ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มาร์ดอฟ อัศวินยามราตรี

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ(รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.พ. 49


        

    มาร์ดอฟ อัศวินยามราตรี1 ย้อนเวลาฝ่าดงมหันตภัย!

     

    คุณอยากไปอีกโลกหนึ่งไหม นี่เป็นคำถามของผมก่อนที่ผมจะเริ่มนิยายเรื่องนี้ ผมคิดว่าหลายๆคนคงอยาก แน่นอน นั่นก็หมายถึงรวมทั้งผมด้วย เพราะผมก็อยากเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ(เอ่อ คุณรู้จักไหม โลกที่ไม่มีทางเป็นจริงสำหรับเราน่ะ) ผมอยากเข้าไปอยู่ในนั้น แล้วโลดแล่นให้เต็มที่

    ผมอยากให้มีโลกอีกแห่ง จริงๆนะ โลกที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน และไม่เคยไป

     

                    แต่ผมกล้าสาบานต่อหน้าชีวิตนิรันดร์ได้เลยว่า หากคุณได้อ่านนิยายเล่มนี้แล้ว คุณจะไม่อยากไปในที่แห่งนั้น เพราะที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของคาวโลหิตและเด็กผู้ถูกเลือกทั้งสอง

    แต่สิ่งที่คุณจะไม่มีวันลืมเมื่อได้ลิ้มลองหนังสือที่เรียกว่า ยาขม เล่มนี้ก็คือ คุณจะได้รับความตายอย่างเต็มที่!

    ผมจะให้คุณเลือกอีกเพียงครั้ง ครั้งเดียวแห่งความตายและโชคชะตา  คุณจะเลือกที่จะอ่านนิยายโง่ๆที่แต่งโดยเด็กอายุสิบสองเล่มนี้ แล้วไปอ่านวรรณกรรมรักๆใคร่ๆ ที่หลายๆท่านชื่นชอบ หรือคุณจะเลือกอีกทางซึ่งเป็นทางสู่คำว่า อเวจี นั่นก็คือเปิดหนังสือเล่มนี้แล้วลิ้มรสกับรสชาติขมๆ ของมันเสีย ปลงเสียเถิด คุณไม่มีทางเลือกแล้ว คุณมีแค่สองทางเท่านั้น จงเลือกให้เหมาะสมว่าจะเปิดหรือปิด จงเลือกให้เหมาะสมว่าจะทำอย่างไรกับมัน แต่ผมขอเตือนไว้ก่อน หากคุณเลือกทางที่สอง คุณจะไม่มีวันย้อนกลับ เพราะคุณได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประลองแล้ว เอาล่ะ ผมจะไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายนัก

     

                    ขอต้อนรับสู่การประลอง………

     

     

     

     

     บทนำ เปิดฉากความตาย

    การฆ่าคนนำไปสู่ความตาย ความตายนำไปสู่นรก หากผู้ใดได้ฆ่าคนแล้ว เวรกรรมย่อนคืนสนอง พอรู้อย่างนี้แล้วจะฆ่าคนอยู่ไปใย?

                    สถานที่หนึ่งที่ไม่ปรากฏในแผนที่ ตั้งไว้กลางสายหมอกตระหง่าน มันคือสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าทึบแห่งหนึ่ง วังนี้สูงถึงสิบเอ็ดชั้นมันสร้างด้วยอิฐแล้วก็อะไรสักอย่างคล้ายปูน สีที่ทารายรอบวังนี้ล้วนเป็นสีดำสนิทราวขนอีกาออกรัง คุณเคยนึกภาพออกนะ  วังนี้เต็มไปด้วยกับดักมากมายที่รอคุณอยู่เมื่อคุณย่างกายเข้าไปบ้างก็เป็นกับดักหนามที่โผล่ออกมาจากพื้นไม้ บ้างก็เป็นกับดักกำแพงเลื่อนลงมาบดเราจากข้างบน บ้างก็เป็นแสงเลเซอร์ที่ยิงมาจากไหนมิรู้ บ้างก็เป็นเพียงกรงเล็กๆ แต่หาได้เป็นกรงเล็กๆไม่

    เพราะมันมีงูยักษ์ขนาดสามสิบฟุตขดอยู่ในนั้น หากลองแหย่นิ้วเข้าไป รับรองได้ว่า..คุณจะเป็นไอ้ด้วนแน่ๆ

    แต่ที่แน่ๆคือวังนี้ไร้ความปราณี เพราะมันเป็น

     

                    วังดิบ!

