ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เพื่อนใหม่
บทที่ 6 เพื่อนใหม่
    “ย....อย่านะ!”เอมิลี่ร้องพลางถอยหลังไปชนมาร์ตินอย่างไม่รู้ตัว
“อย่าอย่าฆ่าฉันนะ!!”
สัตว์ทั้งสองดูงงขึ้นมาทันที
“ใครจะมาฆ่าเธอเหรอ เดี๋ยวเอมี่จัดการให้เอง”เจ้ากระต่ายพูดอย่างร่าเริง
เอมิลี่รู้สึกสับสนขึ้นมาทันที
เมื่อกี้สัตว์ทั้งสองกำลังจะฆ่าเธอนี่ แล้วทำไม
พวกมันถึงทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ!เอมิลี่รู้สึกอายขึ้นมาทันที
หรือว่า เธอจะเข้าใจผิดไปเอง!
เด็กสาวมองไปที่มาร์ตินและมองสัตว์ทั้งสอง
พวกมันก้าวเข้ามา
แววตาพวกมันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง พวกมันเริ่มแนะนำตัว
“หวัดดี ฉันชื่อมาร์กี้ เคยเป็นสุนัขของท่านเคาส์ดาร์เซอลอสแต่ว่าตอนนี้ถูกทิ้งเรียบร้อยแล้วล่ะ”เจ้าหมาแนะนำตัวอย่างเศร้าใจ มันไม่ค่อยอยากคิดถึงเรื่องราวในอดีตเท่าใดนัก
“ฉันก็เหมือนกัน ฉันชื่อเอมี่ เป็นกระต่ายข้างถนนที่ถูกท่านเคาส์ดาร์เซอลอสจอมโหดทิ้งไม่เหลือเยื่อใย”เจ้ากระต่ายต่ออย่างเศร้าๆ และแฝงด้วยความหวัง
มาร์ตินและเอมิลี่แนะนำตัวบ้าง ดูเหมือนพวกมันจะไม่ทำร้ายเด็กทั้งสองแล้ว พวกเขาวางใจขึ้นบ้าง
เด็กทั้งสองต่างดูออกว่าสัตว์ทั้งสองต้องการอะไรถึงต้องวิ่งมาหาพวกเขา
มีเพียงคำตอบเดียวคือ
พวกมันอยากมีเพื่อนคู่หูนั่นเอง!
   
    เอมิลี่สงสาร เธอก้มลงลูบหัวสัตว์ทั้งสองอย่างรักใคร่ โดยลืมเรื่องราวการหนีไปสิ้น
พวกมันคลอเคลียเธอตอบด้วยขนนุ่มๆ
“พวกเธออยากมีเพื่อนจึงมาหาพวกเรา ใช่ไหม”เอมิลี่ถาม
มาร์ตินไม่รู้จะพูดอะไร เขาได้แต่มองตาม
“ใช่แล่วล่ะ เราตามหาคนที่คิดว่าสมควรจะเป็น “เพื่อน”มาหลายคนแล้ว แต่พวกเขาก็หนีเราเหมือนอย่างที่พวกเธอทำกับเราเมื่อกี้  เราขอเดินทางไปกับพวกเธอด้วยได้ไหม”มาร์กี้บอกเสียงใสๆราวกับเด็กเล็ก
มาร์ตินเริ่มคิดออกว่าจะพูดอะไรดี หลังจากเงียบกริบมานาน เขาเริ่มพูดออกไป
“แต่เราไม่ใช่คนของที่นี่นะ เราต้องกลับไป กลับไปยังโลกของเรา โลกที่เราเคยอยู่  พวกเธอจะพาเรากลับไปได้ไหม”เขาพูดเสียงเข้มแต่แฝงนัย
ดูเหมือนฝ่ายนั้นจะตอบไม่ได้
“พวกเธอเป็นใครหรือ”เอมี่ถามขึ้นในที่สุด หลังจากความเงียบก่อตัวขึ้นมานาน
   
