แผนร้ายกลายเป็นรัก - นิยาย แผนร้ายกลายเป็นรัก : Dek-D.com - Writer
×

    แผนร้ายกลายเป็นรัก

    โดย tasasrocha

    ผู้เข้าชมรวม

    1,328

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    35

    ผู้เข้าชมรวม


    1.32K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    10
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  30 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  16 พ.ค. 64 / 00:14 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

     

             การที่คนเราเคยเจ็บปวดและผิดหวังจากความรักหลายๆครั้งบางทีมันก็ช่วยสอนให้เราได้เรียนรู้อะไรได้ในหลายๆอย่างว่าถ้าหากเราเลือกที่จะรักหรือไว้ใจใครสักคน เพราะไม่มีอะไรที่แน่นอนดั่งความเจ็บปวดที่พวกเธอเคยได้รับมาจากอดีต คนรักของพวกเธอ ความเจ็บปวดที่ไม่มีใครอยากจะได้มันมา และต้องทนอยู่อย่างเดียวดาย พวกเราจะต้องอยู่กันไปโดยที่ไม่สามารถที่จะมีคนรักเหมือนคนอื่นได้เช่นนั้นหรือ แต่หากการที่พวกเราต้องมีคนรักแต่พวกเขาต้องมาจากและทิ้งพวกเราไปปล่อยให้พวกเราต้องทนเจ็บปวดอยู่เช่นนี้ พวกเราก็ขอเลือกที่จะไม่มีคนรักเลยจะดีกว่า หากว่ามีแล้วต้องเจ็บปวด มีทุกข์ ทรมาน เพราะความรัก มันก็ไม่มีความสุข เพราะฉะนั้นพวกเราจะมีคนรักหรือความรักไปเพื่ออะไร หากว่าเรามี แต่ไม่สามารถที่จะคอยดูแลและปกป้องคนรักของพวกเราได้ก็ขอเลือกที่จะอยู่อย่างเดียวดายหรืออยู่กับเพื่อนที่เปรียบเหมือนพี่น้องในครอบครัวเดียวกันจะดีกว่า

     

      ที่บริษัท ยูร่าฟานิค

           บรรยากาศตอนนี้กำลังอึกทึกไปหมดเพราะเวลานี้มีนักข่าวหลายสำนักที่มารอผู้บริหารยูร่าฟานิคทั้งห้าคนอยู่เต็มลานชั้นหนึ่งและพวกพนักงานที่ทำท่ามองชะเง้อผู้บริหารของพวกเขา ด้วยข่าวที่พวกเขาได้รับรู้มาข่าวที่พวกเขาอยากจะรู้จากปากของผู้บริหารของพวกเขาเองไม่ใช่จากโซเชี่ยวที่ตอนนี้กำลังเป็นข่าวดังและออกตามสื่อโทรทัศน์ทุกแทบจะสำนักข่าว ซึ่งไม่มีข่าวอะไรที่จะดังได้เท่ากับข่าวของบริษัทยูร่าฟานิคอีกแล้วในตอนนี้ ข่าวนี้สามรถกลบทุกอย่างได้เพราะสื่อและมวลชนที่ได้คอยติดตามมาตลอด

    นี่พวกเธอบริษัทจะล้มละลายจริงๆเหรอเสียงพนักงานคนหนึ่งพูดขึ้นกับเพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆกันท่ามกลางฝูงพนักงานด้วยกันและสื่อมวลชล

    นั่นสิแกเสียงพนักงานอีกคนพูดขึ้น พร้อมกับทำท่าชะเง้อมองไปตรงประตูทางเข้าโดยที่ไม่วางสายตา

