ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Guerre de Dieu

    ลำดับตอนที่ #1 : เริ่มต้นตำนาน RewritE!!

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 48


    พระเจ้า?? คุณเคยคิดใช่มั้ยว่าพระเจ้าอยู่บนฟากฟ้า ถ้าหากคุณคิดผิดล่ะ ถ้าพระเจ้าไม่ได้อยู่บนฟากฟ้า แต่กลับอยู่ดินแดนเดียวกับพวกเรา คุณจะเชื่อมั้ย??

    นานมาแล้วตามคำล่ำลือของบรรพบุรุษต่างเล่าขานกันมาว่า มีชายชราผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งเคยผจญภัยไปทั่วทุกมุมโลก ได้กล่าวเอาไว้ก่อนตายว่า “เทพเจ้ารึ ถ้าใครสามารถเอาหัวมาให้ข้าได้ ข้าจะให้รางวัลแคนผู้นั้น” นักโบราณคดี เมจจ์ อาร์ม ได้กล่าวเช่นนั้น ประโยคที่เค้าได้พูดก่อนตายได้ทำให้ประชาชนทั่วทุกมุมโลกมุ่งหน้าสู่ เอวาดิส ดินแดนสวรรค์แห่งเทพเจ้า



    ~ณ วิหารเทพ “โปโดซอน”~



    ย้อนกลับไป 4ปีก่อน




    ที่สวนดอกไม้ที่กำลังผลิบานออกมาอย่างสวยงามเหมือนต้องการความประทับใจจากผู้มาเยือน ได้มีคนสองคนเดินคุยกันอยู่



    “เฮ้อ ชูริ เมื่อไหร่จะกลับนะ” เสียงมาจากเด็กสาวผมสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังดวงตาสีฟ้าอ่อนที่กำลังฉายแววโกรธจัดอยู่ตอนนี้



    “เออ ท่านชูริไปรบกับข้าศึกน่ะครับ อาจจะกลับมาดึกหน่อย” คราวนี้เสียงมาจากผู้ชายข้างตัวที่มีสีตาเป็นสีดำเเห่งรัตติกาลแต่มีความอบอุ่นแฝงอยู่ในตาคู่นั้น และมีผมสีเดียวกับดวงตา



    “ชูริเนี่ยน้า ไม่เคยฟังกันบ้างเลยบอกว่าไม่ต้องไปแล้วแท้ๆ ตัวเองก็ยังไม่มีพลังของเทพเลยสักนิดยังไปยุ่งอีก กลับมาชั้นจะพาไปฝึกอบรมสักหน่อย”เสียงเด็กสาวที่พูดขึ้นแล้วทำหน้าตาเคร่งเครียด



    จนคนข้างๆอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ จนเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าต้องตวาดแว้ดออกมาด้วยความโมโหทำให้ชายหนุ่มต้องรีบปิดปากที่กำลังจะถูกต่อยจากหญิงสาวหากไม่หยุดหัวเราะ



    “เงียบ ไปเลย ไม่งั้นชั้นจะช่วยอัดปากของนายสักทีสองทีให้มันปิดลงเอง”



    “ครับๆ คุณริกะ”ชายหนุ่มนัยน์ตาสีดำกล่าวพลางกลั้นหัวเราะ



    “อากะนะช่วยกันเตือนชูริหน่อยสิ ถ้าเป็นอย่างนี้ทุกวันชั้นไม่ต้องมีเพื่อนเล่นไปเลยรึไง”สาวน้อยนาม ริกะ กล่าวตัดพ้ออย่างน้อยใจ



    “โธ่!! คุณริกะครับตั้งแต่ท่านเทพทั้งห้าที่มีท่าน ชาตะแห่งเปลวเพลิง , ท่านโยจิโระแห่งสายฟ้า , ท่านยานอสแห่งท้องทุ่ง , ท่านนาตะแห่งสายลม และท่านฮอนดะแห่งสายน้ำ เพิ่งถูกคนลอบวางยาแล้วเสียชีวิตไปไม่กี่วันเองนี่ครับ ชูริก็คงต้องรับหน้าที่ทางราชการแทนท่านชาตะนะครับ” เจ้าของนัยน์ตาสีดำกล่าวกับสาวน้อย



    บึ้ม!!

