คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ฝูงก๊อบลินมรณะ
บทที่ 9 ฝูงก๊อบลินมรณะ
“แม่นาง!!! ท่านอย่าเพิ่งตาย!!!”อลันร้องเสียงหลง ขณะที่แคทเทอรีนร้องไห้ออกมา
พายุโหมกระหน่ำมากขึ้น รุนแรงเรื่อยๆ จนในที่สุดทุกสิ่งก็ราบเป็นหน้ากลอง อลันและแคทเทอรีนคุกเข่าลงข้างร่างบางๆของหญิงสาว แต่สายไปเสียแล้ว ลมหายใจของหมอดูเริ่มแผ่วลงทุกทีๆ และในที่สุดตาของนางก็ปิดลง หน้าอกหยุดกระเพื่อม
“นางตายแล้ว”อลันพูดเบาๆ
“ไม่นะ”แคทเทอรีนร้อง
ในวินาทีนั้นเอง เสียงหวีดร้องของสัตว์ประเภทหนึ่งก็ดังขึ้น มันก้องโสตประสาทของพวกเขาจนแทบจะทำลายกระดูกทุกชิ้น
มันไม่ใช่เสียงของสัตว์ธรรมดา และไม่ใช่หมาป่าเสียด้วย แต่มันเป็นอะไรบางอย่าง
ฉับพลัน เงากลุ่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
มันดูไม่เหมือนเงาของมนุษย์หรือสัตว์เลย ดูไม่เหมือนสิ่งมีชีวิต มันมีหูที่กางผิดแผกเหมือนเอลฟ์ในตำนานปรัมปรา แต่ผิวของมันเป็นสีเขียว ดวงตาสีแดงก่ำ มีเขี้ยวงอกออกมานอกริมฝีปาก และมีกรงเล็บแหลมคมคล้ายมีด ชุดที่พวกมันสวมอยู่ดูคล้ายเสื้อโค้ตกันฝนสีดำ
“พวกมันเป็นตัวอะไรกันน่ะ”อลันกระชากเสียงกลบพายุ
“อลัน หนีเถอะ พวกมันจะฆ่าเรา”แคทเทอรีนกรีดร้อง เธอจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว
ฟ้าผ่าขึ้นอีกครั้ง อลันและแคทเทอรีนออกวิ่งไปโดยไม่รู้ทิศทาง สิ่งที่พวกเขาต้องการคือต้องเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้
ฟ้าคำรามอีกครา คราวนี้ดังใกล้ศีรษะเด็กทั้งสองมากขึ้น อสูรกายฝูงนั้นได้กลิ่นเหยื่ออันโอชะสองตัวจึงไล่ตามด้วยความเร็วดุจเครื่องบินรบ อลันและแคทเทอรีนวิ่งคู่กันเข้าไปในตรอกแห่งนี้ จากนั้นจึงลัดมาอีกซอยหนึ่ง และทะลุข้ามอีกตรอก จนในที่สุดพวกเขาก็มาถึงตลาดซึ่งร้างผู้คน
บัดนี้ร้านแผงลอยถูกทำลายย่อยยับ ศพนับร้อยเกลื่อนกลาดพื้น และไม่มีเค้าว่าจะมีใครเหลือรอดเลยสักคนเดียว บ้านเรือนต่างๆถูกปิด ลงกลอน คนที่มีลมหายใจต่างหมกตัวในบ้านเพื่อชีวิตที่ปลอดภัย
แต่พวกก๊อบลินรู้ความเคลื่อนไหว จึงมีบางตัวเข้าไปสังหารคนที่หลบซ่อนอยู่ กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่ว
“ทางนี้!”อลันร้องเรียกขึ้นจากความมืด สายฝนเม็ดใหญ่กระหน่ำแล้ว ขณะนี้พวกเขากำลังต่อสู้กับพายุและฝูงปีศาจกระหายเลือด
แคทเทอรีนวิ่งตามอลันไปอีกตรอกหนึ่ง พวกเขาซ่อนตัวอยู่ภายในซอยแคบๆมืดๆแห่งนี้ด้วยความหวาดผวา เสียงคำรามของก๊อบลินดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน เสียงฝีเท้าของพวกมันใกล้เข้ามายังจุดที่พวกเขาแอบอยู่แล้ว
“พวกมันเป็นตัวอะไร”แคทเทอรีนถามอย่างหวาดกลัว
