ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Frozen [elsanna] พี่แล้วทำไม ถ้าใจจะรัก Ft. Malora

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 14 เผชิญหน้า

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 57


                   วันนี้สองพี่น้องแวะห้างสรรพสินค้าก่อนจะกลับบ้าน เพราะเอลซ่าอยากซื้ออุปกรณ์การเรียนใหม่ อันนาก็ไม่ขัดข้อง ยอมมาซื้อของกับพี่สาวแต่โดยดี

    ความจริงอันนาเองก็อยากจะมาซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียนใหม่เหมือนกัน ปากกาคู่ชีพ และยางลบ ที่มักจะมีอันเป็นไปก่อนใครเพื่อน ไม่รู้ทำไม พอตกพื้นทีไร มักจะไม่ได้มันกลับคืนมา...............

    เมื่อถึงแผนกเครื่องเขียน อันนาเห็นเอลซ่าหยุดที่โซนศิลปะอยู่ซักครู่ แววตาของหญิงสาวผมบลอนด์มองไปทางสมุดเสก็ตภาพ และดินสออย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะละสายตาและเดินตรงไปยังโซนปากกาแทน

    อันนามองภาพตรงหน้าแล้วกลับมาครุ่นคิด........

    “อันนามาทางนี้หน่อย”

    “อ๊ะ.....ค่า...........”

    แต่เสียงเรียกของเอลซ่าก็ทำให้อันนาละความสนใจไป................

     




    “พี่เอลซ่า อยากดูหนังเรื่องนี้อ่ะ”อันนาบ่นเปรยๆกับพี่สาวในขณะที่ทั้งสองเดินผ่านโปสเตอร์ภาพยนต์การ์ตูนเรื่องหนึ่ง

    “หือ......หนังการ์ตูน? จะดูจริงๆเหรอ?”เอลซ่าหันมาถามความเห็นจากน้องสาว

    หลังจากที่ทั้งคู่ได้สารภาพความรู้สึกในใจไป ความสัมพันธ์ของเอลซ่ากับอันนาก็แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อมองจากภายนอก ทั้งคู่ก็ดูเป็นคู่พี่น้องที่รักและห่วงใยกันดี

    “ฉันอ่านรีวิวมาจากในเวปไซต์ล่ะ เห็นว่าสนุกมากเลยนะ แถมมันจะมีฉากหักมุมตอนจบด้วย”อันนาพูดอย่างตื่นเต้น แววตาใสปิ๊งเป็นประกาย วิ๊งวับจนแสบตา เอลซ่าเห็นภาพลูกสุนัขตัวน้อยซ้อนทับเข้ามาทันใด

    อ่า.........แค่นี้พี่ก็หลงเธอจะแย่อยู่แล้ว ทำสายตาแบบนี้ ใครจะปฎิเสธได้ละ

    “แล้วไปอ่านสปอยมาหมดแล้ว มันจะตื่นเต้นเหรอ?”เอลซ่าถามน้องสาว ความจริงจะดูหนัง เธอก็ไม่ได้จะขัดอะไรหรอกนะ แต่แค่ถามเพราะความสงสัยเท่านั้นเอง

    “ตื่นเต้นสิ!! เพราะฉันอ่านแค่รีวิวนี่นา ยังไม่รู้เนื้อหามากหรอก เพราะงั้น..........วันเสาร์นี้เราไปดูกันนะ”

    “ก็ได้ๆ อย่าลืมบอกออโรล่าก่อนด้วยละ เผื่อจะมาเที่ยวบ้าน เดี๋ยวไม่เจอเราสองคนแล้วจะมาเสียเที่ยว”เอลซ่าบอกเผื่อถึงเด็กสาวผมสีทอง ที่ชอบแวะเวียนมาชวนอันนาเล่นเกมส์อยู่บ่อยๆ

    “อ่อ!คงไม่มาไปซักพักละพี่เอลซ่า”อันนาตอบกลับ

    “ทำไมล่ะ? รึว่าพวกเธอทะเลาะกัน?”เอลซ่าถามอย่างสงสัย ปกติอันนากับออโรล่าก็เข้ากันได้ดีจะตาย ไม่น่าจะโกรธกันได้

    “เปล่าซะหน่อย!ฉันบอกยัยนั่นไปว่าจะสวีทกับแฟน ห้ามมาเป็นก้างขวางคอ”อันนาพูดเสมือนกับเรื่องที่พูดออกไปคือเรื่องธรรมดา แต่คนฟังกลับไม่คิดแบบนั้น