    ระเบิดเสียงดังสนั่นจนคนทั้งสองที่อยู่ในสวนหันไปมองด้วยความตกใจ แล้วก็ได้เห็นกองเพลิงสีแดงที่กำลังแผดเผาทุกอย่างเพื่อขยายตัวเองและกลืนกินทุกสิ่งที่เคยอยู่



    จากสวนดอกไม้ที่งดงามกลับกลายมาเป็นกองเพลิงสีแดงที่ปล่อยรังสีความร้อนเสมือนแสดงความยิ่งใหญ่



    “ฮึ ฮึ ฮึ”เสียงหัวเราะราวกับมารร้ายดังมาจากฟากหนึ่งของสวน



    “ใคร!!”เสียงตวาดดังลั่นมาจากหนุ่มที่มีนามว่า อากะ ดวงตาที่สีรัตติกาลของเค้าที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นในตอนแรกได้เป็นสายตาที่ดุดัน และน่ากลัวเหมือนอุโมงค์สีดำที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ



    “ใจเย็นน่าอากะ” ชายหนุ่มนิรนามเดินเข้ามาหา ชายหนุ่มคนนี้ได้คลุมผ้าด้วยสีดำทำให้มองไม่เห็นหน้าตา แต่อากะนั้นเห็นรอยสักที่ใบหน้าของหนุ่มคนนั้นก็รู้ว่าคือใคร...



    “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ทานาดะ”อากะถามด้วยใบหน้าตึงเครียดพลางใช้มือบีบแขนของเด็กสาวที่กำลังเกาะแขนของตนอยู่นั้นด้วยความกลัว



    “รู้จนได้น้า อากะนี่เก่งจริงๆ”ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวพลางดึงผ้าคลุมออกเผยให้เห็นใบหน้าที่มีรอยสักเป็นรูปสายฟ้าสีดำไขว้กันไปเรื่อยๆ ตามีสีเหลืองเช่นเดียวกับสีผม ดวงตาที่ดูขี้เล่นทำให้ริกะคิดว่าปลอดภัยจึงปล่อยแขนออกจากเเขนของอากะ



    ดวงตาที่ดูขี้เล่นเสมอแต่วันนี้มันดูเปลี่ยนไป อากะคิดภายในใจ เเละมันก็ถูกต้อง มีแค่อากะเท่านั้นที่มองเจตนาของเค้าออก จึงรีบดึงแขนของริกะมาใกล้ตัว



    “อะไรกันอากะหวงมากเลยรึไงผู้หญิงคนนั้นนะ” ทานาดะพูดพลางพยักเพยิดไปทางริกะ แต่นั่นก็ทำให้อากะเรียกดาบคู่ใจมาไว้ในมือ



    “ไฟท์ไฟร์”อากะตะโกน



    ทานาดะส่งเสียงล้อเลียนเมื่ออากะเรียกดาบคู่ใจมาไว้ในมือ



    “กลัวชั้นมากเลยหรออากะ”



    “แกมีจุดประสงค์อะไรทานาดะ”อากะตะโกนกร้าว



    “ฮึ ฮึ ฮึ ก็ไม่มีอะไรมากนักหรอกนะเพียงแค่ชั้นอยากจะมาขอตำแหน่งจอมเทพจากสาวน้อยคนนี้เท่านั้นนะ”ทานาดะเอ่ย แต่นั่นก็ทำให้อากะพุ่งเข้าไปหาทานาดะด้วยความโกรธและกระชากคอเสื้อลงมา



    “แกไม่มีสิทธ์พูดอย่างอย่างนี้กับคุณริกะ”อากะพูดด้วยความโกรธ ดวงตาสีนิล ตอนนี้มันกลายเป็นดวงตาสีเลือดที่กำลังวาวโรจน์อยู่



    “แกคิดว่าจะชนะชั้นได้เหรออากะ รักผู้หญิงคนนี้มากสินะ”ทานาดะพูดยั่วชายที่กำลังพยายามห้ามตัวเองอย่างแรงที่จะไม่ชกคนตรงหน้า



