คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2
Chapter 2
เสียงประตูห้องทำงานปิดลงพร้อมกับเสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนของคัง แบคโฮผู้เป็นลูกชายคนเล็กของผู้ถือหุ้นคนสำคัญของบริษัทแห่งนี้
" เฮ้อออ~ ทำไมถึงไม่ฟังกันบ้างน่ะ " แบคโฮเดินบ่นพึมพำจนมาถึงหน้าโต๊ะทำงานของเลขาที่เพิ่งเดินสวนเขาเมื่อครู่ ใบหน้าหวานที่สวมแว่นหนากำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างตั้งใจ..ก่อนจะต้องวางปากกาอย่างกะทันหัน
" คุณเลขา..ไปกับผมหน่อยสิ " แขนแกร่งเอื้อมไปจับมือเล็กอย่างถือวิสาสะก่อนจะออกแรงดึงให้อีกคนเดินตามมา
ขาเรียวก้าวเดินตามแรงที่อีกคนพาไปติดๆแม้จะพยายามสะบัดมือแค่ไหนก็ไม่อาจจะหลุดจากการเกาะกุมของอีกคนไปได้เลย
" อ่ะ คุณแบคโฮจะพาผมไปไหน "
" ตามมาเงียบๆเถอะน่า "
" นี่คุณ...ผมกำลังทำงานอยู่น่ะ " ร่างเล็กโดนดันให้เข้าไปนั่งในรถคันหรูก่อนที่เจ้าของรถจะปิดประตูใส่โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรและเต็มใจไปด้วยรึไม่
แบคโฮขึ้นรถนั่งตำแหน่งคนขับก่อนจะปรับกระจกแล้วออกคำสั่งกับอีกคน..
" คาดเข็มขัด ชั้นบอกให้คาดเข็มขัด "
แต่ดูเหมือนว่าเลขาหนุ่มจะไม่ได้ทำตามเลยกลับเอาแต่นั่งกอดอกมองไปนอกหน้าต่างรถเหมือนกับว่าเสียงของแบคโฮเป็นแค่ลมผ่าน
" เฮ้ออออ~ " แบคโฮส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจก่อนจะเอื้อมไปคาดเข็มขัดให้อีกคนอย่างชำนาญ..ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิมแล้วขับรถออกไปด้วยความเร็ว
:
:
แบคโฮใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการขับรถมายังที่หมายพร้อมกับคนข้างที่มองสำรวจตลอดทางทำเหมือนกับว่าเขาจะลวงมาฆ่าทิ้งยังไงยังงั้น...รถสปอร์ตคันงามถูกจอดหน้าผับที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในย่านการค้าของกรุงโซล
แบคโฮลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูและลากมืออีกคนลงมา..ก่อนที่รถคันหรูจะตกเป็นหน้าที่ของพนักงานประจำผับในการนำรถไปเก็บ
" คุณพาผมมาที่นี่ทำไม " อารอนมองไปรอบๆก็พบเพียงความว่างเปล่าทำให้เขารู้สึกใจคอไม่ดีเท่าไหร่..แม้ว่าร้านจะยังไม่เปิดแต่ก็น่าจะมีคนบ้างเพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายเกือบๆจะเย็นแล้ว
" มาเหอะน่า " แบคโฮออกแรงดึงอีกคนให้เดินตามมาจนถึงที่เคาว์เตอร์ที่ตรงหน้ามีขวดบรรจุเครื่องดื่มเรียงรายเต็มไปหมด
" คุณ "
อารอนยืนกอดอกมองร่างหนาที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจแต่ดูเหมือนว่าแบคโฮไม่ได้แคร์ท่าทางของเขาเลยกลับยกมือสั่งบาร์เทนเนอร์อย่างหน้าตาเฉย
" นั่งสิ...แล้วก็เลิกเรียกชั้นว่าคุณได้แล้วบอกเลยว่าไม่ชิน "
เมื่อดูจากรูปการแล้วคนตัวเล็กคงไม่ยอมนั่งตามคำขอของเขาแล้วแน่ๆ แบคโฮจึงพูดออกไปอีกครั้งเพื่อทำให้อารอนมั่นใจว่าเขาไม่ได้คิดร้ายอะไรแน่ๆ
" ชั้นไม่ทำอะไรนายหรอก..ก็แค่จะชวนมาดื่มเป็นเพื่อน " ว่าจบก้ยกน้ำสีอำพันขึ้นดื่มจนหมดแก้วราวกับว่าเป็นเพียงน้ำเปล่าธรรมดาเท่านั้น
