ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เซเลนเธเลี่ยน อาณาจักรมายา

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 9 รวมกลุ่ม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 129
      1
      14 ก.พ. 54

    ตอนที่9 รวมกลุ่ม

     

     

        ซาเรสและฮิโร่ยังคงยืนเอ๋อเหรอหราหันหน้าไปมา   ไม่รู้ว่าจะไปจับกลุ่มกับใครดี    มองไปทางซ้ายพวกเขาเริ่มได้กลุ่มเป็นรูปเป็นร่างกันแล้ว    มองไปทางขวาเขาก็เริ่มได้กลุ่มกันแล้วเหมือนกัน    เอ๊ะลองมองไปข้างหน้า    โอ้ ได้กลุ่มครบแล้วตั้งสามกลุ่ม    งั้นลองมองด้านหลังบ้างซิ      เฮ้ย!  มันไม่จับกลุ่มกันเลย    บางคนก็นั่งบางคนก็ยืน    ไม่คิดจะหากลุ่มอยู่

        “ซาเรส    แล้วเราจะอยู่กลุ่มใครดีล่ะ”ฮิโร่ถามเสียงละเหี่ยใจ

        “ฉันว่าเราน่าจะไปลองรวมกลุ่มกับพวกข้างหลังดูนะ”ซาเรสออกความเห็น    และชี้ไปทางพวกที่ยังกระจัดกระจายอยู่คนละที่

        “พวกนั้นน่ะเหรอ    แต่พวกนั้นยังไม่มีใครชวนเข้ากลุ่มเลยนะ    บางทีอาจเป็นพวกฝีมือห่วยก็ได้นะ”ฮิโร่แย้ง

        ซาเรสยิ้มหัวเราะในลำคอ “หึ    นายนี่ไม่รู้อะไรเลยนะ    พวกที่เก่งจริงๆน่ะ    เขาไม่รีบวิ่งแจ้นหากลุ่มอยู่กันหรอก    พวกเขามีความหยิ่งในฝีมือของตนเองและจะรอแต่ผู้ที่เห็นความสำคัญของเขาเท่านั้น”ซาเรสบอกอย่างมีหลักการ    แต่ฮิโร่ทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

        “งั้นเราลองไปชวนกัน”ซาเรสว่า    และเดินไปลองชวนเด็กคนหนึ่งมี่ยืนกอดอกอยู่ใต้ต้นไม้

        “นาย    อยู่กลุ่มเดียวกับเราไหม”ซาเรสชวน

        เด็กชายตัวสูงผิวคล้ำที่เหมือนชาวกอนด์วาเนีย    ที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร    เขาแต่งกายดูธรรมดา    แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น    ซึ่งฮิโร่เห็นว่าไม่น่ามีฝีมืออะไร    แต่ซาเรสกลับบอกว่านี่แหละเสือซ่อนเล็บ

        “ได้สิ”เด็กชายรับคำโดยไม่ลังเล

        “ฉัน ซาเรส    ส่วนนี่ ฮิโร่”ซาเรสแนะนำตัวเอง    และผายมืออไปแนะนำตัวแทนฮิโร่ด้วย

        “สวัสดี”ฮิโร่เอ่ยทัก

        “ฉัน ราพณาสูร  เรียกพณา  เฉยๆล่ะกัน”ราพณาสูรแนะนำตัวกลับ

        “งั้นพวกนายอยู่นี่นะ    เดี๋ยวฉันไปชวนคนอื่นต่อ”ซาเรสหันไปชวนคนอื่นเข้ากลุ่มต่อทันที    โดยไม่ฟังความเห็นคนทั้งกลุ่ม

        “นี่พณา”ฮิโร่สะกิดราพณาสูร “ที่นายยืนเฉยๆตอนแรกเนี่ย    เพราะว่านายเก่งเลยรอคนที่เห็นฝีมือนายมาชวนใช่ไหม”

        ราพณาสูรมองหน้าฮิโร่แบบงงๆ “เปล่าหรอก    ก็แค่ไม่รู้จักใครเลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี”

