Harry Potter 'n' The First Diary - Harry Potter 'n' The First Diary นิยาย Harry Potter 'n' The First Diary : Dek-D.com - Writer

    Harry Potter 'n' The First Diary

    ฟิกชั่น เมื่อครั้งอดีต ดูประหลาดๆ แต่ก้อช่วยอ่านหน่อยเตอะ

    ผู้เข้าชมรวม

    467

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    467

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    4
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 เม.ย. 49 / 21:26 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Harry Potter and The first diary

                      เช้าอันสดใสวันหนึ่งของฤดูร้อนปี2009 แฮร์รี่นอนอยู่บนเตียงของเขาอย่างสบายที่ชั้นบนของบ้านเดอร์สลีย์ แต่เขาจำต้องตกใจตื่นขึ้นด้วยเสียงวิ่งขึ้นบันไดของดัดลีย์ ลูกชายสุดที่รักของลุงเวอร์นอนและป้าแพตทูเนีย

                      แฮร์รี่ ตื่นๆๆๆๆๆดัดลีย์ตะโกนเรียกแฮร์รี่พร้อมกับรัวมือเคาะประตู

                      มีอะไรดัดลีย์ แฮร์รี่แง้มประตูออกมาถาม

                      เจ้าตัวขี้เกียจ ตื่นแล้วรึ นี่ถ้าดัดลีย์ไม่มาปลุกแกคงจะนอนจนถึงเที่ยงเลยสินะป้าแพตทูเนียซึ่งกำลังเดินขึ้นบันไดมาชมผลงานการปลุกของลูกชายของหล่อน

                      รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วๆเข้า แล้วลงมาช่วยชั้นข้างล่าง ป้าแพตทูเนียสั่งและเดินกลับลงไปพร้อมดัดลีย์

                  แฮร์รี่เดินกลับเข้ามาในห้องและทิ้งตัวลงบนเตียง พร้อมกับความคิดที่หาทางไปบ้านรอน แต่เขาก็ต้องเลิกคิดเพราะเสียงของลุงเวอร์นอนที่ขู่จะไม่ให้กินข้าว 2 วัน หากเขาไม่ลงมาภายใน 5 นาที เมื่อแฮร์รี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและลงมาข้างล่างเขาก็ต้องแปลกใจเพราะครอบครัวเดอร์สลีย์กำลังวุ่นวายกับการจัดเก็บบ้านครั้งใหญ่ซึ่งเขาไม่เคยเห็นตลอด 20 กว่าปีที่อยู่ที่นี่

                      เร็วเข้าแฮร์รี่ แกเอากล่องที่วางอยู่ตรงนั้นไปใส่ไว้หลังรถชั้น แล้วแกก็เข้าไปเก็บห้องใต้บันไดอะไรที่ไม่ใช้ก็ขนออกมาใส่กล่องไว้ชั้นจะได้เอาไปทิ้งลุงเวอร์นอนสั่งขณะที่กำลังวุ่นวายกับการทำความสะอาดตู้หนังสือที่ไม่มีใครเคยแตะเพราะมันเป็นเพียงหนังสือที่วางอวดบรรดาลูกค้าที่มาที่บ้าน

