลี่ยนเป็นตัวละครตัวอื่น ใส่มาทั้งชื่อจริงทั้งนามสกุลหลายรอบมาก พออ่านเจอมากๆ เข้าแถมติดกันเป็นพรืดแบบนี้อีก ทำให้รู้สึกเบื่อ รำคาญ และทำให้นิยายเรื่องนี้ยิ่งขาดเสน่ห์ดึงดูดนักอ่านมากไปกันใหญ่

     

    และเมื่อบกพร่องอย่างค่อนข้างเห็นได้อย่างชัดเจนในบทบรรยาย ทำให้เมื่ออ่านแล้ว อาจารย์ไม่ได้รู้สึกอินไปกับการดำเนินเรื่อง หรือความรู้สึกต่างๆ ของตัวละคร ถ้าให้เปรียบก็เหมือนนั่งดูเด็กมัธยมที่แสดงละครไม่เป็น พูดก็แข็ง เดินก็แข็ง ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด กว่าจะผ่านไปได้แต่ละฉากมันช่างน่าทรมานเหลือเกิน

     

    ในด้านบทสนทนา อาการไม่หนักเท่าบทบรรยายแต่ก็ยังถือว่าน่าเป็นห่วง ตรงจุดนี้จะส่งผลกระทบต่อในเรื่องลักษณะนิสัยของตัวละคร ซึ่งจะขอยกไปพูดในหัวข้อต่อไป

     

    คำแนะนำ

     

    งานเขียนเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอ ฝีมือถึงจะพัฒนาไปได้ รวมทั้งการหาประสบการณ์ และสิ่งที่ช่วยได้ดีที่สุดก็คือการอ่าน อ่านิยายให้มากเข้าไว้ อ่านแล้วคิดวิเคราะห์ตาม จับจุดต่างๆ ทั้งเรื่องพล็อต การดำเนินเรื่อง การบรรยาย บทสนทนา แล้วนำมาปรับใช้กับแนวทางของตัวเอง และจากที่อ่านนิยายเรื่องนี้ ตั้งแต่บทที่ 20 ลงมา อาจารย์ก็ได้เห็นว่าฝีมือของผู้เขียนพัฒนาขึ้น แม้จะยังไม่มาก แต่ก็ถือว่าดีกว่าในช่วงแรกๆ พอสมควร

     

     

    ตัวละคร

     

    ตัวละครในเรื่องนี้ขาดเสน่ห์ค่ะ ถ้าเปรียบกับการแสดงละครโทรทัศน์ ผู้ที่สวมบทบาทถือว่าสอบตก เพราะบรรดาตัวละครทั้งหมดไม่สามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะรัก เศร้า ดีใจ เสียใจ โกรธ อิจฉา ไม่สุดเลยสักทาง อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกอินหรือมีอารมณ์รวมกับเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ เลย ตัวละครแบนราบไม่มีมิติ อันเนื่องมาจากบทบรรยายที่ยังไม่ดีพอ การดำเนินเรื่องแบบลืมใส่ใจรายละเอียดที่ควรใส่ การกระทำหลายอย่างที่แสดงออกมาขัดแย้งกันไปหมด ไร้ที่มาที่ไป ทำให้ไม่รู้สึกน่าคล้อยตามเลยสักนิด

     

    ยกตัวอย่างฉากที่พระเอกนางเอกทะเลาะกันในบ้านของพระเอก เจอหน้ากันครั้งในรอบหลายปี หลังจากนางเอกสวมรอยเป็นผู้ชาย พระเอกบอกว่าตัวเองแมน ไม่เบี่ยงเบน ก่อนหน้านั้นก็ไม่มีบทไหนที่แสดงให้เห็นว่าพระเอกหวั่นไหวกับนางเอกในคราบผู้ชายมาก่อน ทั้งสองคนทะเลาะกันจนถึงกันต่อยหน้า แต่สิ่งที่พระเอกทำคือกระชากนางเอกมาจูบ จูบทั้งๆ ที่คิดว่านางเอกเป็นผู้ชาย เป็นการกระทำที่ขัดแย้งอย่างชัดเจน เพราะหากก่อนหน้านี้มีเรื่องราวความสัมพันธ์ในระหว่างที่นางเอกเป็นผู้ชายมาบ้างก็จะไม่มีปัญหา แต่นี่ไม่มีเลย จะบอกว่าเป็นเพราะความประทับใจของทั้งคู่เมื่อหลายปีก่อนก็ไม่ใช่ เพราะพวกเขาไม่ผูกพันกันลึกซึ้งขนาดนั้น หนำซ้ำยังไม่ใช่ไปในทางชู้สาวด้วย

