คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 น้องสาว
ณ มหาวิทยาลัยดีสนีย์ มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง ที่ทุกคนในประเทศไทยล้วนใฝ่ฝันว่าจะได้เข้าเรียน การสอบเข้าที่นี่ถือว่ายากและต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกัน การเรียนก็ถือว่าหนัก และเข้มข้นไม่แพ้กันเลยทีเดียว
ภายในห้องเล็คเชอร์ มีหญิงสาวกำลังนั่งจดคำพูดจากอาจารย์หน้าห้อง เป็นข้อความที่ดูเป็นระเบียบสวยงามลงในสมุดโน๊ตของเธอ ถึงแม้นี่จะเป็นห้องเรียนก็ตาม แต่สายตาทุกคนในห้องก็ยังแอบฟังอาจารย์ไป แอบเหลือบมองไปทางหญิงสาวผมสีบลอนด์เป็นระยะๆ
ทำไมทุกคนจะต้องแอบมองหญิงสาวคนนี้น่ะเหรอ?
ก็เพราะเธอคือ เอลซ่า หรือชื่อจริงคือ เอรสา ณ เอเรนฎา สาวลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ผู้มีดีกรีตำแหน่งเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัย น่ะสิ
แต่เอลซ่าก็ไม่ได้สนใจสายตาที่แอบเหลือบมองมาซักเท่าไหร่ หญิงสาวผู้สวยเพียบพร้อมไปด้วยหน้าตา และฐานะ แต่เธอผู้นั้นกลับไม่สนใจความรักที่เหล่าชายหนุ่มมอบมาให้แม้แต่น้อย
‘คนพวกนี้.....ว่างมากรึไง? ไม่ตั้งใจเรียนที่อาจารย์สอน น่าเสียดายที่พ่อแม่อุตส่าห์ส่งเสียมาเรียน’
หญิงสาวคิดในใจอย่างตำหนิ ในตัวเธอตอนนี้มีแต่เรื่องเรียน และเรื่องครอบครัวเท่านั้นละที่สำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
เพราะครอบครัวของเธอประกอบกิจการโรงแรมระดับ5ดาว โรงแรมที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศไทย “โรงแรมเอเรนเดล” ซึ่งตัวเอลซ่าเองที่เป็นลูกสาวคนโตจะต้องรับสืบทอดต่อกิจการ เธอจึงเลือกที่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยในคณะบริหารธุรกิจ เพื่อรับช่วงผู้บริหารต่อไป การตั้งใจศึกษาหาความรู้จึงสำคัญที่สุด
ขณะที่การเรียนดำเนินไปอย่างเชื่องช้า โทรศัพท์ของเอลซ่าก็สั่นขึ้นมาเบาๆ แต่แรงสั่นสะเทือนก็เรียกให้ร่างบางรู้สึกตัว และละความสนใจจากการจดเล็คเชอร์ได้...
หน้าจอโทรศัพท์แสดงชื่อของ”ราพันเซล”ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ เอลซ่าสงสัยเล็กน้อย.....ราพันเซลจะโทรมาทำไมเวลานี้นะ หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น?.........................
“ฮัลโหล โทรมามีอะไรเหรอ? ตอนนี้ฉันกำลังเรียนอยู่นะ”เอลซ่าซึ่งเดินออกมาคุยโทรศัพท์นอกห้องเรียน เพราะไม่อยากให้เสียงคุยโทรศัพท์ของเธอรบกวนสมาธิของคนในห้อง
“เอลซ่า เกิดเรื่องแล้วละ!!!”น้ำเสียงของเพื่อนสาวปลายสายดูตื่นตระหนกเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?.........นี่เธอไม่ได้เข้าเรียนอยู่เหรอ?”เอลซ่าถามอีกฝ่าย เพราะราพันเซลนั้นก็เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เช่นเดียวกัน เพียงแต่เรียนอยู่คนละคณะกับเธอเท่านั้นเอง
“อ๋อ....จารย์แค่สั่งโปรเจคน่ะ แล้วก็เลิกคลาสเลย แต่เดี๋ยว! นั่นไม่ใช่ประเด็น เอลซ่าเธอต้องออกมาหาฉันตอนนี้ที่หน้ามหาวิทยาลัย และเดี๋ยวนี้เลยด้วย!!!”
“ทำไม? เกิดปัญหาอะไรรึเปล่า? เธอก็บอกเหตุผลมาเร็วๆสิราพันเซล”เอลซ่ายิ่งร้อนรน หรือว่าราพันเซลจะเกิดปัญญานะ
“เฮ้อ......ที่มีปัญหาน่ะมันไม่ใช่ฉัน......น้องสาวของเธอต่างหากละ”ปลายสายถอนหายใจมาเบาๆ และเสียงโหวกเหวกโวยวายก็ดังลอดเข้ามาที่โทรศัพท์ของเอลซ่า
//ปล่อยนะ!!ฉันจะเข้าไปหาพี่ฉัน!!!//
‘อันนา..........’ เมื่อได้ยินเสียงปลายสาย สีหน้าของเอลซ่าก็ซีดจนไร้สีเลือดทันที.......ร่างบางรีบวิ่งไปยังหน้ามหาวิทยาลัยด้วยเหตุผลเดียวคือ กลัวน้องสาวสุดที่รักของเธอจะเป็นอะไรไป!!!
...............................................................................................
