คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 สิ่งสำคัญ
อันนาได้แต่นั่งซึมอยู่ในห้องนั่งเล่น ไม่กล้าเข้าไปสู้หน้าเอลซ่าในห้องนอน เนื่องจากทั้งสองคนนอนห้องเดียวกัน
หลังจากเอลซ่าพูดว่าเกลียดเธอแล้ว ผู้เป็นพี่สาวก็อุ้มลูกบอลวิ่งหนีกลับบ้านไป ทิ้งให้อันนาเดินร้องไห้สะอึกสะอื้นตามมาถึงบ้านทีหลัง
ตั้งแต่เกิดมาพี่เอลซ่าไม่เคยที่จะว่าเธอแรงๆแบบนี้เลย..............
แค่ลูกบอลเปื้อนเอง........... ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย?.................
ยิ่งคิด ความน้อยใจก็ยิ่งทวีมากขึ้นทุกที เด็กน้อยผมสีตาลแดงเริ่มต้นร้องไห้อีกรอบ มือเล็กๆปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ยิ่งร้องไห้ ก็ยิ่งเสียใจ ถ้าเป็นป่านนี้พี่เอลซ่าจะต้องมาปลอบเธอแล้ว.............
แต่พี่เอลซ่าเกลียดเธอแล้วนี่........................
ไม่มีทางที่พี่สาวที่แสนดี จะกลับมาคอยซับน้ำตาให้เธออีกต่อไปแล้ว.....................
อีกฝากหนึ่งของประตูห้อง เด็กหญิงผมบลอนด์นั่งคุดคู้อยู่บนพื้นห้อง มือเล็กๆขึ้นรอยแดงเป็นปื้นจากการที่พยายามใช้ผ้าเปียกชุบน้ำขัดรอยเปื้อนบนลูกบอลอย่างไม่ลดละ ถึงรอยดำจะไม่จางลงแม้แต่น้อย เอลซ่าก็ไม่เลิกพยายาม หยดน้ำตาไหลหยดลงมาที่ลูกบอลซึ่งแต่เดิมมันเคยเป็นลายเกล็ดหิมะสวยงาม
ก็รู้ว่าอันนาไม่ได้ตั้งใจ.....................
ก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ........................
แต่ความเสียใจที่ผสมปนเปกับความน้อยใจทำให้เอลซ่าร้องไห้หนักยิ่งขึ้น ยิ่งได้ยินเสียงของอันนาที่ร้องไห้ดังลอดเข้ามา เอลซ่ายิ่งกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
ไม่ได้ตั้งใจจะพูดรุนแรงใส่ขนาดนั้น...................
แค่เห็นว่านี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่อันนามอบให้เธอ......................
ลูกบอลที่เธอเก็บเอาไว้เป็นอย่างดี..........แต่ตอนนี้มันกลับ..................
“ฮือ.........ทำไมไม่ออกละ........ออกสิ..........”มือเล็กๆถูผ้าบนลูกบอลอย่างแรง ไม่ได้สนใจกับความแสบที่มือของตนเองแม้แต่น้อย
ก็อกๆ// เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะความคิดของเด็กหญิง
“เอลซ่า.......พ่อเข้าไปนะ”เสียงของบิดาดังขึ้น
“ค่ะ........”เอลซ่าตอบรับ ลูกบิดประตูจึงขยับ และประตูค่อยๆแง้มออก เผยให้เห็นร่างของผู้เป็นพ่อที่มีสายตาห่วงใย
พ่อของเธอคงรู้เรื่องแล้วสินะ เอลซ่าเป็นเด็กฉลาด แม่บ้านที่เห็นเหตุการณ์คงเล่าเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่ฟัง เด็กหญิงเตรียมใจรับกับบทลงโทษไว้แล้ว
“หนูผิดเองค่ะ..........”เอลซ่าพูดออกมาเสียงเบา
“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะเอลซ่า ลูกคิดว่าพ่อเป็นพวกฟังความข้างเดียวรึ?”ชายหนุ่มถามลูกสาวตัวน้อยของตน จึงเขาจะรู้จักนิสัยของเอลซ่าดีอยู่แล้ว ว่าเป็นเด็กที่มีนิสัยเป็นผู้ใหญ่เกินตัว แต่นอกจากเอลซ่าจะไม่ฟ้องหรือโยนความผิดให้กับอันนาแล้ว การที่เด็กหญิงเอ่ยปากว่าตนเองเป็นคนผิดเอง มันเกินความคาดหมายของเขาไปนิดหน่อย