" แต่ตอนนี้มันเวลางานผมน่ะ...ถ้าคุณมินฮยอนรู้ผมก้แย่สิ " อารอนยังคงบ่นอุบไม่หยุดปากด้วยความกังวลเพราะถึงแม้ว่าเขากับประธานบริษัทอย่างมินฮยอนจะรู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่ก็ใช่ว่าเขาจะมีสิทธิเหนือพนักงานคนอื่นๆได้
" อะ โทรบอกมินฮยอนซะ " แบคโฮตัดสินใจยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูให้แก่คนข้างๆอย่างอ่อนใจ พลางกำชับให้โทรบอกเพื่อนตัวดีของเขาที่คนตัวเล็กเคารพนักเคารพหนา
อารอนรับโทรศัพท์จากอีกคนมาอย่าว่าง่าย ก่อนจะยืนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจคืนสิ่งของในมือกลับคืนไปซึ่งสร้างความแปลกใจเป็นอย่างมากให้แก่แบคโฮที่กำลังนั่งดื่มอยู่อย่างสบายอารมณ์
" คุณ เอ่อ แบคโฮนายเป็นอะไรรึป่าว " คนตัวเล็กเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงพร้อมกับนังลงข้างๆ
" แค่เซ็งๆ..แล้วทำไมไม่โทรหล่ะ " สายตาคมหันไปมองอย่างสงสัย ทั้งที่เมื่อครู่ดูเหมือนจะไม่อยากอยู่ที่นี่แต่ทำไมถึงเปลี่ยนใจกะทันหันแบบนี้ได้
" ก็... " ใบหน้าหวานก้มงุดเพราะไม่รู้จะบอกเหตุผลอีกคนไปยังไง จะว่าเป็นห่วงก็ไม่ใช่รึแค่เกรงใจก็ไม่เชิง…แต่ดูเหมือนว่าแบคโฮจะไม่ได้ใส่ใจว่าเขาจะตอบรึไม่แต่กลับยื่นแก้วใบใสที่มีน้ำสีอำพันให้เป็นการเชิญดื่มแทนเสียด้วยซ้ำ
" ดื่มสิ "
" หือ? ผมไม่ " อารอนส่ายหน้ารัวเป็นการปฏิเสธแต่ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยเมื่อแบคโฮยังคงดึงดันยัดแก้วใส่ในมือล็กอย่างง่ายดาย
" ไม่ปฏิเสธ " แบคโฮยิ้มดีใจอย่างผู้ชนะก่อนจะยกแก้วดื่มจนหมดอีกรอบ
เสียงสั่นครืดๆจากโทรศัพท์เครื่องสวยกระทบกับโต๊ะ หน้าจอแสดงชื่อเจ้าของสายเข้าอย่างชัดเจน
จนแบคโฮต้องรีบกดรับและไม่วายที่จะสะกิดบอกคนที่นั่งอยู่ข้างๆที่กำลังลองจิบๆเครื่องดื่มในแก้วอยู่ให้รู้ตัว
" มินโทรมาแล้ว "
( แบคโฮ!! เอาตัวเลขาชั้นไปทำไม ) เสียงทุ้มดังขึ้นทันทีที่กดรับจากน้ำเสียงก็สามารถรู้ได้เลยว่าปลายกำลังโกรธขนาดไหน
" ยืมตัววันนึง แค่นี้น่ะ " นิ้วเรียวกดวางสายทันทีหลังจากพูดประโยคสั้นๆแต่กวนเบื้องล่างจบลง
เวลาล่วงเลยมาจนดึกผู้คนมากหน้าหลายตาทยอยเข้ามาหาที่นั่งเพิ่งผ่อนคลายอารมณ์และโยกย้ายไปตามจังหวะเพลงซึ่งต่างกับอารอนและแบคโฮ ทั้งคู่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมมองคนเดินไปมาอย่างไม่รู้เบื่อ
" ปะ เดี๋ยวชั้นไปส่ง " มือหนาเอื้อมไปจับแขนเล็กเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าของคุณเลขาคนเก่งที่ดูจะอยู่ต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ
แต่ดูเหมือนว่ากลับจะเป็นแบคโฮเสียเองที่เป็นฝ่ายน่าห่วงยิ่งกว่าเพราะเพียงแค่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ร่างหนาถึงกับเซ
" แบคโฮไหวมั้ย " อารอนรีบประคองร่างที่เหม็นกลิ่นเหล้าของอีกคนไว้อย่างทุลักทุเล
" ไหวสิ แค่นี้เอง " แบคโฮยิ้มแหยก่อนจะจับมือเล็กเดินฝ่ากลุ่มคนออกไปจากที่แออัดตรงนี้ ด้วยความเบียดเสียดของคนมากหน้าหลายตาที่อยู่ภายในทำให้คนที่ตัวเล็กกว่าจำต้องจับมือหนาไว้แน่นตลอดทางจนกระทั่งเดินไปถึงที่ที่รถคันหรูจอดอยู่