    “เราเป็นเราเป็นมนุษย์!”เอมิลี่และมาร์ตินตอบพร้อมกันราวกับเสียงประสานจากคนๆเดียวกัน
    ทันใดนั้นสัตว์ทั้งสองดูหวาดกลัวขึ้นมาทันทีทันใดอย่างน่าประหลาด!
พวกมันกอดคอกันอย่างโกรธจัด และดูแปรปรวณอารมณ์ยิ่ง
เด็กทั้งสองมองดูอย่างไม่เข้าใจ
“มนุษย์เหรอ มนุษย์ที่ชอบทำร้ายพวกเรางั้นหรือ อ๋อ พวกเธอเป็นมนุษย์นั่นเอง  มนุษย์เดนพวกนั้นเองน่ะหรือ พวกเธอไม่สมควรอยู่ที่นี่!!!”เอมี่กรีดร้องลั่นอย่างหวั่นเกรงและไม่แน่ใจว่าควรจะพูดออกไปให้เด็กทั้งสองได้รับรู้ไหม
    มาร์ตินและเอมิลี่จ้องสัตว์ทั้งสองอย่างประหลาดใจและแปลกใจที่มันสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ได้เร็วขนาดนี้
   
    เอมิลี่เสี่ยงพูด
“อ เอมี่จ๊ะ เธอพูดเรื่องอะไรกันน่ะ เธอไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราแล้วเหรอ เธอคิดว่ามนุษย์เป็นอะไรกันหรือ เธอคิดว่าพวกเราเป็นคนไม่ดีงั้นหรือจ๊ะ เธอคงคิดผิดแล้วล่ะ มนุษย์น่ะ ไม่มีใครไม่ดีหรอก”
“ไม่ดีหมดทุกคนนั่นแหละ ตอนแรกฉันนึกว่าพวกเธอเป็นเด็กจากโลกมิตินี้แต่ที่แท้
ก็แค่มนุษย์เดนนี่เอง!!”เอมี่พูดอีกอย่างคับแค้นใจ
    มนุษย์เดน!
คำๆนี้ดังก้องอยู่ในหัวพวกเขา!
มนุษย์เดน!
มนุษย์เดน!!
มนุษย์เดน!!!
    เจ้าสัตว์ทั้งสองแยกเขี้ยวและคำราม
ไม่จริงน่า
อย่านะ!
มาร์ตินจ้องพวกมันในขณะที่ดวงตาของมันเปลี่ยนสี
เป็นสีแดง!
    “เอมี่ มาร์กี้ ! พวกเธอจะทำอะไรน่ะ”เอมิลี่ถามอย่างตกใจและหวาดผวา
    สัตว์ร้ายทั้งสองจ้องเด็กทั้งสองราวกับสะกดจิต
มาร์ตินขยาดเกรงขึ้นมาทันใด
เอมิลี่กรีดร้อง!
    “ไฟเออร์ ฟอร์ซ”
    เปรี้ยง!
มาร์ตินกระเด็นออกไป เขากระแทกกับกำแพงหนาแล้วนิ่งไป
เหลือเอมิลี่คนเดียว!
    เด็กสาวสะดุ้งสุดขีดเมื่อรู้สึกตัวว่าถูกจับตามอง
พวกเขากำลังจะฆ่าเรา!
มันรู้ว่าเราเป็นมนุษย์
มนุษย์เดน!
    “ไม่นะ อย่า เราไม่ใช่คนชั่วนะ เอมี่ ฟังสิ เราเราไม่ใช่มนุษย์เดน ฉันและมาร์ตินไม่ใช่คนชั่ว!”เอมิลี่เปล่งเสียง แต่มันเบาเท่ากระซิบ
แน่ล่ะ คงจะไม่มีใครฟังคำสั่งเสียของคนที่กำลังจะถูกฆ่าหรอก
    จบสิ้นกันแล้ว
จบกันแล้ว
ฉันฉันไม่น่าพูดคำว่า “มนุษย์”ออกไปเลย!
พ่อคะ แม่คะ หนูอาจจะไม่ได้กลับไปพบท่านอีกแล้ว!
.
.
.
.   
   