    เพราะว่าวันนี้พวกเธอจะต้องให้สัมภาษณ์นักข่าวเกี่ยวกับข่าวลือของบริษัทที่ถูกปล่อยออกไปจากผู้ที่ไม่หวังดีและทำให้บริษัทต้องเสียหายลูกค้าเริ่มถอนตัวไม่จ้างบริษัท ทำให้สาวๆห้าคนซึ่งตอนนี้ต้องเตรียมตัวตอบคำถามของนักข่าวไว้ เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากที่ทุกคนทั้งพนักงานและนักข่าวที่ตั้งหน้าตั้งตารอมานานกว่าครึ่งชั่วโมงพลันสายตาของพวกเขาก็เหลือบไปเห็นรถคันหรูที่พวกพนักงานมักจะคุ้นตากัน ที่มาหยุดตรงทางเข้าประตู รถยนต์สีดำรุ่น mercedes benz ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีราคาสูงหรือแพงมากถ้าไม่รวยจริงก็คงจะซื้อไม่ได้ ซึ่งก็ทำให้ใครๆอยากที่จะเข้าไปนั่งในรถคันนี้เสียจริงๆ บอดีการ์ดที่นั่งรถมาอีกคนกับรถคันหรูที่พึ่งมาหยุดตรงหน้าประตูทางเข้าตัวอาคาร รีบเดินเข้าไปเปิดประตูรถทันทีพร้อมกับโค้งคำนับคนที่นั่งอยู่ภายในรถฝั่งตรงข้ามของเบาะคนขับ และทันใดนั้นแหละที่นักข่าวและตากล้องพนักงานที่พร้อมใจกันวิ่งกรู่หวังจะเข้ามาหา ใครบางคนที่นั่งอยู่ในรถแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะบอดี้การ์ดเกือบสามสิบคนที่เข้ามาเอาตัวกั้นพวกเขาออกไป และตามมาด้วยเสียงของนักข่าวและพนักงานที่พูดคุยกันเสียงดังและตากล้องที่กำลังแชะภาพ ส่วนใครบางคนที่กำลังนั่งเตรียมใจอยู่ในรถคันหรูพอมองออกไปข้างนอกก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะความวุ่นวายในขณะนี้เสียจริงๆ คนภายในรถตัดสินใจก้าวเท้าลงจากรถออกมาและยิ้มกวาดสายตามองไปรอบๆที่ตอนนี้บรรยากาศกำลังเปรียบเสมือนงานเดินแฟชั่นโชว์ยังไงอย่างนั้นแหละ

    คุณราเชลค่ะ จริงเหรอค่ะที่บริษัทตอนนี้กำลังมีปัญหาและกำลังจะล้มละลาย จริงหรือปล่าวค่ะ คุณราเชลนักข่าวผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้นพร้อมกับพยายามยื่นไมด์ในมือไปให้ใกล้หญิงสาวที่พึ่งรถจากรถให้ได้มากที่สุด แต่ก็นะถือว่านักข่าวคนนี้มีความพยายามได้มากเลยทีเดียวแต่ก็ไม่สามารถผ่านการ์ดตัวใหญ่ที่เคยกั้นเธอเข้ามาใกล้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้

    หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรกับนักข่าวหญิงคนนั้นเธอทำแค่ฉีกยิ้มให้กับนักข่าวคนนั้นและเดินเข้าไปข้างในในตัวลิฟต์ที่ใช้ได้เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น หญิงสาวในชุดสูทสีดำ เดินตรงเพื่อที่จะเข้าไปในลิฟต์และหวังว่าจะเข้าไปในห้องที่มีการจัดไว้เพื่อสำหรับแถลงข่าวนั่นเองแต่ยังไม่ทันที่หญิงสาว จะเดินเข้าไปในตัวลิฟต์ที่อยู่ตรงหน้าซึ่งห่างจากเธอแค่สามเมตรเท่านั้น เสียงโห่ร้องและเสียงจากแฟลตกล้องที่ถูกแชะภาพอย่างรัวๆทำให้เธอต้องมองผ่านกระจกใสที่ประตูทางเข้าที่เธอพึ่งเดินผ่านเข้ามา

    รถยนต์สีดำรุ่น mercedes benz เดียวกับเธอทั้งสี่คันมาจอดเรียงกันเป็นแถวและตามด้วยหญิงสาวทั้งสี่คนที่พึ่งลงมาจากรถมาอย่างพร้อมๆกัน ทำให้พนักงานนักข่าวและตากล้องต่างพากันส่งเสียงพูดคุยและโห่ร้องอย่างเสียงดังมากเลยทีเดียว แต่หญิงสาวทั้งสี่คนที่พึ่งมาถึงก็ไม่ได้สนใจนักข่าวและพนักงานที่ส่งเสียงดังพวกเธอเดินตรงมาที่หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ที่กำลังยืนยิ้มให้กับพวกเธออยู่ในตอนนี้