“ก๊อบลิน ฉันเคยอ่านเจอในตำนานของสัตว์ลึกลับ”อลันออกความเห็น “แต่ฉันไม่คิดว่ามันมีอยู่จริง”
ในวินาทีนั้นเอง เงาดำร่างหนึ่งก็พาดผ่านพวกเขา อลันและแคทเทอรีนมองขึ้นไปด้านบน และต้องตกใจเมื่อเห็นหนึ่งในพวกมันจ้องมองมาทางพวกเขาจากยอดหลังคาของร้านค้าแห่งหนึ่ง
เหนือศีรษะเด็กทั้งสองนั่นเอง
ก๊อบลินตัวนั้นกระโดดลงมาพร้อมกับร้องคำรามกี๊ซก๊าซ กรงเล็บของมันตะปบได้แต่อากาศ เนื่องจากอลันและแคทเทอรีนต่างกลิ้งตัวหลบไปตามพื้นถนนอันเจิ่งนองไปด้วยน้ำขังเฉอะแฉะ
สถานที่ที่พวกเขาอยู่คือ ลานทิ้งขยะประจำหมู่บ้าน มีกองขยะมากมายระเกะระกะอยู่ และถัดไปมีกรงรั้วตาข่ายกั้นไว้
อลันพุ่งตัวเข้าใส่ก๊อบลินตัวนั้นด้วยความกล้าหาญ ก่อนจะต่อยมันเข้าที่ใบหน้าอัปลักษณ์ของมัน เสียงร้องแหลมๆของมันหวีดแสบแก้วหู แคทเทอรีนร้องลั่น หวาดกลัวต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ทันใดนั้น ก๊อบลิบก็ข่วนเข้าที่แผลเก่าของอลัน เด็กหนุ่มกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะนอนงอตัวอยู่บนพื้น
ก๊อบลินตัวนั้นได้โอกาสพุ่งเข้าใส่เด็กหนุ่มทันทีทันใดหมายเอาชีวิต แต่อลันเตะถังขยะที่ตั้งอยู่ล้มลงไปขวางทางมันไว้เสียก่อน กรงเล็บของมันจึงข่วนถูกถังขยะใบใหญ่ของตรอก เศษขยะเน่าเปื่อยในนั้นไหลออกมา
อลันลุกขึ้นยืน ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาแคทเทอรีนที่กำลังจ้องมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างหวาดผวา
ในพลันต่อมา พวกเขาก็พุ่งเข้าไปในประตูร้านค้าแห่งหนึ่ง ก่อนจะลงสลักกลอนอย่างแน่นหนา อลันและแคทเทอรีนหายใจหอบด้วยความกลัวและตื่นเต้น
“เรา-รอดหรือยัง”เด็กสาวถามเบาๆ
“น่าจะ พวกมันคงพังหน้าต่างของร้านนี้ไม่ได้”อลันว่า ขณะเงยหน้ามองกระจกหน้าต่างของร้านซึ่งทำด้วยวัสดุใสชนิดพิเศษ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่แก้วธรรมดา
ในความมืด ขณะที่พวกเขากำลังวางใจ เสียงโครมครามก็ดังขึ้น เงาดำๆสามร่างก็พุ่งลงมาจากหลังคา
อลันและแคทเทอรีนลืมมองหลังคาเสียสนิท หลังคาร้านนี้ทำจากฟางเหมือนร้านทั่วไปจึงไม่ทนทานนัก
ก๊อบลินสามตัวพุ่งเข้าใส่อลันและแคทเทอรีนหมายหัวใจของพวกเขา
อลันกลิ้งตัวหลบทันเวลา แต่แคทเทอรีนถูกหนึ่งในสามตะปบเข้าที่ลำคอ และหมดสติในฉับพลัน
“แคท!!!”เพื่อนชายของเธอร้องเสียหลง ก่อนจะรู้สึกว่ามีฟันกรามขบเข้าที่หัวไหล่ของเขา
อลันเข่าทรุด เขาล้มลงไปกองกับพื้น ใบหน้าแนบกับพื้นหินอ่อนเย็นเยียบ เหงื่อกาฬผุดขึ้นบนใบหน้า
ก๊อบลินทั้งสามตัวล้อมอลันและแคทเทอรีนไว้ ไม่มีโอกาสรอดอีกแล้ว!!!พวกเขาต้องพบจุดจบ!!!
