คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 5 เข้าใจผิดเลยคิดไม่ซื่อ
5
เข้าใจผิดเลยคิดไม่ซื่อ
พอกลับมาถึงคอนโดห้องพักซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจาก บริษัท พีเค เอนเนอร์ยี่ จำกัด มากนัก หากสังเกตดีๆ จากห้องพักของเธอ สามารถมองเห็นตัวอาคาร และบริเวณรอบๆ บริษัทด้วยซ้ำ ชรัญดารี่เข้าเปิดตู้ยาค้นหาอุปกรณ์ที่ต้องใช้แล้วเดินถือของมาวางตรงโต๊ะเล็กหน้าโซฟาตัวยาวที่มีชายหนุ่มร่างสูงยึดเป็นที่นั่งเรียบร้อย
“ไหน... ขอดูแผลหน่อย”
โภคินค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อที่เหลือเตรียมถอดมันออกจากตัว หากเสียงโวยวายลั่นของยัยตัวเล็กข้างกายก็ทำเอาเขาสะดุ้งทำอะไรไม่ถูกชะงักไปชั่วขณะ
“นั่นคุณถอดเสื้อทำไม ฉันขอดูแค่แผลนะ!”
“เฮ่อ! ถ้าไม่ถอดแล้วคุณจะทำแผลให้ผมได้ไง แผลมันอยู่บริเวณต้นแขนนะ! ยังไงผมก็ต้องถอดเสื้อออก ทำอย่างกับไม่เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้าไปได้ อายุปูนนี้แล้ว” เขาบ่นอุบ ประโยคหลังเขาหมายถึงว่า เห็นเด็กผู้ชายแก้ผ้า หรืออะไรที่เกี่ยวกับผู้ชายแก้ผ้าประเภทแบบว่าใส่กางเกงว่ายน้ำประมาณนั้น ไม่ได้มีเจตนาให้คนข้างๆ คิดลึกเลยสาบานได้
‘ฮึ่ม! มันจะหยามกันมากไปแล้วนะ อายุปูนนี้แล้วไง ฉันยึดมั่นในความเป็นกุลสตรีไทย ที่ต้องรู้จักรักนวลสงวนตัว ปกป้องไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง ทว่า เธอไม่กล้าประกาศกร้าวหรอกว่าเธอยัง เวอร์จิ้น’
ความอยากเอาชนะผู้ชายตรงหน้ามีมากกว่า กับคนอื่นเธอควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก แต่กับผู้ชายคนนี้ทำเธอน็อตหลุดตลอด
“คุณหาว่าฉันอายุมากแต่ยังไม่เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้างั้นเหรอ เฮอะ! ไม่อยากจะอวด เห็นมานักต่อนักจนเอียนละไม่ว่า ทั้งดูดี พอดูได้ แล้วก็ไม่ได้เรื่อง เยอะแยะจนเลือกไม่ถูก” บอกด้วยน้ำเสียงโอ่ๆ พูดเองก็หน้าแดงเอง ทั้งที่ความจริงเธอหมายถึงการสัมผัสได้ด้วยตาเปล่าจริงๆ
ส่วนคนฟังพอได้ยินถึงกับควันออกหู เลือดขึ้นหน้าคิดไปไกลตามคำบอกเล่ากำกวมของ ‘คนขี้โอ่’ ‘นี่ชรัญดาหมายความว่าไงไอ้ที่ว่า เห็นมานักต่อนัก เธอชำนาญการขนาดคิดคบผู้ชายไว้นับแต้มเลยเหรอ เขาก็อยากรู้นักไอ้ที่เธอโอ้อวดไว้จะทำให้เขาพลุ่งพล่านได้มากซักแค่ไหนเชียว’
ไวเท่าความคิดมือหนาคว้ามือเรียวที่กำลังบรรจงทำแผลให้เขาอย่างเบามือกระชากร่างแบบบางเข้าประชิดอกแกร่งโดยที่คนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัว ดวงหน้าเรียวสวยถลาแทบชนดวงหน้าหล่อใกล้กันแค่ไม่กี่เซ็นฯ
*************************************************************************************************
*************************************************************************************************
“เป็นไงรส...ผมดูดีหรือพอดูได้ล่ะ แต่คงไม่ถึงขั้นไม่ได้เรื่องหรอกมั้ง!” ถามเสียงเยาะยิ้มเชิงข่มที่ได้แกล้งยัยปลาปิรัญย่าให้เกิดอารมณ์สั่นไหวใกล้กับเรียวปากสวยที่ยังหอบกระเส่าจากรส...
