ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Frozen [elsanna] พี่แล้วทำไม ถ้าใจจะรัก Ft. Malora

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 คิดมาก

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 57



    คืนนี้เป็นคืนที่อากาศร้อนอบอ้าวเล็กน้อย เพราะได้ผ่านหน้าหนาวมาแล้ว เอลซ่าที่กึ่งนั่งกึ่งนอน อ่านหนังสืออยู่บนเตียง เริ่มรู้สึกถึงความชื้นจากเหงื่อตามไรผม.....หญิงสาวจึงคิดจะขยับตัวไปเปิดแอร์ เพื่อลดความร้อนอบอ้าวนี่ลงไปเสียหน่อย

    นิ้วเรียวที่แตะลงบนรีโมทแอร์ นึกถึงคำพูดของน้องสาวที่มักจะบ่นอยู่ตลอดเวลาอากาศร้อน


    ประเทศไทยก็แบบนี้แหละ!! มีแค่3ฤดู ร้อน!  ร้อนมาก!! กับโคตรร้อน!!!’


    อันนาเป็นเด็กขี้บ่น แต่ก็มักจะบ่นไปเรื่อยเปื่อยไม่จริงจังอะไรนัก...........เอลซ่ายิ้มกับนิสัยของน้องสาวสุดที่รัก แต่ระยะหลังนี้ เอลซ่ารู้สึกว่า อันนาทำตัวแปลกไปจากที่เคย หรือว่า........จะเริ่มเข้าสู่อารมณ์ของวัยรุ่นกันนะ?


    มือเรียวขยับเฮดโฟนที่อยู่บนศีรษะให้เข้าที่ยิ่งขึ้น พร้อมกับปรับเร่งระดับเสียงเพลงให้ดังก้องกลบความกังวลที่ก่อตัวขึ้นมาในจิตใจ ถึงแม้อันนาจะโตเป็นผู้ใหญ่แค่ไหนก็ตาม แต่ในสายตาของเอลซ่าก็ยังเห็นว่าอันนาเป็นน้องสาวตัวน้อย ที่คอยติดเธอแจเมื่อวัยเยาว์อยู่ดี


    !!!!


    “คิดอะไรอยู่เหรอพี่......หน้ายุ่งไปหมดแล้ว” เอลซ่าสะดุ้งเฮือก เมื่อจู่ๆก็ถูกรวบตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดปริศนา เพราะเสียงเพลงในเฮดโฟนที่ครอบหูอยู่ ทำให้เธอไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง แต่เอลซ่าก็สามารถคลายความตกใจได้อย่างรวดเร็ว เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอ้อมกอดอันคุ้นเคย


    “พี่ทำหน้าตลกมากเลยละ ฮิๆ”อันนาถอดเฮดโฟนออกจากหูของพี่สาว พลางหัวเราะกับหน้าตาตื่นตระหนกที่ยังคงตกค้างอยู่ของเอลซ่า


    “อันนา…..ทำไมเข้ามาให้สุ้มให้เสียง”เอลซ่าเอี้ยวตัวกลับไปดุน้องสาวอย่างไม่จริงจังนัก

    “ก็หนูเรียกแล้วนี่.........พี่ก็มัวแต่นั่งทำหน้ายุ่ง แถมยังเปิดเพลงซะดังลั่นขนาดนั้น หนูเลยต้องใช้วิธีนี้ไง”อันนายิ้มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว แถมยังเพิ่มแรงกอดรัดให้แน่นยิ่งขึ้น

    “อื้อ! ไม่เอาน่าอันนา ร้อนจะแย่ ไม่อึดอัดบ้างเหรอ?”เอลซ่าขยับตัวเล็กน้อย

    ตั้งแต่เอลซ่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ทั้งสองคนก็แยกห้องนอนกัน เพราะเหตุผลที่ว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยนอนและเรียนไม่เป็นเวลา เอลซ่าจึงไม่อยากให้เวลาการทำงานของเธอรบกวนเวลาการนอนของอันนา แต่เมื่อแยกห้องได้ตามประสงค์ของเอลซ่าแล้วก็จริง อันนากลับมาเยี่ยมเยียนเธอที่ห้องบ่อยเหลือเกิน แถมบางครั้งยังย้ายตัวเองมานอนด้วยกันเหมือนเดิม