    แหมๆวันนี้งานใหญ่งานหลวงซะจริงเลยนะค่ะพี่เวกกี้พูดหยอกล้อราเชลที่ยืนยิ้มอยู่

    เข้าไปที่ห้องแถลงข่าวกันเถอะ ราเชลพูดและมองไปที่รุ่นน้องทั้งสี่คนที่พึ่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า

     

            ณ ที่ห้องแถลงข่าว

    บรรยากาศในห้องแถลงข่าวที่บริษัทยูร่าฟานิคตอนนี้เงียบกริบและปล่อยให้แอร์ที่ทำหน้าที่ให้ความเย็นเป็นเครื่องควบคุมบรรยากาศตอนนี้ได้ดีที่สุด ตอนนี้ช่วงเวลาที่สำคัญก็มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยเพราะผู้บริหารทั้งห้าคนได้มานั่งอยู่ตรงหน้าของนักข่าวและตากล้องครบทุกคนแล้ว รวมถึงพนักงานที่กำลังดูทีวีของบริษัทที่ติดตามที่ต่างๆไว้อย่างใจจดใจจ่อกันเลยทีเดียว

    ก่อนอื่นเราก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสเราได้มาพูดในวันนี้ นะค่ะ ดิฉันในฐานะผู้บริหารของยูร่าฟานิคคนหนึ่งจะขอพูดเกี่ยวกับประเด็นข่าวที่ทุกคนอยากจะรู้ในวันนี้ราเชลพูดขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามองนักข่าวและตากล้องที่กำลังแชะภาพอยู่ตรงหน้าพร้อมกับถอนหายใจก่อนที่จะตัดสินใจพูดขึ้นอีกครั้ง

    ข่าวที่บริษัทยูร่าฟานิคล้มละลาย ดิฉันขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงค่ะ

    แล้วทำไมถึงมีคนปล่อยข่าวนี้ออกมาได้ละค่ะ ว่าบริษัทยูร่าฟานิคกำลังจะล้มละลายเพราะว่ากำลังมีปัญหาแล้วก็มีคนถอนหุ้นออกจากบริษัทเกือบจะหมดแล้วในตอนนี้ นักข่าวชายคนหนึ่งถามขึ้น

    ไม่ทราบว่าไปเอาข่าวมาจากไหนค่ะเจซี พูดถามนักข่าวชายคนนั้นขึ้นมาพร้อมกับใช้สายตาจิกมองไปที่นักข่าวชายคนนั้น

    ก็มีสายข่าวบอกมานะครับ

    ก็อย่างที่เธอบอกเรายังขอยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ล้มละลาย ส่วนคนที่ปล่อยข่าวนี้ออกไปเราจะตามหาให้ได้เพราะทำให้บริษัทของเราเสียหายและเสียชื่อเสียงซึ่งเราจะไม่ยอมเด็ดขาดเฮล่าพูดขึ้น ทำให้นักข่าวต่างพากันหันมาทางเธอโดยพร้อมเพรียง

    แสดงว่าท่านผู้บริหารทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้รู้ใช่ไหมค่ะ ว่าเป็นฝีมือใคร คิดว่าคนที่ปล่อยข่าวว่าบริษัทจะล้มละลายเป็นบริษัทของคู่แข่งหรือเปล่าค่ะนักข่าวหญิงถามขึ้น

    คำถามของนักข่าวหญิงคนนี้ทำให้ราเชล,เจซี,เวกกี้,ซีเวีย,เฮล่า ต้องหันมามองนักข่าวหญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ท่ามกลางความแวดล้อมของนักข่าวชายก่อนที่ราเชลจะพูดขึ้นเพื่อตอบคำถาม

    เราไม่ทราบจริงๆค่ะว่าใครที่เป็นคนปล่อยข่าวลือนี้เพราะเรายังไม่รู้ตัวคนทำราเชลพูดขึ้นโดยที่ไม่ละสายตาไปจากนักข่าวสาวคนนั้น

