ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทาสพิศวาสอาญาเถื่อน [มีอีบุ๊ก + เปิดจองเล่ม]

    ลำดับตอนที่ #28 : บทที่ 5 เจ็บไข้ได้ป่วย (5) [ครบบท]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.94K
      46
      12 ก.ค. 64

    “ฉันจะไม่ขอโทษ” น้ำเสียงเบาเปล่งออกมา 

    “ฉันก็ไม่เคยหวังว่าจะได้คำนั้นจากเธออยู่แล้ว”

    กรชวัลกอดอกเดินอ้อมเตียงมาประจัญหน้าหญิงสาว

    “ช่วยไสหัวไปให้พ้นหน้าจะได้ไหม ต่อให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉันจะไม่ได้ถูกย่ำยีจากคนพวกนั้น แต่ฉันจะไม่มีวันลืมคืนโหดร้ายนั้นไปอย่างแน่นอน เพราะหนึ่งในนั้นที่ทำลายศักดิ์ศรีของฉัน มันก็คือคุณ แล้วไม่ต้องมาพูดว่านั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องการ ชาติชั่วสันดานต่ำทรามพรรค์นั้น คุณไม่ได้ทำเพื่อแก้แค้นหรอก พื้นเพจิตใจของคุณต่างหากที่มันอยากจะเอาฉัน”

    กรชวัลขบกรามแน่น ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าตบหน้าเขาได้ถึงสองครั้ง ไม่สิ ครั้งเดียวก็อย่าหวังว่าจะได้แตะต้องเขา แล้วนี่ยังไม่พอ แถมมายืนโง่ ๆ ให้ตัวเองโดนด่าเข้าไปอีก

    เธอเป็นใครถึงใจกล้าขนาดนี้

    ชายหนุ่มพยักหน้า บาดแผลที่สร้างเอาไว้ในใจของกันตามันได้ผล เธอยังเข้าใจผิดคิดว่าโดนย่ำยีในคืนนั้น

    ชัยเคาะประตูสองครั้งเป็นจังหวะแล้วเดินเข้ามา

    “งานที่สั่ง ผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับ”  

    “ดี เฝ้าไว้ อย่าให้หนี” 

    “ครับพ่อเลี้ยง”

    กรชวัลเดินออกไปอย่างหัวเสีย

    *****************

    กรชวัลขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านหลังหนึ่งเป็นผู้มีอิทธิพล ทั้งตัวมีปืนแค่กระบอกเดียว ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ถึงกล้าเจ๋อไปในที่แห่งนั้น เขามองดูลูกน้องผู้ซื่อสัตย์เล็งปลายกระบอกปืนมาที่รถยนต์ของเขาทันทีที่จอดสนิท

    พอลงรถชายคนนั้นก็เดินออกมาต้อนรับ

    “กล้าที่จะมาหาฉันถึงที่นี่ ยอมรับในความบ้าเลยพ่อเลี้ยง  รู้ใช่ไหมว่าถ้าเข้ามาแล้ว เวลาออกไปต้องเป็นศพ” เสี่ยนพดลกล่าว

    “ฉันมาเตือนเสี่ย ว่าอย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนั้น” 

    เสี่ยนพดลยักไหล่ “ลูกน้องฉันมันเห็นผู้หญิงไม่ได้ อภัยให้มันเถอะนะ ผู้ชายมันก็กระสันอยากทุกคนนั่นล่ะ รวมถึงพ่อเลี้ยงด้วย ถูกไหม”

    “ไม่ต้องมาเสือก ฉันมาเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเจอลูกน้องเสี่ยแม้แต่คนเดียว อย่าหาว่าไอ้ชวัลมันเลือดเย็นแล้วกัน เราสองคนต่างคนต่างอยู่ไปเถอะ” 

    “ถ้าอยากให้เรื่องมันจบ ก็เอาที่ดินผืนนั้นมาให้ฉัน” 

    “รอชาติหน้าเถอะเสี่ย” กรชวัลท้าทาย “ขอสั่งเป็นครั้งสุดท้าย อย่ามายุ่ง ถ้าเตือนแล้วไม่ฟังอีก ครั้งนี้ไม่ทำแค่นี้แน่ๆ” 

    “แกทำอะไร พ่อเลี้ยง”

    กรชวัลยักไหล่หมุนตัวเดินไปขึ้นรถ กดกระจกลงมาแล้วยิ้มให้อย่างผู้ชนะ อย่าคิดว่าเขาจะไม่เอาคืน 

    ก่อนจะเหยียบคันเร่งขับออกไป ไม่นานนักเสียงระเบิดก็ดังตู้ม! พร้อมกับมีไฟลุกไหม้ท่วมโรงเก็บไม้ที่เสี่ยนพดลลักลอบตัดไปขาย

