ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิราศเต่าปลาเสือ (เรือหกหก)

    ลำดับตอนที่ #1 : บรรพ1 : การเดินทางระหว่างรถไฟ

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 53


    นิราศเต่าปลาเสือ (เรือหกหก)
     
    ปรุงแต่ง : ตะวันม่านสน
    (มีควาย ๕๓)
     
    บรรพที่1 : การเดินทางระหว่างรถไฟ
     
    ...โอ้ชีวิตคิดชอกช้ำระกำหนอ
    ต้องจำพรากจากไปไกลแม่พ่อ                                                          ยังไม่พอต้องจากนางช่างบาดใจ
                    เพราะตัวเราเขาเรียกชื่อคือนายร้อย                                 จึงไม่ถอยแม้ลำบากยากเพียงไหน
    ให้ฝึกภาคดินน้ำฟ้าข้าจะไป                                                              ดั่งฝึกใจให้รักเจ้าทุกเช้าเย็น
                    เจ็ดกุมภาต้องจากนางเดินทางแล้ว                                   โอ้น้องแก้วแม้หมดสุขเป็นทุกข์เข็ญ
    ยิ่งกว่าโดนจวกซ้ำให้ลำเค็ญ                                                              เพราะเช้าเย็นไม่เห็นเจ้าจงเข้าใจ
                    ออกเดินทางจากสามพรานผ่านปิ่นเกล้า                         โอ้ใจเราหงุดหงิดคิดไฉน
    หรือเป็นเพราะปิ่นรักปักหทัย                                                           ที่ต้องจากเลยไปไกลหนึ่งเดือน
                    รถแล่นไปไม่ไกลใจลิบลับ                                                จะงีบหลับกลับตื่นฝืนใจเหมือน
    เพราะข้าวของทลายกลายกลาดเกลื่อน                                           ทั้งของเพื่อนของเราเขาใส่มา
                    เมื่อมาถึงหัวลำโพงโยงให้คิด                                           อันชีวิตเหมือนรถไฟอย่างไรว่า
    มีขึ้นลงเช่นสุขเศร้าเคล้าน้ำตา                                                          มีภรรยามากมายให้ชนกัน!!!
                    แล้วแบกเป้สนามลงตามเพื่อน                                          ช่างหนักเหมือนแบกใจให้จอมขวัญ
    ถุงทะเลอีกที่เร็วรี่กัน                                                                           ดังตัวฉันจะโดนทับกับสัมภาฯ
                    รวมแถวเสร็จรอสดับรับโอวาท                                         เหงื่อเป็นหยาดหยดลงที่ตรงหน้า
    เพราะอากาศแสนร้อนอ่อนอุรา                                                       อยู่ตรงชานชาลาที่รวมพล
                    อนิจจาตำรวจไทยให้สังเวช                                              เป็นเพราะเหตุอันใดให้ฉงน
    เป็นนายร้อยตำรวจอวดยอดคน                                                        แต่อับจนนั่งรถไฟใช้ของฟรี
                    หรือเป็นเพราะเศรษฐกิจส่งพิษร้าย                                 ท่านเจ้านายจึงประหยัดอัดเต็มที่
    เราผู้น้อยขืนพูดมากยากจะดี                                                             จึงต้องทนนั่งฟรีกันต่อไป
                    ถึงเวลาบ่ายสองกว่าน่าจะบอก                                          รถไฟออกจากกรุงเทพไปเชียงใหม่
    กฝ.5 อยู่ข้างหน้าข้าจะไป                                                                   แล้วเมื่อไรจึงจะถึงซึ่งปลายทาง
                    ครั้นจะนอนพักผ่อนกายตั้งใจว่า                                      แต่หลับตากลับต้องตื่นฝืนหลายอย่าง
    ทั้งข้าวของเกะกะเละละทาง                                                             จะก้าวย่างยังต้องเหยียบเลียบกันไป
                    อีกเบาะหลังตั้งตรงคงให้เป๊ะ                                           อยากจะเตะถีบเท้าตรงคงไม่ไหว
    ถึงที่แคบแต่ใจกว้างช่างปะไร                                                           จึงต้องนั่งทำใจไม่ว่ากัน
                    จากบางกอกออกไปในอยุธย์                                             จิตสะดุดนึกไปแม้ไม่ฝัน
    ว่าลูกหลานเป็นสุขอยู่ทุกวัน                                                             ก็เพราะบรรพบุรุษออกยุทธ์เอา
                    หากปู่ย่ามาเห็นไทยในวันนี้                                              คงเป็นที่สมเพชเหตุโศกเศร้า
    เพราะลูกหลานท่านแก่งแย่งแบ่งเป็นเหล่า                                   เพียงหวังเอาชนะเป็นกะเกณฑ์
                    จากอยุธยามาบ้านหมอ                                                       ใจจดจ่อถึงหมอฟันฉันอยากเห็น
    เวลานี้เกือบพลบค่ำย่ำช่วงเย็น                                                          เจ้าจะเป็นเช่นไรใจอาวรณ์
                    ถึงสระบุรีนี้ดีแท้                                                                  เพราะได้แม่นเรศเมตตาก่อน
    แจกเสบียงเป็นบะหมี่ดีแน่นอน                                                       ขอขอบคุณผ่านกลอนสะท้อนมา
                    มาถึงเมืองละโว้ใหญ่โตยิ่ง                                                จะนอนนิ่งเฉยได้อย่างไรหนา
    ต้องลุกขึ้นมองออกไปไกลสุดตา                                                      วอนคุณป้ามารับข้ากลับบ้านที