     

    ด้านตัวละครอื่นๆ ก็พอกัน แม่เกลียดลูกเพราะแค่ตอนคลอดตัวเองตกเลือดเกือบตาย พี่สาวก็อิจฉาน้องแบบไม่มีที่มาที่ไป แม่บ้านที่ชอบเปลี่ยนชื่อซึ่งมีบทเยอะเกินความจำเป็น ฉากเหล่านั้นหากตัดออกไปก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ กับเรื่องเลยสักนิดเดียว แต่ตัวละครพวกนี้ยังพอเข้าใจได้ อนุโลมได้ ยังไม่ถือว่าหนักนา เพราะหนักสุดคือพ่อนางเอก พูดแค่ว่ารักลูกแต่การกระทำตรงข้าม ไม่ได้ปกป้องลูกสาวคนเล็กเลย เกรงใจเมียกลัวเมียจนเหมือนคนไม่มีความคิด เห็นแก่ตัวอีกต่างหาก กลัวจะไม่มีคนสืบทอดตระกูล เลยให้ลูกสาวกลายเป็นลูกชาย ทั้งที่สมัยนี้ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องใช้นามสกุลสามีแล้ว หรือให้นางเอกมีลูกสัก 2-3 คน แล้วขอหลานคนหนึ่งมาใช้นามสกุลตาก็ได้ (ที่บ้านอาจารย์ก็ทำแบบนี้ พ่อมีแต่ลูกสาว 3 คน พอมีหลานก็ขอหลาน 1 คนให้มาใช้นามสกุลตา เพื่อจะได้สืบสกุลต่อ)

     

    อีกเรื่องที่ต้องระวังและควรเร่งแก้ไข คือการที่ตัวละครพูดคนเดียว บ่นพึมพำอยู่คนเดียว ซึ่งในชีวิตจริงไม่มีคนสติดีๆ เขาพูดออกเสียงยืดยาวกับตัวเองแบบนั้น เป็นพฤติกรรมอันขัดกับความเป็นจริงๆ มาก ควรเลี่ยงให้ตัวละครคิดในใจจะดีกว่า หรือถ้าไม่ได้จริงๆ ก็อย่าให้พูดคนเดียวบ่อยๆ ด้วยประโยคที่ยาวเป็นบรรทัดขนาดนั้น

     

    คำแนะนำ

     

    ลองใช้วิธีเขียนพล็อตเฉพาะตัวละครดูนะคะ สร้างเป็นโปรไฟล์ของพวกเขา ว่าแต่ละคนมีนิสัยอย่างไร เด่นตรงไหนด้อยเรื่องไหน เขียนออกมาให้ชัดเจน ซึ่งจะทำให้เรามองเห็นนิสัยใจคอของตัวละครได้ดีและมากยิ่งขึ้น หากตัวละครแบนราบไร้มิติเกินไป หรือนิสัยดูกลืนๆ กันไปหมดไม่มีความแตกต่าง เราก็สามารถปรับแก้ให้ชัดเจนขึ้น

     

     

    การดำเนินเรื่อง

     

    เอื่อยในเรื่องที่ไม่ควรจะเอื่อย สั้นกระชับในส่วนที่ไม่ควรจะกระชับ

     

    บทของบรรดาตัวประกอบที่ไม่ว่าจะเป็นคุณพยาบาลทั้ง 2 คน หรือแม่บ้าน ใส่มามากเกินไป ละเอียดเกินไป โดยที่หลายจุดไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเลย หรือถ้าเกี่ยวก็แค่นิดเดียวจริงๆ บทเซอร์วิสกุ๊กกิ๊กของพระนางจัดเต็มๆ แต่กลับไม่ใส่ใจตรงส่วนที่ว่าเพราะอะไรพระเอกถึงได้รู้สึกดีกับสาวแท้ชายเทียม เพราะอย่าลืมว่าผู้เขียนชูเรื่องพระเอกเกลียดคนในบ้านนางเอก ที่คิดว่าเขาจน ตัวนางเอกเองก็อยู่ในคราบผู้ชาย ไหนจะฉากอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่ไปไม่สุดก็ตัดฉับ เริ่มฉากต่อไป และสำคัญที่สุดคือเรื่องที่ว่านางเอกและพ่อทำอย่างไร ถึงได้หลบเลี่ยงอุปสรรคในการปลอมตัวเป็นผู้ชายมาได้กว่าสิบปี ซึ่งผู้เขียนข้ามไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้ขยายความออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งที่เรื่องนี้มีปมมีประเด็นให้เล่นค่อนข้างมาก แต่เพราะเก็บรายละเอียดไม่หมด แจกบทไม่ดี ขยายความไม่ถูกจุด เน้นแต่บทกุ๊กกิ๊กพระนาง ดราม่านางอิจฉา มันเลยออกมาขาดๆ เกินๆ ทำให้เรื่องนี้แค่อ่านได้เรื่อยๆ ไม่น่าติดตามก