                      แฮร์รี่รีบทำตามที่ลุงบอกทันทีเพราะเขาไม่อยากเดือดร้อน และจะได้หาทางหนีไปบ้านรอน เมื่อเขานำกล่องไปใส่รถไว้เรียบร้อย แต่ความคิดนี้ได้หายไปจากหัวของเขาเมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องใต้บันได และเขาพบว่าในนี้มีแต่อุปกรณ์เวทมนต์ที่ลุงเอามาซ่อนไว้หลังจากที่เรียนจบ เขาคิดในใจว่าลุงคงจะยุ่งมากจนกระทั่งลืมไปว่าเอาของๆเขามาซ่อนไว้ในนี้ แฮร์รี่จึงได้โอกาสเขารีบจัดการเก็บของใส่กล่องและเอาไปไว้ในห้องของเขาจนหมด แล้วก็ทำเป็นว่าเก็บกวาดห้องนี้ดีแล้วและปิดประตูอย่างดี จากนั้นก็เดินเข้าไปช่วยลุงและป้าเก็บกวาดห้องครัว เมื่อเก็บกวาดบ้านทั้งหมดเสร็จ ลุงก็ขับรถเอาของที่ไม่มีประโยชน์ออกไปทิ้ง ซึ่งเวลานั้นก็บ่ายคล้อยแล้ว ป้าก็ไปล้างตัวและกลับไปปฏิบัติภารกิจประจำวันของหล่อน(แอบสอดส่องดูเพื่อนบ้าน) ส่วนดัดลีย์ซึ่งบัดนี้ต่างจากเมื่อก่อนมาก เขาเป็นชายหนุ่มตัวใหญ่ร่างท้วม(ไม่อ้วนเหมือนแต่ก่อน) ไม่กินจุ ชอบเล่นกีฬา(ประเภทที่ใช้แต่กำลังไม่ใช้สมอง) แต่สิ่งที่เหมือนเดิมคือนิสัยที่ชอบแกล้งแฮร์รี่ และเอาแต่ใจ วันนี้เขามีนัดกับสาวน้อยจึงต้องรีบออกไปรับ ดังนั้นแฮร์รี่จึงได้โอกาสที่จะมาสำรวจสมบัติที่ถูกซ่อนไว้ของเขา เขาเปิดกล่องออกมาดูและคิดถึงความหลังของเขาที่ผ่านมาตลอดเวลาที่อยู่ที่ฮอกวอร์ตและเขาก็ต้องสะดุดตากับสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง เขาหยิบมันขึ้นมาแต่ยังไม่เปิดโดยทันทีเพราะความคิดที่เกรงว่าจะเป็นสมุดบันทึกปริศนาดังที่เกิดขึ้นและเกือบทำให้จินนี่น้องของรอนต้องตาย แต่ด้วยความอยากรู้เขาจึงเปิดมัน และเขาก็โล่งใจเพราะที่กระดาษแผ่นแรกของสมุดเขียนไว้ว่าบันทึกของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทำให้ความสงสัยเข้ามาแทนที่ เขาจึงรีบเปิดหน้าต่อไปทันที และก็เริ่มอ่านข้อความในสมุดบันทึกนั้น

                      1 มกราคม 1999

                      ไดอารี่ ที่รัก,

                      ปีใหม่นี้วิเศษมากลุงคงจะทำกำไรได้มากทีเดียว เพราะลุงให้ของขวัญเป็นสมุดเล่มหนึ่ง แต่ดูเก่าไปหน่อย สมุดที่ได้รับก็คือสมุดเล่มที่กำลังเขียนอยู่นี้ และลุงยังยอมพาฉันไปเที่ยวสวนสนุกด้วย แต่ลุงไม่ยอมให้ฉันเล่นเครื่องเล่นสักชิ้น อาหารกลางวันก็ได้กินแค่ฮอทดอกอันเดียวทั้งที่ลุงพาดัดลีย์ไปกินอาหารในร้านอาหารหรูๆแต่ไม่ยอมให้ฉันสั่งอะไรซักอย่าง แต่ก็ช่างเถอะยังดีกว่าไม่ได้ออกมาข้างนอก ถ้าเรียกร้องมากเดี๋ยวจะอดข้าวเย็น แต่ก็จนได้  ดัดลีย์แกล้งผลักฉันตกน้ำตัวเปียกไปหมด  ฉันเลยขอให้มีใครเดินชนดัดลีย์ตกน้ำบ้าง และก็เป็นจริงดัดลีย์ถูกวัยรุ่น 2 คนชนตกน้ำ ฉันเลยหัวเราะใหญ่ ลุงเห็นเข้าพอดีเลยอารมณ์เสียพาพวกเรากลับบ้าน และจับฉันมาขังไว้ในห้องใต้บันได ไม่ไห้ฉันกินข้าวเย็น แม้แต่น้ำสักแก้วก็ไม่ได้ดื่ม ดัดลีย์ก็แกล้งเดินขึ้นบันไดบ่อยๆ และลงเท้าหนักๆ ฉันจะนอนดับหิวเสียหน่อยเลยไม่ได้หลับ นึกขึ้นได้ว่าลุงให้สมุดมาเลยเอามาทำไดอารี่เสียเลย ก็ที่กำลังเขียนนี่แหละ ดัดลีย์ตอนนี้เงียบไปแล้วนี่คงจะประมาณ 2 ทุ่มได้ ง่วงแล้วไว้พบกันพรุ่งนี้นะ