ชรัญดาที่ยังปรับสีหน้าท่าทางจากการถูกจู่โจมในระยะกระชั้นไม่ถูก ปลายลิ้นสีชมพูเลียริมฝีปากตนเองเพื่อเรียกความชุ่มชื้นคืนมา ทว่ากลับเรียกเสียงครางต่ำของคนตรงหน้าด้วยนี่สิ หัวใจยังเต้นรัวด้วยจังหวะร็อคแอนด์โรลไม่หยุด
ชรัญดาไม่คิดว่าเขาจะเปรียวได้ขนาดนี้ กล้ากระชากเธอเข้าไป...หน้าตาเฉย เขาเกิดบ้าอะไรขึ้นมา เธอแค่ตอบตามความจริง อายุปูนนี้จะไม่ให้เธอเคยเห็นรูปร่างผู้ชายก็กระไร หนังสือนายแบบนู๊ดที่หล่อๆ ดูดี เธอก็เคยซื้อมาลองศึกษาเผื่อไว้เป็นวิทยาทาน แล้วที่เธอบอกว่า ‘ดูดี พอดูได้ กับไม่ได้เรื่อง’ เธอก็หมายถึงลักษณะรูปร่างของพวกผู้ชายที่เธอเคยพบเห็น ช่วงที่เธอไปพักผ่อนท่องเที่ยวลองวีคเอนท์กับเพื่อนนักศึกษาชาวเอเชีย
พวกเธอมีโอกาสได้ไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน (onsen) แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับภูเขาไฟฟูจิแล้วเพื่อนสาวใจกล้าของเธอก็เป็นแกนนำชวนพวกเธอลงแช่ในบ่อรวม ผลก็อย่างที่บอก
มีหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ หลากหลายวัยในผ้าขนหนูผืนเล็ก ผืนน้อยโชว์ทั้งไขมัน กล้ามเนื้อ และกล้ามเป็นมัดน่ามองจนละลานตาไปหมด แล้วก็ใช่ว่าจะมีแต่ผู้ชาย ผู้หญิงก็ออกเยอะแยะจะไม่ให้เธอยอมรับว่าเคยเห็นรูปร่างผู้ชายได้ยังไง อย่างนี้มันน่านัก!
“ฮึ่ม! มันจะหยามกันเกินไปแล้วนะ นายผีเค!” เธอตะคอกว่าคนตรงหน้าเสียงดังกลบเกลื่อนหวังข่มความละอายที่ช่วงหลังเธอกลับเป็นฝ่ายยินยอมพร้อมใจคล้ายกับอยากลองลิ้มชิมรส...ต่อ
มือเล็กตะปบบีบเน้นไหล่กว้างข้างที่ได้รับบาดเจ็บในระยะขยับลงไปอีกนิดก็แผลเขาเลยล่ะ
“โอ๊ย! ยัยปลาปิรัญย่า เจ็บนะบีบมาได้” เขาว่ามือหนาดึงมือเรียวเล็กให้พ้นขีดอันตราย ไม่งั้นแผลที่ยังไม่หายดีอาจอักเสบเรื้อรังแน่
“หึ! นายมันก็สมควรโดนแล้วล่ะ กล้าดียังไงมาจูบฉัน ห๊า!”