                   

     เเอซิสทำไม่สำเร็จครับท่าน” เสียงหนึ่งพูดขึ้นท่ามกลางฝนกระหน่ำ

    เจ้าของเสียงสวมชุดคลุมสีเลือดและหน้ากากปิดหน้า

     

    ไม่บ่อยนักที่หน้าตาที่แท้จริงของชายผู้นี้จะถูกเปิดเผย เลือดสีแดงฉานอาบแก้มของเขาราวกับฝนโลหิต

     

                    ห้องที่เขาและบุคคลที่กำลังพูดด้วยอยู่นั้นเต็มไปด้วยความมืดอันรายล้อมมาจากสารทิศ

    แม้แต่ลมยังไร้เสียงหวีดหวิว

    แม้แต่ฝนยังแทบไม่ได้ยิน และแทบถูกบดบังด้วยความมืด

     

    ชายที่อยู่เบื้องหน้าจ้องมองเขาอย่างเหยียดหยามราวกับหมาป่ามองเหยื่อ ชายคนนี้สวมชุดคลุมสีดำสนิทราวขนแร้งหรือไม่ก็สีของปราสาท แต่ที่แน่ๆคือไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าของเขามาก่อนเพราะมันถูกบดบังด้วยหมวกฮู้ดสีดำอีกา

    “จาก300เหลือมาแค่ 1 แบบนี้มันหมายความว่าไง”เขาพูดด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมและวางอำนาจ

     

                    “ขขออภัยขอรับ ทท่านเคาส์”ชายในชุดคลุมเอ่ยอย่างหวาดกลัว

    เขาคุกเข่าลงหน้า “ท่านเคาส์”

     

                    ชายที่ถูกเอ่ยนามว่าท่านเคาส์นั้นจ้องมองผู้ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

    แต่คราวนี้แววตาเปลี่ยนไป

     

                    “ข้าให้โอกาสเจ้ามามากพอแล้ว! ถึงเวลาส่งเจ้าไปยังโลกที่ 3 แล้ว!!!

     

                    “ย.อย่านะครับ ท่านนนนน!!”อัศวินชุดคลุมอ้อนวอนเมื่อรู้ว่าท่านเคาส์กำลังจะทำอะไร

                   

              วัตถุสีเงินส่องประกายแวววับท่ามกลางความมืด

    อะไรบางอย่างถูกยกขึ้น

    และ…….!!

                    ฉัวะะ!!!

    ร่างตรงหน้าขาดสะบั้นเป็นสองท่อนขณะที่เลือดสีแดงฉาดหยดโรยราลงบนพรมสีดำ

    อัศวินผู้นั้นล้มลงไปกับพื้นด้วยท่าทีหวาดผวา

                    ท่านเคาส์จ้องร่างนั้นชั่วครูก่อนจะเรียกผู้ช่วยจากวังดิบ

    “เซ็นตร้า มานี่สิ!!!!

     

                    เอลฟ์ร่างหนึ่งเดินย่างเข้ามาในห้องทันทีทันใด

    มันจ้องท่านเคาส์ด้วยความประหลาดใจ

    “มีอะไรหรือครับ ท่าน”

     

                    “ช่วยจัดการศพเน่าๆนี่ทีสิ  ฉันจะไปพักผ่อนก่อน แล้วอย่าลืมหาอัศวิน

    ทาสมาช่วยในการรบด้วยล่ะ ถ้าทำไม่ได้ แกคงจะรู้ว่าเป็นอย่างไร”ท่านเคาส์สั่งด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมราวกับสิงโตคำราม

    เอลฟ์ผู้นั้นมิอาจฝ่าฝืนคำบัญชาของผู้ที่จะพามันไปส่งโลกที่ 3ได้

    มันจึงยินยอมแต่โดยดี

     

                    ท่านเคาส์เดินไปที่หน้าต่างแล้วแหวกม่านออกอย่างแรง

    เขามองท้องฟ้าอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยว่า

    “วันนี้เป็นคืนเดือนมืดนี่นา  มันช่างเหมาะกับคนอย่างข้าเสียจริง ดราเชน แกคอยดูเถอะ เดี๋ยวแกจะได้เห็นว่า การเป็นผู้ทรยศน่ะ จะพบบั้นปลายจุดสุดท้ายอย่างไร!!!

    ฮ่า ฮ่า ฮ่าาาาาา!!!!

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×