    “เดี๋ยวก่อนอันนา!เธอบอกออโรล่าว่าพวกเรา..............พวกเรา.........”ปลายเสียงเริ่มเบาลงเรื่อยๆ ขณะที่เอลซ่าคว้าตัวอันนาเข้ามาแนบชิด เพื่อกระซิบอย่างกังวล

    “พวกเราเป็นแฟนกัน”อันนาต่อคำพูดของพี่สาวให้

    “อ๊า.............เดี๋ยวเถอะ!”เอลซ่าขู่เสียงลอดไรฟัน ใบหน้าขาวเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม

    “ก็พูดความจริงนี่นา”อันนาหัวเราะหึหึ พอใจที่ได้เห็นพี่สาวของเธอทำหน้าตาราวกับหมดหนทางตอบโต้

    “........................”

    “เดี๋ยวสิ โกรธเหรอ?”อันนาจิ้มแก้มพี่สาว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมมองหน้า แถมสะบัดหน้าหนีอีกต่างหาก

    “พี่เอลซ่า........ไม่อยากให้ใครรู้เหรอว่าเรารักกัน..........หรือพี่ไม่รักฉันแล้ว”อันนาทำเสียงอ่อย

    “มะ....ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย!”เอลซ่ารีบปฎิเสธ “พี่ก็แค่กลัว.........กลัวคนอื่นจะมองอันนาไม่ดี.............”

    “พี่น้องรักกันมันผิดตรงไหน ก็ฉันรักพี่นี่นา คิกๆ”อันนาคล้องแขนของพี่สาวทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ “อีกอย่างนะ..........ยัยออโรล่าน่ะ รู้เรื่องของเราสองคนตั้งแต่แรกแล้ว”

    “?!!!

    อันนาเห็นพี่สาวทำหน้าทั้งสงสัยปนตกใจสุดขีด ก็เลยเฉลยคลายความสงสัย ถึงหน้าตาเอลซ่าจะดูน่าแกล้งแบบสุดๆก็เถอะ...........เดี๋ยวนี้เธอเป็นอะไร? ถึงชอบแกล้งพี่เอลซ่าจัง.....................สงสัยเพราะพี่น่ารักเกินไปละมั้ง

    “ออโรล่าบอกว่าพี่ชอบมองฉันด้วยสายตาลึกซึ้งละ”อันนาแกล้งกุเหตุผลขึ้นเองมั่วๆ และแอบขอโทษเพื่อนสาวไว้ในใจ

    “จริงเหรอ?...........สายตาพี่มันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ”เอลซ่าถามอย่างกังวล ขนาดออโรล่ายังมองออก คนทั้งโลกต้องรู้กันหมดแน่ๆ

    “แต่ออโรล่าเค้ารับได้ แถมบอกว่าสนับสนุนอีกด้วย ยัยออโรล่าบอกว่า ดีซะอีก สมบัติจะได้ไม่ตกเป็นของใคร ฮ่าๆๆๆ”


    “เรื่องนี้อย่าให้ใครรู้เยอะนะ...........พี่ไม่อยากให้อันนาเดือดร้อน”เอลซ่าพูดแกมขอร้อง

    “ก็ได้ค่ะพี่................”ถึงอันนาจะไม่เห็นด้วย แต่เธอก็ไม่อยากขัดความเป็นห่วงของพี่สาว รอให้ฉันโตก่อนเถอะ..............

     

    .


     

    ณ เช้าวันเสาร์ ภายในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย เข็มวินาทีที่ขยับอย่างช้าๆ บ่งบอกเวลาประมาณ9นาฬิกา

    กริ๊งงงงง กริ๊งงงงงงง//

    เสียงโทรศัพท์ที่ดังแผดเสียง ไม่ได้ทำให้สาวน้อยผมสีทองที่กำลังหลับสนิทอยู่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด เสียงโทรศัพท์ยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเงียบไป.....................

    ทั้งห้องตกอยู่ในความสงบได้ไม่ถึง 10 วินาที เสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมก็แผดเสียงขึ้นมาอีก

    จนคราวนี้คนที่นอนอยู่ทนเสียงรบกวนไม่ไหว ลุกขึ้นมาเดินโซเซไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง คว้าเครื่องมือสื่อสารสมาร์ทโฟนขึ้นมา

    “ฮัลโหล...............” เมื่อมองเห็นชื่อที่โทรเข้ามาก็กดรับสายโดยไม่ลังเล

    //งายยย ยัยออโรล่า วันนี้ฉันจะไปเดตกับพี่เอลซ่าละ!! หึ!!เป็นไงละ อึ้งไปเลย!! อิจฉาละเซร่!!!// เสียงสดใสดังลอดออกมาจากปลายสาย ออกแนวสะใจเล็กน้อย

    “เอ่อ..................”