“ก็รัญบอกเองว่าเห็นมานักต่อนัก ผมก็คิดว่ารัญน่าจะ ‘เคย’ มาบ้างแล้ว” เขาย้อนสายตากรุ้มกริ่มส่อแววมีเลศนัย
“ก็ใช่! ฉันยอมรับว่าเคยเห็น แต่ไม่ได้หมายความว่าเคยสัมผัสนี่นา!” เธอหลุดปากคล้ายสารภาพ หากเจ้าของร่างสูงกลับตีหน้าเฉยว่าต่อ
“อ้าว! ผมก็นึกว่ารัญ ‘เคย’ เลยอยากให้ลองเปรียบเทียบดู” เขาทำหน้าทะเล้นตอบและผลที่ออกมาก็เป็นไปตามคาด
“อย่ารักษามันเลยแผล! ทำแผลเพิ่มดีกว่า ย๊ากส์!!!”
ชรัญดาฟิวส์ขาดแล้วตอนนี้มันดูถูกกันชัดๆ มีอย่างที่ไหนหาว่าเธอ ‘เคย’ ให้ลองไปเปรียบเทียบดู ‘ได้! ลองเปรียบเทียบหมัดฉันตอนนี้กับตอนสิบขวบดูสิว่าจะยังหนักเหมือนเดิมมั้ย’
ร่างเล็กถลาผลักร่างสูงให้นอนราบกับโซฟาบีบใบหูทั้งสองของเขาไว้แน่นแล้วเขย่า กระแทก เขย่า กระแทก จนคนใต้ร่างได้แต่ร้องโอดโอย สาบานได้เธอไม่เคยโมโหร้ายแบบนี้เลยให้ตาย! ทว่าตั้งแต่พบผู้ชายคนนี้ไม่ทันครบขวบวัน เธอทำได้ทุกอย่าง ทั้ง เจ้าเล่ห์ แสนกล แต่งสวย สุดท้ายนางมารร้ายในตอนนี้
ถ้าไม่เพราะอยากรักษาโรงเรียนสอนศิลปะป้องกันตัวชรัญดาไว้จ้างให้เธอก็ไม่มีวันยอมตกอยู่ใต้อานัดของอีตา ‘ปรมาจารย์ปลาไหล’ นี่แน่ ฉายานี้ได้ยินว่านิตยสารชื่อดังตั้งให้เสียด้วย และไอ้ประโยคสัมภาษณ์เล่มล่าสุดเมื่อสุดสัปดาห์ ยิ่งคิด ยิ่งแค้น ยิ่งต้องเพิ่มน้ำหนักมือ
‘การที่ผมควงผู้หญิงทีละคนแล้วมาตั้งฉายาให้ผมเป็นถึงปรมาจารย์ปลาไหลนี่ มันก็ใส่ร้ายกันเกินไปนะครับ แม้ผมจะคบกับใครไม่เคยเกินสามเดือน แต่ก็ไม่เคยคบเผื่อเลือกแน่นอน’ เชอะ! ยังมีทิ้งท้ายความกะล่อน!
จากเขย่าหัว ภาพบทความการให้สัมภาษณ์ยิ่งสุมอารมณ์โมโห เธอเปลี่ยนมาบีบคอหนาจนคนหล่อหน้าตาเหยเกทนไม่ไหวดึงมือเล็กทั้งสองข้างออก ทั้งที่ตั้งใจจะยอมนอนนิ่งๆ ให้เธอขย่ม เขย่า ทำโทษตามแต่ใจ แต่มันไม่ไหวจริงๆ ก็คุณเธอเล่นบีบแบบกะจะให้ตายคามือ ไม่รู้เคยโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน
“แค่ก! แค่ก! พอได้แล้ว ผมขอโทษที่พูดแบบนั้น คราวหน้ารัญก็อย่าพูดกำกวมแบบนั้นสิ ผมเป็นผู้ชายนะก็ต้องคิดลึกไว้ก่อน”
“นายมันปลาไหล ไม่เคยยอมรับผิด”
“โอเคๆ ผมผิดเองที่ถามคำถามแบบนั้น รัญเลยเข้าใจผิด ขอโทษด้วยละกัน ทีนี้จะยอมยกโทษให้รึยัง หืม...”
“...”
“ดีกันนะ อย่าโกรธกันเลย นะครับน้องรัญ”
‘อี๋! ผู้ชายบ้าบทจะหวานก็หวานจนขนลุก แหวะ!’
