ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Traveler of The Ancient Ship

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 เดินทาง เดินทาง ไร้การพานพบ

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 55


            ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ที่ตอนเหนือสุดของมหาสมุทรอินเดีย ที่นั่นคืออ่าวเปอร์เซีย ว่ากันว่าเมื่อหนึ่งพันสองร้อยกว่าปีที่ผ่านมา

    มีผู้ระหกระเหินมากมายจากการที่ประเทศหนึ่งเผชิญกับเรือดำของกองทัพเรือสหรัฐอมริกา หนึ่งในนั้นคือ "โอคามิอากะเนะ" ถูกเนรเทศจากพ่อแม่ชาวเอโดะผู้หวังดี เพื่อไม่ต้องการให้ลูกชายต้องทนกับการเปลี่ยนแปลงของการเมืองและเศรษฐกิจ โอคามิอากะเนะจะอิจฉาเด็กคนอื่นทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างที่ควรจะเป็น การที่จะต้องเดินทางอย่างเดียวดายเพียงวัยสอบสองปี สิ่งที่ติดตัวมาชิ้นเดียวคือสร้อยคอรูปแจกันมีพลอยสีฟ้าตรงกลาง ขนาดเท่านิ้วมือของคนบนทวีปโตเต็มวัย เบื้องหลังชีวิตจึงไม่ใช่เด็กชายที่ร่าเริงไร้ความกังวล แต่คนเดินถนนสามัญดาษดื่นทั่วไปอาจไม่ได้เห็นที่อยู่ลึกในใจเขา แต่ช่างตีดาบผู้นั้นรู้ดี


    เมดาเรส สหราชอณาจักรทอสคาเนียน ฤดูใบไม้ผลิ ..752


    อัลเฟอร์ พอน เดอ ซิลิออนซ์ ช่างตีดาบคมเดียว ดำเนินชีวิตมาถึงช่วงกลางของชีวิต ภรรยาเขาเสียชีวิตด้วยการล่วงล้ำอนาเขตของเมืองหลวงเมดาเรส ขณะนั้นลูกชายคนเดียวของเขา "มินตราโกวิช พอน เดอ ซิลิออนซ์" วิ่งไล่ยิงนกพิราบตัวหนึ่ง ด้วยความสนใจเพียงหนึ่งเดียวและความไร้เดียงสา จึงล้ำเข้าไปเขตหวงห้ามในเขตเมดาเรส ซึ่งเป็นเขตปกครองของ"ผู้มีเวทย์" เขตนั้นชาวเมดาเรสรู้จักกันดีในชื่อ "เขตต้องห้ามคลอเรลร์" ผู้เป็นแม่ตามมินตราโกวิชสุดรักสุดหวงเข้าไปโดยไม่ใยดีเขตอาคมนั้น ผู้เป็นแม่ตามร้องเรียกชื่อจนไปถึงเขตอาคม เมื่อผ่านเส้นเขตอาคมเวทย์อัซซา มินตราโกวิชหันมาตามเสียงเรียก ร่างนั้นกลายเป็นฝุ่นผงลอยหายไปในอากาศ  เหลือเพียงกำไรข้อมือทับทิมเท่านั้นที่เป็นที่จดจำของผู้เป็นแม่ ผ่านมาเจ็ดปีแล้ว มินตราโกวิชยังจำเหตุการณ์นั้นไม่ลืมเลือน และเป็นความผิดของเขาผู้เดียว


    "มินตรา เจ้าไปพบท่านผู้การโจฮานเดี๋ยวนี้ บอกว่าดาบของท่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว"

    อัลเฟอร์ผู้เป็นพ่อตะโกนเรียกลูกชายที่กำลังผ่าฟืนให้พ่อ มินตราพยักหน้าอย่างไร้เสียง หยิบผ้าคลุมสีเขียวเข้ม รองเท้าบูท ออกเดินทางผ่านผู้เป็นพ่อโดยไม่พูดคำใด 


    เรือเทียบท่ามอนเดเนส 

    "เมดาเรส แห่งทอสดาเนียน ดูร่ำรวยเจ้าว่าไหม"

    กะลาสีเรือของพ่อค้าแห่งจ้าวแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก เดินทางทั้งปีจากคาบสมุทรเกาหลี มาถึงมหาสมุทรอินเดีย อ่าวเมเรส ที่ตั้งของเมดาเรสแห่งนี้ กะลาสีผู้นี่รูปร่างสูง เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวกับกางเกงน้ำตาล ตราที่หัวเข็มขัดรูปเชอรี่สองลูกเหมือนความจงรักภัคดีต่อเรือเดินสมุทรแห่งนี้ โอกามิอากะเนะ ทรุดโทรมจากการเดินทางตลอดสามเดือน เด็กชายสวมเสื้อสีเทา ผ้าคลุมสีขาวขอบสีแดง ซึ่งเป็นของประจำตระกูลจากเมืองเอโดะ โอกามิอากะเนะมองเมืองเมดาเรสตามคำที่กะลาสีบอก ความที่ไม่รู้อะไรเลยกับการเดินทางออกมา กะลาสีจึงแนะนำให้ลงจากเรือและพำนักอยู่ที่เมืองนี้

    "เมดาเรสมีอาชีพพอให้เจ้าเลือกนะรู้ไหม เจ้ายังเยาว์วัย มีผู้หญิงชั้นสูงในสังคมมากมาย อยากได้เด็กชายแบบเจ้าไปเป็นของเล่นรับใช้"

