คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 14 เผชิญหน้า
วันนี้สองพี่น้องแวะห้างสรรพสินค้าก่อนจะกลับบ้าน เพราะเอลซ่าอยากซื้ออุปกรณ์การเรียนใหม่ อันนาก็ไม่ขัดข้อง ยอมมาซื้อของกับพี่สาวแต่โดยดี
ความจริงอันนาเองก็อยากจะมาซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียนใหม่เหมือนกัน ปากกาคู่ชีพ และยางลบ ที่มักจะมีอันเป็นไปก่อนใครเพื่อน ไม่รู้ทำไม พอตกพื้นทีไร มักจะไม่ได้มันกลับคืนมา...............
เมื่อถึงแผนกเครื่องเขียน อันนาเห็นเอลซ่าหยุดที่โซนศิลปะอยู่ซักครู่ แววตาของหญิงสาวผมบลอนด์มองไปทางสมุดเสก็ตภาพ และดินสออย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะละสายตาและเดินตรงไปยังโซนปากกาแทน
อันนามองภาพตรงหน้าแล้วกลับมาครุ่นคิด........
“อันนามาทางนี้หน่อย”
“อ๊ะ.....ค่า...........”
แต่เสียงเรียกของเอลซ่าก็ทำให้อันนาละความสนใจไป................
“พี่เอลซ่า อยากดูหนังเรื่องนี้อ่ะ”อันนาบ่นเปรยๆกับพี่สาวในขณะที่ทั้งสองเดินผ่านโปสเตอร์ภาพยนต์การ์ตูนเรื่องหนึ่ง
“หือ......หนังการ์ตูน? จะดูจริงๆเหรอ?”เอลซ่าหันมาถามความเห็นจากน้องสาว
หลังจากที่ทั้งคู่ได้สารภาพความรู้สึกในใจไป ความสัมพันธ์ของเอลซ่ากับอันนาก็แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อมองจากภายนอก ทั้งคู่ก็ดูเป็นคู่พี่น้องที่รักและห่วงใยกันดี
“ฉันอ่านรีวิวมาจากในเวปไซต์ล่ะ เห็นว่าสนุกมากเลยนะ แถมมันจะมีฉากหักมุมตอนจบด้วย”อันนาพูดอย่างตื่นเต้น แววตาใสปิ๊งเป็นประกาย วิ๊งวับจนแสบตา เอลซ่าเห็นภาพลูกสุนัขตัวน้อยซ้อนทับเข้ามาทันใด
อ่า.........แค่นี้พี่ก็หลงเธอจะแย่อยู่แล้ว ทำสายตาแบบนี้ ใครจะปฎิเสธได้ละ
“แล้วไปอ่านสปอยมาหมดแล้ว มันจะตื่นเต้นเหรอ?”เอลซ่าถามน้องสาว ความจริงจะดูหนัง เธอก็ไม่ได้จะขัดอะไรหรอกนะ แต่แค่ถามเพราะความสงสัยเท่านั้นเอง
“ตื่นเต้นสิ!! เพราะฉันอ่านแค่รีวิวนี่นา ยังไม่รู้เนื้อหามากหรอก เพราะงั้น..........วันเสาร์นี้เราไปดูกันนะ”
“ก็ได้ๆ อย่าลืมบอกออโรล่าก่อนด้วยละ เผื่อจะมาเที่ยวบ้าน เดี๋ยวไม่เจอเราสองคนแล้วจะมาเสียเที่ยว”เอลซ่าบอกเผื่อถึงเด็กสาวผมสีทอง ที่ชอบแวะเวียนมาชวนอันนาเล่นเกมส์อยู่บ่อยๆ
“อ่อ!คงไม่มาไปซักพักละพี่เอลซ่า”อันนาตอบกลับ
“ทำไมล่ะ? รึว่าพวกเธอทะเลาะกัน?”เอลซ่าถามอย่างสงสัย ปกติอันนากับออโรล่าก็เข้ากันได้ดีจะตาย ไม่น่าจะโกรธกันได้
“เปล่าซะหน่อย!ฉันบอกยัยนั่นไปว่าจะสวีทกับแฟน ห้ามมาเป็นก้างขวางคอ”อันนาพูดเสมือนกับเรื่องที่พูดออกไปคือเรื่องธรรมดา แต่คนฟังกลับไม่คิดแบบนั้น
“เดี๋ยวก่อนอันนา!เธอบอกออโรล่าว่าพวกเรา..............พวกเรา.........”ปลายเสียงเริ่มเบาลงเรื่อยๆ ขณะที่เอลซ่าคว้าตัวอันนาเข้ามาแนบชิด เพื่อกระซิบอย่างกังวล
“พวกเราเป็นแฟนกัน”อันนาต่อคำพูดของพี่สาวให้
“อ๊า.............เดี๋ยวเถอะ!”เอลซ่าขู่เสียงลอดไรฟัน ใบหน้าขาวเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม
“ก็พูดความจริงนี่นา”อันนาหัวเราะหึหึ พอใจที่ได้เห็นพี่สาวของเธอทำหน้าตาราวกับหมดหนทางตอบโต้
“........................”