ชรัญดาสลัดแขนเรียวเล็กออกจากมือหนาหอบหายใจ ฮั่ก! ด้วยออกแรงไปกับการประทุษร้ายคนใต้ร่างเสียเต็มกำลังมีเท่าไหร่ใส่เต็มที่ วางมือซึ่งถูกปล่อยเป็นอิสระกับอกกว้างโดยไม่ตั้งใจ ทิ้งน้ำหนักตัวบนร่างหนาแกร่ง จนเธอรู้สึกได้ถึงอาการหายใจสะดุดจึงเงยหน้ามองดวงหน้าหล่อเหลาที่สอดสองมือใต้ท้ายทอยต่างหมอนจ้องมองเธอตาเยิ้ม
“เฮ้ย!”
ร่างเล็กผวารีบลุกจากหน้าท้องแข็งเป็นลอนซึ่งเรียวขาเล็กนั่งคร่อมทับอยู่นานเท่าไหร่ไม่รู้รวดเร็วราวจรวด เลยพรวดพราดเตะสะดุดพรม หน้าคว่ำกระทบกับ อกกว้าง อีกครั้ง คราวนี้ซบทั้งหน้ารับรู้ถึงกลิ่นกายบุรุษเพศสูดดมกลิ่นตัวเขาเข้าเต็มปอดอย่างลืมตัว แอบชื่นชอบกลิ่นกายชายหอมสะอาดของเขา
มือหนาที่คว้าร่างแบบบางให้พ้นจากการจูบพื้นเปลี่ยนมาจูบอกเขาแทนลูบไล้แขนเรียวพลางกระเซ้าติดจะกรุ้มกริ่มแยกยิ้มเผยเขี้ยวเสน่ห์มัดใจสาวได้ชะงัด ถ้ามากกว่านั้นคงได้มียกสอง
“กลิ่นตัวผมใช้ได้มั้ย คุณบอดี้การ์ด รัญช่วยลุกทำแผลให้ผมก่อนได้มั้ย รู้สึกปวดมากเลยตอนนี้” เป็นน้ำเสียงนุ่มทุ้มขอร้องได้น่าฟังที่สุดตั้งแต่เจอกันเมื่อเช้าจนถึงเดี๋ยวนี้ แล้วเธอก็เป็นประเภทใจอ่อนทุกทีที่ถูกออดอ้อน
ทีนี้เธอเลยค่อยลุกระมัดระวังตัวเต็มที่ด้วยกลัวว่าจะเซ่อซ่า ซุ่มซ่ามล้มคะมำหน้าคว่ำอีก
“ลุกขึ้นมาฉันจะได้รีบทำให้เสร็จแล้วรีบกลับ”
เขาชำเลืองมองดวงหน้าสวยคมที่ยังยืนชะโงกค้ำยื่นมือเรียวสวยมาช่วยพยุงเลิกคิ้วส่งสายตาฉงนเชิงหยอกล้อคล้ายอยากถามว่า ‘อะไรเสร็จ เสร็จอะไร’ จนคนพูดรู้สึกได้ถึงความผิดปกตินั้น ทบทวนคำพูดดูก็เห็นจะจริง
“ฉันหมายถึงทำแผลเสร็จน่ะ เร็วๆ เข้าชักช้าอยู่ได้!” อ๊าย! อีกแล้ววันนี้เธอเป็นอะไรกันแน่ชรัญดา พูดผิดพูดถูกอยู่ได้
คนเจ็บไม่ยักกะตั้งคำถามด้วยสายตาแฮะคราวนี้ ที่ไหนได้เขากำลังหมายมาดคิดจับเธอสอนภาษาไทยให้รู้แจ้ง ‘ลึกซึ้ง’ กับแต่ละประโยคที่เธอได้เปล่งวาจาออกมา แต่ละคำมันชวนให้คิดลึกอยู่เรื่อยเลย
มือเล็กลงมือทำแผลให้เขากระทั่งเสร็จเรียบร้อยโดยไม่หลุดถ้อยวาจาใดๆ ให้เขาเข้าใจผิดอีก เดี๋ยวจะต้องมานั่งตีความกันใหญ่โต เรื่องเยอะอีก