    แล้วจริงหรือเปล่าค่ะที่บริษัทยูร่าฟานิคกำลังจะจับมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลีอย่างบริษัทจีริสต์ตี้นะค่ะ

    จริงค่ะ แต่เรายังไม่ขอพูดอะไรมากราเชลพูดขึ้น

    ท่านผู้บริหารมีอะไรอยากจะฝากบอกถึงพนักงานและทุกคนที่กำลังชมอยู่ตอนนี้มากไหมนักข่าวหญิงถามขึ้น

    เราทุกคนในฐานะผู้บริหารอยากจะให้พนักงานทุกคนมั่นใจในตัวของพวกเราห้าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ และเรายังยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ล้มลาย และจะยังคงอยู่ต่อไปไม่ว่าใครที่พยายามจะสร้างเรื่องพวกนี้มากแค่ไหน ก็ขอให้หยุดเถอะค่ะประโยคทิ้งท้ายของราเชลทำให้นักข่าวต่างพากันมองหน้ากันไปมา ก่อนที่ทุกคนจะค่อยๆทยอยออกไปจากที่ห้องแถลงข่าวจนหมด

           วันนี้หลังจากที่ทุกคนเหนื่อยมาทั้งวันแล้วพวกเธอทั้งห้าคนก็อยากที่จะพักผ่อนทุกคนต่างพากันแยกย้ายกลับบ้านกันไปหมดจะเหลือก็แต่ราเชลที่พึ่งจะกลับไปเอาของที่ห้องของผู้บริหารที่บริษัท ราเชลเดินกลับออกมาและขึ้นรถยนต์คันโปรดของเธอที่นั่งมาเมื่อเช้าโดยมีคนขับรถส่วนตัวและบอดี้การ์ดคนสนิทที่เธอไว้ใจซึ่งก็คือ รอนสันนั่งมาด้วยกัน เส้นทางที่จะต้องกลับไปที่คฤหาสน์ของเธอนั้นจะต้องข้ามสะพานซึ่งมีความยาวประมาณสิบกิโลเมตรจากนั้นก็จะต้องผ่านป่าสนซึ่งช่วงที่ผ่านป่าสนนั้นจะไม่มีแสงไฟตามท้องถนนที่คอยให้ความสว่างเหมือนในตัวเมือง ราเชลที่ตอนนี้กำลังนั่งเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์อยู่ในมือนั้นก็เห็นข่าวของบริษัทเต็มไปหมดราเชลได้แต่นั่งถอนหายใจแล้วเลื่อนผ่านข่าวพวกนี้ไป ปัง เสียงปืนที่ดังขึ้นมาจากไหนไม่รู้ทำให้ราเชลรีบก้มหน้าลงไปทันทีและก่อนที่เสียงปืนอีกนัดจะดังตามมา เพล้ง ตามด้วยเสียงกระจกท้ายรถที่แตก

    นี่มันเกิดอะไรชึ้นรอนสันราเชลเงยหน้าถามและมองบอดี้การ์ดคนสนิทที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ

    มีคนตามมาครับนายหญิง ไม่รู้ว่าพวกมันเป็นใครแต่ตอนนี้ผมคิดว่าท่าจะไม่ดีแน่ นายหญิงก้มไว้นะครับ ขับเร็วๆหน่อยสิแจ็ครอนสันบอกกับนายหญิงของเขาก่อนที่จะหันมาบอกให้คนขับรถเร่งความเร็วของรถเข้าไปอีก

    ปัง! ปัง! ปัง! คราวนี้เสียงปืนดังขึ้นตามติดกันมาทำให้รอนสันต้องยิงสวนกลับและรอนสันที่เห็นว่าท่าจะไม่ดีแล้วเพราะถ้าหากนายหญิงของเขานั่งอยู่ในรถด้วยอาจจะไม่รอดกันทั้งหมดเพราะฉะนั้นเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่รอนสันจะปีนไปนั่งที่เบาะหลังกับนายหญิงของเขาและพูดเร่งให้แจ็คคนขับรถขับรถให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แจ็คสามารถขับรถทิ้งระยะห่างพวกนั้นมาได้พอสมควรก่อนที่รอนสันจะตัดสินใจบอกกับนายหญิงของเขา