“ไม่ค่ะ...........”เอลซ่าก้มหน้า ในมือกอดลูกบอลเอาไว้แน่น
“งั้นเล่าให้พ่อฟังสิลูก.........ปกติลูกสองคนไม่เคยทะเลาะกันนี่นา............อันนาร้องไห้ใหญ่เลยนะ..............บอกว่าพี่สาวไม่รักแล้ว”ด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นของพ่อ ถ้อยคำที่อันนาบอกว่าเธอไม่ได้รักน้องอีกต่อไป ทำให้เอลซ่ายอมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ที่แทบฟังจับใจความไม่ได้ เพราะถ้อยคำถูกกลบไปด้วยเสียงสะอื้น
“หนูเสียใจ..............ไม่ได้ตั้งใจจะว่าน้องแบบนั้น........ฮึก.....ฮือ..........”พอเล่าเสร็จเอลซ่าก็สะอื้นจนตัวโยน มือเล็กๆพยายามนำมาปาดน้ำตาออก ทำให้ผู้เป็นพ่อได้สังเกตเห็นมือของลูกสาวที่ถลอกและเป็นรอยแดงทั่วไปหมด
“เอลซ่า!!ทำไมมือลูกเป็นแผลแบบนี้”
“หนู......หนูพยายามที่จะเช็ดมันออก แต่มันก็ไม่ออก”ชายหนุ่มเห็นผ้าที่เปียกน้ำวางอยู่ข้างๆลูกบอล จึงได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
ในเมื่อลูกสาวสองคนทะเลาะกัน หน้าที่ของคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องทำให้ทั้งสองคนคืนดีกันละนะ....................
“เอลซ่า........ลูกรู้ใช่ไหมว่าน้องไม่ได้ตั้งใจที่จะทำลูกบอลเปื้อน”
“หนูรู้ค่ะ หนูรู้............”
“แล้วลูกจะไม่ยกโทษให้น้องหน่อยเหรอ? อันนายังเด็ก และอันนาเองก็รักลูกมากนะ”ผู้เป็นพ่อพยายามเกลี้ยกล่อม เขารู้ดีว่าเอลซ่าเป็นเด็กที่มีเหตุผล ถ้าคุยกับเธอดีๆ เอลซ่าจะสามารถเข้าใจได้เอง
“..............”เด็กหญิงผมบลอนด์ก้มหน้ามองพื้น ไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น
“เอลซ่า........ลูกกับอันนามีกันแค่สองคนพี่น้องนะ อย่าให้เรื่องผิดใจกันมาทำร้ายความรู้สึกของทั้งสองคนสิ”
ฝ่ายเอลซ่าในระหว่างที่นิ่งไปก็ได้คิดทบทวนอะไรหลายอย่าง เธอเป็นพี่สาวนะเอลซ่า! จะมาโกรธน้องเพราะเรื่องแค่นี้ได้ยังไงกัน!!
“พ่อค่ะ หนูจะไปขอโทษอันนา”
ชายหนุ่มคิดว่าเอลซ่าคงจะเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบสูงแน่นอน เพราะมีความคิดอ่านที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว เขาคงฝากฝังให้ลูกรับช่วงต่อกิจการได้อย่างไม่ลำบากใจ
เมื่อเอลซ่าและคุณพ่อเปิดประตูออกมา ที่ห้องเล่น อันนาได้นั่งอยู่กับผู้เป็นแม่อยู่แล้ว ใบหน้าของน้องสาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ดวงตาสีฟ้าเข้มที่ยังคงแดงช้ำจากการร้องไห้ ทำให้เอลซ่าอยากจะเอาหัวตัวเองโขกกำแพงบ้านเพื่อเป็นการลงโทษตัวเองจริงๆ ที่ทำให้เด็กที่มีรอยยิ้มสดใสประดับบนใบหน้า กลายเป็นใบหน้าที่เศร้าหมองแบบนั้น
“อันนา //เอลซ่า”
สองพี่น้องเอ่ยออกมาพร้อมกัน
“พี่พูดก่อนก็ได้นะ.............”อันนารีบยกคำพูดให้แก่พี่สาว เพราะภาพที่เอลซ่าร้องไห้ในสวนนั้นยังคงติดตาเธออยู่
“อันนา........พี่ขอโทษนะ........พี่ผิดเองที่ตะคอกใส่น้อง พี่......พี่ไม่ได้ตั้งใจ อ๊ะ!.......”