“อ่ะ! เสร็จเรียบร้อย คุณรอฉันสักครู่นะ ขอเก็บเสื้อผ้าสิบนาที” เธอบอกพลางลุกกำลังจะพ้นประตูเข้าสู่อาณาเขตห้องนอนยังได้ยินเสียงบ่นพำพึมคนเดียวคล้ายไม่เชื่อถือ และขาดเพียงสามสิบวินาทีก็จะครบสิบนาทีเธอก็ออกมาในชุดเดิมที่เพิ่มเติมคือกระเป๋าเป้ใบขนาดไม่ใหญ่มากและกระเป๋าเสื้อผ้าแบบล้อลากขนาดกลาง หากแต่เต็มใบด้วยสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าและของสำคัญ ที่ผู้หญิงพึงมีติดตัวเอาไว้
คิ้วหนาเลิกสูง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มพราวระยับ มุมปากยกยิ้ม มองร่างเล็กที่ยืนขวางประตูห้องนอนอย่างเหลือเชื่อ เรียกเสียงขบขันปนเยาะเย้ย จากเรียวปากเล็กสีแดงสดจนเขาอยากกระชากร่างนั้นมาบดขยี้อีกครั้งและอีกครั้งเอาให้ริมฝีปากบวมเจ่อเป็นแตนต่อยไปเลย โทษฐานล้อเลียนเขา
“ก็บอกแล้วไงว่าสิบนาที ฉันไม่ใช่พวกสาวๆ ของคุณนะจะได้เอ้อระเหย เรียกร้องความสนใจ ชิ!”
ร่างสูงไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดเลยตัดบทเสีย
“เรียบร้อยแล้วนี่ไปกันเถอะ”
สองหนุ่มสาวเข้ามานั่งประจำที่บนรถหรู คราวนี้โภคินเปลี่ยนมานั่งหน้าคู่กับชรัญดา และหญิงสาวยังคงทำหน้าที่ ‘พลขับ’ และรับตำแหน่งบอดี้การ์ดส่วนตัวอย่างเต็มตัว จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมชายคากับหนุ่มหล่อโสดติดอันดับท็อปเท็นแบบนี้ เธอจะต้องรักษาไว้ซึ่งหัวใจมั่นคงเด็ดเดี่ยวห้ามเอนเอียงหลงเสน่ห์ผู้ชายหล่อลากข้างกายเด็ดขาดไม่เช่นนั้นเธอคงต้องมานั่งกินน้ำตาต่างข้าว เพราะความเจ้าชู้ของเขาแน่
...แต่แท้ที่จริงแล้วเธอ ‘หลง’ มาตั้งนานแล้วต่างหาก...
เขาชวนเธอคุยเลื่อนเปื้อนระหว่างเดินทางจากคอนโดห้องพักของเธอมุ่งตรงมายังอาคาร พีเค เอนเนอร์ยี่ ซึ่งชั้นบนใช้เป็นที่พักของชายหนุ่มทั้งชั้น และหลายประโยคก็ทำให้เธอของขึ้น จนคิดว่าสมาธิที่เธอฝึกฝนมาเนิ่นนานจะแตกซ่านเพราะผู้ชายข้างกายนี่ก็หลายทีและก็แตกไปแล้วทีนึงด้วย
ระหว่างที่เธอพยายามนับหนึ่งให้ถึงร้อย พลันสายตาก็กระทบเข้ากับมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง คนขับสวมหมวกกันน็อคปิดมิดชิด คนซ้อนท้ายก็เช่นเดียวกันสวมชุดดำทั้งชุด เธอเลยหันมาถามคนข้างกายเสียงเครียดติดจะตื่นเต้นเล็กน้อยด้วยไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ถูกใครตามฆ่ามาก่อน
‘รับงานบอดี้การ์ดวันแรกก็เจอดีเสียแล้วชรัญดาเอ๊ย!’