“เดี๋ยวสิ โกรธเหรอ?”อันนาจิ้มแก้มพี่สาว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมมองหน้า แถมสะบัดหน้าหนีอีกต่างหาก
“พี่เอลซ่า........ไม่อยากให้ใครรู้เหรอว่าเรารักกัน..........หรือพี่ไม่รักฉันแล้ว”อันนาทำเสียงอ่อย
“มะ....ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย!”เอลซ่ารีบปฎิเสธ “พี่ก็แค่กลัว.........กลัวคนอื่นจะมองอันนาไม่ดี.............”
“พี่น้องรักกันมันผิดตรงไหน ก็ฉันรักพี่นี่นา คิกๆ”อันนาคล้องแขนของพี่สาวทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ “อีกอย่างนะ..........ยัยออโรล่าน่ะ รู้เรื่องของเราสองคนตั้งแต่แรกแล้ว”
“?!!!”
อันนาเห็นพี่สาวทำหน้าทั้งสงสัยปนตกใจสุดขีด ก็เลยเฉลยคลายความสงสัย ถึงหน้าตาเอลซ่าจะดูน่าแกล้งแบบสุดๆก็เถอะ...........เดี๋ยวนี้เธอเป็นอะไร? ถึงชอบแกล้งพี่เอลซ่าจัง.....................สงสัยเพราะพี่น่ารักเกินไปละมั้ง
“ออโรล่าบอกว่าพี่ชอบมองฉันด้วยสายตาลึกซึ้งละ”อันนาแกล้งกุเหตุผลขึ้นเองมั่วๆ และแอบขอโทษเพื่อนสาวไว้ในใจ
“จริงเหรอ?...........สายตาพี่มันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ”เอลซ่าถามอย่างกังวล ขนาดออโรล่ายังมองออก คนทั้งโลกต้องรู้กันหมดแน่ๆ
“แต่ออโรล่าเค้ารับได้ แถมบอกว่าสนับสนุนอีกด้วย ยัยออโรล่าบอกว่า ดีซะอีก สมบัติจะได้ไม่ตกเป็นของใคร ฮ่าๆๆๆ”
“เรื่องนี้อย่าให้ใครรู้เยอะนะ...........พี่ไม่อยากให้อันนาเดือดร้อน”เอลซ่าพูดแกมขอร้อง
“ก็ได้ค่ะพี่................”ถึงอันนาจะไม่เห็นด้วย แต่เธอก็ไม่อยากขัดความเป็นห่วงของพี่สาว รอให้ฉันโตก่อนเถอะ..............
.
ณ เช้าวันเสาร์ ภายในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย เข็มวินาทีที่ขยับอย่างช้าๆ บ่งบอกเวลาประมาณ9นาฬิกา
กริ๊งงงงง กริ๊งงงงงงง//
เสียงโทรศัพท์ที่ดังแผดเสียง ไม่ได้ทำให้สาวน้อยผมสีทองที่กำลังหลับสนิทอยู่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด เสียงโทรศัพท์ยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเงียบไป.....................
ทั้งห้องตกอยู่ในความสงบได้ไม่ถึง 10 วินาที เสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมก็แผดเสียงขึ้นมาอีก
จนคราวนี้คนที่นอนอยู่ทนเสียงรบกวนไม่ไหว ลุกขึ้นมาเดินโซเซไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง คว้าเครื่องมือสื่อสารสมาร์ทโฟนขึ้นมา
“ฮัลโหล...............” เมื่อมองเห็นชื่อที่โทรเข้ามาก็กดรับสายโดยไม่ลังเล
//งายยย ยัยออโรล่า วันนี้ฉันจะไปเดตกับพี่เอลซ่าละ!! หึ!!เป็นไงละ อึ้งไปเลย!! อิจฉาละเซร่!!!// เสียงสดใสดังลอดออกมาจากปลายสาย ออกแนวสะใจเล็กน้อย
“เอ่อ..................”