         “อ๋อ    เหรอ”ฮิโร่คิดว่า    คงจะเชื่อทฤษฏีเจ้าซาเรสไม่ค่อยได้แล้วสิ

        “นาย”ซาเรสร้องเรียก   เด็กชายท่าทางน่ากลัวที่นั่งสมาธิอยู่

        เขาลืมตาขึ้นช้าๆ    แล้วเพ่งมองผู้ที่ทักเขาด้วยดวงตาดุไม่ค่อยน่าคบเท่าไหร่

        “มีอะไร”เด็กชายตาดุเอ่ยถามด้วยเสียงที่ฟังแหบแปล่งหู

        “ฉันมาชวนนายเข้ากลุ่ม”ซาเรสบอกอย่างจริงใจ

        “หึ    นายมีอะไรดี    ที่จะทำให้ฉันร่วมกลุ่มกับนายล่ะ”เด็กชายพูดเสร็จก็หลับตานั่งสมาธิต่อ

        “ฉันบอกไม่ได้หรอกว่ามีอะไรที่นายต้องการ    แต่ที่รู้คือ ถ้านายไม่เข้าร่วมกับฉัน    นายจะไม่ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนนี้แน่ๆ     เพราะ กลุ่มของฉันจะเป็นผู้ชนะในสงครามนี้”ซาเรสตอบอย่างมั่นใจ

        “หึ”เด็กชายหัวเราะในลำ    แล้วลุกขึ้นยืน  จ้องหน้าซาเรส “ได้    ฉันจะเข้าร่วมกับนาย    แต่ถ้าหากว่าฉันไม่ได้เข้าเรียนล่ะก็    นายเจอดีแน่”เด็กชายใช้นิ้วชี้หน้าซาเรสคาดโทษไว้

        ซาเรสยิ้มที่มุมปาก “งั้นก็    ยินดีต้อนรับฉันชื่อซาเรส”ซาเรสแนะนำตัวและยื่นมือออกไป

        “ไสยรันณ์”ไสยรันณ์ยื่นมือไปจับมือกับซาเรสและขยับขึ้นลงเบาๆ

         “งั้นเดี๋ยวฉันพาไปทำความรู้จักกับคนในกลุ่มนะ”ซาเรสว่าเสร็จ    ก็เดินไปทางกลุ่มที่มีฮิโร่และราพณาสูรรออยู่    ซึ่งไสยรันณ์ก็เดินตามโดยไม่พูดอะไร

        ไสยรันณ์เป็นเด็กชายจากทวีปกอนด์วาเนีย    เขาไว้ผมสั้นสีดำเสยขึ้นด้านบน    ดวงตาขวางสีดำสนิทที่ใครเห็นเป็นต้องเผ่น    ร่างผอมบางขาวซีดที่ถูกทับด้วยผ้าสีดำขาดๆกับกางเกงขายาวสีดำหางกระดิ่ง    และด้วยรังสีดำมืดแปลกๆที่บางคนมองไม่เห็นแต่พอจะรู้สึกได้ทำให้เขาไม่มีใครกล้าพาเข้ากลุ่ม    มีแต่ซาเรสเป็นคนแรกที่กล้า

        เมื่อเจอกัน    ซาเรสก็แนะนำทุกคนให้รู้จักกัน    ฮิโร่มองหน้าซาเรสแหยๆที่ชวนมาแต่ละคนแปลกๆทั้งนั้น    แต่ซาเรสกลับเห็นว่าแม้ไสยรันณ์จะดูอัธยาศัยไม่ค่อย    บุคลิกไม่น่าคบ    แต่คนผู้นี้ต้องมีอะไรดีสักอย่างที่ทำให้เขาต้องตกใจแน่ๆ

        หลังจากคุยกันได้พักหนึ่ง    ซาเรสมองดูนาฬิกาที่แสดงเวลาจำกัดในการจับกลุ่มอยู่บนท้องฟ้ามืดดำ   

