คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : บทที่ 7 บาดเจ็บ (9) [ครบบท]
วิ่งมาจนลึกพอสมควร
เสียงปืนก็เงียบลง
กรชวัลหยุดวิ่งแล้วโยนกันตาลงไปนอนแนบพื้นไม่สนใจ
เท้าสะเอวมองบริเวณรอบ ๆ ที่นี่มีแต่ต้นไม้ใหญ่ มองไปทางไหนก็มีแต่ป่ารกทึบ
ยิ่งนิ่ง
ความมืดก็มาย่างกราย ต้องหาที่หลบภัยที่จะสามารถพ้นกระสุนปืน
และกลางค่ำกลางคืนแบบนี้คงจะมีแต่อันตราย
ยืนนิ่งพอสมควรก็นั่งทรุดตัวนั่งลงหลังพิงต้นไม้ใหญ่แทบจะหมดแรงกันเลยทีเดียว
ปรายตามองเลือดที่ต้นแขนไหลลงมาเป็นทาง
กรชวัลถอดเสื้อเชิ้ตออกเพื่อดูแผลที่ถูกยิง
กระสุนฝังในต้องรีบเอาออก หยิบมีดพกพาและไฟแช็กออกมาจากกระเป๋ากางเกง
วันนี้เสียท่าไม่ยอมพกปืน น่าเจ็บใจชะมัด
กันตามองดูกรชวัลจุดไฟแช็กลนปลายมีดแหลมคม
อกสั่นขวัญแขวนชอบกล
พอได้ที่ก็จ้วงแทงปลายมีดไปที่แขนเพื่อผ่ากระสุนออก
เขาเจ็บจนต้องร้องโหยหวนออกมา
ฟันขาว ๆ ขบกันเอาไว้แน่น เส้นเลือดในมือเด่นชัดเพราะใช้แรงเกร็ง
กรชวัลเจ็บปวดจนทนไม่ไหว
อ่อนล้าแรงลงมองกันตาแล้วพูดออกไปว่า
“มีโอกาสแล้ว
ก็หนีไปสิ”
น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยบอก
พร้อมกับท่าทีหมดแรง
“นี่มีด” เขาโยนไปต่อหน้า “ฆ่าฉันสิ”
กันตารีบคว้าเอาไว้
แล้วตรงดิ่งมาหาคนที่ชอบท้าทาย
กรชวัลหลับตาเอาไว้
ไม่คิดจะต่อต้าน อาการอ่อนแรงแทบทำให้ไม่ได้สติแล้วตอนนี้
‘ใครที่มันทำร้ายน้อง
บอกพี่เลยนะ น้องของพี่ใครหน้าไหนก็ห้ามแตะต้อง พี่จะปกป้องน้องเองนะ’
คำมั่นวันวาน เธอยังจำขึ้นใจเพราะเขาคือคนสำคัญในชีวิต
กรชวัลลืมตาโพลงเมื่อได้ยินเสียงจุดไฟแช็กที่เธอใช้ลนปลายมีด
“ไม่ใช่ ไม่อยากฆ่านะ แต่ฉันยังอยากจะเห็นคุณตายทั้งเป็น อยากเห็นหน้าในเวลาที่คุณแก้แค้นจนสาแก่ใจ
คุณชวัล”
กันตาส่งเสื้อเชิ้ตที่เขาถอดทิ้งให้กัดเอาไว้
แล้วจ้วงปลายมีดแหลมคมเข้าไปในแผลที่โดนยิง เธอไม่สนว่าเขาจะเจ็บเพียงใด
เกือบอึดใจก็เอากระสุนออกมาจนสำเร็จ
ใช้มีดตัดชายเสื้อของตัวเองพอประมาณมาพันแผลห้ามเลือดเอาไว้ให้เขาแล้วมัดจนแน่น
สายตาหญิงสาวกวาดมองบริเวณรอบ
ๆ เก็บกิ่งไม้เล็กใหญ่มากองรวม ๆ กัน จุดไฟกับใบไม้แห้งแล้วก่อกองไฟพอประมาณ
เขามองทักษะการเอาตัวรอดของเธอก็ถือว่าใช้ได้
ทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน เขาจ้องเธอไม่คลาด กลัวเธอหนีมันก็กลัว
กลัวว่าจะมีอันตรายก็กลัว
ฝืนจนถึงที่สุดแล้วมันไม่ไหวก่อนจะหลับไป
กันตางอเข่าขึ้นมาแล้วก้มหน้าซุกลงไป
ความหิวเล่นงานทำให้แทบจะหมดแรง ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน
รู้สึกตัวตื่นมาอีกทีกองไฟก็ที่มอดอยู่ก็มีใครบางคนหอบฟืนมาเติมให้มันลุก
หญิงสาวลุกขึ้นนั่งมองเห็นเสื้อเชิ้ตของกรชวัลมาห่มตัวเอาไว้ให้
รีบขว้างออกไปให้พ้นตัวท่ามกลางสายตาคู่คมที่มองมา
“ขยะแขยงมากนักหรือไง”
“ใช่!