                      2 มกราคม 1999

                      ไดอารี่ ที่รัก,

                      เช้าวันนี้ลุงอนุญาตให้ฉันกินข้าวได้แล้ว แต่ไม่ได้ให้ออกจากห้อง ลุงส่งอาหารมาทางช่องด้านล่าง ในจานมีแต่เบคอนสุดมัน ทำให้ฉันไม่นึกอยาก แต่ความหิวที่มีมากกว่าทำให้ฉันจำใจกลืนมันลงไปในท้องจนหมดจาน สายๆหน่อยป้ามาไขประตูและพาฉันไปอยู่กับคุณนายข้างบ้านเพราะจะพาดัดลีย์ไปเที่ยวและไม่อยากให้ฉันไปก่อเรื่องจนหมดสนุกเหมือนเมื่อวาน ฉันอยู่กับคุณนายข้างบ้านแย่กว่าอยู่กับลุงกับป้าอีกเพราะคุณนายสั่งให้ฉันช่วยดูแลแมวและฉันก็ไม่ได้กินอะไรเลยเพราะทั้งบ้านของแกมีแต่อาหารแมว ขนมปังขึ้นรา นมบูด 2-3 กล่อง และผลไม้เน่าๆ ซึ่งไม่รู้ว่าแกอยู่ได้ด้วยอาหารพวกนี้ได้อย่างไร ฉันภาวนาให้ลุงกับป้ากลับมาเร็วๆจะได้กินอะไรเสียหน่อย แต่กลับไม่เป็นอย่างที่อยากให้เป็น ลุงกับป้ากว่าจะกลับมาก็เย็นมากแล้ว มื้อเย็นฉันเลยกินเข้าไปเสียมาก อิ่มจริงๆ กินเสร็จลุงกับป้าก็ทิ้งให้ฉันล้างจาน ลุงให้เหตุผลว่าฉันกินเข้าไปเยอะต้องทำงานบ้าง ล้างเสร็จฉันก็อาบน้ำ แย่จริงที่คืนนี้เครื่องทำน้ำอุ่นเสีย น้ำเย็นเป็นบ้า มันเกือบทำให้ฉันเป็นหวัด นี่คงจะ 2 ทุ่มแล้ว เสียงดัดลีย์เงียบไปแล้ว คงต้องนอนเสียทีไม่อย่างนั้นลุงมาเห็นเข้าจะหาเรื่องงดข้าวฉันได้ ไว้พบกันพรุ่งนี้นะ

                      3 มกราคม 1999

                      ไดอารี่ ที่รัก,

                      วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกหลังจากหยุดยาวเมื่อคริสต์มาส ที่โรงเรียนเพื่อนๆต่างนำของที่พ่อ แม่ ซื้อให้เป็นของขวัญมาอวดกัน มีทั้งหุ่นแบทแมนรุ่นล่าสุด เกมกดเครื่องใหม่ เครื่องเขียนชุดใหม่ลายสไปเดอร์แมน บางคนก็เล่าเรื่องที่ไปพักร้อนต่างประเทศกับครอบครัว ไม่ก็เรื่องที่ไปแคมป์ฤดูหนาว แต่ฉันเป็นคนเดียวที่ไม่มีของมาอวด หรือเรื่องมาเล่าให้เพื่อนๆฟังเลย แต่ช่างเถอะถึงจะมีเรื่องให้ล่าก็คงไม่มีใครฟัง เพราะดัดลีย์เที่ยวบังคับไม่ให้ใครยุ่งกับฉันทั้งนั้น วันเปิดเรียนวันแรกเลยดูจืดๆ ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ยังมีไดอารี่เล่มนี้ที่คอยรับรู้ชีวิตของฉัน ทำให้ฉันไม่รู้สึกเหงาเลย นอกเรื่องมากไปหน่อย เข้าเรื่องต่อดีกว่า เลิกเรียนลุงมารับฉันกับดัดลีย์หลังจากที่ฉันเปลี่ยนเสื้อเรียบร้อย ป้าพาฉันไปฝากคุณนายข้างบ้านอีกแล้ว เพราะลุงจะไปกินข้าวนอกบ้านเนื่องในโอกาสที่ทำรายได้เป็นอันดับหนึ่งของบริษัท เย็นนี้ฉันเลยต้องอดข้าวไปโดยปริยาย นอกจากนี้ยังต้องเลี้ยงแมวและเฝ้าบ้านให้คุณนายด้วย กว่าลุงจะกลับก็ 4 ทุ่ม ได้เวลาอาหารมื้อดึกของดัดลีย์พอดี ฉันจึงได้กินอาหารด้วย(โชคดีจริง) กินเสร็จฉันก็รีบปลีกตัวออกมา ตอนนี้เสียงดัดลีย์เงียบแล้วได้เวลาเข้านอนแล้ว ไว้พบกันพรุ่งนี้นะ

