2099 : เกมวิกฤต – คนวิปลาส V 1.1

เรื่องย่อ “2099 : เกมวิกฤต – คนวิปลาส” 

ยุควิกฤต	ปลายศตวรรษที่ 21    ภาวะโลกร้อนและภัยพิบัติรุนแรง ทำลายชีวิตมนุษย์และสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ มนุษย์ต่างกระจัดกระจายเป็นกลุ่มตามดินแดนอารยธรรมที่หลงเหลือจากภัยพิบัติและความแปรปรวนของสภาพแวดล้อม
ยุคปฏิวัฒนาระเบียบแบบแผนมนุษยชาติ	ท่ามกลางภาวะเสื่อมโทรมของโลก กลุ่มชนชั้นนำระดับอัจฉริยะร่วมสถาปนาอาณาจักรใหม่ที่เพียบพร้อมด้วยวิทยาการและเทคโนโลยี วางระบบระเบียบแบบแผนใหม่เพื่อสร้างพลเมืองและสังคมที่อุทิศตนเพื่อรัฐแห่งอนาคต ประกาศใช้กฎหมาย ปฏิวัฒนาระเบียบแบบแผนมนุษยชาติ ปี 2099
อมลนคร	ต้นศตวรรษที่ 22  ก่อกำเนิด อมลนคร นครรัฐอันเข้มแข็ง บนดินแดนที่เทคโนโลยีพุ่งสู่ขีดสูงสุด เป็นยุคที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ ดุจดังผืนผ้าชั้นดีเนียนเรียบไร้รอยยับย่น ทั้งนี้เพราะมนุษย์เอาชนะปมปัญหาหลายประการของชีวิต พ้นจากความทุกข์ทรมานจากโรคร้ายที่น่าสะพรึงกลัว สร้างเกราะป้องกันมลภาวะ ว่างเว้นจากสงครามอันร้ายกาจและความโหดร้ายนานา แต่อาจจะแลกมาด้วยราคาที่แสนแพง จึงมิใช่โลกอันอำไพสำหรับมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม
โทนิน	ชายหนุ่มชาวอมลนคร กำเนิดและเติบโตที่ เมืองธานี  12 ในอมลนคร เป็นนักประวัติศาสตร์สังกัดสถาบันประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เทียบฐานะเป็นพลเมืองชั้นกลางระดับดีเยี่ยม เขาดำเนินชีวิตตามระบบระเบียบอย่างเคร่งครัดทุกประการ แต่ถึงกระนั้นก็ยังงุนงงกับภาวะของจิตใจที่ผกผัน ความล้ำลึกที่ไม่เคยหยั่งถึงได้ของสติสัมปชัญญะ แต่ทว่าเมื่อพยายามแสวงหาคำตอบกลับยิ่งพบความลึกลับที่แอบแฝงมากกว่าที่เป็นมาแล้วเสียอีก ความมั่นใจโลกใหม่ที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ถูกสั่นคลอน อาจเป็นเพราะมนุษย์มักจะคิดว่าอนาคตนั้นจะต้องดีกว่าปัจจุบัน ดังนั้นในการค้นหาแสวงหาเราจึงหวังจะได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ แต่บางที . . . เราก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรมากกว่าที่บรรพบุรุษเคยผ่านมาแล้ว
Unknown Hero	บุรุษผู้ที่ไม่มีใครรู้จัก ปรากฏข้อมูลของเขาในระบบเครือข่ายของอมลนคร หลักฐานที่ไม่กระจ่างชัดสันนิษฐานว่าเป็นบุคคลในช่วงปี ค.ศ. 2050 ผู้คิดค้นโปรแกรมต้นแบบที่กลายเป็นระบบเครือข่ายอันแข็งแกร่งของรัฐ และสามารถสถาปนายุค ปฏิวัฒนาระเบียบแบบแผนมนุษยชาติ ปี 2099 ได้ในที่สุด และเมื่อนำข้อมูลที่รีโหลดเข้าเครื่องค้นหากลับปรากฏร่องรอยของ  Unknown Hero ในดินแดนนอกเขตอมลนคร . . .
รัฐวาไรต์	โทนินได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญ ย่างกายออกนอกกำแพงอมลนคร พ้นสนามไฟฟ้าป้องกันมลภาวะรูปทรงฝาครอบ มุ่งสู่ดินแดนรัฐอิสระอันล้าหลังนามว่า รัฐวาไรต์ ปฏิบัติการลับค้นหาบุรุษที่ไม่มีใครรู้จัก ผู้ปรากฏกายด้วยอาการพิลึกพิลั่น เคยได้รับการยกย่องเป็นเทพฟ้าดินของเหล่าชาววาไรต์มาตั้งแต่ครั้งบุกเบิกด้วยความบังเอิญ การแย่งชิงตัวบุคคลผู้คลุมเครือนี้ชักนำให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างหน่วยจรยุทธจากอมลนครกับกองกำลังรัฐวาไรต์ ก่อให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แห่งยุค และครั้งนี้ระเบียบแบบแผนหรือความบังเอิญกันแน่ที่จะกำหนดโชคชะตาของมนุษยชาติ
ณติณ	ในท่ามกลางสังคมปี ค.ศ. 2058 ที่เปี่ยมด้วยอิสระเสรี ณติณ เด็กหนุ่มผู้มุ่งมั่นสู่ความใฝ่ฝันของชีวิตกลับประสบความทุกข์ยากจากระเบียบกฎเกณฑ์ของรัฐที่ล้าหลัง เพื่อหลุดพ้นจากการตกเป็นกลไกของรัฐที่เหมือนถูกกุมขังไร้อิสระ เขากระทำวิธีการบางอย่างในการเจาะเครือข่ายไซเบอร์จัดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งรัฐ เป็นผลให้เข้าไปเกี่ยวพัน เชื่อมโยงกับอมลนครและรัฐวาไรต์ เกิดรอยต่อขั้นวิกฤตที่เป็นจุดเปลี่ยนของโลกอนาคตและชี้ชะตาความอยู่รอดของมนุษยชาติ ไม่ว่าเขาจะกลายเป็น Unknown Hero ของชาวอมลนคร  หรือ เทพฟ้าดินของชาววาไรต์ สภาวะรับรู้ของเขาบอกตัวเองว่านี่คือ เกม เป็นโลกเสมือนจริงในไซเบอร์สเปซเท่านั้น และเขาต่อสู้จนสามารถปลดปล่อยตัวเองจากเกมออนไลน์ แต่ทว่า โลกแห่งอนาคตมิได้คิดเช่นนั้น โทนินติดตามออกมาสู่โลกปัจจุบันของณติณ เพื่อหาทางปกป้องโลกแห่งอนาคตที่กำลังจะล่มสลาย ณติณได้แต่คิดว่า เกมมันยังไม่จบและเขายังตกอยู่ในบ่วงของโลกเสมือนจริง นี่เป็นชะตากรรมของเขา ชะตากรรมของโลก หรือชะตากรรมของใครกันแน่