    //เงิบ.........พูดไม่ออก หึๆๆๆ แล้วจะดูหนังเผื่อนะจ๊ะ แม่สาวน้อย//

    “โรสยังไม่ตื่นน่ะ..........นี่พี่เอง..............”

    //อ้าว? ห๊ะ? พี่เมลลี่เหรอ? ทำไมมานอนห้องเดียวกับยัยออโรล่าละ รึว่า รึว่า.........ไม่นะนั่นมันพรากผู้เยาว์นะพี่!!!//เสียงเด็กสาวผมสีน้ำตาลโวยวายอย่างเกินเหตุ จนสาวผมดำต้องเอาโทรศัพท์ออกจากหู โอย................กินโทรโข่งเป็นอาหารรึไง

    “พรากบ้าอะไรกันละ โรสมาเล่นเกมส์ที่บ้านพี่ต่างหาก เธอเองก็คิดอกุศลกับเอลซ่าไม่ใช่รึไง”เมลลี่ได้ทีตอบโต้กลับอย่างเจ็บแสบ ที่เมลลี่รู้เรื่องของสองพี่น้องก็เพราะว่าออโรล่าจะเอามาเล่าให้เธอฟังบ่อยๆ

    //หึ...........ถึงจะปล้ำพี่เอลซ่าไปก็ไม่ติดคุกล่ะ เพราะพี่เอลซ่าบรรลุนิติภาวะแล้ว คิกๆ//นั่น...........ยังไม่สำนึก

    “จ้าๆ ไปเดตเถอะ ไปไป๊”เมลลี่เอ่ยปากไล่ยัยเด็กสติเสียให้รีบวางสายเสียที ตัวเธอจะได้ไปพักผ่อนต่อ ง่วงนอนจะแย่อยู่แล้ว

    //บู่วววว แกล้งพี่เมลลี่ไม่สนุกเลย ไปก็ได้ ........... ขอโทษแทนอันนาด้วยนะคะพี่เมลลี่// เสียงของเอลซ่าแว่วมาจากที่ไกลๆ ทำให้สาวผมดำเผยรอยยิ้มบางๆ

    เอลซ่าตอนเด็กๆน่ารักยังไง โตขึ้นมาก็ยังนิสัยน่ารักแบบนั้นสินะ.............

    ยัยอันนาตอนเด็กๆเกรียนยังไง โตมาก็เกรียนอย่างนั้น..........เลยไปกันรอดกับโรสสินะ............เฮ้อ..................

    “พี่เมลลี่..................มีอะไรเหรอ....................”น้ำเสียงงัวเงียดังมาจากบนเตียง จึงทำให้หญิงสาวหันกลับไปดูสภาพเด็กสาวผมทอง ที่ยังนอนซุกหมอนอยู่บนเตียงนุ่ม

    “เปล่า......อันนาโทรมาโม้น่ะ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก จะนอนต่อมั้ย?”เมลลี่เดินมาถามข้างเตียง เพราะตัวเธอเองก็เริ่มจะตาสว่างแล้ว ถ้าออโรล่าจะตื่น เธอจะได้ไปเตรียมอาหารเช้า

    “อื้อ......จูบปลุกเค้าที”เด็กสาวผมทองยิ้มหวานพลางโบกไม้โบกมือให้พี่สาวข้างบ้านทำตามที่ตนเองพูด

    “ฝันไปเถอะ!!ยัยเด็กน้อย นอนต่อซะ”นิ้วเรียวยาวดันศีรษะของเด็กสาวอายุน้อยกว่าให้กลับลงไปนอนจมหมอนเหมือนเดิม

    “เค้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ..........เค้าโตพอจะแต่งงานได้แล้วด้วย!”ออโรล่ายังคงงอแง และเถียงแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น

    “เฮ้อ.......ก็ได้ๆ จุ๊บ..........อ่ะเรียบร้อย นอนต่อเถอะ”เมลลี่ถอนหายใจอย่างระอา ก่อนจะก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากกับหน้าผากของเด็กสาว

    เมื่อเสร็จตามคำร้องขอ สาวผมดำก็ซุกตัวเข้ากับผ้าห่ม เตรียมจะเคลิ้มหลับ แต่แรงกองที่รั้งจากด้านหลัง ทำให้ต้องเอี้ยวตัวกลับไปมอง

    “พี่กลัวโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ใช่มั้ย?”ออโรล่าถาม นัยน์ตาสีม่วงหรี่ลงเล็กน้อย และที่สำคัญ.......ดวงตาคู่นั้นไม่มีแววตาของคนที่มีสติ!!

