คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : จาเร็ต
บทที่ 6 จาเร็ต
“ท่านไปพบพวกเขาที่ไหน?”
“เด็กผู้ชายอยู่กลางหิมะกำลังถูกพวกอินูทำร้าย ส่วนเด็กผู้หญิงถูกพบในป่า”
“สังหารเขาเถิด เขาอาจเป็นตัวอันตราย”
“ไม่ พ่อทำไม่ลงหรอก จาเร็ต”
“ทำไมหรือ ท่านพ่อ”
“เพราะเด็กสองคนนี้
ไม่เหมือนกับพวกเรา”
“ท่านพ่อ เงียบก่อน ดูเหมือนผู้ชายจะฟื้นแล้วนะ”
เสียงพูดคุยเหล่านี้ดังก้องในโสตประสาทของอลัน เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะมองเห็นห้องๆหนึ่งซึ่งดูน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของกระท่อม หลังคาเบื้องบนที่เขาเห็นมุงด้วยหญ้าแฝกและดินเหนียว กำแพงบ้านทำจากอิฐ มีน้ำหยดติ๋งๆลงมาจากหลังคาเจิ่งนอนบนพื้นหินปูนที่เขากำลังนอนแผ่อยู่
แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในกระท่อมหลังนี้มาจากเทียนไขสี่เล่มซึ่งวางไว้บนโต๊ะไม้โอ๊กทั้งสี่มุมของบ้าน แสงสีทองเหล่านี้ส่องให้เห็นเครื่องเรือนที่ทำจากไม้ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ รวมทั้งตู้เก็บของที่ตั้งอยู่มุมห้อง กำแพงอิฐมีช่องซึ่งเจาะไว้สองฟากของบ้านเพื่อนำเชือกมาโยงไปจากฟากหนึ่งสู่อีกฟากหนึ่งเพื่อเป็นที่ตากผ้า และเสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่ตากอยู่บนราวเชือกก็ทำมาจากขนสัตว์หยาบหนา บนโต๊ะไม้โอ๊กมุมบ้านที่อยู่ติดประตูทางเข้า มีหนังสือสี่เล่มและจานอีกสองใบวางอยู่
บรรยากาศรอบสถานที่มีกลิ่นเหม็นสาบแปลกๆ เสมือนโลงศพ
อลันกำลังนอนอยู่บนเตียงแข็งๆที่ทำจากฟูกสีขาวซีดๆ เขาคลำไปที่แผลบนใบหน้าที่เกิดจากการถูกกรงเล็บของหมาป่าข่วน และพบว่ามันถูกปิดด้วยผ้าพันแผลสีขาวบาง เช่นเดียวกับบริเวณคอและหัวไหล่ของเขา ผ้าพันแผลนี้พันจากบริเวณต้นคอพาดผ่านหัวไหล่และสอดเข้าใต้รักแร้ และจรดที่หัวไหล่อีกครั้ง เด็กหนุ่มใช้นิ้วสัมผัสกระดูกไหปลาร้าของเขาดู มันมีความรู้สึกเจ็บลึก นั่นหมายความว่าเขายังไม่ตาย
อลันมองไปข้างตัวเขาและต้องตกใจเมื่อพบว่าเพื่อนสาวของเขากำลังหมดสติอยู่บนเตียงข้างเตียงของเขา ดวงตาของเธอปิดสนิท มีรอยบวมช้ำทั่วใบหน้า แต่หน้าอกยังกระเพื่อมอยู่ตามจังหวะการหายใจ
ฉับพลัน สายตาของอลันก็ปะทะเข้ากับใบหน้าของเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งใบหน้าอยู่จากใบหน้าเขาไม่ถึงหนึ่งฟุต
อลันร้องเสียงหลง ก่อนจะกระโดดลุกขึ้นจากพื้น เขาตั้งการ์ดต่อสู้ แต่ดูเหมือนเด็กคนนี้จะไม่มีกะจิตกะใจจะทำร้ายเขาเลย
เด็กคนนี้เป็นเด็กวัยเดียวกับอลัน มีผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิง ดวงตาสีดำดูหมกมุ่น แต่มีบางอย่างทำให้เขาดูโดดเด่น และดูมีอำนาจ มีผู้ชายวัยกลางคนอีกหนึ่งอยู่ใกล้ๆเขา ใบหน้าของชายผู้นี้ดูหล่อเหลาทั้งที่มีริ้วรอยแห่งกาลเวลาผุดขึ้นบ้างแล้ว ดวงตาของเขาคมเหมือนเหยี่ยว เส้นผมสีดำยาวรุงรัง และมีหนวดเคราขึ้นเต็มไปหมด เสื้อผ้าที่พวกเขาใส่อยู่ดูคล้ายกับการแต่งกายยุคโบราณ คือเป็นเสื้อที่ทำจากหนังสัตว์ อาจจะเป็นหนังแกะหรือแพะก็เป็นได้