นวนิยายเรื่องนี้กำลังจะนำท่านเข้าสู่เรื่องราวหลายมุมมอง โดยผู้เขียนเลือกที่จะดำเนินเรื่องในรูปแบบ postmodern ด้วยเทคนิคการนำเสนอแบบผสมผสาน กล่าวคือ 

1. มีรูปแบบที่ขัดแย้งกัน เมื่อเรื่องดำเนินไปในลักษณะหนึ่ง จะหยุดชะงักหรือยกเลิกไป แล้วเปลี่ยนเป็นดำเนินเรื่องอีกลักษณะหนึ่ง

2. มีการบรรยายที่แตกต่างกันคละเคล้าอยู่ในเรื่องเดียวกัน

3. ขาดความต่อเนื่องของเรื่องราว หรือแยกเป็นส่วนๆ มีการเปลี่ยนบริบทของเรื่อง หรือการเว้นช่วงของการดำเนินเรื่อง

4. มีกลวิธีเชิงอุปลักษณ์ คือ เปรียบเทียบด้วยวิธีกล่าวเป็นนัย

นอกจากนี้ ในบทแรกๆ ยังเป็นแนวเรื่องที่มีความเป็นเรื่องสั้นหลายๆตอน ร้อยเรียงต่อเนื่องบ้าง ขาดตอนบ้าง ซึ่งต้องทำความเข้าใจอย่างปะติดปะต่อ และมีลักษณะการดำเนินเรื่องที่ซับซ้อนปะปนอยู่ตลอดเรื่อง รวมทั้งมีการจบแบบหักมุม (Twist Ending) ในที่สุด นี่คือ อรรถรสแห่งการร้อยเรียงเรื่องราวที่เต็มไปด้วยร่องรอยปะติดปะต่อ เป็นเรื่องราวหลากหลายบริบท สลับเวลา ย้ายสถานที่ ชวนสับสนราวกับหนังสือเรียงสลับหน้า อย่างมีนัยสำคัญ

เป็นความตั้งใจที่จะสร้างความแปลก ฉงน พิลึกพิลั่น และแหวกแนว ด้วยการเปลี่ยน point of view สลับไปมา ให้ฉุกคิดว่า ในขณะที่เราคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมในบริบทหนึ่ง ขณะนั้นยังมีบริบทอื่นทับซ้อน เราอาจจะกำลังมีชีวิตอยู่บนเงื่อนไขอะไรบางอย่าง ไม่ว่าเราจะเชื่อหรือไม่เชื่อ รู้หรือไม่รู้ก็ตาม แต่มันมีอยู่ และเป็นปัจจัยที่ทำให้ชีวิตเราเป็นเช่นนี้หรืออาจจะกลับกลายเป็นอย่างอื่นถ้าปัจจัยเปลี่ยนไป

หลังจากอ่านเรื่องนี้จบลง จู่ๆ ท่านอาจจะเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ที่นี่ที่ไหน ตัวฉันเป็นใคร คนข้างๆ เป็นใครมาจากไหน เรากำลังปรากฏตัวเยี่ยงไรในโลกนี้ อะไรหนอทำให้เป็นเช่นนี้ บางทีท่านอาจจะเริ่มคิดว่ามีใครที่กำลังเฝ้ามองเราอยู่หรือไม่ และได้กระทำการใดที่ส่งผลกระทบต่อเรา เรื่องผู้สร้าง ผู้ถูกสร้าง การเกิดดับของสรรพสิ่ง อาจจะเป็นเพียงสิ่งสมมุติอันซับซ้อนยิ่ง และวนเวียนเป็นวัฏจักรอันใหญ่โอฬารเกินกว่าจะรับรู้และจินตนาการ

หวังว่าผลงานนวนิยายเรื่อง “2099 : เกมวิกฤต – คนวิปลาส” จะมีอรรถรสเป็นที่พึงพอใจของท่านผู้อ่านครับ