    “ไอ้ชวัล!” เสี่ยนพดลลมออกหู ยิงปืนออกไปตามเส้นทางที่รถของกรชวัลขับไป เขากระตุกยิ้มเหลือบสายตามองกระจกหลัง รู้ว่านี่การเปิดศึกอย่างเป็นทางการ จะต้องยอมรับผลที่ตามมา แม้ต้องแลกด้วยชีวิต ก็ต้องยอมให้มันเป็นไป

    กรชวัลใช้เวลาหลายนาทีในห้องน้ำ มองตัวเองที่สะท้อนในกระจก ฝ่ามือใหญ่วางทาบหน้าอกที่มีรอยเข็มทิ่มแทงลงไป เธอกล่าวหาว่าเขาเป็นคนไม่มีหัวใจ ไม่มีความรู้สึก มันจริงเหรอ? 

    หลายวันผ่านไป 

    กันตาอาการดีขึ้นมาก แม่นายมลฑาจึงขอคุณหมอให้เธอมารักษาตัวต่อที่บ้าน 

    “ถ้าหายดีแล้วก็ไปเผาถ่าน” กรชวัลออกคำสั่ง มองคนที่เพิ่งหายเจ็บตาขวาง

    “แม่ขอสั่ง นับจากนี้เป็นต้นไป ห้ามไม่ให้กิ่งไปทำงานที่ไร่ เสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิต จะไม่มีการแก้แค้นใด ๆ ไม่มีการเอาคืนตราบใดที่แม่ยังหายใจอยู่” 

    “แม่นายครับ”

    “ถ้าชวัลต้องการแก้แค้นกิ่ง สิ่งเดียวที่ลูกทำได้ คือรอแม่ตายซะก่อน เพราะนั่นจึงจะถือว่าคำสั่งของแม่ไม่มีผล แม่จะไม่ยอมให้ลูกทำในสิ่งที่มันผิดบาปอีกต่อไป ไม่ยอม”

    “แต่...”

    “ห้ามเอาเรื่องก้อยมาอ้างกับแม่ กิ่งไม่รู้เรื่องอะไร และต่อให้ชวัลจะมองว่ากิ่งเป็นต้นเหตุเรื่องทั้งหมดก็ตาม ในสายตาของแม่ กิ่งก็เป็นคนดีที่ไม่สมควรอยู่ที่นี่ ทันทีที่ลูกพบเกล้าขวัญ กิ่งต้องเป็นอิสระทันที”

    “ผมไม่ยอมแน่ แม่นาย”

    “แม่ก็ไม่มีวันยอมแน่ ๆ ชวัล” แม่นายมลฑายื่นคำขาดแล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอน

    กรชวัลหันไปมองกันตา “เธอไม่ต้องดีใจไปนะ อย่าคิดว่าแม่นายจะคุ้มกะลาหัวเธอได้ ถ้าคิดว่าก้อยยังเป็นเพื่อน เธอควรรู้เอาไว้นะว่า จะชดใช้ให้น้องสาวและหลานของฉันยังไง”

    “ฉันเสียใจที่ทำให้ก้อยต้องมีจุดจบแบบนั้น” 

    “เธอต้องเสียใจมากกว่านั้น ถ้าสำนึกจริง เธอต้องยอมชดใช้ เพราะงั้นไสหัวไปอยู่ในห้องเก็บของ อยู่ในที่ของเธอซะ กันตา”

    “ความตายใช่ไหม ที่จะหยุดคุณได้”

    “ใช่...”

    กันตาพยักหน้าเดินไปอยู่ในที่ของเธอ กรชวัลมองตามจนประตูห้องปิดสนิท

    หญิงสาวเข้ามาในห้องที่มืดสนิท แต่ก็ยังดีที่แสงสว่างจากด้านนอกผ่านเข้ามาพอให้มองเห็นอยู่บ้าง ก่อนที่จะงอเข่าก้มหน้าซุกลงไปอย่างหมดหวัง นั่งอยู่อย่างนั้นให้เวลามันหมุนผ่านไปช้า ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมา

    กันตามองแสงที่สะท้อนกับกระจกบานใหญ่ตั้งพิงไว้ที่ผนังห้อง เธอรู้แล้วว่านับต่อจากนี้ไป เรื่องนี้มันจะจบลงยังไง แล้วลุกขึ้นเดินไปอย่างใจกล้า ทำในสิ่งที่ไม่คาดฝัน

    /////////////////////////

    ขอบพระคุณทุกการติดตามนะคะ

    วันนี้มาช้า ขออภัยด้วยค่ะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×