    “เธอพูดจริงหรือ เอมิลี่”เสียงเล็กแต่ใสสะอาดเสียงหนึ่งดังขึ้น
เอมิลี่ลืมตา
สีหน้าของเธอบ่งบอกได้ว่าเธอหวาดกลัวมาก
เธอเห็นเอมี่และมาร์กี้จ้องเธออย่างพิจารณาหาความจริง
    เอมิลี่รู้สึกแสบตาขึ้นมาทันที
สงสัยเป็นเพราะร้องไห้
แหงล่ะ ก็เธอกลัวว่าจะไม่ได้พบพ่อแม่อีกแล้วนี่
“เธอพูดความจริงหรือ ที่เธอบอกว่า ไม่ใช่คนชั่วน่ะ”เอมี่ถามอย่างเศร้า และแฝงด้วยความอยากรู้  และความหวัง
    เอมิลี่พยักหน้า
ยังไงเสียมันก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าการพยักหน้าอยู่แล้วนี่
สัตว์ทั้งสองดูเบาใจลง
แววตามันเปลี่ยนไปน่ารักสดใสอีกครั้ง
มนุษย์เดน !
พวกเขาไม่ใช่มนุษย์เดน
ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอ ไม่มีสายตาแห่งปีศาจร้ายอยู่ในแววตาของเด็กทั้งสองคนนี้เลย
เราอาจเข้าใจผิดไปเอง
เด็กพวกนี้อาจะจะไม่ใช่คนชั่วที่เคยทารุณเราเมื่อครั้งก่อนก็ได้ เขาอาจไม่ใช่ ก็ได้!
ความคิดของเอมี่และมาร์กี้สร้างความเบิกบานให้จิตใจของพวกเขาขึ้นมา
ทำไมเราถึงคิดว่าพวกเขาเป็นมนุษย์เดนทุกคนนะ
เอมี่และมาร์กี้จ้องเด็กทั้งสองอีกครั้ง ครั้งนี้น่าจะเป็นการพิจารณาที่จะทำให้พวกเขารู้แน่ว่ามาร์ตินและเอมิลี่เป็นมนุษย์เดนหรือไม่!
    “พวกเธอไม่มีไกอาร์อยู่เลย”เอมี่พึมพำคำพูดขึ้นในที่สุดหลังจากเพ่งไปที่แววตาของเอมิลี่และมาร์ตินอย่างหนัก
    เอมิลี่เช็ดน้ำตาที่ไหลพรากและสะอื้นไห้อย่างไม่เคยทำมาก่อน
“ไกอาร์คืออะไรหรือ”เธอถามแล้วฝืนยิ้มเพื่อให้น่าดูสดใสขึ้น
แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย
เพราะตอนนี้ในใบหน้าเธอแฝงไปด้วยความโล่งใจปนระคนใจ
เมื่อกี้เธอเกือบไม่ได้พบหน้าคนที่เธอเคยอยู่ด้วยกันมาตลอดเสียแล้วสิ
เธอเกือบไม่ได้
เธอไม่อยากคิดอะไรมากกว่านี้
เธอมองเอมี่และมาร์กี้ราวกับเค้นคำตอบที่ถามไป
    “ไกอาร์เหรอ”เอมี่และมาร์กี้เปล่งเสียงขึ้นด้วยความฉงน
“เธอจะรู้ไปเพืออะไร”
“ก็แค่อยากรู้นะ”เอมิลี่บอกอย่าเขินๆ
    “ไกอาร์คือเด็กที่เป็นวิญญาณโลกมิติที่ 4 เล่ากันว่าเธอถูกแกล้งจนเสียชีวิตในกลางดึกคืนหนึ่งช่วงเวลาสาง ก่อนตายเธอสัญญาากับตัวเองว่าจะเข้าไปในดวงตาของคนที่เป็นคนชั่วให้หมดแล้วควบคุมจิตใจคนนั้นไว้จนคนที่ถูกไกอาร์สิงร่างกลายเป็นคน “เดน”โดยสมบูรณ์”เอมี่เล่า
“แล้วเธอก็ไม่มีไกอาร์อยู่ในดวงตาเลย”มาร์กี้บอกเสียงแหลมเปี๊ยว
   