//เงิบ.........พูดไม่ออก หึๆๆๆ แล้วจะดูหนังเผื่อนะจ๊ะ แม่สาวน้อย//
“โรสยังไม่ตื่นน่ะ..........นี่พี่เอง..............”
//อ้าว? ห๊ะ? พี่เมลลี่เหรอ? ทำไมมานอนห้องเดียวกับยัยออโรล่าละ รึว่า รึว่า.........ไม่นะนั่นมันพรากผู้เยาว์นะพี่!!!//เสียงเด็กสาวผมสีน้ำตาลโวยวายอย่างเกินเหตุ จนสาวผมดำต้องเอาโทรศัพท์ออกจากหู โอย................กินโทรโข่งเป็นอาหารรึไง
“พรากบ้าอะไรกันละ โรสมาเล่นเกมส์ที่บ้านพี่ต่างหาก เธอเองก็คิดอกุศลกับเอลซ่าไม่ใช่รึไง”เมลลี่ได้ทีตอบโต้กลับอย่างเจ็บแสบ ที่เมลลี่รู้เรื่องของสองพี่น้องก็เพราะว่าออโรล่าจะเอามาเล่าให้เธอฟังบ่อยๆ
//หึ...........ถึงจะปล้ำพี่เอลซ่าไปก็ไม่ติดคุกล่ะ เพราะพี่เอลซ่าบรรลุนิติภาวะแล้ว คิกๆ//นั่น...........ยังไม่สำนึก
“จ้าๆ ไปเดตเถอะ ไปไป๊”เมลลี่เอ่ยปากไล่ยัยเด็กสติเสียให้รีบวางสายเสียที ตัวเธอจะได้ไปพักผ่อนต่อ ง่วงนอนจะแย่อยู่แล้ว
//บู่วววว แกล้งพี่เมลลี่ไม่สนุกเลย ไปก็ได้ ........... ขอโทษแทนอันนาด้วยนะคะพี่เมลลี่// เสียงของเอลซ่าแว่วมาจากที่ไกลๆ ทำให้สาวผมดำเผยรอยยิ้มบางๆ
เอลซ่าตอนเด็กๆน่ารักยังไง โตขึ้นมาก็ยังนิสัยน่ารักแบบนั้นสินะ.............
ยัยอันนาตอนเด็กๆเกรียนยังไง โตมาก็เกรียนอย่างนั้น..........เลยไปกันรอดกับโรสสินะ............เฮ้อ..................
“พี่เมลลี่..................มีอะไรเหรอ....................”น้ำเสียงงัวเงียดังมาจากบนเตียง จึงทำให้หญิงสาวหันกลับไปดูสภาพเด็กสาวผมทอง ที่ยังนอนซุกหมอนอยู่บนเตียงนุ่ม
“เปล่า......อันนาโทรมาโม้น่ะ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก จะนอนต่อมั้ย?”เมลลี่เดินมาถามข้างเตียง เพราะตัวเธอเองก็เริ่มจะตาสว่างแล้ว ถ้าออโรล่าจะตื่น เธอจะได้ไปเตรียมอาหารเช้า
“อื้อ......จูบปลุกเค้าที”เด็กสาวผมทองยิ้มหวานพลางโบกไม้โบกมือให้พี่สาวข้างบ้านทำตามที่ตนเองพูด
“ฝันไปเถอะ!!ยัยเด็กน้อย นอนต่อซะ”นิ้วเรียวยาวดันศีรษะของเด็กสาวอายุน้อยกว่าให้กลับลงไปนอนจมหมอนเหมือนเดิม
“เค้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ..........เค้าโตพอจะแต่งงานได้แล้วด้วย!”ออโรล่ายังคงงอแง และเถียงแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น
“เฮ้อ.......ก็ได้ๆ จุ๊บ..........อ่ะเรียบร้อย นอนต่อเถอะ”เมลลี่ถอนหายใจอย่างระอา ก่อนจะก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากกับหน้าผากของเด็กสาว
เมื่อเสร็จตามคำร้องขอ สาวผมดำก็ซุกตัวเข้ากับผ้าห่ม เตรียมจะเคลิ้มหลับ แต่แรงกองที่รั้งจากด้านหลัง ทำให้ต้องเอี้ยวตัวกลับไปมอง
“พี่กลัวโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ใช่มั้ย?”ออโรล่าถาม นัยน์ตาสีม่วงหรี่ลงเล็กน้อย และที่สำคัญ.......ดวงตาคู่นั้นไม่มีแววตาของคนที่มีสติ!!