    “ไม่นี่.......ตัวพี่เย็นดีออก”อันนาทิ้งตัวแนบหน้าลงไปบนขาอ่อนของเอลซ่า เพราะนี่เป็นเวลานอน พี่สาวของเธอจึงใส่ชุดนอนที่เป็นเสื้อเชิ๊ตตัวหลวม กับกางเกงขาสั้น


    “อื้ออออ มันจั๊กกะจี้ ไม่เอาๆ”เอลซ่าพยายามพลิกตัวหนี ลมหายใจอุ่นๆของน้องสาวที่เป่ารดขาอ่อน ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ

    “ม่ายยยยยย พี่เป็นของฉัน”อันนาเงยหน้าขึ้นมาสบตา แววตาสีฟ้าเข้มมองเข้าไปในแววตาสีฟ้ากระจ่างใส จริงจัง........เสียจนเจ้าของดวงตาสีฟ้ากระจ่างใสต้องหลบตาออกไปก่อน

    “นี่ก็ดึกแล้ว นอนเถอะ........เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปโรงเรียนสายนะ”เอลซ่าตัดบท และลุกไปเก็บหนังสือที่อ่านค้างไว้บนชั้นหนังสือข้างเตียง โดยที่อันนายังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้ามีแววครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

    จนกระทั่งเอลซ่าปิดไฟ แล้วเดินกลับมาที่เตียง อันนาก็ยังทำหน้าจริงจังอยู่เหมือนเดิม

    “นี่......คิดอะไรอยู่ คิ้วขมวดแบบนี้ เดี๋ยวก็หน้าแก่หรอก”ถึงยังไงคนเป็นพี่ก็ต้องเป็นฝ่ายง้อก่อนอยู่ดี ถึงจะไม่รู้ว่าอันนางอน เรื่องอะไรก็ตามที

    “เปล่าค่ะพี่ หนูแค่ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้น่ะ นอนกันเถอะค่ะ”อันนายิ้มให้กับพี่สาว รอยยิ้มที่ทำให้ภายในอกของเอลซ่าร้อนขึ้นแปลกๆ

    เมื่อล้มตัวลงนอน อันนาก็ขยับเข้ามากอดเอลซ่าไว้ เป็นเรื่องปกติที่ทั้งคู่ทำตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก คือนอนหลับในอ้อมกอดซึ่งกันและกัน แต่เอลซ่ากลับรู้สึกว่าตัวเองใจเต้นเร็วผิดปกติ

    รึว่า........เราจะกังวลเรื่องของอันนามากเกินไปกันนะ?.......... เมื่อหาข้อสรุปให้กับตนเองได้ ความอ่อนเพลียทั้งจากความคิดที่ตีกันในหัว และความรู้สึกแปลกๆ ก็ฉุดรั้งให้เอลซ่าจมสู่ห้วงนิทรา

    ภายในความมืด สาวน้อยผมสีบลอนด์ทองแดงลืมตาขึ้น นัยน์ตาสีฟ้าเข้มมองไปยังพี่สาวที่หลับใหลด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง เอลซ่าเป็นคนที่จริงจังกับทุกเรื่อง.......โดยเฉพาะเรื่องเรียน และการทำงาน มากจนไม่ใส่ใจเรื่องอย่างอื่น............

    ริมฝีปากจรดลงบนหน้าผากของพี่สาว ก่อนที่แขนเรียวจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้น




    ฉันจะเอาจริงแล้วนะเอลซ่า................คอยรับมือให้ดีเถอะ.....................

     

    .................................................................................................

     

    “หืมมม......มีรายงานเหรอเอลซ่า?”ราพันเซลเอ่ยถาม เมื่อเห็นเพื่อนสาว นั่งอยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยแต่เช้าตรู่

    “เปล่า.....แค่มีเรื่องคาใจน่ะ”เอลซ่าตอบ ในขณะที่มือก็ยังเปิดหนังสืออ่านไปเรื่อยๆ คิ้วเรียวขมวดจนแทบพันกันเป็นปม


    ราพันเซลที่เห็นอีกคนดูท่าจะเจอปัญหาเข้าจริงๆ จึงเลือกที่จะเดินไปหาเอลซ่าอย่างเงียบๆ นัยน์ตาสีเขียวอ่อนไล่มองไปตามกองหนังสือ ที่สูงเกือบท่วมหัวของสาวผมสีบลอนด์


    .......เมื่อน้องสาวเข้าสู่วันรุ่น.............

    ........วัยรุ่นกับการเปลี่ยนแปลง.............

    ..........น้องสาวกับการต่อต้าน..................