“คุณโภคิน มอเตอร์ไซค์คันข้างหลังขับตามเรามาได้สักพักแล้วนะ คุณเห็นเหมือนฉันรึเปล่า”
เขาทำเพียงปรายตามองกระจกข้าง หากแต่ยังไม่ตอบก็เขาเห็นมาได้สักพักใหญ่แล้วล่ะว่าถูกตาม แต่ด้วยช่วงเวลานี้รถยังจอแจหนาแน่นพวกมันเลยยังไม่คิดลงมือ แต่ถ้าถึงซอยปากทางเข้าบริษัทเมื่อไหร่ก็ไม่แน่ แล้วเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่า บอดี้การ์ดส่วนตัวของเขาจะทำยังไงต่อไปเลยขอความเห็น
“เห็นนานแล้ว เธอคิดว่ามันจะลงมือตอนนี้มั้ยล่ะ”
“คงไม่ รถยังเยอะอยู่เลย ฉันว่า เรามาลงสนามแข่งรถกลางเมืองกันดีกว่า ถึงเราจะได้เปรียบตรงสมรรถนะของรถก็เถอะ แต่ของพวกมันได้เปรียบด้านความปราดเปรียว ฉะนั้น เอาละนะ” ชรัญดาตอบแสยะยิ้มสีหน้าเหี้ยม เหยียบคันเร่งพุ่งตัวราวลูกธนูออกจากแหล่งแบบไม่ทันให้เจ้าของรถและมือปืนได้ทันตั้งตัวเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนจากแดงเป็นเหลืองแล้วถึงเขียว รถหรูซิกแซกแซงซ้ายปาดขวาอย่างน่าหวาดเสียว จุดไหนมีกล้องวงจรปิดคาดว่าไม่ถึงสัปดาห์ตำรวจทางหลวงหรือท้องที่คงส่งใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับที่ สน. ท้องที่แน่ ใช้เวลาไม่เท่าไหร่เธอก็สลัดพวกมือปืนหลุด แต่คาดว่าพวกมันต้องตามมาถึงอาคาร พีเค เอ็นเนอร์ยี่ อย่างแน่นอน
โธ่เอ๊ย! มอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์วีสี่เธอจำไม่ได้ว่าขนาดกี่ซีซี แต่น่าจะร้อยเจ็ดสิบกว่าแรงม้าและแรงบิดสูงสุด ประมาณร้อยยี่สิบนิวตันเมตรที่แปดพันกว่ารอบ/นาที หรือจะมาสู้เบ็นซ์สปอร์ตนวัตกรรมใหม่แห่งยานยนต์สี่ร้อยแปดสิบเจ็ดแรงม้าอัตราเร่งศูนย์ถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง ยังห่างชั้นกันเยอะเห็นเธอเรียนการต่อสู้มาจนเชี่ยวชาญ ด้านเครื่องยนต์เธอก็ไม่เป็นสองก็เธอลงสนามทุกครั้งยามว่างถ้าจะวัดระดับเธอก็น่าจะอยู่ในขั้นชำนาญการ ไม่ได้ขี้โอ่นะ! แต่อานนท์บอกมา
เธอนำเบ็นซ์สปอร์ตคันหรูสีดำที่เจ้าของรถยังนั่งนิ่งตกตะลึงกับการขับขี่อันน่าหวาดเสียวของชรัญดาตาโตปากเผยอค้าง ตัวแข็งราวกับถูกสตาฟ
‘เหลือเชื่อ! คุณเธอทำเขาอึ้งอีกแล้ว เก่งการต่อสู้ไม่พออันนี้เขารู้แจ้งดี แถมยังขับรถเก่งเข้าขั้นนักแข่งอีก’ หลังจากหายอึ้ง ตะลึง เขาก็ก้าวลงจากรถมายืนนิ่งฝั่งประตูรถตรงข้ามกับคนตัวเล็กที่ออกมายืนในเวลาไล่เลี่ยกันเงยหน้ามองเขาเหมือนต้องการจะบอกว่า ‘เป็นไงฉันพอจะดูแลคุณได้ดีพอมั้ย’ อะไรประมาณนั้น แล้วมีหรือที่เขาจะยอมรับโดยดุสดี มันต้องมีวิธีทำให้หญิงสาวศิโรราบสิน่า
‘ผู้หญิงเก่งมากไปไม่ดี ประเดี๋ยวในอนาคตจะข่มสามีให้กลัวหงอ’ เขาหมายถึง เขาห่วงว่าที่สามีของเธอในอนาคตก็เลยจะช่วยปราบพยศให้ ไม่ได้คิดอะไรเลยพับผ่าสิ!