“พวกคุณเป็นใคร?”อลันถามอย่างหวาดๆ พลางมองไปที่ใบหน้าของบุคคลลึกลับ
“เราเป็นคนของหมู่บ้านอาซา แต่ถ้าพูดให้ถูกคือ เคยเป็นเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว” ชายผู้ไว้เคราพูด ก่อนจะส่งยิ้มให้อลัน “ข้าชื่อเบนิซัส ส่วนนี่บุตรของข้า จาเร็ต”
จาเร็ต เด็กชายผมสีน้ำตาลไม่ยิ้มให้อลัน แต่ดูเหมือนโกรธอะไรสักอย่าง
“ข้าไม่คิดว่าเขาเป็นคนดีนะ อาจจะเป็นสวะเดนก็ได้”เขาพูด พลางพิจารณาอลันอย่างครุ่นคิด
“แกว่าอะไรนะ”อลันตะคอกอย่างโมโห พร้อมกับกำหมัดแน่น พลันถลาเข้าใส่แต่จู่ๆเขาก็ตระหนักว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดหดหายไปเนื่องจากร่างกายที่ยังไม่สมบูรณ์ดี
ชายผู้เป็นพ่อของจาเร็ตยิ้มเจื่อนๆก่อนจะเอ่ยเบาๆว่า “เอาน่าๆ ทั้งสองคนหยุดทะเลาะกันเถอะ จาเร็ตแค่พูดเล่นไปงั้นแหละ”
อลันและจาเร็ตหลบตากัน แต่สายตาของทั้งคู่ยังคงส่อแววเคืองๆกันอยู่
ชายวัยกลางคนพยายามฝืนยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ น้ำเสียงเป็นการเป็นงานมากขึ้น
“ข้าไปพบเจ้าที่ทิ้งขยะกลางหิมะ ตอนนั้นเจ้ากำลังถูกจ่าฝูงของอีนูทำร้าย ส่วนแม่นางคนนั้น ข้าพบนางอยู่ในป่า หมดสติเช่นเดียวกับเจ้า และขายังแพลงอยู่ ดังนั้น ข้าจึงพาพวกเจ้ามาที่บ้านของข้า”
“งั้นก็แปลว่าคุณช่วยพวกเราไว้น่ะสิครับ”อลันพูดด้วยน้ำเสียงตื้นตัน ความคิดที่ว่า เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากคมเขี้ยวอสูรกายนั้นทำให้สมองของเขาตื้อไปอีกครั้ง
“ใช่ พ่อข้าช่วยเจ้า ไอ้คนโสโครก”จาเร็ตพึมพำขึ้นมาโดยไม่มีใครเชิญ
“แกว่าอะไรนะ!!! ไอ้หัวยุ่ง!!!”อลันตะโกนกลับไปด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม
แต่ก่อนที่ทั้งสองคนจะแสดงเวทีมวยให้เบนิซัสดู ทั้งสองก็ถูกห้ามขึ้นด้วยเสียงครางเบาๆจากบนพื้นหินเย็นเยียบ
ร่างอันอ่อนช้อยงดงามของแคทเทอรีนเริ่มเคลื่อนไหว ตอนแรกมือของเธอขยับ จากนั้นก็แขนขาของเธอ สุดท้ายดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลของเธอก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางแสงสลัวของเทียน แววตาที่แคทเทอรีนจ้องมองมาดูแปลกๆ ในตอนแรกเธอจ้องมองเบนิซัสก่อน จากนั้นจึงหันไปมองจาเร็ตและหยุดที่อลัน
ท้ายที่สุดเสียงแหบพร่าของเธอก็ดังขึ้นให้ทุกคนได้ยิน
“ที่นี่ที่ไหน?”
เบนิซัสเป็นคนแรกที่ตอบคำถามของเธอ “โลกเวอร์นอน
เจ้าหลับไปถึงสองยามเลย แม่นาง”
“หนู
”แคทเทอรีนเริ่มพูดแต่แล้วก็หุบปากเงียบลง
“พักผ่อนเถอะ แคท”อลัน สมิธบอกด้วยแววตาหดหู่ “ฉันว่าทางที่ดีเราควรหลับให้สนิทก่อนจะหาทางกลับบ้าน”
“แต่”แคทเทอรีนเอ่ยขึ้น “พ่อแม่พวกเราละ พวกท่านจะเป็นห่วง”
“ไม่ต้องห่วง”เบนิซัสว่า “ข้ามั่นใจว่าพ่อแม่ของพวกเจ้าไม่มีทางตามหาพวกเจ้าเจอแน่นอน”
ความคิดเห็น