                    แต่อย่างน้อยได้เสบียงมาเลี้ยงเพื่อน                                ช่างดูเหมือนน้ำใจไม่หน่ายหนี
    จากบ้านหมอมาละโว้ลพบุรี                                                              จากบะหมี่ได้ขนมสุขสมกัน
                    เวลาค่ำย่ำมาราตรีนี้                                                             ฉันยังนั่งอยู่ที่ไม่มีฝัน
    แล้วรถไฟก็มาหยุดสะดุดพลัน                                                          ที่นครสวรรค์นั้นแสนนาน
                    เอาหัวรถมาเปลี่ยนหมุนเวียนใช้                                      แต่รถไฟยังไม่เดินเกินสังขาร
    ต้องเปลี่ยนล้อที่พังอีกตั้งนาน                                                           กว่าจะเริ่มใช้การได้ผ่านไป
                    อันอาหารการกินบนถิ่นนี้                                                 คงไม่มีให้เลือกได้อย่างที่ไหน
    แม้สินค้าราคาแพงแย่งกันได้                                                            ต้องจำใจเหมือนตลาดหน้าราชทัณฑ์              
                 ทั้งไก่ย่างข้าวเหนียวเดี๋ยวได้เห็น                                        ทั้งน้ำเย็นขนมน้ำส้มคั้น
    อีกน้ำเย็นสะดุ้งโหยงเดินทั้งวัน                                                       อารมณ์ขันเสียจริงไม่นิ่งนอน
                    แล้วอยู่ดีไม่ว่าดีนะพี่นะ                                                     ชอบที่จะให้เขาว่าเราก่อน
    ใครปิดไฟทำไมหนาบ้าแน่นอน                                                      เสียงสะท้อนการรถไฟไถ่ถามมา
                    ก็พี่ท่านเดินมาว่าให้ปิด                                                      จนมิดชิดอีกหน้าต่างข้างซ้ายขวา
    แล้วสั่งน้องลุกนั่งดังเจตนา                                                               จึงโดนด่าสำทับแล้วกลับไป
                    พอพี่ไปจึงถามเพื่อนเตือนใจว่า                                        ตอนนี้มันดึกหนาเอ็งว่าไหม
    เราควรจะพักผ่อนกายสบายใจ                                                         แต่จะนอนท่าไหนให้คิดเอา
                    แล้วเอาขาสอดใส่ไปใต้เบาะ                                             เพื่อนหัวเราะจะนอนได้อย่างไรเล่า
    จึงบอกเพื่อนเหมือนให้ดูจะรู้เอา                                                     มันจึงเข้าสอดบ้างข้างๆ กัน
                    ครั้นหลับตาลงไปใจไม่หลับ                                             เสียงกุบกับตึงตังดังข้างฉัน
    แล้วสักพักปืนตกมาโดนหน้าพลัน                                                  ลุกขึ้นหันมองหาใครทำร้ายกู
                    เห็นส่งศักดิ์ชักหน้ามาตายิ้มๆ                                           พูดนิ่มๆ เสียงเบาพอเข้าหู
    ว่าขอโทษโปรดอภัยฉันไม่รู้                                                              นั่นปืนกูทำตกไปหยิบให้ที
                    อยากจะลุกขึ้นมาด่าไอ้บ้าเอ๋ย                                            แต่อย่าเลยตัวดันติดอยู่ตรงนี้
    ไม่เป็นไรไม่โกรธกันฉันใจดี                                                            แต่ถ้าโดนอีกทีเอ็งจะตาย
                    แล้วหลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืนได้                                                 เสียงรถไฟยังอยู่ไม่รู้หาย
    ฉันลืมตาตื่นมาแทบบ้าตาย                                                                เพราะร่างกายหนาวเหน็บเจ็บจนชา               
                    โอ้อากาศเมืองไทยทำไมแปลก                                         ก็ตอนแรกร้อนเหลือเหงื่อเป็นบ้า
    แต่ตอนนี้หนาวเหน็บเจ็บกายา                                                         ต้องลืมตาหยิบเสื้อหนาวเข้ากันลม
                    มองดูนาฬิกาเวลานี้                                                             คงใกล้ถึงซึ่งที่หมายได้สุขสม
    เพราะนอนปวดรวดร้าวเข้าระบม                                                    อยากชื่นชมเมืองเชียงใหม่ได้สักที
                    ตามกำหนดกฎการณ์ที่ท่านว่า                                           คงถึงท่าเมืองเชียงใหม่ในตอนนี้
    ตีห้าครึ่งคงถึงท่าเวลาดี                                                                       แต่ตอนนี้เราเพิ่งถึงซึ่งลำปาง
                    มาตรฐานรถไฟไทยใครเคยบอก                                      กว่าจะออกกว่าจะถึงพึ่งหลายอย่าง
    อีกรถเสียคงต้องซ่อมอ้อมเข้าทาง                                                     คงถึงช้าเสียบ้างช่างปะไร
                    ครั้นเวลาผ่านไปไกลสักพัก                                               เสียงชึ่กชั่กหยุดลงตรงเชียงใหม่
    ได้เวลาถึงสถานีรถไฟ                                                                        สุดดีใจแม้เกินมาห้าชั่วโมง
     
     
    ...จบบรรพ 1 : การเดินทางระหว่างรถไฟ...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×