“อันนาพี่มาแล้ว!!!”เอลซ่าที่วิ่งมาหอบเล็กน้อย ก่อนจะอึ้งไปเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า
อันนา หรือ อัณณา ณ เอเรนฏา น้องสาวหัวแก้วหัวแหวน สุดรักสุดหวงของเธอ สาวน้อยผู้มีนัยน์ตาสีฟ้าใสเหมือนกับเอลซ่า ต่างกันที่สีผมจะเป็นสีบลอนด์ทองแดง และบุคลิกความแก่นแก้ว ที่กำลังถูกผู้รักษาความปลอดภัย ที่เรียกสั้นๆว่า “ยาม” จับแขนเอาไว้อยู่
“ปล่อยสิ!!ฉันแค่มาหาพี่สาวเองนะ ไม่ได้มาโจรกรรมซะหน่อย!! อ๊ะ!!พี่เอลซ่า!!!”สาวน้อยกำลังยื้อยุดอยู่ที่หน้าประตูทางเข้า ยิ้มกว้างขึ้นมาทันที เมื่อเห็นผู้เป็นพี่สาว
“พี่ยามคะ นี่น้องสาวของหนูเองค่ะ”เอลซ่ารีบเดินไปหาน้องสาว ที่ตอนนี้กำลังมีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยชัยชนะ
“เห็นมั้ย? ฉันไม่ได้โกหกซักหน่อย พี่เอลซ่ามารับแล้ว ปล่อยให้เข้าไปซะทีสิ!!!”อันนาหันไปโวยวายใส่ยามอีกรอบด้วยความเป็นต่อ พี่ยามเห็นเอลซ่าเดินมาหาน้องสาวก็ต้องจำใจปล่อยอันนาไปแต่โดยดี เพราะพี่น้องสองคนนี้หน้าคล้ายกันจะตายไป ใครดูก็ต้องรู้ว่าทั้งสองคนคือพี่น้องกัน
“พี่เอลซ่า!!!”เมื่อแขนเป็นอิสระ อันนาก็วิ่งโถมเข้ามากอดพี่สาวเต็มรัก ทำเอาคนเป็นพี่แทบจะกางแขนรับแทบไม่ทัน
“คิดถึงจังเลยยยย”ริมฝีปากสีชมพูอ่อน จรดลงบนแก้มขาวๆของเอลซ่า เรียกเสียงโวยวายพร้อมกับหน้าแดงๆของเอลซ่าได้เป็นอย่างดี
“อันนา!!! พี่บอกแล้วไง ว่าอย่าทักทายแบบนี้ข้างนอก”เอลซ่าหันไปมองรอบตัว ผู้คนที่เดินผ่านไปมา ก็ชี้ชวนให้ดูคู่พี่น้องที่น่ารัก คนพี่ก็สวย คนน้องก็น่ารัก.......
“แหม.....ไม่เห็นเป็นอะไรเลยพี่เอลซ่า เราเป็นพี่น้องกันนะแค่กอดกับหอมแก้มเองทำเป็นหวงไปได้”อันนาทำแก้มป่องบ่งบอกว่าตอนนี้กำลังงอนอยู่นะ เอลซ่าเห็นดังนั้นด้วยความที่เป็นคนโอ๋และตามใจน้องแบบสุดๆ จึงรีบง้อทันที
“ก็ได้ๆ แต่คราวหลังแค่กอดพอนะ ไม่เอาหอมแก้ม พี่อายเพื่อนๆรู้มั้ย?”เอลซ่าโอบตัวอันนาเข้ามากอด มือก็ลูบหัวน้องสาวเบาๆด้วยความเอ็นดู อย่างไรเธอก็โกรธอันนาไม่ลงจริงๆน่ะแหละ
“ครั้งนี้จะยอมทำตามก่อนก็ได้ ชิ”
“แล้วนี่มาทำอะไรที่มาหวิทยาลัยของพี่เนี่ย? เราต้องเรียนหนังสือนี่!!”เอลซ่าปั้นหน้าดุขึ้นมาทันที ในเมื่อตอนนี้เวลายังแค่บ่าย3โมง ยังไม่ถึงเวลาที่นักเรียนมัธยมจะเลิกเรียนนี่นา
“อ่อ!!วันนี้โรงเรียนหนูเลิกเร็วน่ะพี่ พอดีครูเค้าประชุมวิชาการกันน่ะ หนูเลยมารับพี่เอลซ่ากลับบ้านพร้อมกันไง”
“แน่ใจนะ?”เอลซ่ายังคงจ้องหน้าน้องสาวอย่างจับผิด
“แน่ใจสิ หรือพี่ไม่เชื่อฉันเหรอ?....”อันนาทำหน้าเสียใจ น้ำตาคลอเบ้า ซึ่งนั่นก็เรียกความสงสารจากเอลซ่าได้เห็นผลทันตา
“โอเคๆ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น ไม่เชื่อใจเธอแล้วพี่จะเชื่อใครละ”
“เย้!!!ฉันรักพี่นะเอลซ่า”อันนายิ้มหวานให้พี่สาว
“พี่ก็รักเธอนะอันนา......”เอลซ่ายิ้มน้อยๆให้อันนา ก่อนที่พี่น้องจะเดินจูงมือกลับบ้านไปพร้อมกัน ทิ้งราพันเซลเพื่อนสาวที่ตอนนี้ถูกทิ้งให้ยืนโดดเดี่ยว มองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างปลงๆ
เฮ้อ.........วันๆเอาแต่ติดน้องแบบนี้ จะหาแฟนได้มั้ยเนี่ยเพื่อนฉัน?
คำบอกรักที่ได้ยินจนชินชา............แต่ใครจะรู้เล่า........ถึงความหมายที่แอบแฝงอยู่ในนั้น........................
ความคิดเห็น