ว่าจะไม่ร้องไห้ต่อหน้าอันนาแล้ว แต่เมื่อพูดไปน้ำตาก็ไหลออกมาเป็นสายอยู่ดี เอลซ่าจึงได้แต่กลั้นเสียงสะอื้น พยายามพูดขอโทษออกไป แต่เด็กสาวก็ต้องเสียหลักล้มลงไปนอนหงายกับพื้นพรม เพราะน้องสาวของเธอพุ่งตัวเข้ามาสวมกอดแบบเต็มแรง
ดีที่ห้องนั่งเล่นปูด้วยพรมหนานุ่มทั่วห้อง เด็กน้อยทั้งคู่จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
“พี่เอลซ่าเค้าขอโทษ ฮืออออออ เค้าไม่ได้ตั้งใจทำให้ลูกบอลของพี่เปื้อน เค้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ โฮ.......”เพราะได้คุยกับผู้เป็นแม่ จึงทำให้อันนารู้ว่า เอลซ่าให้ความสำคัญกับของที่เธอให้เป็นของขวัญวันเกิดมากเพียงใด
//ถ้าตุ๊กตาที่ลูกรักเกิดพังขึ้นมาลูกจะเสียใจมั้ยจ๊ะ.......//ผู้เป็นมารดาถามเด็กน้อยผมสีน้ำตาล
//เสียใจสิค่ะ.............//
//ลูกบอลลูกนั้นสำคัญกับเอลซ่านะ........เพราะอันนาเป็นคนซื้อให้พี่เค้ายังไงล่ะ//
“พี่ก็ขอโทษ อันนาสำคัญกับพี่มากกว่านะ ฮือ...........”เอลซ่าโอบกอดน้องสาวที่ทับอยู่บนตัว สองพี่น้องกอดกันกลมร้องไห้ จนผู้เป็นพ่อ และแม่ได้แต่ยิ้มน้อยๆมองหน้ากัน ในที่สุดก็คืนดีกันได้เสียที
ตั้งแต่นั้นมา อันนาที่มีนิสัยเอาแต่ใจ ก็เหมือนจะยอมตามใจเอลซ่ามากขึ้น
กลายเป็นน้องสาวที่น่ารักขึ้น..............
อันนาตอนเด็กๆตากลมๆน่ารักจริงๆ.....................
“เอ....ล.......ซ่....า......”
คิดถึงตอนที่พาอันนาขี่คอไปเที่ยวเล่นที่สวนจังเลย...........
“เอลซ่า!! พี่เอลซ่า!!!!”เสียงเรียกที่ดังลอดเฮดโฟนทำให้เอลซ่าตื่นจากภวังค์ นัยน์ตาสีฟ้าใสกระพริบถี่ เผยให้เห็นภาพของเด็กสาวในหน้าน่ารักสมวัย นัยน์ตาสีฟ้าเข้ม กำลังจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาเป็นกังวล
“อันนา......มีอะไรเหรอ?”มือเรียวถอดเฮดโฟนออกจากศีรษะของตนเอง
อันนาทำหน้าบึ้งใส่ ก่อนจะบ่นเธอออกมาเป็นชุด
“ยังจะมาถามอีก ก็พี่นั่นแหละ นอนหลับตาบางทีก็ขมวดคิ้ว บางทีก็ยิ้ม ฉันเรียกแล้วพี่ก็ไม่ได้ยิน บอกกี่ครั้งแล้วพี่เอลซ่า ว่าอย่าเปิดเพลงเสียงดัง”
“พี่ก็แค่นอนคิดเรื่องเก่าๆ”เอลซ่าตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“คิดเรื่องเก่าๆ? พี่อายุ21นะ ไม่ใช่คนแก่อายุ81 ทำตัวแก่เกินวัยไปได้”อันนาบ่นพี่สาวของเธออย่างไม่ได้จริงจังนัก
“แล้วพี่คิดเรื่องอะไรล่ะ?”
“อืมมมม ก็เรื่องที่เราสองคนทะเลาะกันตอนเด็กๆไง”เอลซ่ายิ้มบางๆ ถึงตอนนั้นจะโมโหอันนาแทบตายก็เถอะ พอตอนนี้กลับมาย้อนคิดก็อดจะหัวเราะเบาๆไม่ได้ เด็กจริงๆเลย.............ทะเลาะกันเพราะเรื่องแบบนั้น...............
อันนานี่นิ่งไปชั่วครู่ เพื่อทบทวนความคิด................ปกติแล้วเธอกับเอลซ่าแทบจะไม่เคยทะเลาะกันเลย เรื่องที่ทะเลาะกันแรงที่สุดก็คงจะเป็น................