     

    คำแนะนำ

     

    เขียนพล็อตหยาบและพล็อตละเอียดในแต่ละตอนให้ชัดเจนค่ะ ว่าจะเล่าเรื่องอย่างไร เน้นเรื่องไหนเป็นสำคัญ เพื่อให้สามารถเขียนไปในทิศทางนั้นได้อย่างถูกต้อง เก็บรายละเอียดหมด ไม่หลงลงประเด็นสำคัญซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรื่อง

     

     

    อื่นๆ

     

    การเว้นวรรค

     

    เป็นปัญหาร้ายแรงมากถึงมากที่สุดเลยกว่าได้ ตั้งแต่บทแรกจนถึงบทสุดท้ายที่อาจารย์อ่าน ผู้เขียนก็ยังเว้นวรรคไม่ถูกต้อง บางทีก็ถี่เกินไป ทำให้อ่านแล้วสะดุดไม่ลื่นไหล (บอกตรงๆ ว่าหงุดหงิดมาก) บางประโยคความหมายเลี่ยนไปเลย พอบวกกับการบรรยายที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางก็ยิ่งหนักไปกันใหญ่ พอคนอ่านรู้สึกหงุดหงิดก็ทำให้เริ่มไม่มีใจอยากจะอ่านต่อ ในบางครั้งก็ยาวเกินไป(มีไม่มากนัก เท่าที่เห็นคือแค่ 3-4 ครั้ง) กินเนื้อกว่าบรรทัดครึ่ง เรียกว่าแทบหมดลมหายใจกันเลยทีเดียว

     

    ยกตัวอย่าง

     

    จีบคะ คุณแม่ แต่หน้าตาไม่ผ่านคะ ฮ่องกงฟุต ยังอาย ไม่ได้เป็นจุดสนใจ จุดเด่นนี่คะ ในวัยเรียนทุกคนเค้าไม่สนใจหรอกคะ เรื่องเงิน เรื่องทอง ฐานะทางบ้าน

     

    เปลี่ยนเป็น

     

    จีบค่ะคุณแม่ แต่หน้าตาไม่ผ่านคะ ฮ่องกงฟุตยังอาย ไม่ได้เป็นจุดสนใจจุดเด่นนี่คะ ในวัยเรียนทุกคนเค้าไม่สนใจหรอกเรื่องเงิน เรื่องทองหรือฐานะทางบ้าน

     

    คำแนะนำ

     

    เวลาพิมพ์แต่ละประโยคเสร็จแล้ว ให้ย้อนกลับมาอ่านทวนด้วยนะคะว่าอ่านแล้วลื่นไหลไหม สะดุดตรงไหน เว้นวรรคถี่หรือห่างมากไปหรือเปล่า

     

    สรุป

     

    ทุกหัวข้อที่กล่าวมา (ยกเว้นชื่อเรื่อง) เป็นสิ่งที่ต้องเร่งปรับปรุงเป็นการด่วนค่ะ และวิธีที่ดีที่สุดก็คือการอ่านงานเขียนของนักเขียนท่านอื่นให้มากยิ่งขึ้น อ่านแล้วคิดวิเคราะห์ตาม ดูว่าเขาเขียนอย่างไร เล่าเรื่องแบบไหน จับจุดต่างๆ แล้วนำมาปรับใช้กับแนวทางของตัวเอง งานเขียนเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเวลา ความอดทนและความรับผิดชอบ หากไม่ท้อ ขี้เกียจ หรือล้มเลิกไปเสียก่อน ยังไงเราก็สามารถพัฒนาไปได้ จะมากหรือน้อย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพยายามของตัวเอง

     

    หนึ่งสู้... สองถอย...  เลือกเอาว่าจะไปทางไหน
     

       

    แบบฟอร์มรับงาน


    ชื่อ :

    บทวิจารณ์เป็นอย่างไรบ้าง : 

    ให้เครดิตโรงเรียนเราด้วยได้ไหม : 

    ขอบคุณที่ไว้ใจ ให้อาจารย์ตรวจรายงาน หวังว่าจะมีโอกาสได้ตรวจให้ใหม่นะ :


     

     
    B E R L I N ❀

     

     

     

      

    O W E N TM.  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×