       

       


                      หลังจากที่แฮร์รี่กำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความหลัง เขาก็ต้องตกใจเมื่อมีเสียงคนเคาะประตู

                      แฮร์รี่ แกยังไม่หลับใช่ไหม ออกมาหาฉันหน่อยเสียงของลุงดังลอดช่องประตูเข้ามา

                      แฮร์รี่ไม่ตอบลุงแต่เขาทำให้ลุงเรียกซ้ำอีกครั้ง เขาจึงทำท่างัวเงียออกไปเปิดประตูให้ลุง แต่เขาได้แค่แง้มประตูเพราะในห้องของเขาเต็มไปด้วยสิ่งของในโลกเวทย์มนต์

                      มีอะไรรือฮะลุงแฮร์รี่ถาม

                      ฉันจะมาเรียกแกลงไปกินข้าวลุงตอบ

                      ไม่เป็นไรฮะ ผมไม่หิวแฮร์รี่พูดเรียบๆและปิดประตูลงกลอน จากนั้นเขาก็ตรงไปหยิบไดอารี่ที่วางอยู่บนเตียงมาอ่านอีกครั้ง ทิ้งให้ลุงเวอร์นอนยืนงงอยู่พักหนึ่ง

                      14 กุมภาพันธ์ 1999

                      ไดอารี่ ที่รัก,

                      เช้านี้ลุงพาฉันกับดัดลีย์ไปส่งแต่เช้า ฉันจึงต้องเอาขนมปังไปกินบนรถ แต่ดัดลีย์ก็มาแย่งไป เมื่อมาถึงโรงเรียนฉันก็ตรงขึ้นห้องทันที เตรียมเก็บกระเป๋าแต่น่าตกใจที่ใต้โต๊ะมีช็อกโกแลตวางอยู่ ฉันเลยกินรองท้องแทนข้าวเช้า กลางวันฉันลงไปกินข้าวก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเอาช็อกโกแลตมาให้ ขึ้นห้องมาก็มีช็อกโกแลตวางอยู่ใต้โต๊ะ ฉันจึงจัดการกับมันก่อนที่ดัดลีย์จะรู้ แต่ฉันยังสงสัยว่าทำไมจึงมีคนเอาช็อกโกแลตมาให้ทั้งที่ดัดลีย์ประกาศทั่วโรงเรียนว่าห้ามใครให้ช็อกโกแลตกับฉัน จนกระทั่งเย็นฉันจึงได้รู้ว่าอำนาจของดัดลีย์เสื่อมไปเพราะมือขวาของเขาไปเรียนต่อเมืองนอกตั้งแต่เมื่อปีใหม่ ฉันจึงได้เพื่อนมากมาย โชคดีจริงๆ พอกลับมาดัดลีย์รีบซักฉันเรื่องช็อกโกแลต ฉันจึงตอบว่า ไม่มีใครให้ฉันแม้แต่ชิ้นเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บตัวที่ดัดลีย์จะมอบให้ วันนี้ป้าเตรียมช็อกโกแลตเตรียมไว้ให้ดัดลีย์ด้วย ฉันก็พลอยได้กินช็อกโกแลตไปด้วยแต่ก็ไม่มากเพราะดัดลีย์กินไปหมดเขาจึงท้องเสีย ตอนนี้ดัดลีย์ยังเข้าห้องน้ำอยู่เลยคาดว่าคงประมาณ 20 นาทีได้แล้วแย่จริงนี่คงจะต้องนอนดึก เมื่อไหร่ลุงจะให้นาฬิกาบ้างนะจะได้ไม่รอดัดลีย์ ความจริงฉันจะนอนเมื่อไหร่ก็ได้นี่นะ ช่างเถอะนอนดีกว่าป่านนี้คงจะดึกแล้ว ไว้พบกันพรุ่งนี้นะ