    “ถ้าใช่จะทำไม”



    “อากะ”สาวน้อยที่ตอนนี้หายตกตะลึงกล่าวเบาๆกับตัวเอง พลางนิ่งงันไปด้วยความตกใจที่คนที่ไม่แสดงท่าทางว่าชอบกลับยอมรับว่าชอบ



    “สาวน้อย เธอมอบตำแหน่งจอมเทพให้ชั้นดีกว่าคนที่ไม่มีพลังอย่างเธอไม่สมควรได้หรอกและนั่นก็รวมถึงพ่อของเธอด้วย”



    “หรือเธอจะปล่อยให้ผู้ชายที่รักเธอต้องตาย”ทานาดะเอ่ยต่อ หลังจากหญิงสาวนิ่งเงียบตัดสินใจ



    ทั้งชีวิตก็มีแต่อากะเท่านั้นที่ดูแลชั้น ชั้นจะปล่อยให้เค้าตายต่อหน้าไปเลยรึไง ริกะคิดกับตัวเอง



    “ทานาดะปล่อยอากะเดี๋ยวนี้ชั้นขอยอมสละ...”ริกะยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงขัดขึ้นมาก่อน



    “ไม่มีทาง”เสียงมาจากชายหนุ่มที่ยืนอยู่กับมารร้ายกล่าวประกาศก้องด้วยอารมณ์โทสะอันแรงกล้า



    “งั้นแสดงว่านายพร้อมตายสินะ”ทานาดะยิ้มเย้ยหยันบุรุษที่ประกาศก้องออกมาเมื่อครู่



    “ถ้าทำเพื่อคุณริกะแม้ชีวิตชั้นก็สามารถให้เธอได้”อากะกล่าวพลางจ้องหน้ามารร้ายที่จะมาแย่งตำแหน่งของคนรักไป



    “งั้นนายได้ตายบูชารักแน่”ทานาดะพูดแล้วจ้องดวงตาที่เกลียดชังของเพื่อนที่เคยรักมากที่สุด



    พลั่ก!!



    อากะผลักทานาดะลงไปกองกับพื้น เเล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงท้าทายว่า



    “มาเลยนายกับชั้นมาตัดสินกัน”



    “เอาสิจะได้รู้ว่าเลือดบริสุทธิ์กับเลือดปลอมปน ใครจะแน่กว่ากัน”มารร้ายพูดจี้ปมด้อยของอากะเพราะรู้ดีว่าเมื่อพูดอย่างนี้มันต้องมาด้วยอารมณ์พุ่งพล่าน



    “ได้เลย”อากะกัดฟันกรอด ก่อนจะวิ่งตรงเข้าไปยังหนุ่มที่มีรอยสัก



    เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง!! ดาบปะทะกันด้วยความแรง และเร็วอย่างเหลือเชื่อ ทำให้มีประกายไฟออกมาทุกครั้ง



    “อากะ อากะ”หญิงสาวพูดคำนี้คำเดียวตลอดพูดไปพูดมาไม่หยุด พลางมองชายหนุ่มที่ต่อสู้อยู่



    ครืน!!



    เสียงกองทัพขนาดใหญ่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองที่สู้กันอยู่หันไปมอง



    “ข้ามาแล้ว หัวหน้า”คนที่อยู่ด้านหน้าสุดตะโกนเรียก ทั้งสองหนุ่มจึงเพ่งไปมองหาคนพูดผ่านควันหนาทึบ



    “ข้าเอง ข้าเคียวไง”เสียงบุรุษหนุ่มดังขึ้น



    “เคียวเองหรอ มาได้จังหวะพอดีเลย จัดการพวกชายแดนแล้วใช่ไหม”ทานาดะพูดกับหนุ่มหน้าคม ผมสีเหลือง ดวงตาสีส้ม



    “เรียบร้อยดี”



    “เจ้าเป็นคนสั่งให้มีการกบฏเองรึนี่”อากะพูดด้วยเสียงติดขัด



    “ใช่ เจ้าไม่รู้หรอกหรือ แล้วนี่อย่าบอกว่าเจ้ายังไม่รู้ว่าใครฆ่าเทพทั้งห้าอีกล่ะ”มารร้ายยิ้มอย่างเย็นชา