    ชื่อเรื่องแต่ละชื่อ มันเกี่ยวกับน้องสาวทั้งนั้นนี่นา อันนาเป็นอะไร? แล้วเพื่อนเธอจะมาทำตัวเหมือนเป็นคุณแม่ที่กลุ้มใจเพราะลูกสาวสุดหวงก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นทำไมกันเนี่ย!!?


    “เอลซ่า.............เธอมีปัญหาอะไรกับอันนางั้นเหรอ?”เมื่อเอ่ยถามออกไป สาวผมบลอนด์ก็สะดุ้งนิดๆ พร้อมกับเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ

    “ปะ....เปล่านี่!! ไม่มีปัญหาอะไรเลย!! โอเคดีทุกอย่างเลย”

    ราพันเซลหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างจับผิด คิดว่าสาวผมทองจะต้องไร้สมองรึยังไงกันห๊ะ!! ใครเชื่อก็โง่แล้ว!!! แต่คนอย่าง
    เอลซ่า ถ้าถามตรงๆเจ้าตัวที่เป็นพวกเก็บความรู้สึกเก่ง จะต้องอุบไว้เงียบไม่พูดออกมาแน่ แบบนี้มันต้องใช้วิธีหลอกล่อ.....

    .

    “หรอ........งั้นฉันขอนั่งพักตรงนี้นะ คงไม่รบกวนสมาธิเธอใช่มั้ย?”

    “ได้สิ ตามสบายนะ”

    เอลซ่าไม่ได้ติดใจอะไรกับคำพูดของราพันเซล เธอปล่อยให้เพื่อนสาวนั่งลงตรงข้าม ในใจก็คิดเรื่อยเปื่อยไป......

    “นี่........” จู่ๆราพันเซลก็พูดขึ้นมา “ฉันมีเรื่องกลุ้มใจว่าจะปรึกษาเธอน่ะ”

    เอลซ่าที่ปกติเป็นคนที่มักจะใจเย็นอยู่เสมอ เมื่อเพื่อนสนิทมาขอคำปรึกษา เธอก็พร้อมจะรับฟังแต่โดยดี

    “ได้สิ พูดมาเลย”

    ราพันเซลฉีกยิ้มในใจ //เสร็จฉันละ!!//

    “คือ.....เรื่องมันยาวน่ะ เอาเป็นว่า มีเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนฉัน เค้ามีน้องสาว แล้วทีนี้เพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนฉันเนี่ยก็กำลังกังวลอยู่ละ ที่น้องสาวของตัวเองดูแปลกไป ฉันเห็นว่าเธอมีน้องสาวเหมือนกัน พอจะรู้บ้างมั้ย ว่าส่วนมากน้องสาวเนี่ย เค้าน่าจะแปลกไปเพราะอะไร”

    เอลซ่าได้ฟังก็จนใจ ถึงเธอจะงงว่าราพันเซลจะมีเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนอะไรมากมายก็เถอะ แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้เธอก็ไม่รู้จะช่วยให้คำแนะนำอะไรเพื่อนสาวได้อยู่ดี

    “ขอโทษนะ.......ความจริงฉันก็มีปัญหาเกี่ยวกับอันนาเหมือนกัน”เอลซ่ากล่าวด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถช่วยอะไรเพื่อนสนิทได้

    สาวผมทองได้ยินดังนั้นก็ตะโกนร้อง //เยส!!!// ในใจ เอลซ่านะเอลซ่า เธอจะอ่อนต่อโลกมากจนเกินไปแล้ว หลอกง่ายจริงๆ

    “งั้นช่างเรื่องเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนฉันไปก่อนก็ได้ มีอะไรปรึกษาฉันได้นะเอลซ่า เราเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ?”

    เมื่อหลอกล่อให้ตายใจแล้ว ก็ต้องงัดเอาข้ออ้างเพื่อนสนิทนั้นไม่เคยมีความลับต่อกันออกมาใช้ต่อรอง หึๆรู้จักราพันเซลน้อยไปแล้วเอลซ่า......

    “ก็ได้.............แต่......”ตอนแรกเอลซ่าก็ลำบากใจที่จะพูดอยู่ แต่เมื่อเห็นแววตาเว้าวอนของเพื่อนสาว ก็ทำให้เธอตัดสินใจที่จะเล่าออกมา

    “อันนาดูแปลกไปกว่าที่เคยเป็นน่ะสิ.....”