เมลลี่กลืนน้ำลายลงคอ เวลาที่โรส.......ละเมอนั้นน่ากลัวที่สุด..................
ไม่ตอบ........ปล่อยให้พูดๆไป เดี๋ยวก็เหนื่อย หลับไปเอง........................
“พี่กลัวสินะ............งั้น..............ถ้าเค้าปล้ำพี่ พี่ก็ไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์แล้วเนอะ win-win ทั้งสองฝ่ายเลย”ใบหน้าสวยหวานเลื่อนเข้ามาใกล้จนระยะอันตราย
(win-win*ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน)
“เฮ้ย!!!!ไม่เอา!!!”เมลลี่พยายามดันเด็กสาวตรงหน้าออก ทำไมละเมอแต่แรงเยอะจังฟ่ะ.......................
“พี่ขี้โกงอ่ะ.............มาหลอกเค้าให้รัก แล้วก็ไม่รับรักเค้า”ออโรล่าเบะปาก ทำท่าจะร้องไห้
“อย่าร้องสิ! ใครว่าไม่รักล่ะ แต่รอให้โตกว่านี้ก่อน ตอนนี้นอนต่อได้แล้วนะ เชื่อพี่ นอนนะๆ”เมลลี่พยายามปลอบ ในที่สุดเด็กสาวก็สงบลง และผล็อยหลับไปในที่สุด
เมลลี่มองภาพเด็กสาวผมสีทอง ที่หลับตาพริ้ม............มือสีขาวซีดปาดเหงื่อที่ซึมออกมาจากไรผม กว่าจะจัดการได้ เหนื่อยแทบแย่ ก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงข้างกัน
รักสิ....................... ถึงได้คอยดูแลมาตลอดยังไงล่ะ..............................
.
“นี่อันนา...........”
“เอาป็อปคอร์นรสช็อคโกแลตค่ะ ถังใหญ่เลย ที่เป็นเซตกับน้ำอัดลม”เด็กสาวผมสีน้ำตาลแดง ชี้บอกพนักงานอย่างกระตือรือร้น จนผู้เป็นพี่สาวได้แต่ยืนค้างอยู่กับที่
พี่ก็ดีใจหรอกนะที่อันนาจัดการอะไรด้วยตัวเองได้...........แต่สั่งมาขนาดนั้น จะกินหมดเหรอเนี่ย?
“เอลซ่ามาเร็วๆ”อันนาจับมือพี่สาวเดินไปตามทางเดินของโรงหนังที่มืดมิด จนกระทั่งมาถึงที่นั่ง
เอลซ่าสวมแว่นตาสามมิติที่ได้รับมาจากด้านหน้าโรงหนัง
“แย่จริงๆ จะแต่งงานกับคนที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่วันเดียวเนี่ยนะ”เอลซ่าบ่นพึมพำออกมาเบาๆ กับฉากขอแต่งงานอันรวบรัด และสาวนางเอกของเรื่องก็ดันตกลงเสียด้วย
“เป็นฉัน ฉันจะแต่งงานกับคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ฉันเกิดละ”อันนาโน้มหน้ามากระซิบที่ข้างหูเอลซ่า
“ไม่ใช่อย่างนั้นสิ.........”เอลซ่าพูดเสียงเบา พยายามเงยหน้ามองฉากในจอภาพยนตร์ต่อไป หวังว่าความมืดจะช่วยพรางสีชมพูเข้มบนใบหน้าของเธอได้
ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ ถึงตอนแรกเอลซ่าจะแอบเปรยว่ามันเป็นเพียงแค่การ์ตูนอนิเมชั่น จะสนุกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ตลอดเรื่องเอลซ่ากลับแสดงท่าทีตื่นเต้นไปกับเนื้อเรื่องตลอดเวลา
จนมาถึงฉากสุดท้าย เจ้าหญิงโดนเจ้าชายที่เธอรักหักหลัง และกำลังจะกลายเป็นน้ำแข็งจากคำสาปของพี่สาว
ชายหนุ่มที่ร่วมเดินทางไปกับเจ้าหญิง ขี่กวางเรนเดียร์ฝ่าพายุหิมะมาช่วยเจ้าหญิงที่กำลังจะตาย
ภาพที่ราชินีผู้เป็นพี่สาวทรุดลงกับพื้นเพราะได้รับรู้จากจากเจ้าชายผู้ทรยศ ว่าตัวเธอเองเป็นคนฆ่าน้องสาวด้วยพลังหิมะของเธอ
“จุมพิตกับรักแท้สิ................”เอลซ่าพึมพำ ลุ้นให้เจ้าหญิงไปจุมพิตกับชายหนุ่ม
“ช่วยพี่เธอสิ!!”แต่อันนากลับลุ้นไปอีกทางนึง
แต่เนื้อเรื่องในภาพยนตร์ ก็ตอบสนองความต้องการของเอลซ่าและอันนาได้เป็นอย่างดี เมื่อเจ้าหญิงที่กำลังจะวิ่งไปหาชายหนุ่ม กลับตัดสินใจหันหลังกลับเพื่อไปช่วยพี่สาวของตนเอง
“ตัดสินใจได้เจ๋ง!!”อันนาส่งเสียงเชียร์ออกมา
ในฉากที่เจ้าหญิงหายจากคำสาปน้ำแข็ง เพราะความรักที่เธอมีให้พี่สาวสามารถลบล้างคำสาปได้ และสามารถทำให้พี่สาวเข้าใจในความรักที่แท้จริง และละลายน้ำแข็งได้สำเร็จ อันนากลับบ่นออกมาเบาๆ
“ทำไมไม่จูบ............เซ็งเลย................”