“อ๋อ!! โธ๋!!พี่เอลซ่าอ่ะ นึกถึงแต่ละเรื่อง เรื่องดีๆไม่เห็นคิดถึงบ้างเลย”อันนาทำหน้ายู๋ ที่พี่สาวของเธอดันไปนึกถึงเรื่องที่เธอรู้สึกผิดที่สุดจนได้
ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น อันนาก็เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่เชื่องฟังเอลซ่ามากขึ้น ยอมรับฟังความคิดเห็นของพี่สาวมากยิ่งขึ้น จนบางครั้งพ่อกับแม่ถึงกับประหลาดใจที่เห็นอันนายอมนั่งเล่นเกมส์กับเอลซ่าอยู่ในบ้าน หรือนั่งวาดรูประบายสี
เอลซ่าคว้าตัวน้องสาวไปกอด แล้วลูบผมสีน้ำตาลแดง ก่อนจะพูดปลอบ
“แหม.....ก็เรื่องดีๆพี่ก็ได้เจออยู่ทุกวันแล้วนี่ อย่างอนไปเลยน่า........หืม..............ตัวเราร้อนๆนะอันนา เป็นไข้รึเปล่าเนี่ย?”เอลซ่าสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ขึ้นสูงขึ้นของน้องสาวที่ตัวเองดึงมาแนบอก
อันนาที่ได้แต่ปฎิเสธด้วยความตกใจ ก็พี่เอลซ่าของเธอไม่ได้ใส่บราน่ะสิ!!! อยู่ดีๆก็ดึงเข้ามากอด มันจะน่ารักเกินไปแล้วววว
“ปะ....เปล่า ฉันสบายดีพี่ ไม่ได้เป็นอะไร”
“จริงเหรอ? แต่หน้าแดงมากเลยนะ มาวัดไข้ก่อน”ยังไม่ทันได้ฟังเสียงทัดทาน เอลซ่าก็คว้าศีรษะของน้องสาวไว้ แล้วนำหน้าผากของตนเองเข้าไปแนบกับหน้าผากของอันนา
“อืมมมมม ก็ร้อนนะ อ่ะ......ร้อนขึ้นด้วย”เอลซ่ากรอกตาขึ้นอย่างกำลังใช้ความคิด โดยไม่ได้สนใจสีหน้าของคนที่ถูกกระทำ?เลยแม้แต่น้อย
อ๊า.........จะซื่อไปไหน พี่เอลซ่า ฉันเขินนะ ตัวจะระเบิดอยู่แล้วววว
อันนารีบผละหน้าออก ก่อนที่จะเผลอทำอะไรไม่เหมาะไม่ควรลงไป ทำให้เอลซ่ามองด้วยสายตางุนงง
“ฉะ....ฉันลงไปกินยาก่อนนะ สงสัยจะป่วยจริงๆ ไปแล้วนะ”แล้วร่างของเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงก็เผ่นแผล่วออกไปจากห้องนอนของพี่สาว
เป็นนินจาจริงๆน้องสาวฉัน ไปไวมาไวจริงๆ// เอลซ่ายิ้ม และขยับตัวนั่งพิงหัวเตียง มือเรียวหยิบหนังสือขึ้นมาเตรียมจะอ่านต่อ แต่ความเย็นที่กระทบบริเวณลำคอ ดึงความสนใจจากหญิงสาวเล็กน้อย
เมื่อก้มลงไปมองไปยังสิ่งที่กำเนิดความเย็นเมื่อครู่ เอลซ่าก็ยิ้มออกมา ยิ้มแบบที่ถ้าใครได้มาเห็นต้องรู้สึกอบอุ่นราวกับอยู่ในโลกสีชมพูแน่นอน
จี้สีเงิน รูปเกล็ดหิมะ ที่ทำจากโรเดียม......ของขวัญวันเกิดของเธอที่อันนาซื้อให้ในปีถัดมาหลังจากเกิดเรื่อง
ถึงจะไม่ได้มีราคาแพงอะไรมากมาย แต่นี่เป็นของขวัญที่อันนามอบให้ด้วยความจริงใจ
มือขาวผ่องกอบกุมจี้เกล็ดหิมะไว้อย่างหวงแหนและทะนุถนอม
จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังจำคำสัญญาที่เธอให้ไว้กับอันนาในวันที่ทั้งคู่ได้พบกันได้เป็นอย่างดี
เธอรักอันนา..................
น้องสาวที่รักของเธอ.....................
ช่วงเมาท์มอย// ย้อนอดีตจบแล้วค่ะ อุอิ ในที่สุดสองพี่น้องก็ดีกัน อย่างที่บอกไปในตอนที่แล้ว ช่วงนี้เราอยู่ในเทศกาลสอบค่ะ เพราะงั้นอาจจะดองบ้าง อัพช้าบ้างนะค่ะ แต่ให้สัญญาว่า หลังวันที่14มีนา จะกลับมาขยันอัพเหมือนเดิมค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ><
ความคิดเห็น