        “เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว    ฉันว่าแยกกันไปชวนคนเข้ากลุ่มดีกว่า”ซาเรสว่า    ทั้งสามมองหน้าซาเรสตาโต

        “ฉันเป็นเจ้าชายนะ    ไม่ทำงานสามัญชนแบนนี้หรอก”ฮิโร่พูดออกมาคนแรก    แล้ว กอดอกสบัดหน้าหนี

        “ฉันไม่ไปชวนใครเด็ดขาด    เกิดมาฉันยังไม่เคยขออะไรใครเลย”ไสยรันณ์พูดออกมาอีกคน

        ซาเรสถอนหายใจ    เบื่อกับพวกเอาแต่ใจนิสัยเด็กจริงๆ    เขาหันไปมองความหวังสุดท้าย

        “ฉัน  เอ่อ  ม...ไม่ค่อยกล้า...ท...เท่าไหร่....แต่ว่า”ราพณาสูรพูดอึกอัก    หน้าแดง

        “แต่ว่า?”ซาเรสเอ่ยเชิงถามกลับ    มองหน้าราพณาสูรนิ่งรอคำตอบ

        “ฉัน....จะ จะพยายาม”ราพณาสูรตอบจนได้

        “ขอบใจนะ”ซาเรสบอกราพณาสูร   พลางหันไปมองตัวปัญหาทั้งสองคน “เห็นไหม    ดูเขาเป็นตัวอย่างซะบ้าง    ถึงไม่ค่อยกล้าแต่จะพยายาม    เข้าใจประโยคนี้รึเปล่า”ซาเรสประชด

        “ขอโทษนะคะ”ทั้งสี่คนหันไปมองตามเสียง

        เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง    เธอมีดวงตาวาวใสสีน้ำตาลอ่อนแฝงแววเย่อหยิ่ง    ผมสีดำเงางามยาวสลวยที่ปล่อยตรงยาวถึงกลางหลัง    ริมฝีปากเล็กแดงเรื่อดั่งกลีบกุหลาบรูปกระจับน่ามองเธออยู่ในชุดพื้นเมืองทางแถบทวีปลอเรเซีย    ที่เป็นชุดกระโปรงยาวรัดรูปสีแดงดูขับกับผิวขาวเนียนให้น่าหลงใหลเป็นยิ่งนัก

        “มีอะไรเหรอครับ”ซาเรสถาม

        “พวกคุณมีกลุ่มรึยังคะ”เธอถามเสียงใสไพเราะน่าฟัง    แต่ใบหน้ากลับไม่เผยรอยยิ้มให้คู่สนทนาเห็นแม้แต่นิดเดียว

        “ก็เท่าที่เห็นนี่ล่ะครับ    ทำไมเหรอ    รึจะชวนพวกเราเข้ากลุ่ม”

        “เปล่าหรอกค่ะ    ฉันยังไม่มีกลุ่มน่ะ    เลยอยากพบหัวหน้ากลุ่มพวกคุณหน่อย”เธอตอบคำถามอย่างมีเลศนัย    ทั้งสี่คนสบตากันไปมา    แล้วลงความเห็นให้ซาเรสเป็นหัวหน้า

     

        “ผมนี่แหละครับ    หัวหน้ากลุ่ม”ซาเรสเอามือทาบอก   แล้วตอบ

        “ฉันอยากให้คุณทานไอ้นี่หน่อย”เธอว่าแล้วยื่นคุกกี้แปลกๆมาก้อนหนึ่ง

        ซาเรสมองคุกกี้รสช็อกโกแลตในมือเธอ    ทำหน้าครุ่นคิดแล้วถามออกไป “ผมทานแล้วจะได้อะไรครับ    ผมไม่เข้าใจเจตนาของคุณ”