       

                      เขาอ่านมันเพลินจนลืมเวลาเสียสนิท จนกระทั่งมาถึงกระดาษแผ่นสุดท้ายของไดอารี่ เขาเหลือบไปดูนาฬิกาเสียครั้งหนึ่ง พร้อมกับที่นาฬิกาด้านล่างตีบอกเวลา 6 โมงเช้า เขาตกใจอย่างมาก และพึมพำกับตัวเอง

                      หวังว่าลุงคงไม่รู้หรอกนะว่าฉันไม่ได้นอนทั้งคืน แฮร์รี่บ่นและหันกลับไปอ่านไดอารี่อีกครั้ง

      วันเวลาที่ผ่านไปแล้ว ย่อมไม่หวนคืน แม้จะฟื้นมันด้วยความทรงจำ

      แต่ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น

      นอกจากเสียดาย เสียใจกับการกระทำและความรู้สึกนั้น

      หากท่านคิดว่าอดีตจำเป็นต่อการก้าวสู่อนาคตของท่าน

      ขอให้ท่านเจ้าของบันทึกนี้จงหลับตา แล้วท่านจะพบว่าทั้งหมดในนี้

      จะอยู่ในใจท่านตลอดกาล

      คำเตือน: นี่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากท่านไม่ใช่เจ้าของบันทึกเล่มนี้

                     

      แฮร์รี่ทำตามอย่างไม่รีรอ เขาหลับตาลง และรู้สึกได้ถึงความโล่งใจชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่แล้วก็กลับรู้สึกเหมือนมีวัตถุขนาดใหญ่กระแทกเข้าที่หน้าอย่างจัง จนเขาต้องลืมตาอย่างเสียไม่ได้และมองลงไปยังหน้ากระดาษของสมุดบันทึกเล่มนั้น และต้องประหลาดใจอย่างมากเมื่อพบข้อความใหม่เกิดขึ้นแทนข้อความเดิม

      ความทรงจำแห่งอดีตที่เชื่อมโยงปัจจุบันและอนาคตของท่าน

      บัดนี้ทั้งหมดได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวท่าน

      เวลาใดที่ท่านต้องการพบมันเพียงท่านหลับตาลงและระบุวันเวลา

      ท่านก็จะได้พบวันเวลาที่ท่านปรารถนาและต้องการ

      มันจะแสดงทุกสิ่งทุกอย่างทุกคำถามที่ท่านปรารถนาจะรับรู้

      ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์

      คำเตือน: หากท่านรับรู้ที่จะอยู่กับอดีตนั้น บางทีอดีตนั้นจะอยู่กับคุณตลอดไปเช่นกัน

       

       


                      เมื่อเขาอ่านจบ ด้วยความสงสัยเขาจึงพลิกหน้ากระดาษในบันทึกนั้นและพบว่าทั้งหมดได้กลายเป็นเพียงบันทึกเปล่า ที่ไม่มีแม้ร่องรอยขีดเขียนใดๆอยู่บนนั้น

                      นี่มันอะไรกัน ทั้งหมด...อยู่ในตัวฉันงั้นหรือ แฮร์รี่ฉงนใจเป็นอย่างมาก

      ทันใดนั้นหน้ากระดาษที่ว่างเปล่าเริ่มปรากฎรอยหมึกซึมขึ้นมาเรื่อยๆจนสามารถอ่านได้ว่า

      สิ่งที่ท่านเข้าใจนั้นถูกต้องแล้ว

      และจางลงไปช้าๆจนหมด ทำให้เกิดคำถามขึ้นในใจแฮร์รี่อย่างมากมาย เขาตัดสินใจพูดกับหน้ากระดาษว่างเปล่านั้นอีกครั้ง

                      สมุดนี้ลุงเวอร์นอนให้มานี่ แล้วทำไม...ถึงเหมือนว่ามีเวทย์มนต์แฮร์รี่รอคอยให้บันทึกตอบคำถามนี้อย่างใจจดใจจ่อ และแล้วก็เริ่มมีรอยหมึกปรากฎขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งรอยยิ้มที่ใบหน้าของแฮร์รี่ก็ปรากฎขึ้นเช่นกัน