    “เจ้าฆ่าพ่อของข้า  เจ้า...ฆ่าแม้กระทั่งแม่ของตนเอง”อากะตะโกนใส่มารร้ายที่ทำหน้าเหมือนไม่ใส่ใจในการฆ่าผู้มีพระคุณของตนเอง



    “ท่านแม่ทรงอ่อนแอเกินไป จิตใจดีเกินไป ท่านทรงไปสบายแล้วล่ะท่านน่ะบ่นว่าอยากให้ข้าเป็นเทพข้าก็อยากเป็นอยู่แล้วแต่เป็นต่อจากท่านแม่ก็ต้องอีกนานข้าก็เลยส่งท่านแม่ไปดูข้าเจริญเติบโตแทนไงล่ะ”ทานาดะกล่าวแล้วหัวเราะด้วยความสะใจ



    “แกมันบ้า”อากะตะโกนออกมาด้วยความอดกลั้น น้ำตาที่ไม่เคยไหลกับไหลออกมาด้วยความโกรธและสงสารเทพทั้ง5



    “แก...ตาย”อากะกัดฟันกรอด



    “แกคิดหรือว่าจะสู้ข้าได้อากะ”ทานาดะมองเพื่อนที่ฟันเข้ามาอย่างรุนแรง



    “ถ้าข้าฆ่าแกไม่ได้ ข้าขอยอมตาย”อากะพูดพลางตวัดดาบไปมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความโกรธ



    “เฮ้ย!!แกอยากให้แม่สาวคนนี้ตายใช่ไหม”เสียงของเคียวดังขึ้นจากอีกฟากหนึ่ง



    “อากะ!!”ริกะร้องอย่างตื่นตกใจ



    “คุณริกะ~!!”อากะเองก็ตกใจอย่างสุดขีด เมื่อเคียวกำลังเอามีดจี้คอหญิงสาวผู้ที่เค้ารักอยู่



    ฉั่บ!!



    ***********************************************************************************************************************************************

    “อ้าก!!”เสียงร้องของผู้ถูกฟันดังขึ้น เลือดสีแดงสดไหลทะลักพรั่งพรูออกมาด้วยแรงดาบของผู้ฟัน ทุ่งหญ้าถูกย้อมด้วยเลือดสีแดงฉ่าน



    กลิ่นคาวลอยมาแตะจมูกผู้ที่อยู่บนหลังม้าบริเวณนั้น...



    ฟุดฟิด!! ฟุดฟิด!!



    ...เลือด...ความคิดแรกของเด็กหนุ่มบนหลังม้าที่มีดวงตาสีแดงและผมสีเดียวกัน ที่กำลังปลิวไหวตามสายลมอ่อนๆ



    “เฮ้!!เกิดอะไรขึ้น”เสียงตะโกนถามมาจากชายหนุ่มหน้าตาดูเหมือนอายุมากกว่าคนหนุ่มผมแดง



    “นีล ข้าได้กลิ่นเลือดมาจากสวนท่านริกะแถมยังมีควันบริเวณนั้นด้วย”



    “สงสัยเจ้าพวกกบฏบุกไปที่นั่น รีบไปเถอะ”หนุ่มอายุมากกว่าที่มีผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีเขียวมรกตกล่าวกับเด็กหนุ่ม



    แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ขยับไปไหน คิ้วที่เรียวยาวขมวดลง หน้าตาเคร่งเครียดเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่



    “เป็นอะไรรึป่าว”นีลถามเมื่อเห็นหน้าที่บ่งบอกถึงความไม่สบายใจของเด็กหนุ่ม



    “รีบไปเร็ว”



    “นีล ข้ารู้สึกเหมือนว่ากลิ่นเลือดเมื่อครู่เป็นของท่านพี่”หนุ่มผมแดงกล่าวพลางเดินตามนีล



    “เจ้าว่าอะไรนะ~!!”หนุ่มนัยน์ตาสีเขียวมรกตร้องถาม



    “นีล เลือดนั่นของพี่ข้าแน่ๆ”



    “อย่าพูดบ้าๆน่ะ พี่ของเจ้าไม่เคยแพ้ใครอยู่แล้ว ไม่งั้นเมืองนี้ไม่ต้องพินาศรึ!!”