ทว่า... สันดานผู้ชายน่ะนะ! มีดอกไม้มาอยู่ใกล้มือเสียขนาดนี้ ปีศาจน้อยฝ่ายอธรรมมันเลยอยากออกมาแผลงฤทธิ์ ทั้งที่ดอกไม้ดอกนี้เป็นสิ่งต้องห้าม
“เก่งไม่เบาเลยนะที่สลัดพวกนั้นพ้น”
“คุณคิดว่าพวกมันรู้ที่อยู่พวกเรารึเปล่าล่ะ” ชรัญดาถามไปอีกเรื่อง
“ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกมันจะรู้ว่าเราพักที่ไหนกัน ถึงไม่รู้ตอนนี้ อีกไม่นานก็คงรู้ มีของอะไรบ้าง มา... ผมช่วย”
“นี่ค่ะ” เธอยื่นกระเป๋าเป้และกระเป๋าลากในมือให้เขาอย่างไม่มีจริต ก็เขามีน้ำใจจะช่วย จะมาทำขวยเขินก็ใช่ที่ อีกอย่างเขาคงไม่คิดจะมาเกี้ยวพาราสีกับบอดี้การ์ดสาวหน้าตาพอดูได้อย่างเธอหรอก ‘คุณชรัญพ่อของเธอเคยบอกไว้อย่างนั้น’ อย่าได้หวังลงประชันขันแข่งกับบรรดาคู่ควงของเขาเลย คิดมาถึงตรงนี้ก็เจ็บจี๊ด! เธอไม่อยากยอมรับเลยว่า...
เฮ่อ.. ไม่เอาเลิกคิด
“โอ๊ะ! อะไรอยู่ข้างในทำไมหนักแบบนี้”
“ของใช้ส่วนตัวทั้งนั้นล่ะค่ะ” เธอตอบเสียงเรียบไม่ได้ให้ความชัดเจนมากไปกว่านั้น คนถามอย่างเขาเลยไม่รู้จะเซ้าซี้ไปทำไม
ชรัญดาสาวเท้าตามร่างสูงที่จ้ำอ้าวแถมยังคว้าแขนเล็กข้างที่ว่างให้เดินตาม
สองหนุ่มสาวขึ้นลิฟท์ส่วนตัวกระทั่งถึงชั้นที่พักของชายหนุ่มที่มีห้องว่างอยู่สามห้อง ซึ่งห้องใหญ่เขายึดไว้เป็นห้องส่วนตัว ส่วนที่เหลือก็เป็นห้องว่างและเขาบอกว่าให้เธอพักห้องที่อยู่ติดกับเขา เพราะห้องเล็กอีกห้อง เขาใช้เป็นห้องเก็บของไปเสียแล้ว
“รัญใช้ห้องนี้ได้ตามสบายเลยนะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาคุยกันว่าจะเอายังไง”
ชรัญดาพยักหน้ายอมรับ เพราะเวลานี้มันก็ดึกมากโขแล้วด้วย เธอทั้งเหนื่อยและเพลีย และตั้งแต่เที่ยงกระทั่งถึงเดี๋ยวนี้เธอก็มีแค่แซนวิชรองท้องไปสองชิ้นและน้ำผลไม้แค่นั้น แต่ถ้าจะให้ออกไปหาอะไรกินตอนนี้มันก็รู้สึกตื้อจนกินไม่ลงเสียแล้ว
*****************************************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป --->>>
สฤษดิ์
https://www.facebook.com/chaya.kam
--- Beloved Bodyguard ---
ความคิดเห็น