      จงปิดตาลงแล้วคำตอบทั้งหมดจะกระจ่างแก่ท่าน

                      เมื่อเขาปิดตาลงสนิท เขารู้สึกเหมือนว่าถูกดูดเข้าไปในท่อ มันหมุนวนจนทำให้เขาอยากอาเจียน เมื่อความรู้สึกนี้หมดไป และลืมตาขึ้น ภาพเบื้องหน้าที่เขาเห็นคือ ครอบครัวเดอร์สลีย์กำลังซื้อหนังสือที่ร้านขายหนังสือแบบเรียนแห่งหนึ่ง พวกเขาเดินเลือกสักพักก็หยิบหนังสือมา2-3เล่ม และสนทนากัน แฮร์รี่จึงขยับเข้าไปใกล้ๆอย่างระมัดระวังโดยที่เขาลืมไปว่าตอนนี้ไม่มีใครเห็นเขาอย่างแน่นอน

                      ดัดลีย์ลูกรัก แม่หวังว่าลูกคงไม่ทำหนังสือเสียหายอีกนะจ๊ะป้าแพตทูเนียพูดอย่างอ่อนโยนที่สุด

                      โธ่! แม่ ผมใช้หนังสือทุกวันนี้ฮะมันก็ต้องมีขาดกันบ้าง...หรือว่าแม่ไม่อยากซื้อให้ผมฮะดัดลีย์ตอกกลับ ทำให้สีหน้าของป้าแพตทูเนียดูเจื่อนๆลง

                      เอาล่ะไปรอข้างนอกก่อน ฉันจะเอาไปจ่ายล่ะลุงเวอร์นอนบอกทั้งคู่

                      หลังจากที่ลุงเวอร์นอนจ่ายค่าหนังสือและหอบหนังสือมาที่รถนั้น มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งซึ่งหอบหนังสือกองโตมาเช่นกันเดินชนลุงเวอร์นอนเข้าอย่างจัง หนังสือทั้งหมดหล่นปะปนกันเต็มพื้น ทั้งคู่ช่วยกันเก็บอย่างเร่งรีบ แต่ก็ช้าพอที่แฮร์รี่จะเหลือบเห็นชายแปลกหน้าเอาสมุดเก่าเล่มหนึ่งสอดใต้หนังสือและส่งให้ลุง     จากนั้นแฮร์รี่รู้สึกเหมือนถูกดูดกลับเข้าท่อนั้นอีกครั้งเขาปิดตาแน่นที่สุดและเมื่อความรู้สึกนี้หยุดลงเขาก็พบว่า เขากลับมาอยู่บนเตียงอีกครั้ง เขาพยายามตั้งสติและทบทวนเรื่องที่เขาไปพบมา เขาก้มลงมองบันทึกอีกครั้ง และคิดว่าเขาจะถามอะไรต่อไป แต่ก่อนที่จะได้ถามนั้นรอยหมึกได้เกิดขึ้นบนหน้ากระดาษอีกครั้ง

      จงใช้อดีตของท่านเป็นสิ่งผลักดันปัจจุบันสู่อนาคต

      แต่อย่าใช้อดีตของท่านดึงอนาคตกลับสู่ปัจจุบัน

      มิฉะนั้นอาจจะมีแต่อดีตที่เป็นเพื่อนของท่านตลอดกาล

      จากนั้นลมได้พัดเข้ามาทำให้บันทึกปิดลง แต่ยังมีคำถามมากมายค้างอยู่ในใจ เขาพยายามเปิดมันจนสุดกำลังแต่ไม่มีทีท่าว่าบันทึกนั้นจะแง้มออกมาแม้แต่น้อย เขาหมดความอดทนและความพยายาม จึงโยนสมุดเล่มนั้นลงหีบอย่างโมโห และล้มตัวลงบนเตียง หลับตาลงและเขาก็นึกได้ถึงคำบอกเล่าของบันทึกที่ว่าหากต้องการรู้เรื่องอะไรให้หลับตาและระบุวันเวลา แต่ก่อนที่เขาจะได้คิดนั้นความง่วงก็ได้เข้าครอบงำอย่างไม่รู้ตัว

       

       

       


      The End

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×