ทันใดนั้น  เงาร่างหนึ่งก็ลุกขึ้นนั่งอย่างเหนื่อยล้าและโรยรา
เอมิลี่ มาร์กี้และเอมี่หันไปมองด้วยความผวา
    แต่ไม่ใช่ใครที่ไหน !
มาร์ตินนั่นเอง!
“มาร์ติน!!!”เอมิลี่ร้องเรียกด้วยความดีใจ ดีใจที่สุดเลยล่ะ
    มาร์ตินมองไปที่สัตว์ทั้งสอง สายตางงๆและหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย
“นายทำร้ายฉํนทำไม”มาร์ตินชี้หน้าเจ้าหมาอย่างโกรธเกรี้ยว
    มาร์กี้สลดหดหู่ลงทันที
มันหางลู่และตกลงราวกับหมาสำนึกผิด
“ฉ ฉันขอโทษด้วยนะ ฉันคิดว่าพวกเธอเป็นมนุษย์เดนเสียอีก แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว เข้าใจว่าพวกเธอไม่ใช่มนุษย์เดน เพราะ พวกเธอไม่มีไกอาร์สิงอยู่ในแววตาเลย
มาร์กี้เริ่มแก้ตัว
    มันหูพับลงตามไปด้วย
มันกลัวว่ามาร์ตินจะยังโกรธมันอยู่ ยังไม่ให้อภัยมัน
แต่มาร์ตินไม่ใช่คนถือโทษและซ้ำเติมคนที่ผิด
    ดังนั้นความเงียบอันเกิดจากความคิดของแต่ละคนก็เริ่มขึ้น
แล้วในที่สุดเสียงของเอมิลี่ก็แทรกขึ้นมาราวกับลมแหวกคลื่น
    “เอ่อขอโทษนะที่พูดมากะทันหัน แต่เราจะกลับบ้านได้ไหม”
โชคดีที่มาร์กี้คิดคำตอบไว้อยู่แล้ว
“อาจจะต้องบอกว่ายังไม่ได้นะ เพราะพวกเธอได้ภารกิจที่ต้องทำแล้ว”
มาร์ตินและเอมิลี่จ้องหน้ากันตาแป๋วแล้วคำถามแรกที่ถามพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายคือ
    “ภารกิจเหรอ?”
สัตว์ทั้งสองพยักหน้า
“แน่นอน ภารกิจ เราเพิ่งนึกได้เมื่อกี้นี้เอง  พวกเธอสังเกตไหมล่ะว่าเมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมด้วยอะไร”
“สีดำ”เอมิลี่ตอบง่ายราวกับการอ่าน ก ข ค
มาร์ตินมองอย่างงงๆ
“ใช่  เมืองทั้งเมืองตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยสีดำเพราะชายเพียงคนเดียว”เอมี่บอก
“ชื่อของเขาคือ ท่านเคาส์ดาร์เซอลอส!”
   
   
   
    “ย....อย่านะ!”เอมิลี่ร้องพลางถอยหลังไปชนมาร์ตินอย่างไม่รู้ตัว
“อย่าอย่าฆ่าฉันนะ!!”
สัตว์ทั้งสองดูงงขึ้นมาทันที
“ใครจะมาฆ่าเธอเหรอ เดี๋ยวเอมี่จัดการให้เอง”เจ้ากระต่ายพูดอย่างร่าเริง
เอมิลี่รู้สึกสับสนขึ้นมาทันที
เมื่อกี้สัตว์ทั้งสองกำลังจะฆ่าเธอนี่ แล้วทำไม
พวกมันถึงทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ!เอมิลี่รู้สึกอายขึ้นมาทันที
หรือว่า เธอจะเข้าใจผิดไปเอง!
เด็กสาวมองไปที่มาร์ตินและมองสัตว์ทั้งสอง
พวกมันก้าวเข้ามา
แววตาพวกมันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง พวกมันเริ่มแนะนำตัว
“หวัดดี ฉันชื่อมาร์กี้ เคยเป็นสุนัขของท่านเคาส์ดาร์เซอลอสแต่ว่าตอนนี้ถูกทิ้งเรียบร้อยแล้วล่ะ”เจ้าหมาแนะนำตัวอย่างเศร้าใจ มันไม่ค่อยอยากคิดถึงเรื่องราวในอดีตเท่าใดนัก
“ฉันก็เหมือนกัน ฉันชื่อเอมี่ เป็นกระต่ายข้างถนนที่ถูกท่านเคาส์ดาร์เซอลอสจอมโหดทิ้งไม่เหลือเยื่อใย”เจ้ากระต่ายต่ออย่างเศร้าๆ และแฝงด้วยความหวัง
มาร์ตินและเอมิลี่แนะนำตัวบ้าง ดูเหมือนพวกมันจะไม่ทำร้ายเด็กทั้งสองแล้ว พวกเขาวางใจขึ้นบ้าง
เด็กทั้งสองต่างดูออกว่าสัตว์ทั้งสองต้องการอะไรถึงต้องวิ่งมาหาพวกเขา
มีเพียงคำตอบเดียวคือ
พวกมันอยากมีเพื่อนคู่หูนั่นเอง!
   