    “แปลกไปยังไง? ฉันก็เห็นว่าน้องสาวของเธอแปลกมาตั้งนานแล้วนะ”ตั้งแต่จำความได้ ตอนที่ไปเล่นบ้านของสองพี่น้อง   ราพันเซลก็มักจะเห็นอันนาที่ดูออกจะร่าเริงเกินเด็กธรรมดาไปซักหน่อย แถมติดพี่สาวอย่างกับอะไรดี



    เอลซ่า!!!! ปั้นตุ๊กตาหิมะกัน!!!

    เอลซ่า!!!ขี่จักรยานกันนะ!!!

    เอลซ่า!!! เอลซ่า!!!! เอลซ่า!!!!!!!!!

    อ่า........นี่ขนาดเธอแค่มาเล่นด้วยแค่นานๆทีนะ เสียงเล็กๆเจื้อยแจ๊วนั่น ยังติดหูเธออยู่เลย..........


    “นี่!อันนาไม่ได้แปลกซักหน่อย....”เอลซ่าตำหนิเพื่อน

    “จ้าๆ แม่คนติดน้อง ไม่แปลกก็ไม่แปลก เอ้าเล่าต่อสิ”

    “ช่วงนี้........อันนาชอบทำอะไรแปลกๆ แปลกกว่าที่เคยเป็น.............”เอลซ่ายิ่งพูด เสียงก็ยิ่งเบาลงเรื่อยๆ จนอีกคนเริ่มหงุดหงิด

    แม่คุณ!!!! ถึงจะอยู่ในห้องสมุด แต่ก็ไม่ต้องพูดเบาขนาดนั้นก็ได้ย่ะ!!!

    “อะไรล่ะที่แปลก นี่!เธอจะพูดให้มันเป็นปริศนาทำไมเนี่ย?”ราพันเซลไม่เข้าใจ กับท่าทีอ้ำๆอึ้งๆของดาวมหาวิทยาลัย ที่ตอนนี้ใบหน้าขาวกำลังขึ้นสีน้อยๆ แววตาสีฟ้าสดใสก็ดูหวั่นไหว

    แน่ใจนะ? ว่าเพื่อนของเธอกำลังปรึกษาเรื่องปัญหาของน้องสาว!!!ไม่ใช่ปรึกษาเรื่องมีหนุ่มหล่อมาตามตื้อ!!!???

    “ก็.....ก็..........อันนาชอบมากอด กับหอมแก้มบ่อยๆ.....”ยอมพูดออกมาจนได้ แต่........นั่นใช่ประเด็นเหรอ?

    “พวกเธอเป็นพี่น้องกัน จะกอดจะหอมแก้มกันมันก็เรื่องธรรมดานี่?”

    “มันไม่ใช่แบบนั้น..........”

    “แล้วมันเป็นแบบไหน?”ราพันเซลจ้องหน้าอย่างคาดคั้นคำตอบเต็มที่ แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่หลบตา ก่อนที่เอลซ่าจะลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างรวดเร็ว

    “มะ.....ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันคงคิดมากไปเอง ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว ฉันไปก่อนนะ บาย..........”

    “อ้าว? เดี๋ยวสิ เรายังคุยกันไม่จบเลยนะ!”ราพันเซลพยายามจะรั้งเพื่อนสาวไว้ แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อร่างเพรียวบางนั้นได้ก้าวพ้นประตูห้องสมุดไปซะแล้ว

    บอกว่าไม่มีอะไร..........แต่เอลซ่าผู้เข้มแข็ง และนิ่งสงบราวกับน้ำแข็ง แม้ว่าจะมีหนุ่มเดือนมหาวิทยาลัยสุดหล่อมาตามจีบนานแรมเดือนก็ตาม แต่สาวสวยหัวดีก็ไม่ได้สนใจชายตามองแม้แต่น้อย


    แล้วไอ้ท่าทีเมื่อกี้มันอะไร? พี่น้องคู่นี้มันต้องมีลับลมคมในอะไรแน่ๆ เห็นที.........เธอจะต้องสืบหาความจริงซะแล้วสิ........

     

     (โซนเมาท์มอย......อัยย๊ะ.....พึ่งเห็นคอมเมนท์ล่าสุด เรื่องสีผมของสองสาว เดี๋ยวจะรีบแก้ไขเนื้อเรื่องโดยไวค่ะ ขอบคุณคุณ Jelsa Forever&Always มากเลยนะค่ะ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×