ไม่ต้องมาเจียดความสงสาร หรือความหวังดีให้เพราะฉันไม่ต้องการ”
ความหยิ่งผยองของเธอมันไม่เคยลดลงเลยแม้แต่นิดเดียวจริง
ๆ
กรชวัลลุกขึ้นยืนสาวเท้าเข้าไปหา ก้มหยิบเสื้อตัวนั้นขึ้นมาใส่ไม่ติดกระดุมหน้า
หย่อนก้นนั่งลงข้างเธอชันเข่าข้างหนึ่งขึ้นมา
กันตาทำทีว่าจะลุกหนี
“ถ้าไม่อยากโดนปล้ำ
อยู่นิ่ง ๆ ไปเลย” เขาขู่น้ำเสียงเข้มปรายตามองคนที่ดื้อดึง
“มานั่งใกล้
ๆ ทำไม ฉันเกลียดคุณ รู้ไว้เลยว่าไม่อยากอยู่ใกล้เลยสักนิด ไม่เลยสักครั้งเดียว”
กรชวัลยังเงียบ
ไม่ต่อล้อต่อเถียง
“ไม่ต้องมาทำดีกับฉัน
ยังไงฉันก็จะไม่มีวันยกโทษให้คุณ”
เขานิ่ง
พยายามไม่เก็บมาคิด
“และวันนี้ที่ฉันไม่ฆ่าคุณ
อย่าเผลอคิดไปนะว่าฉันไม่อยากทำแต่ฉันเห็นแก่หน้าก้อย รับรู้ไว้เลยนะที่มีชีวิตรอด
ก็เพราะก้อยเท่านั้น จำไว้!”
อุ๊บ!
กรชวัลก้มลงไปฝังริมฝีปาก มือข้างหนึ่งรั้งศีรษะคนปากดีเข้ามา
กดเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี
สัมผัสคราแรกของริมฝีปากแห้งผากนั้นเย็นเยือกพอได้ประกบก็อุ่นซ่านขึ้นมา
เขาถอนริมฝีปากออกมา
“จะปากดีอีกไหม”
กันตายกมือมาปิดปากเอาไว้
เสียท่าจนได้ กล้าดียังไงมาฉวยโอกาส ชิงชังเขานัก
“ถ้าได้ยินเสียงออกมาแม้แต่คำเดียว
ฉันจะจับปล้ำกลางป่านี่แหละ”
“เหอะ” กันตาค่อนขอด “เจ็บจนจะตาย ยังจะมาปากดีใส่ฉัน
เอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”
“อย่ามาท้าทายความต้องการของฉัน
เจ็บแค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ถ้าไม่อยากขาสั่น ยังอยากมีแรงเดินออกไปจากป่า
ก็หุบปาก”
กันตาเงียบไป
ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
ผ่านไปหลายชั่วโมงไฟในกองก็เริ่มมอดลง
กันตาหันไปมองกรชวัลที่นอนหลับอยู่ข้างกาย เขาใช้เข็มขัดพันธนาการข้อมือเธอกับเขาไว้ด้วยกัน
พิษบาดแผลทำให้คนตัวใหญ่ใจมารเริ่มมีอาการไข้หนาวสั่น
กันตาพยายามไม่ใส่ใจ
เงยหน้ามองท้องฟ้าที่ยังพอเห็นจากใบไม้ที่บดบัง หมู่ดาวบนท้องฟ้าดูสวยงามระยิบตา
“ดาวลูกไก่” เธอพึมพำ ถอนหายใจเฮือกยาวออกมา
มองกรชวัลอีกครา
แล้วเขาก็ทำให้เธอละสายตาไปไหนไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ทำไมต้องเป็นพี่
ทำไมกัน”
เธอได้แต่เฝ้าถามตัวเอง
ลึก ๆ ในใจเธอก็ห่วงใยเขา พอรู้ว่าเป็นพี่ชายคนนั้นที่คิดถึงและอยากเจอเสมอมา ก็ยิ่งทำใจยากกว่าเก่า
//////////////////////
ความคิดเห็น