แต่ในความมืด อลันก็เห็นอะไรบางอย่าง ในทีแรกเขาคิดว่าเป็นภาพหลอนก่อนตาย แต่วินาทีต่อมา ทุกอย่างก็ชัดเจนมากขึ้น เด็กหนุ่มรอจังหวะที่ก๊อบลินตัวแรกพุ่งเข้าหาเขา จากนั้นจึงคว้าสิ่งนั้นมาทันที และตวัดมันกลางอากาศ
ร่างของก๊อบลินตัวที่หนึ่งขาดเป็นสองท่อน เลือดสีเขียวสดไหลคลุมพื้นหิน มันตายขณะที่ลอยค้างอยู่ ศพซีกหนึ่งจึงกระเด็นไปถูกเพื่อนของมัน
อลันยิ้มเมื่อเห็นว่าในมือเขามีดาบเล่มหนึ่ง มันไม่ใช่ดาบธรรมดาที่เขาเคยเห็น มันมีด้ามสีทองสว่างไสวและมีช่องว่างๆกลมลึกสลักอยู่บนด้ามดาบ มันดูเหมือนช่องสำหรับใส่อะไรบางอย่างจำนวนสี่ช่อง เด็กหนุ่มรอให้ก๊อบลินอีกตัวพุ่งเข้าใส่ จากนั้นจึงเสือกคมอาวุธไปที่ท้องของมัน เลือดสีสดพุ่งรอบทิศทาง มีบางส่วนกระเซ็นมาถูกตัวเขา
เหลือก๊อบลินอีกเพียงหนึ่งตัว ในตอนแรก อลันคิดว่ามันจะพุ่งมาโจมตีเขา แต่มันกลับพุ่งเข้าหาแคทเทอรีนด้วยแววตาเคียดแค้น อลันสบถก่อนจะเขวี้ยงดาบเข้าปักศีรษะของมันอย่างพอดิบพอดี
ร่างของก๊อบลินตัวนั้นร่วงผล็อย กลายเป็นศพสุดท้าย
อลันคว้าดาบขึ้นจากร่างแหลกเหลวนั้น ก่อนจะตรงเข้าปลุกแคทเทอรีน “แคท อย่าเพิ่งตายนะ เธอได้ยินฉันไหม”
เด็กสาวครางออกมา ก่อนจะลืมตาขึ้น แต่ภาพที่เธอเห็นทำให้เธอตกใจ ไม่ใช่เพราะเธอได้เห็นอลันมีชีวิตอยู่ แต่เธอตกใจที่เห็นอะไรบางอย่างเบื้องหลังเขา
“อลัน ระวัง!”เด็กสาวกรีดร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว ชั่วขณะหนึ่ง อลันรู้สึกได้ว่ามีลมหายใจอุ่นๆรดต้นคอ แต่อีกวินาที เขากลับรู้สึกเจ็บปวดที่ไขสันหลัง เด็กหนุ่มล้มลงนอน มีเลือดไหลซิบๆที่ปากแผล
ก๊อบลินกระหายเลือดตัวที่สี่พุ่งเข้ามาอยู่ในร้านแล้ว และบัดนี้มันใช้กรงเล็บของมันตะปบหลังของเขา
สัตว์กระหายเลือดรู้ตัวว่ามันกำลังจะได้เหยื่อไปถึงสองตัว จึงกระโจนเข้าหาอลันที่นอนคว่ำอยู่บนพื้น เด็กหนุ่มพลิกตัว ก่อนจะหันไปตวัดดาบ แต่ก๊อบลินตัวนั้นฉลาดเกินไป มันเบี่ยงทิศทางหลบการโจมตีของเขา แล้วกระโดดไปที่ขอบหน้าต่างแทน
เสียงตุ้บดังขึ้นอีกเป็นระลอกปรากฏให้ได้ยิน มันเป็นเสียงของก๊อบลินที่กระโดดเข้ามาในร้าน
บัดนี้ทั้งอลันและแคทเทอรีนต่างมองเห็นเงาลางๆสิบกว่าร่าง พวกมันพร้อมจะปลิดชีวิตพวกเขาทุกวินาที
อลันทรงตัวลุกขึ้นโดยใช้ดาบยันร่างไว้และพยุง เด็กหนุ่มกัดฟันจนริมฝีปากมีเลือดไหล สันชาตญาณนักสู้ก่อตัวขึ้นในสมองของเขา
ตอนนี้ในสมองของอลันขาวโพลนไปหมด ความคิดของเขาหายไปสิ้น เด็กหนุ่มพุ่งเข้าหาฝูงก๊อบลินที่ดาหน้าเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย คมดาบตวัดเกิดแสงแปลบปลาบ เสียงร้องของพวกมันดังก้องไปทั่วท้องถนน อลันแหกปากร้องขณะฟาดดาบไปที่ก๊อบลินตัวหนึ่ง ก่อนจะแทงไปที่หัวใจอีกตัว และศอกไปที่หน้าท้องของตัวที่อยู่ด้านหลัง