    “แล้วที่เป็นอยู่ตอนนี้ล่ะมันไม่พินาศหรือ นีลไปตามทหารมามากที่สุดคนพวกนั้นมันเก่งมากแน่ๆ”เด็กชายตะโกนก้อง



    “แล้วเจ้าจะไปไหน”นีลละล่ำละลักถาม



    “ข้าจะไปช่วยพี่ เจ้ารีบตามมาละกัน”เด็กหนุ่มกล่าวแล้วควบม้ามุ่งสู่สวนในวิหารเทพด้วยความร้อนใจ



    ***********************************************************************************************************************************************

    ~สวนในวิหารเทพ~



    เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!!



    เสียงดาบยังปะทะกันต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุด แม้ว่าอากะจะเหนื่อยจากการออกแรง และจากบาดแผลที่ถูกมารร้ายฟันเมื่อตอนเผลอ



    แฮ่ก แฮ่ก!!



    อากะหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน แม้จะหมดเรี่ยวแรงแต่ดวงตาสีเเดงก็ยังคงจ้องใบหน้าศัตรูทุกคนด้วยความเกรี้ยวกราด



    “ฝีมือดีนี่ อากะ”เจ้ามารร้ายเอ่ยขึ้นหลังจากที่ไปยืนดูเพื่อนเก่าสู้กับลูกน้องที่ฝีมือก็เก่งใช่เล่น



    “ขอบใจ!! แต่ไม่ต้องชมมากหรอก”อากะพูดประชด



    “นายนี่ทำให้ลูกน้องชั้นตายไปตั้งหลายคนแหนะ เก่งสมกับเป็นอากะจริงๆ”ทานาดะมองไปทางหญิงสาวที่ร้องไห้อย่างสงสารคนที่รักตนแต่ไม่ยอมประกาศยอมแพ้สักที



    “นายน่าจะยอมแพ้สักที จะได้มาดูแลหญิงสาวของนายนะ”ทานาดะกล่าวขึ้น



    ชายหนุ่มนัยน์ตาสีเพลิงหันไปมองสาวที่รักยิ่งแล้วเปรยขึ้นมาเบาแต่ริกะได้ยินว่า



    “คุณริกะผมขอโทษที่ไม่ได้ไปดูแลคุณตอนนี้ แต่ผมต้องทำให้คนพวกนี้ตายไปเพื่อจะได้ไม่มีใครมาทำร้ายคุณอีก”



    “ไม่เป็นไร ไม่...เป็นไร”หญิงสาวกล่าวพลางร้องไห้ไปกับความรักที่มีให้ชายหนุ่มในตอนนี้



    “ย้าก...!! แกตายแน่ไอ้อากะ”เสียงของเคียวดังขึ้นพลางวาดดาบลงมาหมายปลิดชีพอากะ อากะซึ่งเลือดไหลออกมาไม่หยุดก็ทำให้สติพร่ามัวไม่สามารถจะรับคมดาบที่จะปลิดชีพเค้าได้



    ก่อนตายข้าขอมองหน้าท่านอีกครั้งนะท่านริกะ ชายหนุ่มคิด ดวงตากลับมาเป็นสีดำเมื่อรู้ว่าตนคงไม่รอด



    “ฮือ.......อากะ ชั้นก็รักเธอนะ”เด็กสาวนัยน์ตาสีน้ำตาลกล่าวพร้อมกับที่น้ำใสๆเริ่มมาคลออยู่ที่ดวงตา



    “ผมดีใจแล้วกับคำว่ารักของคุณ ลาก่อน~!!”อากะกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน ดวงตาจับจ้องไปยังร่างของหญิงที่รักเเต่เพียงผู้เดียว



    ฉัวะ!! เลือดพรั่งพรูย้อมสวนดอกไม้นี้ให้กลายเป็นสีแดง



    “ท่านพี่”ชายหนุ่มผมแดงเอ่ยกล่าวเบาๆ



    ***********************************************************************************************************************************************

    RewritE!!



                                                                   - tarun-tura -

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×