    ผมขอโทษนะครับนายหญิงแต่ถ้านายหญิงยังอยู่ในรถกับพวกผมนายหญิงอาจจะไม่รอด ผมไม่มีทางเลือกจริงๆรอนสันพูดขึ้น

    ราเชลที่นั่งนิ่งมองหน้ารอนสันการ์ดคนสนิทที่เธอไว้ใจที่สุดว่าสิ่งที่รอนสันพูดนั้นหมายถึงอะไรเธอช่างไม่เข้าใจเอาซะเลย ระหว่างที่ราเชลได้แต่นั่งจ้องมองหน้ารอนสันการ์ดคนสนิทของเธออยู่นั้นราเชลก็รู้สึกได้ว่ารถที่เธอนั่งอยู่ตอนนี้กำลังหมุนวนหลายตลบตัวของราเชลหลุดออกจากมือของรอนสันที่กำลังจับตัวเธออยู่ ราเชลรู้สึกว่าตอนนี้เธอกำลังลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศก่อนที่ร่างของเธอจะไปกระแทกกับเบาะข้างคนขับเพราะรถได้ไปชนกับต้นไม้ข้างทาง ราเชลพยายามดิ้นรนตะเกียกตะกายประคองตัวเองให้ได้แล้วมองตามร่างกายของเธอ ตอนนี้ร่างกายของราเชลมีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อยเพราะเศษกระจกของรถ และตรงที่หัวของเธอที่มีเลือดไหลออกมา ราเชลหันไปมองรอนสันที่ตอนนี้นอนแน่นิ่งอยู่เบาะหลังฝั่งคนขับและสภาพที่ไม่ต่างจากเธอในตอนนี้ ราเชลพยายามเรียกรอนสันที่นั่งอยู่ข้างๆจนรอนสันรู้สึกตัวก่อนที่จะหันไปเรียกแจ็คคนขับรถแต่ก็พบว่าคนขับรถของเธอนั้นไม่ได้มีลมหายใจแล้ว

    แจ็คตายแล้วจะทำยังไงดีรอนสันราเชลเอ่ยถามรอนสันขึ้น

    เราต้องออกไปจากรถก่อนที่รถมันจะระเบิดรอนสันบอกกับนายหญิงของเขาเพราะเขาสังเกตเห็นว่ารถเริ่มมีน้ำมันไหลออกมาแล้ว

    ทั้งสองคนลงมาจากรถได้ก่อนที่รอนสันจะเข้าไปช่วยพยุงนายหญิงของเขาและพานายหญิงของเขาเดินออกมาจากจุดตรงที่รถนั้นอยู่ห่างออกไปประมานสองร้อยเมตรเท่านั้นก่อนที่จะได้เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของพวกเขา ตุ้ม ๆๆความดังของเสียงที่เกิดจารรถที่ระเบิดนั้นดังมากพอสมควรก่อนที่ไฟจะลุกท่วมรถยนต์คันโปรดของราเชลโดยที่ราเชลทำได้แค่เพียงแต่ยืนมองจากตรงนี้เท่านั้นที่เธอทำได้

    นั่นมันอะไรครับนายหญิง รอนรันชี้นิ้วไปตรงกลางถนนตรงที่มีอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั่น

    คนหรือเปล่ารอนสันเราไปดูกันดีกว่าราเชลทำท่าเหมือนจะเดินเข้าไปแต่สอนสันกลับรั้งมือเธอไว้

    ผมไปดูคนเดียวก่อนดีกว่าเพราะสถานการณ์แบบนี้เราไม่ควรไว้ใจอะไรทั้งนั้นรอนสันบอกกับราเชลก่อนที่จะเดินเข้าไปดูเป้าหมายของเขาที่ตรงกลางถนน

    คนครับนายหญิงรอนสันตะโกนบอกนายหญิงของเขา

    นี่มันอะไรกันทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมานอนตรงกลางถนนแบบนี้ได้ล่ะราเชลพูดขึ้นแล้วหันหน้าไปมองรอนสัน