แคทเทอรีนก็สู้เช่นเดียวกัน เธอรู้ตัวว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้ว เธอมั่นใจว่าเธอจะต้องตายอยู่ที่นี่ แต่เธออยากตายโดยที่มีศพติดมือเธอไปด้วย เด็กสาวเตะไปที่ท้องของก๊อบลินตัวหนึ่งก่อนที่มันจะพุ่งเข้าหาร่างของเธอที่นอนอยู่บนพื้น จากนั้นเธอจึงยันตัวลุกขึ้น และฟาดขาไปที่ศีรษะของอีกตัว
อูร่า มาวาชิ เกริ ท่าไม้ตายของคาราเต้ที่แคทเทอรีนเคยเรียนรู้มาตั้งแต่สมัยเด็ก วิชาศิลปะการป้องกันตัวที่พ่อของเธอบังคับให้เรียนเพิ่งมาได้ผลตอนนี้
ฟ้าผ่าอีกครั้ง เสียงหวีดร้องของมนุษย์และสัตว์ระคนกัน ก๊อบลินห้าตัวถูกอลันเสือกดาบเสียชีวิตคาที่ ประกอบกับก๊อบลินอีกสองตัวที่ถูกแคทเทอรีนปลิดชีวา แต่ถึงพวกเขาจะฆ่ามันได้บ้าง แต่เรี่ยวแรงของพวกเขาก็เริ่มหมดลงทุกที บาดแผลเริ่มกัดกินร่างกายของเด็กทั้งสองคน สิ่งที่พอจะช่วยให้รับรู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่คือ ลมหายใจที่เริ่มแผ่วลงเท่านั้น
อลันและแคทเทอรีนถอยหลังติดกำแพงร้าน ก่อนจะทำขวดแก้วที่วางอยู่บนชั้นหล่นแตกกระจาย
ความมืดทำให้พวกเขามองไม่เห็นทาง ก๊อบลินอีกสิบแปดตัวแสยะยิ้มอย่างลิงโลดเมื่อเห็นจุดจบของเหยื่อตรงหน้า
ก๊อบลินที่ดูเหมือนหัวหน้าฝูงก้าวมาข้างหน้า ก่อนจะตรงมาหาอลัน
เด็กหนุ่มกุมดาบแน่น และพร้อมจะฟาดฟันมันออกไปทันทีที่จ่าฝูงตัวนี้คิดอะไรไม่ซื่อ
ก๊อบลินตัวนั้นจ้องมองดูเด็กทั้งสองอย่างพิจารณาก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“ไอ้พวกตัวแทนแห่งศิลา
พวกแกมันโง่เง่าที่มาสู้กับพวกของข้า”มันกระชากเสียงแหลมเล็กออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กทั้งสองได้ยินก๊อบลินพูด
“ใช่ฉันมันโง่”อลันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ฉันรู้ตัวดีว่าใกล้จะตายแล้ว”
“แน่นอน”จ่าฝูงพยักหน้ายอมรับ ก่อนจะหันไปหาลูกสมุนที่เหลือสิบเจ็ดตัว “บริวารแห่งข้า จงกัดกินวิญญาณของพวกมันอย่าให้เหลือซาก”
ฝูงสัตว์จากนรกพุ่งเข้าใส่เด็กทั้งสอง อลันหลับตา ส่วนแคทเทอรีนกรีดร้อง
จุดจบมาถึงแล้วจริงๆ
“เฟรมลิงซ์!!!”
เสียงคำรามของใครคนหนึ่งก้องขึ้นในโสตประสาทของพวกเขา เสียงนี้ไม่ได้มาจากก๊อบลินแต่อย่างใด มันมาจากเบื้องนอก อลันลืมตาขึ้น มองตรงไป ณ จุดนั้น ตรงปากประตูทางเข้า มีร่างของใครคนหนึ่งยืนอยู่
แสงสว่างจ้าบาดตาพวกเขา วินาทีต่อมา อลันก็รู้ว่ามันคือเปลวไฟ ไฟนั้นพุ่งออกมาจากมือของผู้มาเยือน มันพุ่งเข้าใส่ร่างของก๊อบลินหน้าเลือด และเผาพวกมันจนมอดไหม้เป็นตอตะโก
จ่าฝูงของพวกมันเห็นท่าไม่ดีจึงกระโดดเข้าหาหน้าต่างเตรียมจะพังหนีออกไป แต่ไฟแผดเผามันเสียก่อน ไฟนั้นลุกพรึ่บติดเสื้อโค้ตสีดำของมัน และลามกินเนื้อไปจนหมดสิ้น
เพียงครึ่งนาที ทุกอย่างก็เงียบลง ในแสงสลัวของเปลวเพลิง อลันมองเห็นใครคนหนึ่งที่ดูคุ้นเคย
จาเร็ตยืนอยู่ปากประตู ใบหน้าซีดเซียว ในมือของเขามีควันพวยพุ่งออกมา
ความคิดเห็น