“อันนา!!!”เอลซ่าแทบอยากจะตะครุบตัวน้องสาว และลากไปเก็บ แต่เพราะโรงหนังปิดไฟมืด จึงทำให้ไม่มีใครสนใจ คำพูดที่ลอยออกมา
“นี่ๆเอลซ่า...........”นิ้วเรียวสะกิดไหล่ของพี่สาว
“อะ.....ไร.......อื้อ............”เอลซ่ากำลังจะหันไป แต่กลับโดนช่วงชิงริมฝีปากจากเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้านข้างแทน
“ความรักที่แท้จริงยังไงละ คิกๆ อุ๊ย.......”อันนาผละออกและกลับไปนั่งประจำที่ ทำตีเนียนกินป็อปคอร์น แต่ก็เผลอสะดุ้งเพราะโดนหยิกเข้าเต็มแรง
“ฉวยโอกาส..........”เอลซ่าบ่นอุบ พยายามหยิบน้ำอัดลมดูดคลายความร้อนบนใบหน้า
“ก็เพราะเห็นโอกาสถึงได้รีบคว้าไว้ยังไงล่ะ หนังจบแล้ว!!!กลับบ้านกันนะ”
“เดี๋ยวสิ!! เฮ้อ................”เอลซ่าหยิบกระเป๋าถือก่อนจะจับมือน้องสาวและเดินเคียงข้างไปพร้อมกัน
ทำไม...................เราถึงโดนอันนาแกล้งตลอดเวลากันนะ..................สงสัยจะต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ซะแล้วสิ
สองพี่น้องเดินจับมือคุยกันกระหนุงกระหนิงอย่างมีความสุข จนกระทั่งมาถึงหน้าบ้าน
“พี่เอลซ่าเป็นอะไรไป?”อันนาถาม เมื่อเห็นพี่สาวของเธอชะงักก่อนจะกดกริ่ง
เอลซ่ารู้สึกไม่ค่อยดี ราวกับมีเรื่องราวบางอย่างที่เธอจะต้องเผชิญต่อจากนี้ ไม่อยากที่จะเปิดประตูบ้านออกมา..............
แต่หญิงสาวก็สลัดความรู้สึกในด้านลบทิ้งไป พร้อมให้เหตุผลกับตัวเองว่า คงจะคิดมากไป
“ปะ....เปล่า เข้าบ้านกันเถอะ.................”
แต่ประตูบ้านก็เปิดขึ้นก่อนที่สาวผมบลอนด์จะได้จับลูกบิดประตู
“เอลซ่าลูกกลับบ้านช้านะ..................”น้ำสียงอันอ่อนโยนที่เอ่ยทัก เมื่อประตูบ้านเปิดออก ทำให้สาวผมบลอนด์ตัวแข็งค้างอยู่กับที่
“คะ.............คุณพ่อ...............”
เมาท์มอย//ถึงจะมาช้า แต่ก็จัดเต็มให้นะ เราติดทำงาน และดันป่วยอีก (โดนฝนมา ไข้ขึ้น เงิบเลย) รีดเดอร์ทุกคนรักษาสุขภาพกันด้วยนะ ตอนนี้หวานมั้ย มุ้งมิ้งละเซร่!! เสพกันให้เต็มที่นะ ตักตวงความมุ้งกันให้พอ หึๆ
ตอนต่อไปจะพยายามไม่เลทนะค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม และคอมเมนต์ค่า
ความคิดเห็น