    เมลลี่กลืนน้ำลายลงคอ เวลาที่โรส.......ละเมอนั้นน่ากลัวที่สุด..................

    ไม่ตอบ........ปล่อยให้พูดๆไป เดี๋ยวก็เหนื่อย หลับไปเอง........................

    “พี่กลัวสินะ............งั้น..............ถ้าเค้าปล้ำพี่ พี่ก็ไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์แล้วเนอะ win-win ทั้งสองฝ่ายเลย”ใบหน้าสวยหวานเลื่อนเข้ามาใกล้จนระยะอันตราย

    (win-win*ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน)

    “เฮ้ย!!!!ไม่เอา!!!”เมลลี่พยายามดันเด็กสาวตรงหน้าออก ทำไมละเมอแต่แรงเยอะจังฟ่ะ.......................

    “พี่ขี้โกงอ่ะ.............มาหลอกเค้าให้รัก แล้วก็ไม่รับรักเค้า”ออโรล่าเบะปาก ทำท่าจะร้องไห้

    “อย่าร้องสิ! ใครว่าไม่รักล่ะ แต่รอให้โตกว่านี้ก่อน ตอนนี้นอนต่อได้แล้วนะ เชื่อพี่ นอนนะๆ”เมลลี่พยายามปลอบ ในที่สุดเด็กสาวก็สงบลง และผล็อยหลับไปในที่สุด

    เมลลี่มองภาพเด็กสาวผมสีทอง ที่หลับตาพริ้ม............มือสีขาวซีดปาดเหงื่อที่ซึมออกมาจากไรผม กว่าจะจัดการได้ เหนื่อยแทบแย่ ก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงข้างกัน

    รักสิ....................... ถึงได้คอยดูแลมาตลอดยังไงล่ะ..............................





    .



     

    “นี่อันนา...........”

    “เอาป็อปคอร์นรสช็อคโกแลตค่ะ ถังใหญ่เลย ที่เป็นเซตกับน้ำอัดลม”เด็กสาวผมสีน้ำตาลแดง ชี้บอกพนักงานอย่างกระตือรือร้น จนผู้เป็นพี่สาวได้แต่ยืนค้างอยู่กับที่

    พี่ก็ดีใจหรอกนะที่อันนาจัดการอะไรด้วยตัวเองได้...........แต่สั่งมาขนาดนั้น จะกินหมดเหรอเนี่ย?

    “เอลซ่ามาเร็วๆ”อันนาจับมือพี่สาวเดินไปตามทางเดินของโรงหนังที่มืดมิด จนกระทั่งมาถึงที่นั่ง

    เอลซ่าสวมแว่นตาสามมิติที่ได้รับมาจากด้านหน้าโรงหนัง

    “แย่จริงๆ จะแต่งงานกับคนที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่วันเดียวเนี่ยนะ”เอลซ่าบ่นพึมพำออกมาเบาๆ กับฉากขอแต่งงานอันรวบรัด และสาวนางเอกของเรื่องก็ดันตกลงเสียด้วย

    “เป็นฉัน ฉันจะแต่งงานกับคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ฉันเกิดละ”อันนาโน้มหน้ามากระซิบที่ข้างหูเอลซ่า

    “ไม่ใช่อย่างนั้นสิ.........”เอลซ่าพูดเสียงเบา พยายามเงยหน้ามองฉากในจอภาพยนตร์ต่อไป หวังว่าความมืดจะช่วยพรางสีชมพูเข้มบนใบหน้าของเธอได้

    ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ ถึงตอนแรกเอลซ่าจะแอบเปรยว่ามันเป็นเพียงแค่การ์ตูนอนิเมชั่น จะสนุกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ตลอดเรื่องเอลซ่ากลับแสดงท่าทีตื่นเต้นไปกับเนื้อเรื่องตลอดเวลา

    จนมาถึงฉากสุดท้าย เจ้าหญิงโดนเจ้าชายที่เธอรักหักหลัง และกำลังจะกลายเป็นน้ำแข็งจากคำสาปของพี่สาว

    ชายหนุ่มที่ร่วมเดินทางไปกับเจ้าหญิง ขี่กวางเรนเดียร์ฝ่าพายุหิมะมาช่วยเจ้าหญิงที่กำลังจะตาย

    ภาพที่ราชินีผู้เป็นพี่สาวทรุดลงกับพื้นเพราะได้รับรู้จากจากเจ้าชายผู้ทรยศ ว่าตัวเธอเองเป็นคนฆ่าน้องสาวด้วยพลังหิมะของเธอ