    เอมิลี่สงสาร เธอก้มลงลูบหัวสัตว์ทั้งสองอย่างรักใคร่ โดยลืมเรื่องราวการหนีไปสิ้น
พวกมันคลอเคลียเธอตอบด้วยขนนุ่มๆ
“พวกเธออยากมีเพื่อนจึงมาหาพวกเรา ใช่ไหม”เอมิลี่ถาม
มาร์ตินไม่รู้จะพูดอะไร เขาได้แต่มองตาม
“ใช่แล่วล่ะ เราตามหาคนที่คิดว่าสมควรจะเป็น “เพื่อน”มาหลายคนแล้ว แต่พวกเขาก็หนีเราเหมือนอย่างที่พวกเธอทำกับเราเมื่อกี้  เราขอเดินทางไปกับพวกเธอด้วยได้ไหม”มาร์กี้บอกเสียงใสๆราวกับเด็กเล็ก
มาร์ตินเริ่มคิดออกว่าจะพูดอะไรดี หลังจากเงียบกริบมานาน เขาเริ่มพูดออกไป
“แต่เราไม่ใช่คนของที่นี่นะ เราต้องกลับไป กลับไปยังโลกของเรา โลกที่เราเคยอยู่  พวกเธอจะพาเรากลับไปได้ไหม”เขาพูดเสียงเข้มแต่แฝงนัย
ดูเหมือนฝ่ายนั้นจะตอบไม่ได้
“พวกเธอเป็นใครหรือ”เอมี่ถามขึ้นในที่สุด หลังจากความเงียบก่อตัวขึ้นมานาน
   
    “เราเป็นเราเป็นมนุษย์!”เอมิลี่และมาร์ตินตอบพร้อมกันราวกับเสียงประสานจากคนๆเดียวกัน
    ทันใดนั้นสัตว์ทั้งสองดูหวาดกลัวขึ้นมาทันทีทันใดอย่างน่าประหลาด!
พวกมันกอดคอกันอย่างโกรธจัด และดูแปรปรวณอารมณ์ยิ่ง
เด็กทั้งสองมองดูอย่างไม่เข้าใจ
“มนุษย์เหรอ มนุษย์ที่ชอบทำร้ายพวกเรางั้นหรือ อ๋อ พวกเธอเป็นมนุษย์นั่นเอง  มนุษย์เดนพวกนั้นเองน่ะหรือ พวกเธอไม่สมควรอยู่ที่นี่!!!”เอมี่กรีดร้องลั่นอย่างหวั่นเกรงและไม่แน่ใจว่าควรจะพูดออกไปให้เด็กทั้งสองได้รับรู้ไหม
    มาร์ตินและเอมิลี่จ้องสัตว์ทั้งสองอย่างประหลาดใจและแปลกใจที่มันสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ได้เร็วขนาดนี้
   