    กะลาสีพูดอย่างหน้าตาเฉยชา โอคามิอากะเนะรู้สึกได้ถึงความที่เขาเป็นตัวถ่วงจากการเดินเรือตลอดสามเดือนนี้ เขาพยักหน้าเพียงครั้งเดียว และลงไปเก็บห่อผ้าที่ใต้ท้องเรือด้วยความกังวล เมื่อเรือเทียบท่า เขาเดินลงจากเรือโดยไม่พูดกับใคร

    "ข้าเคยอายุเท่าเจ้า ข้ารู้ดีว่าเข้ารู้สึกอย่างไร"

      เสียงกะลาสีผู้นั้นดังมาจากข้างหลัง โอคามิอะกะเนะหันกลับไปมองหน้ากะลาสีผู้นั้น เขาทำงานโดยไม่หันมาแม้แต่นิดเดียว

    "ขอบคุณท่านมาก"

       โอคามิอากะเนะกล่าวอย่างเสียงดังฟังชัด นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ขึ้นเรือมากที่เขาได้พูดอะไรชัดถ้อยชัดคำขนาดนี้ เมืองใหญ่แสงแดดสาดส่องตามซอกตึก ที่สร้างด้วยอิฐของเมืองมีฐานะ เมดาเรสเป็นเมืองท่าที่สำคัญ มีการส่งออกทั้งผ้าฝ้าย พริกไทย และเห็ดทรัฟเฟิลที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ ผู้ที่ใช้ผ้าคลุมส่วนใหญ่จะเป็นคนที่อยู่ในฐานะปานกลาง หรือตระกูลพอมีชื่อเสียง โอคามิอากะเนะเดินตามทิศของแสงแดด เขาสะดุดตากับร้านตีดาบร้านหนึ่ง ซึ่งเพิ่งมีเด็กชายผ้าคลุมสีเขียวเข้านัยตาสีน้ำเงิน เดินออกมาอย่างไร้ความสนใจในสิ่งรอบข้าง โอคามิอากะเนะเดินไปที่ร้านตีดาบแห่งนั้น แหงนมองป้ายเขียนชื่อร้านว่า "ร้านดาบหัก ซิลิออนซ์" โอคามิอากะเนะมองลงมาเห็นผู้ชายวัยกลางคนกำลังขมักเขม้นกับการตีดาบ 

    "เห็นได้ชัดว่าเจ้ามีธุระ"

    ช่างตีดาบกล่าวขึ้นโดยหันขึ้นมามองโอคามิอากะเนะแวบเดียว เขารับรู้ได้ถึงแววตาหมองเศร้าของเด็กชาย จากนั้นจึงหันหน้าเดินไปข้างหลัง หยิบเครื่องมือทำงานต่อ

    "ข้าอยากได้กล่องเก็บสร้อยคอของข้า

    โอคามิอากะเนะตอบอย่างรวดเร็ว ช่างตีดาบหยุดชะงักคิด 

    "ทำไมเจ้าไม่ไปร้านสร้อยตรงข้างแม่น้ำ ชาวเมดาเรสเรายกย่องร้านนั้นดี"

    "ข้าต้องการกล่องสร้อยจากปลอกดาบ"

    โอคามิอากะเนะ ตอบช่างตีดาบอย่างลังเล เขาไม่แน่ใจกับสิ่งที่เขาต้องการเช่นกัน

    "ได้เลย ได้เลย ท่านชาย แต่ช่วงนี้งานข้ายุ่ง ท่านรอข้าสักสองวันนะ"

    โอคามิอากะเนะยืนนิ่งอยู่หน้าร้าน เหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ช่างตีดาบอ่านใจเขาทันเสียก่อน

    "ดูเหมือนเจ้าจะเพิ่งลงเรือมา เจ้าเพิ่งมาครั้งแรกใช่ไหม เอาล่ะ ข้าจะไม่ถามอะไรเจ้ามาก ช่วงนี้ข้ามีงานชุก ลูกชายข้าคนเดียวช่วยไม่ไหว เจ้าอยากได้ที่พักไหม ข้าจะให้ข้าจ้างนิดหน่อย พร้อมอาหาร เจ้าจะได้มีที่อยู่ก่อนจะจากไป ขอโทษด้วยข้าเสียมารยาท ข้าอัลเฟอร์"

    โอคามิอากะเนะตกใจกับความเอื้อเฟื้อของชายแปลกหน้า แต่เนื่องจากไม่มีที่ไป เขาลังเลครู่หนึ่ง

    "ข้าโอคามิอากะเนะ ข้าตอบรับข้อเสนอของท่าน"

    "โอ้โห บ้านเมืองของเจ้าคงตั้งชื่อยาวๆกันสินะ ข้าจะเรียกเจ้าว่า โอคามิอั๋น อีกสักพักลูกชายข้าจะกลับมา ข้าจะให้เขาพาเจ้าไปรอบๆเมือง เจ้านั่งรอครู่หนึ่ง"

    โอคามิอากะเนะ ยังคงพยายามจำกับชื่อที่อัลเฟอร์ตั้งให้ใหม่ เขานั่งลงที่ม้านั่งไม้ข้างเตาหลอม มีเพียงแต่เทพธิดาเท่านั้นที่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×