“ นายขับไหวใช่มั้ยแบคโฮ “ อารอนถามขึ้นด้วยท่าทีที่ระแวงแกมเป็นห่วงทันทีที่เข้าไปนั่งในรถคันหรูที่เป็นตัวนำพาเขามาในที่แห่งนี้
" อื้อ " เสียงตอบรับในลำคอของคนตัวโตช่วยสร้างความเบาใจให้แก่คนที่นั่งข้างๆได้เปราะนึงแม้จะไม่เต็มร้อยแต่ก็ช่วยให้มั่นใจว่าตัวของอารอนจะมีชีวิตรอดกลับไปทำงานในเช้าวันพรุ่งนี้
แบคโฮเหยียบคันเร่งเต็มสปีดของความเร็วรถทำให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับหลับตาปี๋พลางภาวนางึมงำในลำคอตลอดทาง…จนกระทั่งถึงที่หมายนั่นก็คือบ้านของอารอน ขนาดของตัวบ้านใหญ่พอเหมาะสำหรับการอาศัยอยู่แค่คนเดียว โดยรอบบ้านมีการตกแต่งเป็นสวนหย่อมเล็กๆที่มองแล้วสบายตา
" ขอบคุณที่มาส่ง..อย่างปลอดภัย " อารอนก้าวลงจากรถพร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณโดยเน้นย้ำประโยคหลังให้อีกคนได้ยินชัดเจนสิ้นเสียงบอกลารถคันงามก็เคลื่อนตัวจากไป…อารอนหันหลังเดินกลับเข้าบ้านไปด้วยความเหนื่อยอ่อนเต็มที แต่เท้าเล็กกลับต้องชะงักกึกเมื่อเสียงบางอย่างดังขึ้นกะทันหัน
เอี๊ยด!!!!
คนตัวเล็กรีบวิ่งออกมาจากบ้านอีกครั้งโดยลืมอาการเหนื่อยเมื่อครู่ไปเสียสนิทในใจได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้เป็นคนในความคิดคนนั้นเลย…แต่ใจดวงน้อยก็หล่นวูบเมื่อภาพตรงหน้าที่เห็นคือรถคันเดียวกันที่เพิ่งขับมาส่งเขาเมื่อครู่ที่ผ่านมา
" แบคโฮ!! "
" อายหมาบ้าเอ๊ย..ข้ามถนนไม่ดูทางเลย " แบคโฮสบถอย่างขัดใจพร้อมกับกระแทกแขนกับพวงมาลัยรถเมื่อเห็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ตัวเขาต้องเสียหลักเบรคกะทันหัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงกระทบกระจกรถด้านข้างคนขับดังขึ้นรัวๆอย่างร้อนใจจนแบคโฮที่อยู่ภายในรถต้องรีบกดลดระดับลง…และในทันทีที่กระจกลงเผยให้เห็นใบหน้าของแบคโฮคนข้างนอกที่ยืนรออยู่ก็ชะโงกหน้าเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง..
" เป็นอะไรรึป่าวแบคโฮ "
" ป่าวววว ซาบายมาก " ใบหน้าหล่อยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นอารอนก่อนจะตอบกลับไปอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
" หัวนาย " คำพูดสั้นๆดังขึ้นพร้อมกับปลายนิ้วที่ยกขึ้นชี้บริเวณหัวของคนตัวโต…และเป็นดังคำประกาศิตเพราะเมื่อสิ้นเสียงพูดของอารอนก็มีเสียงของแบคโฮร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดทันที
" หือ โอ้ย! " แบคโฮยกมือขึ้นแตะหัวตัวเองก่อนจะรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดที่ติดมากับปลายนิ้วสาก
" ไปทำแผลที่บ้านผมก่อนมั้ย "
" อืออออ "
สิ้นเสียงคำตอบรับแบคโฮก็ก้าวลงจากรถอย่างทุลักทุเลจนต้องลำบากเจ้าของบ้านอย่างอารอนที่ต้องคอยประคองพาอีกคนคนเดินเข้าบ้านเพื่อไปทำแผล
" หนักชะมัดเลย อ้ะ " อารอนบ่นอุบพร้อมกับค่อยๆประคองร่างอีกคนให้นอนลงบนโซฟากว้างสีทึบอย่างลำบาก
หมับ!!!!!!!
" อ้ะ! แบคโฮ "
Cut
@Young_Min_Hyun
ความคิดเห็น