    แล้วเราจะเอายังไงต่อครับนายหญิง จะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ดีครับ

    ตอนนี้นายมีโทรศัพท์หรือว่าอะไรก็ได้ที่จะติดต่อใครได้บ้างไหม

    รอนสันทำท่าค้นหาโทรศัพท์มือถือของเขาก่อนที่จะเอามันออกมา

    ดีนะครับเนี่ยที่มันยังอยู่ในกระเป๋าผมรอนสันโชว์โทรศัพท์มือถือให้นายหญิงของเขาดู

    งั้นนายโทรหาเพื่อนฉันทุกคน แล้วก็โทรหาตำรวจ ส่วนผู้หญิงคนนี้ฉันจะจัดการเองราเชลพูดขึ้น

    รอนสันจัดการกดโทรออกตามคำสั่งของนายหญิง ส่วนราเชลก็ค่อยๆก้มลงมองร่างของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอร่างของหญิงสาวนอนแน่นิ่งและไม่ขยับตัวเลย ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันนะ พลันราเชลก็ได้นึกถึงตอนที่นั่งอยู่ในรถเธอได้ยินเสียงของแจ็คตะโกนบอกว่า ระวัง ก่อนที่รถจะเสียหลักลงข้างทางก่อนที่สติของเธอในช่วงนั้นจะขาดหายไป ราเชลค่อยๆเอื้อมมือไปจับชีพจรของร่างหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่ตรงหน้าก่อนที่เธอจะจับชีพจรได้ว่ายังเต้นอยู่ ทำให้ราเชลรู้สึกโล่งอกขึ้นมาไม่น้อย

    เธอยังไม่ตายราเชลพูดขึ้น

    หลังจากที่รอนสันจัดการติดต่อกับเพื่อนๆของนายหญิงและโทรหาตำรวจเสร็จเขาก็เดินกลับมาหานายหญิงของเขาแล้วนั่งฝั่งตรงข้ามของนายหญิงของเขาโดยมีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งนอนแน่นิ่งกั้นกลางอยู่

    ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะครับ อีกไม่นานตำรวจก็คงจะมาถึงที่นี่รอนสันพูดพลางมองหน้านายหญิงของเขา

    แล้วผู้หญิงคนนี้ละครับเราจะเอายังไงกับเธอดีรอนสันถามนายหญิงของเขาแล้วก้มมองร่างของหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนน

    ให้ตำรวจพาเธอไปส่งโรงพยาบาลราเชลพูดพลางลุกขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าไปนั่งพิงกับต้นไม้ข้างทางใกล้ๆ

     

    เสียงรถตำรวจที่ดังขึ้นในระยะที่ไกลพอสมควรก่อนที่จะมีรถตำรวจสิบกว่าคันที่วิ่งมาจอดเต็มท้องถนนในพื้นที่ที่เป็นจุดเกิดเหตุและมีตำรวจหลายคนที่เดินลงมาจากรถก่อนที่จะมีรถดับเพลิงขับตามมาแล้วตรงดิ่งไปที่รถยนต์คันโปรดของราเชลที่ตอนนี้ไฟได้ลุกท่วมไหม้ไปหมด ราเชลที่นั่งพิงต้นไม้อยู่ได้แต่มองความวุ่นวายตรงหน้าของเธอในตอนนี้ ก่อนที่เธอจะแหงนหน้ามองท้องฟ้าเพราะมันกำลังบ่งบอกว่าใกล้เวลาที่จะเข้าสู่รุ่งอรุณของวันใหม่แล้ว พระอาทิตย์ค่อยๆเริ่มขึ้นมาเรื่อยๆส่วนตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็กำลังทำหน้าที่ของเขาแข่งกับเวลาอยู่ หากว่าสว่างเมื่อไหร่นั้นหมายถึงถนนเส้นนี้จะมีรถวิ่งผ่านเป็นจำนวนมากซึ่งก็ผิดกว่าตอนกลางคืนที่แทบจะไม่มีรถวิ่งผ่านเลยดังนั้นทั้งตำรวจแล้วเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงต้องเร่งรีบทำหน้าที่ของพวกเขาให้เร็วที่สุด………

     


    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น