    “จุมพิตกับรักแท้สิ................”เอลซ่าพึมพำ ลุ้นให้เจ้าหญิงไปจุมพิตกับชายหนุ่ม

    “ช่วยพี่เธอสิ!!”แต่อันนากลับลุ้นไปอีกทางนึง

    แต่เนื้อเรื่องในภาพยนตร์ ก็ตอบสนองความต้องการของเอลซ่าและอันนาได้เป็นอย่างดี เมื่อเจ้าหญิงที่กำลังจะวิ่งไปหาชายหนุ่ม กลับตัดสินใจหันหลังกลับเพื่อไปช่วยพี่สาวของตนเอง

    “ตัดสินใจได้เจ๋ง!!”อันนาส่งเสียงเชียร์ออกมา

    ในฉากที่เจ้าหญิงหายจากคำสาปน้ำแข็ง เพราะความรักที่เธอมีให้พี่สาวสามารถลบล้างคำสาปได้ และสามารถทำให้พี่สาวเข้าใจในความรักที่แท้จริง และละลายน้ำแข็งได้สำเร็จ อันนากลับบ่นออกมาเบาๆ

    “ทำไมไม่จูบ............เซ็งเลย................”

    “อันนา!!!”เอลซ่าแทบอยากจะตะครุบตัวน้องสาว และลากไปเก็บ แต่เพราะโรงหนังปิดไฟมืด จึงทำให้ไม่มีใครสนใจ คำพูดที่ลอยออกมา

    “นี่ๆเอลซ่า...........”นิ้วเรียวสะกิดไหล่ของพี่สาว

    “อะ.....ไร.......อื้อ............”เอลซ่ากำลังจะหันไป แต่กลับโดนช่วงชิงริมฝีปากจากเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้านข้างแทน

    “ความรักที่แท้จริงยังไงละ คิกๆ อุ๊ย.......”อันนาผละออกและกลับไปนั่งประจำที่ ทำตีเนียนกินป็อปคอร์น แต่ก็เผลอสะดุ้งเพราะโดนหยิกเข้าเต็มแรง

    “ฉวยโอกาส..........”เอลซ่าบ่นอุบ พยายามหยิบน้ำอัดลมดูดคลายความร้อนบนใบหน้า

    “ก็เพราะเห็นโอกาสถึงได้รีบคว้าไว้ยังไงล่ะ หนังจบแล้ว!!!กลับบ้านกันนะ”

    “เดี๋ยวสิ!! เฮ้อ................”เอลซ่าหยิบกระเป๋าถือก่อนจะจับมือน้องสาวและเดินเคียงข้างไปพร้อมกัน

    ทำไม...................เราถึงโดนอันนาแกล้งตลอดเวลากันนะ..................สงสัยจะต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ซะแล้วสิ

     






     

    สองพี่น้องเดินจับมือคุยกันกระหนุงกระหนิงอย่างมีความสุข จนกระทั่งมาถึงหน้าบ้าน

    “พี่เอลซ่าเป็นอะไรไป?”อันนาถาม เมื่อเห็นพี่สาวของเธอชะงักก่อนจะกดกริ่ง

    เอลซ่ารู้สึกไม่ค่อยดี ราวกับมีเรื่องราวบางอย่างที่เธอจะต้องเผชิญต่อจากนี้ ไม่อยากที่จะเปิดประตูบ้านออกมา..............

    แต่หญิงสาวก็สลัดความรู้สึกในด้านลบทิ้งไป พร้อมให้เหตุผลกับตัวเองว่า คงจะคิดมากไป

    “ปะ....เปล่า เข้าบ้านกันเถอะ.................”

    แต่ประตูบ้านก็เปิดขึ้นก่อนที่สาวผมบลอนด์จะได้จับลูกบิดประตู

     

    “เอลซ่าลูกกลับบ้านช้านะ..................”น้ำสียงอันอ่อนโยนที่เอ่ยทัก เมื่อประตูบ้านเปิดออก ทำให้สาวผมบลอนด์ตัวแข็งค้างอยู่กับที่


    “คะ.............คุณพ่อ...............”

     

     

     



     

     

     


    เมาท์มอย//ถึงจะมาช้า แต่ก็จัดเต็มให้นะ เราติดทำงาน และดันป่วยอีก (โดนฝนมา ไข้ขึ้น เงิบเลย) รีดเดอร์ทุกคนรักษาสุขภาพกันด้วยนะ ตอนนี้หวานมั้ย มุ้งมิ้งละเซร่!! เสพกันให้เต็มที่นะ ตักตวงความมุ้งกันให้พอ หึๆ

    ตอนต่อไปจะพยายามไม่เลทนะค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม และคอมเมนต์ค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×