        “งั้นถ้าคุณทานไอ้นี่แล้วไม่เป็นอะไร    ฉันจะยอมอยู่กลุ่มของคุณ    และฉันจะไปพาคนมาเข้ากลุ่มคุณอีกจนเต็ม”เธอยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจทีเดียว    ถ้าได้เธอเข้ากลุ่มๆก็คงจะเต็มโดยไม่ต้องง้อพวกแล้งน้ำด้านหลังนี่

        “แล้วคุณคิดว่าตัวเองมีค่าพอที่จะให้ผมเสี่ยงชีวิตด้วยเหรอ”ซาเรสยังคงตั้งคำถามอีกให้แน่ใจ    ว่าการเสี่ยงครั้งนี้จะคุ้มค่า

        “ฉันคิดว่าฉันมีค่าพอนะคะ”เธอตอบเสียงเรียบ

        “ได้!”ซาเรสร้องขึ้นแล้วฉวยหยิบคุกกี้จากมือเธอใส่ปาก    เธอมองซาเรสอย่างตกใจ

        แวบแรกที่คุกกี้แตะลิ้นซาเรสตาเบิกโพลงอย่างตกใจ    แล้วไม่นานก็กลายเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เด็กสาวเห็นแล้วก็ทำหน้าแปลกใจ

         “พิษงูเสาอัสนี    แม้ไม่อันตรายถึงชีวิต    แต่ก็อาจถึงอัมพาตชั่วคราวได้เป็นสัปดาห์เลยทีเดียว”ซาเรสเอ่ยพลางมองหน้าเด็กสาวที่กล้าลองดีกับเขา

        เธอทำหน้าตกใจครู่หนึ่งแล้วจึงเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่    ซาเรสคิดว่าอาจไม่ได้เห็นเลยก็ได้

        “ถูกแล้วค่ะ    คุกกี้นั่นเคลือบพิษงูเสาอัสนี   คุณทำสำเร็จ    ฉันตามหาผู้ที่เหมาะสมพอที่จะอยู่เหนือฉันด้วยวิธีนี้ค่ะ    เพราะตัวฉันนั้นใช้พิษเป็นอาวุธ    ผู้ที่จะสั่งฉันได้จึงต้องไม่กลัวพิษค่ะ    ตอนแรกฉันแค่คาดหวังแค่ผู้ที่ทนทานมันได้เท่านั้น    แต่นึกไม่ถึงว่าคุณไม่เพียงแต่ไม่เป็นอะไรแต่กลับสามารถรู้ชนิดของพิษด้วย    ดังนั้นคุณจึงมีคุณสมบัติพอ    ฉัน ฉู่ซิม ขอเข้าร่วมกลุ่มกับคุณนะค่ะ”เธอว่า

        ตอนแรกนั้นซาเรสก็คิดไว้แล้วนิดหนึ่งว่ามันจะต้องเป็นพิษแน่ๆ    เขาจึงไม่ค่อยมีความรู้สึกกลัวเท่าไหร่กับการพนันครั้งนี้    เพราะเม็ดเลือดขาวในร่างกายเขานั้นสามารถจดจำ    และทำลายพิษได้เกือบทุกชนิดบนโลกใบนี้    เรียกได้ว่าเขาชนะตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยทีเดียว

        “พิษทำอะไรผมไม่ได้อยู้แล้ว”ซาเรสอวดตัว

        “งั้นฉันจะทำตามสัญญา    รอสักครู่นะคะ”ฉู่ซิมว่า    แล้วก็เดินไปเรียกพักพวกของเธอ

     

     

     

     

    TBC

     

    ขอโทษนะครับที่อัพช้าไปหน่อย    ช่วงนี้ทั้งเรียนและเตรียมตัวสอบจนยุ่งไปหมด    เลยไม่ค่อยมีเวลาน่ะครับ    ตอนหน้าจะเริ่มสงครามกันแล้วนะครับ    นี่แค่เผยตัวละครหลัก    แล้วแต่ละคนจะเก่งกาจกันแค่ไหน    ตอนหน้าบู๊แหลกแน่ครับ

    สุขสันต์วันแห่งความรักนะครับ(Happy  Valentine’s  Day)

       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×