    เอมิลี่เสี่ยงพูด
“อ เอมี่จ๊ะ เธอพูดเรื่องอะไรกันน่ะ เธอไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราแล้วเหรอ เธอคิดว่ามนุษย์เป็นอะไรกันหรือ เธอคิดว่าพวกเราเป็นคนไม่ดีงั้นหรือจ๊ะ เธอคงคิดผิดแล้วล่ะ มนุษย์น่ะ ไม่มีใครไม่ดีหรอก”
“ไม่ดีหมดทุกคนนั่นแหละ ตอนแรกฉันนึกว่าพวกเธอเป็นเด็กจากโลกมิตินี้แต่ที่แท้
ก็แค่มนุษย์เดนนี่เอง!!”เอมี่พูดอีกอย่างคับแค้นใจ
    มนุษย์เดน!
คำๆนี้ดังก้องอยู่ในหัวพวกเขา!
มนุษย์เดน!
มนุษย์เดน!!
มนุษย์เดน!!!
    เจ้าสัตว์ทั้งสองแยกเขี้ยวและคำราม
ไม่จริงน่า
อย่านะ!
มาร์ตินจ้องพวกมันในขณะที่ดวงตาของมันเปลี่ยนสี
เป็นสีแดง!
    “เอมี่ มาร์กี้ ! พวกเธอจะทำอะไรน่ะ”เอมิลี่ถามอย่างตกใจและหวาดผวา
    สัตว์ร้ายทั้งสองจ้องเด็กทั้งสองราวกับสะกดจิต
มาร์ตินขยาดเกรงขึ้นมาทันใด
เอมิลี่กรีดร้อง!
    “ไฟเออร์ ฟอร์ซ”
    เปรี้ยง!
มาร์ตินกระเด็นออกไป เขากระแทกกับกำแพงหนาแล้วนิ่งไป
เหลือเอมิลี่คนเดียว!
    เด็กสาวสะดุ้งสุดขีดเมื่อรู้สึกตัวว่าถูกจับตามอง
พวกเขากำลังจะฆ่าเรา!
มันรู้ว่าเราเป็นมนุษย์
มนุษย์เดน!
    “ไม่นะ อย่า เราไม่ใช่คนชั่วนะ เอมี่ ฟังสิ เราเราไม่ใช่มนุษย์เดน ฉันและมาร์ตินไม่ใช่คนชั่ว!”เอมิลี่เปล่งเสียง แต่มันเบาเท่ากระซิบ
แน่ล่ะ คงจะไม่มีใครฟังคำสั่งเสียของคนที่กำลังจะถูกฆ่าหรอก
    จบสิ้นกันแล้ว
จบกันแล้ว
ฉันฉันไม่น่าพูดคำว่า “มนุษย์”ออกไปเลย!
พ่อคะ แม่คะ หนูอาจจะไม่ได้กลับไปพบท่านอีกแล้ว!
.
.
.
.   
   
    “เธอพูดจริงหรือ เอมิลี่”เสียงเล็กแต่ใสสะอาดเสียงหนึ่งดังขึ้น
เอมิลี่ลืมตา
สีหน้าของเธอบ่งบอกได้ว่าเธอหวาดกลัวมาก
เธอเห็นเอมี่และมาร์กี้จ้องเธออย่างพิจารณาหาความจริง
    เอมิลี่รู้สึกแสบตาขึ้นมาทันที
สงสัยเป็นเพราะร้องไห้
แหงล่ะ ก็เธอกลัวว่าจะไม่ได้พบพ่อแม่อีกแล้วนี่
“เธอพูดความจริงหรือ ที่เธอบอกว่า ไม่ใช่คนชั่วน่ะ”เอมี่ถามอย่างเศร้า และแฝงด้วยความอยากรู้  และความหวัง
    เอมิลี่พยักหน้า
ยังไงเสียมันก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าการพยักหน้าอยู่แล้วนี่
สัตว์ทั้งสองดูเบาใจลง
แววตามันเปลี่ยนไปน่ารักสดใสอีกครั้ง
มนุษย์เดน !
พวกเขาไม่ใช่มนุษย์เดน
ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอ ไม่มีสายตาแห่งปีศาจร้ายอยู่ในแววตาของเด็กทั้งสองคนนี้เลย
เราอาจเข้าใจผิดไปเอง
เด็กพวกนี้อาจะจะไม่ใช่คนชั่วที่เคยทารุณเราเมื่อครั้งก่อนก็ได้ เขาอาจไม่ใช่ ก็ได้!
ความคิดของเอมี่และมาร์กี้สร้างความเบิกบานให้จิตใจของพวกเขาขึ้นมา
ทำไมเราถึงคิดว่าพวกเขาเป็นมนุษย์เดนทุกคนนะ
เอมี่และมาร์กี้จ้องเด็กทั้งสองอีกครั้ง ครั้งนี้น่าจะเป็นการพิจารณาที่จะทำให้พวกเขารู้แน่ว่ามาร์ตินและเอมิลี่เป็นมนุษย์เดนหรือไม่!
    “พวกเธอไม่มีไกอาร์อยู่เลย”เอมี่พึมพำคำพูดขึ้นในที่สุดหลังจากเพ่งไปที่แววตาของเอมิลี่และมาร์ตินอย่างหนัก
    เอมิลี่เช็ดน้ำตาที่ไหลพรากและสะอื้นไห้อย่างไม่เคยทำมาก่อน
“ไกอาร์คืออะไรหรือ”เธอถามแล้วฝืนยิ้มเพื่อให้น่าดูสดใสขึ้น
แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย
เพราะตอนนี้ในใบหน้าเธอแฝงไปด้วยความโล่งใจปนระคนใจ
เมื่อกี้เธอเกือบไม่ได้พบหน้าคนที่เธอเคยอยู่ด้วยกันมาตลอดเสียแล้วสิ
เธอเกือบไม่ได้
เธอไม่อยากคิดอะไรมากกว่านี้
เธอมองเอมี่และมาร์กี้ราวกับเค้นคำตอบที่ถามไป
    “ไกอาร์เหรอ”เอมี่และมาร์กี้เปล่งเสียงขึ้นด้วยความฉงน
“เธอจะรู้ไปเพืออะไร”
“ก็แค่อยากรู้นะ”เอมิลี่บอกอย่าเขินๆ
    “ไกอาร์คือเด็กที่เป็นวิญญาณโลกมิติที่ 4 เล่ากันว่าเธอถูกแกล้งจนเสียชีวิตในกลางดึกคืนหนึ่งช่วงเวลาสาง ก่อนตายเธอสัญญาากับตัวเองว่าจะเข้าไปในดวงตาของคนที่เป็นคนชั่วให้หมดแล้วควบคุมจิตใจคนนั้นไว้จนคนที่ถูกไกอาร์สิงร่างกลายเป็นคน “เดน”โดยสมบูรณ์”เอมี่เล่า
“แล้วเธอก็ไม่มีไกอาร์อยู่ในดวงตาเลย”มาร์กี้บอกเสียงแหลมเปี๊ยว
   
ทันใดนั้น  เงาร่างหนึ่งก็ลุกขึ้นนั่งอย่างเหนื่อยล้าและโรยรา
เอมิลี่ มาร์กี้และเอมี่หันไปมองด้วยความผวา
    แต่ไม่ใช่ใครที่ไหน !
มาร์ตินนั่นเอง!
“มาร์ติน!!!”เอมิลี่ร้องเรียกด้วยความดีใจ ดีใจที่สุดเลยล่ะ
    มาร์ตินมองไปที่สัตว์ทั้งสอง สายตางงๆและหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย
“นายทำร้ายฉํนทำไม”มาร์ตินชี้หน้าเจ้าหมาอย่างโกรธเกรี้ยว
    มาร์กี้สลดหดหู่ลงทันที
มันหางลู่และตกลงราวกับหมาสำนึกผิด
“ฉ ฉันขอโทษด้วยนะ ฉันคิดว่าพวกเธอเป็นมนุษย์เดนเสียอีก แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว เข้าใจว่าพวกเธอไม่ใช่มนุษย์เดน เพราะ พวกเธอไม่มีไกอาร์สิงอยู่ในแววตาเลย
มาร์กี้เริ่มแก้ตัว
    มันหูพับลงตามไปด้วย
มันกลัวว่ามาร์ตินจะยังโกรธมันอยู่ ยังไม่ให้อภัยมัน
แต่มาร์ตินไม่ใช่คนถือโทษและซ้ำเติมคนที่ผิด
    ดังนั้นความเงียบอันเกิดจากความคิดของแต่ละคนก็เริ่มขึ้น
แล้วในที่สุดเสียงของเอมิลี่ก็แทรกขึ้นมาราวกับลมแหวกคลื่น
    “เอ่อขอโทษนะที่พูดมากะทันหัน แต่เราจะกลับบ้านได้ไหม”
โชคดีที่มาร์กี้คิดคำตอบไว้อยู่แล้ว
“อาจจะต้องบอกว่ายังไม่ได้นะ เพราะพวกเธอได้ภารกิจที่ต้องทำแล้ว”
มาร์ตินและเอมิลี่จ้องหน้ากันตาแป๋วแล้วคำถามแรกที่ถามพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายคือ
    “ภารกิจเหรอ?”
สัตว์ทั้งสองพยักหน้า
“แน่นอน ภารกิจ เราเพิ่งนึกได้เมื่อกี้นี้เอง  พวกเธอสังเกตไหมล่ะว่าเมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมด้วยอะไร”
“สีดำ”เอมิลี่ตอบง่ายราวกับการอ่าน ก ข ค
มาร์ตินมองอย่างงงๆ
“ใช่  เมืองทั้งเมืองตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยสีดำเพราะชายเพียงคนเดียว”เอมี่บอก
“ชื่อของเขาคือ ท่านเคาส์ดาร์เซอลอส!”
   
   
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น